ศูนย์การค้า ดิ เอ็มโพเรี่ยม เปิดให้บริการฉีดวัคซีนโควิด-19 แล้ววันนี้

เปิดบริการหน่วยความร่วมมือบริการฉีดวัคซีนโควิด-19 ดิ เอ็มโพเรี่ยม ณ บริเวณ ชั้น 4 ศูนย์การค้า ดิ เอ็มโพเรี่ยม โดยเปิดให้บริการฉีดวัคซีนให้กับประชาชนทั่วไปที่ลงทะเบียนผ่านช่องทางต่างๆ ของทางราชการ ตั้งแต่วันที่ 7 มิถุนายน 2564 เป็นต้นไป นอกจากนี้ยังสนับสนุนการฉีดวัคซีนช่วยชาติของคนไทย โดยจัดโครงการ วัคซีนนิสต้า อินคลูซีพ พรีวิเลจ (Vaccinista Inclusive Privileges) มอบความพิเศษให้คนไทยทุกคนที่ฉีดวัคซีน โควิด-19 และเมื่อมาใช้บริการ ณ ศูนย์การค้า ดิ เอ็มโพเรี่ยม และ ดิ เอ็มควอเทียร์

ศูนย์การค้า ดิ เอ็มโพเรี่ยม และ ดิ เอ็มควอเทียร์ ร่วมสนับสนุนการรณรงค์ ฉีดวัคซีนช่วยชาติ สร้างภูมิคุ้มกันหมู่ของคนไทย โดยมีการจัดโครงการ วัคซีนนิสต้า อินคลูซีพ พรีวิเลจ (Vaccinista Inclusive Privileges) จับมือกับร้านค้า ร้านอาหารชั้นนำภายใน ศูนย์การค้า ดิ เอ็มโพเรี่ยม และ ดิ เอ็มควอเทียร์ มอบสิทธิประโยชน์ให้กับคนไทยทุกคนที่ได้รับการฉีดวัคซีนโควิด-19 ที่มาใช้บริการทั้ง 2 ศูนย์การค้า เพียงแสดงหลักฐานการฉีดวัคซีน รับความพิเศษมากมาย ได้แก่ EMFashionicon แนะนำการแต่งตัวในช่วงของการรับวัคซีนโควิด-19 สร้างเทรนด์แวคซี ช็อต (VAXXI SHOT) ให้โพสต์ท่าจัดเต็มในการมารับวัคซีน โดยรวบรวมคอลเลคชั่นแฟชั่นแบรนด์ดัง ทั้งเสื้อผ้าในลุคทะมัดทะแมง ทั้งเสื้อแขนกุด กางเกงยีนส์พอดีตัว และหลากหลายกระเป๋าใบเก๋ พร้อมสะพายในลุค สุดมั่นใจ พร้อมโปรโมชั่นและสิทธิพิเศษมากมาย

และพบความพิเศษจาก เอ็มไดนิ่ง (EMDINING) และ ฟู้ด ฮอลล์ (FOODHALL) ดิ เอ็มโพเรี่ยม ดิ เอ็มควอเทียร์ มอบสิทธิพิเศษทานฟรีมากมายจากร้านอาหารชั้นนำ เช่น KOI THE, MAN FU YUAN KITCHEN, MISOYA RAMEN, PAUL, SAVA ALL DAY DINING, TWG ,XING FU TANG, CHIKALICIOUS, SKINNY LICIOUS, PENNII, KAMU, ERIC KAYSER และ LITTLE MERMAID สำหรับผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีน COVID-19 และเมื่อมาใช้บริการ ณ ร้านค้า ร้านอาหารภายในศูนย์การค้า ทั้ง 2 แห่ง โดยสามารถแสดงหลักฐานการรับวัคซีน เพื่อรับสิทธิพิเศษผ่านช่องทาง LINE: @EMDISTRICT

แคมแปญ วัคซีนนิสต้า อินคลูซีพ พรีวิเลจ มอบความพิเศษจากร้านค้าชั้นนำ หน้า 2 ตลอดเดือนมิถุนายนนี้ ที่ ศูนย์การค้า ดิ เอ็มโพเรี่ยม และ ดิ เอ็มควอเทียร์ โดยติดตามรายละเอียดได้ที่ LINE: @EMDISTRICT หรือ Facebook : Emporium Emquartier

