APURE ส่งซิกครึ่งปีหลัง โกยรายได้เพิ่ม 20-30%

บมจ.อกริเพียว โฮลดิ้งส์ (APURE) ลั่นแนวโน้มครึ่งปีหลัง ส่อแววเติบโตเพิ่มขึ้น 20-30 %  เมื่อเทียบจากครึ่งปีแรก ตามปริมาณขายข้าวโพดที่คาดเพิ่มขึ้นถึง 1,400-1,500 ตู้คอนเทนเนอร์ รับคำสั่งซื้อต่างประเทศเข้าเพียบ ส่งซิกอยู่ระหว่างการเจรจาลูกค้ารายใหม่ กลุ่มห้างสรรพสินค้า ในสหภาพยุโรป คาดสรุปดีลได้เร็วๆนี้ พร้อมเดินเกมรุก ติดตั้งเครื่องจักร – ขยายกำลังการผลิต เสริม ยอดกำลังการผลิตปลายปีนี้ ส่งผลปี2565 บริษัทฯมีกำลังการผลิตรวมเป็น 11,500 ตู้คอนเทนเนอร์ เพิ่มขึ้น 25 % จากปัจจุบัน 9,000 ตู้คอนเทนเนอร์

นายสุเรศพล จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานกรรมการ บริษัท อกริเพียว โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ APURE เปิดเผยว่า จากภาพรวมอุตสาหกรรมการส่งออกผลิตภัณฑ์ข้าวโพดหวานแปรรูปในครึ่งปีหลังทั้งในตลาดยุโรป สหรัฐอเมริกา รวมถึงในตลาดเอเชีย ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการฟื้นตัวหลังจากสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศดังกล่าวที่เริ่มคลี่คลายในทิศทางที่ดีขึ้น

ทั้งนี้ จากดีมานด์การสั่งซื้อผลิตภัณฑ์ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้ APURE ประเมินอัตราการเติบโต จากยอดขายในช่วงครึ่งปีหลัง 2564 มีแนวโน้มสูงขึ้น 20-30% เมื่อเทียบกับครึ่งปีแรก ซึ่งเป็นไปตามปริมาณคำสั่งซื้อจากกลุ่มลูกค้าในต่างประเทศ ที่ทยอยเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับสภาพอากาศในต่างประเทศ    ยังเป็นตัวแปรที่ส่งผลกระทบให้ผลผลิตข้าวโพดมีราคาที่ปรับตัวสูงขึ้น ทำให้ต้องมีการนำเข้าข้าวโพดหวานเพิ่มมากขึ้น โดยปัจจุบันบริษัทฯมียอดออเดอร์ ที่เตรียมส่งมอบแล้ว 1,400 -1,500 ตู้คอนเทนเนอร์

บริษัทฯได้มีการทำสัญญากับเกษตรกร (Contract Farming) สัดส่วนมากกว่า 90% ส่งผลให้บริษัทฯสามารถเพิ่มปริมาณข้าวโพดเข้าไลน์การผลิตได้มากถึง 300,000 ตันต่อปี จากเดิม 150,000 -180,000 ตันต่อปี ดังนั้นจะเห็นได้ว่าบริษัทฯยังมีขีดความสามารถในการขยายการรับออเดอร์ใหม่ๆได้อย่างต่อเนื่อง จากดีมานด์การสั่งซื้อ โดยเฉพาะในสหรัฐฯเพิ่มขึ้นทั้งในกลุ่มลูกค้าขนาดกลางและขนาดใหญ่ เนื่องจากระดับราคาของบริษัทฯสามารถแข่งขันในตลาดโลกได้ ในขณะที่ผลิตภัณฑ์ข้าวโพดหวานของไทย ที่ส่งออกไปต่างประเทศ ยังได้รับความนิยมจากกลุ่มลูกค้าในต่างประเทศ เนื่องจากคุณภาพข้าวโพด และรสชาติ สามารถตอบโจทย์ความต้องการของตลาดในต่างประเทศเป็นอย่างดี จนประสบความสำเร็จในการเข้าไปขายในตลาดวอลมาร์ท (Walmart)

