SCAP ผนึก ALTITUDE ขยายพอร์ตสินเชื่อ เจาะกลุ่มลูกค้าที่อยู่อาศัย

บริษัท ศรีสวัสดิ์ แคปปิตอล จำกัด หรือ SCAP (เอสแคป) ผู้ให้บริการสินเชื่อรายย่อย และเป็นบริษัทในกลุ่ม บมจ.ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น (SAWAD) รุกผนึกกำลัง บริษัท อัลติจูด ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด ผู้นำด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ภายใต้แบรนด์ ALTITUDE เติมสุขให้คนอยากมีบ้าน ลดข้อจำกัด เพิ่มสภาพคล่องด้านการเงิน ด้านผู้บริหาร วิชิต พยุหนาวีชัย เชื่อความร่วมมือนี้ช่วยเสริมแกร่งในภาคธุรกิจ รับดีมานด์ด้านที่อยู่อาศัยจากการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมผู้บริโภคจากโควิด-19 เริ่ม 1 สิงหาคมนี้

นายวิชิต พยุหนาวีชัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศรีสวัสดิ์ แคปปิตอล จำกัด หรือ เอสแคป เปิดเผยว่าความร่วมมือกันของเอสแคปและ ALTITUDE ครั้งนี้ เป็นการเสริมความแข็งแกร่งในภาคธุรกิจในยุคโควิด-19 ซึ่งจากเดิมที่ทางเอสแคปมีผลิตภัณฑ์สินเชื่อรายย่อย และสินเชื่อเช่าซื้อรถมอเตอร์ไซค์ใหม่เป็นหลักอยู่แล้ว ครั้งนี้เป็นการขยายตลาดให้เข้าถึงผู้บริโภคด้านที่อยู่อาศัย โดย เอสแคป ยังยึดแนวคิด “เข้าใจ เข้าถึง” ความต้องการของผู้บริโภค ที่ปัจจุบันพฤติกรรมของผู้บริโภคที่ต้องการมีที่อยู่อาศัยได้ปรับเปลี่ยนไป จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่คนส่วนใหญ่ต้องทำงานที่บ้าน หรือ  Work From Home ทำให้ความต้องการที่จะมีบ้านเพิ่มมากขึ้น ทั้งนี้เพื่อลดการเดินทาง ลดความเสี่ยงในการกระจายตัวของเชื้อโรคในปัจจุบัน จากความสำคัญดังกล่าว ทำให้เอสแคปต้องการเพิ่มความสะดวกให้กลุ่มคนที่อยากมีบ้านสามารถมีบ้านหรือที่อยู่อาศัยได้ง่ายและสบายมากยิ่งขึ้นผ่านความร่วมมือกับโครงการที่อยู่อาศัยของ ALTITUDE โดยลูกค้าของโครงการที่ประสงค์จะมีบ้านเป็นของตนเองสามารถเป็นเจ้าของได้โดยไม่ต้องวางเงินดาวน์หรือหาเงินก้อนโตมาชำระให้กับโครงการ ทำให้การมีบ้านง่ายและสะดวกมากยิ่งขึ้น ผู้สนใจสามารถติดต่อโครงการ ALTITUDE ได้ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคมนี้เป็นต้นไป

นายชยพล หรรรุ่งโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อัลติจูด ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด เสริมว่า รู้สึกยินดีที่ได้ผนึกกำลังกับทางเอสแคป ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้นำด้านสินเชื่อรายย่อย เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ซื้ออสังหาริมทรัพย์ของโครงการ Altitude ได้มีความคล่องตัวด้านการเงิน ผ่านบริการของทาง ALTITUDE โดยตรง ปัจจุบันลูกค้าที่สนใจสามารถเข้าเยี่ยมชมโครงการต่าง ๆ ของบริษัทฯได้ อาทิ (1) โฮม ออฟฟิศ โครงการ Altitude Prove เกษตร (2) พรีเมียม ทาวน์โฮม โครงการ Altitude Kraf บางนา และ โครงการ Altitude Forest รัชดา (3) บ้านเดี่ยว โครงการ Altitude Forest อารีย์-โมนูเมนต์ (4) คอนโดมิเนียม โครงการ Altitude Unicorn สาทร-ท่าพระ โครงการ Altitude Symphony เจริญกรุง โครงการ One Altitude โครงการ Altitude Samyan และโครงการ The One Park ศาลายา (5) บ้านเดี่ยวพูลวิลล่า โครงการ Altitude Mastery สุขุมวิท และ (6) บ้านเดี่ยวคฤหาสน์ใจกลางสนามกอล์ฟ โครงการ The One Bellagio ได้ทุกวัน เช่นกัน

