ไปรษณีย์ไทย – JWD – Flash Express ปั้น “ฟิ้วซ์ โพสต์”

บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด บริษัท เจดับเบิ้ลยูดี อินโฟโลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) และ บริษัท แฟลช เอ็กซ์เพรส จำกัด ผนึกกำลังดึงศักยภาพ 3 แบรนด์ ร่วมปั้น “ฟิ้วซ์ โพสต์” (FUZE POST) ธุรกิจขนส่งสินค้าควบคุมอุณหภูมิแบบด่วน (Cold Chain Express) น้องใหม่ พร้อมก้าวสู่การเป็นผู้นำในธุรกิจ Cold Chain Logistics ประเทศไทย พร้อมให้บริการ 1 กันยายน 2564 โดยในระยะแรกจะเน้นให้บริการในพื้นที่กรุงเทพฯ ปริมณฑล และ 6 เส้นทางภูมิภาค คือ หนองคาย เชียงใหม่ สุราษฎร์ธานี ภูเก็ต ตราด และบางละมุงเป็นหลักก่อน สำหรับลูกค้ารูปแบบ B2B B2C และ C2C ที่เป็นกลุ่มลูกค้าเดิมของไปรษณีย์ไทย และ JWD สำหรับลูกค้าใหม่จะเน้นการให้บริการแบบ Direct Pick-up เป็นหลัก โดยเรียกใช้บริการผ่าน www.fuzepost.co.th และมีแผนจะเปิดให้บริการจุดรับฝาก (Drop off) ขยายเส้นทางขนส่งระหว่างภูมิภาคในเดือนมกราคม 2564

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้การขนส่งสินค้าแบบควบคุมอุณหภูมิกำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมีปัจจัยจากอุปสงค์ของผู้บริโภค รวมถึงความต้องการในการขนส่งสินค้าทางการเกษตร ธุรกิจแฟรนไชส์อาหารสด ยาและเวชภัณฑ์ ฯลฯ ที่มีการเติบโตเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทั้งนี้ มูลค่าธุรกิจขนส่งควบคุมอุณหภูมิในประเทศไทย มีมูลค่าตลาดในปี 2564 ประมาณ 34,000 ล้านบาท เติบโตปีละ 8% หรือคิดเป็นสัดส่วน 5% ของตลาดโลจิสติกส์ทั้งหมด และคาดการณ์ว่าการเติบโตของธุรกิจขนส่งรูปแบบนี้จะมีการเติบโตถึง 8-10% ในปี 2565

ดร.ดนันท์ สุภัทรพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ในการร่วมทุนพัฒนาธุรกิจขนส่งสินค้าแบบควบคุมอุณหภูมิภายใต้แบรนด์ “ฟิ้วซ์ โพสต์” นับเป็นปรากฏการณ์ครั้งสำคัญที่ผู้นำด้านการขนส่ง โลจิสติกส์  3 หน่วยงาน มาร่วมเป็นพันธมิตรพร้อมนำศักยภาพของแต่ละหน่วยงานมาร่วมพัฒนาการให้บริการขนส่งควบคุมอุณหภูมิที่ดีที่สุดด้วยแนวคิด ธุรกิจการขนส่งและกระจายสินค้าควบคุมอุณหภูมิแบบด่วน หรือ Cold Chain Express  

ฟิ้วซ์ โพสต์ เกิดขึ้นจากการดึงจุดแข็งของทั้ง ไปรษณีย์ไทย JWD และ Flash Express มาขับเคลื่อนการให้บริการที่มีคุณภาพยิ่งขึ้น โดยไปรษณีย์ไทยมีศักยภาพในการเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการขนส่งแบบ Door to Door ที่มีเครือข่ายที่ครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วประเทศ มีประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญ มายาวนาน โดยเฉพาะบุรุษไปรษณีย์กว่า 20,000 คน ที่รู้จักทุกพื้นที่ใกล้ชิดกับชุมชน เมื่อผนวกกับความเชี่ยวชาญด้านการขนส่งควบคุมอุณหภูมิของ JWD และเทคโนโลยีดิจิทัลในการบริหารจัดการที่สามารถตอบโจทย์ผู้ใช้บริการได้เป็นอย่างดีของ Flash Express จะทำให้ “ฟิ้วซ์ โพสต์” สามารถก้าวขึ้นมาเป็นผู้ให้บริการขนส่งสินค้าแบบควบคุมอุณหภูมิที่แข็งแกร่งในธุรกิจ Cold Chain Express ได้

