EA ไตรมาส 3 กำไรพุ่ง 44% เริ่มรับรู้รายได้จาก E-BUS

EA มั่นใจมาแน่! กระแสรถ EV รัฐบาลจ่อออกมาตรการสนับสนุนใช้รถไฟฟ้า ทั้งในส่วนของประชาชนทั่วไปและหน่วยงานภาครัฐ รับกระแสลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก โชว์ผลงาน Q3/64 ตามนัด กำไรพุ่งแตะ 1,616.26 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 44.44% เทียบงวดเดียวกันของปีก่อน บุ๊กรายได้ขายรถโดยสารพลังงานไฟฟ้า ฟาก “อมร ทรัพย์ทวีกุล” มั่นใจแนวโน้มผลงานเติบโตต่อเนื่อง จาก New S-Curve ธุรกิจแบตเตอรี่-ยานยนต์ไฟฟ้า และจากธุรกิจโรงไฟฟ้าที่สร้าง Recurring Income

นายอมร ทรัพย์ทวีกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA เปิดเผยว่า ภาพรวมธุรกิจในช่วงที่เหลือของปีนี้ คาดว่าจะเติบโตต่อเนื่องอย่างมีเสถียรภาพ โดยได้รับปัจจัยหนุนจากธุรกิจโรงไฟฟ้า ซึ่งถือเป็นธุรกิจหลัก สร้างรายได้ประจำ (Recurring Income) จากการขายไฟเข้าระบบเชิงพาณิชย์ ทั้งในส่วนของโครงการโซลาร์ฟาร์ม และวินด์ฟาร์ม ขนาดกำลังการผลิตรวม 664 เมกะวัตต์ และจากธุรกิจแบตเตอรี่ ยานยนต์ไฟฟ้า ซึ่งถือเป็น New S-Curve ที่จะทยอยส่งมอบรถโดยสารพลังงานไฟฟ้าให้กับลูกค้า โดยในส่วนของโรงงานผลิตรถโดยสารพลังงานไฟฟ้า ในจังหวัดฉะเชิงเทรา หลังเสร็จครบทั้งหมดจะมีกำลังการผลิตรถโดยสารพลังงานไฟฟ้าอยู่ที่ 3,000 คันต่อปี

นอกจากนี้ การที่รัฐบาลเตรียมออกมาตรการสนับสนุนใช้รถ EV ทั้งในส่วนของประชาชนทั่วไป และส่งเสริมหน่วยงานภาครัฐ เปลี่ยนมาใช้รถ EV เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก จะมีส่วนสำคัญในการสนับสนุนธุรกิจใหม่ของกลุ่ม EA เติบโตอย่างมีเสถียรภาพ จากการขายรถไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ให้กับภาคเอกชน และเจาะตลาดหน่วยงานภาครัฐ

ขณะที่ผลการดำเนินงานของบริษัทฯและบริษัทย่อย ในไตรมาส 3/64 มีกำไรสุทธิ 1,616.26 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 497.26 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 44.44% เทียบงวดเดียวกันของปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิรวม 1,119.00 ล้านบาท ส่วนในงวด 9 เดือน ของปี 2564 มีกำไรสุทธิ 4,218.76 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 498.28 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 13.39% เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 3,720.48 ล้านบาท

ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานในไตรมาส 3/64 ที่เติบโตอย่างมีนัยสำคัญ ได้รับปัจจัยหนุนจากทั้งจากธุรกิจไบโอดีเซล โรงไฟฟ้า ธุรกิจแบตเตอรี่ และธุรกิจผลิตรถโดยสารพลังงานไฟฟ้า ที่ทยอยส่งมอบรถให้กับลูกค้า ตามแผนงานที่วางไว้

EA ติดอันดับหุ้นยั่งยืนต่อเนื่อง 4 ปีซ้อน

บมจ. พลังงานบริสุทธิ์ หรือ EA ได้รับคัดเลือกให้เป็นหนึ่งในรายชื่อหุ้นยั่งยืน THSI (Thailand Sustainability Investment) ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ประจำปี 2564 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 สะท้อนการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนโดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม มีความรับผิดชอบต่อสังคม และมีการบริหารงานตามหลักบรรษัทภิบาล (Environmental, Social and Governance หรือ ESG)

นายอมร ทรัพย์ทวีกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. พลังงานบริสุทธิ์ หรือ EA ผู้นำนวัตกรรมด้านพลังงานและยานยนต์ไฟฟ้า เปิดเผยว่า กลุ่ม EA มุ่งดำเนินธุรกิจที่เป็น Green Product ไม่ก่อมลพิษ โดยพัฒนาพลังงานทดแทน พลังงานหมุนเวียน และยานยนต์ไฟฟ้าเพื่อการพาณิชย์ (Commercial EV) ทั้งรถโดยสารพลังงานไฟฟ้า และเรือโดยสารพลังงานไฟฟ้าด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยบริษัทฯ ให้ความสำคัญกับการกำหนดนโยบายและการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล เพื่อประโยชน์สูงสุดต่อผู้ใช้ ผู้ถือหุ้น ผู้ร่วมค้า และพนักงานอย่างเป็นธรรม

“บริษัทมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้รับคัดเลือกเป็นหุ้นยั่งยืน THSI ต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 โดยบริษัทพร้อมสานต่อนโยบายและการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนภายใต้แนวทางการพัฒนาพลังงานหมุนเวียนที่ยั่งยืน ซึ่งถือเป็นเป้าของบริษัทที่จะร่วมผลักดันการพัฒนาที่ยั่งยืนให้กับเศรษฐกิจ สังคมและสิ่งแวดล้อมของไทย และตอบสนองต่อความคาดหวังของผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม” นายอมร กล่าวทิ้งท้าย

EA ตั้งเป้าขายรถโดยสารไฟฟ้า 500 คัน ภายในสิ้นปีนี้

บมจ.พลังงานบริสุทธิ์ (EA) มั่นใจ ปลายปีนี้ ยอดขายรถโดยสารพลังงานไฟฟ้า ทั้งขนาดกลางและขนาดใหญ่ ทะลุเป้า 500 คัน ตอกย้ำศักยภาพในการสร้างนวัตกรรมยานยนต์ไฟฟ้าเพื่อการพาณิชย์ที่ขับเคลื่อน ด้วยพลังงานไฟฟ้า 100% พร้อมเชื่อว่าหากมีมาตรการสนับสนุนการใช้รถ EV ออกมาในไตรมาส 4 นี้ จะช่วยผลักดันให้ประเทศไทยเข้าสู่การเป็นสังคมคาร์บอนต่ำได้เร็วขึ้น

นายอมร ทรัพย์ทวีกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA ผู้นำนวัตกรรมด้านพลังงานและยานยนต์ไฟฟ้า เปิดเผยว่า “ที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้ส่งมอบรถโดยสารพลังงานไฟฟ้าให้กับลูกค้าไปแล้ว 77 คัน และกำลังทยอยส่งมอบเพิ่มเติมในเดือนตุลาคม รวมเป็น 116 คัน โดยมีเป้าการขายรถโดยสารพลังงานไฟฟ้าทั้งขนาดกลางและขนาดใหญ่ภายในสิ้นปีนี้รวม 500 คัน นอกจากนี้บริษัทฯ มีการติดตั้งสถานีอัดประจุไฟฟ้าไว้รองรับยานยนต์ไฟฟ้าขนาดใหญ่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ด้วยเทคโนยี Ultra Fast Charge ที่ทันสมัยที่สุด ที่ใช้เวลาชาร์จเพียง 15 นาที”

โดยกลุ่ม EA มุ่งดำเนินธุรกิจที่เป็น Green Product ไม่ก่อมลพิษ และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมพัฒนายานยนต์ไฟฟ้าเพื่อการพาณิชย์ (Commercial Electric Vehicle) ทั้งรถโดยสารพลังงานไฟฟ้า และเรือโดยสารพลังงานไฟฟ้า เพื่อยกระดับการเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะให้มีความทันสมัย สะดวกสบาย และลดมลพิษอย่างยั่งยืน และเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยผลักดันให้ประเทศไทยเข้าสู่การเป็นสังคมคาร์บอนต่ำ (Low Carbon Society)

“หากภาครัฐออกนโยบายมาสนับสนุนการใช้รถ EV มากขึ้น จะช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกตามความตกลงปารีส ซึ่งประเทศไทยกำหนดเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ให้ได้ร้อยละ 20-25 หรือจำนวน 111-139 ล้านตัน คาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า ภายในปี 2573 และจะทำให้ประเทศไทยสามารถก้าวขึ้นเป็นศูนย์กลางการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าและชิ้นส่วนสำคัญต่างๆ ในอาเซียน อีกทั้งยังช่วยยกระดับรายได้ของคนไทยให้ก้าวข้ามกับดักรายได้ปานกลาง (Middle Income Trap) ไปสู่ประเทศที่มีรายได้สูง” นายอมร กล่าวทิ้งท้าย

EA คว้า 4 รางวัลด้านพลังงาน

บมจ.พลังงานบริสุทธิ์ (EA) ตอกย้ำความเป็นผู้นำนวัตกรรมด้านพลังงานของไทย คว้า 4 รางวัล ได้แก่ รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ด้านพลังงานทดแทน ประเภทโครงการเชื้อเพลิงชีวภาพ (Biofuel) จากงาน ASEAN Energy Awards 2021 จัดขึ้นโดย ASEAN Centre for Energy จากโครงการโรงงานผลิตน้ำมันปาล์มบริสุทธิ์และน้ำมันไบโอดีเซล จังหวัดปราจีนบุรี ที่มีส่วนช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกปาล์มน้ำมัน ภายใต้เป้าหมายในการสร้างสมดุลปาล์มน้ำมันในประเทศ โดยบริษัทฯ มีการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อทำการผลิตน้ำมันไบโอดีเซลจากน้ำมันปาล์มดิบ ซึ่งเป็นวัตถุดิบจากธรรมชาติ ปัจจุบันมีกำลังการผลิตน้ำมันไบโอดีเซล 800,000 ลิตรต่อวัน หรือสามารถผลิตน้ำมันไบโอดีเซลได้มากกว่า 188  ล้านลิตรต่อปี เทียบเท่าการลดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจก 120,708,369.56 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าต่อปี