ทั้งนี้ หน่วยความร่วมมือบริการฉีดวัคซีนโควิด-19 ดิ เอ็มโพเรี่ยม จัดตั้งขึ้นบริเวณ ชั้น 4 ศูนย์การค้า ดิ เอ็มโพเรี่ยม โดยความร่วมมือของศูนย์การค้า ดิ เอ็มโพเรี่ยม, กรุงเทพมหานคร, หอการค้าไทย และโรงพยาบาลสมิติเวช มีพื้นที่รวมกว่า 1,000 ตารางเมตร จัดบริการฉีดวัคซีนให้กับประชาชนที่ลงทะเบียนผ่านระบบต่างๆ ของหน่วยราชการ รองรับการฉีดวัคซีนให้ประชาชนได้ประมาณวันละ 1,000 คน โดยได้มีการทดสอบระบบความพร้อมต่างๆ ทั้งในเรื่องสถานที่ เครื่องมือ บุคลากรและอาสาสมัคร ตลอดจนอุปกรณ์ทางการแพทย์ต่างๆ และได้รับการรับรองว่าเป็นหน่วยบริการฉีดวัคซีน ที่มีมาตรฐานสูง สามารถสร้างความสะดวกสบาย และมอบความมั่นใจให้กับประชาชนที่มาใช้บริการทุกคน โดยเปิดดำเนินการฉีดวัคซีนให้กับประชาชนทั่วไปที่ลงทะเบียน ผ่านช่องทางต่างๆ ของทางราชการ ตั้งแต่วันที่ 7 มิถุนายน ศกนี้ เป็นต้นไป

สยามพารากอน ฉีดวัคซีนโควิด-19 สำหรับประชาชนทั่วไปวันแรก!!

สยามพารากอน ร่วมกับ โรงพยาบาลกรุงเทพ สำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร และ หอการค้าไทย เดินหน้าฉีดวัคซีนแก่ประชาชนทั่วไปวันแรก ณ หน่วยความร่วมมือบริการฉีดวัคซีนโควิด-19 นอกสถานพยาบาล บนพื้นที่ใจกลางเมือง รอยัล พารากอน ฮอลล์ ชั้น 5 ศูนย์การค้าสยามพารากอน อำนวยความสะดวกแก่ประชาชนด้วยประสิทธิภาพการบริหารจัดการและมาตรฐานความปลอดภัยสูงสุด โดยเริ่มให้บริการตั้งแต่วันที่ 7 มิถุนายนศกนี้ เร่งสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ในประเทศไทย โดยให้บริการแก่ประชาชนที่ลงทะเบียนผ่าน “หมอพร้อม” และ “โครงการไทยร่วมใจ กรุงเทพปลอดภัย”

ทั้งนี้สยามพารากอนร่วมสนับสนุนภารกิจเพื่อชาติครั้งนี้อย่างเต็มกำลัง จัดเตรียมความพร้อมด้านสถานที่ให้บริการฉีดวัคซีนโควิด -19 บนพื้นที่ รอยัล พารากอน ฮอลล์ ชั้น 5 ซึ่งมีพื้นที่กว้างขวางถึง 12,000 ตร.ม. ทั้งยังมีระบบบริหารจัดการที่เปี่ยมด้วยประสิทธิภาพสามารถรองรับประชาชนที่มาฉีดวัคซีนได้จำนวนมากกว่า 2,500 คนต่อวัน มีการเว้นระยะห่าง ไม่แออัด และปฏิบัติตามมาตรฐานด้านการป้องกันโรคอย่างเคร่งครัด สามารถเชื่อมั่นในความปลอดภัยสูงสุด อีกทั้งได้ร่วมกับทิพยประกันภัยจัดเตรียมประกันการแพ้วัคซีนมอบให้ผู้มาฉีดวัคซีนที่สยามพารากอน โดยสามารถลงทะเบียนรับสิทธิ์ประกันภัยได้ฟรีตั้งแต่วันนี้ถึง 30 ก.ค. 2564

สำหรับความร่วมมือในครั้งนี้ โรงพยาบาลกรุงเทพได้ประสานความร่วมมือกับศูนย์การค้าสยามพารากอน เพื่อเป็นทางเลือกเพิ่มเติมสำหรับการฉีดวัคซีนในครั้งนี้ โดยโรงพยาบาลฯ ยังคงยึดมั่นในการให้บริการทางการแพทย์ที่มีคุณภาพ และมาตรฐานทัดเทียมกับการบริการภายในสถานพยาบาล เพื่อความปลอดภัยของผู้รับบริการเป็นสำคัญ ด้วยมาตรการความปลอดภัย มาตราฐานการควบคุมโรคติดเชื้อ การเว้นระยะห่างทางสังคมอย่างเคร่งครัด มาตรฐานการขนส่ง การจัดเตรียม และรักษาคุณภาพวัคซีน ตลอดจนมาตรฐานการดูแลผู้ป่วยฉุกเฉิน ในกรณีที่มีผู้ป่วยจากการแพ้วัคซีนที่รุนแรง หรือภาวะฉุกเฉินทางการแพทย์อื่นๆ โดยได้จัดเตรียมห้องพยาบาลที่มีอุปกรณ์ ยา และเวชภัณฑ์สำหรับการช่วยกู้ชีวิตขั้นสูง พร้อมทีมบุคลากรการแพทย์ฉุกเฉินซึ่งประกอบไปด้วยแพทย์เวชศาสตร์ฉุกเฉิน พยาบาล และพนักงานฉุกเฉินการแพทย์ เพื่อให้การดูแลผู้ป่วยได้อย่างรวดเร็ว และได้วางแผนการส่งต่อผู้ป่วยฉุกเฉินร่วมกับโรงพยาบาลตำรวจเพื่อให้ผู้ป่วยได้รับการดูแลรักษาในสถานพยาบาลที่มีประสิทธิภาพอย่างรวดเร็วที่สุด

