ทำอย่างไร? ไม่ให้เกิดภาวะครรภ์เสี่ยงสูง

การตั้งครรภ์ที่มี ภาวะครรภ์เสี่ยงสูง (High – Risk Pregnancy) คือ ภาวะใด ๆ ก็ตามที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของมารดาและทารกในครรภ์ อาจทำให้เกิดอันตรายหรือเสียชีวิตได้ ทั้งในระหว่างตั้งครรภ์ ขณะคลอด หรือหลังคลอด จำเป็นต้องได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิด

นายแพทย์ธิติพันธุ์ น่วมศิริ สูตินรีแพทย์เฉพาะทางด้านเวชศาสตร์มารดาและทารกในครรภ์ (MFM) โรงพยาบาลนวเวช

นายแพทย์ธิติพันธุ์ น่วมศิริ สูตินรีแพทย์เฉพาะทางด้านเวชศาสตร์มารดาและทารกในครรภ์ (MFM) โรงพยาบาลนวเวช ได้ให้ความรู้ที่เป็นประโยชน์ต่อคุณแม่ตั้งครรภ์ เพื่อให้ตระหนักถึงอันตรายและป้องกันตัวเองไม่ให้เกิดภาวะครรภ์เสี่ยงสูง ดังนี้ 

ปัจจัยเสี่ยงของภาวะครรภ์เสี่ยงสูง

  • ประวัติการตั้งครรภ์ครั้งก่อนมีปัญหา เช่น ครรภ์เป็นพิษ คลอดก่อนกำหนด คลอดทารกตัวเล็กหรือใหญ่ ผิดปกติ มีภาวะแท้งบ่อยๆ
  • ทารกพิการหรือเสียชีวิตในครรภ์
  • มีประวัติครอบครัวเป็นเบาหวาน
  • ครรภ์แฝด
  • หญิงตั้งครรภ์อายุน้อยกว่า18ปี หรือมากกว่า 35 ปี
  • หญิงตั้งครรภ์สูงน้อยกว่า140ซม.
  • หญิงตั้งครรภ์น้ำหนักเกินปกติ
  • มีโรคประจำตัว เช่นSLEต่อมไทรอยด์ โลหิตจาง โรคหัวใจ โรคติดเชื้อ เป็นต้น
  • มีเนื้องอกที่มดลูกหรือรังไข่ เลือดออกทางช่องคลอด หรือเคยผ่าตัดทางสูตินรีเวช
  • หมู่เลือดRh negative
  • ใช้สารเสพติด ติดสุรา สูบบุหรี่

อันตรายจากภาวะครรภ์เสี่ยงสูง

  • โลหิตจาง เพลีย เหนื่อยง่าย
  • ทารกโตช้าในครรภ์ เด็กตัวเล็กพัฒนาการไม่สมบูรณ์
  • พันธุกรรมหรือโครโมโซมทารกผิดปกติ และมีความพิการแต่กำเนิด
  • เบาหวานระหว่างตั้งครรภ์
  • ความดันโลหิตสูง
  • ครรภ์เป็นพิษ
  • คลอดก่อนกำหนด

หากคุณแม่ตั้งครรภ์เข้าข่ายภาวะครรภ์เสี่ยงสูง ควรเริ่มฝากครรภ์โดยเร็วกับสูตินรีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านเวชศาสตร์มารดาและทารกในครรภ์ เพื่อรับคำแนะนำ ปรึกษา และได้รับการดูแลอย่างครบถ้วน ปลอดภัยทั้งแม่และลูก นอกจากนี้ การตรวจวินิจฉัยก็นับว่ามีความสำคัญ ได้แก่

  • การตรวจสุขภาพ และคัดกรองความเสี่ยงคุณแม่ตั้งครรภ์
  • การตรวจคัดกรองเบาหวานขณะตั้งครรภ์โดยการดื่มน้ำตาลกลูโคส (50-g Glucose Challenge Test) เพื่อเช็คระดับน้ำตาลในเลือดขณะตั้งครรภ์
  • เจ็บครรภ์และคลอดก่อนกำหนดส่วนมากแล้วจะไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด และมีโอกาสเกิดซ้ำในครรภ์ถัดไป แต่ปัจจุบันมีวิธีการทำนายการเจ็บครรภ์คลอดก่อนกำหนดแต่รักษาได้ โดยปัจจัยเสี่ยงที่พบ ได้แก่ เคยมีประวัติคลอดก่อนกำหนด การติดเชื้อที่ปากมดลูก หรือในน้ำคร่ำ ครรภ์เป็นพิษ รกเกาะต่ำ หรือลอกตัวก่อนกำหนด ครรภ์แฝด เป็นต้น