นอกจากนี้ยังคว้าอีก 3 รางวัลดีเด่นด้านพลังงานทดแทนและด้านอนุรักษ์พลังงาน จากงาน Thailand Energy Awards 2021 ซึ่งจัดโดยกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) กระทรวงพลังงาน ได้แก่ รางวัลดีเด่นด้านพลังงานทดแทน ประเภทโครงการที่เชื่อมโยงกับระบบสายส่งไฟฟ้า (On-Grid) จากโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แบบหมุนตามดวงอาทิตย์ จังหวัดพิษณุโลก รางวัลดีเด่นด้านพลังงานทดแทน ประเภทโครงการเชื้อเพลิงชีวภาพ (Biofuel) จากโครงการโรงงานผลิตน้ำมันปาล์มบริสุทธิ์และน้ำมันไบโอดีเซล จังหวัดปราจีนบุรี และรางวัลดีเด่นด้านอนุรักษ์พลังงาน ประเภทขนส่ง จากเรือโดยสารพลังงานไฟฟ้า MINE SMART FERRY

นายอมร ทรัพย์ทวีกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA ผู้นำนวัตกรรมด้านพลังงาน เปิดเผยว่า บริษัทฯ มีความภาคภูมิใจเป็นอย่างมากที่ได้รับ 4 รางวัล จาก 2 เวทีด้านพลังงาน ทั้ง ASEAN Energy Awards และ Thailand Energy Awards โดยบริษัทฯ มีความตระหนักถึงความสำคัญด้านพลังงานอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความมั่นคงด้านพลังงานของประเทศ พร้อมขับเคลื่อนนวัตกรรมพลังงาน มุ่งสร้างเสถียรภาพพลังงานที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก รองรับการขยายตัวทางเศรษฐกิจในอนาคต

เปิดกลยุทธ์ EA สู่ New S-Curve ดันธุรกิจแบตฯ รถบัสไฟฟ้า-เรือไฟฟ้า

EA ผู้นำนวัตกรรมด้านพลังงาน ลั่นผลงานปี 64 โตเด่น เข้าสู่ New S-Curve โครงการแบตเตอรี่ลิเทียมเฟสแรกเริ่มผลิตตั้งแต่ไตรมาส 3/64 ป้อนรถบัสไฟฟ้าที่ประกอบเสร็จแล้วกว่า 100 คัน เผยโรงงานใน จ.ฉะเชิงเทรา ก่อสร้างคืบหน้าไปกว่า 90% กำลังผลิต 3,000 คัน/ปี ขณะที่เรือโดยสารไฟฟ้า  MINE SMART FERRY คาดส่งมอบครบ 27 ลำตามแผน

นายอมร ทรัพย์ทวีกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA ผู้นำนวัตกรรมด้านพลังงาน เปิดเผยว่า แผนการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีหลังบริษัทฯพร้อมเดินหน้าโครงการแบตเตอรี่ลิเทียมไอออน Amita Technology (Thailand) โดยคาดว่าจะสามารถเริ่มดำเนินการผลิตสำหรับระยะที่ 1 ได้ในไตรมาสที่ 3/64 โดยปัจจุบันได้นำเข้าเซลล์แบตเตอรี่ที่ผลิตจากโรงงานผลิตแบตเตอรี่ของ Amita Technologies Inc. ไต้หวัน เพื่อนำมาประกอบเป็นแพ็คและโมดูลในสายการผลิตภายในประเทศ เพื่อตอบสนองการใช้ในกลุ่มธุรกิจยานยนต์ของบริษัทฯ ได้แก่ รถบัสไฟฟ้า เรือไฟฟ้า ในช่วงแรกระหว่างรอโรงงานผลิตเซลล์แบตเตอรี่เสร็จเรียบร้อย

สำหรับโครงการสถานีอัดประจุไฟฟ้าสำหรับยานยนต์ไฟฟ้า EA Anywhere ได้ร่วมมือกับบริษัท เชฟรอน (ไทย) จำกัด ผู้ให้บริการสถานีน้ำมันคาลเท็กซ์ ติดตั้งสถานีอัดประจุไฟฟ้า EA Anywhere ในสถานีบริการน้ำมันคาลเท็กซ์ไปแล้ว 9 แห่ง และมีแผนที่จะเปิดให้บริการภายในสถานีบริการน้ำมันคาลเท็กซ์สาขาอื่นๆ เพิ่มเติมอีกให้ครบ 20 แห่งภายในปี 2564

ส่วนโครงการเรือโดยสารไฟฟ้า MINE SMART FERRY  ได้เริ่มเก็บค่าโดยสารในราคาโปรโมชั่น 20 บาทตลอดสาย และเมื่อวันที่ 17 พ.ค.64 ที่ผ่านมา บริษัทฯ ขยายจุดจอดเรือรับ-ส่งที่ต้นทางฝั่งเหนือจากท่าเรือนนทบุรีไปยังท่าเรือพระนั่งเกล้า ถึงท่าเรือสาทร ภายในไตรมาสที่ 3/64 จะมีการส่งมอบเรือโดยสารไฟฟ้าครบจำนวน 27 ลำ ตามแผนที่กำหนดไว้

