SIMAT ได้ 2 แรงหนุน “ฮินซิซึ-โปรเจค USO” ดันปี 64 ทุบสถิติใหม่

SIMAT โชว์สเต็ปเทพ ไตรมาส 2/64 กำไรสุทธิ 32.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,210% YoY และ 88% QoQ ขณะที่ครึ่งแรกของปีนี้ แตะ 49.2 ล้านบาท มากกว่ากำไรทั้งปีของปี 63 ที่ทำไว้ 40.78 ล้านบาท ฟาก CIO “ธีรวุฒิ กานต์นิภากุล” มั่นใจโค้งหลังแรงได้อีก จากยอดขายสินค้าลาเบลและซิลค์สกรีน ของ “ฮินซิซึ” (บริษัทย่อย) เพิ่มขึ้น และการเปิดฉากรับรู้รายได้ก้อนโตจากงานให้บริการและซ่อมบำรุงโปรเจคเน็ตห่างไกล หนุนผลงานปี 64 ออลไทม์ไฮ ตามนัด!

นายธีรวุฒิ กานต์นิภากุล ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายลงทุน บริษัท ไซแมท เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ SIMAT เปิดเผยว่า  ผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 2/2564 สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2564 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 32.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,210% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน มีกำไรสุทธิ 2.46 ล้านบาท และมีรายได้รวม 249.7 ล้านบาท โดยได้รับปัจจัยหนุนจากธุรกิจลาเบลและซิลค์สกรีนแฝงควบคุมในเครื่องใช้ไฟฟ้า และอุปกรณ์โทรคมนาคม ที่ผลิตภายใต้ บริษัท ฮินซิซึ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (HST) บริษัทย่อยของ SIMAT ที่ถือหุ้นในสัดส่วน 70% มียอดคำสั่งซื้อเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ทั้งจากกลุ่มลูกค้าเดิม และกลุ่มลูกค้าใหม่ โดยเฉพาะกลุ่มแบรนด์สินค้าจากเกาหลี รวมทั้งการควบคุมต้นทุนการดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

สำหรับงวด 6 เดือนแรกของปี 2564 มีกำไรสุทธิ 49.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 64% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน มีกำไรสุทธิ 30.22 ล้านบาท และสูงกว่ากำไรสุทธิทั้งปีของปี 2563 ที่มีกำไรสุทธิ 40.78 ล้านบาท

ภาพรวมของผลประกอบการไตรมาส 2 และครึ่งปีแรกปีนี้ SIMAT ทำผลงานได้ดี แม้การระบาดของโควิด-19 ยังไม่คลี่คลาย แต่จะเห็นได้ว่า มีความต้องการเครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องใช้สำนักงาน และสินค้าในกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์เพิ่มขึ้นมาก ทั้งในประเทศและการส่งออกไปต่างประเทศ ซึ่งอุตสาหกรรมเหล่านี้เป็นฐานลูกค้าหลักของฮินซิซึ ทำให้มียอดคำสั่งซื้อเข้ามาเพิ่มขึ้น อีกทั้ง ยังได้ประโยชน์จากการทำสงครามการค้าระหว่างจีน-สหรัฐ ทำให้กลุ่มลูกค้าส่งคำสั่งซื้อเข้ามาเพิ่มจากเดิมที่สั่งสินค้าจากคู่แข่งในประเทศจีน

ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายลงทุน SIMAT กล่าวอีกว่า สำหรับแผนการดำเนินงานที่เหลือของปีนี้  ธุรกิจลาเบลและซิลค์สกรีนแฝงควบคุมในเครื่องใช้ไฟฟ้า และอุปกรณ์โทรคมนาคม ที่ผลิตภายใต้ ฮินซิซึ ซึ่งเป็นบริษัทย่อย ยังมีคำสั่งซื้อเข้ามาอย่างต่อเนื่อง จากลูกค้าเดิม และบริษัทฯ เตรียมขยายเข้าไปยังฐานลูกใหม่เพิ่ม ส่วนธุรกิจวิศวกรรม  IT ยังคงเดินหน้าหางานใหม่เข้ามาต่อเนื่อง และปีนี้เป็นปีแรกที่ บริษัทฯ เริ่มรับรู้รายได้จากโครงการ Universal Service Obligation (USO) ในระยะที่ 2 ซึ่งเป็นการบริการจัดการและบำรุงรักษาในระยะเวลาต่อเนื่อง 5 ปี โดยมีมูลค่าสัญญารวม 5 ปี กว่า 1,213 ล้านบาท

