KUN ปรับเกมรุก ชู 3 กลยุทธ์ฝ่าโควิด-19

บมจ.วิลล่า คุณาลัย (KUN) วางแผนเชิงรุกชูหัวใจหลักปรับยุทธ์ศาสตร์ ชู 3 “KEY SUCCESS” ขับเคลื่อนองค์กรสู่ความสำเร็จฝ่าวิกฤติโควิด-19 พร้อมเตรียมผุดโครงการใหม่ ครึ่งปีหลัง 2 โปรเจกต์ ส่งซิกในปี64 ธุรกิจเติบโตก้าวกระโดด ทั้งเป้ายอดขาย (Presale) เป้าหมายรายได้ ส่อแววทุบสถิติสูงสุดใหม่ (นิวไฮ)ต่อเนื่อง

นางประวีรัตน์ เทวอักษร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วิลล่า คุณาลัย จำกัด (มหาชน) หรือ KUN เปิดเผยว่า จากสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 จนส่งผลกระทบต่อภาพรวมเศรษฐกิจเป็นวงกว้าง ภาคบริโภคเกิดการชะลอตัว ทำให้แต่ละองค์กรต้องเร่งปรับกลยุทธ์ทางธุรกิจเพื่อปรับตัวให้สอดรับกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน ซึ่ง KUN ได้วางแผนเชิงรุกชูหัวใจหลักปรับยุทธ์ศาสตร์โดยการดึง 3 KEY SUCCESS  หลักในการพาองค์กรฝ่ากวิกฤตโควิด จนประสบความสำเร็จ ทั้งนี้ บริษัทฯมุ่งเน้น 1).หลักความสามารถในการปรับตัว (ADAPTIBILITY) ซึ่งบริษัทฯได้มีความยืดหยุ่น โดยปรับรูปแบบในการบริหารองค์ เพื่อให้เข้ากับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น

2).หลักความแม่นยำในการตัดสิน (DECISION ACCURACY) โดยบริษัทฯมองหาโอกาสและจังหวะการลงทุน (พลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส)ซึ่งบริษัทฯเล็งเห็นโอกาสของกลุ่มผู้บริโภคที่มีความต้องการที่อยู่อาศัยที่ความคุ้มค่าทั้งพื้นที่ภายในบ้าน และ ราคาที่เหมาะสม ซึ่งโครงการบ้านของคุณาลัยได้มีการปรับให้ทุกพื้นที่ภายในบ้านตอบโจทย์ทุกความต้องการได้อย่างลงตัว และ 3.หลักการจัดสรรด้านทรัพยากรให้เหมาะสม (RESOURCE ALLOCATION) โดยบริษัทฯเน้นการบริหารทรัพยากรบุคคลและการบริหารทรัพยากรอื่นๆให้เกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผลสูงสุดในการดำเนินงาน รวมถึงการบริหารจัดการเครื่องมือทางการเงิน เพื่อขยายการลงทุนให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นมากที่สุด

“บริษัทฯใช้เครื่องมือการออกหุ้นกู้แปลงสภาพ โดยกำหนดวันรายชื่อผู้มีสิทธิในการรับจัดสรรหุ้นกู้แปลงสภาพ (Record Date) ในวันที่ 1ก.ย.นี้  โดยจะขึ้นเครื่องหมาย XB ในวันที่ 31 ส.ค.นี้  และกำหนดวันเสนอขายหุ้นกู้แปลงสภาพในวันที่ 27-30 ก.ย. ซึ่งผู้ถือหุ้นทุกคนมีสิทธิ์จองซื้อหุ้นแปลงสภาพดังกล่าวได้  ขณะเดียวกันบริษัทฯเตรียมเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมที่จองซื้อหุ้นกู้แปลงสภาพตามสัดส่วนการถือหุ้น (Right Offering) โดยจะจัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นที่จองซื้อหุ้นกู้แปลงสภาพตามสัดส่วนจำนวนหุ้นที่ผู้ถือหุ้นในอัตราส่วน 1 หน่วยหุ้นกู้แปลงสภาพ ต่อ 1,000 หน่วยใบสำคัญแสดงสิทธิ (KUN-W1) ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นการนำเครื่องมือทางการเงินมาใช้ในการขับเคลื่อนธุรกิจในวิกฤตโควิด -19 ที่เกิดขึ้น”