โดยประชาชนจะได้รับบริการวัคซีนโควิด-19 ที่ได้รับการจัดสรรจากภาครัฐ ตั้งแต่วันที่ 7 มิถุนายน – 31 กรกฎาคม 2564 สำหรับจุดบริการฉีด ของโรงพยาบาลกรุงเทพ มี 2 จุด คือ จุดที่ 1.โรงพยาบาลกรุงเทพ ซอยศูนย์วิจัย เวลา 08.00-17.00 น. และ จุดที่ 2. โรงพยาบาลกรุงเทพ (สยามพารากอน) รับบริการที่รอยัล
พารากอน ฮอลล์ ชั้น 5 ศูนย์การค้าสยามพารากอน** เวลา 09.00-16.00 น. โดยให้บริการกับผู้ลงทะเบียนฉีดวัคซีนผ่านแอปพลิเคชัน หรือ ไลน์ “หมอพร้อม” และผู้ที่ลงทะเบียนผ่าน โครงการ “ไทยร่วมใจ กรุงเทพปลอดภัย” เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นพื้นที่ควบคุมการแพร่ระบาดสูงสุด ได้รับการกระจายการฉีดวัคซีนได้ทั่วถึงมากที่สุด หากต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม เกี่ยวกับการนัดหมายฉีดวัคซีนโควิด-19 สามารถติดต่อได้ที่ COVID Center รพ. กรุงเทพ โทร. 02-308-7171 (4 คู่สาย) ในเวลาทำการ 08.00 – 17.00 น.

นับเป็นการผนึกกำลังของสองภาคเอกชนที่ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนภารกิจของภาครัฐ เพื่อกระจายวัคซีนโควิด 19 ไปยังประชาชนอย่างทั่วถึง และรวดเร็ว ซึ่งจะช่วยนำพาประเทศชาติให้ก้าวผ่านวิกฤตในครั้งนี้ไปด้วยกัน

โออาร์ มอบหน้ากากอนามัยสู้ภัยโควิด-19

นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน พร้อมด้วย นายอภิญญา สุจริตตานันท์ อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ให้เกียรติรับมอบ หน้ากากอนามัย (Surgical Mask) จำนวน 100,000 ชิ้น จาก นายสมยศ คงประเวศ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ศักยภาพองค์กร บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ โออาร์ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ณ กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน เพื่อนำไปมอบให้กับผู้ใช้แรงงานซึ่งถือเป็นฟันเฟืองสำคัญในการขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจของประเทศ  ซึ่งปัจจุบันยังมีแนวโน้มการติดเชื้อโควิด – 19 เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ ที่ผ่านมา โออาร์ ได้มอบเงินบริจาคและสิ่งของจำเป็นต่าง ๆ เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติงานของบุคลากรทางการแพทย์ รวมถึงโรงพยาบาลสนามทั่วประเทศ มาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของ โออาร์ ที่จะดูแลด้านสุขภาพและความปลอดภัยของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งภายในและภายนอกองค์กร และพร้อมดูแลคุณภาพชีวิตคนไทยให้ร่วมกันก้าวผ่านสถานการณ์อันยากลำบากนี้ไปด้วยกัน

AQUA มอบข้าวสารอาหารแห้งสู้โควิด-19

บริษัท อควา คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ AQUA ส่งบริษัทย่อย บริษัท ไทยคอนซูมเมอร์ ดิสทริบิวชั่น เซ็นเตอร์ จำกัด ร่วมทำกิจกรรมเพื่อสังคมกับ เนชั่นทีวี มอบข้าวสารอาหารแห้งให้กับวัดเปร็งไพบูลย์ธัญญาหาร จ.ฉะเชิงเทรา เพื่อช่วยเหลือพระสงฆ์ในสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 โดยมี นายพลสิทธิ ภูมิวสนะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เป็นตัวแทนมอบให้กับพระสงฆ์