ในส่วนของธุรกิจอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์ภายใต้โครงการ SINET บริษัทฯ ได้ลงนามบันทึกข้อตกลง (MOU) กับบริษัท เอฟโอที เอ็มเอสโอ จำกัด (FOT) บริษัทในเครือเจริญเคเบิลทีวี เคเบิลทีวีอันดับ 1 ของประเทศ เพื่อร่วมพัฒนาธุรกิจอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์ในโครงการ SINET ในพื้นที่กรุงเทพฯ เชียงใหม่ นครราชสีมา ขอนแก่น เป็นต้น ซึ่งมั่นใจว่า จะเป็นส่วนช่วยสนับสนุนให้ผลงานในปีนี้ เติบโตได้ตามเป้าหมายที่วางไว้

“ช่วงครึ่งหลังของปีนี้ เรายังเดินหน้าในธุรกิจหลักๆ อย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งมองหาโอกาสใหม่ๆ หา S curve ใหม่ๆ ในการเข้าไปลงทุน ซึ่งจะเป็นธุรกิจที่ SIMAT มีโนว์ฮาว มีความชำนาญและมีประสบการณ์ และในปีหน้า วางแผนที่จะนำ HST เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ เพื่อรองรับการขยายธุรกิจและเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับบริษัทฯ ได้ในอนาคต” นายธีรวุฒิกล่าวในที่สุด

แจกฟรี SIMAT-W5 อัตรา 4.07:1 รองรับแผนขยายธุรกิจติดปีก

ผู้ถือหุ้น SIMAT แฮบปี้กันถ้วนหน้า พร้อมใจโหวตหนุนแผนเพิ่มทุน 160 ล้านหุ้น เพื่อรองรับ SIMAT-W5 อัตรา 4.07:1 โดยไม่คิดมูลค่า ราคาใช้สิทธิ 2 บาท/หุ้น เติมฐานทุนแกร่ง รองรับแผนขยายธุรกิจติดปีก กำหนดวันขึ้นเครื่องหมาย XW วันที่ 18 ส.ค.นี้

นายธีรวุฒิ กานต์นิภากุล ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายลงทุน บริษัท ไซแมท เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ SIMAT เปิดเผยว่า ที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2564 ในวันที่ 11 สิงหาคม 2564 ที่ผ่านมา ผู้ถือหุ้นได้อนุมัติออกและจัดสรรใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัท ครั้งที่ 5 (SIMAT-W5) เพื่อจัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทตามสัดส่วนการถือหุ้น (Right Offering) ในจำนวนไม่เกิน 160,000,000 หน่วย (โดยไม่คิดมูลค่า) โดยมีอัตราส่วนการจัดสรร 4.07 หุ้นสามัญเดิมต่อ 1 หน่วย ซึ่งกำหนดราคาใช้สิทธิ 2 บาทต่อหุ้น และได้กำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิซื้อใบสำคัญแสดงสิทธิ (XW) ในวันที่ 18 สิงหาคม 2564

SIMAT ต้องขอขอบคุณผู้ถือหุ้นทุกท่าน ที่อนุมัติการเพิ่มทุนและแจกวอแรนต์ในครั้งนี้ จะส่งผลให้มีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่งและมั่นคง รองรับแผนการขยายธุรกิจในอนาคต เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน เพิ่มโอกาสในการสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นได้

นายธีรวุฒิ กล่าวอีกว่า การออกใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัท ครั้งที่ 5 (SIMAT-W5) ถือเป็นการเสริมสร้างฐานะทางการเงินในระยะยาวของบริษัทให้มีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น และช่วยรองรับแผนการขยายธุรกิจใหม่ๆที่เป็น New s-curve ซึ่งจะช่วยสร้างการเติบโตรอบใหม่ในอนาคต  หลังจากที่ประสบความสำเร็จจากการเข้าลงทุนในบริษัท ฮินซิซึ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (HST)

เมื่อ 3 ปีที่ผ่านมา ปัจจุบันบริษัทก็เริ่มเก็บเกี่ยวผลตอบแทนจากการลงทุนในครั้งนั้น ทั้งในแง่การรับรู้กำไร และเตรียมที่จะผลักดันให้ฮินซิซึเข้าจดทะเบียนในปี 2565 ซึ่งเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ช่วยสร้างผลตอบแทนให้กับผู้ถือหุ้น

