SELIC มอบแอลกอฮอล์เจล-อุปกรณ์ทางการแพทย์

นางสาวยุวดี เอี่ยมสนธิทรัพย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีลิค คอร์พ จำกัด (มหาชน) หรือ SELIC เปิดเผยว่า จากสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ตั้งแต่ต้นปี 2563 จนถึงปัจจุบันนั้น ทางซีลิคได้ส่งมอบแอลกอฮอล์เจล และอุปกรณ์ทางการแพทย์ ประกอบด้วย หน้ากาก N95 ถุงมือแพทย์ หน้ากากอนามัย และ face shield เพื่อสนับสนุนและเป็นกำลังใจให้แก่เจ้าหน้าที่ศูนย์เอราวัณที่ปฏิบัติงานประจำศูนย์รับแจ้งเหตุและสั่งการ

นอกเหนือจากการมอบให้แก่ศูนย์เอราวัณในครั้งนี้แล้ว ทางซีลิคยังคงมอบแอลกอฮอล์เจล รวมถึงอุปกรณ์ทางการแพทย์แก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่อง อาทิ ทีมงานเราต้องรอด วันพระยาสุเรนทร์, สวัสดิการคุ้มครองแรงงาน สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพ พื้นที่ 6 ศูนย์กลางบำเพ็ญสาธารณประโยชน์, หอการค้าไทย หน่วยงานทางราชการ หน่วยงานภาคประชาชน โรงพยาบาล สำนักงานต่าง ๆ และชุมชนรอบบ้าน เช่น ชุมชนวัดหลักสาม, ซอยลุงชิน เขตหนองแขม และโรงพยาบาลเทิง ชุมชนเชียงราย โดยสิ่งที่มอบไม่ใช่แค่แอลกอฮอล์เจล แต่มีอุปกรณ์การแพทย์ ไม่ว่าจะเป็น ถุงมือ หน้ากาก N95 ชุด PPE รวมถึงของใช้จำเป็นเพื่อเป็นกำลังใจในช่วงภาวะวิกฤติ และการระบาดระลอกใหม่

ทั้งนี้ ซีลิคขอร่วมเป็นกำลังใจให้ผ่านวิกฤต และหวังให้ทุกภาคส่วนผ่านพ้นสถานการณ์อันยากลําบากนี้ไปด้วยกัน

เรื่องเล็ก ๆ ของ กาว ผลิตภัณฑ์ที่ (ไม่) เล็ก

บมจ.ซีลิค คอร์พ หรือ SELIC เปิดเผยว่าในช่วงปี 2019-2024 ตลาดโลกกาวโต 4.6% ย้ำไม่ว่าช่วงเวลาใด ธุรกิจกาวเติบโตต่อเนื่อง เหตุเป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในทุกอุตสาหกรรมทั่วโลก

ว่ากันว่าถึง กาว จะเป็นผลิตภัณฑ์เล็ก ๆ ที่ใช้งานในครัวเรือนก็ตาม แต่รู้หรือไม่? ที่จริงแล้ว กาว ที่ใคร ๆ ว่าเล็กนี้ กลับเป็นส่วนสำคัญที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันของเราเป็นอย่างมาก

ลองคิดดูง่าย ๆ เก้าอี้ รองเท้า คอมพิวเตอร์ กล่องบรรจุภัณฑ์ต่าง ๆ หรือกระทั่งโทรศัพท์มือถือที่กำลังใช้อ่านโพสต์นี้ ล้วนแล้วแต่มีกาวเป็นองค์ประกอบทั้งสิ้น

ซึ่งหากพูดถึงภาพรวมแล้ว กาวเป็นผลิตภัณฑ์ที่อยู่ในหลากหลายอุตสาหกรรม อาทิ กระดาษและบรรจุภัณฑ์ 34.6% การก่อสร้าง 23.5% ยนตรกรรมและการขนส่ง 14.3% ธุรกิจประกอบชิ้นส่วน 9.1% งานไม้ 7.5% สินค้า DIY 3.9% เครื่องหนังและรองเท้า 2.9% และธุรกิจอื่น ๆ อีก 4.3%

จากรายงานความต้องการตลาดโลกที่มีต่อกาวอุตสาหกรรม เฉลี่ยระหว่างปี 2019-2024 มีการเติบโตเฉลี่ย 4.6% ต่อปี จากมูลค่าตลาดทั้งหมด 58.9 พันล้านดอลลาร์ หรือ 1,830 พันล้านบาท หรือหากคิดเป็นมูลค่า คาดว่าธุรกิจกาวจะมีมูลค่าในตลาดโลกในปี 2024 สูงกว่า 73.8 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งมีเอเชียแปซิฟิคเป็นภูมิภาคหลัก ที่มีส่วนแบ่งตลาดสูงที่สุดอยู่ที่ 31.1% และมีการเติบโตเฉลี่ย 6.1% ต่อปีสูงกว่าภาพรวม สะท้อนให้เห็นถึงภาวะตลาดที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะจากอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์อาหารเครื่องดื่มอุตสาหกรรมก่อสร้างและเฟอร์นิเจอร์

และไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ใด ธุรกิจกาวก็ยังคงเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง เพราะกาวถือเป็นองค์ประกอบพื้นฐานของอุตสาหกรรมทุกภาคส่วนอย่างแท้จริง และเมื่อภาคอุตสาหกรรมต่าง ๆ เติบโตขึ้น นั่นหมายความว่า อุตสาหกรรมกาวก็กำลังเติมโตตามด้วยนั่นเอง

เมื่อรู้แบบนี้แล้ว เรื่องเล็ก ๆ ของ กาว ก็ดูจะไม่เล็กอีกต่อไป...

