แนะทางออกสำหรับรับมือกับอาการผิวเครียด

จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในปัจจุบัน ทำให้หลายคนต้องปรับเปลี่ยนรูปแบบการใช้ชีวิต รวมถึงต้องทำงานที่บ้าน (Work from home) ส่งผลให้มีระยะเวลาในการทำงานยาวนานขึ้นกว่าปกติ จนทำให้ไม่สามารถแยกแยะสถานที่ทำงานออกจากบ้านได้ ทำให้เกิดความเหนื่อยล้าและความเครียดสะสมโดยไม่รู้ตัว จนส่งผลกระทบต่อสุขภาพผิวซึ่งแสดงออกมาในรูปแบบของอาการ “ผิวเครียด” แบรนด์ผลิตภัณฑ์เพื่อการดูแลสุขภาพผิวและเส้นผม ‘ธัญ’ (THANN) คำนึงถึงความกังวลดังกล่าวจึงได้เชิญแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังและความงาม แพทย์หญิงอวิกา รงค์ทอง มา ‘แนะนำ “ความเครียด” ภัยเงียบใกล้ตัวที่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อสุขภาพผิว พร้อมแนะแนวทางรับมือกับอาการผิวเครียด’ กับผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม ชิโซะ คอลเลกชั่น’ (Shiso Collection) อาทิ ‘แอสตริเจนต์ โทนเนอร์’ (Astrigent Toner), ‘เฟเชียล เซรั่ม’ (Facial Serum), ไฮเดรติ้ง อิมัลชั่น )Hydrating Emulsion) และ ‘รีไวทอลไลซิ่ง เฟซ มาส์ก’ (Revitalising Face Mask) ร่วมกับเซเลบริตี้สาวสวย มาเผยเคล็ดลับการดูแลสุขภาพผิวตามแบบฉบับตนเอง อาทิ พัณณิตา สนิทวงศ์ ณ อยุธยา,     ชวมณฑ์ ปวโรดม และ กนกรส กิตติขจร

แพทย์หญิงอวิกา รงค์ทอง  แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังได้กล่าวถึงผลกระทบของความเครียดที่ส่งผลกระทบต่อผิว รวมถึงวิธีการรับมือกับอาการผิวเครียดว่า “อาการ ‘ผิวเครียด’ เป็นโรคทางจิตวิทยาผิวหนัง (Psychodermatology) เกิดจากสภาวะของจิตใจหรือความเครียดที่ส่งผลโดยตรงต่อสภาพของผิวพรรณ คนส่วนใหญ่มักคิดว่าเป็นอาการหนึ่งของโรค “ภูมิแพ้” ซึ่งรักษาเท่าไหร่ก็ไม่หาย เพราะต้นตอของอาการนั้นมาจาก “ความเครียด” โดยสามารถอธิบายได้อย่างง่ายๆ คือ ความเครียดไปกระตุ้นให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอล (Cortisol) หรือที่เรารู้จักกันในนามของ “ฮอร์โมนแห่งความเครียด” ออกมามากกว่าปกติ ทำให้ร่างกายเสียสมดุล ส่งผลเสียต่อกระบวนการทำงานของร่างกายและผิวพรรณ ทำให้ผิวหนังเกิดเป็นผื่น ระคายเคือง เป็นสิว ติดเชื้อได้ง่าย

นอกจากนี้ฮอร์โมนความเครียดยังไปกระตุ้นการหลั่ง ‘เมลาโนไซด์ สติมูเลติง ฮอร์โมน’ (Melanicyte Stimulating Hormone หรือ MSH) ซึ่งส่งผลต่อการสร้างเม็ดสี (Melanin) ทำให้หน้าหมองคล้ำ ฝ้า กระ เข้มขึ้นได้ ดังคำโบราณบอกว่าหน้าดำคร่ำเครียด อีกทั้งยังส่งผลยับยั้งการหลั่งฮอร์โมนแห่งความหนุ่มสาวหรือ ‘โกรทฮอร์โมน’ (Growth Hormone) ทำให้ผิวเกิดความแห้งกร้าน สิว ริ้วรอยก่อนวัยและความหย่อนคล้อยได้ อาการ “ผิวเครียด” หากยิ่งสะสมเป็นเวลานานมากเท่าไหร่ ก็จะเกิดปัญหาผิวต่างๆ ตามมามากขึ้นเท่านั้น หากไม่ได้รับการแก้ไขอย่างถูกวิธี

แนวทางสำหรับรับมือกับอาการผิวเครียด เริ่มจากการดูแลตัวเองจากภายในนั่นคือ พยายามลดความเครียด หรือออกห่างจากสิ่งที่ทำให้เครียด หาวิธีการผ่อนคลายร่างกายและจิตใจ เช่น การใช้กลิ่นหอมบำบัด ดนตรีบำบัด สวดมนต์นั่งสมาธิ ออกกำลังกายเบาๆ อย่างโยคะ พิลาทิส เต้นรำ หากิจกรรมที่ชื่นชอบ เช่น ดูหนัง ฟังเพลง ร้องคาราโอเกะ ดูแลอาหารการกิน เลือกอาหารที่มีประโยชน์เน้นกลุ่มโปรตีน และไขมันดี อย่างเช่น โอเมก้า 3, น้ำมันมะกอก, ไขมันจากถั่ว เพราะเป็นสารอาหารที่จำเป็นในการสร้างฮอร์โมนต้านความเครียด รวมถึงอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ หลีกเลี่ยงอาหารหรือเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูง ส่วนการดูแลตัวเองจากภายนอก ควรให้ความสำคัญการดูแลผิวเพิ่มเติมจากขั้นตอนปกติ เช่น การกระชับรูขุมขนและคืนความสมดุลของผิวด้วยแอสตริเจนต์ โทนเนอร์, การเติมเต็มความชุ่มชื้นสู่ผิวด้วยไฮเดรติ้ง อิมัลชั่น, การปกป้องผิวจากริ้วรอยและความหย่อนคล้อยแห่งวัยด้วยเฟเชียล เซรั่ม และการคืนความกระจ่างใสสู่ผิวด้วย     รีไวทอลไลซิ่ง เฟซ มาส์ก อย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง เพียงเท่านี้ก็สามารถดูแลผิวให้มีสุขภาพดีอย่างเป็นธรรมชาติได้

ธัญ’ (THANN) ผลิตภัณฑ์เพื่อการดูแลสุขภาพผิวและเส้นผม ผสานคุณค่าแห่งพืชพรรณจากแหล่งธรรมชาติชั้นดีทั่วโลกและเทคโนโลยีอันทันสมัย ตลอดระยะเวลากว่า 10 ปีที่ผ่านมา ‘ธัญ’ (THANN) มุ่งมั่นพัฒนาคุณภาพผลิตภัณฑ์ธรรมชาติผสานเทคโนโลยีชั้นนำผ่านการทดสอบจากสถาบันวิจัยที่ได้รับการยอมรับในระดับสากลอย่าง Spincontrol  Asia Co.,Ltd. (France), Skinnova Lab Co.,Ltd. และ Dermscan Asia อาทิ Dermatological test, Irritation test และ Efficacy test เพื่อยืนยันในคุณภาพและประสิทธิภาพเพื่อการดูแลสุขภาพผิวและเส้นผม โดยปัจจุบันมีกว่า 90 สาขา รวมถึงสปาอีก 15 แห่งใน 3 ทวีป ได้แก่ เอเชีย อเมริกา และยุโรป ขอแนะนำกลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่อุดมด้วยคุณประโยชน์ของสารสกัดจาก “ชิโซะ” (Shiso) ที่มีจำหน่ายในร้านและเคาน์เตอร์ ‘ธัญ’ (THANN) กว่า 100 สาขาในทวีปเอเชีย อเมริกา และยุโรป

นับเป็นเวลาเนิ่นนานกว่าพันปีที่นักพฤกษศาสตร์ชาวเอเชียได้ค้นพบต้น “ชิโซะ” (ชื่อวิทยาศาสตร์ Perilla frutescens var. crispa) พืชตระกูลมิ้นท์มีถิ่นกำเนิดในแถบเอเชียตะวันออก พบได้มากในประเทศญี่ปุ่น สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ท่ามกลางสภาพอากาศที่แห้งแล้ง อีกทั้งยังส่งผ่านความชุ่มชื้นและช่วยให้พืชที่อยู่ล้อมรอบเจริญเติบโตได้อีกด้วย ปัจจุบันชิโซะนอกจากจะกลายเป็นอัญมณีสำหรับวงการศิลปะการทำอาหารของชาวญี่ปุ่นแล้ว ยังเป็นส่วนผสมสำคัญในอาหารแมคโครไบโอติกส์ (Macrobiotics) หรืออาหารคุณภาพเพื่อการดำรงชีวิตที่ยืนยาวอย่างมีสุขภาพ

‘ธัญ’ (THANN) ใช้เวลานับพันชั่วโมงในการไขความลับอันน่าอัศจรรย์ของ “ชิโซะ” พืชอัศจรรย์ที่อุดมด้วยสารสำคัญอันมีประโยชน์ อาทิ เช่น โรสแมรินิค แอซิด (Rosemarinic Acid), แอล-เพอริลลาดีไฮด์ (L-Perilladehyde) และฟีนอล คอมพาวด์  (Phenol Compound) โดดเด่นในการให้ความชุ่มชื้น ปกป้องและฟื้นฟูเซลล์ผิวจากความแห้งกร้านและการเสื่อมสภาพ อีกทั้งยังเป็นสารแอนตี้ออกซิเดนท์ทรงประสิทธิภาพ โดยไม่ก่อให้เกิดอาการระคายเคือง ด้วยสัดส่วนของวิตามิน A (มากกว่าผลกีวีถึง 300 เท่า), วิตามิน C (มากกว่าผลเลมอนถึง 160 เท่า) และวิตามิน E สูง พร้อม วิตามิน B1, B2, B6, K, แร่ธาตุและโปรตีนหลากชนิด นอกจากนี้ในสารสกัดจากชิโซะยังมีคุณสมบัติยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ไทโรซิเนส (Tyrosinase Inhibitor) ในกระบวนการสร้างเม็ดสีเมลานิน (Melanin) และด้วยคุณสมบัติอันโดดเด่นของสารสกัดจากชิโซะนำมาผ่านกระบวนการสกัดด้วย “นาโนเทคโนโลยี” ปราศจากการใช้สารเคมีจากประเทศญี่ปุ่น เพื่อให้ได้อนุภาคขนาดนาโนเมตร (10-9) ทำให้ได้อนุภาคขนาดเล็กสามารถซึมเข้าสู่ชั้นหนังแท้ (Dermis) เกิดประสิทธิภาพการบำรุงอย่างล้ำลึก โดยผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสำหรับฟื้นฟูสภาพผิวให้สวยสุขภาพดีอย่างเป็นธรรมชาติ ได้แก่ ‘แอสตริเจนต์ โทนเนอร์’ (Astrigent Toner) ขนาด 135 มล. ราคา 900 บาท โทนเนอร์ช่วยกระชับรูขุมขน และคืนความสมดุลของผิวหลังล้างหน้า มีส่วนผสมจากพืชพรรณธรรมชาติ อาทิ สารสกัดจากใบชิโซะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นแก่ผิว และต่อต้านสารอนุมูลอิสระ, โปรตีนและแร่ธาตุสำคัญในสารสกัดจากสาหร่ายช่วยคืนความยืดหยุ่นแก่ผิว, สารสกัดจากชาเชียวช่วยปลอบประโลมผิวให้มีสุขภาพดี และสารสกัดจากยีสต์ ช่วยรักษาสมดุลการทำงานของต่อมไขมันในผิว