SIMAT เซ็นเอ็มโอยู FOT เครือเจริญเคเบิลทีวี

บุญเลิศ เอี้ยวพรชัย (ที่ 3 จากขวา) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร, ธีรวุฒิ กานต์นิภากุล (ที่ 2 จากขวา) ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายลงทุน บริษัท ไซแมท เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) (SIMAT) ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลง (MOU) กับ ปุถุชน ศิริมงคลลาวัลย์ (ที่ 3 จากซ้าย) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอฟโอที เอ็มเอสโอ จำกัด (FOT) บริษัทในเครือเจริญเคเบิลทีวี เคเบิลทีวีอันดับ 1 ของประเทศ เพื่อร่วมพัฒนาธุรกิจอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์ในโครงการ SINET ในพื้นที่กรุงเทพฯ เชียงใหม่ นครราชสีมา ขอนแก่น เป็นต้น และเพื่อให้ผู้บริโภคได้รับบริการ Internet ในมาตรฐานคุณภาพสูง กิจกรรมดังกล่าวจัดขึ้น

SIMAT ขยายงานไอที-ลดต้นทุน-กระจายความเสี่ยง

SIMAT วางแผนดัน “ฮินซิซึ” บริษัทในเครือเข้าระดมทุนในตลาดหุ้นปี 2565 ระบุมีปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่ง-รายได้เติบโตดีต่อเนื่องฝ่ากระแสโควิดได้สบาย อานิสงส์เศรษฐกิจโลกฟื้น/สงครามการค้าจีน-สหรัฐ หนุนออเดอร์เพิ่ม เตรียมแจกโชค! ผู้ถือหุ้น SIMAT รับ Pre-emptive offering  ทีมผู้บริหารชุดใหม่ส่งสัญญาณแนวโน้มผลการดำเนินงานปี 64 ของ SIMAT เข้าสู่โหมดการเติบโตรอบใหม่ พร้อมเดินหน้าขยายงานด้านไอที/ลดต้นทุน หนุน Gross Profit Margin ดีขึ้นตั้งแต่ไตรมาส 3/64

นายธีรวุฒิ กานต์นิภากุล ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายลงทุน บริษัท ไซแมท เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ SIMAT เปิดเผยในงาน Opportunity Day ว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ในปี 2564 คาดว่า ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง แม้จะเกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 โดยเฉพาะในส่วนของบริษัท ฮินซิซึ  (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทย่อย รายได้เติบโตอย่างมีนัยสำคัญตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก ซึ่งส่งผลให้ยอดขายเครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องใช้สำนักงาน และสินค้าในกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ขยายตัวสูงขึ้นมาก ซึ่งอุตสาหกรรมเหล่านี้เป็นฐานลูกค้าหลักของ “ฮินซิซึ” โดยการเติบโตมาจากทั้งฐานลูกค้าเก่าและฐานลูกค้าใหม่ โดยเฉพาะกลุ่มแบรนด์สัญชาติเกาหลี

นอกจากนี้ ยังได้ประโยชน์จากการทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน (Trade War) ทำให้กลุ่มลูกค้าส่งคำสั่งซื้อเข้ามาเพิ่มขึ้นจากเดิมที่สั่งสินค้าจากคู่แข่งในประเทศจีน

พร้อมกันนี้ บริษัทฯ ยังอยู่ระหว่างเตรียมความพร้อมเพื่อนำ “ฮินซิซึ” เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ซึ่งคาดว่า จะสามารถเข้าระดมทุนได้ภายในปี 2565 โดยผู้ถือหุ้น SIMAT จะได้รับสิทธิในการจัดสรรหุ้นเพื่อรักษาสิทธิ (Pre-emptive offering) ตามสัดส่วนการถือหุ้น

นายธีรวุฒิ ได้กล่าวต่อถึงแผนการดำเนินธุรกิจของ SIMAT ปีนี้ว่า ในส่วนธุรกิจวิศวกรรม  IT ยังคงเดินหน้าหางานใหม่เข้ามาต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันทีมบริหารจะเน้นไปที่การลดต้นทุนการดำเนินงานให้ต่ำลง เนื่องจากเป็นจุดที่สามารถปรับปรุงได้ง่าย และเห็นผลทางตัวเลขได้ทันที โดยคาดว่าจะเริ่มเห็นต้นทุนที่ลดลงในไตรมาส 3/64 เป็นต้นไป

ในส่วนของธุรกิจอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์ภายใต้โครงการ SINET บริษัทฯ ได้ลงนามบันทึกข้อตกลง (MOU) เมื่อวันที่ 25 มิ.ย.2564 ที่ผ่านมา กับบริษัท เอฟโอที เอ็มเอสโอ จำกัด (FOT) บริษัทในเครือเจริญเคเบิลทีวี เคเบิลทีวีอันดับ 1 ของประเทศ วัตถุประสงค์เพื่อร่วมพัฒนาธุรกิจอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์ในโครงการ SINET ในพื้นที่กรุงเทพฯ เชียงใหม่ นครราชสีมา ขอนแก่น เป็นต้น โดยเป็นการนำทรัพยากรที่เกี่ยวข้องของทั้งสองฝ่ายมาใช้ประโยชน์ร่วมกันเพื่อยกระดับสินค้าหรือบริการทั้งในด้านคุณภาพ และปริมาณ ให้สามารถเกิดความได้เปรียบในการแข่งในตลาดได้

