GPI ผลงานครึ่งปีแรกแข็งแกร่ง ทำกำไรสุทธิ 115.16 ล้าน

บมจ.กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล หรือ GPI ชูผลการดำเนินงานครึ่งปีแรกแข็งแกร่ง ทำกำไรสุทธิ 115.16 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 203% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากการรับรู้รายได้งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2021 ธุรกิจรับจ้างพิมพ์และควบคุมค่าใช้จ่ายได้ดี บอร์ดไฟเขียวจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล 0.03 บาทต่อหุ้น เตรียมขึ้น XD วันที่ 25 สิงหาคมนี้ คาดรักษาผลการดำเนินงานทั้งปีไม่ต่ำกว่าปีที่ผ่านมา หลังไตรมาส 3/2564 เตรียมรับรู้รายได้เพิ่มจากธุรกิจรับจ้างพิมพ์ รุกปรับกลยุทธ์ธุรกิจจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดสู่รูปแบบออนไลน์ และพัฒนาแอปพลิเคชัน Car Buddy by GPI เพื่อเพิ่มโอกาสสร้างรายได้ มุ่งควบคุมค่าใช้จ่ายรับมือเศรษฐกิจผันผวน

ดร.ปราจิน เอี่ยมลำเนา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ GPI ผู้นำสร้างสรรค์การจัดกิจกรรมให้บริการข่าวสาร ข้อมูล สาระ เพื่อสร้างประสบการณ์ และความบันเทิง ที่น่าประทับใจตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้ยานยนต์ เปิดเผยว่า บริษัทฯ สามารถรักษาผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2564 เติบโตอย่างต่อเนื่องจากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีรายได้จากการขายและบริการ 123.99 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 748% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 16.87 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 132% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

ปัจจัยที่บริษัทฯ สามารถรักษาการเติบโตอย่างต่อเนื่องมาจากการรับรู้รายได้จากการจัดงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2021 ส่วนที่เหลืออีก 4 วัน รายได้จากธุรกิจรับจ้างพิมพ์ที่เพิ่มขึ้นและการมุ่งเน้นควบคุมค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารที่มีประสิทธิภาพ ส่งผลดีต่อรายได้และผลกำไรที่เป็นไปตามเป้าหมาย

ขณะที่ภาพรวมผลการดำเนินงานงวดครึ่งปีแรก มีรายได้จากการขายและบริการ 448.08 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 976% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 115.16 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 203% โดยการเติบโตมาจากการรับรู้รายได้จากการจัดงานบางกอก อินเตอร์ มอเตอร์โชว์ 2021 ธุรกิจรับจ้างพิมพ์ และการควบคุมค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ ล่าสุดที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) บริษัทฯ จึงมีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากผลการดำเนินงานครึ่งปีแรกในอัตราหุ้นละ 0.03 บาท กำหนดขึ้นเครื่องหมาย XD ในวันที่ 25 สิงหาคมนี้ และจ่ายเงินปันผลแก่ผู้ถือหุ้นในวันที่ 10 กันยายน 2564

ดร.ปราจิน กล่าวอีกว่า สำหรับแนวโน้มการดำเนินงานในปี 2564 คาดว่าบริษัทฯ จะสามารถรักษาผลการดำเนินงานไม่ต่ำกว่าปีที่ผ่านมาที่มีรายได้จากการขายและบริการกว่า 509.4 ล้านบาท แม้สถานการณ์เศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีหลังมีความผันผวน และมีการบังคับใช้มาตรการล็อกดาวน์เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของ COVID-19 ส่งผลกระทบกระทบต่อการจัดกิจกรรมและกำลังซื้อของผู้บริโภค โดยจะมุ่งเพิ่มรายได้จากธุรกิจเดิมและมองโอกาสขยายการลงทุนธุรกิจใหม่ รวมถึงมุ่งเน้นการบริหารงานอย่างรัดกุมและควบคุมค่าใช้จ่ายการดำเนินงานอย่างมีประสิทธิภาพ