‘รีไวทอลไลซิ่ง เฟซ มาส์ก’ (Revitalising Face Mask) ราคา 1,090 บาท มาส์กหน้าสูตรเข้มข้นที่รวมคุณค่าจากสารสกัดธรรมชาติ เหมาะสำหรับคนที่ต้องการฟื้นฟูผิวให้สว่างใสอย่างไร้ที่ติ มอบความเปล่งประกาย (Luminosity) สู่ผิวถึง 43%* ด้วยส่วนผสมทรงประสิทธิภาพจากธรรมชาตินานาชนิด อาทิ สารสกัดจากผลองุ่น (Grape fruit extract) ปรับสภาพผิวให้กระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติ, สารสกัดจากรากหม่อน (Mulberry Root extract) ลดเลือนจุดด่างดำและความหมองคล้ำของผิว, สารสกัดจากอูกอน (Ougon extract)และ สารสกัดจากทรีฮาโลส (Trehalose extract) ปกป้องและรักษาสมดุลความชุ่มชื้นของผิว สารสกัดอนุภาคขนาดเล็กจากใบชิโซะ (Nano shiso extract) ลดการอักเสบและอาการระคายเคือง พร้อมคุณสมบัติเป็นสารแอนตี้ออกซิแดนท์

* ทดสอบด้วยวิธี Sensory Evaluation (C.L.B.T) โดย Spincontrol Asia Co.,Ltd. (France) กับผู้หญิงเอเชีย จำนวน 22 คน โดยใช้ผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่องสัปดาห์ละ 2 ครั้ง เป็นเวลา 4 สัปดาห์

เฟเชียล เซรั่ม (Facial Serum) ขนาด 30 มล. ราคา 2,500 บาท เซรั่มเพื่อการฟื้นฟูสภาพผิว พัฒนามาเพื่อรับมือกับปัญหาริ้วรอยแห่งวัยโดยเฉพาะ สามารถลดเลือนริ้วรอยได้ 25.5%* และความยืดหยุ่นของผิวเพิ่มขึ้น 13.4%* ภายใน 28 วัน อุดมด้วยส่วนผสมทรงประสิทธิภาพจากสารสกัดจากใบบัวบก (Centella extract) เสริมประสิทธิภาพในกระบวนการสังเคราะห์คอลลาเจน และโครงข่ายผิว สารสกัดจากปลีกล้วย (Banana flower extract) กระตุ้นกระบวนการสร้างคอลลาเจน และคืนความยืดหยุ่นสู่ผิว สารสกัดอนุภาคขนาดเล็กจากใบชิโซะ (Nano shiso extract) เพิ่มความชุ่มชื้น ลดการอักเสบ และอาการระคายเคืองต่างๆ รวมถึงทำหน้าที่เป็นสาร Anti-oxidant ทรงประสิทธิภาพ (*ทดสอบด้วยวิธี Skin Replica และ Cutometry measurement กับผู้หญิงเอเชีย 17 คน โดยใช้ผลิตภัณฑ์ต่อเนื่องวันละ 2 ครั้ง (เช้า และก่อนนอน) ทำการทดสอบโดย Spincontrol Asia Co.,Ltd. (France)

‘ไฮเดรติ้ง อิมัลชั่น’ )Hydrating Emulsion) ขนาด 100 มล. ขนาด 1,200 บาท ผลิตภัณฑ์เติมเต็มความชุ่มชื้นสำหรับผิวหน้าสูตรที่พัฒนามาเพื่อแก้ปัญหาผิวขาดน้ำโดยเฉพาะซึมซาบเข้าบำรุงและฟื้นฟูสภาพผิวไม่ทิ้งความมันส่วนเกิน และไม่อุดตันรูขุมขน อุดมด้วยสารสกัดธรรมชาตินานาชนิด อาทิ สารสกัดจากใบชิโซะ (Nano Shiso Extract) เพิ่มความชุ่มชื้นลดการอักเสบและอาการระคายเคืองต่างๆพร้อมปกป้องผิวจากมลภาวะสารสกัดจากต้นไมโรทัมนัส (Myrothamnus Extract) พืชทะเลทรายจากทวีปแอฟริกาใต้ที่ได้รับฉายาต้นไม้คืนชีพเพียงโดนน้ำแค่หยดเดียวก็สามารถฟื้นคืนความมีชีวิตชีวาได้อีกครั้ง อุดมด้วยสารอาร์บูติน (Arbutin) และโพลีฟีนอล (Polyphenol) เสริมความแข็งแรงให้ผิวเพิ่มความชุ่มชื้นได้ยาวนานถึง 48 ชั่วโมง พร้อมคุณสมบัติเป็นสารแอนตี้ออกซิเด้นท์, น้ำมันเมล็ดชาออแกนิค (Organic Camellia Seed Oil) อุดมด้วยวิตามิน A, B, D, E, กรดโอเลอิก, โอเมก้า 3,6,9 และโพลีฟีนอล )Polyphenol) ทำหน้าที่เป็นสารแอนตี้ออกซิเด้นท์, น้ำมันสกัดจากถั่วอินคาออแกนิค (OrganicInca Inchi Seed Oil) อุดมด้วยโอเมก้า 3,6,9 ปกป้อง และลดการระคายเคืองของผิวจากแสงแดด, เชีย บัตเตอร์ (Shea butter), โจโจ้บา ออยล์ (Jojoba oil), น้ำมันมะกอก (Olive oil), สารสกัดจากสาหร่ายทะเล (Algin Extract) และ ว่านหางจระเข้ (Aloe Vera) ฟื้นฟูและปกป้องผิวจากความแห้งกร้าน บำรุงผิวที่อ่อนล้าได้อย่างอ่อนโยน

ด้าน เซเลบริตี้ต่างร่วมทดลองใช้ผลิตภัณฑ์ พร้อมเผยเคล็ดลับการดูแลสุขภาพผิวตามแบบฉบับตนเองเริ่มที่ พัณณิตา สนิทวงศ์ ณ อยุธยา เล่าว่า “การที่ต้องเวิร์คฟอร์มโฮมเป็นอะไรที่เราต้องปรับตัวเยอะพอสมควร ทำให้เราต้องมาจัดมุมสำหรับนั่งทำงานใหม่ภายในบ้าน เพื่อให้เอื้อประโยชน์ต่อการทำงาน งานจะได้ออกมาดีมีประสิทธิภาพมากที่สุด ยอมรับเลยว่าหลายครั้งก็ต้องพบเจอปัญหาหรืออุปสรรค์ในการทำงานที่ทำให้เราเกิดความเครียดสะสมโดยไม่รู้ตัว รู้สึกว่านอนไม่พอ ตื่นเช้ามาส่องกระจกพบว่าผิวเริ่มหมองคล้ำ ดูไม่สดใส ดังนั้นเราจึงจัดการตัวเองใหม่ด้วยการหาวิธีผ่อนคลายความเครียดด้วยการออกกำลังกาย แบ่งเวลาพักผ่อนอยู่กับธรรมชาติ เพื่อให้รู้สึกดีขึ้น รวมถึงเน้นความสำคัญเรื่องการดูแลผิวพรรณให้กลับมาสดใสมีชีวิตชีวา ซึ่งขั้นตอนการดูแลนั้นก็ไม่ยุ่งยาก โดยเราจะเช็ดทำความสะอาดผิวหลังการล้างหน้าด้วยแอสตริเจนต์ โทนเนอร์ เพื่อกระชับรูขุมขนและปรับสภาพผิวให้พร้อมสำหรับการบำรุงจากนั้นก็จะฟื้นฟูสภาพผิวด้วยเฟเชียล เซรั่ม เพื่อป้องกันการเกิดความหย่อนคล้อยและริ้วรอยก่อนวัย และเราก็จะมาส์กหน้าด้วย ไวทอลไลซิ่ง เฟซ มาส์ก สัปดาห์ละครั้ง เพื่อให้ผิวกระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติ”

ถัดมาที่ ชวมณฑ์ ปวโรดม เผยว่า ช่วงนี้เราต้องเวิร์คฟอร์มโฮมทำให้การจัดสรรเวลาไม่ค่อยลงตัวนัก เพราะเราอดไม่ได้ที่จะเก็บเอาเรื่องงานมาคิดในช่วงเวลาที่เราต้องพักผ่อน ร่างกายจึงเกิดความเหนื่อยล้า และรู้สึกว่าพักผ่อนไม่เพียงพอ ทำให้เกิดความเครียดสะสมโดยไม่รู้ตัว ซึ่งความเครียดสะสมที่เกิดขึ้นไม่เพียงแต่จะกระทบต่อจิตใจอย่างเดียว แต่ยังส่งผลต่อผิวพรรณอย่างเห็นได้ชัด เช่น ผิวหมองคล้ำและแห้งอีกด้วย เมื่อมานั่งวิเคราะห์ดูถึงสาเหตุจึงรู้ว่าเราจำเป็นต้องหมั่นสังเกตสภาวะร่างกายและจิตใจของเราทุกวันว่าเป็นอย่างไร หากเริ่มอ่อนล้า หรือเครียด เราก็จะเปลี่ยนอิริยาบถด้วยการหากิจกรรมที่ชื่นชอบอย่างงานศิลปะทำเพื่อผ่อนคลายความเครียด ควบคู่กับการดูแลสุขภาพผิว โดยเราจะให้ความสำคัญกับขั้นตอนการทำความสะอาดและปรับสภาพผิวหน้าหลังการล้างด้วยการใช้แอสตริเจนต์ โทนเนอร์ เพื่อขจัดการกับสิ่งสกปรกตกค้างและกระชับรูขุมขน ซึ่งเราก็มีเคล็ดลับเล็กๆ น้อยๆ อย่างการแช่โทนเนอร์ในตู้เย็น เมื่อเวลานำออกมาใช้ก็จะรู้สึกว่าผิวเย็นสดชื่นได้ทันที รวมถึงการบำรุงผิวด้วยเฟเชียล เซรั่ม เพื่อป้องกันการเกิดริ้วรอยและความหย่อนคล้อยก่อนวัย

ปิดท้ายที่ กนกรส กิตติขจร เล่าว่า ปกติแล้วเราเป็นคนที่มีไลฟ์สไตล์ที่ชอบออกไปพบปะผู้คน ชอบที่จะออกไปทำกิจกรรมนอกบ้านตลอดเวลา แต่ด้วยสถานการณ์ในขณะนี้ทำให้ต้องปรับเปลี่ยนรูปแบบการใช้ชีวิตมาอยู่ภายในบ้าน งดกิจกรรมนอกบ้าน ทำให้ต้องอยู่ในบรรยากาศเดิมๆ หลายครั้งก็รู้สึกเบื่อหน่าย ขาดแรงบันดาลใจ และเกิดความเครียดสะสม ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อกับสุขภาพผิวทำให้เกิดผิวหมองคล้ำ โดยเฉพาะบริเวณใต้ดวงตาคล้ำ รวมถึงการเกิดริ้วรอยก่อนวัย ช่วงนี้เราจึงต้องดูแลเรื่องอารมณ์มากเป็นพิเศษ พยายามที่จะไม่เครียดและหากิจกรรมเพื่อสร้างความผ่อนคลายด้วยการเล่นกับสัตว์เลี้ยง ใส่ใจเรื่องอาหารการกิน ดื่มน้ำวันละ 3 ลิตร ดูแลเรื่องระบบขับถ่าย รวมถึงการดูแลสุขภาพผิวหลังการล้างหน้าด้วยแอสตริเจนต์ โทนเนอร์ และเพิ่มความชุ่มชื้นสู่ผิวด้วย ไฮเดรติ้ง อิมัลชั่น โดยก่อนนอนเราจะมาส์กหน้าด้วย ไวทอลไลซิ่ง เฟซ มาส์ก เพื่อคืนความกระจ่างใสให้กับผิว เวลาที่ตื่นมาผิวจะได้อิ่มน้ำดูสดใส