สำหรับภาพรวมธุรกิจในช่วงครึ่งหลังนั้น นางประวีรัตน์ กล่าวว่า บริษัทฯมีแผนเปิดโครงการใหม่ 2 โครงการ ภายใต้ชื่อ “คุณาลัย Daisy” พื้นที่ 185 ยูนิต มูลค่าโครงการ 686 ล้านบาท จำนวน 1 โครงการ โดยคาดว่าจะเปิดตัวโครงการภายในไตรมาส 4/2564 นอกจากนี้ บริษัทฯเตรียมเปิดตัวโครงการในทิศที่3 ตั้งอยู่ในทิศใต้ โซนพระราม 2  ภายใต้โครงการ “คุณาลัย นาวาร่า” พื้นที่ 431 ยูนิต มูลค่าโครงการ 2,780 ล้านบาท จำนวน 1 โครงการ ซึ่งคาดจะสามารถเปิดขายได้ภายในไตรมาส 1/2565 โดยโครงการใหม่ทั้ง 2 โครงการ บริษัทฯคาดว่าจะสร้างการรับรู้รายได้ในปี 2-3 จากนี้

 “บริษัทฯเดินหน้ากระจายความเสี่ยงในการรับรู้รายได้ จากโซนอื่นๆที่ไม่ใช่นนนทบุรี บางบัวทอง เพียงอย่างเดียว โดยในปี 2564 บริษัทฯตั้งเป้าหมายจะมีรายได้จากจากโซนอื่น 16 % ของรายได้รวม จากปีก่อนที่มีสัดส่วน 14% โดยปัจจุบันบริษัทฯมีการรับรู้รายได้จากโครงการโซนทิศตะวันออก ได้แก่ คุณาลัย จอย ออน 314 จังหวัดฉะเชิงเทราเท่านั้น ดังนั้นในอนาคต หากโครงการ คุณาลัย นาวาร่า (พระราม 2 ) ซึ่งเป็นทิศใต้ของกรุงเทพฯ แล้วเสร็จ จะส่งผล KUN จะกระจายความเสี่ยงของการรายได้เพิ่มมากขึ้น”

สำหรับภาพรวมการเติบโตในปี 2564 บริษัทฯวางเป้าหมายไว้ 3 ด้าน คือ 1. ตั้งเป้ายอดขาย (Presale) ไว้ที่ระดับ 1,500 ล้านบาท เติบโตขึ้นจากปีก่อนที่ทำได้ 1,410 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นการทำสถิติสูงสุดใหม่ (นิวไฮ)  ของบริษัทฯ  2. บริษัทฯเตรียมเปิดตัวโครงการใหม่ในครึ่งปีหลัง จำนวน 2 โครงการ โดยครึ่งปีแรกบริษัทฯได้เปิดตัวโครงการ คุณาลัย PARCO มูลค่า 485 ล้านบาท แบบ Soft opening ไปแล้ว ซึ่งได้กระแสการตอบรับที่ดี และ 3. บริษัทฯได้วางเป้าหมายรายได้จะเติบโตที่ระดับ 10 -15% ซึ่งจะเป็นการเติบโตทำนิวไฮ จากการรับรู้ Backlog มูลค่า 380 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ภายในช่วงครึ่งหลังของปี 2564 ทั้งหมด โดยโครงการที่จะทยอยรับรู้รายได้ในช่วงครึ่งปีหลังประกอบด้วย 6 โครงการ ได้แก่ 1.โครงการ คุณาลัย Courtyard , 2.โครงการ คุณาลัย Joy, 3.โครงการ คุณาลัย Preem, 4.โครงการ คุณาลัย Begins 2, 5.โครงการ คุณาลัย Parco และ 6.โครงการ คุณาลัย Joy on 314

