ปรับ รพ.ค่ายทุกแห่งเป็น รพ.สนาม

ทบ.ปรับ รพ.ค่ายทุกแห่งเป็น รพ.สนาม ดูแลผู้ป่วยโควิดในจังหวัด ตามคำสั่งนายกฯ​ รองรับได้ 3,600 เตียง

พลเอก ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก สั่งการให้ ศูนย์บริหารสถานการณ์ COVID-19​ กองทัพบก กรมแพทย์ทหารบก และทุกกองทัพภาค เร่งดำเนินการตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี ทันที โดยเฉพาะการปรับการบริหารจัดการโรงพยาบาลค่ายทุกแห่ง เป็นโรงพยาบาล​รองรับการให้บริการผู้ป่วยติดเชื้อในจังหวัดอย่างเต็มรูปแบบ

โรงพยาบาลกองทัพบกทั้ง​ 37 แห่งมีความพร้อมสามารถรองรับผู้ป่วยโควิดได้ถึง 3,600 เตียง​ และยังดูแลให้คำปรึกษาแก่ผู้ติดเชื้อ COVID-19 ที่แยกกักตัวที่บ้าน​ “Home isolation” ในแต่ละจังหวัด

ล่าสุดโรงพยาบาลสนามกองทัพบกประจำจังหวัด​ เปิดแล้ว 17 แห่ง มีผู้ป่วยเข้ารับการรักษาแล้ว 1,466 คน (24 ก.ค.64) พื้นที่ กทม. มีโรงพยาบาลสนามกองทัพบก เปิดรับการรักษาดูแลผู้ป่วย 2 แห่งได้แก่ รพ.สนามกรมทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยานที่​ 1 (300​ตียง) , รพ.สนามมณฑลทหารบกที่ 11 (178​ เตียง)

พื้นที่ภาคกลาง กองทัพภาคที่ 1 เปิดรับดูแลจำนวน 7 แห่ง
– รพ.สนามกรมพลาธิการทหารบก จ.นนทบุรี
– รพ.สนามศูนย์การทหารราบ จ.ประจวบคีรีขันธ์ -​ รพ.สนามกองพันเสนารักษ์ที่​ 1 จ.ลพบุรี
– รพ.สนามมณฑลทหารบกที่ 19 จ.สระแก้ว
– รพ.สนามกรมการทหารช่าง จ.ราชบุรี
– รพ.สนามมณฑลทหารบกที่​ 17 จ.กาญจนบุรี
– รพ.สนามมณฑลทหารบกที่ 18 จ.สระบุรี

ภาคอีสาน กองทัพภาคที่ 2​ จำนวน 4 แห่ง
– รพ.สนามมณฑลทหารบกที่​ 28 จ.เลย
– รพ.สนามกองพันเสนารักษ์ที่​ 6 จ.ร้อยเอ็ด
– รพ.สนามหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่​ 26 จ.บุรีรัมย์
– รพ.สนาม กองพันทหารราบที่​ 3​ กรมทหารราบที่​ 16 จ.ยโสธร)

ภาคเหนือ กองทัพภาคที่ 3 รับผู้ป่วยแล้ว 2 แห่ง
– รพ.สนามมณฑลทหารบกที่ 310 จ.ตาก
– รพ.สนาม มณฑลทหารบกที่ 35 จ.อุตรดิตถ์

ภาคใต้ กองทัพภาคที่​ 4​ รับผู้ป่วยแล้ว รวม 5 แห่ง
– รพ.สนามกองพันทหารราบที่​ 3 กรมทหารราบที่​ 5 จ.สงขลา
– รพ.สนามกรมสนับสนุนกองพลทหารราบที่15 จ.สงขลา
– รพ.สนามกองพลพัฒนาที่ 4 จ.สงขลา
– รพ.สนามกองพันทหารราบที่​ 2 กรมทหารราบที่​ 25 จ.ระนอง
– รพ.สนามกองพันทหารราบที่​ 1 กรมทหารราบที่​ 15 จ.กระบี่

ติดต่อเข้ารับการรักษาและขอความช่วยเหลือผ่าน ศูนย์ประสานงานต้านภัยโควิดกองทัพบกได้ตลอด 24 ชม. CALL CENTER โทร 02-092-7766 และ 088-984-7605-10

รายงานข่าวแจ้งว่า เปลี่ยนสถานที่ฉีด 5​ จุด​ ‘ไทยร่วมใจ’​ พร้อมคิวนัดฉีดวัคซีน​ใหม่​ ดังนี้

