ไทยยูเนี่ยน นำทัพแบรนด์ซีเล็ค ร่วมโครงการธงฟ้าช่วยลดภาระค่าครองชีพ

บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) นำผลิตภัณฑ์แบรนด์ ซีเล็คเข้าร่วมโครงการธงฟ้าราคาประหยัดพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่น ตั้งเป้าช่วยเหลือประชาชนผู้มีรายได้น้อย รวมถึงประชาชนทั่วไปได้บริโภคสินค้าดีมีคุณภาพในราคาประหยัดลดภาระค่าครองชีพ โดยนำเอาผลิตภัณฑ์ยอดนิยมอย่าง ซีเล็ค ปลาแมคเคอเรลในซอสมะเขือเทศ และ ซีเล็ค น้ำพริกผัดทูน่า เข้าร่วมโครงการ โดยจำหน่ายผ่านร้านธงฟ้าพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่น

นายศรัณย์ รัตนรุ่งเรืองชัย ผู้จัดการทั่วไป บริหารกลุ่มตลาดเกิดใหม่ บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ในนาม ไทยยูเนี่ยน ภายใต้แบรนด์ซีเล็ค รู้สึกเป็นเกียรติและมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้มีโอกาสเข้าร่วมโครงการธงฟ้าราคาประหยัดพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่น เพื่อช่วยสนับสนุนมาตรการของกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เพื่อจัดหาสินค้าที่จำเป็น มีคุณค่าทางโภชนาการ มีคุณภาพ และที่สำคัญเพื่อลดภาระค่าครองชีพของประชาชน เพราะเราจำหน่ายสินค้าในราคาที่ถูกกว่าท้องตลาดทั่วไป ซึ่งโครงการดังกล่าวถือว่าเป็นโครงการที่ช่วยเหลือสังคม เพราะเป็นประโยชน์ต่อประชาชน รวมทั้งร้านธงฟ้าพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่นด้วยเช่นกัน

“ทางไทยยูเนี่ยน ได้นำเอาผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ซีเล็ค โดยนำร่องด้วยปลาแมคเคอเรลในซอสมะเขือเทศ ที่ทั้งอร่อย เพราะคัดสรรปลาแมคเคอเรล อุดมด้วยคุณประโยชน์ทั้งโอเมก้า 3, EPA, DHA รวมถึงวิตามินซีและดี มาจำหน่ายในราคา ถูก ทำให้ประชาชนทั่วไปได้บริโภคสินค้าดีมีคุณภาพในราคาประหยัด และ ดี เพราะการันตีคุณภาพจากบริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นโรงงานมาตรฐานผลิตแบบสากล สินค้าสามารถจัดเก็บไว้บริโภคได้นานถึง 3 ปี โดยไม่ใส่วัตถุกันเสียหรือสารกันบูด โดยผลิตภัณฑ์ซีเล็ค จากไทยยูเนี่ยน ยังถือเป็นผลิตภัณฑ์แบรนด์แรกที่ได้รับอนุมัติตราสัญลักษณ์ธงฟ้าจากกรมการค้าภายในบนบรรจุภัณฑ์ สำหรับวางจำหน่ายพิเศษ เฉพาะที่ร้านธงฟ้าเท่านั้น ความร่วมมือในครั้งนี้สอดคล้องกับเป้าหมายหลักของการดำเนินงานของไทยยูเนี่ยน ที่มุ่งมั่นในการสร้างความเป็นอยู่ที่ดีให้แก่ผู้บริโภค ควบคู่ไปกับการรักษาความอุดมสมบูรณ์ของท้องทะเลอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความยั่งยืนทางด้านอาหาร ให้แก่อนาคตของคนรุ่นต่อๆไป”

สำหรับผลิตภัณฑ์ยอดนิยมที่นำมาเข้าร่วมโครงการมี 2 รายการ คือ ซีเล็ค ปลาแมคเคอเรลในซอสมะเขือเทศ ขนาด 155 กรัม ใน ราคาปลีกแนะนำเพียง 14 บาท (จากราคาปกติ 16 บาท) และซีเล็คน้ำพริกผัดทูน่า x ธงฟ้า ขนาด 90 กรัม ในราคาปลีกแนะนำเพียง 20 บาท (จากราคาปกติ 27 บาท) มีวางจำหน่ายแล้วที่ร้านธงฟ้าพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่นมากกว่า 25,000 ร้าน ทั่วประเทศ