ด้าน นายชวนินทร์ บัณฑิตกฤษดา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจดับเบิ้ลยูดี อินโฟ โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า JWD เป็นผู้นำตลาดและดำเนินธุรกิจด้าน Cold Chain Logistics & Supply Chain มากว่า 25 ปี มีองค์ความรู้และความชำนาญครบทั้งในด้าน คลังจัดเก็บและบริหารจัดการสินค้าควบคุมอุณหภูมิ ศูนย์กระจายสินค้าควบคุมอุณหภูมิ  การขนส่งสินค้าควบคุมอุณหภูมิ รวมไปถึงการบริหารจัดการซัพพลายเชนของธุรกิจอาหาร ไม่ว่าจะเป็นการผลิตหรือแปรรูปอาหาร ซึ่งทั้งหมดนี้ต้องอาศัยประสบการณ์และความชำนาญทางด้านระบบควบคุมคุณภาพและความปลอดภัยของสินค้า เทคโนโลยีในการบริหารจัดการอุณหภูมิตลอดทั้งซัพพลายเชน ตลอดจนเข้าใจถึงความต้องการของผู้บริโภคทุกกลุ่ม โดยที่ผ่านมาทาง JWD ได้ให้บริการขนส่งสินค้าควบคุมอุณหภูมิให้กับกลุ่มลูกค้า B2B มากว่า 15 ปี และได้เปิดบริการขนส่งสินค้าควบคุมอุณหภูมิแบบด่วน หรือ Cold Chain Express ให้กลุ่มลูกค้า B2C และ C2C มาเป็นระยะเวลา 2 ปี ภายใต้ชื่อ JWD Express ดังนั้น การผนึกกำลังร่วมกับไปรษณีย์ไทย และ Flash Express ในครั้งนี้ จึงเป็นก้าวที่สำคัญที่สร้างการเติบโตแบบก้าวกระโดดในธุรกิจ Cold Chain Express และเป็นการขับเคลื่อนการเติบโตธุรกิจทางด้าน e-Commerce ตามแผนธุรกิจ 5 ปีที่ได้วางไว้ JWD เชื่อมั่นว่าการเอาจุดแข็งของพันธมิตรแต่ละฝ่ายมารวมกันในครั้งนี้ ภายใต้ชื่อ “ฟิ้วซ์ โพสต์” จะสามารถเพิ่มขีดความสามารถในการส่งมอบบริการที่มีคุณภาพ และตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคที่หลากหลายในอนาคต

ขณะที่ นายคมสันต์ ลี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แฟลช เอ็กซ์เพรส จำกัด ผู้ให้บริการขนส่งสัญชาติไทยและ e-Commerce แบบครบวงจร ขนส่งเอกชนไทยรายแรกที่ก้าวสู่ยูนิคอร์นระดับสากล เปิดเผยว่า จากการเติบโตของตลาดขนส่งสินค้าแบบควบคุมอุณหภูมิ หรือ Cold Chain Logistics ในประเทศไทย Flash Express เล็งเห็นถึงโอกาสในการเข้ามาทำตลาดในกลุ่มธุรกิจ Cold Chain จึงจับมือร่วมทุนกับผู้นำในตลาดอีก 2 บริษัท ในการรุกตลาด Cold Chain Logistics โดยตั้งเป้าเป็นผู้นำตลาดในประเทศไทย และในอาเซียนต่อไป