ดูแลสภาวะจิตใจให้ห่างไกลความเครียดด้วยการหากิจกรรมที่เสริมสร้างความผ่อนคลาย และฟื้นฟูสภาพผิวให้กลับมามีสุขภาพดีอย่างเป็นธรรมชาติกับผลิตภัณฑ์ในกลุ่มชิโซะ (Shiso) อาทิ  ‘แอสตริเจนต์ โทนเนอร์’ (Astrigent Toner),รีไวทอลไลซิ่ง เฟซ มาส์ก’ (Revitalising Face Mask),  ‘เฟเชียล เซรั่ม’ (Facial Serum), ไฮเดรติ้ง อิมัลชั่น (Hydrating Emulsion) ได้แล้ววันนี้ที่ออนไลน์สโตร์  www.thann.co.th (ส่งฟรีทั่วประเทศ) และร้าน ‘ธัญ’ (THANN) ทั้ง 12 สาขาทั่วประเทศ อาทิ สาขาสุขุมวิท 47, ชั้น 2 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์, ชั้น 3 ศูนย์การค้าเกษร, ชั้น 5 ศูนย์การค้าดิเอ็มโพเรียม, ชั้น 1 และชั้น 4 ศูนย์การค้าสยามพารากอน, ชั้น 1 ศูนย์การค้าสยามเซ็นเตอร์, ชั้น 4 ไอคอน สยาม, ร้านวูว์ ถนนเจริญราษฎร์ และสาขาถนนพระปกเกล้า (ตรงข้ามวัดเจดีย์หลวง) จังหวัดเชียงใหม่, สาขาป่าตอง (หน้าโรงแรม La Flora ป่าตอง) จังหวัดภูเก็ต และ ธัญ เวลเนส เดสทิเนชั่น จ.พระนครศรีอยุธยา

แนะนั่งทำงานอย่างไรให้ห่างไกลออฟฟิศซินโดรม

ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด–19 ในปัจจุบันทำให้หลายคนจำเป็นต้องทำงานที่บ้าน (Work from home) แต่ทราบหรือไม่ว่าการนั่งทำงานอยู่ในท่าเดิมนานๆ โดยไม่ขยับหรือเปลี่ยนอิริยาบถ  รวมถึงการนั่งอย่างที่ไม่เหมาะสม อาจเสี่ยงต่อการเกิดอาการปวดหลังจากการนั่งผิดท่าเป็นระยะเวลานาน และอาจลุกลามจนเป็นออฟฟิศซินโดรม (Office syndrome) ได้โดยไม่รู้ตัว แบรนด์ผลิตภัณฑ์เพื่อการดูแลสุขภาพผิวและเส้นผมจากสารสกัดธรรมชาติ ‘ธัญ’ (THANN) ร่วมกับผู้เชี่ยวชาญด้านกายภาพบำบัด กภ.บุญญาพร เลิศวัฒนกิตติ มาแนะ “นั่งทำงานอย่างไรให้ห่างไกลออฟฟิศซินโดรม (Office syndrome) พร้อมเทคนิคการนวดผ่อนคลายตัวเองระหว่างการทำงานที่บ้าน” กับกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ช่วยสร้างความผ่อนคลาย อาทิ ‘ไทม์ ทู รีเฟรช’ (Time to RefreshTM), ‘ก้านไม้หอม’ (Aroma diffuser), ‘บาธ แอนด์ มาสสาจ ออยล์’ (Bath & Massage Oil)  และ ‘บอดี้ บัตเตอร์’ (Body Butter) ร่วมกับเซเลบริตี้สาวสวยมาเผยเคล็ดลับการสร้างความผ่อนคลายระหว่างทำงานอยู่ที่บ้านตามแบบฉบับของตนเอง อาทิ ปณิตา ศรไทยเทวา, ศิตา ชุติภาวรกานต์ และ สิรี วงศ์รักมิตร

กภ.บุญญาพร เลิศวัฒนกิตติ ผู้เชี่ยวชาญด้านกายภาพบำบัด ได้แนะนำการจัดท่านั่งทำงานอย่างไรให้ห่างไกลออฟฟิศซินโดรม พร้อมเทคนิคการนวดผ่อนคลายตัวเองระหว่างการทำงานที่บ้าน ว่า “ออฟฟิศซินโดรม (Office syndrome)  คือ กลุ่มอาการปวดกล้ามเนื้อและเยื่อพังผืด (Myofascial Pain Syndrome) รวมถึงอาการปวดจากการอักเสบของเนื้อเยื่อและเอ็น (Tendinitis) และอาการปวดชาจากปลายประสาทที่ถูกกดทับบริเวณหลัง บ่า คอ ศีรษะ แขน และข้อมือ อาการเหล่านี้มักพบได้บ่อยกับกลุ่มคนทำงานออฟฟิศที่นั่งทำงานในท่าเดิมนานเกินไป โดยไม่มีการขยับปรับเปลี่ยนท่าหรืออิริยาบถ ซึ่งอาการในระยะแรกนั้นอาจไม่รุนแรงมากเหมือนเป็นการปวดธรรมดาทั่วไป หากปล่อยไว้นานโดยไม่รักษา อาการอาจรุนแรงขึ้นจนกลายเป็นโรคปวดเรื้อรังได้

การจัดท่านั่งที่ถูกต้องในการทำงานจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องใส่ใจ

  • ศีรษะตั้งตรง ไม่ยื่นคอ เก็บคาง ไม่หนีบโทรศัพท์คุย
  • ตา อยู่ระดับเดียวกับหนาจอ ห่างประมาณ 45-60 ซม.
  • หลัง นั่งหลังตรง พิงพนักเล็กน้อย
  • ต้นขาและสะโพก นั่งบนเบาะให้เต็มก้น และขนานกับพื้น
  • ข้อมือและแขน อยู่ระนาบเดียวกกับแป้นพิมพ์ หากใช้เม้าส์ควรมีที่รองข้อมือ
  • ข้อศอก แนบลำตัว งอศอกทำมุม 90-120 องศา
  • ไหล่ ไม่ยกและปล่อยแขนช่วงบนตามธรรมชาติ
  • หัวเข่า ควรอยู่ระดับเดียวกับสะโพก ให้ปลายเท้าวางล้ำไปข้างหน้าเล็กน้อย
  • เท้า วางแนบพื้น หากความสูงของโต๊ะไม่พอดี ควรใช้กล่องหรือที่รองมาไว้วางเท้า

คนส่วนใหญ่ที่นั่งทำงานทั้งวันมักมีอาการปวดหลังส่วนบนและส่วนล่างตามมา สาเหตุจากท่านั่งที่ไม่เหมาะสม รวมถึงการนั่งท่าใดท่าหนึ่งนานจนเกินไป ดังนั้นควรแก้ด้วยการเปลี่ยนอิริยาบททุก 1 ชั่วโมงด้วยท่าที่เหมาะสม ได้แก่

  • ผสานมือทั้ง 2 ข้างเหยียดตรงขึ้นไปเหนือศีรษะ ยืดตัวค้างไว้ 10 วินาที ทำติดต่อกัน 5 ครั้ง จะช่วยฝึกยืดตัวระหว่างนั่งทำงาน
  • นำมือทั้ง 2 ข้างท้าวเอวแล้วหมุนสะโพกไปข้างหลัง สลับกันซ้าย-ขวา ทำซ้ำ 20 ครั้ง จะช่วยให้กระดูกสันหลังยืดยุ่นตัวมากขึ้น ช่วยลดอาการปวดหลังได้
  • เก็บคางเข้าหาแนวกลางลำตัวค้างไว้ 5 วินาที ทํา 10 ครั้ง จะช่วยลดภาวะคอยื่นไปข้างหน้า

นอกจากนี้ยังมีวิธีผ่อนคลายส่วนต่างๆ ของร่างกายจากอาการเมื่อยล้า โดยสามารทำได้ดังนี้

  • ยืนตัวตรงชิดกําแพง พยายามให้ศีรษะ ไหล่ และหลัง ชิดติดกําแพงให้มากที่สุด ยกแขนขึ้นทํามุมตั้งฉาก ผ่อนบ่าสบายๆ ให้รู้สึกเกร็งบริเวณสะบักด้านหลังค้างไว้ 10 วินาที  ทําซํ้า 10 ครั้ง  จะช่วยลดการเกร็งของคอ บ่าและไหล่
  • ยืนก้มตัวหันหน้าเข้าหากำแพงในระยะห่างที่พอดี โน้มตัวไปข้างหน้าโดยใช้มือยันกําแพงไว้ และปล่อยตัวลง  ค้างไว้ 10 วินาที ทําซํ้า 5-6 ครั้ง จะช่วยยืดกล้ามเนื้อด้านหน้า และลดภาวะหลังค่อม
  • นั่งไขว้ขาข้างขวาเหมือนท่านั่งไขว่ห้าง แล้วหมุนลําตัวด้านบนไปทางขวาค้างไว้ 10 วินาที  ทํา 5-6 ครั้งแล้วสลับข้าง จะช่วยลดอาการปวดเมื่อยหลังและสะโพก
  • นั่งไขว้ขาข้างขวาเป็นเลข 4 แล้วก้มตัวลงไปด้านหน้าค้างไว้ 10 วินาที  ทํา 5-6 ครั้งแล้วสลับข้าง  จะช่วยลดอาการปวดหลัง, สะโพกและก้น

ภาวะออฟฟิศซินโดรมนั้น นอกจากจะมีสาเหตุหลักมาจากการนั่งทำงานด้วยท่าที่ไม่เหมาะสมเป็นเวลานานแล้ว ยังมีอีกหนึ่งปัจจัยร่วม คือ “ความเครียด” จากการทำงาน ดังนั้นจึงควรหาเวลาผ่อนคลายทางด้านอารมณ์ระหว่างการทำงานด้วยการใช้กลิ่นหอมบำบัด (Aromatherapy) จากน้ำมันหอมระเหยจากธรรมชาติ อาทิ ไทม์ ทู รีเฟรช และ ก้านไม้หอม นอกจากนี้การทำสปาด้วยตัวเองที่บ้านด้วยการแช่ตัวในน้ำอุ่นที่ผสมบาธ แอนด์ มาสสาจ ออยล์ หรือการนวดตัวด้วยบอดี้ บัตเตอร์ ร่วมกับท่านวดเพื่อความผ่อนคลาย นอกจากจะช่วยคลายกล้ามเนื้อและความเครียดแล้ว ยังสามารถบำรุงผิวให้เนียนุ่มชุ่มชื้นไปพร้อมกันได้”

