เปิดใจ MENA เจ้าแห่งรถมิกเซอร์รายใหญ่ของประเทศ

MENA ผงาดสู่ SET อย่างเป็นทางการ ตอกย้ำเจ้าแห่งรถมิกเซอร์รายใหญ่ของประเทศประสบความสำเร็จในการเข้าซื้อขายวันแรกใน SET ด้วยราคาปิดตลาดอยู่ที่ 2.48 บาท/หุ้น เพิ่มขึ้น 106.67% จากราคา IPO 1.20 บาท/หุ้น สะท้อนปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง ด้าน บล.เอเซีย พลัส มองเทรดวันแรกประสบความสำเร็จอย่างดีเยี่ยม เชื่อว่า MENA จะเป็นหุ้นที่ขยายการเติบโต สร้าง New S-Curve ให้ธุรกิจรถขนส่งตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยผู้บริหารแย้มภาพรวมครึ่งปีแรกเป็นไปตามเป้า

นางสุวรรณา ขจรวุฒิเดช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มีนาทรานสปอร์ต จำกัด (มหาชน) หรือ MENA เปิดเผยว่า ต้องขอขอบพระคุณนักลงทุน ที่ให้การต้อนรับ หุ้น MENA เข้าซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยอย่างน่าประทับใจ สะท้อนความเชื่อมั่นที่มีต่อธุรกิจโลจิสติกส์น้องใหม่ที่มีแผนขยายการเติบโตอย่างชัดเจน รวมทั้ง จุดเด่นในการบริหารจัดการรถมิกเซอร์ และรถเทรลเลอร์ รวมกันกว่า 600 คัน และมีพนักงานจัดส่งกว่า 500 คน ทำให้แม้ในสถานการณ์วิกฤตในช่วงโควิด แต่ MENA ยังสามารถบริหารจัดการรถ พร้อมรับโอกาสในครึ่งปีหลัง ซึ่งจะมีความต้องการรถขนส่งที่เพิ่มขึ้นอย่างทวีคูณ เนื่องจาก งานก่อสร้างโครงการขนาดใหญ่เป็นงานสัญญาระยะยาว และเดินหน้าส่งมอบตามกำหนด  ซึ่งหากเป็นไปตามแผน จะสนับสนุนการเติบโตในปี 2564 ให้ MENA เติบโตทั้งรายได้และกำไร เมื่อเทียบกับปี 2563 MENA มีรายได้รวม 614.9 ล้านบาท กำไรสุทธิ 34.8 ล้านบาท และประเมินแนวโน้มครึ่งปีแรก เติบโตขึ้นตามเป้าหมาย

ภายหลังจากการระดมทุน จะสนับสนุนให้บริษัทฯ มีศักยภาพที่แข็งแกร่งขึ้น เตรียมนำเงินที่ได้จากการระดมทุนไปใช้ต่อยอดธุรกิจ โดยบริษัทฯ ยังอยู่ระหว่างพูดคุยกับพันธมิตรอีกราว 3-4 โปรเจกต์ ในการขยายบริการด้านขนส่งไปยังกลุ่มสินค้าเฉพาะทาง และสินค้าอุปโภคบริโภค คาดจะเห็นความชัดเจนในช่วงไตรมาส 4 ปีนี้ ประกอบกับ ภาพรวมงานก่อสร้าง รวมทั้ง การฟื้นตัวของเศรษฐกิจและการลงทุนในประเทศที่มีทิศทางที่ดี สนับสนุนให้ปี 2565 จะเป็นปีที่ MENA สามารถสร้างการเติบโตอย่างโดดเด่นได้