สามารถวินิจฉัยด้วยการตรวจและรักษาได้ เช่น

o   การตรวจอัลตราซาวด์ ประเมินความยาวปากมดลูก

o   การตรวจสาร Fetal Fibronectin จากช่องคลอด (สาร Fetal Fibronectin เป็นสารที่พบอยู่ระหว่างถุงน้ำคร่ำ กับเยื่อบุโพรงมดลูก เมื่อเกิดการหดรัดตัวของมดลูกจะทำให้มีสารชนิดนี้ออกมาอยู่ในช่องคลอด)

o   การใส่ห่วงพยุงปากมดลูก (Arabin pessary)

o   การเย็บปากมดลูก เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการคลอดก่อนกำหนด

  • การตรวจคัดกรองครรภ์เป็นพิษโดยการประเมินจากการตรวจอัลตราซาวด์เส้นเลือดมดลูกขณะตั้งครรภ์ รวมถึงการเจาะเลือดเพื่อประเมินความเสี่ยงต่อภาวะครรภ์เป็นพิษ โดยในกลุ่มเสี่ยงควรได้รับยา เพื่อป้องกันภาวะครรภ์เป็นพิษในช่วงเวลาที่เหมาะสม
  • การตรวจหาความผิดปกติและประเมินสุขภาพทารกในครรภ์

o   การตรวจอัลตราซาวด์ เพื่อตรวจประเมินและความผิดปกติของทารก เช่น ปากแว่ง/เพดานโหว่ ความผิดปกติของหัวใจแต่กำเนิด ภาวะหัวใจทารกเต้นผิดปกติ ความผิดปกติของสมอง ความผิดปกติของกระดูกแขนขา และความพิการแต่กำเนิดอื่น ๆ เป็นต้น ด้วยอัลตราซาวด์ 2 มิติ และ 4 มิติ

o   วินิจฉัยโรคที่มีความผิดปกติทางพันธุกรรมหรือโรคบางชนิดได้ เช่น โรคดาวน์ซินโดรม โรคทารกติดเชื้อในครรภ์ โรคธาลัสซีเมียชนิดรุนแรง ด้วยการเจาะน้ำคร่ำ การตรวจชิ้นเนื้อรก และการเจาะเลือดจากสายสะดือทารก

o   การรักษาภาวะแทรกซ้อนของทารกในครรภ์ (Fetal Therapy) คือการรักษาภาวะแทรกซ้อน และความผิดปกติของทารกในครรภ์มารดา ได้บางชนิด เช่น ภาวะหัวใจทารกเต้นผิดจังหวะ ภาวะทารกโลหิตจาง ทารกบวมน้ำ ภายใต้การดูแลรักษาจากสูตินรีแพทย์เฉพาะทางด้านเวชศาสตร์มารดาและทารกในครรภ์ MFM

หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการตั้งครรภ์ สามารถขอรับคำปรึกษาจากทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้ที่ศูนย์สุขภาพผู้หญิง ชั้น 2 โรงพยาบาลนวเวช โทร. 0 2483 9999 หรือ www.navavej.com

ส่องกล้องเพื่อตรวจวินิจฉัยโรคกระเพาะอาหารและลําไส้ใหญ่ คลิกเลย!

