TFG คาดครึ่งปีหลังราคาเนื้อสัตว์บกฟื้นดันปีนี้โต 10-15%

บมจ.ไทยฟู้ดส์ กรุ๊ป (TFG) ใส่ใจความปลอดภัยของผู้บริโภค ยืนยันผลิตภัณฑ์เนื้อไก่ และสุกรของบริษัทฯมีความปลอดภัยสูงได้มาตรฐานสากล พร้อมเพิ่มความเข้มงวดกระบวนการควบคุมคุณภาพ พ่นฆ่าเชื้อโรคทุกจุด กำหนดมาตรการรักษาสุขอนามัยของพนักงาน มีมาตรการป้องกันโควิด-19 ทุกพื้นที่ ฟาก”นายเพชร นันทวิสัย” ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ ระบุผู้บริโภคสามารถบริโภคเนื้อสัตว์ได้ตามปกติ แนะเลือกซื้อจากผู้ผลิตที่ได้มาตรฐาน ประเมินครึ่งปีหลังแนวโน้มราคาสุกรฟื้นตัว เดินหน้าขยายพ่อแม่พันธุ์ตามแผน มั่นใจสนับสนุนผลงานปี 64 โตเข้าเป้า 10-15%

นายเพชร นันทวิสัย ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ บริษัท ไทยฟู้ดส์ กรุ๊ป จำกัด(มหาชน) หรือ TFG เปิดเผยว่า บริษัทฯและบริษัทในเครือ ในฐานะผู้ผลิตสินค้าปศุสัตว์ ผลิตภัณฑ์ไก่และสุกร เห็นความสำคัญและตระหนักถึงความปลอดภัยและความพึงพอใจของผู้บริโภคเป็นสำคัญ สุกรและไก่ทุกตัวที่เลี้ยงภายใต้ระบบการเลี้ยงของบริษัท จะถูกเลี้ยงอยู่ในภายในฟาร์มที่ได้รับรองมาตรฐานฟาร์ม (GAP Standard) จากกรมปศุสัตว์ โดยระบบการเลี้ยงแบบ EVAP system 100%  ทุกโรงเรือนจะมีการควบคุมอุณหภูมิ ความชื้น และการระบายอากาศภายในโรงเรือน และเป็นไปตามหลักสวัสดิภาพสัตว์ “Five Freedoms”  อีกทั้งยังได้รับการดูแลการจัดการจากสัตวบาลที่มีประสบการณ์ และมีสัตวแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญในการดูแลด้านสุขภาพของสัตว์

รวมทั้ง TFG ยังมีระบบการควบคุมคุณภาพตลอดทั้งห่วงโซ่การผลิต สุกรและไก่ ซึ่งจะได้รับอาหารจากโรงงานอาหารสัตว์ ที่มีมาตรฐานทั้ง GMP และ HACCP  กระบวนการขนส่ง ไปจนถึงโรงชำแหละที่ได้รับรองมาตรฐานการส่งออก และมีกระบวนการตรวจสอบและควบคุมคุณภาพจากฟาร์มถึงโรงงาน โดยทีม Food Safety เพื่อให้มั่นใจได้อย่างเต็มที่ว่าผลิตภัณฑ์ไก่และสุกร มีความปลอดภัยจากยาปฏิชีวนะตกค้าง ปลอดสารเร่งเนื้อแดง ปลอดภัยจากสารเคมี และปลอดภัยจากเชื้อโรคต่างๆ ที่จะเป็นอันตรายต่อผู้บริโภคอย่างแน่นอน