ธัญ (THANN) ผลิตภัณฑ์เพื่อการดูแลสุขภาพผิวและเส้นผม ผสานคุณค่าแห่งพืชพรรณจากแหล่งธรรมชาติชั้นดีทั่วโลกและเทคโนโลยีอันทันสมัย ตลอดระยะเวลากว่า 19 ปีที่ผ่านมา ‘ธัญ’ (THANN) มุ่งมั่นพัฒนาคุณภาพผลิตภัณฑ์ธรรมชาติผสานเทคโนโลยีชั้นนำ ผ่านการทดสอบจากสถาบันวิจัยที่ได้รับการยอมรับในระดับสากลอย่าง Spincontrol Asia Co.,Ltd. (France), Skinnova Lab Co.,Ltd. และ Dermscan Asia อาทิ Dermatological test, Irritation test และ Efficacy test เพื่อยืนยันในคุณภาพและประสิทธิภาพเพื่อการดูแลสุขภาพผิวและเส้นผม และครั้งนี้แบรนด์ ธัญ (THANN) ได้แนะนำผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่มีจำหน่ายในร้านและเคาน์เตอร์ ธัญ (THANN) กว่า 100 สาขาในทวีปเอเชีย อเมริกา และยุโรป ไทม์ ทู รีเฟรช (Time to RefreshTM) ขนาด 15 มล. ราคา 410 บาท เติมความสดชื่นระหว่างวัน ด้วยส่วนผสมของน้ำมันหอมระเหย (Essential oil) 8 ชนิด อาทิ เกล็ดสาระแหน่ (Menthol), ยูคาลิปตัส (Eucalyptus),  เปปเปอร์มินท์ (Peppermint), เลมอน (Lemon peel oil), โรสแมรี่ (Rosemary ), กานพลู (Clove), พริกไทยดำ (Black Pepper ) และจันทน์เทศ (Nutmeg) เนื้อเจลบางเบา สูตรเย็น มอบคุณค่าการบำรุงผิวให้ชุ่มชื้นด้วย     ออแกนิค เชียร์บัตเตอร์ (Organic shea butter), ออแกนิค โกโก้บัตเตอร์ (Organic cocoa butter), ออแกนิค โจโจ้บา ออยล์ (Organic jojoba oil) และออแกนิค อาร์แกน ออยล์ (Organic argan oil)

ก้านไม้หอม (Aroma diffuser) ขนาด 150 มล. ราคา 1,450 บาท มอบกลิ่นหอมนุ่มนวลจากน้ำมันหอมระเหยธรรมชาติ ครอบคลุมพื้นที่การใช้งานได้มากขึ้น เหมาะสำหรับใช้ตกแต่ง และสร้างบรรยากาศที่ดีให้กับห้องรับแขก ห้องนั่งเล่น โต๊ะทำงาน หรือห้องนอน มีให้เลือก 5 กลิ่น อาทิ อะโรมาติก วูด ( Aromatic wood), โอเรียนทอล เอสเซ้นซ์ (Oriental Essence), อีสเทิร์น ออร์ชาร์ด (Eastern Orchard), อีเดน บรีซ (Eden Breeze) และ เอิร์ลเกรย์ อินฟิวชั่น (Earl Gray Infusion)

บาธ แอนด์ มาสสาจ ออยล์ (Bath & Massage Oil) ขนาด 295 มล. ราคา 990 บาท เติมเต็มความชุ่มชื้น คืนชีวิตชีวา   สู่ผิว ด้วยคุณค่าการบำรุงของน้ำมันสกัดจากธรรมชาติ อาทิ น้ำมันรำข้าว (Rice Bran Oil), น้ำมันอโวคาโดออแกนิค (Organic Avocado oil), น้ำมันดาวอินคาออแกนิค (Organic Inca Inchi oil) และน้ำมันมะกอก (Olive oil) มอบความชุ่มชื้นสู่ผิวได้ยาวนาน พร้อมมีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระทรงประสิทธิภาพ สูตรบางเบา ไม่เหนียวเหนอะหนะ ไม่อุดตันรูขมุขน พร้อมกลิ่นหอมของน้ำมันหอมระเหยธรรมชาติ มีให้เลือก 6 กลิ่น คือ กลิ่นอะโรมาติก วูด (Aromatic Wood) เติมเต็มความเบิกบาน มีชีวิตชีวาด้วยส่วนผสมของ ส้ม จันทน์เทศ ส้มแทงเจอรีน และไม้จันทน์,  กลิ่นโอเรียนทอล เอสเซ้นซ์ (Oriental Essence) สดชื่นเบาสบายด้วยกลิ่นอายแห่งโลกตะวันออกด้วยส่วนผสมของตะไคร้และมะกรูด, กลิ่นอีเดน บรีซ (Eden Breeze) ให้ความสงบสมดุล แฝงความอบอุ่นอ่อนหวานด้วยส่วนผสมของดอกมะลิและดอกกุหลาบ, กลิ่นอีสเทิร์น ออร์เชิร์ด (Eastern Orchard) สดชื่นรื่นรมย์ด้วยส่วนผสมของส้มยูซุ  มะนาว น้ำมันหอมระเหย และดอกมะลิ, กลิ่นสปริง ฟอเรสต์ (Spring Forest)  สะอาด สดชื่น มีชีวิตชีวาด้วยส่วนผสมของหญ้าแฝก เมล็ดถั่ว และเจอราเนียม และกลิ่นลาเวนเดอร์โรสแมรี่ (Lavender & Rosemary)  ที่มอบความผ่อนคลายด้วยส่วนผสมของดอกลาเวนเดอร์และดอกโรสแมรี่

บอดี้ บัตเตอร์ (Body Butter) ขนาด 350 มล. ราคา 1,550 บาท ผลิตภัณฑ์ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวกายสูตรเสริมประสิทธิภาพที่ให้มากกว่าความชุ่มชื้น คืนความเรียบเนียนสู่ผิว ผิวเรียบเนียนขึ้น 19%*, ความชุ่มชื้นของผิวเพิ่มขึ้น 22.9%** แม้เวลาผ่านไป 6 ชั่วโมง รวมถึง 90% ของผู้ทดสอบผิวมีความกระจ่างใสขึ้น*** ด้วยส่วนผสมของสารสกัดธรรมชาตินานาชนิด อาทิ สารสกัดอานุภาคขนาดเล็กจากใบชิโซะ (Nano shiso extract), สารสกัดจากจมูกข้าวบาร์เลย์ (Barley extract), เมล็ดเชียบัตเตอร์ออแกนิค (Organic Shea Butter), โจโจ้บา ออยล์ ออแกนิค (Organic Jojoba oil), น้ำมันมะพร้าวออแกนิค (Organic Coconut oil), น้ำมันรำข้าว (Rice bran oil), สารสกัดอานุภาคขนาดเล็กจากบุทเชอร์บรูม (Butcher]s broom extract), สารสกัดมิลค์ทิสเทิล (Milk  Thistel extract), สารสกัดจากสนหางม้า (Horsetail extract), สารสกัดจากสาหร่ายทะเล (Bladderwrack extract), สารสกัดจากสาหร่ายเคลป์ (Kelp extract), สารสกัดจากใบไอวี่ (Ivy extract) และ สารสกัดจากรากชะเอมเทศ (Licorice extract) โดยแนะนำให้ใช้ควบคู่กับการออกกำลังกายจะช่วยให้ผิวกระชับและเรียบเนียนน่าสัมผัสมากยิ่งขึ้น

ด้าน เซเลบริตี้ต่างร่วมทดลองใช้ผลิตภัณฑ์ พร้อมเผยเคล็ดลับการสร้างความผ่อนคลายระหว่างทำงานอยู่ที่บ้านตามแบบฉบับของตนเอง เริ่มที่ ปณิตา ศรไทยเทวา เล่าว่า “การเวิร์คฟอร์มโฮมก็มีข้อดีตรงที่ช่วยให้เราประหยัดเวลาในการเดินทาง สามารถมีเวลาทำงานเยอะขึ้น เราจึงจัดสถานที่สำหรับนั่งทำงานที่บ้านโดยเลือกห้องที่มีแสงธรรมชาติส่องถึง สามารถมองเห็นท้องฟ้าหรือต้นไม้ได้ เพื่อเป็นการสร้างบรรยากาศที่ดีระหว่างการทำงาน โดยไม่ควรนั่งทำงานในท่าเดิมเกิน 1-2 ชั่วโมง และหมั่นขยับร่างกายเพื่อเปลี่ยนอิริยาบถบ่อยๆ สลับกับการลุกเดินประมาณ 5-10 นาที เนื่องจากหากเรานั่งนานๆ ก็จะทำให้ปวดหลัง ส่วนเคล็ดลับการสร้างความผ่อนคลายระหว่างการทำงาน หรือเวลาที่คิดงานไม่ออก เราจะมีตัวช่วยอย่างการนวดขมับด้วยไทม์ ทู รีเฟรช รวมถึงการสร้างบรรยากาศความผ่อนคลายด้วยก้านไม้หอมซึ่งเราจะวางไว้ทุกห้อง ช่วยให้เรารู้สึกสดชื่นด้วยกลิ่นหอมจากน้ำมันหอมระเหยธรรมชาติ พอหมดวันก็จะผ่อนคลายด้วยการแช่น้ำอุ่นที่ผสมบาธ แอนด์ มาสสาจ ออยล์ กลิ่นลาเวนเดอร์โรสแมรี่ นอกจากจะได้ผ่อนคลายจากกลิ่นหอมแล้ว ยังช่วยรักษาความชุ่มชื้นให้กับผิวเราได้เป็นอย่างดี เพราะการแช่น้ำอุ่นนานๆ ผิวอาจสูญเสียความชุ่มชื้นและทำให้ผิวแห้งได้ง่าย หลังจากอาบน้ำเสร็จก็จะบำรุงผิวด้วยบอดี้ บัตเตอร์ ทุกครั้ง เพื่อผิวจะได้ไม่แห้งกร้านและยังคงความชุ่มชื้นอย่างมีสุขภาพดี”

ถัดมาที่ ศิตา ชุติภาวรกานต์ เล่าว่า “ตั้งแต่ที่ต้องปรับเปลี่ยนการทำงานมาเป็นเวิร์คฟอร์มโฮม ทำให้เราต้องนั่งทำงานอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์มากกว่าอยู่ที่บริษัท ไม่ว่าจะเป็นการประชุม ตรวจงาน รวมถึงให้คำปรึกษากับพนักงานที่มีข้อสงสัยหรือต้องส่งงานให้กับเราตลอดทั้งวัน ดังนั้นเราจึงเน้นให้ความสำคัญกับการจัดท่านั่งให้เหมาะสม หากเรานั่งในท่าที่ไม่เหมาะสมก็จะทำให้เกิดอาการปวดคอ บ่า ไหล่ และหลังได้ พอหมดวันมีหลายครั้งที่รู้สึกปวดเมื่อย อ่อนล้าทั้งหลังและสายตา เราก็จะใช้วิธีนวดกดเบาๆ ตามจุดต่างๆ แต่การนวดเพียงอย่างเดียวก็ไม่สามารถทำให้ความเครียดและความเหนื่อยล้าหายไปได้ เราจึงต้องมีตัวช่วยอย่างการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณสมบัติในการผ่อนคลายร่วมด้วย อย่างวันไหนที่ต้องประชุมหลายงานติดต่อกันก็มักจะเติมความสดชื่นระหว่างวันด้วยไทม์ ทู รีเฟรช ซึ่งสะดวกและง่ายต่อการพกพา สามารถหยิบใช้งานได้ตลอดวัน รวมถึงสร้างบรรยากาศความหอมภายในห้องด้วยก้านไม้หอม พอหมดวันก็จะแช่ตัวในน้ำอุ่นที่ผสมบาธ แอนด์ มาสสาจ ออยล์ เพื่อคืนความมีชีวิตชีวาด้วยกลิ่นหอมอ่อนๆ ที่ทำให้เรารู้สึกผ่อนคลายและคลายความเหนื่อยล้าจากการทำงานหนักทั้งวันได้”