ทั้งนี้ ในปัจจุบันบริษัทฯ มีงานรับจ้างพิมพ์ที่อยู่ระหว่างดำเนินการเพื่อทยอยรับรู้รายได้ในช่วงไตรมาส 3/2564 รวมมูลค่าประมาณ 3 ล้านบาท และได้ปรับกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดให้แก่ผู้ประกอบการยานยนต์ มุ่งเน้นการนำเสนอกิจกรรมส่งเสริมการตลาดผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์เพิ่มขึ้นให้สอดคล้องกับสถานการณ์ ล่าสุดได้รับงานจากค่ายรถ Mini เป็นผู้จัดทำวิดีโอ พรีเซนเทชั่น เพื่อใช้โปรโมตภายในงานแนะนำรถกับกลุ่มลูกค้าเป้าหมายผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ และอยู่ระหว่างเสนองานกับผู้ประกอบการยานยนต์ชั้นนำจากยุโรปอีก 2 แบรนด์ คาดว่าจะได้ข้อสรุปในเร็วๆ นี้

ขณะเดียวกัน บริษัท ออโตเมทริกซ์ โซลูชั่นส์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง GPI และ บริษัท วายดีเอ็ม (ไทยแลนด์) จำกัด เพื่อดำเนินธุรกิจด้านดิจิทัลมีเดียและการจัดเก็บข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) หลังจากได้ร่วมมือกันพัฒนาแอปพลิเคชัน Car Buddy by GPI เพื่อให้บริการค้นหาอู่ซ่อมรถใกล้บ้านและบริการที่เกี่ยวเนื่องกับการบำรุงรักษารถ ล่าสุดได้พัฒนาฟังก์ชันใหม่ให้บริการค้นหาศูนย์บริการทำความสะอาดรถ (Car Care) แก่ลูกค้าที่สนใจ  เพื่อโอกาสสร้างรายได้จากการใช้แอปพลิเคชันโปรโมตศูนย์บริการหรือกิจกรรมโปรโมชั่นต่างๆ ให้แก่ลูกค้า รวมถึงมีแผนนำฐานข้อมูลผู้เข้าชมแอปพลิเคชันและเว็บไซต์ของบริษัทฯ ที่มีความต้องการซื้อรถรุ่นต่างๆ ในช่วงนี้ เพื่อเป็นคนกลางในการแมตชิ่งกับผู้ประกอบการยานยนต์แบรนด์ต่างๆ ซึ่งจะเป็นอีกหนึ่งโมเดลธุรกิจที่จะสร้างรายได้แก่บริษัทฯ ในอนาคต

นอกจากนี้ หลังจากบริษัทฯ เข้าถือหุ้น 25.45% ในบริษัท ทรูเอ็นเนอร์จี จำกัด เพื่อเข้าร่วมลงทุนในธุรกิจโรงไฟฟ้าเชื้อเพลิงจากขยะ (RDF) จังหวัดนครสวรรค์ กำลังการผลิตติดตั้ง 9 เมกะวัตต์ (MW) ปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนขอใบอนุญาตประกอบกิจการจากภาครัฐ หากสามารถผลิตไฟฟ้าเพื่อจำหน่ายเชิงพาณิชย์ จะสามารถรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากธุรกิจดังกล่าว

GPI ชูงานรับจ้างพิมพ์และธุรกิจใหม่เติมรายได้ครึ่งปีหลัง

บมจ.กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล หรือ GPI รุกขยายงานในช่วง COVID-19 เร่งสร้างรายได้ต่อเนื่องในช่วง ครึ่งปีหลัง ชูกลุ่มธุรกิจงานรับจ้างพิมพ์ได้รับงานใหม่ พร้อมรุกเข้าสู่ธุรกิจซื้อรถสะสมและรถแข่งนำมาปรับแต่งให้อยู่ในสภาพดีเพื่อจำหน่ายแก่ผู้ที่สนใจ ชี้เป็นกลุ่มลูกค้าระดับบนที่มีกำลังซื้อสูงและแทบไม่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจ 

