หมอตั๋ง -น.สพ.บูรพงษ์ สุธีรัตน์ แห่ง โรงพยาบาลสัตว์ตลิ่งชัน ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของสุนัขและแมวที่โรงพยาบาลสัตว์พบเป็นประจำคือ การขาดเลือด จึงขอเชิญชวนเจ้าของพาสัตว์เลี้ยงมาร่วมบริจาคเลือดได้กับหน่วยธนาคารเลือด Blood Bank Center เพื่อสำรองเลือดสุนัขและแมวไว้ใช้ในยามวิกฤต ช่วยต่อชีวิตเพื่อนร่วมสายพันธุ์ แถมยังให้สัตว์เลี้ยงได้มีสุขภาพที่ดี สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 02-887-8321-3 , Facebook : https://www.facebook.com/talingchanpetfanpage หรือ ทาง Line : @Talingchanpet https://bit.ly/3jDsDDI
ป้ายกำกับ: โรงพยาบาลสัตว์ตลิ่งชัน
ทำอย่างไร? เมื่อโรคข้อสะโพกเสื่อมมาเยือนเจ้าตูบ
คงจะเคยได้ยินเกี่

น.สพ.บูรพงษ์ สุธีรัตน์ (หมอตั๋ง) สัตวแพทย์แผนกระบบกระดูกและข้อต่อโรงพยาบาลสัตว์ตลิ่งชัน ให้คำแนะนำวิธีการรักษามีทั้งวิธีที่ต้องผ่าตัดและแบบที่ไม่ต้องผ่าตัด การพิจารณาเลือกวิธีการรักษาขึ้นอยู่กับความรุนแรงของโรค อายุ และสุขภาพของสุนัข ซึ่งจะมีการแบ่งลักษณะอาการร่วมกับการเอ็กซเรย์เพื่อวินิจฉัยว่าปัญหาเกิดจากส่วนไหน โดยวิธีรักษามี 2 วิธี ดังนี้
- การกินยา การรักษาด้วยวิธีนี้ สุนัขจะได้ยาลดปวด ซึ่งจะช่วยบรรเทาความเจ็บปวดจากอาการของเขาได้ หลังจากทานยาเจ้าของควรสังเกตว่าน้องหมาเดินได้ดีขึ้นไหม หรือทำกิจกรรมอื่นเป็นอย่างไร ถ้าเขาดีขึ้นอาจใช้วิธีอื่นร่วมประกอบในการรักษาด้วย เช่น ลดน้ำหนัก ออกกำลังกาย ควบคุมปริมาณอาหาร ฯลฯ กล้ามเนื้อจะแข็งแรงขึ้นโดยไม่ต้องผ่าตัด และถ้าเจาตูบไม่อยากเดินออกกำลังกาย ก็สามารถพาว่ายน้ำแทนได้ อาการต่าง ๆ ก็จะดีขึ้น ถ้าให้ยาควบคู่กับการออกกำลังกายแล้วดีขึ้น น้องหมามีการเคลื่อนไหวที่มากขึ้นก็ไม่จำเป็นต้องผ่าตัด
- การผ่าตัด หากให้ยาแล้วไม่ดีขึ้นในสิบวันหรือสองอาทิตย์ การผ่าตัดจึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับผู้ดูแล โดยจะมีวิธีผ่าตัด 2 แบบ คือ
- ผ่าตัดเปลี่ยนข้อสะโพก เพื่อทำให้การรับน้ำหนักและการใช้ขาของสุนัขกลับมาเป็นปกติ จะช่วยบรรเทาความเจ็บปวดและช่วยให้น้องหมาเคลื่อนไหวหรือเดินได้สะดวกขึ้น วิธีนี้จะเห็นผลภายใน 2-3 วัน หลังผ่าตัด แต่ข้อเสียคือเจ้าของต้องดูแลเยอะหลังผ่าตัดในช่วงเดือนแรกและค่าใช้จ่ายสูง
- ผ่าตัดหัวกระดูกออก วิธีนี้อนุโลมให้สุนัขที่หนักน้อยกว่า 17 กิโลกรัมเท่านั้น เนื่องจากสุนัขต้องใช้กล้ามเนื้อสะโพกในการรับน้ำหนัก หากกล้ามเนื้อน้องหมาไม่แข็งแรงก็อาจจะเดินยากหรือเดินไม่ได้ หลังผ่าตัดจึงต้องพาน้องมาทำกายภาพเพื่อให้เขาใช้ขาได้เร็วที่สุด หากผ่าตัดวิธีนี้จะไม่สามารถบอกได้ว่าสุนัขจะใช้ขาเดินได้เมื่อไหร่ เพราะผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับการดูแลและการทำกายภาพบำบัด
หลังจากรักษาด้วยการผ่าตัด ในช่วงเดือนแรกเจ้าของไม่ควรให้น้องหมาวิ่งหรือกระโดด อาจพาเขาเดินได้สั้น ๆ เมื่อกล้ามเนื้อทั้งหมดเริ่มมั่นคงจึงค่อยปล่อยให้เขาได้เดินหรือใช้ชีวิต อีกทั้งเจ้าของสุนัขควรมีการควบคุมน้ำหนักตัว ควบคุมปริมาณอาหาร และพาเขาออกกำลังกายอย่างเหมาะสม เช่น ว่ายน้ำ เดินเล่น ฯลฯ ซึ่งการทำกายภาพบำบัดร่วมกับการออกกำลังกายจะช่วยสุนัขเคลื่อนไหวได้ตามปกติ ไม่ว่าจะเป็นการฝึกลุกนั่ง การกระตุ้นไฟฟ้า การนวดอัลตร้าซาวด์ หรือการเลเซอร์ลดความเจ็บปวด ข้อดีของการรักษาโดยการกายภาพบำบัด คือ เป็นวิธีที่มีผลข้างเคียงน้อย สามารถลดความเจ็บปวดได้ดี ทำให้สุนัขกลับมาเดินได้ดีอีกครั้งและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 02-887-8321-3 , Facebook : https://www.facebook.com/talingchanpetfanpage หรือ ทาง Line : @Talingchanpet หรือ https://www.talingchanpet.net/