1.จุดฉีด เดอะสตรีท รัชดา ย้ายไปฉีดที่ จุดฉีด scb สำนักงานใหญ่

2.จุดฉีด ธัญญาพาร์ค ย้ายไปฉีดที่ จุดฉีด scb สำนักงานใหญ่

3.จุดฉีด สยามพารากอน ย้ายไปฉีดที่ จุดฉีด scb สำนักงานใหญ่

4.จุดฉีด โลตัส มีนบุรี ย้ายไปฉีดที่ จุดฉีด เดอะมอลล์ บางกะปิ

5.จุดฉีด บิ๊กซี ร่มเกล้า ย้ายไปฉีดที่ จุดฉีด โรบินสัน ไลฟ์สไตล์ ลาดกระบัง

ภูเก็ตยกการ์ดสูงขึ้น เพิ่มปิดสถานที่และงดกิจกรรมเสี่ยง

คำสั่งจังหวัดภูเก็ต ที่ 4169/2564 เรื่อง แก้ไขเพิ่มเติมการปิดสถานที่หรือกิจกรรมที่มีความเสี่ยง ตามคำสั่งจังหวัดภูเก็ต ที่ 4023/2564 ลงวันที่ 18 กรกฎาคม 2564 และ 4158/2564 ลงวันที่ 23 กรกฎาคม 2564

โดยมีสาระสำคัญ ดังนี้

ข้อ 1 มาตรการปิดสถานที่เสี่ยงต่อการแพร่โรค เพื่อลดความเสี่ยงต่อการแพร่โรค

สถานศึกษาในระบบทุกแห่งทุกสังกัดในจังหวัดภูเก็ต และสถาบันกวดวิชาทุกแห่งยกเว้น โรงเรียนเอกชนนอกระบบที่มีผู้เข้าร่วมกิจกรรมในชั้นเรียนไม่เกิน 5 คน ตามคำสั่งจังหวัดภูเก็ตที่ 4158/2564 ลงวันที่ 23 กรกฎาคม 2564 ให้ปิดต่อไป ตั้งแต่วันที่ 3 – 16 สิงหาคม 2564 โดยให้มีการเรียนการสอนด้วยการไม่ต้องเข้าชั้นเรียนตามรูปแบบที่ต้นสังกัดกำหนดหรือรูปแบบที่เหมาะสมตามที่กำหนดโดยปรับการเรียนการสอนเป็นระบบออนไลน์

ข้อ 2 มาตรการควบคุมแบบบูรณาการ สถานที่เสี่ยงต่อการแพร่โรค

1. ให้ปิดห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล เฟสติวัล ภูเก็ต และเซ็นทรัล ภูเก็ต ฟลอเรสต้า ตำบลวิชิต อำเภอเมืองภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต ทุกส่วน ซึ่งรวมถึงการประกอบกิจการ/ร้านที่ตั้งอยู่ในห้างสรรพสินค้า ทุกประเภท เพื่อทำความสะอาดระบบปรับอากาศ สถานที่ และทุกส่วนของห้าง โดยให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ตทำการตรวจหาเชื้อโควิด – 19 โดยวิธีการ Antigen Test Kit (ATK)

2. ให้ปิดสนามฟุตบอล สนามฟุตซอล สนามหญ้าเทียม และสนามกีฬาแบดมินตัน

3. ตลาดสด ตลาดนัด ถนนคนเดิน ให้ดำเนินการตามมาตรการป้องกันและควบคุมโรคตามที่ทางราชการกำหนด และจำกัดจำนวนผู้เข้าใช้บริการตามขนาดของพื้นที่ 1 คน ต่อ 4 ตารางเมตร

ข้อ 3 การห้ามจัดกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่โรค

ห้ามจัดกิจกรรมซึ่งมีการรวมกลุ่มกันของบุคคลซึ่งมีจำนวนรวมกันมากกว่า 100 คน เว้นแต่เป็นกิจกรรมที่ดำเนินการโดยพนักงานเจ้าหน้าที่ หรือเป็นกิจกรรมในพื้นที่ที่กำหนดให้เป็นสถานที่กักกันโรค

ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2564 ถึงวันที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2564

 

เปิดภารกิจ Super Rider จิตอาสานักบิด

เริ่มปฏิบัติการแล้ว! Super Rider จิตอาสานักบิด ขนส่งกล่องรอดตาย ส่งยาผู้ป่วยโควิดระบบ HI ถึงบ้าน

โดย กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข แจ้งว่า Super Rider หรือจิตอาสานักบิด ทำภารกิจพาหมอไปหาคนไข้ เริ่มปฏิบัติงานแล้ว ซึ่งจิตอาสานักบิดเป็นอาสาสมัครช่วยขับมอเตอร์ไซค์ประสานระหว่างผู้ป่วยและเจ้าหน้าที่ของสถาบันป้องกันควบคุมโรคเขตเมือง สปคม

โดยมีหน้าที่ 1) ขนส่งตัวอย่างของผู้ป่วย และอุปกรณ์มายังห้องแลปของ สปคม. 2) นำส่งกล่องรอดตาย กล่องยา อุปกรณ์ป้องกัน ไปยังผู้ป่วยโควิด 19 ถึงบ้าน 3) ส่งยาเมื่อร่วมเข้าระบบแยกกักรักษาที่บ้าน