นอกจากนี้ ในส่วนของโครงการรถโดยสารไฟฟ้า ปัจจุบันได้มีการประกอบรถโดยสารไฟฟ้าแล้วเสร็จกว่า 100 คัน โดยจะเริ่มทยอยส่งมอบได้ในช่วงเดือนสิงหาคม สำหรับโรงงานผลิตรถโดยสารไฟฟ้าและรถเพื่อการพาณิชย์ทุกประเภทอยู่ใน จ.ฉะเชิงเทรา การก่อสร้างแล้วเสร็จประมาณ 90% โดยเมื่อโรงงานเสร็จเรียบร้อยจะมีกำลังการผลิตรถโดยสารไฟฟ้าอยู่ที่ปีละ 3,000 คันต่อปี

“มั่นใจว่าแนวโน้มผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งหลังปีนี้ จะเติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดยได้รับปัจจัยหนุนจากธุรกิจแบตเตอรี่ รถบัสไฟฟ้า เรือไฟฟ้า ซึ่งถือเป็น  New S-Curve ผลักดันธุรกิจเติบโตอย่างก้าวกระโดดตามแผนงานที่วางไว้” นายอมร กล่าวในที่สุด

สำหรับผลประกอบการงวด  6 เดือนของปี 2564 มีกำไร 2602.50 ล้านบาท  เพิ่มขึ้น 0.04% จากงวดเดียวกันปี ก่อนมีกำไร 2,601.48 ล้านบาท  รายได้รวมสำหรับงวดหกเดือนเพิ่มขึ้นจำนวน 704.80 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 7.89% ในไตรมาส 2/64 มีกำไร 1,190.65 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.59% จากช่วงเดียวกันปี 63 ที่มีกำไร 1,149.42 ล้านบาท  โดยรายได้รวมสำหรับไตรมาสที่ 2/64 เพิ่มขึ้นจำนวน 759.78 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 18.20% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน

ทั้งนี้ ในส่วนของรายได้กลุ่มธุรกิจไบโอดีเซล โต 49.74% ได้รับปัจจัยจากการปรับตัวของราคาวัตถุดิบที่สูงขึ้นเนื่องมาจากการส่งเสริมให้น้ำมันดีเซลที่มีส่วนผสมของไบโอดีเซล (B100) ในสัดส่วน 10% หรือ B10 เป็นน้ำมันดีเซลพื้นฐาน เป็นการเพิ่มอุปสงค์ของน้ำมันปาล์ม ส่งผลให้ราคาปาล์มน้ำมันในประเทศเพิ่มสูงขึ้น แม้ว่าปริมาณการใช้น้ำมันจะลดลงเนื่องจากการระบาดของโรคโควิด-19

EA ร่วมกับ เอสอี บิซ กรุ๊ปและกลุ่มพันธมิตร มอบเงินสู้ภัยโควิด-19

นายสมโภชน์ อาหุนัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA ร่วมกับ กลุ่มบริษัท เอสอี บิซ โดย นางสาวสินีนารถ เองตระกูล กรรมการผู้จัดการ พร้อมด้วย บริษัท ดีอาร์เจแอล กรุ๊ป จำกัด สถาบันศัลยกรรมความงาม บีบีคลินิก (BB Clinic) และ บริษัท มาดามฟิน จำกัด มอบเงินบริจาค จำนวน 2,500,000 บาท เพื่อนำไปใช้ในการช่วยเหลือและป้องกันการแพร่ระบาดของโรคไวรัส COVID-19 ให้แก่ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย โดยมี ผศ.นพ.กวิรัช ตันติวงษ์ รองผู้อำนวยการฯ ฝ่ายเทคโนโลยีสารสนเทศ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ เป็นผู้รับมอบ

นายสมโภชน์ อาหุนัย เปิดเผยว่า วิกฤต COVID-19 ระลอกนี้ มีการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสอย่างรวดเร็ว ตัวเลขผู้ป่วยติดเชื้อต่อวันเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้บุคลากรทางการแพทย์ ซึ่งเป็นด่านหน้าในการต่อสู้กับเชื้อโรคเพื่อรักษาชีวิตผู้ป่วย ต้องทำงานหนักและเสี่ยงมากขึ้น บริษัทฯ มีความห่วงใย และต้องการอำนวยความสะดวกในด้านความปลอดภัย ด้านการดูแลรักษาแก่เหล่าบุคลากรในด่านหน้าที่ทุ่มเทปฏิบัติหน้าที่อย่างต่อเนื่องและเต็มกำลังความสามารถ ผ่านการสนับสนุนเงินแก่โรงพยาบาลเพื่อใช้ในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคไวรัส COVID-19 เป็นการส่งมอบกำลังใจแก่บุคลากรด่านหน้า ตลอดจนอีกหนึ่งกำลังใจให้ประชาชนชาวไทยผ่านวิกฤตนี้ได้เหมือนเช่นระลอกที่ผ่านมาโดยเร็วที่สุด

