OPPO Enco Air ผนึก JOOX ชวนสนุกกับ Live Virtual Concert พรุ่งนี้ (13 ส.ค.)

OPPO แบรนด์สมาร์ทโฟนชั้นนำในไทย เตรียมมอบความสนุกแบบจัดเต็มผ่านคอนเสิร์ตออนไลน์ Live Virtual Concert ที่เกิดจากความร่วมมือกันระหว่าง OPPO Enco Air หูฟังไร้สายรุ่นใหม่ล่าสุดจาก OPPO และ JOOX มิวสิคสตรีมมิ่งแอปพลิเคชั่น โดยจะจัดขึ้นในวันที่ 13 สิงหาคมนี้ เวลา 17.30-19.00 น. ที่ JOOX และ OPPO Facebook เท่านั้น

OPPO Enco Air และ JOOX ขนทัพนักร้องสุดฮอตมากมาย ที่จะมามอบความสนุก พร้อมส่งต่อกำลังใจให้คนไทยก้าวผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้ไปพร้อมกัน นำโดย ศิลปินเจ้าของเพลงฮิตวง Tilly Birds และ ศิลปินเดี่ยวมากความสามารถ Mon Monik ผ่านโชว์พิเศษด้วยบทเพลงฮิตที่ไม่ว่าใครก็ร้องตามได้อย่างแน่นอน นอกจากนี้ ยังมีวงวัยรุ่นหน้าใหม่ Xmas จากมหาวิทยาลัยมหิดล มาร่วมแสดงพลังสานฝันด้านดนตรีของวัยรุ่นไทยภายในคอนเสิร์ตนี้อีกด้วย

เท่านั้นยังไม่พอ เพียงกดไลก์และแชร์ ‘Live Virtual Concert’ จาก OPPO Facebook ก็สามารถร่วมลุ้นรับของรางวัลมากมายไม่ว่าจะเป็น OPPO Enco Air หูฟังไร้สายใหม่ล่าสุด จำนวน 3 รางวัล และ JOOX VIP 1 เดือน จำนวน 10 รางวัล

เรียกได้ว่าห้ามพลาด! กับคอนเสิร์ตออนไลน์ ‘Live Virtual Concert’ สนุก มันส์ ครบรส แบบไม่มีสะดุด ไปกับ OPPO Enco Air และ JOOX ได้ในวันที่ 13 สิงหาคมนี้ เวลา 17.30-19.00 น. ที่แอปพลิเคชั่น JOOX และ OPPO Facebook เท่านั้น หรือคลิกเลยที่ OPPO Facebook: www.facebook.com/oppothai หรือสนใจช้อป OPPO คลิกที่นี่เลย!

OPPO เปิดตัวเทคโนโลยี Under-Screen Camera รุ่นใหม่

OPPO แบรนด์อุปกรณ์อัจฉริยะชั้นนำระดับโลก เปิดตัวเทคโนโลยี Under-Screen Camera (USC) รุ่นใหม่ ด้วยการผสานนวัตกรรมด้านฮาร์ดแวร์ที่ดีที่สุดและอัลกอริทึม AI ที่เป็นกรรมสิทธิ์ของ OPPO สร้าง Under-Screen Camera แบบใหม่ พร้อมการวางกล้องหน้าแบบประณีต และคงความเสถียรของหน้าจอได้ทั้งในระหว่างการใช้งานและ สแตนด์บาย มอบความลงตัวที่สมบูรณ์แบบระหว่างคุณภาพของหน้าจอที่มีความเสถียรและคุณภาพของกล้องที่ซ่อนอยู่ใต้หน้าจอได้อย่างเรียบเนียน

โซลูชัน Under-Screen Camera แบบใหม่นี้ จะมาช่วยแก้ปัญหาที่ท้าทายมากมายทั้งในด้านเทคนิคและการผลิตที่ OPPO ต้องเผชิญตั้งแต่เริ่มต้นพัฒนาเทคโนยี โดยครั้งนี้ถือเป็นความก้าวหน้าครั้งสำคัญในการแก้ไขปัญหาต่างๆ เช่น คุณภาพการแสดงผลที่ไม่สอดคล้องกันของพื้นที่หน้าจอที่อยู่เหนือกล้อง, คุณภาพของภาพต่ำจากหน้าจอที่บดบังกล้อง ตลอดจนปัญหาเกี่ยวกับความน่าเชื่อถือและอายุการใช้งานของผลิตภัณฑ์ แต่ด้วยความก้าวหน้าของเทคโนโลยีนี้ ทำให้ OPPO สามารถก้าวข้ามด้วยโซลูชัน Under-Screen Camera แบบอัปเกรด มอบอีกขั้นของประสบการณ์การใช้งานแบบเต็มจอที่ดียิ่งขึ้น

ด้านจอแสดงผล โซลูชัน Under-Screen Camera รุ่นใหม่ของ OPPO มอบนวัตกรรมใหม่ทั้งในด้านการออกแบบโครงสร้างและอัลกอริทึม AI ดังนี้

• Pixel geometry อันล้ำสมัย: โซลูชันใหม่นี้ จะย่อขนาดแต่ละพิกเซลโดยไม่ลดจำนวนพิกเซลลง เพื่อคงคุณภาพของจอแสดงผลให้มีคุณภาพสูงแม้พื้นที่เหนือกล้อง ที่ความละเอียด 400-PPI