สิรี วงศ์รักมิตร

ปิดท้ายที่ สิรี วงศ์รักมิตร เผยว่า “มิ้งทำงานเป็นหมอเฉพาะทางด้านโภชนาการ พอเลิกจากงานประจำก็ต้องกลับมาเวิร์คฟอร์มโฮมต่อ เพราะต้องเตรียมพรีเซ้นต์งานควบคู่กับการทำงานวิจัย ซึ่งเวลาส่วนใหญ่แต่ละวันจึงหมดไปกับการทำงาน ดังนั้นห้องทำงานของมิ้งที่บ้านก็จะจัดบรรยากาศให้เหมาะสมกับการทำงาน เช่น การจัดแสงสว่างให้เพียงพอ เปิดเพลงคลอเบาๆ พร้อมกับเปิดเครื่องกระจายกลิ่นหอม รวมถึงวางก้านไม้หอมไว้ตามจุดต่างๆ ภายในบ้าน เพื่อสร้างบรรยากาศที่ดีระหว่างการทำงาน พยายามจัดสรรเวลานั่งทำงานให้ไม่เกินรอบละ 1 ชั่วโมง สลับกับการหยุดพัก 5-10 นาที เพื่อไม่ให้ร่างอ่อนล้าจนเกินไป ที่สำคัญคือต้องจัดท่านั่งอย่างเหมาะสม ส่วนเวลาที่มิ้งรู้สึกเครียดก็มักจะใช้ไทม์ ทู รีเฟรช ควบคู่กับการนวดบริเวณขมับทั้ง 2 ข้าง ก็จะช่วยให้รู้สึกสดชื่นขึ้นทันที แต่หากวันไหนที่เหนื่อยล้ามากๆ ก็มักจะใช้หินกัวซานวดคอ บ่า ไหล่ระหว่างอาบน้ำ และไม่ลืมที่จะบำรุงผิวด้วยบอดี้บัตเตอร์ หลังการอาบน้ำทุกครั้ง เพื่อช่วยบำรุงผิวให้เนียนนุ่มชุ่มชื้นตลอดวัน”

สัมผัสความผ่อนคลายกับผลิตภัณฑ์ ธัญ (THANN) อาทิ ไทม์ ทู รีเฟรช (Time to RefreshTM), ก้านไม้หอม (Aroma diffuser), บอดี้ บัตเตอร์ (Body Butter) และ บาธ แอนด์ มาสสาจ ออยล์ (Bath & Massage Oil) ได้แล้ววันนี้ที่ออนไลน์สโตร์  www.thann.co.th (ส่งฟรีทั่วประเทศ) และร้าน ธัญ (THANN) ทั้ง 12 สาขาทั่วประเทศ อาทิ สาขาสุขุมวิท 47, ชั้น 2 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์, ชั้น 3 ศูนย์การค้าเกษร, ชั้น 5 ศูนย์การค้าดิเอ็มโพเรียม, ชั้น 1 และชั้น 4 ศูนย์การค้าสยามพารากอน, ชั้น 1 ศูนย์การค้าสยามเซ็นเตอร์, ชั้น 4 ไอคอน สยาม, ร้านวูว์ ถนนเจริญราษฎร์ และสาขาถนนพระปกเกล้า (ตรงข้ามวัดเจดีย์หลวง) จังหวัดเชียงใหม่, สาขาป่าตอง (หน้าโรงแรม La Flora ป่าตอง) จังหวัดภูเก็ต และ ธัญ เวลเนส เดสทิเนชั่น จ.พระนครศรีอยุธยา

แนะเทคนิคผ่อนคลายป้องกันภาวะหมดไฟจากการทำงาน

ด้วยสถานการณ์การผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในปัจจุบันที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้หลายบริษัทได้ปรับเปลี่ยนวิธีมาเป็นการทำงานที่บ้าน (Work from home) ส่งผลให้หลายคนต้องใช้เวลาทำงานยาวนานขึ้น และอยู่ในบรรยากาศเดิมๆ ทุกวัน ทำให้เกิดความเหนื่อยล้าสะสมจากการทำงานอย่างต่อเนื่อง จนเริ่มมีอาการเบื่อหน่าย ขาดแรงจูงใจในการสร้างสรรค์ผลงาน ลดทอนประสิทธิภาพในการทำงานจนนำมาสู่อาการหมดไฟในที่สุด แบรนด์ผลิตภัณฑ์เพื่อการดูแลสุขภาพผิวและเส้นผมจากสารสกัดธรรมชาติ ‘ธัญ’ (THANN) จึงเชิญแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านจิตเวช แพทย์หญิงดุจฤดี อภิวงศ์ มาแนะ เทคนิคสร้างความผ่อนคลายระหว่างการทำงานที่บ้าน เพื่อป้องกันการเกิดภาวะหมดไฟจากการทำงาน (Burnout) กับผลิตภัณฑ์ ‘ไทม์ ทู รีเฟรช’ (Time to RefreshTM), ‘เครื่องกระจายกลิ่นหอม’ (Electric aroma diffuser), ‘น้ำมันหอมระเหยธรรมชาติ 100%’ (Pure Essential Oil), ‘ก้านไม้หอม’ (Aroma diffuser) และ ‘เทียนหอมไร้ควัน’ (Aromatic candle) ร่วมกับเซเลบริตี้สาวสวยมาร่วมเผยเคล็ดลับการรับมือกับภาวะหมดไฟ อาทิ บงกชทิพย์ ภิรมย์ภักดี, บุญญาพร ศรีอรทัยกุล และ ณัชชา ธนากิจอำนวย

แพทย์หญิงดุจฤดี อภิวงศ์  แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านจิตเวช ได้แนะแนวทางสร้างบรรยากาศผ่อนคลายทางด้านอารมณ์ ป้องกันภาวะหมดไฟจากทำงาน (Burnout Syndrome)  ว่า “ภาวะหมดไฟในการทำงาน (Burnout) เป็นภาวะผิดปกติที่เกิดจากการทำงาน (Occupational Phenomenon) แต่ไม่ใช่โรค (not a medical diagnosis) เนื่องจากการขาดสมดุลของชีวิตและการทำงาน (Work-Life Balance) จนเกิดความเครียดสะสมเรื้อรังในสถานที่ทำงานโดยที่ไม่ได้รับการแก้ไขอย่างเหมาะสม ทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงทางด้านจิตใจ อารมณ์ และส่งผลกระทบต่อร่างกายตามมา

กลุ่มอาการภาวะหมดไฟจากการทำงาน (Burnout) มักเกิดจากภาระความรับผิดชอบในงานที่สูง รวมถึงปริมาณงานจำนวนมากที่มีความซับซ้อนและต้องทำในเวลาเร่งรีบ นอกจากนี้อาจเกิดจากปัญหาการเรียงลำดับความสำคัญของงาน การขาดอำนาจในการตัดสินใจ หรือต้องทำงานที่ตนเองไม่ถนัด เป็นต้น ส่วนการสังเกตว่าตัวเรากำลังอยู่ในภาวะหมดไฟจากการทำงานสามารถประเมินได้จาก

  • อาการทางกาย : เหนื่อย หมดแรง อ่อนเพลีย นอนไม่หลับ ปวดหัว ปวดกล้ามเนื้อบ่อย ไม่อยากอาหารหรือทานอาหารมากเกินไป ปวดท้อง คลื่นไส้ ความสามารถในการจำและการทำงานลดลงอย่างเห็นได้ชัด
  • อาการทางจิตใจ : หดหู่ เบื่อ ขาดแรงจูงใจ ไม่มีความสุขในการทำงาน มองโลกในแง่ร้าย โกรธ หงุดหงิดง่าย รู้สึกโดดเดี่ยว สิ้นหวัง ไม่มีใครเข้าใจ ไม่พอใจในตัวเองและรู้สึกไม่ประสบความสำเร็จ
  • อาการทางด้านพฤติกรรม : พูดคุยกับคนรอบตัวน้อยลง ชอบแยกตัวไม่สุงสิงกับใคร ไม่อยากตื่นมาทำงาน มาทำงานสายแต่กลับบ้านเร็ว ขี้เกียจมากขึ้น ไม่กระตือรือร้น ไม่อยากพัฒนา เริ่มใช้สิ่งเสพติด เช่น เหล้า บุหรี่

เราสามารถแก้ไขภาวะหมดไฟจากการทำงานเบื้องต้นได้ด้วยการเปลี่ยนทัศนะคติ ยอมรับปัญหา เปิดใจรับฟังความคิดเห็นคนอื่น ไม่ทำงานหักโหมเกินเวลา รู้จักฝึกขอความช่วยเหลือหรือฝึกทักษะการปฏิเสธอย่างเหมาะสม แบ่งเวลาให้กับครอบครัวมากขึ้น หาเวลาทำกิจกรรมที่ช่วยสร้างความผ่อนคลาย เช่น แช่น้ำอุ่น ใช้เวลากับสัตว์เลี้ยง หรือต้นไม้ ออกกำลังกาย ที่ใช้การฝึกลมหายใจร่วมด้วย เช่น โยคะ พิลาทิส รวมถึงการใช้กลิ่นหอมบำบัด (Aromatherapy) จากน้ำมันหอมระเหยจากธรรมชาติมาช่วยในการสร้างบรรยากาศความผ่อนคลายภายในบ้านซึ่งนับเป็นอีกหนึ่งวิธีที่สามารถบรรเทาความเครียดได้เร็วที่สุด

เมื่อจมูกได้รับกลิ่นมาเพียงไม่กี่วินาที กลิ่นจะถูกส่งผ่านประสาทรับกลิ่น (Olfactory Nerves) ซึ่งอยู่เหนือโพรงจมูกไปยังกระเปาะรับกลิ่น (Olfactory Bulbs) และส่งต่อไปยังสมองส่วนควบคุมอารมณ์และความรู้สึก (Limbic System) อณูของน้ำมันหอมระเหยจะกระจายไปตามประสาทรับกลิ่นเข้าสู่สมองส่วนที่ควบคุมอารมณ์และความรู้สึก (Emotion Center หรือ Limbic System) โดยไปกระตุ้นให้สมองสั่งการไปที่ระบบต่อมไร้ท่อ เพื่อหลั่งสารที่มีประโยชน์ และมีอิทธิพลต่ออารมณ์และความรู้สึก ได้แก่ เอ็นโดฟิน (Endorphin) สารที่ช่วยลดความเจ็บปวด คลายความเครียด และความวิตกกังวล, เอนเคฟาลิน (Enkephalin) สารที่ช่วยลดอาการซึมเศร้า และเซโรโทนิน (Serotonin) ช่วยทำให้สงบ เยือกเย็น และผ่อนคลายจากสภาวะเครียดได้”

