MRT ขยายเวลาโปรโมชั่นเที่ยวโดยสารถึง ม.ค. 65

ตามที่ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) และ บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM ได้สนับสนุนนโยบายภาครัฐในการลดภาระค่าครองชีพให้แก่ประชาชน โดยจัดโปรโมชั่นเที่ยวโดยสาร (Pass) เดินทางในระบบรถไฟฟ้ามหานครสายฉลองรัชธรรม (MRT สายสีม่วง) และสายเฉลิมรัชมงคล (MRT สายสีน้ำเงิน) จำนวน 3 ประเภท ได้แก่ PL Adult Pass ใช้เดินทางใน MRT สายสีม่วง จำหน่ายตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ – 31 กรกฎาคม 2564 BL Adult Pass ใช้เดินทางใน MRT สายสีน้ำเงิน และ ML Adult Pass ใช้เดินทางข้ามทั้ง 2 สาย จำหน่ายตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม – 31 สิงหาคม 2564 นั้น

นายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ผู้ว่าการ รฟม. เปิดเผยว่า รฟม. และ BEM ได้ทำการ ขยายระยะเวลาการจำหน่ายเที่ยวโดยสารทั้ง 3 ประเภทดังกล่าว ในราคาเดิมไปจนถึงวันที่ 31 มกราคม 2565 เพื่อเป็นทางเลือกในการเดินทางที่สะดวกและคุ้มค่าให้แก่ประชาชน และสนับสนุนนโยบายภาครัฐในการลดภาระค่าครองชีพให้แก่ประชาชนอย่างต่อเนื่อง โดยผู้โดยสารที่ถือบัตรโดยสาร MRT PLUS และบัตรโดยสาร MRT ประเภทบุคคลทั่วไป บัตรโดยสารธุรกิจ และบัตรร่วมธุรกิจ สามารถเลือกเติมเที่ยวโดยสารได้ตามความต้องการ ดังนี้

• PL Adult Pass ใช้เดินทางใน MRT สายสีม่วง สามารถเติมเที่ยวโดยสารได้ที่ห้องออกบัตรโดยสารรถไฟฟ้า MRT สายสีม่วง ทุกสถานี
– ประเภท 15 เที่ยว ราคา 450 บาท เฉลี่ย 30 บาท/เที่ยว
– ประเภท 25 เที่ยว ราคา 700 บาท เฉลี่ย 28 บาท/เที่ยว
– ประเภท 40 เที่ยว ราคา 1,040 บาท เฉลี่ย 26 บาท/เที่ยว
– ประเภท 50 เที่ยว ราคา 1,100 บาท เฉลี่ย 22 บาท/เที่ยว
– ประเภท 60 เที่ยว ราคา 1,200 บาท เฉลี่ย 20 บาท/เที่ยว (**ใช้เดินทางได้นานถึง 60 วัน**) (จากอัตราค่าโดยสารสูงสุด 42 บาท)

• BL Adult Pass ใช้เดินทางใน MRT สายสีน้ำเงิน สามารถเติมเที่ยวโดยสารได้ที่ห้องออกบัตรโดยสารรถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงิน ทุกสถานี
– ประเภท 15 เที่ยว ราคา 450 บาท เฉลี่ย 30 บาท/เที่ยว
– ประเภท 25 เที่ยว ราคา 700 บาท เฉลี่ย 28 บาท/เที่ยว
– ประเภท 40 เที่ยว ราคา 1,040 บาท เฉลี่ย 26 บาท/เที่ยว
– ประเภท 50 เที่ยว ราคา 1,250 บาท เฉลี่ย 25 บาท/เที่ยว
(จากอัตราค่าโดยสารสูงสุด 42 บาท)

• ML Adult Pass ใช้เดินทางข้ามสายระหว่าง MRT สายสีม่วงและสายสีน้ำเงิน สามารถเติมเที่ยวโดยสารได้ที่ห้องออกบัตรโดยสารรถไฟฟ้า MRT ทั้งสายสีม่วงและสายสีน้ำเงิน ทุกสถานี
– ประเภท 15 เที่ยว ราคา 810 บาท เฉลี่ย 54 บาท/เที่ยว
– ประเภท 25 เที่ยว ราคา 1,300 บาท เฉลี่ย 52 บาท/เที่ยว
– ประเภท 40 เที่ยว ราคา 2,000 บาท เฉลี่ย 50 บาท/เที่ยว
– ประเภท 50 เที่ยว ราคา 2,250 บาท เฉลี่ย 45 บาท/เที่ยว
(จากอัตราค่าโดยสารสูงสุด 70 บาท)

ทั้งนี้ โปรโมชั่นเที่ยวโดยสารมีกำหนดเริ่มใช้งานภายใน 45 วัน นับจากวันที่ซื้อเที่ยวโดยสาร หากพ้นกำหนดจะไม่สามารถใช้เดินทางได้ และสามารถใช้เดินทางได้เป็นระยะเวลา 30 วัน นับจากวันที่ใช้เดินทางครั้งแรก (ยกเว้น PL Adult Pass ประเภท 60 เที่ยว 60 วัน จะสามารถใช้เดินทางได้เป็นระยะเวลา 60 วัน นับจากวันที่ใช้เดินทางครั้งแรก) โดยไม่สามารถเปลี่ยนหรือขอคืนเงินได้ สำหรับบัตรนักเรียนนักศึกษายังคงได้รับส่วนลด 10% เด็กและผู้สูงอายุได้รับส่วนลด 50% ทุกเที่ยวเดินทางเช่นเดิม

สำหรับสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อไวรัส COVID-19 ในปัจจุบัน รฟม. และ BEM ได้ตระหนักและห่วงใยในความปลอดภัยของผู้โดยสาร โดยยังคงดำเนินการมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อไวรัส COVID-19 ในระบบรถไฟฟ้า MRT ทั้ง 2 สาย อย่างเข้มงวดและต่อเนื่อง เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้ใช้บริการ พร้อมทั้งขอความร่วมมือผู้โดยสารรักษาระยะห่างทางสังคม หรือ Social Distancing สวมใส่หน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัยตลอดระยะเวลาการใช้บริการ สแกน QR Code ไทยชนะ ที่ติดอยู่ในตู้โดยสาร เพื่อเช็คอิน และให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายก่อนเข้าใช้บริการเพื่อความปลอดภัยของทุกคน

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์บริการข้อมูล โทร. 0 2624 5200 เฟซบุ๊ก: MRT Bangkok Metro ทวิตเตอร์: MRT Bangkok Metro อินสตาแกรม: mrt_bangkok หรือ โมบายแอปพลิเคชัน: Bangkok MRT

MRT ปรับเวลาให้บริการ เริ่ม 12 ก.ค. นี้

รถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงิน และสายสีม่วง รวมถึงอาคารและลานจอดแล้วจรทุกแห่ง แจ้งเปิดให้บริการถึงเวลา 21.00 น. ตั้งแต่วันจันทร์ที่ 12 กรกฎาคม 2564 เป็นต้นไป

ตามที่ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. ได้มีมติจำกัดเวลาให้บริการของระบบขนส่งสาธารณะ โดยหยุดให้บริการ ในช่วงเวลา 21.00-04.00 น. ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 10 จังหวัด ได้แก่กรุงเทพมหานคร นครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ สมุทรสาคร ปัตตานี ยะลา นราธิวาส และสงขลา โดยนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้มีนโยบายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องแจ้งประชาชนให้รับทราบ มีผลบังคับใช้ ตั้งแต่วันที่ 12 กรกฎาคม 2564 เป็นต้นไป นั้น

นายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยว่า รฟม. และ บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BEM) ผู้ให้บริการรถไฟฟ้า MRT พร้อมให้ความร่วมมือดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาลและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม โดยตั้งแต่วันที่ 12 กรกฎาคม 2564 เป็นต้นไป รถไฟฟ้า MRT จะปรับเวลาให้บริการดังนี้ รถไฟฟ้ามหานคร สายเฉลิมรัชมงคล (MRT สายสีน้ำเงิน)เวลา 06.00 – 21.00 น. และรถไฟฟ้ามหานครสายฉลองรัชธรรม (MRT สายสีม่วง) เวลา 05.30 – 21.00 น. (รถไฟขบวนสุดท้ายถึงสถานีปลายทางเวลา 21.00 น.) จนกว่าจะมีประกาศเปลี่ยนแปลง ทั้งนี้ ผู้โดยสารโปรดตรวจสอบตารางการเดินรถและเวลารถไฟขบวนสุดท้าย ได้จากประกาศภายในสถานีหรือ เฟซบุ๊ก: MRT Bangkok Metro / โมบายแอปพลิเคชัน : Bangkok MRT และเว็บไซต์ www.bemplc.co.th หรือ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์บริการข้อมูลโทร. 0 2624 5200

ในส่วนของอาคารและลานจอดแล้วจรของ รฟม. จะเปลี่ยนแปลงเวลาให้บริการเป็นตั้งแต่เวลา 05.00 ถึง 21.00 น. เพื่อให้สอดคล้องกับระยะเวลาให้บริการของรถไฟฟ้า โดยปัจจุบัน รฟม. มีที่จอดรถในแนวสายทางรถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงิน จำนวน 10 สถานี ประกอบด้วย 4 อาคาร และ 10 ลานจอดรถ ได้แก่ อาคารจอดแล้วจรสถานีลาดพร้าว สถานีศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย สถานีหลักสอง (2 อาคาร) ลานจอดแล้วจรสถานีรัชดาภิเษก สถานีห้วยขวาง สถานีศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย (2 ลาน) สถานีพระราม 9 สถานีเพชรบุรี สถานีสุขุมวิท สถานีศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ (2 ลาน) และสถานีสามย่าน ที่จอดรถในแนวสายทางรถไฟฟ้า MRT สายสีม่วง จำนวน 4 สถานี ได้แก่ อาคารจอดแล้วจรสถานีคลองบางไผ่ สถานีสามแยกบางใหญ่ สถานีบางรักน้อยท่าอิฐ และสถานีแยกนนทบุรี 1 ที่จอดรถในแนวสายทางรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงแบริ่ง – สมุทรปราการ จำนวน 1 สถานี ได้แก่ ลานจอดแล้วจรสถานีเคหะฯ และที่จอดรถในแนวสายทางรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิต – สะพานใหม่ – คูคต จำนวน 2 สถานี ได้แก่ อาคารจอดแล้วจรสถานีแยก คปอ. และสถานีคูคต

สำหรับสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในปัจจุบัน รฟม. และ BEM ได้ตระหนักและห่วงใยในความปลอดภัยของผู้โดยสาร โดยยังคงดำเนินการมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในระบบรถไฟฟ้า MRT ทั้ง 2 สายอย่างเข้มงวดและต่อเนื่อง เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้ใช้บริการ พร้อมทั้งขอความร่วมมือผู้โดยสารรักษาระยะห่างทางสังคม หรือ Social Distancing สวมใส่หน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัยตลอดระยะเวลาการใช้บริการ สแกน QR Code ไทยชนะ ที่ติดอยู่ในตู้โดยสาร เพื่อเช็คอิน และให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายก่อนเข้าใช้บริการเพื่อความปลอดภัยของทุกคน