เอาใจคนเลี้ยงสัตว์กับโปรแกรมตรวจสุขภาพ Health Check-Up
โรงพยาบาลสัตว์ตลิ่งชัน (Talingchanpet) เอาใจคนเลี้ยงสัตว์อีกหนึ่งทางเลือกที่ช่วยให้ผู้เลี้ยงทุกคนได้เตรียมพร้อมรับมือหากเกิดปัญหาสุขภาพกับสัตว์ที่คุณรักกับโปรแกรมตรวจสุขภาพ “Health Check-Up” อายุต่ำกว่า 1 ปี เพียง 1,999 บาท , อายุ 1-5 ปี เพียง 3,999 บาท และ อายุ 5 ปีขึ้นไป เพียง 4,999 บาท ปลดล็อคแล้วคนเลี้ยงสัตว์อย่ามัวชะล่าใจจนสายเกินแก้ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 02-887-8321-3 , Facebook : https://www.facebook.com/talingchanpetfanpage หรือ ทาง Line : @Talingchanpet

เจ้าตูบสายพันธุ์ไหนบ้างนะที่พบปัญหา “โรคข้อสะโพก”
ทาสตูบทั้งหลายฟังทางนี้ โดยเฉพาะทาสมือใหม่ที่กำลังจะมองหาเจ้าตูบสักตัวมาเลี้ยง และกำลังตัดสินใจอยู่ แต่การที่จะเลี้ยงน้องหมาสักตัวใช่ว่าอยากเลี้ยงก็เลี้ยงได้เลยนะ เจ้าของสุนัขควรจะศึกษาก่อนว่ามีความเสี่ยงอะไรบ้างที่อาจเกิดขึ้นก่อนจะเริ่มเลี้ยงสุนัข วันนี้ทางโรงพยาบาลสัตว์ตลิ่งชันมีเรื่องราวเกี่ยวกับ “โรคข้อสะโพกเสื่อม” โรคที่เจ้าของสุนัขทุกคนไม่ควรมองข้ามมาฝาก

โรคข้อสะโพกเสื่อม (Hip dysplasia) เป็นโรคที่พบได้บ่อยในเพื่อนสี่ขาของเราทุกสายพันธุ์ โรคนี้เกิดจากความผิดปกติของข้อต่อบริเวณสะโพกซึ่งก่อให้เกิดการเสื่อมของข้อต่อตามมา และอาการจะแตกต่างกันออกไปตามแต่ละพันธุ์ เพศ และอายุของสุนัข โดย น.สพ.บูรพงษ์ สุธีรัตน์ (หมอตั๋ง) สัตวแพทย์แผนกระบบกระดูกและข้อต่อโรงพยาบาลสัตว์ตลิ่งชัน ให้ความรู้ว่า สุนัขทุกสายพันธุ์มีโครงสร้างกระดูกที่เหมือนกันหมด โดยส่วนขาหน้าและบริเวณเชิงกรานที่มีข้อสะโพกจะรับน้ำหนักได้ 60% และขาหลังจะรับน้ำหนักได้ 40% ของน้ำหนักตัว เมื่อสุนัขเริ่มมีปัญหาข้อสะโพกเสื่อมจนก่อให้เกิดการเจ็บปวดตามข้อต่อต่าง ๆ ในร่างกายทุกส่วน จะทำให้เขาไม่มีความสุขในการเดินหรือวิ่ง
หลังจากทำความรู้จักกับโรคข้อสะโพกเสื่อมกันไปคร่าว ๆ แล้ว เรามาดูกันว่าน้องหมาสายพันธุ์ไหนบ้างนะ? ที่มีโอกาสเสี่ยงจะเป็นโรคนี้ เพื่อเป็นการเตรียมพร้อมและเตรียมรับมือในการดูแลเจ้าตูบของเรากัน