ทั้งนี้ จิตอาสานักบิดทุกคนได้รับการอบรมป้องกันตัวเองตามมาตรการควบคุมโรคจากเจ้าหน้าที่ก่อนปฏิบัติงานเรียบร้อยแล้ว

ยอดโควิด-19 วันนี้ ผู้ติดเชื้อเพิ่ม 14,150 ราย

ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ประจำวันอังคารที่ 27 กรกฎาคม 2564 รวม 14,150 ราย จำแนกเป็น ผู้ติดเชื้อใหม่ 13,905 ราย ผู้ติดเชื้อภายในเรือนจำ/ที่ต้องขัง 245 ราย ผู้ป่วยสะสม 497,965 ราย (ตั้งแต่ 1 เมษายน) ผู้หายป่วยกลับบ้าน 9,168 ราย
หายป่วยสะสม 323,217 ราย (ตั้งแต่ 1 เมษายน)
เสียชีวิต 118 ราย

ธ.ออมสิน ร่วมฝ่าโควิด-19 ออกมาตรการพักชำระหนี้สูงสุด 12 เดือน

จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ธนาคารออมสิน ตระหนักถึงความเดือดร้อนของลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 โดยได้ออก “มาตรการพักชำระหนี้” เพื่อช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายของลูกค้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยให้พักหนี้ได้ตั้งแต่ 2 เดือน สูงสุดถึง 12 เดือน!

“มาตรการพักชำระหนี้” ปัจจุบันมีกี่มาตรการ และใครบ้างที่สามารถขอพักหนี้กับธนาคารได้ สอบถาม/อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่ www.gsb.or.th หรือ GSB Contact Center โทร. 1115

ทั้งนี้ ธนาคารออมสิน ตระหนักถึงสุขภาพและความปลอดภัยของลูกค้าเป็นสำคัญ เพื่อลดความเสี่ยงการติดต่อแพร่เชื้อในสาขาธนาคารเมื่อมีผู้ใช้บริการเป็นจำนวนมาก เริ่มตั้งแต่วันที่ 26 กรกฎาคม 2564 เป็นต้นไป จึงขอความร่วมมือลูกค้าที่อยู่ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 13 จังหวัด ใช้บริการฝาก ถอน โอน จ่าย ไม่เกิน 5,000 บาท ที่ ตู้ ATM / ADM หรือ แอป MyMo สะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย ห่างไกล COVID-19 ไม่ต้องเข้าสาขาธนาคาร

ถึงไทยแล้ว! ชุดตรวจโควิด-19 ด้วยตัวเอง

บริษัท โรช ไดแอกโนสติกส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม 2564 ที่ผ่านมา ชุดตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยตัวเองแบบโฮมยูส ล็อตแรกจำนวน 150,000 กล่อง หรือ 750,000 ชุด ได้รับการจัดส่งถึงประเทศไทยเรียบร้อยแล้ว พร้อมเร่งกระจายส่งร้านขายยาที่ได้รับอนุญาตทั่วประเทศ เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยตัวเองได้อย่างรวดเร็ว หวังช่วยลดจำนวนผู้ติดเชื้อภายในประเทศลงได้ ซึ่งชุดตรวจแบบโฮมยูสนี้จะช่วยให้ประชาชนสามารถเข้าสู่กระบวนการแยกกักตัวตนเองจากครอบครัว และผู้ใกล้ชิดได้อย่างทันท่วงที ก่อนเข้ารับการรักษาตามคำแนะนำของแพทย์ต่อไป

นายพิเชษฐพงษ์ ศรีสุวรรณกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท โรช ไดแอกโนสติกส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่าขณะนี้ บริษัทฯ ได้รับการอนุมัติการขึ้นทะเบียน ชุดตรวจโควิด 19 ด้วยตัวเองแบบโฮมยูส (Home Use) จาก อย. ไทยแล้ว ซึ่งคาดว่าน่าจะเริ่มจัดจำหน่ายในประเทศในร้านขายยาและสถานพยาบาล ได้ราวต้นเดือนสิงหาคม นอกจากนี้  ปัจจุบัน บริษัทฯ ยังมีชุดตรวจหาเชื้อไวรัสโควิดแบบแรพิด  แอนติเจน เทสต์ (Professional Use) ซึ่งผ่านการขึ้นทะเบียน อย. ภายในประเทศ ตั้งแต่เดือนมกราคม 2564 แล้วเช่นกัน และอนุญาตให้ใช้โดยผู้ประกอบวิชาชีพ และบุคลากรทางการแพทย์เท่านั้น