โรงพยาบาลนวเวช โรงพยาบาลย่านเกษตรนวมินทร์ รัชดา-รามอินทรา ที่มุ่งให้บริการทางการแพทย์ที่ดีและเข้าถึงง่าย จัดแพ็กเกจ ส่องกล้องเพื่อตรวจวินิจฉัยโรคกระเพาะอาหารและลําไส้ใหญ่ ด้วยเครื่องมือทางการแพทย์ที่ทันสมัย ได้ผลแม่นยํา มีความละเอียดสูง สามารถตรวจพบสาเหตุได้แม้มีความผิดปกติเพียงเล็กน้อย อาทิ ปวดท้อง ท้องอืด ท้องเสีย ท้องผูก อึดอัดแน่นท้องจนถึงอาการอาเจียนเป็นเลือด ถ่ายอุจจาระมีเลือดปน และยังสามารถนําชิ้นเนื้อมาตรวจเพิ่มเติมได้โดยไม่ต้องผ่าตัด โดยมีให้เลือก แพ็กเกจ คือ การตรวจส่องกล้องกระเพาะอาหาร (EGD) แบบได้ยาหลับ ราคา 7,990 บาท การตรวจส่องกล้องลําไส้ (Colonoscope) แบบได้ยาหลับ ราคา 11,990 บาท และการตรวจส่องกล้องกระเพาะอาหารและลําไส้ (EGD & Colonoscope) แบบได้ยาหลับ ราคา 18,990 บาท ตั้งแต่วันนี้ถึง 30 กันยายน 2564 สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมและนัดหมายล่วงหน้าได้ที่ โรงพยาบาลนวเวช โทร. 0 2483 9999 www.navavej.com

มาตรวจเบาหวานกันเถิด

โรคเบาหวาน หมายถึงโรคที่มีระดับน้ำตาลในเลือดสูงเกินกว่าปกติอย่างต่อเนื่องและเรื้อรัง เกิดจากความผิดปกติของตับอ่อน ทำให้เกิดการหลั่งฮอร์โมนอินซูลินได้น้อยกว่าปกติ หรือเกิดภาวะดื้อต่ออินซูลิน ทำให้อินซูลินออกฤทธิ์ได้ไม่เต็มที่

นพ.ธวัชชัย ภาสุรกุล อายุรแพทย์ ศูนย์เบาหวานและต่อมไร้ท่อ โรงพยาบาลนวเวช

นพ.ธวัชชัย ภาสุรกุล อายุรแพทย์ ศูนย์เบาหวานและต่อมไร้ท่อ โรงพยาบาลนวเวช ได้กล่าวถึงปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดเบาหวานว่ามีหลายอย่าง และน้ำหนักของแต่ละอย่างก็ไม่เท่ากัน มีงานศึกษาปัจจัยเสี่ยงหลาย ๆ อย่างของเบาหวาน แล้วนำข้อมูลมาคำนวณเป็นคะแนนความเสี่ยงต่อการเกิดเบาหวานในอนาคต ซึ่งสามารถใช้ทำนายความเสี่ยงในอีก 12 ปีข้างหน้าได้อย่างแม่นยำพอสมควรในคนไทย

การแปลผลคะแนนความเสี่ยง คะแนนยิ่งสูง ความเสี่ยงยิ่งเพิ่มมากขึ้น คะแนนสูงสุดคือ 17 คะแนน ผู้ที่ต้องการจะรู้ว่าตัวเองมีความเสี่ยงต่อการเกิดเบาหวานมากน้อยแค่ไหนก็ลองทำตามตารางดู ถ้าได้ คะแนนตั้งแต่ 6 ขึ้นไป ควรจะไปตรวจเช็คเบาหวาน

ใครควรตรวจเบาหวาน? จากตารางข้างบนจะเห็นว่า เบาหวานมีปัจจัยเสี่ยงหลายอย่าง และแต่ละอย่างก็มีน้ำหนักไม่เท่ากัน แล้วในผู้ใหญ่ที่มีโอกาสเป็นเบาหวานประเภทที่ 2 ได้ถึงมากกว่า 90% ควรจะคัดกรองเบาหวานเมื่อไหร่