สำหรับตลาดในกลุ่มสหภาพยุโรป(EU)นั้น ขณะนี้บริษัทฯอยู่ระหว่างการเจรจากับลูกค้ารายใหม่ อย่างห้างสรรพสินค้า โดยล่าสุดได้มีการส่งตัวอย่างผลิตภัณฑ์เพื่อทดลองให้กลุ่มลูกค้าดังกล่าว ซึ่งบริษัทฯคาดว่าดีลดังกล่าวจะสามารถสรุปได้ในเร็วๆนี้ ทั้งนี้หากคว้าดีลนี้ได้ ส่งผลให้บริษัทฯสามารถขยายช่องทางการตลาดและการจัดจำหน่ายสู่ยุโรปได้เพิ่มขึ้น

ส่วนตลาดในเอเชีย อาทิ ประเทศเกาหลีใต้ ประเทศญี่ปุ่น และประเทศจีนนั้น นายสุเรศพล กล่าวว่า แม้ค่าระวางเรือจะปรับตัวสูงขึ้นมาค่อนข้างมาก แต่ก็ไม่ได้ปรับตัวสูงขึ้นมากเมื่อเทียบกับการขนส่งไปยังฝั่งทวีปอเมริกาใต้ สหภาพยุโรป ประเทศสหรัฐ และประเทศอินเดีย ดังนั้นจึงทำให้มีคำสั่งซื้อเข้ามาอย่างต่อเนื่อง และคาดว่าจะมียอดขายเติบโตตามเป้าที่วางไว้

บริษัทฯยังคงต้องติดตามค่าระวางเรืออย่างใกล้ชิด เนื่องจากต้องยอมรับว่าผลกระทบจากค่าระวางเรือเป็นตัวแปรหลัก ที่ทำให้ลูกค้าบางรายมีต้นทุนค่าขนส่งที่สูงขึ้น ดังนั้นโดยส่วนตัวมองว่า หากสถานการณ์การขาดแคลนด์ตู้คอนเทนเนอร์ และค่าขนส่ง กลับเข้าสู่ภาวะปกติได้เมื่อไหร่ บริษัทฯมีโอกาสขยายตัวได้อย่างมาก เพราะลูกค้าในปัจจุบันนิยมบริโภคผลิตภัณฑ์ข้าวโพด ที่มาจากประเทศไทย เพราะมั่นใจคุณภาพข้าวโพด และรสชาติ ประกอบกับในช่วงที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้ปรับกลยุทธ์ด้านการตลาดส่งผลให้แบรนด์สินค้าของบริษัทฯ เป็นที่รู้จักและที่ยอมรับในตลาดต่างประเทศอย่างมาก

อย่างไรก็ตาม สำหรับความคืบหน้า กรณีการเพิ่มกำลังการผลิตนั้น ล่าสุดบริษัทฯมีการนำเข้าเครื่องจักรมาเรียบร้อยแล้ว ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการดำเนินการติดตั้งเครื่องจักร คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในระยะเวลา 60 วัน จะเตรียมเดินเครื่องจักรได้ในช่วงปลายปี 2564 ก่อนที่จะใช้กำลังการผลิตได้เต็มกำลัง 2,000 -2,500 ตู้คอนเทนเนอร์ ในกลางปี 2565 ส่งผลให้บริษัทฯมีกำลังการผลิตรวมเป็น 11,500 ตู้คอนเทนเนอร์ เพิ่มขึ้น 25 % จากเดิมที่ 9,000 ตู้คอนเทนเนอร์

ค่าเงินบาทที่อ่อนค่าไปในช่วงครึ่งปีแรก 2564 ส่งผลให้บริษัทฯมีผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนกว่า 80-90 ล้านบาท แต่อย่างไรก็ตามในช่วงครึ่งปีหลัง บริษัทฯคาดว่าจะไม่มีผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน หรือหากมี ก็ไม่สูงมาก โดยบริษัทฯได้ทำประกันความเสี่ยงด้านค่าเงินไว้ ในปีนี้ 50%เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