ไทยยูเนี่ยน นำทัพแบรนด์ซีเล็ค ร่วมโครงการธงฟ้า

บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) นำผลิตภัณฑ์แบรนด์ ซีเล็คเข้าร่วมโครงการธงฟ้าราคาประหยัดพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่น ตั้งเป้าช่วยเหลือประชาชนผู้มีรายได้น้อย รวมถึงประชาชนทั่วไปได้บริโภคสินค้าดีมีคุณภาพในราคาประหยัดลดภาระค่าครองชีพ โดยนำเอาผลิตภัณฑ์ยอดนิยมอย่าง ซีเล็ค ปลาแมคเคอเรลในซอสมะเขือเทศ และ ซีเล็ค น้ำพริกผัดทูน่า เข้าร่วมโครงการ โดยจำหน่ายผ่านร้านธงฟ้าพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่น

นายศรัณย์ รัตนรุ่งเรืองชัย ผู้จัดการทั่วไป บริหารกลุ่มตลาดเกิดใหม่ บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ในนาม ไทยยูเนี่ยน ภายใต้แบรนด์ซีเล็ค รู้สึกเป็นเกียรติและมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้มีโอกาสเข้าร่วมโครงการธงฟ้าราคาประหยัดพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่น เพื่อช่วยสนับสนุนมาตรการของกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เพื่อจัดหาสินค้าที่จำเป็น มีคุณค่าทางโภชนาการ มีคุณภาพ และที่สำคัญเพื่อลดภาระค่าครองชีพของประชาชน เพราะเราจำหน่ายสินค้าในราคาที่ถูกกว่าท้องตลาดทั่วไป ซึ่งโครงการดังกล่าวถือว่าเป็นโครงการที่ช่วยเหลือสังคม เพราะเป็นประโยชน์ต่อประชาชน รวมทั้งร้านธงฟ้าพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่นด้วยเช่นกัน

“ทางไทยยูเนี่ยน ได้นำเอาผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ซีเล็ค โดยนำร่องด้วยปลาแมคเคอเรลในซอสมะเขือเทศ ที่ทั้งอร่อย เพราะคัดสรรปลาแมคเคอเรล อุดมด้วยคุณประโยชน์ทั้งโอเมก้า 3, EPA, DHA รวมถึงวิตามินซีและดี มาจำหน่ายในราคา ถูก ทำให้ประชาชนทั่วไปได้บริโภคสินค้าดีมีคุณภาพในราคาประหยัด และ ดี เพราะการันตีคุณภาพจากบริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นโรงงานมาตรฐานผลิตแบบสากล สินค้าสามารถจัดเก็บไว้บริโภคได้นานถึง 3 ปี โดยไม่ใส่วัตถุกันเสียหรือสารกันบูด โดยผลิตภัณฑ์ซีเล็ค จากไทยยูเนี่ยน ยังถือเป็นผลิตภัณฑ์แบรนด์แรกที่ได้รับอนุมัติตราสัญลักษณ์ธงฟ้าจากกรมการค้าภายในบนบรรจุภัณฑ์ สำหรับวางจำหน่ายพิเศษ เฉพาะที่ร้านธงฟ้าเท่านั้น ความร่วมมือในครั้งนี้สอดคล้องกับเป้าหมายหลักของการดำเนินงานของไทยยูเนี่ยน ที่มุ่งมั่นในการสร้างความเป็นอยู่ที่ดีให้แก่ผู้บริโภค ควบคู่ไปกับการรักษาความอุดมสมบูรณ์ของท้องทะเลอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความยั่งยืนทางด้านอาหาร ให้แก่อนาคตของคนรุ่นต่อๆไป”