EA รับรางวัล GREEN PROJECT OF THE YEAR 2021

บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA ได้รับรางวัล “GREEN PROJECT OF THE YEAR 2021” ประเภท COUNTRY DEAL AWARDS (ASEAN) ในงาน “The Asset Triple A Infrastructure Awards 2021” จัดโดยนิตยสาร The Asset ซึ่งเป็นนิตยสารการเงินชั้นนำแห่งเอเชีย ที่มุ่งเน้นความเป็นเลิศทางด้านการดำเนินงานการเงิน การลงทุน จากการที่บริษัทฯ ได้รับการสนับสนุนสินเชื่อเพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อมหรือ Green Loan ที่ออกโดยธนาคารพัฒนาเอเชีย (ADB) มูลค่า 1,500 ล้านบาท ซึ่งบริษัทฯ ได้มีแผนนำเงินดังกล่าวไปลงทุนในการเพิ่มประสิทธิภาพของระบบการผลิตของโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ และโรงไฟฟ้าพลังงานลมให้มีประสิทธิภาพที่สูงขึ้น รวมถึงใช้ลงทุนในโครงการติดตั้งสถานีอัดประจุไฟฟ้าที่ได้มาตรฐานทั้งระบบ Ultra Fast Charge, Super Fast Charge และ Normal Charge ทั่วประเทศ ตามแผนงานที่จะรองรับการขยายธุรกิจในยานยนต์ไฟฟ้าประเภทต่างๆ ช่วยลดการปล่อยคาร์บอน ส่งเสริมคุณภาพชีวิตและสิ่งแวดล้อมของประเทศไทย ทั้งนี้นับว่า EA ถือเป็นบริษัทแรกของประเทศไทยที่ได้รับสินเชื่อว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Loan) ที่ผ่านการรับรองโดย Climate Bond Initiative ซึ่งเป็นผู้จัดการกรอบการรับรองและมาตรฐานพันธบัตรเพื่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศระหว่างประเทศ

EA ลุยพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าสมัยใหม่ครบวงจร

EA เดินหน้าพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าครบวงจรในไทย เซ็นต์ MOU กับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน เตรียมความพร้อมภาคแรงงาน การผลิตและซ่อมบำรุงยานยนต์ไฟฟ้า วิจัยพัฒนาแบตเตอรี่และสถานีอัดประจุไฟฟ้า ส่งเสริม Green University ของ มทร.อีสาน

ศาสตราจารย์พิเศษ ดร สุรเกียรติ์ เสถียรไทย นายกสภามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน ได้ร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการระหว่าง มทร. อีสาน กับ บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA ผ่านระบบออนไลน์ (Zoom) โดยรองศาสตราจารย์ ดร.โฆษิต ศรีภูธร รักษาราชการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน และนายสมโภชน์ อาหุนัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และนายอมร  ทรัพย์ทวีกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) (EA) ร่วมลงนาม

ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.สุรเกียรติ์ เสถียรไทย นายกสภามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน กล่าวว่า  “นับเป็นนิมิตหมายที่ดีและขอแสดงความยินดีกับ มทร.อีสานและ EA สำหรับพิธีลงนามความร่วมมือในครั้งนี้  ดังเป็นที่ทราบและยอมรับกันทั้งในประเทศและต่างประเทศว่า EA ถือเป็นบริษัทชั้นนำของคนไทย มีความโดดเด่นทางด้านเทคโนโลยีพลังงานสะอาด และเทคโนโลยีในการกักเก็บพลังงานเพื่อใช้ในอุตสาหกรรมไฟฟ้าและยานยนต์ เพื่อขับเคลื่อนประเทศไทยเข้าสู่ยุคพลังงานสะอาด ด้าน มทร.อีสาน ดำเนินนโยบายมหาวิทยาลัยสีเขียว และมุ่งมั่นพัฒนาหลักสูตรการเรียนการสอนที่ตอบสนองต่อการพัฒนาที่ยั่งยืน และเป็นสถาบันอุดมศึกษา ที่ได้มุ่งเน้นการจัดทำหลักสูตรการศึกษาและการวิจัยพัฒนาด้านระบบรางของประเทศไทยภายใต้ความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยชั้นนำทางด้านโลจิสติกส์และระบบรางของต่างประเทศ อันเป็นเป้าหมายความสำเร็จร่วมกันของทั้งสององค์กร  รวมทั้งจะเป็นพื้นฐานในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมพลังงานสะอาด และระบบการขนส่งและโลจิสติกส์ที่สำคัญของประเทศไทยและของโลกในอนาคตอันใกล้นี้”

รศ.ดร.โฆษิต ศรีภูธร รักษาราชการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน เปิดเผยว่า “ก่อนหน้านี้ราวเดือนมกราคม 2564 มทร. อีสาน ได้มีการลงนามบันทึกความร่วมมือกับ EA ในการศึกษาวิจัยนวัตกรรมการปลูกและพัฒนาสายพันธุ์พืชสมุนไพร รวมไปถึงกัญชง กัญชา เพื่อประโยชน์ทางการแพทย์แผนไทยและการสาธารณสุข และในครั้งนี้เป็นการต่อยอดความร่วมมือกับ EA ในการพัฒนาพลังงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมทุกประเภท ตามนโยบายการเป็นมหาวิทยาลัยสีเขียวและการพัฒนามหาวิทยาลัยอย่างยั่งยืน และการนำเทคโนโลยีพลังงานไฟฟ้ามาเป็นตัวขับเคลื่อนเพื่อจัดการระบบการขนส่งภายใน ซึ่งจะช่วยเพิ่มการมีส่วนร่วมของบุคลากรและนักศึกษาในการใช้พลังงานและทรัพยากรธรรมชาติได้อย่างรู้คุณค่า และสังคมตระหนักถึงการพัฒนาควบคู่กับการรักษาสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน”