APURE โชว์ไตรมาส 2 กำไรกระฉูด 65.04%

บมจ.อกริเพียว โฮลดิ้งส์ (APURE) โชว์งบผลการดำเนินงานQ2/64 โกยกำไร 86.86 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 38.29% เทียบ QoQ  เหตุยอดออเดอร์ในต่างประเทศ โดยเฉพาะตลาดวอลมาร์ท (Walmart) และกลุ่มประเทศในสหภาพยุโรป รวมถึงในเอเซีย ยังมีดีมานด์เพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง นอกจากนี้บริษัทฯได้ประโยชน์จากค่าเงินบาทที่อ่อนค่า ส่งผลให้ภาพรวมผลการดำเนินงานเติบโตแบบก้าวกระโดด ขณะเดียวกันบอร์ดไฟเขียวจ่ายปันผล จำนวน 0.07 บาทต่อหุ้น กำหนดขึ้น XD วันที่ 26 ส.ค.นี้ และจ่ายปันผลในวันที่ 10 ก.ย.64

นายสุเรศพล จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานกรรมการ บริษัท อกริเพียว โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ APURE ผู้ส่งออกข้าวโพดหวานแปรรูปคุณภาพสูง แจ้งผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2564  บริษัทฯ มีรายได้รวม 664.47 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22.77% และกำไรสุทธิ 86.86 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 65.04% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) และมีรายได้รวมเพิ่มขึ้น 19.17% และกำไรสุทธิ เพิ่มขึ้น 38.29% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ผ่านมา (QoQ) ขณะที่ผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนแรกปี 2564 บริษัทฯมีรายได้รวม 1,222.08 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16.14% และมีกำไรสุทธิ 149.67 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.91% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY)

ทั้งนี้ สาเหตุที่รายได้เพิ่มขึ้นจากบริษัทฯ มียอดขายสินค้าทั้งในและต่างประเทศเพิ่มขึ้น ถึงแม้จะมีสถานการณ์โรคระบาดจากไวรัสโควิค-19 แต่ยังคงมีการรักษาความสัมพันธ์กับลูกค้าอย่างใกล้ชิด และยังมุ่งเน้นหาลูกค้ารายใหม่ๆ เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันบริษัทฯได้เดินหน้าเพิ่มส่วนแบ่งตลาดสำหรับประเทศที่บริษัทฯมีการจำหน่ายสินค้าไปอยู่แล้ว อาทิ ประเทศญี่ปุ่น ประเทศเกาหลี และไต้หวัน รวมถึงการปรับปรุงรูปแบบสินค้าให้ตรงกับความต้องการของลูกค้า

นอกจากนี้ บริษัทฯยังได้ขยายตลาดไปยังประเทศสหรัฐฯ โดยเฉพาะยอดออเดอร์ตลาดวอลมาร์ท (Walmart) ซึ่งเป็นบริษัทค้าปลีกขนาดใหญ่จากประเทศสหรัฐอเมริกา และกลุ่มประเทศในสหภาพยุโรป ที่มีคำสั่งซื้อเข้ามาจำนวนมาก แม้ว่าจะมีผลกระทบจากสถานการณ์ตู้คอนเทนเนอร์ขาดแคลน ในผู้ประกอบการรายเล็ก แต่อย่างไรก็ตามผู้ประกอบการรายใหญ่มีผลกระทบไม่มากนัก เนื่องจากผู้ประกอบการบางรายมีสายเรือเป็นของตัวเอง และบางรายสามารถบริหารจัดการพื้นที่การขนส่งได้เพราะมีปริมาณการขนส่งสินค้าจำนวนมาก ซึ่งกลุ่มนี้เป็นลูกค้าของบริษัทฯ

อย่างไรก็ตาม ด้วยคำสั่งซื้อที่ปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลให้บริษัทฯใช้กำลังการผลิตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมีผลให้ต้นทุนการผลิตต่อหน่วยปรับตัวลดลง ประกอบกับที่ผ่านมาบริษัทฯได้ป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนไว้ที่ระดับ 50% เนื่องจากเงินบาทมีทิศทางที่อ่อนค่าลง ส่งผลให้บริษัทได้ประโยชน์จากเงินบาทที่อ่อนค่าลง จึงปัจจัยที่เข้ามาช่วยสนับสนุนอัตราการทำกำและการเติบโตของของกำไรสุทธิในช่วงไตรมาส 2/2564 ปรับตัวในทิศทางที่ขึ้น

นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ยังมีมติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล งวดผลการดำเนินงานครึ่งปีแรกประจำปี 2564 จำนวน 0.07 บาทต่อหุ้น สะท้อนถึงผลการดำเนินงานที่ดีในช่วงครึ่งปีแรก โดยกำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) ในวันที่ 26 ส.ค. 2564 และจะกำหนดจ่ายปันผลในวันที่ 10 ก.ย. 2564

ด้านบริษัทหลักทรัพย์ เอเชีย เวลท์ จำกัด ระบุในบทวิเคราะห์ โดยคาดกำไรสุทธิปี 2564 อยู่ที่ 509 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 33%  จากงวดเดียวกันของปีก่อน และในปี 2565 อยู่ที่ 425 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20% จากงวดเดียวกันของปีก่อน ตามลำดับ

ขณะเดียวกันมีการประเมินอัตรากำไรขั้นต้นในปี 2564 ที่ 28.2% และในปี 2565 ที่ 28.5% ตามลำดับ และคาดการณ์ว่ารายได้รวมในปี 2564 อยู่ที่ 2,727 ล้านบาท และในปี 2565 อยู่ที่ 3,166 ล้านบาท ซึ่งปัจจัยหนุนการเติบโตของผลประกอบการในอนาคต อย่างจากการเติบโตในตลาดต่างประเทศโดยเฉพาะอเมริกาและยุโรป ซึ่งมองว่าเป็นตลาดที่มีศักยภาพในการเติบโตได้อีกมากปัจจุบันสัดส่วนรายได้จากอเมริกาและยุโรปคิดเป็น 20% และ 10% ของยอดขายทั้งหมดตามลำดับ นอกจากนี้บริษัทยังได้เปรียบคู่แข่งทางด้านภาษีในยุโรปอีกด้วย

APURE ออเดอร์รอส่งออกล้นมือแตะ 3,000 คอนเทนเนอร์

บมจ.อกริเพียว โฮลดิ้งส์ (APURE) ระบุคำสั่งซื้อที่รอจ่อส่งมอบแล้วกว่า 3,000 คอนเทนเนอร์ ซึ่งสูงกว่าในช่วงครึ่งปีแรก20% หนุนผลประกอบการช่วงครึ่งปีหลัง 2564 เติบโตต่อเนื่อง หลังความต้องการอาหารบรรจุกระป๋องมากขึ้นจากสถานการณ์วิด-19 ที่มีตัวเลขผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นทั่วโลก พร้อมใช้มาตรการควบคุมสูงสุดควบไม่ให้มีผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศที่รุนแรง

นายสุเรศพล จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานกรรมการ บริษัท อกริเพียว โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ APURE ผู้ส่งออกข้าวโพดหวานแปรรูปคุณภาพสูง เปิดเผยถึงภาพรวมธุรกิจในช่วงครึ่งปีหลังว่า แนวโน้มยังมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยขณะนี้บริษัทฯมียอดคำสั่งซื้อ(ออเดอร์) ล่วงหน้าเข้ามาแล้วกว่า 3,000 คอนเทนเนอร์ ซึ่งสูงกว่าในช่วงครึ่งปีแรก20% เนื่องจากดีมานด์บรรจุอาหารประเภทกระป๋อง มีความต้องการสูงขึ้น ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ทำให้ต้องมีการปรับไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตในประจำวัน เพื่อลดความเสี่ยงการจากการติดเชื้อไวรัส