SELIC ขายหุ้นเพิ่มทุน 28 ล้านหุ้น PP จำนวน 3 ราย

ที่ประชุมบอร์ด บมจ.ซีลิค คอร์พ หรือ SELIC ไฟเขียวจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนเพื่อเสนอขายให้แก่บุคคลในวงจำกัด (Private Placement : PP) 3 ราย จำนวน 28 ล้านหุ้น โดยจัดสรร ดังนี้ 1. บมจ. สหพัฒนาอินเตอร์โฮลดิ้ง (SPI) จำนวน 16.66 ล้านหุ้น 2. บจ. บีเอสซี โซ อิน จำนวน 5.66 ล้านหุ้น และ 3. บจ. บี ที เอ็น สิบสองศูนย์เจ็ด จำนวน 5.66 ล้านหุ้น เสริมสร้างพันธมิตรเชิงกลยุทธ์และรองรับแผนการลงทุนของบริษัท

นายเอก สุวัฒนพิมพ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีลิค คอร์พ จำกัด (มหาชน) หรือ SELIC เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 4/2564 เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2564 มีมติอนุมัติการจัดสรรและเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน 28,000,000 หุ้นให้แก่บุคคลในวงจำกัด (Private Placement) ที่ราคาเสนอขายหุ้นละ 3 บาทต่อหุ้น โดยจัดสรรให้ 3 ราย ดังนี้ 1. บริษัท สหพัฒนาอินเตอร์โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ (SPI) ได้รับจัดสรร 16,666,000 หุ้น คิดเป็น 49,998,000 บาท 2. บริษัท บีเอสซี โซ อิน จำกัด ได้รับจัดสรร 5,667,000 หุ้น คิดเป็น 17,001,000 บาท และ 3. บริษัท บี ที เอ็น สิบสองศูนย์เจ็ด จำกัด ได้รับจัดสรร 5,667,000 หุ้น คิดเป็น 17,001,000 บาท

ทั้งนี้ กำหนดระยะเวลาจองซื้อและชำระเงินค่าหุ้นสามัญเพิ่มทุนในวันที่ 11- 15 มิถุนายน 2564 โดยราคาเสนอขาย 3 บาทต่อหุ้น เป็นราคาที่ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 90 ของราคาตลาดในปัจจุบันที่เท่ากับ 2.95 บาท/หุ้น (ราคาตลาดคำนวณจากราคาถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักจากหุ้นของบริษัทในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ย้อนหลังเป็นระยะเวลาเท่ากับ 15 วันทำการก่อนวันประชุมคณะกรรมการบริษัทที่มีมติอนุมัติให้ออกและเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในครั้งนี้ ระหว่างวันที่ 18 พฤษภาคม 2564 ถึงวันที่ 9 มิถุนายน 2564

นายเอก กล่าวอีกว่า ประโยชน์ที่บริษัทจะได้รับจากการเพิ่มทุนครั้งนี้ จะทำให้บริษัทมีเงินทุนสำหรับการลงทุนในโครงการต่าง ๆ เพื่อขยายกิจการตามแผนธุรกิจของกลุ่มบริษัท ซึ่งจะช่วยเพิ่มศักยภาพในการดำเนินธุรกิจของกลุ่มบริษัท และทำให้บริษัทสภาพคล่องมากขึ้น รวมถึงช่วยให้โครงสร้างเงินทุนของบริษัทมีความแข็งแกร่งและมั่นคงยิ่งขึ้น

ภายหลังเพิ่มทุนครั้งนี้ ส่งผลให้ บมจ. สหพัฒนาอินเตอร์โฮลดิ้งหรือ (SPI) มีสัดส่วนการถือหุ้น SELIC อยู่ที่ 3.64% ซึ่ง SPI และอีก 2 บริษัทข้างต้นนั้น เป็นผู้ลงทุนที่มีฐานะการเงินมั่นคงและมีศักยภาพในการลงทุนในบริษัท รวมทั้งมีความรู้ความสามารถและประสบการณ์ที่ช่วยส่งเสริมการดำเนินงานของบริษัทได้ และการเข้ามาถือหุ้นครั้งนี้ ยังเป็นการเสริมพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ระยะยาวของกลุ่มกิจการ