เดอะ มาร์เก็ต แบงคอก ร่วมเปิดจุดบริการฉีดวัคซีนโควิด–19

บมจ.เดอะ แพลทินัม กรุ๊ป ผู้บริหารศูนย์การค้า เดอะ มาร์เก็ต แบงคอก ราชประสงค์ สนับสนุนพื้นที่รวมกว่า 2,500 ตารางเมตร  ณ บริเวณอาคาร M2 ที่ชั้น M และชั้น 1 เพื่อเป็นหน่วยบริการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด – 19 ให้แก่ผู้ประกันตน โดย กระทรวงแรงงาน, สำนักงานประกันสังคม ซึ่งถือเป็น 1 ใน จุดฉีดวัคซีน 45 แห่ง ในกรุงเทพมหานคร  รับผิดชอบโดยสำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานคร พื้นที่ 4 (บางรัก,ปทุมวัน) สำหรับแนวทางการประสานงานการฉีดวัคซีนกลุ่มเป้าหมาย ทางสำนักงานประกันสังคมเป็นผู้ประสานงานกับนายจ้างของแต่ละบริษัทที่มีผู้ประกันตนโดยตรงพร้อมจัดสรรเวลาตามลำดับ โดยเริ่มต้นให้บริการฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้กับผู้ประกันตนในวันที่ 7  มิถุนายน 64 ซึ่งในแต่ละวันจะสามารถรองรับการฉีดวัคซีนได้ 2,000 คนต่อวัน โดยบุคลากรทางการแพทย์จากโรงพยาบาลมเหสักข์และโรงพยาบาลปิยะเวท

โดยการบริการฉีดวัคซีนดังกล่าว ทางศูนย์การค้าเดอะ มาร์เก็ต แบงคอก ได้ให้การสนับสนุนพื้นที่ ทั้งนี้เพื่อเป็นการช่วยเหลือภาครัฐ ในการให้บริการฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้กับประชาชน อย่างเร่งด่วนให้ได้มากที่สุด    เพื่อป้องกันโรคให้กับตนเองและคนรอบข้าง ตลอดจนสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ให้กับประเทศโดยเร็วที่สุด ทั้งนี้ทางศูนย์การค้า ได้เตรียมพื้นที่อำนวยความสะดวกสำหรับหน่วยบริการฉีดวัคซีน สำหรับผู้ประกันตน ดังนี้

1.จัดพื้นที่บริเวณอาคาร M2 ที่ชั้น M และชั้น 1 ซึ่งมีพื้นที่รวมประมาณ 2,500 ตารางเมตร พร้อมจัดการเว้นระยะห่างอย่างเป็นระบบนอกจากนี้ยังมีระบบเครื่องปรับอากาศที่ผ่านการฆ่าเชื้อและอากาศถ่ายเทเป็นอย่างดี

2.การเดินทางเขาถึงพื้นที่สะดวกสบาย จากรถไฟฟ้าสถานีสยาม,ชิดลม และท่าเรือประตูน้ำ

3.เปิดบริการฉีดวัคซีนทุกวันตั้งแต่เวลา 08.00 – 17.00 น.ในส่วนศูนย์การค้าเปิดบริการ 10.00– 21.00 น.

4.คุมเข้มมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 อย่างสูงสุด ประกอบด้วย  1) คัดกรองอย่างเข้มงวด 2)เว้นระยะห่าง 3) ลดการสัมผัส 4) รุกเข้มความสะอาด 5) ติดตามเพื่อปลอดภัย นอกจากนี้ยังมีมาตรการเชิงรุกป้องกันล่วงหน้า ด้วยการฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อโรคอย่างต่อเนื่อง และอบโอนโซนหลังศูนย์การค้าปิดบริการ  เป็นประจำทุกวัน

สำหรับผู้ประกันตน หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับขั้นตอนการลงทะเบียนรับวัคซีน สามารถติดต่อสำนักงานประกันสังคมพื้นที่สาขาที่นายจ้างสังกัดอยู่ ได้ในเวลาทำการ ทางสายด่วนประกันสังคม 1506 สำหรับสำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานคร พื้นที่ 4 หมายเลขโทรศัพท์  02-634-0181-95 หรือติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ Facebook:TheMarketBangkok

ไมเนอร์ ฟู้ดฯ เร่งรณรงค์ให้พนักงานฉีดวัคซีน

ไมเนอร์ ฟู้ดฯ ผู้นำในธุรกิจแบรนด์อาหารชั้นนำในประเทศไทย ได้แก่ เดอะ พิซซ่า คอมปะนี สเว่นเซนต์ เบอร์เกอร์ คิง บอนชอน แดรี่ควีน ซิซซ์เล่อร์ และ เดอะ คอฟฟี่คลับ มีความมุ่งหวังอย่างสูงที่จะให้พนักงานในระดับปฎิบัติการหน้าร้าน และพนักงานที่สำนักงานใหญ่ ได้รับการฉีดวัคซีนอย่างรวดเร็วที่สุด เพราะเราทราบดีว่าธุรกิจอาหารเป็นฟันเฟืองสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ

ประพัฒน์ เสียงจันทร์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท ไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)