ธัญ (THANN) ผลิตภัณฑ์เพื่อการดูแลสุขภาพผิวและเส้นผม ผสานคุณค่าแห่งพืชพรรณจากแหล่งธรรมชาติชั้นดีทั่วโลกและเทคโนโลยีอันทันสมัย ตลอดระยะเวลากว่า 19 ปีที่ผ่านมา ‘ธัญ’ (THANN) มุ่งมั่นพัฒนาคุณภาพผลิตภัณฑ์ธรรมชาติผสานเทคโนโลยีชั้นนำ ผ่านการทดสอบจากสถาบันวิจัยที่ได้รับการยอมรับในระดับสากลอย่าง Spincontrol Asia Co.,Ltd. (France), Skinnova Lab Co.,Ltd. และ Dermscan Asia อาทิ Dermatological test, Irritation test และ Efficacy test เพื่อยืนยันในคุณภาพและประสิทธิภาพเพื่อการดูแลสุขภาพผิวและเส้นผม ขอแนะนำผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่มีจำหน่ายในร้านและเคาน์เตอร์ ‘ธัญ’ (THANN) กว่า 100 สาขาในทวีปเอเชีย อเมริกา และยุโรป ไทม์ ทู รีเฟรช (Time to RefreshTM) ขนาด 15 มล. ราคา 410 บาท เติมความสดชื่นระหว่างวัน ด้วยส่วนผสมของน้ำมันหอมระเหย (Essential oil) 8 ชนิด อาทิ เกล็ดสาระแหน่ (Menthol), ยูคาลิปตัส (Eucalyptus),  เปปเปอร์มินท์ (Peppermint), เลมอน (Lemon peel oil), โรสแมรี่ (Rosemary ), กานพลู (Clove), พริกไทยดำ (Black Pepper ) และจันทน์เทศ (Nutmeg) เนื้อเจลบางเบา สูตรเย็น มอบคุณค่าการบำรุงผิวให้ชุ่มชื้นด้วย ออแกนิค เชียร์บัตเตอร์ (Organic shea butter), ออแกนิค โกโก้บัตเตอร์ (Organic cocoa butter), ออแกนิค โจโจ้บา ออยล์ (Organic jojoba oil) และออแกนิค อาร์แกน ออยล์ (Organic argan oil)

‘เครื่องกระจายกลิ่นหอม’ (Electric aroma diffuser) ราคา 4,390 บาท ทำงานด้วยกลไกการกระจายความหอมแบบ Ultrasonic Water – Oxygen โดยใช้คลื่นเสียงความถี่สูงถึง 2.5 ล้านรอบ/วินาที ทำให้น้ำแตกตัวเป็นไอเย็นที่มีโมเลกุลขนาดเล็กเพียง 5 ไมครอน นำพาน้ำมันหอมระเหยขึ้นสู่อากาศ กลิ่นหอมจึงกระจายตัวได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งเป็นการทำงานแบบไม่ใช้ความร้อนจึงปลอดภัยสำหรับทุกคนในครอบครัว มาพร้อมกับ 2 ฟังก์ชั่นการใช้งานที่สามารถเลือกใช้ได้ตามความเหมาะสม ได้แก่ โหมดทำงานแบบต่อเนื่อง (Green Light) ตัวเครื่องจะทำงานต่อเนื่อง 3 ชั่วโมง เมื่อเสร็จการทำงานเครื่องจะปิดแบบอัตโนมัติ และโหมดควบคุมจังหวะการทำงาน (Orange Light) ตัวเครื่องจะพ่นควัน 1 ครั้ง สลับกับการหยุด 30 วินาที สามารถใช้ได้ต่อเนื่องถึง 6 ชั่วโมง

‘น้ำมันหอมระเหยธรรมชาติ 100%’ (Pure essential oil) ขนาด 10 มล. ราคา 890 บาท และ ขนาด 50 มล. ราคา 1,850 บาท แต่งเติมความหอมหลากหลายรูปแบบ สามารถใช้งานร่วมกับเครื่อง Electric aroma diffuser เพื่อรังสรรค์บรรยากาศความสุขภายในบ้านได้อย่างมีรสนิยม มีให้เลือก 2 ขนาด คือ 10ml และ 50ml มีด้วยกัน 7 กลิ่น ได้แก่ กลิ่นอะโรมาติก วูด (Aromatic Wood) ที่จะช่วยเติมเต็มความเบิกบาน มีชีวิตชีวา คลายความกังวล ด้วยส่วนผสมของส้ม (Orange), แทงเจอรีน (Tangerine), จันทน์เทศ (Nutmeg) และ ไม้จันทน์ (Sandalwood)

กลิ่นโอเรียนทอล เอสเซ้นซ์ (Oriental Essence) หอมสดชื่นเบาสบายด้วยกลิ่นอายแห่งโลกตะวันออก ด้วยส่วนผสมของตะไคร้ (Lemongrass) และมะกรูด (Kaffir Lime)

กลิ่นอีเดน บรีซ (Eden Breeze) กลิ่นหอมที่จะมามอบความสงบ สมดุลทางอารมณ์และจิตใจ สร้างบรรยากาศแห่งความโรแมนติก ด้วยส่วนผสมของดอกมะลิ (Jasmine) และดอกกุหลาบ (Rose)

กลิ่นสปริง ฟอเรส  (Spring Forest) สะอาด สดชื่น มีชีวิตชีวา ด้วยส่วนผสมของกลิ่นหญ้าแฝก (Vetiver), เมล็ดถั่วทองกา (Tonka Bean) และดอกเจอราเนียม (Geranium)

กลิ่นดอกลาเวนเดอร์และโรสแมรี่ (Lavender & Rosemary) ความหอมของดอกไม้ช่วยให้สงบผ่อนคลายด้วยส่วน ผสมของดอกลาเวนเดอร์ (Lavender )และโรสแมรี่ (Rosemary)

กลิ่นอีสเทิร์น ออร์ชาร์ด (Eastern Orchard) สดชื่น รื่นรมย์ ด้วยส่วนผสมของส้มยูซุ (Japanese Yuzu), มะนาว (Lemon), บลาซีเลีย เนโรลี่ (Brazilian Neroli) และดอกมะลิ (Jasmine)

กลิ่นเอิร์ลเกรย์ อินฟิวชั่น (Earl Grey Infusion) กลิ่นหอมที่จะช่วยให้สงบ ผ่อนคลาย อันเป็นเอกลักษณ์จากส่วนผสมของ กระวาน (Cardamom), ส้ม (Orange), ดอกลาเวนเดอร์ (Lavender) และคลารี่ เสจ (Clary Sage)

‘ก้านไม้หอม’ (Aroma diffuser) ขนาด 150 มล. ราคา 1,450 บาท มอบกลิ่นหอมนุ่มนวลจากน้ำมันหอมระเหยธรรมชาติ ครอบคลุมพื้นที่การใช้งานได้มากขึ้น เหมาะสำหรับใช้ตกแต่ง และสร้างบรรยากาศที่ดีให้กับห้องรับแขก ห้องนั่งเล่น โต๊ะทำงาน หรือห้องนอน มีให้เลือก 5 กลิ่น อาทิ อะโรมาติก วูด ( Aromatic wood), โอเรียนทอล เอสเซ้นซ์ (Oriental Essence), อีสเทิร์น ออร์ชาร์ด (Eastern Orchard), อีเดน บรีซ (Eden Breeze) และ เอิร์ลเกรย์ อินฟิวชั่น (Earl Gray Infusion)

‘เทียนหอม’ (Aromatic candle) ขนาด 190 กรัม ราคา 750 บาท เทียนหอมไร้ควัน ผลิตจากน้ำมันปาล์มธรรมชาติ 100% ปราศกลิ่นสังเคราะห์ และพาราฟิน ปลอดภัยต่อผู้ใช้และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เหมาะสำหรับสร้างบรรยากาศความรื่นรมย์ได้ในทุกสถานที่ มีให้เลือก 4 กลิ่น อาทิ อะโรมาติก วูด ( Aromatic wood), โอเรียนทอล เอสเซ้นซ์ (Oriental Essence), อีเดน บรีซ (Eden Breeze) และ เอิร์ลเกรย์ อินฟิวชั่น (Earl Gray Infusion)

ด้าน เซเลบริตี้ต่างร่วมทดลองใช้ผลิตภัณฑ์ พร้อมเผยเคล็ดลับการผ่อนคลายทางด้านอารมณ์ตามแบบฉบับตนเอง เริ่มที่ บงกชทิพย์ ภิรมย์ภักดี เผยว่า “ปกติแล้วบัวจะได้แรงบันดาลใจในการทำงานจากการเดินทาง แต่พอมาเจอช่วงโควิดก็ต้องปรับเปลี่ยนทัศนคติใหม่ พยายามทำจิตใจไม่ให้เครียดด้วยการฝึกนั่งสมาธิเพื่อไม่ให้จิตใจฟุ้งซ่าน อย่างวันไหนคิดงานไม่ออกก็จะระบายอารมณ์ด้วยการวาดภาพ หากวันไหนเริ่มรู้สึกเบื่อขาดแรงบันดาลใจก็จะเพิ่มพลังด้วยกลิ่นหอมของน้ำมันหอมระเหยธรรมชาติ โดยจะวางไว้ทุกมุมภายในบ้านโดยเฉพาะในห้องนอนก็จะวางก้านไม้หอมหรือไม่ก็จุดเทียนหอมไว้ ส่วนกลิ่นที่ชอบจะเป็นกลิ่นอีสเทิร์น ออร์ชาร์ด เพราะรู้สึกสดชื่น กระปรี้ประเปร่า พอร่างกายและจิตใจเราสดชื่นความคิดทางด้านบวกและแรงบันดาลใจก็จะตามมาเรื่อยๆ ทำให้เราสามารถสร้างสรรค์ผลงานดีๆ ออกมาได้”

ถัดมาที่ บุญญาพร ศรีอรทัยกุล เล่าว่า “เพิร์ลเชื่อว่าเป็นเรื่องปกติที่เราทุกคนจะประสบปัญหาหมดไฟไม่ว่าจะเกิดจากการเรียนหรือการทำงานอย่างหนัก เพราะเพิร์ลเองก็เคยเป็นช่วงใกล้สอบ หรือไม่ก็ตอนทำโปรเจ็คใหญ่ๆ ช่วงนั้นรู้สึกเครียดมากๆ ทำให้ไม่มีสมาธิ ปวดหัว อ่อนเพลีย ขาดพลังและแรงบันดาลใจในการทำงาน แต่เราจะพยายามลดความเครียดด้วยการพูดคุยกับคนในครอบครัว ฟังเพลง ออกกำลังกาย และใช้กลิ่นหอมจากน้ำหอมระเหยธรรมชาติ เพื่อสร้างความผ่อนคลายไม่ว่าจะเป็น ไทม์ ทู รีเฟรช ที่พกติดตัวแบบขาดไม่ได้เลย เพราะถ้าอยากได้ความผ่อนคลายเมื่อไหร่ก็เอามาใช้ได้ทันที นอกจากนี้ก็จะวางเทียนหอม หรือ เครื่องกระจายกลิ่นหอม ที่ใช้คู่กับน้ำมันหอมระเหยธรรมชาติ โดยหลักๆ ก็จะวางไว้ในห้องทำงาน และห้องนอน สำหรับกลิ่นที่ชอบก็คือ อะโรมาติก วูด เป็นกลิ่นหอมสดชื่น มีชิวิตชีวาของส้ม, แทนเจอรีน ผสมกับกลิ่นไม้หอมอย่างจันทน์เทศและแซนดัลวู้ด”