เราต้องการนำเอาศักยภาพด้านเทคโนโลยีดิจิทัลที่เรามี เข้ามาขับเคลื่อนในธุรกิจ Cold Chain เพื่อสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขัน โดยการต่อยอดธุรกิจไปสู่บริการในด้านอื่นๆ ที่สามารถตอบโจทย์แก่ผู้บริโภคยุค New normal และ Next normal ที่เปลี่ยนพฤติกรรมจากออฟไลน์ไปสู่ออนไลน์มากขึ้น พร้อมกันนี้ทีมงาน IT ของ Flash Express กว่า 100 คน ยังได้เตรียมวางระบบขนส่งในรูปแบบ Cold Chain Management System ทั้งในส่วนของ Fast optimization and tech adaption (การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีมาปรับปรุงระบบให้ตอบโจทย์ผู้ใช้งาน และแก้ไขปัญหาอย่างท่วงทัน ท่วงที), Cloud computing (การคำนวณด้วยเทคโนโลยี), System infrastructure ตลอดจนการวางระบบเชื่อมการทำงานเข้ากับระบบปฏิบัติการ (Application Programming Interface: API),ระบบจัดการคำสั่งซื้อ (Order Management System: OMS) อย่างไรก็ดี การร่วมทุนในโปรเจ็กต์ใหญ่ครั้งนี้ ถือเป็นการตอกย้ำว่าเราคือธุรกิจที่ทำบริการ  e-Commerce ได้อย่างครบวงจร”  นายคมสันต์กล่าว

ทั้งนี้ ฟิ้วซ์ โพสต์ เป็นการขนส่งและกระจายสินค้าควบคุมอุณหภูมิแบบด่วน ที่เปลี่ยนรูปแบบการดำเนินธุรกิจจาก “คู่แข่งขันมาเป็นคู่ค้า” เพื่อพัฒนาระบบการจัดการขนส่งให้แข็งแกร่ง มีระบบการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ และร่วมกันยกระดับภาคธุรกิจและเศรษฐกิจให้เติบโตยิ่งขึ้น โดยปรากฏการณ์ในครั้งนี้ ผู้ใช้บริการจะได้สัมผัสถึงความเชี่ยวชาญด้านการเข้าถึงลูกค้าทุกพื้นที่ของไปรษณีย์ไทย ที่พร้อมส่งมอบความสดใหม่ให้ถึงกลุ่มเป้าหมายทั่วประเทศ จุดแข็งในด้านการเป็นผู้นำตลาดของ JWD ที่เข้าถึงและตอบสนองทุกความต้องการกลุ่มลูกค้า รวมทั้งเทคโนโลยีสุดล้ำด้านอีคอมเมิร์ซของ Flash Express ที่จะพลิกโฉมภาคการค้าวิถีใหม่ให้ก้าวกระโดดในทุกโซลูชัน

ไปรษณีย์ไทย จัดส่งเตียงสนามกว่า 3,000 เตียงฟรี! ให้สถานพยาบาล

ดร.ดนันท์ สุภัทรพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด กล่าวว่า เพื่อเป็นการช่วยเหลือภาคสาธารณสุข บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ร่วมกับกองทัพอากาศ  บริษัท ปัญจพล ไฟเบอร์ คอนเทนเนอร์ จำกัด บริษัทสถานีการพิมพ์ จำกัด  มูลนิธิ SCG  บริษัท ซี.พี.ดี.  ชีทบอร์ด จำกัด สนับสนุนการจัดส่งเตียงสนามรวมจำนวน 3,000 เตียง ภายใต้แคมเปญ “ส่งความห่วงใย ส่งให้ สู้ภัย COVID – 19” โดยได้กระจายการส่งมอบเตียงสนามให้กับโรงพยาบาลสนามทั่วทุกพื้นที่ อาทิ จังหวัดปัตตานี ยะลา ลำปาง แพร่ พะเยา พิษณุโลกพิจิตร น่าน และจังหวัดสุโขทัย เป็นต้น และโรงพยาบาลสนามที่ขาดแคลนเตียงในการรองรับผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19

อย่างไรก็ดี ในส่วนการจัดส่งเตียงสนาม ไปรษณีย์ไทยได้มีการส่งมอบให้กับโรงพยาบาลสนามในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศแล้วมากกว่า 3,000 เตียง และจะยังคงเดินหน้าสนับสนุนการขนส่งโดยไม่มีค่าใช้จ่ายไปจนกว่าสถานการณ์จะเริ่มคลี่คลาย เพื่อให้ภาคสาธารณสุขและคนไทยก้าวข้ามผ่านวิกฤตครั้งนี้ไปด้วยกัน