นางยอดฤดี สันตติกุล รองกรรมการผู้อำนวยการ หัวหน้าสายงานตลาดทุน บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด ในฐานะแกนนำผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย เปิดเผยว่า MENA เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET)​ ได้รับการตอบรับจากนักลงทุนอย่างน่าประทับใจ สะท้อนการเป็นหุ้นในกลุ่มโลจิสติกส์ที่กำลังมีการเติบโตอย่างชัดเจน ตามแผนการลงทุนในงานโครงสร้างพื้นฐานที่มีความต้องการรถขนส่งอย่างต่อเนื่อง และการขยายธุรกิจเตรียมพร้อมรับโอกาสในอนาคต

โดย บริษัท มีนาทรานสปอร์ต จำกัด (มหาชน) หรือ MENA เข้าซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET)​ โดยราคาหุ้นเปิดตลาดอยู่ที่ 1.60 บาท เพิ่มขึ้น 0.40 บาท หรือ 33.33% จากราคาไอพีโอที่กำหนดไว้หุ้นละ 1.20 บาท/หุ้น ระหว่างวันราคาหุ้นปรับขึ้นไปสูงสุดที่ 2.82 บาท และปิดตลาดราคาหุ้นอยู่ที่ 2.48 บาท เพิ่มขึ้น 1.28 บาท คิดเป็น 106.67% มูลค่าซื้อขาย 7,434 ล้านบาท

เปิดจองซื้อวันนี้ MENA ไอพีโอหุ้นละ 1.20 บาท

มีนาทรานสปอร์ต หรือ MENA หุ้นไอพีโอน้องใหม่ธุรกิจขนส่ง ได้ลงนามแต่งตั้ง บล. เอเซีย พลัส เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย ตามแผนการเสนอขายหุ้น IPO จำนวนไม่เกิน 184 ล้านหุ้น พร้อมด้วยผู้ร่วมจำหน่ายจาก 4 บริษัทชั้นนำ ประกาศเคาะราคาไอพีโอ 1.20 บาท/หุ้น กำหนดเทรดใน SET 7 กรกฎาคมนี้ มั่นใจราคาไอพีโออยู่ในระดับที่น่าสนใจ รวมทั้ง โอกาสของธุรกิจโลจิสติกส์จากการขยายงานรับแผนการลงทุนในประเทศ

นางยอดฤดี สันตติกุล รองกรรมการผู้อำนวยการ หัวหน้าสายงานตลาดทุน บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด ในฐานะแกนนำผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย บริษัท มีนาทรานสปอร์ต จำกัด  (มหาชน) หรือ MENA เปิดเผยว่า ได้กำหนดราคาเสนอขายหุ้นสามัญให้กับประชาชนทั่วไป (IPO) จำนวน 184 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) 0.50 บาทต่อหุ้น คิดเป็น 25.1% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนในครั้งนี้ในราคาเสนอขายหุ้นละ 1.20 บาท คิดเป็น P/E ที่ประมาณ 20.69 เท่า โดยคำนวณกำไรสุทธิต่อหุ้นจากกำไรสุทธิตามงบการเงินของบริษัทฯ ในช่วง 12 เดือนย้อนหลัง  หารด้วยจำนวนหุ้นสามัญทั้งหมดของบริษัทฯ ก่อนการเสนอขายหุ้นในครั้งนี้  เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยของบริษัทซึ่งมีลักษณะคล้ายคลึงกันหรือใกล้เคียงกันกับธุรกิจของบริษัทฯ ซึ่งมีค่าเฉลี่ยของ P/E เท่ากับ 30.8 – 31.5 เท่า

โดย MENA กำหนดจะเปิดให้จองซื้อหุ้นดังกล่าวระหว่างวันที่ 29 มิถุนายน – 1 กรกฎาคมนี้ และคาดว่าจะสามารถเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ในวันที่ 7 กรกฎาคม 2564 โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายว่า “MENA” เข้าเทรดในกลุ่มบริการ/ขนส่งและโลจิสติกส์ พร้อมกันนี้ ยังมีผู้ร่วมจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายอีก 4 แห่ง ประกอบด้วย บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จํากัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ ไอร่า จำกัด (มหาชน) และบริษัทหลักทรัพย์ แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน)