“มั่นใจว่า การร่วมมือพัฒนาธุรกิจกับ FOT ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของเจริญเคเบิลทีวี เคเบิลทีวีอันดับ 1 ของประเทศ ถือเป็นการสร้างปรากฎการณ์ Synergy ครั้งสำคัญ ในส่วนของการบริการอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์สามารถปรับเพิ่มความเร็วอินเทอร์เน็ตให้ลูกค้าได้สูงขึ้น การเสริมบริการเคเบิลทีวีที่มีช่องรายการในระบบดิจิทัลกว่า 150 ช่องรายการ รวมไปถึงการเพิ่มบริการจากทางเจริญเคเบิลทีวี ขณะที่ SINET เองก็มีโครงข่ายรองรับการให้เช่นเดียวกัน โดยเป็นการเพิ่มบริการระบบทีวีดิจิตอลระบบ IPTV Internet Leased Line หรือ Internet ในองค์กรสำหรับลูกค้ากลุ่ม Hospitality (โรงแรม , โรงพยาบาล) ซึ่งถือเป็นกลุ่มลูกค้าใหม่ที่ทางโครงการ SINET มีพื้นที่บริการอยู่แล้ว และเพิ่มโอกาสการเติบโตให้กับเจริญเคเบิลทีวี ในการขยายพื้นที่ให้บริการไปยังจังหวัดหลักๆ ที่สำคัญของประเทศ ถือเป็นการผสานความแข็งแกร่งให้กับทั้งสององค์กรเข้าร่วมกัน”นายธีรวุฒิ กล่าวในที่สุด

สำหรับผลการดำเนินงานไตรมาส 1/64 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 17 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 175% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 4/63 ที่มีกำไร 6.2 ล้านบาท โดยมีปัจจัยหลักมาจากรายได้และการทำกำไรที่ดีขึ้นของธุรกิจผลิตและจำหน่ายสติ๊กเกอร์และพิมพ์สกรีนแฝงควบคุมในเครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์โทรคมนาคม (Silk screen) โดยมีการเติบโตทั้งจากฐานลูกค้าเดิม และเพิ่มขึ้นจากลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ เช่น กลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม ส่งผลให้รายได้รวมเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 255 ล้านบาท เติบโต 1% QoQ และกำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นมาที่ระดับ 92 ล้านบาท เติบโต 9% QoQ

อย่างไรก็ตาม ผลการดำเนินงานชะลอตัวลงเมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 1/63 โดยกำไรสุทธิจะลดลง 38% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 1/63 ที่มีกำไร 27.8 ล้านบาท เนื่องจากในปี 63 ที่ผ่านมาบริษัทมีการรับรู้รายได้งานก่อสร้างและติดตั้งให้กับภาครัฐหลายโครงการ เช่นโครงการให้บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงในฟื้นที่ห่างไกล (USO net )ในระยะที่ 1 ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างรอรับรู้รายได้จากโครงการ USO ในระยะที่ 2 ซึ่งเป็นการบริการจัดการและบำรุงรักษาในระยะเวลาต่อเนื่อง 5 ปี โดยมีมูลค่าสัญญารวม 5 ปี กว่า 1,213 ล้านบาท

การดำเนินธุรกิจของ SIMAT ประกอบด้วย 1) ธุรกิจไอที โดยให้บริการเทคโนโลยีสารสนเทศแบบครบวงจรทั้งการจำหน่ายอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ การพัฒนาซอฟต์แวร์ และการให้บริการบำรุงรักษาทั่วประเทศ ทั้งกับภาคเอกชนและภาครัฐ  2) ธุรกิจลาเบลและซิลค์สกรีน โดยให้บริการออกแบบ พัฒนา และแปรรูปสิ่งพิมพ์มีกาว สำหรับลูกค้าอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ด้วยการจัดหาและพัฒนาวัตถุดิบ และออกแบบกระบวนการผลิตให้ผลิตภัณฑ์มีคุณสมบัติเฉพาะตรงตามความต้องการของลูกค้า 3) ธุรกิจบรอดแบนด์ โดยให้บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงผ่านระบบโครงข่ายใยแก้วนำแสง (Fiber optic) ในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา ขอนแก่นและเชียงใหม่ ภายใต้แบรนด์ “SINET”