 อย่างไรก็ตาม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ยังได้กล่าวทิ้งท้ายว่า บริษัทฯยังมีนโยบายรักษาอัตรากำไรสุทธิ (Net Profit Margin) ให้อยู่ในระดับ 15% โดยการมุ่งดูแลและบริหารจัดการต้นทุน ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อรักษามาร์จิ้นให้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้  ทั้งนี้เพื่อให้มาร์จิ้นให้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ บริษัทฯจึงเน้นให้ความสำคัญกับการพัฒนาสินค้าเป็นหลัก ซึ่งในโซนบางบัวทอง ถือเป็นโซนที่เป็นเรือธง (Flagship) ของ KUN เพราะมีสินค้าครบทุกแบบที่บริษัทได้มีการพัฒนามา และมีกลุ่มลูกค้าหลักอยู่ในโซนดังกล่าวด้วย และเพื่อเป็นการตอบโจทย์ในการพัฒนาสินค้ามากขึ้น บริษัทฯจึงได้เพิ่มนวัตกรรมต่างๆ เข้ามาใช้ในการพัฒนาสินค้า ทั้งการจัดพื้นที่ภายในบ้าน และการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าจากเซลล์แสงอาทิตย์บนหลังคาอาคาร (Solar Rooftop) ภายในโครงการบ้านจัดสรรของคุณาลัย เพื่อช่วยลดภาระให้กับลูกค้า

KUN ผนึก ALT ผุดโปรเจค Solar Rooftop แห่งแรกย่านบางบัวทอง

บมจ. วิลล่า คุณาลัย (KUN) ผนึกกำลัง “เอแอลที เทเลคอม” ผุดโปรเจคSolar Rooftop ภายในโครงการบ้านจัดสรรของคุณาลัย นำร่องโครงการอสังหาฯแนวราบแห่งแรกโซนบางบัวทอง “คุณาลัย พรีม” จำนวน 40 หลัง ช่วยลดค่าไฟให้ลูกค้าเฉลี่ย 1,500  บาทต่อเดือน คาดติดตั้งแล้วเสร็จQ4/64 พร้อมตั้งเป้า2-3 ปี(2564-2566) เดินหน้าติดตั้ง Solar Rooftopไม่ต่ำกว่า 50-60% ของโครงการบ้านทั้งหมด

นางประวีรัตน์ เทวอักษร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วิลล่า คุณาลัย จำกัด (มหาชน) หรือ KUN  ผู้นำด้านธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์แนวราบเพื่อขาย โดยเน้นพื้นที่ในเขตปริมณฑลโดยเฉพาะอำเภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี เปิดเผยว่าบริษัทฯได้ผนึกกำลังพันธมิตรทางธุรกิจกับ บริษัทเอแอลที เทเลคอม จำกัด (มหาชน) หรือ ALT ในการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าจากเซลล์แสงอาทิตย์บนหลังคาอาคาร (Solar Rooftop)ภายในโครงการบ้านจัดสรรของคุณาลัย โดยเบื้องต้นจะนำร่องโปรเจคแรกโครงการคุณาลัย พรีม  โซนบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี จำนวน 40 หลัง ทั้งนี้สำหรับโครงการดังกล่าวคาดว่าจะติดตั้งแล้วเสร็จอย่างเร็วที่สุดภายในไตรมาส4/2564 ซึ่งถือได้ว่าเป็นโครงการอสังหาริมทรัพย์แนวราบแห่งแรกในย่านบางบัวทอง ที่ติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าจากเซลล์แสงอาทิตย์บนหลังคา