สำหรับผลิตภัณฑ์ยอดนิยมที่นำมาเข้าร่วมโครงการมี 2 รายการ คือ ซีเล็ค ปลาแมคเคอเรลในซอสมะเขือเทศ ขนาด 155 กรัม ใน ราคาปลีกแนะนำเพียง 14 บาท (จากราคาปกติ 16 บาท) และซีเล็คน้ำพริกผัดทูน่า x ธงฟ้า ขนาด 90 กรัม ในราคาปลีกแนะนำเพียง 20 บาท (จากราคาปกติ 27 บาท) มีวางจำหน่ายแล้วที่ร้านธงฟ้าพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่นมากกว่า 25,000 ร้าน ทั่วประเทศ

ไทยยูเนี่ยน ลุยตลาดโปรตีนทางเลือก-เพาะเลี้ยงเซลล์

บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ได้เข้าลงทุนใน บริษัท อเลฟ ฟาร์มส์ บริษัทสตาร์ทอัพสัญชาติอิสราเอล ด้วยงบลงทุน venture fund ของบริษัท ซึ่งไทยยูเนี่ยนนับเป็นหนึ่งในบริษัทชั้นนำต่างๆ ที่เข้าร่วมลงทุนในรอบระดมทุน Series B ซึ่งมีมูลค่า 105 ล้านเหรียญสหรัฐ

บริษัท อเลฟ ฟาร์มส์ ก่อตั้งขึ้นในปี 2560 และเป็นหนึ่งในบริษัทชั้นนำของโลกด้านโปรตีนจากการเพาะเลี้ยงเซลล์ ผลิตเนื้อสเต็กจากตัวอย่างเซลล์ของวัวโดยไม่มีการทำร้ายสัตว์ และสามารถลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมได้มาก วิธีการผลิตนี้ทำให้เกิดทางเลือกในการผลิตที่ยั่งยืนมากขึ้นสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการรับประทานเนื้อที่มีการผลิตอย่างยั่งยืน เนื้อสเต็กจากการเพาะเลี้ยงเซลล์นี้มีรสชาติและรสสัมผัสที่ใกล้เคียงกับเนื้อวัวโดยไม่มีการฆ่าสัตว์เกิดขึ้น โดยขั้นตอนต่อไปหลังการระดมทุนในรอบ Series B จะเป็นการขยายธุรกิจเนื้อสเต็กนี้ในระดับโลก ตลอดจนพัฒนาผลิตภัณฑ์ต่างๆ และเบื่องต้นมีกำหนดการที่จะเปิดตัวสินค้าในปี 2565

นายธีรพงศ์ จันศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ไทยยูเนี่ยนให้ความสำคัญกับนวัตกรรมและความยั่งยืน ถือเป็นหัวใจหลักในการดำเนินธุรกิจ และเป็นกุญแจสำคัญในความสำเร็จในระยะยาวทั้งของบริษัทเองและอุตสาหกรรมในภาพรวม ในขณะที่ประชากรโลกเพิ่มมากขึ้น การผลิตโปรตีนที่มีแหล่งที่มาอย่างยั่งยืนมีความสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งนี้เพื่อตอบโจทย์ความต้องการในแง่ของสารอาหารและโภชนาการ ไทยยูเนี่ยนเชื่อมั่นว่า บริษัท อเลฟ ฟาร์มส์ จะมีบทบาทสำคัญในการเรื่องนี้ เรายินดีที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการระดมทุนครั้งนี้และหวังว่าจะได้ร่วมงานกับอเลฟ ฟาร์มส์ ต่อไป

ดิดิเยร์ ทูเบีย ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อเลฟ ฟาร์มส์ กล่าวว่า เรายินดีอย่างยิ่งที่ไทยยูเนี่ยนได้เข้าร่วมลงทุนในครั้งนี้ ผู้ร่วมลงทุนเช่นบริษัทไทยยูเนี่ยน มีวิสัยทัศน์เป็นไปในแนวทางเดียวกับเรา จะทำให้เราสามารถทำงานก้าวไปข้างหน้า สร้างความเปลี่ยนแปลงได้ดียิ่งขึ้น และยังช่วยเติมเต็มวิสัยทัศน์ที่จะเปลี่ยนแปลงระบบอาหารของโลกให้ก้าวไปสู่โลกที่ยั่งยืนมากขึ้น เท่าเทียมกันมากขึ้นและปลอดภัยมากขึ้น