“ในสถานการณ์ที่มีการแพร่ระบาดของโควิด-19 เช่นนี้ บริษัทฯ ได้มีนโยบายเน้นย้ำและเพิ่มความเข้มงวดในกระบวนการควบคุมคุณภาพ มีการพ่นฆ่าเชื้อโรคอย่างสม่ำเสมอในทุกจุดตลอดการเลี้ยง โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านมาตรการรักษาสุขอนามัย โดยพนักงานทุกคนที่มีการปฏิบัติงานที่ต้องสัมผัสกับสัตว์ และกระบวนการเลี้ยงสัตว์ ตลอดจนภายในโรงชำแหละ ต้องผ่านการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย จุ่มเท้าฆ่าเชื้อ สเปรย์มือด้วยแอลกอฮอล์ สวมหน้ากากอนามัย และมีการตรวจสอบทุกครั้งก่อนเข้าปฏิบัติงาน ขณะที่บริษัทฯใส่ใจความปลอดภัยต่อผู้บริโภค จึงแนะนำให้เลือกซื้อเนื้อสัตว์ด้วยความระมัดระวัง โดยพิจารณาจากผู้ผลิตที่มีมาตรฐาน และมีมาตรการป้องกันโควิด-19 ที่ดี

ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ กล่าวต่อว่า สำหรับภาพรวมการดำเนินธุรกิจในช่วงครึ่งปีหลัง คาดว่า ปริมาณความต้องการบริโภคเนื้อสัตว์ น่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้น ขณะที่แนวโน้มราคาสุกรเริ่มกลับมาฟื้นตัวได้ดีขึ้น  ดังนั้นจึงมั่นใจว่าผลงานในปี 2564 จะเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยเติบโตในระดับ 10-15% โดยธุรกิจสุกรจะขยายตัวจากปริมาณการผลิตที่เพิ่มขึ้น และราคาที่อยู่ในระดับที่ดี อีกทั้งราคาขายในเวียดนาม ยังคงยืนในระดับสูงเช่นกัน

รวมทั้งการขยายฟาร์มระดับพ่อแม่พันธุ์สุกรทั้งในประเทศไทย และเวียดนาม เริ่มดำเนินไปแล้วบางส่วน อีกทั้งยังได้รับปัจจัยบวกจากการได้รับใบอนุญาตให้ส่งออกไปที่สหภาพยุโรป (EU) เพิ่มเติมในส่วนของสินค้าปรุงสุก รวมไปถึงการขยายธุรกิจร้านสะดวกซื้อ สำหรับเนื้อสดในรูปแบบตลาดสดภายใต้ชื่อร้าน Thai foods fresh market (ตลาดสดไทยฟู้ดส์) โดยปัจจุบันมี 21 สาขา ตั้งเป้า 50 สาขาในปีนี้  ” เพื่อมั่นใจในคุณภาพระดับสูงทุกสาขาเข้าสู่มาตรฐานการรับรอง “ปศุสัตว์OK ” ของกรมปศุสัตว์ ในส่วนของเนื้อสุกร,เนื้อไก่และไข่ไก่สด” และในปี 2564 ถือเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับเนื้อสัตว์ ทำให้อัตรากำไรขั้นต้นโดยรวมน่าจะดีขึ้น ช่วยผลักดันรายได้กำไรเติบโตอย่างแข็งแกร่ง

ทริสฯ อัพเรตติ้ง TFG สู่ BBB ตอกย้ำผลงานเด่น

TFG แกร่งเกินพิกัด! ทริสฯปรับเพิ่มเรตติ้งองค์กรเป็นระดับ “BBB” จากเดิม “BBB-”  พร้อมทั้งคงอันดับเครดิตหุ้นกู้ของบริษัทฯที่ได้รับการค้ำประกันเต็มจำนวนโดย Credit Guarantee and Investment Facility (CGIF) ที่ระดับ “AAA”  แนวโน้ม “Stable” ตอกย้ำผลการดำเนินงานโตเด่น-กระแสเงินสดดี คาดรายได้โต 6-9% ในปี 64-66

นางสาวศิริลักษณ์ ตั้งวิบบูลย์พาณิชย์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบัญชีและการเงิน บริษัท ไทยฟู้ดส์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TFG เปิดเผยว่า บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้เพิ่มอันดับเครดิตองค์กรของ TFG เป็นระดับ “BBB” จากเดิมที่ระดับ “BBB-” พร้อมทั้งคงอันดับเครดิตหุ้นกู้ของบริษัทฯที่ได้รับการค้ำประกันเต็มจำนวนโดย Credit Guarantee and Investment Facility (CGIF) ที่ระดับ “AAA” ด้วยแนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ“คงที่”