ปิดท้ายที่ ณัชชา ธนากิจอำนวย เผยว่า “ชาช่ามุ่งมั่นกับการทำงานมาก เพราะอยากให้งานประสบผลสำเร็จอย่างที่เราตั้งใจไว้ จึงชอบตั้งเป้าหมายและวางแผนการทำงานไว้ล่วงหน้า เพื่อให้งานมีแบบแผนและทิศทางการทำงานที่ชัดเจน ทำให้เรามีแรงผลักดัน มีพลังในการทำงานเพื่อให้ไปถึงเป้าหมายที่วางแผนไว้ ถ้าช่วงไหนที่ทำงานหนักมากๆ แต่ก็อาจทำให้เกิดความเครียด เหนื่อยล้า หรือคิดงานไม่ออก เราก็จะมีวิธีผ่อนคลายตัวเองด้วยการหยุดพักผ่อนสักสาม-สี่วัน เพื่อไปท่องเที่ยวตามแหล่งธรรมชาติ ไปอยู่ในที่อากาศปลอดโปร่ง เป็นการหาแรงบันดาลใจใหม่ๆ แต่พอเกิดโควิดก็ไม่ได้ออกไปไหนเลย จึงต้องปรับเปลี่ยนวิธีมาใช้กลิ่นหอมผ่อนคลายด้วยการใช้น้ำมันหอมระเหยธรรมชาติ ซึ่งที่บ้านจะวางก้านไม้หอมและชุด น้ำมันหอมระเหยไว้ทุกห้อง ไม่ว่าจะเป็นในห้องนอน, ห้องทำงานหรือโต๊ะกาแฟ เพื่อช่วยสร้างบรรยากาศที่ดี อย่างกลิ่นที่ชอบก็จะเป็นกลิ่นอีเดน บรีซ เป็นกลิ่นหอมที่ผสมระหว่างดอกมะลิและกุหลาบที่มอบความสงบผ่อนคลายให้เราได้ดี”

สร้างบรรยากาศผ่อนคลายด้วยกลิ่นหอมจากธรรมชาติกับผลิตภัณฑ์ ธัญ (THANN) อาทิ ‘ไทม์ ทู รีเฟรช’ (Time to RefreshTM), ‘เครื่องกระจายกลิ่นหอม’ (Electric aroma diffuser), น้ำมันหอมระเหยธรรมชาติ 100% (Pure Essential Oil), ก้านไม้หอม (Aroma diffuser) และ ‘เทียนหอมไร้ควัน’ (Aromatic candle) ได้แล้ววันนี้ที่ออนไลนสโตร์  www.thann.co.th (ส่งฟรีทั่วประเทศ) และร้าน ธัญ (THANN) ทั้ง 12 สาขาทั่วประเทศ อาทิ สาขาสุขุมวิท 47, ชั้น 2 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์, ชั้น 3 ศูนย์การค้าเกษร, ชั้น 5 ศูนย์การค้าดิเอ็มโพเรียม, ชั้น 1 และชั้น 4 ศูนย์การค้าสยามพารากอน, ชั้น 1 ศูนย์การค้าสยามเซ็นเตอร์, ชั้น 4 ไอคอน สยาม, ร้านวูว์ ถนนเจริญราษฎร์ และสาขาถนนพระปกเกล้า (ตรงข้ามวัดเจดีย์หลวง) จังหวัดเชียงใหม่, สาขาป่าตอง (หน้าโรงแรม La Flora ป่าตอง) จังหวัดภูเก็ต และ ธัญ เวลเนส เดสทิเนชั่น จ.พระนครศรีอยุธยา

แนะวิธีเตรียมผิวสวยให้พร้อมก่อนประชุมทางออนไลน์

จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในปัจจุบัน ทำให้หลายบริษัทได้ปรับเปลี่ยนวิธีมาเป็นการทำงานที่บ้าน (Work from home) แน่นอนว่าต้องมีการประชุมทางออนไลน์แบบเปิดกล้อง (VDO Conference) กันอยู่บ่อยๆ แต่เมื่อไม่ต้องเดินทางออกไปไหน ไม่ต้องพบเจอใคร หลายคนอาจละเลยเรื่องการดูแลเสื้อผ้า หน้า ทรงผม ทำให้ไม่พร้อมสำหรับการเปิดกล้องเพื่อประชุมออนไลน์ เพราะไม่อยากโชว์หน้าสด หน้าโทรม หน้าไม่พร้อม แบรนด์ผลิตภัณฑ์เพื่อการดูแลสุขภาพผิวและเส้นผม ธัญ (THANN) คำถึงความกังวลดังกล่าวจึงได้เชิญแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังและความงาม แพทย์หญิงอวิกา รงค์ทอง มาแนะ วิธีเตรียมผิวสวยให้พร้อมก่อนการประชุมทางออนไลน์ (VDO Conference) กับผลิตภัณฑ์ดูแลผิวในกลุ่ม ชิโซะ (Shiso) อาทิอาทิ เพียวริฟายอิ้ง เฟซ วอช (Purifying Face Wash), แอสตริเจนต์ โทนเนอร์ (Astrigent Toner), ไฮเดรติ้ง อิมัลชั่น )Hydrating Emulsion) และ รีไวทอลไลซิ่ง เฟซมาส์ (Revitalizing face mask) ร่วมกับเซเลบริตี้สาวสวยที่มาเผยเคล็ดลับการดูแลสุขภาพผิวหน้าให้พร้อมสำหรับทุกสถานการณ์ อาทิ ปรมา ไรวาพรรษพร ลี้อิสสระนุกูล และ ธัญรดี พลาฤทธิ์

แพทย์หญิงอวิกา รงค์ทอง ผู้เชี่ยวชาญด้านด้านผิวหนังและความงาม แนะวิธีเตรียมผิวสวยให้พร้อมก่อนการประชุมทางออนไลน์ว่า การดูสุขภาพร่างกายและผิวพรรณ เป็นสิ่งที่จำเป็นต้องได้รับการดูแลอย่างสม่ำเสมอ ถึงแม้ว่าในช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ทำให้หลายคนต้องทำงานที่บ้าน (Work from home) เมื่อไม่ต้องออกไปทำงานนอกบ้าน ไม่ต้องเข้าออฟฟิศ ไม่ต้องพบเจอใคร ก็อาจละเลยหรือไม่ค่อยให้ความสำคัญกับการดูแลผิวได้เท่าที่ควร ผิวจึงเกิดความเสื่อมโทรม ดูไม่สดใส สาเหตุอาจเกิดได้หลายปัจจัย เช่น

  • การไม่ทาครีมบำรุงผิว รวมถึงการอยู่ในห้องปรับอากาศตลอดเวลา ก็ทำให้ผิวแห้งกร้าน เกิดผด เกิดสิว
  • การไม่ทาครีมกันแดด เพราะคิดว่าอยู่แต่ในบ้านไม่ได้ออกไปไหน แต่ที่จริงแล้วรังสียูวีเอ (UVA) ก็สามารถสะท้อนทะลุกระจกเข้ามากระทบผิวเราได้ นอกจากนั้นยังมีแสงจากหลอดไฟในบ้าน หน้าจอมือถือ และแสงจากคอมพิวเตอร์ ที่สามารถทำให้ผิวเสื่อมได้ในระยะยาว
  • การไม่ทำความสะอาดผิว หรือทำความสะอาดผิวไม่หมดจด เพราะคิดว่าไม่ได้แต่งหน้า แต่ครีมกันแดดที่เราทาผิวไปนั้นหากล้างด้วยน้ำธรรมดาจะล้างออกได้ไม่หมด เมื่อล้างออกไม่หมดเกิดการสะสมทำให้ผิวเกิดการอุดตันได้
  • ความเครียด การพักผ่อนไม่เพียงพอ การรับประทานอาหารไม่ครบ 5 หมู่ ก็ล้วนส่งผลทำให้เกิดปัญหาผิวเสื่อมโทรมได้เช่นกัน

แน่นอนว่าการเวิร์คฟอร์มโฮมนั้นต้องมีการประชุมทางออนไลน์แบบเปิดกล้องกันอยู่เกือบจะทั้งวัน ทำให้หลายคนเริ่มเกิดความกังวลเกี่ยวกับปัญหาผิวต่างๆ เราจึงควรแบ่งเวลาอย่างเหมาะสมเพื่อดูแลตัวเอง เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารสกัดธรรมชาติที่มีคุณสมบัติในการบำรุงผิว ตัวอย่างเช่น สารสกัดจากชิโซะ (Shiso extract) ที่มีความโดดเด่นในการมอบความชุ่มชื้น ช่วยฟื้นฟูเซลล์ผิวจากความแห้งกร้านและความเสื่อมสภาพของผิว เลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ รวมถึงไม่ละเลยขั้นตอนการทำความสะอาดและดูแลผิว เช่น

  • การล้างทำความสะอาดผิวหน้าด้วยเฟซวอช วันละสองครั้งก็เพียงพอ ไม่บ่อยจนเกินไป ผิวจะได้ไม่เกิดการระคายเคือง
  • การใช้โทนเนอร์ทุกครั้งหลังการล้างหน้า โดยเช็ดไปตามแนวรูขุมขนบนใบหน้า จากหน้าผากไปทางด้านข้างขมับ บริเวณใต้ตาเช็ดลงไปที่บริเวณกรอบหน้า โดยจะทำให้ผิวสะอาดและพร้อมรับการบำรุงในขั้นตอนต่อไป
  • การเลือกครีมบำรุงให้เหมาะกับสภาพผิว ถ้าหากผิวมันก็ควรที่จะเลือกครีมที่มีเนื้อบางเบา หากมีผิวแห้งก็เลือกเนื้อครีมที่มีความเข้มข้น เน้นให้ความชุ่มชื้นเพื่อเติมน้ำให้กับผิว การเลือกครีมบำรุงที่เหมาะกับสภาพผิวก็จะช่วยให้ผิวเราได้รับการบำรุงอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และที่สำคัญไม่ลืมทาครีมกันแดดทุกวันเพื่อป้องกันรังสียูวีเอที่อาจจะทะลุส่องมาถึงผิวเราได้
  • ผ่อนคลายผิวอาทิตย์ละครั้งด้วยมาส์กเพื่อฟื้นฟูผิวให้สว่างสดใสยิ่งขึ้น หรือในระหว่างวันหากผิวดูอ่อนล้า ก็สามารถใช้สเปรย์น้ำแร่ฉีดเติมความชุ่มชื่นให้ผิวได้

ธัญ (THANN) ผลิตภัณฑ์เพื่อการดูแลสุขภาพผิวและเส้นผม ผสานคุณค่าแห่งพืชพรรณจากแหล่งธรรมชาติชั้นดีทั่วโลกและเทคโนโลยีอันทันสมัย ตลอดระยะเวลากว่า 10 ปีที่ผ่านมา ธัญ (THANN) มุ่งมั่นพัฒนาคุณภาพผลิตภัณฑ์ธรรมชาติผสานเทคโนโลยีชั้นนำ ผ่านการทดสอบจากสถาบันวิจัยที่ได้รับการยอมรับในระดับสากลอย่าง Spincontrol Asia Co.,Ltd. (France), Skinnova Lab Co.,Ltd. และ Dermscan Asia อาทิ Dermatological test, Irritation test และ Efficacy test เพื่อยืนยันในคุณภาพและประสิทธิภาพเพื่อการดูแลสุขภาพผิวและเส้นผม ขอแนะนำผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่มีจำหน่ายในร้านและเคาน์เตอร์ ธัญ (THANN) กว่า 100 สาขาในทวีปเอเชีย อเมริกา และยุโรป นับเป็นเวลาเนิ่นนานกว่าพันปีที่นักพฤกษศาสตร์ชาวเอเชียได้ค้นพบต้น ชิโซะ (ชื่อวิทยาศาสตร์ Perilla frutescens var. crispa) พืชตระกูลมิ้นท์มีถิ่นกำเนิดในแถบเอเชียตะวันออก พบได้มากในประเทศญี่ปุ่น สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ท่ามกลางสภาพอากาศที่แห้งแล้ง อีกทั้งยังส่งผ่านความชุ่มชื้นและช่วยให้พืชที่อยู่ล้อมรอบเจริญเติบโตได้อีกด้วย ปัจจุบันชิโซะนอกจากจะกลายเป็นอัญมณีสำหรับวงการศิลปะการทำอาหารของชาวญี่ปุ่นแล้ว ยังเป็นส่วนผสมสำคัญในอาหารแมคโครไบโอติกส์ (Macrobiotics) หรืออาหารคุณภาพเพื่อการดำรงชีวิตที่ยืนยาวอย่างมีสุขภาพ