นายสมโภชน์ อาหุนัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) (EA) กล่าวปิดท้ายว่า  “บริษัทฯ มั่นใจว่าความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสานในครั้งนี้ จะนำไปสู่การพัฒนาบุคลากร สร้างความเข้มแข็งให้อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า New S-Curve ที่จำเป็นต้องใช้ทักษะแรงงานฝีมือ รองรับการเติบโตในอนาคต  เรากำลังเปลี่ยนวิกฤตให้เป็นโอกาส โดยเตรียมพร้อม Up-skill / Re-skill บุคลากรไทย สร้างนวัตกรรมใหม่เพื่อให้ประเทศไทยดำรงความเป็น Detroit of Asia ที่เราภาคภูมิใจและรักษาอุตสาหกรรมหลักนี้ไว้ได้  ผมคิดว่ายานยนต์ไฟฟ้าเหมาะกับประเทศไทย เพราะประสิทธิภาพที่ดีกว่า ช่วยประหยัดต้นทุนพลังงานและแก้ปัญหา PM 2.5 เสริมจุดแข็งอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและการแพทย์ของไทย  นอกจากความร่วมมือด้านวิศวกรรม การพัฒนากัญชง CBD สูงร่วมกับ มทร. อีสาน จะเป็นประโยชน์ต่อการแพทย์และเพิ่มมูลค่าภาคเกษตรกรรม ช่วยยกระดับรายได้ของคนไทยให้ก้าวข้าม Middle Income Trap หากเราเชื่อมั่นในศักยภาพของคนไทยและร่วมกันส่งเสริมคนไทย”

ภาคเอกชนร่วมเซ็น MOU พัฒนาบุคลากรป้อนอุตฯ ยานยนต์ไฟฟ้า

กลุ่ม บมจ.พลังงานบริสุทธิ์ (EA) เซ็นลงนามบันทึกข้อตกความร่วมมือกันระหว่าง มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี (RMUTT) บริษัท ดับเบิ้ลพี แลนด์ จำกัดหรือ (PPL) บริษัท 3 เค โซลูชั่น เมเนจเมนท์ และในโครงการการพัฒนาบุคลากร ด้านเทคโนโลยีระบบกักเก็บพลังงานประสิทธิภาพสูง อุตสาหกรรมด้านโอลิโอเคมีคัล และอุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่ ฟากซีอีโอระบุการเข้าร่วมโครงการนี้จะช่วยพัฒนาบุคลากรป้อนเข้าสู่ภาคธุรกิจอุตสาหกรรมต่างๆ จะเป็นการพัฒนากำลังคนอย่างตรงจุด รองรับความต้องการในอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า ตั้งเป้าขยายความร่วมมือออกไปสู่สถาบันการศึกษาทั่วไทย หวังช่วยสร้างโอกาส ยกระดับชีวิตนักศึกษาให้มีอาชีพรองรับรวมทั้งจะได้ช่วยสร้างคุณค่าคืนสู่สังคมต่อไป

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.สมหมาย ผิวสอาด อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี (มทร.ธัญบุรี) เปิดเผยว่า มหาวิทยาลัยมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ทำบันทึกข้อตกลงร่วมกันในครั้งนี้ ในฐานะสถาบันการศึกษาถือเป็นเรื่องที่ดีอย่างยิ่ง โดยเฉพาะการยกระดับความรู้ความสามารถของนักศึกษาในระหว่างที่กำลังศึกษาอยู่ เพื่อเตรียมความพร้อมอย่างมืออาชีพ ทั้งด้านประสบการณ์ ความรู้ทางวิชาการและวิชาชีพ ไม่เพียงแต่การเรียนรู้ในห้องเรียนอย่างเดียว แต่จะเป็นการเติมเต็มความรู้จากสถานประกอบการจริง ที่นับว่าเป็นการอัพเดตความรู้ที่ทันสมัยอย่างยิ่ง ที่จะช่วยทำให้มีความพร้อมและครบสมบูรณ์ก่อนที่จะเข้าสู้โลกการทำงานหลังสำเร็จการศึกษา อีกด้านหนึ่งถือเป็นการช่วยพัฒนาและยกระดับการผลิตบุคลากรในด้านเทคโนโลยีระบบกักเก็บพลังงานประสิทธิภาพสูง อุตสาหกรรมด้านโอลิโอเคมี และอุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่ ที่สอดคล้องกับยุทธศาสตร์การพัฒนาของมหาวิทยาลัย

นายสมโภชน์ อาหุนัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน)หรือ EA เปิดเผยว่า กลุ่มบริษัทฯได้เซ็นลงนามบันทึกข้อตกความร่วมมือกันระหว่าง มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี และ บริษัท 3 เค โซลูชั่น เมเนจเมนท์ ในโครงการร่วมดำเนินการพัฒนาบุคลากร ซึ่งมีวัตถุประสงค์ เพื่อร่วมกันพัฒนาหลักสูตรแบบต่อเนื่องและเชื่อมโยงการศึกษาระดับอาชีวศึกษาและอุดมศึกษา เพื่อการผลิตบัณฑิตระดับปริญญาบัณฑิตและบัณฑิตศึกษา ด้านเทคโนโลยีระบบกักเก็บพลังงานประสิทธิภาพสูง (Energy Storage System) อุตสาหกรรมด้านโอลิโอเคมี (Oleochemical) และอุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่ (Electric Vehicle) เพื่อเสริมสร้างสมรรถนะทางวิชาการ และเพิ่มขีดความสามารถในการวิจัย
ตลอดทั้งการพัฒนากำลังคนผ่านหลักสูตรระยะสั้นและระยะปานกลางที่มุ่งเน้นผลทางปฏิบัติในศาสตร์ดังกล่าวข้างต้น ให้ได้ทั้งปริมาณและคุณภาพที่สอดคล้องกับความต้องการของประเทศเพื่อการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่ ตามยุทธศาสตร์ประเทศไทย 4.0 และการพัฒนาบุคคลากรเพื่อรองรับเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) โดยมีระยะเวลาการดำเนินการ 3 ปี โดยให้มีผลใช้บังคับนับถัดจากวันลงนามในบันทึกข้อตกลง

