โลตัส เตรียมแจก วัคซีนพาสปอร์ต หนุนคนไทยฉีดวัคซีนโควิด-19

โลตัส เตรียมแจกวัคซีนพาสปอร์ตให้กับประชาชนที่ได้รับการฉีดวัคซีนโควิด-19 เพื่อสนับสนุนให้คนไทยเข้ารับการฉีดวัคซีน โดยวัคซีนพาสปอร์ตประกอบไปด้วยคูปองแลกสินค้าฟรีและส่วนลดรวมมูลค่ากว่า 400 ล้านบาท เริ่มแจกพร้อมกันที่ไฮเปอร์มาร์เก็ตโลตัสทั่วประเทศ 1 กรกฎาคม นี้

สมพงษ์ รุ่งนิรัติศัย ประธานคณะผู้บริหารธุรกิจโลตัส ประเทศไทย

นายสมพงษ์ รุ่งนิรัติศัย ประธานคณะผู้บริหารธุรกิจโลตัส ประเทศไทย กล่าวว่า “โลตัส สนับสนุนการฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้กับประชาชนอย่างทั่วถึงและเร่งด่วน โดยเราได้ร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สนับสนุนพื้นที่ภายในสาขาและสำนักงานใหญ่เพื่อเป็นจุดฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้กับประชาชน โดยในกรุงเทพมหานคร โลตัส มีจุดฉีดวัคซีนทั้งหมด 3 จุด คือ โลตัส พระราม 4, โลตัส มีนบุรี, และโลตัส สำนักงานใหญ่ถนนนวมินทร์ นอกจากนั้น ยังมีสาขาในต่างจังหวัดที่เริ่มเป็นจุดฉีดวัคซีนโควิด-19 แล้วเช่นกัน เพื่อเป็นการรณรงค์ให้ลูกค้าและประชาชนฉีดวัคซีนโควิด-19 เราได้จัดทำวัคซีนพาสปอร์ตจำนวน 100,000 เล่ม มอบคูปองแลกสินค้าฟรีและส่วนลดมูลค่ากว่า 4,000 บาทต่อเล่ม เพื่อเป็นการขอบคุณประชาชนที่ร่วมใจกันฉีดวัคซีนเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ โลตัส ขอบคุณคู่ค้าของเราที่ให้การสนับสนุนสินค้าและส่วนลดต่าง ๆ มากมาย”

วัคซีนพาสปอร์ต จะถูกกระจายไปยังไฮเปอร์มาร์เก็ตทั่วประเทศ โดยประชาชนที่ได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว (เข็มแรกหรือเข็มที่ 2 ก็ได้) จากจุดฉีดวัคซีนใดก็ได้ ไม่จำกัดว่าต้องเป็นจุดฉีดในสาขาของโลตัส สามารถนำหลักฐานมาแสดงที่จุดบริการลูกค้าเพื่อรับวัคซีนพาสปอร์ต และสามารถใช้คูปองต่าง ๆ ภายในวัคซีนพาสปอร์ตตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2564 จนถึง 30 กันยายน พ.ศ. 2564 หรือตามเงื่อนไขที่กำหนด

คูปองแจกสินค้าฟรีและส่วนลดในวัคซีนพาสปอร์ต อาทิ รับฟรี ขนมปลาเส้นแน็คซ์แน็คซ์, เจลล้างมืออนามัยเดทตอล, หน้ากากผ้าแม็คยีนส์, สติกเกอร์เติมลมไนโตรเจนที่ค็อกพิท และคูปองส่วนลด ลดทันที 100 บาท เมื่อซื้อสินค้าครบ 400 บาทที่โลตัส, ซื้อบัตรฟู้ดคอร์ท 120 บาท ในราคา 100 บาท, ส่วนลด 50 บาท เมื่อซื้อสินค้าภายใต้แบรนด์ 3M, ส่วนลด 100 บาท เมื่อซื้อสินค้าครบ 500 บาทที่โอเรียนทอล พริ้นเซส และคูปองส่วนลดสินค้าอื่น ๆ อีกมากมายทั้งในซูเปอร์มาร์เก็ต และศูนย์การค้า