สำหรับวัตถุประสงค์การติดตั้ง Solar Rooftop ในครั้งนี้ เนื่องจากบริษัทฯคำนึงถึงการเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยมุ่งเน้นให้ที่อยู่อาศัยโครงการที่พัฒนาโดยคุณาลัย ทุกโครงการได้ใช้พลังงานสะอาด เพราะต้องยอมรับว่าแนวโน้มผู้บริโภคในปัจจุบันหันมาให้ความสนใจการใช้พลังงานไฟฟ้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ดังนั้นมองว่า Solar Rooftop ที่นอกจากจะเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมแล้ว ยังสามารถช่วยประหยัด ช่วยลดต้นทุนการใช้ไฟฟ้ารวมถึงสามารถขายไฟคืนให้หน่วยงานรัฐ เพื่อสร้างรายได้เพิ่มให้กับเจ้าของบ้านกรณีไฟฟ้าเหลือใช้อีกด้วย

อีกทั้งยังถือเป็นการเพิ่มมูลค่าทรัพย์สินให้กับบ้าน และโครงการ ในระยะยาวอีกด้วย  เพื่อเตรียมสู่การเปลี่ยนแปลงไปสู่ Smart home  ที่อยู่อาศัยของยุคดิจิทัล ที่ทั้งประหยัดพลังงาน เป็นพลังงานสะอาด  และรองรับการใช้งานของรถยนต์ไฟฟ้าที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้

ทั้งนี้เชื่อว่า หากมีการติดตั้งแล้วเสร็จ จะสามารถช่วยลดต้นทุนค่าใช้จ่ายค่าไฟฟ้าให้ลูกค้าในโครงการได้เฉลี่ยถึง 1,500 บาทต่อเดือน ซึ่งสามารถตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าในปัจจุบันอย่างมากเนื่องจากด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้เกิดการ Work from Home ทำให้มีค่าไฟสูงขึ้น แต่อย่างไรก็ตามหากสถานการณ์กลับสู่ภาวะปกติก็สามารถที่จะยื่นเรื่องขออนุญาต ขายไฟฟ้ากลับคืนให้ภาครัฐได้ เนื่องจากได้มีการขอใบอนุญาตรองรับไว้เรียบร้อยแล้ว

“ โดยส่วนตัวมองว่า ความร่วมมือระหว่าง KUN และ ALT ในครั้งนี้ เชื่อว่าเป็นการต่อยอดระหว่าง  2  บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ภายใต้การเป็น Strategic Partner ร่วมกัน โดย ALT มีศักยภาพในการ เป็นผู้นำให้บริการโครงสร้างพื้นฐานสำหรับธุรกิจดิจิทัล และพลังงานทดแทน และมีบริษัทลูก เป็นตัวแทนจัดจำหน่ายแผงโซล่าเซลล์ในประเทศไทย ภายใต้แบรนด์ “Q CELLS” ซึ่งเป็นผู้ผลิตแผงโซล่าเซลล์ชั้นนำของโลกที่ใช้เทคโนโลยีของประเทศเยอรมัน อีกทั้งยังให้บริการในรูปแบบ One Stop Repair Service Center ดังนั้นด้วยศักยภาพของ ALT ยิ่งเป็นเครื่องพิสูจน์ให้เห็นถึงความน่าเชื่อถือและความเป็นมืออาชีพทางธุรกิจดังกล่าว”

อย่างไรก็ตาม ในอนาคตบริษัทฯตั้งเป้าหมายที่จะติดตั้ง Solar Rooftop ให้บ้านทุกโครงการที่พัฒนาโดยคุณาลัย ซึ่งคาดว่าภายในระยะ 2-3 ปีนี้ ( 2564-2566) จะมีสัดส่วนบ้านที่ติดตั้งแผงโซล่าเซลล์ ไม่ต่ำกว่า 50-60% ของโครงการบ้านที่บริษัทฯพัฒนาแล้วทั้งหมด