ทั้งนี้ บริษัทฯได้เน้นการเพิ่มส่วนแบ่งตลาดในกลุ่มลูกค้าหลัก อาทิ ประเทศญี่ปุ่น ประเทศเกาหลี และประเทศไต้หวัน เพิ่มขึ้น พร้อมทั้งเร่งขยายตลาดไปยังประเทศสหรัฐอเมริกา และสหภาพยุโรป เนื่องจากในกลุ่มประเทศดังกล่าวมีความต้องการสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยเห็นได้จากยอดออเดอร์ตลาดวอลมาร์ท (Walmart) ซึ่งเป็นบริษัทค้าปลีกขนาดใหญ่จากประเทศสหรัฐอเมริกา ที่มีความต้องการซื้อสูง

ขณะเดียวกันภายในไตรมาส 4/2564 บริษัทฯเตรียมเซ็นสัญญากับลูกค้ารายใหม่เพิ่มขึ้น ซึ่งจากปัจจัยดังกล่าวจึงทำให้ในช่วงครึ่งปีหลัง บริษัทฯต้องเพิ่มกำลังการผลิตในการผลิตข้าวโพดหวานแปรรูปในรูปแบบกระป๋องขนาด 15 ออนซ์เพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว จากกำลังการผลิตเดิมในปัจจุบันอยู่ที่ 2,000 ตู้คอนเทนเนอร์ พร้อมทั้งเตรียมเพิ่มไลน์ผลิตขนาด 108 ออนซ์ อีกเท่าตัว จากปัจจุบันมีกำลังการผลิต1,300 – 1,500 ตู้คอนเทนเนอร์ต่อปีเช่นเดียวกัน

นอกจากนี้ นายสุเรศพล ยังได้กล่าวถึงกรณีสถานการณ์ตู้คอนเทนเนอร์ขาดแคลนว่า เรื่องการขนส่งมีผลกระทบต่อผู้ประกอบการรายเล็กบางส่วน แต่ในทางกลับกันผู้ประกอบการรายใหญ่ที่มีปริมาณการขนส่งจำนวนมาก และมีศักยภาพในการชำระค่าขนส่งที่สูงขึ้น รวมถึงบางรายที่มีสายการเดินเรือเป็นของตนเอง ก็ยังไม่รับผลกระทบจากกรณีดังกล่าว ส่งผลให้ดีมานด์ในกลุ่มนี้ยังคงมีคำสั่งซื้อเข้ามาต่อเนื่อง พร้อมกันนี้มองว่าหากสถานการณ์ตู้คอนเทนเนอร์ขาดแคลนกลับสู่ภาวะปกติ เชื่อว่าผู้ประกอบการรายเล็ก จะกลับมาสั่งซื้อเช่นเหมือน ซึ่งก็จะช่วยหนุนให้ยอดขายกลับมาเติบโตคึกคักอย่างมีนัยสำคัญอีกครั้ง

“อย่างไรก็ตาม จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในประเทศที่ยังไม่คลี่คลายทำให้บริษัทฯมีมาตรการควบคุมคุณภาพในทุกขั้นตอนอย่างสูงสุด เพื่อให้สามารถผลิตและส่งสินค้าได้ตามระยะเวลาที่กำหนด โดยได้รับความร่วมมือที่ดีจากพนักงานของบริษัทฯที่ให้พักอยู่ในโรงงานทั้งหมด ทั้งนี้ยังมั่นใจได้ว่าผลิตภัณฑ์ที่ออกจากบริษัทฯได้ผ่านการฆ่าเชื้อทั้งหมดก่อนส่งถึงมือลูกค้า” นายสุเรศพล กล่าวทิ้งท้าย

APURE เปิดเกมรุกธุรกิจข้าวโพดหวาน

บมจ. อกริเพียว โฮลดิ้งส์ (APURE) เดินเกมรุก เจาะตลาดวอลมาร์ท (Walmart) บริษัทค้าปลีกขนาดใหญ่ในสหรัฐฯ และตลาดในยุโรป เร่งสยายปีกเพิ่มกำลังการผลิตขนาด 15 ออนซ์ หวังรองรับความต้องการสินค้ากลุ่มวอลมาร์ททั่วโลก พร้อมประกาศตั้งเป้า 3 ปี  (2564-2566) รายได้เติบโตนิวไฮเฉลี่ย 30-40% ต่อปี ส่งซิก Q4/64 เตรียมปิลดีลลูกค้ารายใหม่   