“การกำหนดราคาไอพีโอที่หุ้นละ 1.20 บาท ถือเป็นระดับราคาที่เหมาะสมกับปัจจัยพื้นฐานของบริษัทฯ เนื่องจาก MENA เป็นหนึ่งในผู้นำธุรกิจรถขนส่ง ปัจจุบัน มีกองยานรถมิกเซอร์จำนวน 466 คัน และมีรถเทรลเลอร์ (หัวลาก) 75 คัน นอกจากนี้ ยังมีรถกึ่งพ่วง หรือหางลากประเภทต่างๆ 105 คัน รวมทั้ง มีพนักงานจัดส่งภายใต้การบริหารกว่า 500 คน ทำให้สามารถรองรับงานโครงการขนาดใหญ่อย่างต่อเนื่องในอนาคต เนื่องจาก กลุ่มลูกค้าเป็นบริษัทปูนซีเมนต์ชั้นนำ และผู้ผลิตท้องถิ่นรายใหญ่ ที่มีแผนการขยายงานที่ค่อนข้างชัดเจน รวมทั้ง บริษัทฯ ยังมีแผนการขยายลูกค้าใหม่ และต่อยอดธุรกิจขนส่งสินค้าประเภทอื่นๆ อย่างต่อเนื่อง สร้างความน่าสนใจการลงทุนในระยะยาว เนื่องจากโลจิสติกส์เป็นหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและการลงทุน อีกทั้ง  MENA จะเป็นผู้ให้บริการขนส่งด้วยรถมิกเซอร์ที่เข้าจดทะเบียนเป็นรายแรกในตลาดหลักทรัพย์ฯ” นางยอดฤดี กล่าว

นางสุวรรณา ขจรวุฒิเดช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มีนาทรานสปอร์ต จำกัด  (มหาชน) หรือ MENA เปิดเผยว่า นับเป็นอีกก้าวความสำเร็จ และความภาคภูมิใจในการนำบริษัทฯ เข้ามาขยายการเติบโตในตลาดหลักทรัพย์ สร้างความเชื่อมั่นให้แก่ลูกค้าและพันธมิตร โดยเงินที่ได้จากการระดมทุนครั้งนี้ รวมมูลค่า 220.80 ล้านบาท จะนำไปใช้สำหรับลงทุนในโครงการในอนาคต 160.80 ล้านบาท ภายในปี 2565 โดยโครงการในอนาคตของบริษัทฯ มีนโยบายกำหนดอัตราผลตอบแทนภายในขั้นต่ำ (IRR) เพื่อประโยชน์แก่บริษัทฯ และผู้ถือหุ้น  นอกจากนี้ บริษัทฯ จะนำไปใช้จ่ายคืนหนี้สิน 20.00 ล้านบาท ภายในปี 2564 และ เพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการประกอบกิจการ 40.00 ล้านบาท ภายในปี 2564 สนับสนุนให้บริษัทฯ แข็งแกร่งยิ่งขึ้น

ทั้งนี้ ภายหลังการระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ จะช่วยเพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน และการลงทุน โดยโครงการในอนาคต มีแผนจะขยายกองยานรถมิกเซอร์ให้สอดรับกับความต้องการของกลุ่มลูกค้า และโอกาสจากธุรกิจขนส่งซึ่งมีทิศทางการเติบโตรองรับงานโครงการขนาดใหญ่ ได้แก่ โครงการรถไฟทางคู่ โครงการ EEC โครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน โดยในปีนี้ บริษัทฯ วางแผนขยายรถมิกเซอร์เพิ่มอีก 30 คัน ปัจจุบันขยายไปแล้ว 10 คัน  อย่างไรก็ดี บริษัทฯ กำลังเดินหน้าพูดคุยกับลูกค้ารายใหม่ๆ เพื่อขยายการให้บริการไปยังอุตสาหกรรมอื่นๆ เพิ่มเติม อาทิ บริการขนส่งสินค้าเฉพาะทาง และสินค้าอุปโภคบริโภค ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างพูดคุย คาดว่าจะเห็นความคืบหน้าในช่วงปลายปีนี้จนถึงต้นปีหน้า สนับสนุนโอกาสการเติบโตอย่างมั่นคงในอนาคต ขณะที่ผลประกอบการในปี 2564 มั่นใจจะเติบโตจากปีก่อนที่มีรายได้รวม 614.9 ล้านบาท กำไรสุทธิ 34.8 ล้านบาท อีกทั้ง MENA มีนโยบายในการจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราไม่น้อยกว่า 40%