ด้าน นางสาวปรียาพรรณ ภูวกุล รองกรรมการผู้อำนวยการ บริษัทเอแอลที เทเลคอม จำกัด (มหาชน) หรือ ALT กล่าวถึงความร่วมมือกับบริษัท วิลล่า คุณาลัย จำกัด (มหาชน) หรือ KUN  ในการติดตั้งแผงโซลาร์รูฟท็อปให้กับบ้านจัดสรร ถือเป็นโครงการนำร่องของ ALT  ในการติดตั้งแผงโซลาร์รูฟท็อปให้กับโครงการบ้านจัดสรร

ทั้งนี้การติดตั้งแผงโซลาร์เหมาะกับคนที่ต้องอยู่บ้านในช่วงเวลากลางวัน โดยเฉพาะในช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19ที่รุนแรงมากขึ้น ทำให้พฤติกรรมการใช้ชีวิตของคนเปลี่ยนไป มีการ Work From Homeมากขึ้น อยู่บ้านเป็นหลักในช่วงเวลากลางวัน  ส่งผลให้มีการใช้ไฟฟ้าในช่วงเวลาดังกล่าวมากขึ้น และการติดตั้งแผงโซลาร์ที่ใช้พลังงานจากแสงอาทิตย์ ซึ่งเป็นพลังงานสะอาด จะช่วยประหยัดค่าไฟฟ้าต่อเดือนได้มาก

การดำเนินการติดตั้งแผงโซลาร์ดังกล่าว ALTจะบริหารจัดการให้ทุกอย่างครบวงจร หรือ One Stop Service  ทั้งการติดต่อดำเนินการกับการไฟฟ้าและภาครัฐที่เกี่ยวข้อง การให้บริการหลังการขาย  หรือในอนาคตหากติดตั้งแผงโซลาร์แล้วลูกบ้านมีไฟฟ้าเหลือใช้ ALTยังบริการให้ลูกค้าสามารถเป็นผู้ขายไฟฟ้าคืนให้กับการไฟฟ้าได้อีกด้วย

“โครงการติดตั้งแผงโซลาร์ในโครงการหมู่บ้านของคุณาลัย นี้ ALTเน้นในผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพระดับโลก โดยเลือกใช้แผงโซลาร์แบรนด์ Q-CELLs ถือเป็นแบรนด์ ระดับเทียร์ 1 และ อินเวอร์เตอร์ของบริษัทหัวเหว่ยฯ สำหรับการดูแลหลังการขาย  ทางเรารับประกันดูแลและซ่อมบำรุงให้ฟรีนานถึง2 ปีรับประกันแผง 12 ปี และรับรองประสิทธิภาพการผลิตไฟฟ้าจากแผงนาน 25 ปี อีกด้วย”นางสาวปรียาพรรณกล่าว

KUN ครึ่งปีหลังลุยสร้างอาณาจักรใหม่ “คุณาลัย นาวาร่า”

บมจ. วิลล่า คุณาลัย (KUN) ฟอร์มดีต่อเนื่อง โตสวนกระแสโควิด โชว์งบกำไรไตรมาส2/2564 พุ่งกระฉูด 159.31% YoY แตะระดับ 41.10 ล้านบาท ขณะที่รายได้รวมอยู่ที่ 255.13 ล้านบาท หลังยอดขาย 6 เดือนแตะ 730 ล้านบาท พร้อมแจกปันผลระหว่างกาล 0.05 บาทต่อหุ้น เตรียม XD วันที่ 26 ส.ค.2564 นี้ ด้าน CEO “ประวีรัตน์ เทวอักษร” เดินเกมรุกครึ่งปีหลัง จ่อผุดโปรเจคทิศที่3แห่งใหม่ ภายใต้ชื่อ “คุณาลัย นาวาร่า” มูลค่าลงทุน 2,350 ล้านบาท ระบุความต้องการบ้านแนวราบยังไม่ลดลงหลังไลฟ์สไตล์คนเปลี่ยน สู่ชีวิตวิถีใหม่ (New Normal) มั่นใจปีนี้รายได้โตตามแผน 10-15% อย่างแน่นอน