นายประพัฒน์ เสียงจันทร์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท ไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ การระบาดของไวรัส Covid-19 ในปัจจุบัน  บริษัทฯ ได้ดำเนินการให้ความรู้ และแนวทางการลงทะเบียน เพื่อฉีดวัคซีนให้แก่พนักงานที่ให้บริการในร้าน รวมถึงพนักงานขับรถส่งอาหาร ทุกสาขาทั่วประเทศ เพื่อให้พนักงานได้รับทราบข้อเท็จจริง และตระหนักถึงความสำคัญในการฉีดวัคซีน พร้อมเร่งดำเนินการโครงการ “Minor Food 100% Vaccinated Covid – 19”

ซึ่งในปัจจุบันเราได้เร่งรณรงค์ให้พนักงานทุกระดับฉีดวัคซีนอย่างเร็วที่สุด โดยบริษัทฯ มีจังหวัดนำร่องที่พนักงานของไมเนอร์ ฟู้ดฯ ได้รับการฉีดวัคซีนครบ 100% แล้วทุกแบรนด์ อย่างเช่นใน จังหวัดภูเก็ต  และ อำเภอเกาะสมุย โดยพนักงานที่ได้รับวัคซีนแล้วจะได้เข็มกลัดเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าทุกๆ คน และหากร้านได้รับวัคซีนครบ จะมีโปสเตอร์ติดหน้าร้านว่า พนักงานร้านนี้ 100% ได้รับวัคซีนครบแล้ว จากเหตุการณ์นี้ ไม่ใช่แค่ปลอดภัยของตัวพนักงานแต่ยังส่งผลถึงครอบครัว และชุมชนที่พนักงานอยู่อาศัย

ต่อจากนี้ ไมเนอร์ ฟู้ดฯ ยังคงมุ่งเน้นมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดไวรัส COVID-19 อย่างเคร่งครัดและปฏิบัติเป็นแนวทางเดียวกัน เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ลูกค้าที่ใช้บริการ ทุกสาขาทั่วประเทศโดยมีรายละเอียดดังนี้

  1. คัดกรองพนักงานทุกคนก่อนเข้าปฏิบัติงานในร้านทุกวัน และหากมีพนักงานเข้าข่ายมีอาการเบื้องต้นจะส่งพบแพทย์ทันที พร้อมเฝ้าระวังอาการอยู่ที่บ้านเป็นเวลา 14 วัน
  2. ให้พนักงานที่ปฏิบัติงานใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา ในกรณีที่หน้ากากอนามัยไม่เพียงพอจะให้ความสำคัญแก่พนักงานที่ปฏิบัติหน้าที่ในการปรุงอาหารก่อน
  3. ให้พนักงานทุกคนใส่ถุงมืออนามัยตลอดเวลาปฎิบัติงาน ล้างมือและฆ่าเชื้อด้วยแอลกอฮอล์เข้มข้น 70% ทุก 30 นาที ถึง 1 ชั่วโมง
  4. ทำความสะอาดอุปกรณ์ทุกชิ้นที่ผ่านการสัมผัสด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ
  5. ทำการจัดส่งแบบเว้นระยะห่าง (Social Distance) เพื่อเป็นการลดการแพร่กระจายของไวรัส และยืนห่างจากลูกค้าอย่างน้อย 2 เมตร ดูแลจนกว่าลูกค้าจะได้รับอาหารเรียบร้อย
  6. แนะนำให้ลูกค้าชำระเงินด้วยบัตรเครดิต เพื่อลดการสัมผัส ซึ่งสามารถชำระผ่านบัตรเครดิตได้ทุกช่องทางการสั่ง ทั้งโทร. 1112 เว็บไซต์ แอพพลิเคชั่น และในกรณีลูกค้าชำระด้วยเงินสด พนักงานจะโทรถามลูกค้าก่อนว่าชำระด้วยธนบัตรใด เพื่อเตรียมเงินทอนให้วางอยู่บนกล่องไปพร้อมกับการจัดส่ง

นายประพัฒน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า  ลูกค้าสามารถใช้บริการดีลิเวอรีผ่านช่องทาง www.1112delivery.com หรือ แอพพลิเคชั่น 1112Delivery หรือ โทร. 1112Delivery และบริการ Drive-Thru ผ่านสถานีบริการน้ำมันทั่วประเทศ ทั้งนี้บริษัทฯ ขอยืนยันในความมุ่งมั่นในดำเนินการป้องกันและควบคุม เพื่อความปลอดภัยของลูกค้า และพนักงานในทุกสาขาทั่วประเทศ และบริษัทฯ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าเราจะร่วมกันก้าวผ่านวิกฤตนี้ไปด้วยกัน และเป็นกำลังใจให้แก่ทีมแพทย์พยาบาล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย

ทำความสะอาดสู้โควิด-19 ในบ้านแบบง่ายๆ

ในสถานการณ์โควิด อาจทำให้ใครหลาย ๆ คนอยู่บ้านและมีความกังวลเรื่องของสุขอนามัยความสะอาดภายในบ้าน เราขอแนะนำวิธียับยั้งเชื้อโรคที่แฝงตัวในที่พักอาศัย ด้วยกิจกรรม “บิ๊กคลีนนิ่ง” ที่สามารถทำได้ง่าย ๆ ด้วยเคล็ด (ไม่) ลับ ดังนี้