“ครั้งนี้เป็นโอกาสในการขยายตัว และขอบข่ายสินเชื่อของเอสแคปสู่กลุ่มลูกค้าที่อยู่อาศัย ที่ผู้คนมักจะเป็นกังวล และเคยมีขั้นตอนการดำเนินการยุ่งยากและต้องหาเงินก้อนโตมาเพื่อจองบ้าน เอสแคปจะสนับสนุนและทำเรื่องยากให้ลูกค้าได้รับความสะดวกและเบาตัวมากขึ้น โดยผู้ซื้อที่ต้องการจองที่อยู่อาศัยสามารถยื่นขอสินเชื่อผ่านทาง ALTITUDE ได้ และในอนาคตเรายังคงมองหาโอกาสความร่วมมือต่างๆ รวมถึงการพัฒนากลุ่มผลิตภัณฑ์เพื่อขยายฐานลูกค้าให้กว้างและครอบคลุม ตามเป้าหมายสู่การเป็นผู้นำด้านบริการสินเชื่อแบบครบวงจรของเอสแคปอีกด้วย” นายวิชิต ทิ้งท้าย

 

เปิดใจ เอ็มดีคนใหม่! แห่ง ศรีสวัสดิ์ แคปปิตอล

นายวิชิต พยุหนาวีชัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศรีสวัสดิ์ แคปปิตอล จำกัด หรือ SCAP ผู้ให้บริการสินเชื่อรายย่อย เปิดเผยว่า สถานการณ์เกือบ 2 ปีเต็มที่เชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ COVID-19 ได้แพร่ระบาดอย่างหนัก นอกจากคร่าชีวิตและสุขภาพของผู้คนกว่า 160 ประเทศแล้ว ยังสร้างผลกระทบเป็นวงกว้างต่อภาคธุรกิจน้อยใหญ่และตลาดทุนทั่วโลก โดยเอสแคปได้นำแนวคิด เข้าใจ เข้าถึง ด้วยวิธีการนำ คน+เทคโนโลยี มาผสมผสานร่วมกันเพื่อพร้อมปรับตัวและรับมือต่อสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา เพื่อให้เอสแคปเดินหน้าช่วยเหลือคนไทยได้อย่างต่อเนื่องต่อไป

แนวคิดในการดำเนินธุรกิจของ เอสแคป มีแผนเริ่มเกมรุกพร้อมๆ กับที่สังคมไทยต้องเผชิญกับการแพร่ระบาดของเชื้อ COVID-19 นับว่าไม่ใช่เรื่องง่าย จากที่เอสแคปวางแผนมุ่งสู่การเป็นผู้นำในตลาดสินเชื่อในอีก 2-3 ปี ในขณะเดียวกันเราต้องปรับกระบวนทัพและเสริมแกร่งรอบด้านรองรับการแข่งขันจาก New Normal ความปกติใหม่ในการอยู่ร่วมกับ COVID-19 สู่ Next Normal ความปกติในระยะถัดไปหลัง COVID-19 เพราะแม้ว่าสถานการณ์ COVID-19 จะเริ่มคลี่คลาย แต่ผลจากการเปลี่ยนแปลงของโรคระบาดครั้งนี้ส่งผลต่อวิถีชีวิตผู้คน สังคม และเศรษฐกิจ จะยังคงอยู่กับเราไปอีกระยะเวลาหนึ่ง เหมือนเป็นโรคไข้หวัด ที่เมื่อเป็นแล้วก็ต้องรักษา และป้องกันไม่ให้คนอื่นๆ เป็นไปด้วย ดังนั้นเราต้องปรับปรุงวิธีการทำงานของเราเพื่อให้อยู่กับ COVID-19 ให้ได้อย่างปกติในภาวะที่ไม่เป็นปกติเช่นนี้ และเราต้องเตรียมพร้อมให้ทุกส่วนขององค์กรเพื่อให้สามารถทำงานได้อย่างปกติในภาวะไม่ปกติ หรือการที่พนักงานไม่สามารถมานั่งทำงานร่วมกันได้เหมือนในยามปกติ เพื่อช่วยป้องกันและลดความเสี่ยงในการสัมผัสกันของพนักงาน