นายสุเรศพล จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานกรรมการ บริษัท อกริเพียว โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ APURE ผู้ส่งออกข้าวโพดหวานแปรรูปคุณภาพสูง เปิดเผยว่า บริษัทฯตั้งเป้ารายได้ 3 ปี (64-66 )  ต่อจากนี้เติบโตไม่ต่ำกว่า 30-40% ต่อปี หลังจากที่บริษัทฯ ได้เข้าไปทำการตลาดในประเทศสหรัฐเมื่อ 2-3 ปีที่ผ่านมา และได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้บริโภค เนื่องจากรสชาติของข้าวโพดไทยมีเอกลักษณ์และมีความแตกต่าง ส่งผลให้บริษัทฯได้รับคำสั่งซื้อ(ออเดอร์)ใหม่จากวอลมาร์ท (Walmart) ซึ่งเป็นบริษัทค้าปลีกขนาดใหญ่จากประเทศสหรัฐอเมริกา เข้ามาสูงถึง 4,400 ตู้คอนเทนเนอร์ต่อปี โดยในเบื้องต้นบริษัทฯ ส่งสินค้าดังกล่าวได้จำนวน 1,400 ตู้คอนเทนเนอร์ต่อปี ตามกำลังผลิตในปัจจุบัน

จากประเด็นดังกล่าว ทำให้บริษัทฯจึงมีแผนเพิ่มกำลังการผลิตในการผลิตข้าวโพดหวานแปรรูป  ในรูปแบบกระป๋องขนาด 15 ออนซ์ ภายใต้งบลงลทุน 50 ล้านบาท โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในไตรมาส 4/2564 เพื่อที่จะรองรับคำสั่งซื้อที่เข้ามาเพิ่มเติม ซึ่งทำให้บริษัทฯกำลังการผลิตเพิ่มอีก 2,000 ตู้คอนเทนเนอร์ต่อปี จากปัจจุบันบริษัทฯ กำลังการผลิตอยู่ที่2,000 ตู้คอนเทนเนอร์ ทำให้ในอนาคตจะมีศักยภาพรองรับได้สูงถึง 4,000 ตู้คอนเทนเนอร์ต่อปี

ทั้งนี้ยอมรับว่า หลังจากที่บริษัทฯสามารถเจาะตลาดวอลมาร์ท (Walmart) ที่สหรัฐฯได้ ส่งผลให้ ในปัจจุบันบริษัทฯได้มีโอกาสรับเลือกเป็นหนึ่งในบริษัทผู้ประกอบการส่งออกข้าวโพดหวานแปรรูป อาทิ ข้าวโพดหวานเมล็ดบรรจุกระป๋อง  ข้าวโพดหวานครีมบรรจุกระป๋อง ข้าวโพดหวานบรรจุถุงสุญญากาศ ข้าวโพดฝักอ่อนบรรจุกระป๋อง เพื่อจำหน่ายเพิ่มเติมในวอลมาร์ท (Walmart) ที่มีสาขากระจายอยู่หลายประเทศทั่วโลกในอนาคตอีกด้วย  ขณะเดียวกันบริษัทฯยังส่งออเดอร์ให้กลุ่มลูกค้ารายอื่นๆในสหรัฐฯอีกกว่า 400– 500 ตู้คอนเทนเนอร์ต่อปีเช่นเดียวกัน

นอกจากนี้บริษัทฯยังมีลูกค้ากลุ่มสหภาพยุโรป (EU) ที่ยังคงมีดีมานด์เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยจะเห็นจากยอดออเดอร์ในปีนี้ ที่มีเข้ามาแล้วกว่า 500 ตู้คอนเทนเนอร์ จากปีก่อนที่ส่งออกไปEU เพียง 40-50 ตู้คอนเทนเนอร์เท่านั้น