SIMAT ติดอาวุธ Strategic partnership ลุยบรอดแบนด์เจาะต่างจังหวัด

SIMAT เซ็นเอ็มโอยูกับ เอฟโอที เอ็มเอสโอ บริษัทในเครือเจริญเคเบิลทีวี เคเบิลทีวี อันดับ 1 ของประเทศ สร้างปรากฏการณ์ Synergy ครั้งสำคัญ ลุยพัฒนาธุรกิจบรอดแบนด์ในโครงการ SINET หวังผู้ใช้บริการ ได้รับบริการ Internet ในมาตรฐานคุณภาพสูงกว่าตลาด บุกขยายฐานลูกค้าในต่างจังหวัด

นายธีรวุฒิ กานต์นิภากุล ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายลงทุน บริษัท ไซแมท เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ SIMAT ผู้นำธุรกิจด้าน IT Solution ครบวงจรและให้บริการด้าน Internet ความเร็วสูง (Fiber Optic) ทั้งโครงข่ายภายใต้ชื่อ SINET เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 25 มิ.ย.2564 ที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้ลงนามบันทึกข้อตกลง (MOU) กับบริษัท เอฟโอที เอ็มเอสโอ จำกัด (FOT) บริษัทในเครือเจริญเคเบิลทีวี เคเบิลทีวีอันดับ 1 ของประเทศ วัตถุประสงค์เพื่อร่วมพัฒนาธุรกิจอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์ในโครงการ SINET ในพื้นที่กรุงเทพฯ เชียงใหม่ นครราชสีมา ขอนแก่น เป็นต้น โดยเป็นการนำทรัพยากรที่เกี่ยวข้องของทั้งสองฝ่ายมาใช้ประโยชน์ร่วมกันเพื่อยกระดับสินค้าหรือบริการทั้งในด้านคุณภาพ และปริมาณ ให้สามารถเกิดความได้เปรียบในการแข่งในตลาดได้

ทั้งนี้ FOT เป็นผู้ประกอบธุรกิจในเครือเจริญเคเบิลทีวี ที่ดูแลด้านการขยายตัวของกิจการ ในบริการด้านอินเทอร์เน็ต เคเบิลทีวี และบริการอื่น ๆ ของเครือเจริญเคเบิลทีวีที่ให้บริการในพื้นที่กรุงเทพฯ ขยายสู่พื้นที่ต่างจังหวัด

ในการร่วมมือพัฒนาธุรกิจอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์โครงการ SINET ที่เป็นการนำทรัพยากรที่เกี่ยวข้องของทั้งสองฝ่ายมาร่วมกันใช้ประโยชน์ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ในการทำธุรกิจอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์ในครั้งนี้ เป็นก้าวแรกของความร่วมมือที่สำคัญ ที่สามารถขยายต่อยอดธุรกิจร่วมกันให้เติบโตเข้าสู่ระดับประเทศได้

นายธีรวุฒิ มั่นใจว่า การร่วมมือพัฒนาธุรกิจกับ FOT ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของเจริญเคเบิลทีวี เคเบิลทีวีอันดับ 1 ของประเทศ ถือเป็นการสร้างปรากฎการณ์ Synergy ครั้งสำคัญ ในส่วนของการบริการอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์ สามารถปรับเพิ่มความเร็วอินเทอร์เน็ตให้ลูกค้าได้สูงขึ้น การเสริมบริการเคเบิลทีวีที่มีช่องรายการในระบบดิจิตอลกว่า 150 ช่องรายการ รวมไปถึงการเพิ่มบริการจากทางเจริญเคเบิลทีวี ขณะที่ SINET เองก็มีโครงข่ายรองรับการให้เช่นเดียวกัน โดยเป็นการเพิ่มบริการระบบทีวีดิจิตอลระบบ IPTV Internet Leased Line หรือ Internet ในองค์กรสำหรับลูกค้ากลุ่ม Hospitality (โรงแรม , โรงพยาบาล) ซึ่งถือเป็นกลุ่มลูกค้าใหม่ที่ทางโครงการ SINET มีพื้นที่บริการอยู่แล้ว และเพิ่มโอกาสการเติบโตให้กับเจริญเคเบิลทีวี ในการขยายพื้นที่ให้บริการไปยังจังหวัดหลักๆ ที่สำคัญของประเทศ ถือเป็นการผสานความแข็งแกร่งให้กับทั้งสององค์กรเข้าร่วมกัน