“โลตัส หวังว่าวัคซีนพาสปอร์ตจะเป็นอีกหนึ่งแรงในการช่วยให้ประเทศไทยสามารถเอาชนะวิกฤติคครั้งนี้ไปได้ด้วยกัน ด้วยการสร้างภูมิคุ้มกันให้กับประชาชน ลดความเสี่ยงในการติดและแพร่เชื้อโควิด-19 และลดความเสี่ยงจากการป่วยหรือเสียชีวิตจากโรคโควิด-19” นายสมพงษ์ กล่าวสรุป

PRAPAT แจกอาหารกล่องเพิ่มพลังสู้โควิด-19

นางไพริน ตรีลักษณวิลัย (คนกลาง) ผู้จัดการทั่วไป บริษัท แอลไลส์ อินเตอร์เทรด จำกัด หนึ่งในเครือกลุ่มบริษัท พีรพัฒน์ เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ PRAPAT  ผู้ดำเนินธุรกิจจำหน่ายเคมีภัณฑ์ทำความสะอาด และฆ่าเชื้อให้กับหน่วยงานโรงพยาบาล โรงซักอุตสาหกรรม และโรงงานอุตสาหกรรม พร้อมด้วย นางสาวนุจรินทร์ สมุทรเวช (ที่ 2 จากซ้าย) เลขานุการบริษัท PRAPAT ร่วมส่งมอบอาหารกล่อง จำนวน 500 กล่อง เพื่อเป็นกำลังใจให้กับบุคลากรทางการแพทย์ โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ที่ทำงานอย่างหนักจากสถานการณ์โควิด-19 รวมถึงแจกอาหารกล่องให้กับกลุ่มผู้สูงอายุ และผู้ป่วยกลุ่มโรคเรื้อรัง 7 โรค ที่เข้ารับการฉีดวัคซีนเข็มแรก จากการลงทะเบียนวัคซีนผ่าน“หมอพร้อม” โดยมี พันเอกหญิง แพทย์หญิงปริยนันทน์ จารุจินดา (ที่ 2 จากขวา) รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า เป็นผู้รับมอบ ณ อาคารสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ ชั้น G โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า เขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร

IND ส่งมอบอาหารกล่องให้บุคลากรทางการแพทย์

นางวรางคณา ณ ลำพูน ผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์องค์กร และพนักงาน บริษัท อินเด็กซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ IND ร่วมส่งกำลังใจให้กับทีมแพทย์ พยาบาล บุคลากรทางการแพทย์ รวมทั้งผู้ป่วยโรคโควิด-19 ด้วยการสนับสนุนอาหารกล่อง จำนวน 425 กล่อง ให้กับโรงพยาบาลต่างๆ รวม 3 แห่ง ได้แก่ โรงพยาบาลปทุมธานี , โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ และโรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช กรมแพทย์ทหารอากาศ ภายใต้โครงการ IND ร่วมเป็นกำลังใจให้บุคลากรทางการแพทย์ โดยมีตัวแทนแต่ละโรงพยาบาลเป็นผู้รับมอบอาหารกล่อง เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2564

นางวรางคณา กล่าวว่า ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ระลอกใหม่ ที่รัฐบาลกำลังเร่งควบคุมการแพร่ระบาด พร้อมเดินหน้า​ฉีดวัคซีนโควิดตามแผน เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงวัคซีนเข็มแรกได้เร็วที่สุด  IND ขอเป็นส่วนหนึ่งในการแบ่งเบาภารกิจของทีมแพทย์ พยาบาล และบุคลากรทางการแพทย์ ด้วยการส่งมอบอาหารกล่องให้ทุกท่านได้รับประทานอย่างสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย ตลอดจนเป็นกำลังใจ และแทนคำขอบคุณจากใจในความเสียสละของทีมแพทย์ที่ปฏิบัติหน้าที่ดูแลรักษาผู้ป่วยโควิด-19 เพื่อนำพาคนไทยทั้งประเทศผ่านวิกฤตโควิด-19 ระลอกนี้ ไปได้โดยเร็ว