ธัญ (THANN) ใช้เวลานับพันชั่วโมงในการไขความลับอันน่าอัศจรรย์ของ ชิโซะ พืชอัศจรรย์ที่อุดมด้วยสารสำคัญอันมีประโยชน์ อาทิ เช่น โรสแมรินิค แอซิด (Rosemarinic Acid), แอล-เพอริลลาดีไฮด์ (L-Perilladehyde) และฟีนอล คอมพาวด์  (Phenol Compound) โดดเด่นในการให้ความชุ่มชื้น ปกป้องและฟื้นฟูเซลล์ผิวจากความแห้งกร้านและการเสื่อมสภาพ อีกทั้งยังเป็นสารแอนตี้ออกซิเดนท์ทรงประสิทธิภาพ โดยไม่ก่อให้เกิดอาการระคายเคือง ด้วยสัดส่วนของวิตามิน A (มากกว่าผลกีวีถึง 300 เท่า), วิตามิน C (มากกว่าผลเลมอนถึง 160 เท่า) และวิตามิน E สูง พร้อม วิตามิน B1, B2, B6, K, แร่ธาตุและโปรตีนหลากชนิด นอกจากนี้ในสารสกัดจากชิโซะยังมีคุณสมบัติยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ไทโรซิเนส (Tyrosinase Inhibitor) ในกระบวนการสร้างเม็ดสีเมลานิน (Melanin) และด้วยคุณสมบัติอันโดดเด่นของสารสกัดจากชิโซะนำมาผ่านกระบวนการสกัดด้วย “นาโนเทคโนโลยี” ปราศจากการใช้สารเคมีจากประเทศญี่ปุ่น เพื่อให้ได้อนุภาคขนาดนาโนเมตร (10-9) ทำให้ได้อนุภาคขนาดเล็กสามารถซึมเข้าสู่ชั้นหนังแท้ (Dermis) เกิดประสิทธิภาพการบำรุงอย่างล้ำลึก

สำหรับผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับการเตรียมผิวสวยให้พร้อมก่อนการประชุมทางออนไลน์ ได้แก่ เพียวริฟายอิ้ง เฟซ วอช (Purifying Face Wash) ขนาด 200 มล. ราคา 950 บาท ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้า ขจัดสิ่งสกปรกและความมันส่วนเกินได้อย่างหมดจด พร้อมคืนความกระจ่างใสสู่ผิว อุดมด้วยสารสกัดธรรมชาติที่มอบคุณค่าในทำความสะอาดและบำรุงผิว อาทิ น้ำมันมะพร้าวออแกนิ%

THANN for Thai Elephant สมทบทุนช่วยมูลนิธิอนุรักษ์ช้างฯ

จากผลกระทบของสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ในปัจจุบัน ไม่เพียงส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันของมนุษย์ แต่ยังส่งผลกระทบโดยตรงต่อความเป็นอยู่ของสัตว์ที่พิการ เจ็บป่วย และถูกทอดทิ้ง เนื่องจากการดูแลรักษาสัตว์เหล่านี้ให้กลับมามีคุณภาพชีวิตที่ดีนั้นจำเป็นต้องใช้งบประมาณจำนวนมาก ‘ธัญ’ (THANN) ผู้ริเริ่มโครงการ THANN for Thai Elephant มาตั้งแต่ปี 2554 มีวัตถุประสงค์ในการหารายได้จากการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ชุดพิเศษโดยหักค่าใช้จ่ายใดๆ เพื่อนำไปช่วยเหลือช้างไทยที่เจ็บป่วย หรือทุพลภาพมาอย่างต่อเนื่อง โดยในครั้งนี้ THANN ขอเป็นส่วนหนึ่งในการส่งมอบความช่วยเหลือผ่าน มูลนิธิอนุรักษ์ช้างและสิ่งแวดล้อม จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อดูแลช้างที่ชราภาพ พิการ ถูกละทิ้งและทารุณกรรม ซึ่งปัจจุบันมีจำนวนกว่า 100 เชือก รวมถึงสัตว์ที่ถูกทอดทิ้ง หรือบาดเจ็บ อีกกว่า 4,000 ชีวิต

ฐิติพัฒน์ ศุภภัทรานนท์ กรรมการผู้จัดการบริษัท ธัญ-ออริซ่า จำกัด  ได้กล่าวถึงแนวความคิดของโครงการ ‘THANN for Thai Elephant’ ในครั้งนี้ว่า “ ‘ธัญ’ (THANN) เล็งเห็นถึงความสำคัญของการส่งมอบความช่วยเหลือให้กับช้างไทยตลอดระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมา สถานการณ์ของช้างไทยในขณะนี้ถือว่าอยู่ในภาวะวิกฤต ทั้งจากการสูญเสียพื้นที่ป่าอันเป็นแหล่งอาหารและการถูกล่าจากมนุษย์ รวมถึงการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจการท่องเที่ยวซึ่งเป็นแหล่งรายได้หลักของปางช้างทั่วประเทศและทางมูลนิธิฯ ทำให้ขาดแคลนรายได้ที่จะนำมาดูแลทั้งค่าอาหารและยารักษาโรคของช้าง รวมถึงสัตว์ชนิดอื่นๆ ที่เจ็บป่วย พิการ หรือถูกทอดทิ้งที่อยู่ในความดูแลของทางมูลนิธิฯ

‘เพราะทุกชีวิตต่างก็มีความสำคัญ’ ผมจึงมีความตั้งใจอย่างยิ่งที่จะเป็นอีกหนึ่งกระบอกเสียงเพื่อส่งผ่านความช่วยเหลือโดยการเดินหน้าโครงการ ‘THANN for Thai Elephant’ ด้วยการจำหน่ายชุดผลิตภัณฑ์ทั้ง 3 แบบ และนำรายได้ทั้งหมดจากการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ดังกล่าวโดยไม่หักค่าใช้จ่ายมอบให้แก่มูลนิธิอนุรักษ์ช้างและสิ่งแวดล้อม จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อเป็นอีกหนึ่งความหวังให้สัตว์ที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้เหล่านี้ได้กลับมามีชีวิตที่ดี และสามารถประคับประคองให้ผ่านสถานการณ์อันยากลำบากนี้ไปได้”

มูลนิธิอนุรักษ์ช้างและสิ่งแวดล้อม ก่อตั้งในปี 2552 โดยคุณแสงเดือน ชัยเลิศ เป็นองค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไร ดำเนินการเพื่ออนุรักษ์ช้างไทย และยังเป็นศูนย์พักพิงให้กับสัตว์อื่นๆ อาทิ สุนัข แมว ม้า วัว ควาย กระต่าย หมูป่า โดยมอบการรักษาและฟื้นฟูสภาพร่างกายและจิตใจ เพื่อให้สัตว์เหล่านี้กลับมามีคุณภาพชีวิตที่ดี นอกจากนี้ ทางมูลนิธิฯ ยังได้ก่อตั้งคลินิกชุมชน เพื่อเปิดโอกาสให้ชาวบ้านในพื้นที่ใกล้เคียงได้นำสัตว์เลี้ยงมารักษาโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย และจัดตั้งบริการรถคลินิกเคลื่อนที่ เพื่อเดินทางไปรักษาสัตว์ในพื้นที่ห่างไกล รวมถึงเป็นแรงผลักดันให้เกิดการอนุรักษ์ผืนป่าสีเขียว ด้วยการให้ความรู้ การปลูกจิตสำนึกในการรักผืนป่าและสร้างอาชีพให้แก่ชาวบ้าน เพื่อลดการตัดไม้ทำลายป่า ตลอดจนสนับสนุนให้ชาวบ้านปลูกป่า อันเป็นแหล่งพักพิงของสัตว์ป่าตามธรรมชาติ

ธัญ (THANN) ขอเชิญท่านร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการมอบความช่วยเหลือผ่านชุดผลิตภัณฑ์ THANN for Thai Elephant ทั้ง 3 แบบ ซึ่งรายได้จากการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ดังกล่าวโดยไม่หักค่าใช้จ่ายจะถูกส่งมอบให้กับมูลนิธิอนุรักษ์ช้างและสิ่งแวดล้อม ได้แก่ ‘ดีไลท์ฟูล โซลิด เซ็ท เพอร์ฟูม’ (Delightful solid perfume set) ขนาด 15 กรัม จำนวน 3 ชิ้น สำหรับการบริจาค 1,000 บาท

  • เฟอร์ฟูม บาล์ม’ (Perfume balm) มอบคุณค่าการบำรุงผิวไปพร้อมกับกลิ่นหอมจากดอกไม้นานาพันธุ์ ประกอบด้วย 3 กลิ่น ได้แก่ กลิ่นซิกเนเจอร์ (Signature), กลิ่นแพชชั่น (Passion) และ อีเดน บรีซ (Eden Breeze)
  •  ‘โอเรียนทอล เอสเซ้นซ์ แฮนด์ ครีม’ (Oriental Essence aromatherapy hand cream) ขนาด 40 กรัม สำหรับการบริจาค 500 บาท ผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพผิวมือและเล็บ มอบคุณค่าการบำรุงเพื่อผิวเนียนนุ่มในทุกสัมผัสจากน้ำมันมะกอกออแกนิค (Organic olive oil), น้ำกุหลาบออแกนิค (Organic Rose Water) และน้ำมันรำข้าว (Rice bran oil) พร้อมกลิ่นหอมสดชื่นจากพืชพรรณธรรมชาติหลากชนิด
  • ‘บาธ แอนด์ เฟเชียล แคร์ ทราเวล เซ็ท’ (Bath and facial care travel set) สำหรับการบริจาค 200 บาท ชุดผลิตภัณฑ์ดูแลและบำรุงผิวที่นำคุณค่าของสารสกัดธรรมชาติที่ช่วยคืนความชุ่มชื้น เพื่อผิวเนียนนุ่มอย่างเป็นธรรมชาติ ประกอบด้วย อโรมาเธอราปี แชมพู (Aromatherapy shampoo), แฮร์ คอนดิชั่นเนอร์ (Hair conditioner), อโรมาเธอราปี โชว์เวอร์ เจล (Aromatherapy shower gel), บอดีบัตเตอร์ (Body butter) และ ไฮเดรติ้ง อิมัลชั่น )Hydrating Emulsion)

ติดต่อสอบถามหรือร่วมสนับสนุนโครงการ THANN for Thai elephant ได้ที่ Line@ Official account: @THANNforElephant (พิมพ์ @ นำหน้า)