ทั้งนี้ งบลงทุนในส่วนของ venture fund ของไทยยูเนี่ยนนั้นมุ่งลงทุนใน 3 ด้านได้แก่ โปรตีนทางเลือก อาหารฟังก์ชั่น และเทคโนโลยีใหม่ๆ ซึ่งรวมถึง เทคโนโลยีชีวภาพและเทคโนโลยีห่วงโซ่คุณค่า รวมถึงในด้านกลยุทธ์เช่นการลงทุนต่างๆ ด้วย โดยมุ่งลงทุน ร่วมทุน ในบริษัทสตาร์ทอัพที่อยู่ในช่วงพัฒนาธุรกิจที่สนใจด้านเหล่านี้และร่วมสนับสนุนและผลักดันให้พัฒนาต่อไป สอดคล้องกับเป้าหมายของบริษัทในการที่จะสร้างความเป็นอยู่ที่ดีให้กับผู้คนและดูแลความอุดมสมบูรณ์ของท้องทะเล

ไทยยูเนี่ยน จับมือ วีฟู้ดส์ ขยายธุรกิจอาหารทางเลือกจากพืช

บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) และ บริษัท วี ฟู้ดส์ (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศความร่วมมือในธุรกิจ Plant-Based Food อาหารทางเลือกจากพืชร่วมกัน โดยได้ลงนามในข้อตกลงความร่วมมือในการพัฒนาธุรกิจโปรตีนทางเลือกจากพืชร่วมกัน

ความร่วมมือดังกล่าวยังครอบคลุมถึงการศึกษาโอกาสและความเป็นไปได้ในการผลิตสินค้าต่างๆ ของบริษัท วี ฟู้ดส์ด้วยเทคโนโลยีและฐานกำลังผลิตของไทยยูเนี่ยน ตลอดจนความร่วมมือในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ร่วมกัน นอกจากนี้ไทยยูเนี่ยนและวี ฟู้ดส์ยังเล็งเห็นโอกาสในการร่วมมือกันขยายตลาดไปยังช่องทางต่างๆ ที่แต่ละบริษัทมีความเชี่ยวชาญ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ

นายธีรพงศ์ จันศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ไทยยูเนี่ยนให้ความสำคัญกับนวัตกรรมในการดำเนินธุรกิจมาโดยตลอด ผลิตภัณฑ์โปรตีนทางเลือกนับเป็นหนึ่งในสินค้านวัตกรรมที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคในปัจจุบันได้เป็นอย่างดี ไทยยูเนี่ยนมีความยินดีที่ได้จับมือกับวี ฟู้ดส์ ซึ่งมีวิสัยทัศน์ในการดำเนินธุรกิจอาหารไปในแนวทางเดียวกับเรา และพร้อมเดินหน้าร่วมมือขยายความร่วมมือและโอกาสทางธุรกิจต่อไป

นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ประธานกรรมการบริหาร บริษัท วี ฟู้ดส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า บริษัทวีฟู้ดส์ให้ความสำคัญกับนวัตกรรมในการดำเนินธุรกิจตั้งแต่การวิจัยพัฒนาและส่งเสริมเครือข่ายเกษตรกรในการจัดหาวัตถุดิบที่มีคุณภาพในการผลิตสินค้าคุณภาพ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ที่ใส่ใจสุขภาพและมีส่วนร่วมในการดูแลสิ่งแวดล้อมด้วยการเลือกบริโภคอาหารที่มีความยั่งยืน บริษัทมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะได้มีโอกาสร่วมทำงานกับบริษัทไทยยูเนี่ยนในการพัฒนาตลาดโปรตีนทางเลือกจากพืช และอาหารทางเลือกจากพืชพร้อมทานจากประเทศไทยให้เติบโตและขยายตลาดสู่ต่างประเทศ

ปัจจุบัน บริษัท วี ฟู้ดส์ คือผู้นำตลาดข้าวโพดหวานพร้อมทานและน้ำนมข้าวโพดภายใต้แบรนด์ วี ฟาร์ม ด้วยยอดขายอันดับ 1 ของประเทศไทย นอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์อาหารเพื่อสุขภาพพร้อมทานภายใต้แบรนด์เดียวกัน และผลิตภัณฑ์โปรตีนทางเลือก More Meat