เริ่มต้นที่จุดสัมผัส อย่าชะล่าใจว่าบ้านเราจะปลอดภัย เพราะจุดสัมผัสร่วมที่หลาย ๆ คนต่างจับ เป็นสิ่งแรกเลยที่ต้องทำความสะอาด และดูแลกันอย่างต่อเนื่อง เริ่มกันด้วย

– ลูกบิดประตู กลอนประตู-หน้าต่าง บานจับหน้าต่าง สวิทช์ไฟ ราวบันได สำหรับจุดไหนก็ตามที่เป็นจุดจับสัมผัสแบบโลหะ ควรเช็ดด้วยแอลกอฮอล์ที่มีความเข้มข้น 70-90% แล้วทิ้งไว้ให้แห้ง อย่างน้อยวันละ 1 ครั้ง

– โต๊ะ เก้าอี้ เตียง ตู้ ให้ใช้น้ำยาฟอกผ้าขาวผสมกับน้ำยา 1 ส่วน ต่อน้ำ 49 ส่วน เช็ดหรือแช่ทิ้งไว้ 10 นาที จากนั้นเช็ดออกด้วยน้ำสะอาด

– ก๊อกน้ำ ใช้ผ้าชุบน้ำร้อน หรือน้ำสบู่ผสมน้ำยาฆ่าเชื้อเจือจางเล็กน้อย เช็ดทำความสะอาด ถ้าอยากเพิ่มความเงางามให้ขัดด้วยเบกกิ้งโซดาผสมน้ำมะนาว ก็เพิ่มความเงาและสะอาดไปพร้อม ๆ กัน

อย่าละเลยที่กั้นดักฝุ่น ผ้าม่าน มุ้งลวด มู่ลี่ ที่เราไว้กันฝุ่นอย่างดีให้บ้าน จนบางครั้งเราก็ลืมไปว่าเป็นแหล่งสะสมฝุ่นและเชื้อโรคชั้นดีเหมือนกัน แต่ในสถานการณ์แบบนี้แนะนำให้ถอดออกมาล้างทำความสะอาดเดือนละครั้ง โดยตัวของผ้าม่าน สามารถถอดซักโดยใช้ผงซักฟอกธรรมดา ที่ผสมน้ำยาฆ่าเชื้อโรค หรือซักด้วยน้ำร้อนที่อุณหภูมิ 60-90 องศาเซลเซียส

สำหรับมุ้งลวดสามารถถอดล้างด้วยน้ำสบู่แล้วใช้แปรงขัดออก ก่อนนำไปผึ่งให้แห้ง พร้อมใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดรางมุ้งลวดให้สะอาด ส่วนของมู่ลี่ ให้ใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์ชุบน้ำที่ผสมน้ำยาฆ่าเชื้อเจือจาง แล้วเช็ดทีละซี่ จากนั้นใช้ผ้าแห้งเช็ดซ้ำอีกรอบ เพื่อไม่ให้เกิดคราบน้ำ และตัวบานมู่ลี่จะไม่บวมน้ำอีกด้วย

ระวัง! จุดสะสมเชื้อโรค จุดสะสมเชื้อโรคหลักของบ้านก็คือ ถังขยะ นั่นเอง! รู้หรือไม่ว่า ถึงแม้เราจะนำขยะออกจากถังไปทิ้งทุกวัน แต่ก็ยังไม่สะอาดเพียงพอ เพราะแบคทีเรียและกลิ่นเหม็นยังตกค้างสะสมอยู่ในถังขยะได้ ดังนั้นเราควรใช้ถุงพลาสติกรองรับขยะและผูกปากถุง/ปิดฝาทุกครั้งเมื่อไม่ใช้งาน เพื่อป้องกันสัตว์เลี้ยงหรือหนู แมลงสาบมาตอมไต่เศษอาหารในถังขยะ และเมื่อนำถุงขยะไปทิ้งแล้วควรล้างทำความสะอาดถังขยะด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อเพื่อกำจัดเชื้อโรคและกลิ่นในถังขยะให้หมดไป

เปลี่ยนฝ้าลดเชื้อโรค สร้างอากาศบริสุทธิ์ สำหรับบ้านที่ห่วงเรื่องสุขอนามัยในเรื่องของระบบหายใจแล้วล่ะก็ การปรับเปลี่ยนแผ่นฝ้าในห้องที่ใช้งานหลัก ก็สามารถช่วยลดแบคทีเรียได้ ลองเลือกใช้ แผ่นฝ้าเคลือบสี คัลเลอร์ทัช ตราช้าง รุ่นไอออนคลีน ที่มีนวัตกรรม “ไอออน คลีน” ช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียในอากาศ ลดฝุ่น สลายสารมลพิษ และสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีต่อสุขภาพของผู้อาศัยและผู้ใช้งานทั้งภายในบ้านและอาคาร