นายจาตุรนต์ โกมลมิศร์ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ บมจ.กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล หรือ GPI ผู้นำสร้างสรรค์การจัดกิจกรรมให้บริการข่าวสาร ข้อมูล สาระ เพื่อสร้างประสบการณ์ และความบันเทิง ที่น่าประทับใจตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้ยานยนต์ เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดระลอกใหม่ของโรค COVID-19 ในปัจจุบัน ที่มีผู้ติดเชื้อใหม่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลกระทบต่อภาพรวมเศรษฐกิจและการดำเนินธุรกิจในวงกว้าง อย่างไรก็ตามบริษัทฯ ไม่ได้หยุดนิ่งที่จะขยายการรับงานและมองโอกาสขยายธุรกิจใหม่ที่จะสร้างรายได้อย่างต่อเนื่องในช่วงครึ่งปีหลัง 

ทั้งนี้ บริษัทฯ มุ่งเน้นสร้างรายได้จากธุรกิจเดิมและมองโอกาสขยายการลงทุนในธุรกิจที่น่าสนใจเพื่อสร้างรายได้เพิ่มขึ้น ล่าสุดกลุ่มธุรกิจงานรับจ้างพิมพ์ได้รับงานพิมพ์ใหม่ ปัจจุบันอยู่ระหว่างดำเนินการและทยอยส่งมอบ ซึ่งจะส่งผลดีต่อภาพรวมรายได้ของบริษัทฯ 

พีระพงศ์ เอี่ยมลำเนา ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ บมจ.กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล หรือ GPI

นายพีระพงศ์ เอี่ยมลำเนา ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ บมจ.กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล หรือ GPI กล่าวต่อว่า ในช่วงที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้มองโอกาสนำประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในธุรกิจการจัดงานแสดงสินค้าด้านยานยนต์ ต่อยอดสู่ธุรกิจอื่นๆ เพื่อสร้างรายได้เพิ่มขึ้น ล่าสุดได้รุกเข้าสู่ธุรกิจซื้อขายรถสะสมซึ่งกำลังเป็นที่ต้องการในตลาด เช่น รถคลาสสิก, รถหายาก เป็นต้น โดยบริษัทฯ ซื้อรถดังกล่าวมาปรับแต่งให้อยู่ในสภาพดีและจำหน่ายให้แก่กลุ่มคนที่มีความชื่นชอบ ปัจจุบันได้ลงทุนซื้อรถสะสมแล้ว 6-7 คัน และอยู่ระหว่างดำเนินการปรับแต่งใหม่  

ขณะเดียวกัน ได้ขยายการลงทุนเข้าสู่ธุรกิจซื้อขายและปรับแต่งรถแข่ง โดยลงทุนซื้อรถเพื่อนำมาปรับแต่งเป็นรถแข่ง ปัจจุบันมีรถที่อยู่ระหว่างดำเนินการกว่า 20 คัน จากที่มีผู้สนใจจองแล้วประมาณ 30 คัน นอกจากนี้บริษัทฯ อยู่ระหว่างศึกษาการขยายธุรกิจดังกล่าวสู่รถประเภทอื่นๆ เช่น การตกแต่งรถแคมป์ปิ้ง เป็นต้น 

“แม้ภาพรวมเศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัว แต่บริษัทฯ มองโอกาสลงทุนเพื่อสร้างรายได้อย่างต่อเนื่อง โดยมองว่ากลุ่มคนที่เล่นรถสะสม รถแข่ง จัดเป็นลูกค้าระดับบนที่มีกำลังซื้อสูงและแทบไม่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจ จึงยังมีความต้องการซื้อรถกลุ่มดังกล่าวและพร้อมตัดสินใจซื้อทันที หากเป็นรุ่นที่ชื่นชอบหรือกำลังเป็นที่นิยม”นายพีระพงศ์ กล่าว