นายสมโภชน์ กล่าวต่อว่า รูปแบบของความร่วมมือ โดยกลุ่มบริษัทพลังงานบริสุทธิ์ และ บริษัท 3 เค โซลูชั่น เมเนจเมนท์ ได้ร่วมกันกับคณะอาจารย์ทำการออกแบบหลักสูตรทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ บนพื้นฐานของความต้องการกำลังคนจริงของกลุ่มบริษัทพลังงานบริสุทธิ์ อีกทั้งยังเปิดโอกาสให้นักศึกษาได้เข้ามาเรียนรู้ และฝึกฝนการปฏิบัติงาน ณ สถานประกอบการ เพื่อให้นักศึกษาได้รับประโยชน์ในเชิงบูรณาการระหว่างการเรียนการสอนกับการทำงานอย่างเป็นระบบ อีกทั้งยังร่วมมือในการจัดประชุมสัมมนาวิชาการและการเผยแพร่ผลงานวิชาการเพื่อเร่งสร้างสภาพแวดล้อมและความพร้อมด้านบุคลากรในพื้นที่ให้เติบโตไปกับกลุ่มบริษัทพลังงานบริสุทธิ์อย่างมั่นคง

รวมทั้งจะจัดสรรบุคลากรที่เชี่ยวชาญมาให้ความรู้ ตลอดจนจัดสรรเครื่องมือและอุปกรณ์ที่จะเป็นประโยชน์ต่อการเสริมสร้างสมรรถนะทางวิชาการและการปฏิบัติให้นักศึกษา และคาดหวังว่า เมื่อจบการศึกษาผู้เรียนจะมีศักยภาพที่จะปฏิบัติงานได้จริงทันที ทำให้บริษัทพลังงานบริสุทธิ์ได้รับโอกาสในการคัดเลือกบุคลากรที่มีคุณภาพได้อย่างรวดเร็วและมั่นใจได้ในเรื่องของคุณภาพและความมีคุณลักษณะที่สอดคล้องกับค่านิยมขององค์กร

นางสาวกุลพรภัสร์ วงศ์มาจารภิญญา ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ดับเบิ้ลพี แลนด์ จำกัด หรือโครงการจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมฉะเชิงเทรา บลูเทค ซิตี้ เปิดเผยว่า การลงนามในครั้งนี้ทางโครงการฯจะได้ประโยชน์สูงสุดจากการพัฒนาหลักสูตรแบบต่อเนื่องและเชื่อมโยงการศึกษาระดับอาชีวศึกษาและอุดมศึกษา ตามยุทธศาสตร์ประเทศไทย 4.0 และการพัฒนาบุคคลากรเพื่อรองรับภาคอุตสาหกรรมของเศรษฐกิจในพื้นที่ EECและของประเทศ

นายกนิษฐ์พงษ์ บุษบงค์ กรรมการจัดการ บริษัท 3 เค โซลูชั่น เมเนจเมนท์ กล่าวว่า ทั้งนี้ทาง บริษัท 3 เค โซลูชั่น เมเนจเมนท์ ขอขอบคุณมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี(RMUTT) ที่ให้การสนับสนุนการอบรมและร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนานักศึกษาให้เป็นกำลังหลักในด้านนวัตกรรมเทคโนโลยีสมัยใหม่

ความร่วมมือในครั้งนี้ จะช่วยพัฒนาบุคคลากรและเชื่อมโยงการศึกษาระดับอุดมศึกษาทั้งด้านทฤษฎี และการฝึกอบรม ตลอดจน การวิจัย การพัฒนาหลักสูตร รองรับด้านเทคโนโลยีสมัยใหม่ ให้ได้ทั้งปริมาณและคุณภาพซึ่งจะช่วยสร้างโอกาสและยกระดับชีวิตที่ดีขึ้นให้กับนิสิต/นักศึกษาให้มีอาชีพรองรับในอนาคต และถือเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญในการพัฒนากำลังคนอย่างตรงจุดเพื่อรองรับความต้องการในอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าอันจะเกิดประโยชน์ต่อทุกภาคส่วน

EA เซ็น MOU ลุยพัฒนารถไฟ Hybrid Battery

EA จรดปากกาเซ็นเอ็มโอยู China Railway Construction (Southeast Asia) Co.,Ltd (CRCCSA) ลุยพัฒนารถไฟ Hybrid Battery หวังยกระดับการเดินทางทางรางของไทย เทียบชั้นต่างประเทศ ปูทางสู่การสร้างโรงงานประกอบหัวรถจักร และขนส่งมวลชนไฮบริดแบตเตอรี่ ตลอดจนศูนย์ซ่อมบำรุงและซ่อมแซมรถไฟความเร็วสูง เพิ่มการจ้างงานในประเทศ บูมเศรษฐกิจในระยะยาว ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก

เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2564 ที่ผ่านมา ได้มีการจัดงานพิธีลงนามความร่วมมือในการพัฒนารถไฟ Hybrid Battery โดยมี กงสุลใหญ่สาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) Mr.Luo Wen Managing Director – China Railway Construction (Southeast Asia) Co.,Ltd (CRCCSA) และบริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) (EA) ผู้นำด้านนวัตกรรมพลังงานทดแทนเปิดตัวยานยนต์ไฟฟ้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ร่วมในพิธีลงนาม

Mr.Luo Wen, Managing Director – China Railway Construction (Southeast Asia) Co.,Ltd (CRCCSA) เปิดเผยว่า การรถไฟแห่งประเทศไทย มีแผนส่งเสริมและผลักดันการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานทางรถไฟอย่างจริงจัง พร้อมทั้งสนใจพัฒนาหัวรถจักรพลังงานไฟฟ้า เพื่อลดการใช้เชื้อเพลิงที่ก่อให้เกิดมลพิษ ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ บริษัท China Railway Construction (Southeast Asia) Co.,Ltd (CRCCSA)ในกลุ่ม China Railway Construction Corporation Limited ซึ่งเป็นผู้นำการก่อสร้างที่ครอบคลุมขนาดใหญ่และทรงพลังที่สุดในโลก ด้วยประสบการณ์ในการสำรวจ ออกแบบ และก่อสร้างทางรถไฟและโครงสร้างพื้นฐานอื่นๆ พร้อมทั้งความสามารถในการรวมทรัพยากรที่มีประสิทธิภาพในภาคการผลิตหัวรถจักรรถไฟความเร็วสูง มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะร่วมพัฒนาอุตสาหกรรมการรถไฟของไทย พร้อมทั้งบูรณาการห่วงโซ่อุตสาหกรรมของจีนและไทยให้ก้าวหน้าและแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น ผ่านการพัฒนารถไฟ Hybrid Battery ในประเทศไทย ร่วมกับบริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) ผู้นำด้านเทคโนโลยีพลังงานของประเทศไทย ทั้งการผลิตพลังงานสะอาด การจัดเก็บพลังงาน ยานยนต์ไฟฟ้า และสถานีชาร์จที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในครั้งนี้ และเชื่อมั่นอย่างยิ่งว่า ภายใต้การดูแลและคำแนะนำของกงสุลใหญ่สาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทยและการรถไฟแห่งประเทศไทย ความร่วมมือระหว่าง CRCCSA และ บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) จะประสบความสำเร็จแห่งความสำเร็จในไม่ช้าอย่างแน่นอน

นายสมโภชน์ อาหุนัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA เปิดเผยว่า รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่ได้รับเกียรติจาก พณฯท่านกงสุลใหญ่สาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย ให้เกียรติเป็นสักขีพยาน โดย CRCCSA เป็นบริษัทในกลุ่ม China Railway Construction Corporation Limited ถือเป็นบริษัทฯที่มีความเชี่ยวชาญในด้านวิศวกรรมเกี่ยวกับงานการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน ยังเป็นหนึ่งในบริษัทผู้รับเหมาด้านวิศวกรรมรายใหญ่ที่สุดในประเทศจีน มีเครือข่ายทั่วโลกมากกว่า 130 ประเทศ ให้เกียรติมาพัฒนาและวิจัยร่วมกับ บริษัทฯ ซึ่งเป็นผู้นำทางด้าน Green Energy รายใหญ่ของประเทศไทย

นับเป็นโอกาสที่สำคัญที่สุดครั้งหนึ่งของ EA ที่จะได้เป็นส่วนหนึ่งของการร่วมศึกษาวิจัยและพัฒนาความเป็นไปได้ทางธุรกิจ ในการพัฒนารถไฟ Hybrid Battery ที่ทันสมัยยกระดับการเดินทางทางรางให้เทียบเท่านานาประเทศ คาดว่าเมื่อโครงการนี้สำเร็จจะเป็นจุดเริ่มต้นครั้งยิ่งใหญ่สู่การสร้างโรงงานประกอบหัวรถจักร และขนส่งมวลชนไฮบริดแบตเตอรี่ ตลอดจนศูนย์ซ่อมบำรุง และซ่อมแซมรถไฟความเร็วสูง ซึ่งทั้งหมดจะเป็นส่วนสนับสนุนการใช้ทรัพยากรภายในประเทศ ส่งเสริมให้เกิดการลงทุนด้านการใช้ทรัพยากรภายในประเทศ และลดการพึ่งพาหรือนำเข้าจากต่างประเทศ เกิดการลงทุนเป็นจำนวนเงินมหาศาล และเกิดการจ้างงานเป็นจำนวนมาก ซึ่งส่งผลดีต่อสภาพเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว และยังสะท้อนความมุ่งมั่นของประเทศไทยที่จะผลักดันการใช้พลังงานสะอาดในมีสัดส่วนที่เพิ่มมากขึ้น เพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งเป็นไปตามตามกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ความตกลงปารีส