1.โกลเด้นรีทรีฟเวอร์ (Golden Retriever)
ด้วยความเป็นสุนัขพันธุ์ใหญ่ พี่ใหญ่ใจดีอย่างโกลเด้นเลยมีโอกาสที่จะเป็นโรคเกี่ยวกับกระดูกได้ง่าย อีกทั้งยังเป็นสุนัขที่มีปัญหาเกี่ยวกับโครงสร้างสายพันธุ์อยู่แล้ว คนที่เลี้ยงโกลเด้นยิ่งต้องเอาใจใส่มาก ๆ คอยหมั่นสังเกตพี่เด้นเขากันด้วยนะ

2.ลาบราดอร์รีทรีฟเวอร์ (Labrador Retriever)
ลาบราดอร์เป็นสุนัขรักสนุก กระตือรือร้น ช่างเอาอกเอาใจ จึงไม่แปลกใจที่จะเห็นสุนัขพันธุ์นี้เป็นเพื่อนซี้สี่ขาคู่หูของหลายครอบครัว แน่นอนว่าด้วยพันธุกรรมของเขาจึงทำให้มีโอกาสเสี่ยงสูงต่อการเกิดโรคข้อสะโพกเสื่อม ถ้าครอบครัวไหนเห็นเขาเริ่มซึม ไม่ค่อยเดินหรือวิ่ง ควรพามาพบแพทย์เพื่อตรวจอาการ

3.ปอมเมอเรเนียน (Pomeranian)
สุนัขพันธุ์เล็กแสนดื้ออย่างปอมเมอเรเนียนก็มีโอกาสที่จะเป็นโรคข้อสะโพกเสื่อมได้เหมือนกัน ปกติน้องจะมีพลังล้นเหลือ ร่าเริง เห่าเก่ง โดยเฉพาะเห่าใส่สุนัขพันธุ์ใหญ่ทั้งที่ตัวเองตัวเล็กกว่าเขา เพราะฉะนั้นถ้าเห็นเขาไม่ซ่าแบบปกติที่เคยเป็นเช่น เดินลากขา เดินโหย่งขา หรือไม่เดินเลย จึงควรนำมาพบแพทย์เช่นกัน

4.เยอรมัน เชพเพิร์ด (German Shepherd)
เยอรมัน เชพเพิร์ด เป็นสุนัขสายพันธุ์ที่มีขนาดใหญ่และขึ้นชื่อเรื่องความแข็งแรงว่องไว จึงมักได้เป็นสุนัขตำรวจ สุนัขอารักขา สุนัขช่วยในสงคราม หรือสุนัขที่ช่วยตรวจจับระเบิดและยาเสพติด แต่กลับมีแนวโน้มที่จะประสบปัญหาสุขภาพอย่างโรคข้อสะโพกเสื่อมสูง จึงทำให้เยอรมัน เชพเพิร์ด ต้องผ่านการตรวจรับรองข้อสะโพกก่อนที่จะทำหน้าที่ต่าง ๆ

5.ไซบีเรียน ฮัสกี้
ไซบีเรียนเป็นสุนัขร่าเริงตามปกติของสายพันธุ์ และเป็นพันธุ์ที่มักจะเป็นโรคข้อสะโพกเสื่อมเช่นกัน หากสังเกตเห็นถึงความผิดปกติในการเดินของเขา หรือเขาไม่สามารถนั่งท่าสุนัขปกติได้ จึงควรรีบมาพบแพทย์ก่อนที่อาการจะรุนแรงจนอาจถึงขั้นพิการได้หากไม่ได้รับการรักษา
นอกจากสายพันธุ์ดังกล่าวแล้ว สายพันธุ์อื่นๆไม่ว่าจะเป็นน้องหมาพันธุ์ใหญ่ พันธุ์เล็ก รวมไปถึงน้องแมว ก็สามารถพบปัญหา “โรคข้อสะโพกเสื่อม” ได้เช่นกัน สัตว์ทุกตัวเป็นสิ่งมีชีวิตที่สามารถเจ็บป่วยได้เหมือนกับมนุษย์ หากเจ้าของหมั่นเอาใจใส่สุนัขของตนและคอยสังเกตอาการก็จะสามารถพาน้องหมามารักษาโรคนี้ได้ทันการก่อนที่จะเกิดอาการป่วยมากขึ้นกับน้องหมาของทุกคนได้ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 02-887-8321-3 , Facebook : https://www.facebook.com/talingchanpetfanpage หรือทาง Line : @Talingchanpet