“แผนการเข้า SET ครั้งนี้ โดยมี บริษัท ที่ปรึกษา เอเซีย พลัส จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และได้แต่งตั้ง บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด เป็นแกนนำการเสนอขายหุ้นไอพีโอของ MENA พร้อมด้วย 4 บริษัทหลักทรัพย์ชั้นนำ คาดว่า จะได้รับความสนใจจากนักลงทุน เนื่องจากเราเป็นหุ้นที่อยู่ในอุตสาหกรรมที่มีการเติบโต รับอานิสงส์การลงทุนในประเทศ และการเข้าจดทะเบียนในครั้งนี้ จะทำให้ MENA มีความพร้อมและแข็งแกร่งยิ่งขึ้น จากโครงการในมือที่เราเตรียมต่อยอด และอยู่ระหว่างสานต่อให้สำเร็จ คาดจะแจ้งความคืบหน้าให้นักลงทุนได้ในช่วงปลายปีนี้” นางสุวรรณา กล่าวทิ้งท้าย

MENA แย้มแผนเทรดใน SET ต้น ก.ค. นี้

หุ้นน้องใหม่ไอพีโอ “มีนาทรานสปอร์ต” หรือ MENA ย้ำความสำเร็จการจัดงาน IPO ROADSHOW ควงแขน บล.เอเซีย พลัส แกนนำการเสนอขายหลักทรัพย์ โชว์แผนธุรกิจให้บริการขนส่งมีการเติบโต และมั่นคงตามแผนพัฒนางานโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ รวมทั้ง การเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ จะทำให้ MENA เป็นที่รู้จัก และได้รับความเชื่อมั่นจากลูกค้าทั้งกลุ่มเดิมและขยายไปยังฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ ทั้งนี้ MENA คาดจะเสนอขายไอพีโอในช่วงปลายเดือนมิถุนายน และเตรียมสยายปีกธุรกิจขนส่งเข้าจดทะเบียนใน SET ต้นกรกฏาคม 64 นี้ ตามแผน

นางสุวรรณา ขจรวุฒิเดช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มีนาทรานสปอร์ต จำกัด  (มหาชน) หรือ MENA เปิดเผยว่า บริษัทได้นำเสนอข้อมูลธุรกิจ จุดแข็ง และโอกาสการเติบโตในอนาคตให้แก่นักลงทุน เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2564 ที่ผ่านมา ผ่านช่องทางออนไลน์ เพื่อเตรียมเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน (IPO) ของ MENA ในครั้งนี้ จำนวนไม่เกิน 184 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) 0.50 บาทต่อหุ้น คิดเป็น 25.1% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดของ บริษัทฯ ภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนในครั้งนี้ โดยปัจจุบัน บริษัทฯ มีทุนจดทะเบียน 367 ล้านบาท เป็นทุนชำระแล้ว 275 ล้านบาท โดยมี บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย ร่วมให้ข้อมูลความน่าสนใจของ MENA พร้อมต่อยอดความสำเร็จหลังการเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ สร้างความเชื่อมั่นให้แก่ลูกค้าและพันธมิตร รักษาความเป็นผู้นำในธุรกิจ อย่างต่อเนื่องและยั่งยืน