“หลังจากบริษัทฯชนะดีการเก็บภาษีทุ่มตลาดส่งผลให้บริษัทฯเสียภาษีนำเข้าสินค้าไปจำหน่าย  ในยุโรป ลดลงเหลือ 3 % จากเดิมที่ 13 % ซึ่งปัจจุบันบริษัทอื่นๆในประเทศไทยยังคงต้องเสียภาษีนำเข้า 13 %  นั้นหมายความว่า ประสิทธิภาพในการแข่งขันของบริษัทฯสูงขึ้นในการส่งออกตลาดยุโรป ซึ่งเป็นตลาดใหญ่ มีการบริโภคข้าวโพดสูง”

นายสุเรศพล ยังได้กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ในช่วงที่ผ่านมา บริษัทฯได้มีการปรับกลยุทธ์โครงสร้างทางธุรกิจ โดยเฉพาะเรื่องระยะสัญญาในการซื้อขายและส่งมอบ บริษัทฯได้มีการปรับระยะเวลาการทำสัญญากับลูกค้าเป็นระยะเวลา 6-12 เดือน จากเดิมที่เป็นสัญญาระยะยาว 2-3 ปี ทั้งนี้เพื่อป้องกันความเสี่ยงด้านการปรับราคาสินค้าตามต้นทุน รวมถึงจัดเป็นการช่วยบริหารต้นทุนการขนส่ง และยังเป็นการป้องกันความผันผวนจากค่าเงิน

สำหรับการบริหารจัดการความเสี่ยงของบริษัทฯจะทำการป้องกันความเสี่ยงด้านค่าเงิน ในแต่ระยะเวลาที่แตกต่างกัน ให้มีความเหมาะสมที่กรอบ 30 % 50 % และ 80 % เพื่อที่จะไม่มีผลกระทบจากค่าเงินที่เปลี่ยนแปลงไป ด้านราคากระป๋องจะทำคำสั่งซื้อกระป๋องล่วงหน้าทันที 100 % ของคำสั่งซื้อที่เข้ามา และวัตถุดิบข้าวโพด บริษัทฯใช้การตกลงกับเกษตรกรในเครือของบริษัท (คอนแทรกต์ฟาร์มมิ่ง) เพื่อให้มีความแน่นอน 100 % เช่นกัน บริษัทฯจึงสามารถบริหารจัดการให้สามารถทำกำไรที่ดีต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา

พร้อมทั้งยังได้กล่าวทิ้งท้ายว่า ภายในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ บริษัทฯจะมีข่าวดี กรณีการเซ็นสัญญากับลูกค้ารายใหม่ ซึ่งคาดว่าหากดีลดังกล่าวแล้วเสร็จ บริษัทฯสามารถเริ่มทยอยส่งออเดอร์ ได้ในปี2565 เป็นต้นไป ขณะเดียวกันยังมีแผนเพิ่มเติมในการขยายกำลังการผลิตข้าวโพดกระป๋องขนาด 108 ออนซ์ อีก1,300 – 1,500 ตู้คอนเทนเนอร์ต่อปี จากปัจจุบันมีกำลังการผลิต1,300 – 1,500 ตู้คอนเทนเนอร์ต่อปี ทำให้ในอนาคตบริษัทฯจะมีไลน์ผลิตขนาด 108 ออนซ์อยู่ที่ 2,600 – 3,000 ตู้คอนเทนเนอร์ต่อปี เนื่องจากดีมานด์ในขนาดดังกล่าว ยังมีความต้องการสูงสำหรับกลุ่มลูกค้าที่เป็นผู้ประกอบการ (B2B)

อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ มองว่าในช่วงครึ่งปีหลังยอดขายโดยรวมยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากดีมานด์การสั่งซื้อที่เพิ่มสูงขึ้นในต่างประเทศ อาทิ สหรัฐ ยุโรป และญี่ปุ่น ประกอบกับการผลิตของบริษัทฯสามารถผลิตได้ทุกขนาดตามความต้องการของตลาด อาทิ ขนาด 8  ออนซ์  ขนาด12 ออนซ์ ขนาด 15 ออนซ์ ขนาด 75 ออนซ์ และ ขนาด 108 ออนซ์  จากปัจจัยดังกล่าวเป็นการตอกย้ำให้เห็นถึงศักยภาพทางธุรกิจ ซึ่งเป็นที่ยอมรับของกลุ่มลูกค้าทั่วโลก