นอกจากดูแลบ้านให้สะอาดปลอดเชื้อแล้ว สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ การดูแลความสะอาดและสุขอนามัยของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นการล้างมือบ่อย ๆ จัดให้ห้องมีอากาศถ่ายเทสะดวก รวมถึงการสวมหน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันการแพร่เชื้อสู่ผู้อื่น เพราะไม่เพียงแต่เราจะมีสุขภาพที่ดีแล้ว เรายังไม่เป็นพาหะนำเชื้อไปสู่ผู้อื่นอีกด้วย

ขอบคุณข้อมูลจาก ยิปซัมตราช้าง

“ไทยวาโก้” มอบอุปกรณ์จำเป็นให้แพทย์และชุมชนสู้โควิด-19

ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข รับมอบอุปกรณ์การแพทย์ อาทิ เครื่องวัดออกซิเจนปลายนิ้ว ถุงมือทางการแพทย์ หน้ากากอนามัย และวาโก้ถุงปันสุขจาก นางสาวการุณี สุหร่าย กรรมการ บริษัท ไทยวาโก้ จำกัด (มหาชน) เพื่อส่งต่อให้กับโรงพยาบาลสนามบุษราคัม สนับสนุนการปฏิบัติหน้าที่ของบุคลากรทางการแพทย์ในการดูแลผู้ป่วยโรคโควิด-19 ภายใต้โครงการ Wacoal We Care โดยมีคณะผู้บริหาร บมจ.ไทยวาโก้ เข้าร่วมเป็นเกียรติในงาน ณ อาคาร 1 ตึกสำนักงานปลัด กระทรวงสาธารณสุข

ซึ่งก่อนหน้านี้โครงการ Wacoal We Care ได้มอบเครื่องวัดออกซิเจนปลายนิ้ว หน้ากากอนามัย วาโก้ถุงปันสุข และบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ให้กับโรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์ และมอบผลิตภัณฑ์ชุดชั้นในวาโก้ให้กับประชาชนในชุมชนบางคอแหลม ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 จำนวน 1,000 ชุด รวมมูลค่าอุปกรณ์และสิ่งของบริจาคทั้งสิ้น 627,000 บาท

เพิ่มยอดขายสินค้าและบริการ ..ง่ายๆ เพียงนิ้วคลิก!

โควิด-19 อยู่กับเรามากกว่า 1 ปี ทำเอา เจ้าของธุรกิจ ต่างมองหาทางรอด! กับการปรับตัว NEW NORMAL (ชีวิตวิถีใหม่) ก้าวสู่ NEXT NORMAL (ชีวิตวิถีถัดไป) ซึ่งทั้งหมดนี้กำลังเป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้คนไทยส่วนใหญ่หันมาสนใจและเสพ สื่อออนไลน์ มากขึ้นกลายเป็นที่มาของ Digital Lifestyle ซึ่งเป็นรูปแบบการใช้ชีวิตของคนยุคใหม่ที่พาตัวเองไปอยู่บนโลกดิจิทัลมากขึ้น

เห็นได้ชัดในช่วงโควิด-19 พฤติกรรมคนส่วนใหญ่คุ้นเคยกับ สื่อออนไลน์ เริ่มหันมาทำธุรกรรมซื้อสินค้าหรือใช้บริการต่าง ๆ ผ่านระบบดิจิทัลออนไลน์กันมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการสั่งอาหาร การเรียนออนไลน์ การเข้าถึงข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ

เมื่อไล่เรียงที่มาที่ไปมาถึงจุดนี้ สื่อออนไลน์ ดูจะเป็นถนนหนทางหลักในห้วงเวลานี้ที่จะนำพา สินค้าหรือบริการ เข้าถึงทุกกลุ่มเป้าหมายได้มากที่สุด นั่นเท่ากับโอกาสเพิ่มยอดขายสินค้าหรือบริการอยู่ใกล้แค่เอื้อม! ยิ่งถ้าได้ติดอาวุธทางการตลาดถูกที่ถูกเวลา ทางรอดธุรกิจยิ่งง่ายเพียงนิ้วคลิก

หนึ่งในอาวุธทางการตลาดที่ควรหยิบมาโฟกัสก็คือ งานด้านโฆษณาประชาสัมพันธ์ ไม่ใช่แค่ช่วยเพิ่มยอดขายสินค้าหรือบริการ แต่ยังช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์แบรนด์สินค้าหรือบริการให้มีอัตลักษณ์โดดเด่นโดนใจกลุ่มเป้าหมายอีกด้วย

อ่านมาถึงบรรทัดนี้.. ถ้าคุณยังไม่มีไอเดียเริ่มต้นลุยงานด้านโฆษณาประชาสัมพันธ์ คลิกมาร่วมหาคำตอบกับเราได้ที่นี่>> https://lin.ee/Yp309Wu