โดย MENA เป็นหนึ่งในผู้นำธุรกิจให้บริการขนส่งคอนกรีตผสมเสร็จด้วยรถมิกเซอร์ นอกจากนี้  บริษัทยังให้บริการขนส่งสินค้าเฉพาะทาง และสินค้าอุปโภคบริโภค ด้วยรถเทรลเลอร์ รวมทั้ง การจำหน่ายอุปกรณ์ และวัสดุก่อสร้าง ด้วยจุดเด่นในการบริหารจัดการรถ รวมจำนวนมากกว่า 600 คัน และพนักงานจัดส่งกว่า 500 คน พร้อมรองรับการขยายงานของลูกค้าในหลากหลายอุตสาหกรรม โดยคาดว่าจะเห็นความคืบหน้าแผนขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มใหม่ๆ ในช่วงปลายปีนี้ จากเดิมแข็งแกร่งในกลุ่มลูกค้าซึ่งเป็นบริษัทปูนซีเมนต์ชั้นนำ จึงได้รับปัจจัยบวกจากการขยายงานโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งเป็นแผนระยะยาว และมีความต้องการใช้บริการขนส่งของ MENA อย่างต่อเนื่อง

ยอดฤดี สันตติกุล รองกรรมการผู้อำนวยการ หัวหน้าสายงานตลาดทุน บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด

นางยอดฤดี สันตติกุล รองกรรมการผู้อำนวยการ หัวหน้าสายงานตลาดทุน บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด ในฐานะแกนนำผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย กล่าวว่า  MENA อยู่ระหว่างเตรียมเสนอขายหุ้นไอพีโอ โดยคาดว่าจะอยู่ในช่วงปลายเดือนมิถุนายนนี้ และเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในช่วงต้นเดือนกรกฎาคม 2564

ด้วยจุดเด่นของ MENA มีความเชี่ยวชาญในธุรกิจให้บริการขนส่ง สามารถรองรับงานได้หลากหลายและมีกลุ่มลูกค้าทั่วประเทศ โดยเป็นผู้ให้บริการขนส่งด้วยรถมิกเซอร์ ที่มีจำนวนรถเป็นอันดับต้นๆ ของอุตสาหกรรม มีความพร้อมในการรับงานขนาดใหญ่ พร้อมให้บริการแบบ One Stop Service และมี Economy of scale ในการขยายกองยาน ไม่ทำให้ค่าใช้จ่ายการบริหารกองยานเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ บริษัทมีความสามารถในการทำกำไรสม่ำเสมอ และมีกำไรสะสมอยู่ในระดับสูง โดย ณ ไตรมาส 1/2564 มีกำไรสะสมอยู่ที่ 211 ล้านบาท และบริษัทมีนโยบายการจ่ายปันผลไม่น้อยกว่า 40% ของกำไรสุทธิ

ทั้งนี้ ปัจจุบันบริษัทมีกองยานรถมิกเซอร์จำนวน 466 คัน และมีรถเทรลเลอร์ (หัวลาก) 75 คัน นอกจากนี้ ยังมีรถกึ่งพ่วง หรือหางลากประเภทต่างๆ 105 คัน รวมทั้ง มีพนักงานจัดส่งภายใต้การบริหารกว่า 500 คน

วัตถุประสงค์การระดมทุนครั้งนี้ บริษัทฯ จะนำไปใช้สำหรับลงทุนในโครงการในอนาคต จ่ายคืนหนี้สิน และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการประกอบกิจการ  โดยโครงการในอนาคตของบริษัทฯ มีนโยบายกำหนดอัตราผลตอบแทนภายในขั้นต่ำ (IRR) เพื่อประโยชน์แก่บริษัทฯ และผู้ถือหุ้น  ย้ำความเชื่อมั่นในงานโรดโชว์ครั้งนี้ ในฐานะหุ้นน้องใหม่พื้นฐานแข็งแกร่ง มีธรรมาภิบาลที่ดี พร้อมเข้าตลาดทุนสู่ความยั่งยืน