โลตัส เปิดศูนย์ฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ที่สาขามีนบุรี

นายสมพงษ์ รุ่งนิรัติศัย ประธานคณะผู้บริหาร ธุรกิจโลตัส ประเทศไทย ต้อนรับ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทย ดร.กฤษณะ วจีไกรลาศ กรรมการเลขาธิการ หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และคณะฯ เยี่ยมชมจุดบริการฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้กับประชาชนที่โลตัส สาขามีนบุรี ซึ่งเปิดให้บริการแก่ประชาชนตั้งแต่วันที่ 7 มิถุนายนที่ผ่านมา โดยสามารถรองรับได้ราว 1,000 คนต่อวัน และดำเนินงานตามมาตรฐานโรงพยาบาลชั้นนำ จัดสรรสถานที่อย่างเป็นระบบ รวดเร็ว และปลอดภัย พร้อมสร้างความมั่นใจให้ลูกค้าด้วยมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดภายในศูนย์ฉีดวัคซีนทุกสาขาอย่างเคร่งครัด อาทิ การตรวจวัดอุณหภูมิ สวมใส่หน้ากากอนามัยตลอดวเลา ติดตั้งจุดเจลแอลกอฮอล์อย่างทั่วถึง เว้นระยะห่าง ทำความสะอาดและอบละอองฆ่าเชื้อสถานที่ทุกคืน นอกจากสาขามีนบุรี โลตัสยังจัดตั้งศูนย์ฉีดวัคซีนที่สาขาพระราม 4 ซึ่งเปิดให้บริการตั้งแต่เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ศูนย์ฉีดวัคซีนที่โลตัส สำนักงานใหญ่ ถนนนวมินทร์ ซึ่งเปิดให้บริการเมื่อวันที่ 7 มิถุนายนที่ผ่านมา และโลตัสจะดำเนินการจัดตั้งจุดฉีดวัคซีนในสาขาต่างจังหวัดที่ต่อไป เพื่อให้ลูกค้าและประชาชนเข้าถึงการฉีดวัคซีนอย่างทั่วถึงและรวดเร็ว

โลตัสมอบของขวัญพิเศษแทนคำขอบคุณประชาชนที่ร่วมใจกันฉีดวัคซีน โดยจัดทำวัคซีนพาสปอร์ตจำนวน 100,000 เล่ม มอบคูปองแลกสินค้าฟรีและส่วนลดมูลค่ากว่า 4,000 บาทต่อเล่ม สำหรับผู้ที่ฉีดวัคซีนโควิด-19 (เข็มแรกหรือเข็มที่ 2 ก็ได้) จากจุดฉีดวัคซีนใดก็ได้ ไม่จำกัดว่าต้องเป็นจุดฉีดในสาขาของโลตัส โดยสามารถนำหลักฐานมาแสดงที่จุดบริการลูกค้าที่โลตัส ไฮเปอร์มาร์เก็ต เพื่อรับวัคซีนพาสปอร์ตตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม ถึง 30 กันยายน 2564

อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ จัดพื้นที่ พระราม2-บางนา รับวัคซีนโควิด