ไปรษณีย์ไทย ชี้แจงเจ้าหน้าที่เสียชีวิตโควิด-19

จากสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อ COVID – 19 ที่มีความรุนแรงและต่อเนื่อง ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ของไปรษณีย์ไทยยังคงมีการติดเชื้อ โดยเฉพาะในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (พื้นที่สีแดง) ซึ่งปัจจุบันมีผู้ติดเชื้อและเสียชีวิต จำนวน 3 ราย

ทั้งนี้ ไปรษณีย์ไทยขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อเจ้าหน้าที่และครอบครัวของเจ้าหน้าที่ที่เสียชีวิต และยืนยันจะดูแลและมอบสวัสดิการแก่ผู้เสียชีวิตตามสิทธิและแนวทางการปฏิบัติของหน่วยงานโดยผู้ปฏิบัติงานที่เสียชีวิตมีสิทธิได้รับเงินค่าทดแทนกรณีเสียชีวิต ค่าทำศพ และเงินกองทุนสวัสดิการ ปณท

นอกจากนี้ เพื่อให้เกิดความปลอดภัยต่อเจ้าหน้าที่ งานบริการ และภาคประชาชน ไปรษณีย์ไทยจึงได้ เน้นย้ำมาตรการด้านความปลอดภัยและชีวอนามัยในทุกที่ทำการไปรษณีย์ทั่วประเทศ ดังนี้

  • ที่ทำการไปรษณีย์ อาคาร หรือสถานที่ที่พบผู้ติดเชื้อ ไปรษณีย์ไทยให้หยุดกิจกรรมในพื้นที่ทันที พื่อเร่งทำความสะอาด ฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อ รวมทั้งพิจารณาปิดทำการ 1-3 วันตามความจำเป็น/เหมาะสม หรือตามคำสั่งของเจ้าพนักงานควบคุมโรคในพื้นที่ ตามรายละเอียดของศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาด COVID – 19
  • ในกรณีที่มีเจ้าหน้าที่ติดเชื้อ หากพิจารณาแล้วสมควรปิดที่ทำการฯ ชั่วคราว จะจัดเจ้าหน้าที่ดำเนินการจัดส่งสิ่งของให้กับลูกค้าได้รับโดยเร็ว
  • กลุ่มเจ้าหน้าที่ที่มีความเสี่ยงสูง ให้ไปเข้ารับการตรวจคัดกรอง และหยุดทำงานเพื่อกักตัวสังเกตอาการเป็นเวลา 14 วัน ส่วนกลุ่มที่มีความเสี่ยงต่ำสามารถมาปฏิบัติงานได้ตามปกติ และให้หมั่นสังเกตอาการ หากพบอาการผิดปกติให้ไปเข้ารับการตรวจคัดกรองทันที
  • เพิ่มมาตรการเชิงรุกในการเข้ารับการฉีดวัคซีน โดยได้ประสานกับกรมควบคุมโรคและสาธารณสุขจังหวัดต่าง ๆ เพื่อขอจัดสรรวัคซีนป้องกัน COVID-19 เพิ่มเติมให้เจ้าหน้าที่ ทั้งนี้ มีเจ้าหน้าที่ได้รับวัคซีนเข็มแรกแล้วกว่า 12,000 คน และรับวัคซีนเข็มที่ 2 จำนวน 4,200 คน

    ที่ผ่านมาไปรษณีย์ได้เน้นย้ำให้เจ้าที่ที่ปฏิบัติงานทุกคนต้องระมัดระวัง และต้องปฏิบัติ ตามมาตรการอย่างเคร่งครัด ไม่ประมาทในการดูแลตนเอง เพื่อความปลอดภัยในการใช้ชีวิต เนื่องจากเชื้อไวรัสสามารถแพร่กระจายได้อย่างรวดเร็วและแพร่เชื้อสู่กันได้ง่ายขึ้น และยังคงปฏิบัติหน้าที่ในการส่งสิ่งของอย่างต่อเนื่อง เพื่อไม่ให้ผู้ใช้บริการ ภาคเศรษฐกิจ และภาคสังคมได้รับผลกระทบ