นางประวีรัตน์ เทวอักษร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วิลล่า คุณาลัย จำกัด (มหาชน) หรือ KUN เปิดเผยว่า  บริษัทฯ ประสบความสำเร็จจากผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/2564 สิ้นสุด ณ 30 มิถุนายน 2564 มีรายได้รวม เท่ากับ 255.13 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 55.11% YoY และกำไรสุทธิ เท่ากับ 41.10 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 159.31% YoY เนื่องจากโครงการของบริษัทฯ ได้รับการตอบรับที่ดีต่อเนื่องจากไตรมาสแรกที่ผ่านมา โดยเฉพาะโครงการคุณาลัย พรีม ซึ่งเป็นโครงการขายดีที่สุดของบริษัทฯ นอกจากนี้บริษัทฯรับรู้รายได้จากอีก 4 โครงการประกอบด้วย โครงการคุณาลัย จอย , คุณาลัย บีกินส์ 1, คุณาลัย บีกินส์ 2 และคุณาลัย จอย ออน 314

ในขณะที่งวด 6 เดือนแรกปี 2564 บริษัทฯ มีรายได้รวมเท่ากับ 446.11 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 36.41% YoY และกำไรสุทธิ เท่ากับ 68.50 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 41.14 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 150% YoY ซึ่งเป็นผลมาจากการรับรู้รายได้จากการจากโอนกรรมสิทธิ์โครงการที่อยู่ในโซนบางบัวทองและฉะเชิงเทรา โดยเฉพาะโครงการคุณาลัยพรีมที่เป็นสินค้าขายดีของบริษัทฯ สามารถทำ market share ได้สูงมากในโซนบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี จากความสำเร็จดังกล่าว ส่งผลให้ครึ่งปีแรก 2564 บริษัทฯมียอดขาย (Pre-sales) อยู่ที่ 730 ล้านบาท ขณะที่ยอดBacklog ณ สิ้นไตรมาส 2/2564 เท่ากับ 380 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ภายในครึ่งหลังทั้งหมด

“ ตั้งแต่ช่วงสถานการณ์โควิด บริษัทฯได้มีการปรับกลยุทธ์เพื่อฝ่าวิกฤตครั้งนี้ไปให้ได้ ไม่ว่าจะเป็นกลยุทธ์ด้านการจัดหาเงินทุนและบริหารสภาพคล่อง เพื่อให้เพียงพอกับพัฒนาโครงการของKUN รวมถึงการปรับกลยุทธ์การขาย ที่หันมาเน้นการสื่อสารผ่านช่องทางสื่อออนไลน์ให้ตรงกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย และที่สำคัญ บริษัทฯยังพยายามที่จะสร้างบ้านให้เสร็จทันเวลา เพื่อให้ส่งมอบบ้านให้กับลูกค้านอกจากนี้ยังบริหารงานร่วมกันกับผู้รับเหมาแต่ละราย ให้สอดคล้องกับกำลังการผลิต ในส่วนของมาตรการการป้องกันโควิด-19 เราตั้งเป้าหมายร่วมกันกับทุก Stakeholders ให้เป็น “คุณาลัย=หมู่บ้านมีภูมิ” ที่มุ่งเน้นให้ทุกคนได้รับวัคซีนอย่างน้อยเข็มแรกครบ 100% ซึ่งปัจจุบันสามารถทำได้มากกว่า 70% แล้วในด้านผู้รับเหมาที่จะเข้ามาปฏิบัติงานในพื้นที่ก่อสร้างโครงการของบริษัทฯ จะต้องผ่านการดูแลอย่างเข้มงวด ซึ่งได้ทำอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่เริ่มมีสถานการณ์โควิดเมื่อปีที่แล้วทั้งนี้บริษัทฯยังมุ่งเน้นการสร้างมาตรฐานการอยู่อาศัยในแคมป์ก่อสร้าง และยังให้ความช่วยเหลือคนงาน เช่นในการจัดหาอาหารกลางวันให้กับคนงานก่อสร้าง เพื่อป้องกันความเสี่ยงอีกด้วย”

 นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ได้มีมติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลงวดผลการดำเนินงานครึ่งปีแรกประจำปี 2564 จำนวน 0.05 บาทต่อหุ้น รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 34.32 ล้านบาท ซึ่งสะท้อนถึงผลการดำเนินงานที่ดีในช่วงครึ่งปีแรก โดยกำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) ในวันที่ 26 ส.ค. 2564 และจะทำการจ่ายเงินปันผลในวันที่ 10 ก.ย.2564 นี้

ส่วนทิศทางในครึ่งปีหลังนั้น นางประวีรัตน์ CEO KUN กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทฯมีแผนในการพัฒนาโครงการซึ่งเป็นทิศที่3 ภายใต้โครงการ “คุณาลัย นาวาร่า” ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งโครงการในแผนธุรกิจของบริษัทฯ ที่วางนโยบายการกระจายการลงทุนให้ครบ 4 ทิศในรอบกรุงเทพฯ โดยโครงการดังกล่าวตั้งอยู่ในทิศใต้ โซนพระราม 2 โดยมีมูลค่าการลงทุนประมาณ 2,350 ล้านบาท และคาดว่าจะเริ่มพัฒนาโครงการได้ในช่วงปลายปี 2564 โดยจะแล้วเสร็จพร้อมเปิดขายในเชิงพาณิชย์ได้ภายในไตรมาส 1 ปี 2565 ทั้งนี้สำหรับโครงการดังกล่าวจะต้องผ่านการอนุมัติผู้ถือหุ้น การจัดประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นในวันที่ 25 ส.ค.นี้

สำหรับแนวโน้มอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์แนวราบนั้น โดยส่วนตัวมองว่า ยังมีดีมานด์อย่างต่อเนื่อง เพราะจากบ้านแนวราบจะเป็นกลุ่มเรียลดีมานด์ ซึ่งตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าต่อเนื่อง ในสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ที่ทำให้ลูกค้าต้องปรับตัวกับการใช้ชีวิตวิถีใหม่ การทำงานจากบ้าน การใช้ชีวิตภายในบ้านมากขึ้น รวมถึงการพัฒนาด้านเทคโนโลยีที่มาเร็วขึ้น จากปัจจัยดังกล่าวจึงทำให้บ้านแนวราบยังเป็นที่ต้องการของกลุ่มลูกค้าในปัจจุบัน

อย่างไรก็ตาม ภายใต้วิถีชีวิตที่เปลี่ยนไป ทำให้เกิดแนวคิดการอยู่อาศัยในรูปแบบใหม่ ภายใต้ EVERYTHING AT HOME ทุกสิ่งเกิดขึ้นที่บ้าน เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคและรองรับกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น โดยชูจุดเด่นเรื่องพื้นที่ใช้สอยภายในบ้านที่เหนือคู่แข่ง ส่งผลให้ทุกโครงการของคุณาลัย ได้การตอบรับที่ดีและประสบความสำเร็จด้านยอดขายตลอดจนถึงปัจจุบัน ซึ่งจากแผนการปรับกลยุทธ์ดังกล่าวรวมถึงการบริหารจัดการและการควบคุมค่าใช้จ่าย ที่มีประสิทธิภาพ ทำให้บริษัทฯรักษาอัตรากำไรไว้ได้ในระดับสูง โดยอัตรากำไรสุทธิ (Net Profit Margin)อยู่ที่ 15.4 % ซึ่งยิ่งเป็นสิ่งที่ทำให้บริษัทฯมั่นใจว่าแผนการปรับกลยุทธ์ดังกล่าวจะส่งให้ภายในปีนี้ บริษัทฯจะมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 10-15% ตามแผนที่วางไว้ ภายใต้แรงกดกันจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 แต่บริษัทฯยังคงมุ่งมั่นรักษายอดขายให้ได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้