กลยุทธ์หลักในการดำเนินธุรกิจสำหรับ Next Normal ของทางเอสแคป คือ การเข้าใจ เข้าถึง โดยเราเน้นให้ คน+เทคโนโลยี สามารถทำงานร่วมกันได้ในทุกสถานที่และทุกเวลาอย่างมีประสิทธิภาพ เราได้พัฒนาเทคโนโลยีการทำงานให้มีความทันสมัย สะดวกกับการใช้งาน พนักงานสามารถทำงานได้อย่างปกติโดยใช้เครื่องมือใกล้ตัว เช่น โทรศัพท์มือถือหรือสมาร์โฟนในการทำงาน ทำให้บริษัทฯสามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างปกติในทุกโอกาส แม้ไม่มีพนักงานมานั่งทำงานที่สำนักงานแม้แต่คนเดียว

นับจากนี้ เอสแคป จะรุกหนักพื้นที่ท้องถิ่นทั่วประเทศ เพื่อสร้างการเข้าถึง เข้าใจ ตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมาย เพราะจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 ทำให้เกิดการกลับไปลงทุนและใช้ชีวิตในบ้านเกิดมากขึ้น โดยปัจจัยหลักอยู่ที่การเข้าถึงแหล่งเงินทุน จึงเกิดการขยายตัวของสินเชื่อรายย่อยในพื้นที่ต่างจังหวัด จากเดิมที่อาจกระจุกตัวในหัวเมืองใหญ่ ขณะเดียวกันพบพฤติกรรม มุมมอง และวิธีการของกลุ่มลูกค้าเป้าหมายเปลี่ยนแปลงไป บริษัทฯจึงต้องเร่งพัฒนาผลิตภัณฑ์สินเชื่อ เจ้าหน้าที่ สาขาให้บริการ รวมถึงระบบสนับสนุนการปฎิบัติงานอัจฉริยะให้รองรับและพร้อมอยู่เสมอกับการขับเคลื่อนสู่ยุค Next Normal

สำหรับยุค Next Normal มีอีกหลายปัจจัยพื้นฐานในชีวิตที่ผู้คนมีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมไปเยอะมาก โดยข้อมูลจากธนาคารแห่งประเทศไทยมีแบ่งออกเป็น 10 ปัจจัย ได้แก่ อาหาร ที่อยู่อาศัย ยานพาหนะ โซเชียลมีเดีย สินค้าอุปโภคบริโภค FMCG เงิน เครื่องนุ่งห่ม ยา โทรศัพท์มือถือ และพลังงาน ซึ่งได้กลายมาเป็นมาตรฐานใหม่ของผู้บริโภค และเรื่องเหล่านี้ทางเอสแคปไม่เคยมองข้ามและพยายามปรับตัวรอบด้านให้ได้ยืนหยัดเคียงข้างกับสังคมไทยต่อไป

นอกจากนี้ การดูแลความเป็นอยู่ที่ดีแก่พนักงานในยามวิกฤตนับเป็นสิ่งที่สำคัญลำดับต้นๆ ของหน้าที่ผู้บริหาร ตลอดจนการสร้างความเชื่อมั่นให้กับคนทำงาน เพราะช่วงเวลานื้คือการเปลี่ยนแปลงที่ทุกองค์กรไม่เคยเจอมาก่อน ฉะนั้นในฐานะของหัวเรือใหญ่ต้องหาทางที่จะอยู่รอด ต้องสร้างความเชื่อมั่นให้กับพนักงานทุกคน รับฟังความคิดเห็นในช่วงเวลาที่พนักงานต้องการความมั่นคงทางจิตใจ ส่งผลให้เกิดการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับพนักงานในระยะยาวต่อไป

ทั้งนี้ ประสบการณ์ในการบริหารงานของ นายวิชิต พยุหนาวีชัย อยู่ในแวดวงการเงินมายาวนานกว่า 30 ปี และมีผลงานที่โดดเด่นจากหลากหลายองค์กรชั้นนำด้านการเงิน ได้แก่ บริษัท ซัมมิท แคปปิตอล ลีสซิ่ง จำกัด, ธนาคารกรุงศรีอยุธยา, ธนาคารเอชเอสบีซี, บมจ.อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต และ บริษัท อเมริกัน เอ็กซ์เพรส (ไทย) จำกัด ด้วยวิสัยทัศน์และการบริหารงานอย่างมืออาชีพ จึงทำให้ได้รับความไว้วางใจจาก บริษัท ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SAWAD ในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่ของ SCAP โดยแต่งตั้ง นายวิชิต พยุหนาวีชัย เป็นกรรมการผู้จัดการ บริษัท ศรีสวัสดิ์ แคปปิตอล จำกัด หรือ SCAP (เอสแคป) และแต่งตั้งให้เป็นกรรมการของบริษัท ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) พร้อมทีมงานที่มีความชำนาญและมีประสบการณ์ในธุรกิจสินเชื่อ มั่นใจ จะนำพา SCAP (เอสแคป) สู่ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่และสร้างผลกำไรที่ดี พร้อมเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ใน 2-3 ปีจากนี้