  • ในประชากรทั่วไป ผู้ที่มีอายุตั้งแต่35ปีขึ้นไป
  • ผู้ที่มีน้ำหนักเกินหรืออ้วน (ดัชนีมวลกาย>25กก./ตร.ม. หรือ >23 กก./ตร.ม.ในคนไทย) ที่มีข้อใดข้อหนึ่งต่อไปนี้
  1. มีประวัติเบาหวานในครอบครัว เช่น พ่อ แม่ พี่ น้อง สายตรง
  2. มีประวัติเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจ
  3. เป็นความดันโลหิตสูง หรือรับประทานยารักษาอยู่
  4. ผู้ที่มีไขมันผิดปกติ HDL <35 มก/ดล. และ/หรือ Triglyceride >250 มก/ดล. หรือรับประทานยารักษา
  5. ผู้ที่ไม่ออกกำลังกาย
  6. กลุ่มอาการถุงน้ำรังไข่หลายใบ (Polycystic ovarian syndrome) ในผู้หญิง
  7. ผู้ที่มีลักษณะทางคลินิกที่เกิดร่วมกับ “ภาวะดื้อต่ออินซูลิน” (Insulin resistance) เช่น อ้วนมาก (severe
  8. obesity) acanthosis nigricans (รอยปื้นดำ หนา ขรุขระ ที่บริเวณคอ รักแร้ ขาหนีบ เป็นต้น)
  9. เชื้อชาติที่มีความเสี่ยงสูง เช่น อัฟริกันอเมริกัน ละติน อินเดียนแดง กลุ่มชนหมู่เกาะแปซิฟิก เป็นต้น
  10. ผู้หญิงที่อ้วน และวางแผนที่จะมีบุตร ควรตรวจเบาหวาน หรือภาวะก่อนเบาหวาน ด้วย

บุคคลเหล่านี้ควรตรวจเบาหวานใน “ทุกอายุ”

  • ผู้ที่อยู่ในภาวะก่อนเบาหวาน (น้ำตาลสูงกว่าปกติ แต่ไม่ถึงเกณฑ์วินิจฉัยเบาหวาน)
  1. HbA1c = 5.7-6.4%,
  2. ค่าน้ำตาลหลังอดอาหาร 8 ชั่วโมงขึ้นไป อยู่ระหว่าง 100-125 มก/ดล. (Impaired fasting glucose หรือ IFG คือน้ำตาลขณะอดอาหารบกพร่อง)

ควรได้รับการตรวจเบาหวาน “ทุกปี

  • ผู้หญิงที่มีประวัติเป็นเบาหวานขณะตั้งครรภ์ (Gestational diabetes mellitus) ควรตรวจเบาหวานตลอดไปอย่างน้อยทุก3 ปี (กรณีที่ยังไม่เป็น)
  • ผู้ที่เป็นโรคเอดส์ (HIV)

ซึ่งถ้าตรวจแล้วปกติ ควรตรวจอย่างน้อยทุก 3 ปี หรือแล้วแต่ปัจจัยเสี่ยง และผลการตรวจ

สิ่งสำคัญที่ต้องคำนึงในภาวะก่อนเบาหวานและเบาหวานประเภทที่ 2

  • ไม่มีใครทราบ “จุดเริ่มต้น” (onset) ของเบาหวาน จะเป็นเมื่อไหร่
  • ส่วนใหญ่ไม่มีอาการอะไร หรืออาการน้อยจนไม่ทราบว่า นั่นคืออาการของเบาหวาน
  • ถ้าชะล่าใจ หรือประมาท คิดว่าไม่เป็นอะไร อาจมีโอกาสเกิดโรคแทรกซ้อนทั้งเฉียบพลันและเรื้อรังได้
  • ถ้ารู้ตัวว่าเป็นภาวะก่อนเบาหวาน สามารถป้องกัน หรือชะลอการเป็นเบาหวานในอนาคตได้

มาตรวจเบาหวานกันเถิด เพื่อสุขภาพที่ดีในอนาคต ไม่ต้องกลัวถ้าจะต้องเป็น ดีกว่าเป็นโดยไม่รู้ ป้องกันดีกว่ารักษา เพราะฉะนั้น “มาตรวจเบาหวานกันเถิด” เพื่อป้องกันไม่ให้เป็นเบาหวาน และป้องกันเบาหวานไม่ให้เกิดโรคแทรกซ้อน

หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับโรคเบาหวาน สามารถขอรับคำปรึกษาจากทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้ที่โรงพยาบาลนวเวช โทร.02 483 9999 www.navavej.com