ทั้งนี้ อันดับเครดิตหุ้นกู้ของ TFG สะท้อนถึงคุณภาพเครดิตของ CGIF ซึ่งได้รับการจัดอันดับเครดิตที่ระดับ “AAA/Stable”  จากทริสเรทติ้ง ในฐานะผู้ค้ำประกันตราสารหนี้ของบริษัทฯ

การเพิ่มอันดับเครดิตองค์กรดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงผลการดำเนินงานและกระแสเงินสดของบริษัท ที่ดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญของบริษัทฯ สะท้อนถึงการฟื้นตัวของอุปสงค์ด้านผลิตภัณฑ์ปศุสัตว์ภายในประเทศ อีกทั้งยังสะท้อนถึงผลิตภัณฑ์ที่มีความหลากหลายมากขึ้น และการบริหารต้นทุนที่มีประสิทธิภาพของบริษัทอีกด้วย

อย่างไรก็ตาม อันดับเครดิตของบริษัทฯก็มีข้อจำกัดจากความผันผวนของผลิตภัณฑ์ที่มีลักษณะเป็นสินค้าโภคภัณฑ์ ตลอดจนความผันผวนของราคาอาหารสัตว์ และการก่อหนี้ พื่อใช้เป็นค่าใช้จ่ายลงทุนจำนวนมาก นอกจากนี้ บริษัทฯยังมีความเสี่ยงเฉพาะของอุตสาหกรรมเช่นเดียวกับผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์ไก่รายอื่น ๆ เช่น โรคระบาดในไก่ และผลกระทบจากสภาวะเศรษฐกิจทั่วโลกที่เปลี่ยนแปลงไปอีกด้วย

ผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในปี 2563 จากราคาสุกรและไก่เนื้อที่ปรับตัวสูงขึ้นอันเนื่องมาจากการขาดแคลนสุกรและการฟื้นตัวของอุปสงค์หลังจากที่ตลาดส่งออกในบางประเทศเริ่มกลับมาเปิดดำเนินการบ้างแล้วในช่วงครึ่งหลังของปี 2563

นอกจากนี้ การที่ต้นทุนอาหารสัตว์ปรับตัวลดลงยังส่งให้อัตรากำไรของบริษัทฯในปี 2563 ปรับตัวดีขึ้นอีกด้วย โดยมีอัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มสูงขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 14.1% ในปี 2563 จากระดับ 7.0%-12.6% ในระหว่างปี 2560-2562

โดยทริสเรทติ้งคาดการณ์ว่ารายได้จากการดำเนินงานรวมของบริษัทฯจะเติบโตที่ระดับ 6%-9% ต่อปีในระหว่างปี 2564-2566 จากการเติบโตของรายได้ในธุรกิจปศุสัตว์และธุรกิจอื่นๆ นอกจากนี้ ยังคาดการณ์ว่าอัตรากำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายต่อรายได้ของบริษัทฯน่าจะยังคงอยู่ที่ระดับประมาณ 11%-13% ในช่วงปี 2564-2566 ด้วย