• Transparent wiring และดีไซน์แบบใหม่: OPPO เปลี่ยน screen wiring แบบดั้งเดิมมาเป็นวัสดุแบบ transparent wiring ที่ล้ำสมัย โดยเมื่อรวมกับกระบวนการผลิตที่มีความแม่นยำสูงที่ช่วยลดความกว้างของ screen wiring ได้ถึง 50% แล้ว ยังทำให้คุณภาพการแสดงผลมีความละเอียดมากยิ่งขึ้น เพื่อมอบประสบการณ์การมองเห็นที่ราบรื่นยิ่งขึ้น

• การปรับปรุงด้านการควบคุมความแม่นยำของจอแสดงผล สี และความสว่างของหน้าจอ: ปัจจุบันมาตรฐานอุตสาหกรรมใช้ 1 pixel circuit ในการขับเคลื่อน 2 พิกเซล (“1-to-2”) ของพื้นที่หน้าจอเหนือกล้อง แต่ OPPO ได้เปิดตัวโซลูชันใหม่ ด้วยเทคโนโลยีหน้าจอที่เป็นกรรมสิทธิ์ของ OPPO คือ การใช้ 1 pixel circuit ในการขับเคลื่อนเพียง 1 พิกเซล (“1-to-1”) โดยเมื่อผสานกับเทคโนโลยีการชดเชยอัลกอริทึมที่แม่นยำของ OPPO แล้ว จะทำให้จอแสดงผลสามารถควบคุมสีและความสว่างของทั้งหน้าจอได้อย่างแม่นยำโดยมีค่าเบี่ยงเบนประมาณ 2% สำหรับการใช้งานต่างๆ เช่น การอ่าน e-books, ข่าว หรือการนำทาง Under-Screen Camera รุ่นใหม่ของ OPPO ก็จะสามารถแสดงตัวอักษรขนาดเล็กได้อย่างแม่นยำ พร้อมคงรายละเอียดพื้นผิวและสีที่ดีมากยิ่งขึ้น มอบประสบการณ์การใช้งานที่เพลิดเพลินและสมจริงมากยิ่งขึ้น

• การปรับปรุงด้านความน่าเชื่อถือและอายุการใช้งาน: จากการใช้งาน “1-to-1” pixel circuit และ อัลกอริทึมในการเพิ่มประสิทธิภาพโดยเฉพาะ ทำให้ Under-Screen Camera รุ่นใหม่ของ OPPO สามารถชดเชยการแสดงผลของพื้นที่หน้าจอเหนือกล้องได้อย่างดี พร้อมเพิ่มอายุการใช้งานของหน้าจอได้สูงสุดถึง 50%

สำหรับด้านกล้อง U.S. Research Institutes ของ OPPO ได้พัฒนาชุดอัลกอริทึม AI ที่เกี่ยวกับการถ่ายภาพ ไม่ว่าจะเป็น การลดการเลี้ยวเบน (Diffraction reduction), HDR และ AWB มาช่วยลดปัญหาที่มักพบในกล้องใต้หน้าจอ เช่น ภาพเบลอ และ การมีแสงสะท้อนในภาพ โดย OPPO ได้ทดสอบ AI diffraction reduction model ด้วยการใช้ภาพหลายหมื่นภาพมาช่วยลดปัญหาที่เกิดจากการเลี้ยวเบนของแหล่งกำเนิดแสง เพื่อให้ผู้ใช้สามารถถ่ายภาพได้คมชัดและเป็นธรรมชาติมากยิ่งขึ้น

จากความต้องการของผู้บริโภคที่ต้องการอัตราส่วนหน้าจอต่อตัวเครื่องที่สูงมากขึ้น รวมถึงปัจจัยด้านรูปแบบของสมาร์ทโฟนที่มีการเติบโตมากยิ่งขึ้น ทำให้ OPPO ลงทุนอย่างหนักในการวิจัยและพัฒนาสิ่งเหล่านี้ โดย OPPO ได้เปิดตัวโซลูชัน Under-Screen Camera มาแล้วถึง 3 รุ่น ซึ่งตั้งแต่เริ่มพัฒนาเทคโนโลยีนี้ในปี 2561 จนถึงปัจจุบัน OPPO ได้ยื่นขอสิทธิบัตรที่เกี่ยวข้องมากกว่า 200 ฉบับ โดยในปี 2563 OPPO ยังพัฒนาเทคโนโลยีนี้ด้วยการยื่นข้อเสนอด้านมาตรฐานเทคโนโลยี Under-Screen Camera ให้แก่ International Electrotechnical Commission (IEC) โดยข้อเสนอนี้มีตัวชี้วัดที่แนะนำ 7 สิ่ง ได้แก่ การส่งผ่านแสงของหน้าจอ, การสะท้อนของแสง, ความสม่ำเสมอไร้รอยต่อ, แกมมา คอลเลคชัน, การเปลี่ยนสี และการลดความสว่าง

OPPO จะยังคงทำการวิจัยและพัฒนาด้านการออกแบบฮาร์ดแวร์และประสิทธิภาพการประมวลผลอัลกอริทึมต่อไป เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพเทคโนโลยี Under-Screen Camera ให้ดีมากยิ่งขึ้น โดยมีเป้าหมายสุดท้าย คือ การมอบระบบ Under-Screen Camera แบบเต็มหน้าจอที่สมจริงยิ่งขึ้นให้กับผู้ใช้ทั่วโลก