 

SCAP ดันสินเชื่อเช่าซื้อรถมอเตอร์ไซค์ ช่วยคนไทยให้ไปต่อ

บริษัท ศรีสวัสดิ์ แคปปิตอล จำกัด หรือ SCAP (เอสแคป) ผู้ดำเนินการธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคล และสินเชื่อเช่าซื้อรถมอเตอร์ไซค์ชั้นนำของไทย ร่วมสนับสนุนให้ทุกคนเต็มที่กับชีวิตได้ทุกวัน เผยพร้อมเคียงข้างคนไทยให้ได้ไปต่อ ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด – 19 ระลอกใหม่ “โควิด ชีวิตไม่ติด” ปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อรถมอเตอร์ไซค์รองรับบริการด้านเดลิเวอรี่ที่ขยายตัวในตลาดอย่างรวดเร็ว พร้อมเปิดช่องทางการให้บริการทั่วประเทศ

นายวิชิต พยุหนาวีชัย กรรมการผู้จัดการ บจก. ศรีสวัสดิ์ แคปปิตอล หรือ SCAP (เอสแคป) เผยว่า ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 พบการปรับตัวเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันทางธุรกิจ โดยบริการด้าน Delivery มีแนวโน้มเติบโตสูงอย่างต่อเนื่อง จากข้อมูลศูนย์วิจัยกสิกรไทยพบการจัดส่งอาหารไปยังที่พักด้วยรถจักรยานยนต์หรือ Food delivery เติบโตถึง 78-84% ในปี 2563 และยังคงมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่องในปี 2564 สะท้อนถึงการเติบโตอย่างชัดเจนในกลุ่ม Delivery เอสแคปจึงพร้อมสนับสนุนให้ทุกธุรกิจ ทุกอาชีพได้ปรับตัวเพื่อให้ธุรกิจอยู่รอด ผ่านพ้นวิกฤตโควิดครั้งนี้ผ่านสินเชื่อเช่าซื้อรถมอเตอร์ไซด์ ในอัตราดอกเบี้ย เริ่มต้นเพียง 1.19% ต่อเดือน

“ช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาหลายธุรกิจต้องปรับตัวและเปลี่ยนแปลงท่ามกลางข้อจำกัดของการแพร่ระบาดของโควิด – 19 พ่อค้าแม่ค้าที่เคยค้าขายกับลูกค้าโดยตรงต้องปรับกลยุทธ์ เป็นการรับออเดอร์ผ่านออนไลน์ และใช้บริการเดลิเวอรี่เข้ามาช่วยเกือบ 100% รวมถึงมีผู้เข้ามาประกอบอาชีพไรเดอร์ หรือผู้ให้บริการส่งอาหาร-พัสดุ เพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก ทั้งทำเป็นรายได้เสริมและรายได้หลัก เพื่อพยุงรายได้และความเป็นอยู่ของครอบครัว ทำให้ตลาดเติบโตสวนกระแส ทางเอสแคปจึงผุดไอเดียพร้อมสนับสนุนคนไทยให้มีรายได้มีอาชีพ และก้าวต่อไปได้ด้วยบริการสินเชื่อเช่าซื้อรถมอเตอร์ไซค์ ที่ปัจจุบันมีช่องทางการให้บริการกระจายอยู่ทั่วประเทศ” นายวิชิต กล่าว

สำหรับรายละเอียดสินเชื่อเช่าซื้อรถมอเตอร์ไซค์ เอสแคปเปิดเกณฑ์ให้ผู้กู้ที่มีอายุ 18 ถึง 65 ปี มีที่พักอาศัย ในเขตพื้นที่ให้บริการและรายได้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ของบริษัทฯ โดยใช้เอกสารประกอบการสมัครไม่ยุ่งยากเพียง (1) เอกสารสำเนาบัตรประชาชน และ (2) เอกสารแสดงรายได้ สนใจรายละเอียดเพิ่มเติม โทร 0 2481 7865 หรือ https://www.sleasing.co.th