แพ็กเกจตรวจคัดกรองเบาหวาน ราคา 1,700 บาท

โรงพยาบาลนวเวช โรงพยาบาลย่านเกษตรนวมินทร์ รัชดา-รามอินทรา ที่มุ่งให้บริการทางการแพทย์ที่ดีและเข้าถึงง่าย เล็งเห็นถึงสถิติที่น่าเป็นห่วงเกี่ยวกับจำนวนผู้ป่วยโรคเบาหวานที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น จึงได้จัดแพ็กเกจ ตรวจคัดกรองเบาหวาน เพื่อให้ผู้ป่วยรู้เร็ว รักษาทัน เพื่อควบคุมภาวะระดับน้ำตาล และลดโรคแทรกซ้อนที่อาจตามมา ซึ่งกลุ่มบุคคลที่มีภาวะเสี่ยง ได้แก่ ผู้ที่มีประวัติครอบครัวสายตรงเป็นโรคเบาหวาน อายุมากกว่า 35 ปี ภาวะโรคอ้วน มีประวัติเป็นเบาหวานแฝงมาก่อน มีภาวะความดันโลหิตสูง มีภาวะไขมันในเลือดสูง เคยมีประวัติเป็นเบาหวานขณะตั้งครรภ์ เป็นต้น โดยตรวจ 12 รายการในราคา 1,700 บาท จากราคาปกติ 3,470 บาท ตั้งแต่วันนี้  31 สิงหาคม 2564 สอบถามและนัดหมายล่วงหน้าได้ที่ศูนย์เบาหวานและต่อมไร้ท่อ โทร. 0 2483 9999 www.navavej.com

รพ.นวเวช ทำบุญเพื่อความเป็นสิริมงคล

โรงพยาบาลนวเวช โรงพยาบาลย่านเกษตรนวมินทร์ รัชดา-รามอินทรา ที่มุ่งให้บริการทางการแพทย์ที่ดีและเข้าถึงง่าย จัดพิธีทำบุญเลี้ยงพระ ตั้งหอพระ และศาลพระพรหม เพื่อความเป็นสิริมงคลและเป็นขวัญกำลังใจในการปฏิบัติงานของบุคลากร เนื่องในโอกาสที่โรงพยาบาลนวเวชเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการ โดยได้รับเกียรติจากคณะกรรมการบริษัท นวเวช อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) และแขกผู้มีเกียรติ นายณัฐวุฒิ เภาโบรมย์นางผาสุข รักษาวงศ์นางพอฤทัย ณรงค์เดชนายณพ ณรงค์เดชดร.ศิริ การเจริญดีนายบุญชัย โชควัฒนานางสาวดาลัดย์ ทรัพย์ทวีชัยกุลนายไกรวิน ศรีไกรวิน และนายณัฐพล เดชวิทักษ์ เข้าร่วมในพิธี

เบาหวานกับโควิด ชีวิตไปทางไหน.. คลิกเลย!

โรงพยาบาลนวเวช โรงพยาบาลย่านเกษตรนวมินทร์ รัชดา-รามอินทรา ที่มุ่งให้บริการทางการแพทย์ที่ดีและเข้าถึงง่าย ขอเรียนเชิญผู้ป่วยเบาหวาน ผู้มีความเสี่ยงเป็นเบาหวาน ผู้ที่ดูแลคนไข้เบาหวาน และผู้ที่สนใจ ร่วมกิจกรรม “เบาหวานกับโควิด ชีวิตไปทางไหน” พบกับ นพ.ธวัชชัย ภาสุรกุล อายุรแพทย์ ศูนย์เบาหวานและต่อมไร้ท่อ โรงพยาบาลนวเวช ที่จะมาให้คำแนะนำเรื่องการปฏิบัติตัวสำหรับผู้เป็นเบาหวานในช่วงโควิด แนะนำโภชนาการ การดูแลตนเอง และถามตอบปัญหาเบาหวาน ในวันอาทิตย์ที่ 20 มิถุนายน 2564 เวลา 13.0014.00 น. ณ บริเวณ OPD ศูนย์เบาหวานและต่อมไร้ท่อ ชั้น 2 โรงพยาบาลนวเวช เข้าร่วมงานโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ผู้สนใจลงทะเบียนร่วมงานล่วงหน้าได้ที่ 0 2483 9999 หรือ www.navavej.com