นางสาวศิริลักษณ์ กล่าวอีกว่า ในปีนี้บริษัทฯตั้งเป้าหมายรายได้เติบโต 10-15% สร้างสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง โดยธุรกิจสุกรจะขยายตัวจากปริมาณการผลิตที่เพิ่มขึ้น และราคาที่อยู่ในระดับที่ดี อีกทั้งราคาขายในเวียดนามยังคงยืนในระดับสูงเช่นกัน รวมทั้งการขยายฟาร์มระดับพ่อแม่พันธุ์สุกรทั้งในประเทศ และประเทศเวียดนาม เริ่มดำเนินไปแล้วบางส่วน อีกทั้งยังได้รับปัจจัยบวกจากการได้รับใบอนุญาตให้ส่งออกไปที่สหภาพยุโรป (EU) เพิ่มเติมสำหรับสินค้าปรุงสุก  รวมไปถึงการขยายธุรกิจร้านสะดวกซื้อสำหรับเนื้อสดในรูปแบบตลาดสดภายใต้ชื่อร้าน Thai foods fresh market (ตลาดสดไทยฟู้ดส์) โดยปัจจุบันมี 11 สาขา ตั้งเป้าเพิ่มอีก 50 สาขา ในปี 2564 ถือเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับเนื้อสัตว์ ทำให้อัตรากำไรขั้นต้นโดยรวมดีขึ้น ผลักดันรายได้กำไรเติบโตอย่างแข็งแกร่ง

TFG ปลื้มติดโผ ESG100 สถาบันไทยพัฒน์

บมจ.ไทยฟู้ดส์กรุ๊ป (TFG) ปลื้ม! ได้รับการคัดเลือกอยู่ในกลุ่มหลักทรัพย์ ESG100 ที่มีความโดดเด่นด้านสิ่งแวดล้อม สังคมและธรรมาภิบาล ประจำปี 2564  จากสถาบันไทยพัฒน์ ตอบโจทย์การลงทุนที่ยั่งยืน หนุนนักลงทุนประเภทสถาบันและกองทุน เพิ่มน้ำหนักลงทุน 

นายเพชร นันทวิสัย ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ บริษัท ไทยฟู้ดส์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TFG เปิดเผยว่า บริษัทฯได้รับการจัดอันดับจากสถาบันไทยพัฒน์ให้เป็น 1 ใน 100 หลักทรัพย์จดทะเบียนที่โดดเด่นด้านสิ่งแวดล้อม สังคมและธรรมาภิบาล (ESG100) ประจำปี 2564 ถือเป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจของบริษัทฯที่สะท้อนให้เห็นถึงการดำเนินธุรกิจที่คำนึงถึงการเติบโตของธุรกิจควบคู่ไปกับสังคม การให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม และยึดมั่นในหลักธรรมาภิบาล

การดำเนินธุรกิจของ TFG ไม่ได้มองเพียงมิติของกำไรจากการดำเนินงานเพียงเท่านั้น แต่ปรัชญาในการดำเนินธุรกิจของเราให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม ชุมชน และสังคม รวมไปถึงการยึดมั่นธรรมาภิบาล ซึ่งถือเป็นโจทย์หลักที่ทำให้ธุรกิจของเราเติบโตอย่างยั่งยืนเคียงคู่ไปกับสังคม

นายเพชร กล่าวอีกว่า การที่บริษัทฯได้รับคัดเลือกให้อยู่ในกลุ่มหลักทรัพย์ ESG100 เชื่อว่าจะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับนักลงทุนสถาบันและกองทุนชั้นนำทั้งในและต่างประเทศ เพิ่มน้ำหนักลงทุนในหลักทรัพย์ที่สร้างผลตอบแทนที่ยั่งยืนในระยะยาว

ทั้งนี้  การประเมิน ESG100 ในปี พ.ศ.2564 ครอบคลุม 824 หลักทรัพย์ (ไม่รวมหลักทรัพย์ที่อยู่ระหว่างการฟื้นฟู) รวมทั้งกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REITs) และกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน โดยอ้างอิงจากเอกสารรายงานที่บริษัทเผยแพร่ไว้ต่อสาธารณะในแบบแสดงรายการข้อมูลประจำปี (แบบ 56-1) รวมทั้งในรายงานประจำปี รายงานแห่งความยั่งยืน และข้อมูลผลการดำเนินงานที่เกี่ยวเนื่องกับการพัฒนาความยั่งยืนของหน่วยงานที่ออกหลักทรัพย์/กองทุน จากแหล่งข้อมูล 6 แหล่ง รวมจำนวนกว่า 15,260 จุดข้อมูล