เราคือ DRAGON CONSULTANT ผู้ให้บริการงานด้านวางแผนและซื้อสื่อโฆษณาประชาสัมพันธ์แบบครบวงจร โดยทีมผู้เชี่ยวชาญมากประสบการณ์ทั้งด้าน  Digital Marketing, Media Agency, PR Agency ที่พร้อมเป็นพันธมิตรคู่คิดงานด้านโฆษณาประชาสัมพันธ์ ช่วยเสริมทัพธุรกิจของคุณ ทำให้เกิดยอดขายสินค้าหรือบริการอย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

DRAGON CONSULTANT ให้บริการลูกค้าในรูปแบบ One Stop Service ประกอบด้วย

  • งานด้านวางแผนและซื้อสื่อโฆษณา ทั้งออฟไลน์ และออนไลน์ ได้แก่ สื่อโฆษณาทางสถานีโทรทัศน์ ทั้งดิจิตอลทีวีและเคเบิ้ลทุกช่อง/ สื่อโฆษณาทางสถานีวิทยุครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมายทั่วประเทศ/ สื่อโฆษณาาทางโซเชียลมีเดีย อาทิ Tiktok Ads, Facebook Ads, LINE Ads Platform และ Native Ads ตามเว็บไซต์ต่าง ๆ / สื่อโฆษณากลางแจ้ง ทั้งป้ายโฆษณาจอ LED และป้ายโฆษณา Static ในปั๊มน้ำมัน ปตท. 400 สถานีทั่วประเทศ/ สื่อโฆษณาเคลื่อนที่ ไม่ว่าจะเป็นบนรถไฟฟ้า BTS, MRT, TAXI, รถประจำทาง, รถไม่ประจำทาง, รถสองแถว, รถแห่/ ป้ายโฆษณาจอ LED 16 จอทั่วกรุงเทพฯ
  • งานด้านการผลิต ได้แก่ ผลิตภาพยนตร์โฆษณาเพื่อเผยแพร่ทางทีวี และ/หรือ สื่อออนไลน์ทุกประเภท รวมทั้งผลิตสปอตวิทยุ

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมฟรี! เพียงคลิก https://lin.ee/Yp309Wu หรือสายด่วน! โทร. 082 5593647

 

ศธ. เปิดตัว ‘ครูพร้อม’ เตรียมพร้อมเปิดเทอม

สืบเนื่องจากการที่กระทรวงศึกษาธิการมีมติให้เลื่อนการเปิดภาคเรียนที่ 1/2564 ออกไปเป็นวันที่ 1 มิ.ย. 64 จากเดิมวันที่ 17 พ.ค. 64 นั้น

เลื่อนเปิดเทอมจาก 17 พ.ค. 64 เป็น 1 มิ.ย. 64

ทำให้วันนี้ (วันที่ 11 พ.ค. 64) นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พร้อมด้วยคุณหญิงกัลยา โสภณพนิช นางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และคณะผู้บริหารจากหน่วยงานหลักในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ ได้ทำการเปิดตัวเว็บไซต์ ‘ครูพร้อม’ ซึ่งเป็นคลังกิจกรรมเสริมทักษะชีวิตสำหรับครู นักเรียน รวมไปถึงประชาชนที่สนใจ ตลอดช่วง 11 วันก่อนเปิดภาคเรียน คือตั้งแต่วันที่ 17-31 พ.ค.

‘ครูพร้อม’ ตั้งอยู่บนหลัก การจัดการเรียนรู้โดยใช้ปรากฏการณ์เป็นฐาน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ Active learning โดยเว็บไซต์นี้ เกิดขึ้นมาจากความห่วงใยที่มีต่อครู นักเรียน และผู้ปกครอง ท่ามกลางการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 (COVID-19) ที่ยังคงความรุนแรงอยู่ในหลายพื้นที่

ในวันที่ 1 มิ.ย. 64 ซึ่งเป็นวันเปิดภาคเรียนจะจัดการเรียนรู้ 5 รูปแบบด้วยกัน ได้แก่ 1. On-line โดยเรียนผ่านอินเทอร์เน็ตที่มีการปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้เรียนกับผู้สอน  2. On-site โดยเดินทางไปเรียนที่โรงเรียน  3. On-air โดยเรียนผ่านโทรทัศน์ในช่อง DLTV  4. On-demand โดยเรียนผ่านสื่อบนเว็บไซต์และแอปพลิเคชันต่าง ๆ  5. On-hand สำหรับนักเรียนที่ไม่มีความพร้อมทางเทคโนโลยี โดยเรียนครูจะนำเอกสารการเรียน ใบงาน และแบบฝึกหัดไปให้ถึงบ้าน

ในแต่ละโรงเรียนสามารถจัดการเรียนการสอนได้หลากหลายรูปแบบ ตามศักยภาพและความเหมาะสม ของโรงเรียนและผู้เรียน