ขณะนี้เราได้วางแผนการนำเข้าชุดตรวจโควิด 19 ด้วยตัวเองเป็นจำนวนมากอย่างต่อเนื่อง ซึ่งล็อตแรก ที่จัดส่งถึงประเทศไทยแล้วมีจำนวน 150,000 กล่อง หรือ 750,000 ชุดตรวจ โดยในหนึ่งกล่องจะประกอบไปด้วยเทสต์ตรวจ 5 ชุด สำหรับให้แต่ละครอบครัวสามารถใช้ตรวจกันเองได้ คาดว่าน่าจะมีวางจำหน่ายในร้านขายยา และสถานพยาบาลที่ได้รับอนุญาตเร็วที่สุดคือต้นสัปดาห์หน้า หรือช่วงต้นเดือนสิงหาคม 2564 นี้แน่นอน และจะมีการนำเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ให้เพียงพอต่อความต้องการในประเทศ ทั้งนี้ แนะนำให้ผู้ใช้งานศึกษารายละเอียดการใช้งานผลิตภัณฑ์อย่างละเอียด ซึ่งที่กล่องชุดตรวจโควิด 19 แบบโฮมยูส จะมีฉลากภาษาไทยติดกำกับพร้อม QR Code สำหรับชมวิธีการใช้อย่างชัดเจน

ยอดโควิด-19 วันนี้ ผู้ติดเชื้อเพิ่ม 15,376 ราย

ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ประจำวันจันทร์ที่ 26 กรกฎาคม 2564 รวม 15,376 ราย จำแนกเป็น ผู้ติดเชื้อใหม่ 14,335 ราย ผู้ติดเชื้อภายในเรือนจำ/ที่ต้องขัง 1,041 ราย ผู้ป่วยสะสม 483,815 ราย (ตั้งแต่ 1 เมษายน) ผู้หายป่วยกลับบ้าน 6,782 ราย ผู้หายป่วยสะสม 314,049 ราย (ตั้งแต่ 1 เมษายน) เสียชีวิต 87 ราย

สปสช. ปรับจ่ายชดเชยค่าบริการสาธารณสุขสำหรับผู้ติดโควิด-19

นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เปิดเผยว่า สปสช.ได้ทำหนังสือถึงผู้อำนวยการหน่วยบริการในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติทุกแห่ง เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม 2564 เพื่อประกาศปรับวิธีการจ่ายชดเชยค่าบริการสาธารณสุขสำหรับผู้ติดเชื้อโควิด-19 กรณีดูแลใน Home Isolation และ Community Isolation ในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือการดูแลผู้ติดเชื้อโควิด-19 สิทธิบัตรทองที่บ้าน หรือที่ชุมชน  สำหรับแนวทางการจ่ายชดเชยค่าบริการสาธารณสุข กรณีดูแลใน Home Isolation  และ Community Isolation ซึ่ง สปสช.ได้มีการปรับเพิ่มเติมคือ เมื่อหน่วยบริการรับดูแลผู้ติดเชื้อแรกรับ ให้ทำการพิสูจน์การเข้ารับบริการโดยการทำ Authentication ด้วยบัตรประชาชนแบบสมาร์ทการ์ด หรือตามแนวทางที่ สปสช.กำหนด

ทั้งนี้ หน่วยบริการจะได้รับการจ่ายชดเชยงวดแรก  แบบเหมาจ่ายในอัตรา 3,000 บาทต่อราย ซึ่งหน่วยบริการจะได้รับการโอนเงินทุกสัปดาห์ และภายหลังให้บริการผู้ติดเชื้อโควิด-19 จนสิ้นสุดการดูแลแล้ว หากค่าใช้จ่ายที่ประมวลผลได้มากกว่าจำนวนเงินที่จ่ายแบบเหมาจ่ายไปแล้ว หน่วยบริการจะได้รับการจ่ายชดเชยเพิ่มเติมตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการจ่ายชดเชยที่กำหนด สำหรับแนวทางการขอ  Authentication code สามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ www.eclaim.nhso.go.th และหากมีข้อสงสัยสามารถติดต่อสอบถามได้ที่ 02-554-0505

ยอดโควิด-19 วันนี้ ผู้ติดเชื้อเพิ่ม 15,335 ราย

ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ประจำวันอาทิตย์ที่ 25 กรกฎาคม 2564 รวม 15,335 ราย จำแนกเป็น ผู้ติดเชื้อใหม่ 14,694 ราย ผู้ติดเชื้อภายในเรือนจำ/ที่ต้องขัง 641 ราย ผู้ป่วยสะสม 468,439 ราย (ตั้งแต่ 1 เมษายน) ผู้หายป่วยกลับบ้าน 6,904 ราย ผู้หายป่วยสะสม 307,267 ราย (ตั้งแต่ 1 เมษายน) ผู้เสียชีวิต 129 ราย