พิศิษฐ์ ปัทมสัตยาสนธิ ประธานกรรมการบริหาร และ กฤษชนก ปัทมสัตยาสนธิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ ILM  ร่วมเป็นอีกหนึ่งภาคีผลักดันการเดินหน้าฉีดวัคซีนป้องกันโควิด19 ซึ่งถือเป็นวาระแห่งชาติตามนโยบายภาครัฐ ที่ทุกภาคส่วนต้องเร่งฉีดวัคซีนเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ (Herd Immunity) ในกลุ่มประชากรของประเทศ เพื่อควบคุมและยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ที่ยังรุนแรงอย่างต่อเนื่อง และบริษัทฯ สานต่อพันธกิจอันสำคัญนี้โดยให้ความร่วมมือกับ สำนักงานประกันสังคม (สปส.) เขตกรุงเทพมหานคร พื้นที่ 7 จัดพื้นที่ อินเด็กซ์  ลิฟวิ่งมอลล์  สาขาพระราม 2 (ถนนพระราม 2) และ สาขาบางนา (ถนนบางนา-ตราด) อำนวยความสะดวกในการฉีดวัคซีนให้แก่ประชาชน สำหรับผู้ประกันตนในระบบประกันสังคมตามมาตรา 33 ซึ่งสามารถรองรับประชาชนที่เข้ารับวัคซีนได้สาขาละ 1,000 คน/วัน โดยเริ่มให้บริการตั้งแต่วันที่ 7 มิถุนายน 2564 เป็นต้นไป  มีแพทย์และเจ้าหน้าที่จากโรงพยาบาลบางปะกอก 8 ควบคุมดูแลการฉีดวัคซีน และได้ยึดหลักแนวทางปฏิบัติการเว้นระยะห่าง (Social Distancing) รวมถึงมาตรการความปลอดภัยต่างๆ ตามมาตรการของกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด  เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรค ทั้งนี้มีเป้าหมายให้ประชาชนได้รับวัคซีนอย่างรวดเร็ว ทั่วถึง และยับยั้งการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด19 อันจะส่งผลให้ประเทศกลับเข้าสู่ภาวะปกติและผลักดันเศรษฐกิจให้ขับเคลื่อนได้โดยเร็วที่สุด

5 เรื่องน่ารู้ วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า

ในขณะที่ประชาชนคนทั่วไปกำลังจะเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 จากโรงพยาบาลและศูนย์ฉีดวัคซีนต่าง ๆ ทั่วประเทศ แอสตร้าเซนเนก้าจึงขอนำเสนอ 5 เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับวัคซีนป้องกันโควิด-19 ของแอสตร้าเซนเนก้า เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมให้แก่ประชาชนก่อนเข้ารับการฉีดวัคซีน

  1. วัคซีนป้องกันโควิด-19 ของแอสตร้าเซนเนก้า ได้รับการอนุมัติใช้งานแล้วกว่า 168 ประเทศทั่วโลก
  2. วัคซีนป้องกันโควิด-19 ของแอสตร้าเซนเนก้า สามารถฉีดให้แก่ผู้มีอายุ 18 ปีขึ้นไป
  3. ในการเตรียมตัวก่อนฉีดวัคซีนจะต้องมีการตรวจสอบและคัดกรองเบื้องต้น ประกอบไปด้วย
  • เป็นผู้ที่ไม่มีอาการไข้ขึ้นสูงเกิน 37.5 องศา ในวันที่เข้ารับการฉีดวัคซีนฯ
  • ไม่มีโรคประจำตัวขั้นรุนแรงที่ไม่สามารถควบคุมโรคได้[1] ได้แก่ โรคความดัน โรคมะเร็ง โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคทางเดินหายใจเรื้องรัง กลุ่มโรคระบบประสาท กลุ่มโรคเบาหวานและโรคอ้วน
  • ไม่มีประวัติแพ้ยาหรือสารประกอบในกลุ่มที่ระบุ[2]
  • ผู้มีภาวะเกล็ดเลือดต่ำ ความผิดปกติในการแข็งตัวของเกล็ดเลือด หรือผู้ที่ได้รับการรักษาด้วยยาต้านการแข็งตัวของเลือด สามารถฉีดวัคซีนได้ภายใต้ดุลยพินิจของแพทย์ฯ[3]
  1. สำหรับประโยชน์ของวัคซีนป้องกันโควิด-19 มีดังต่อไปนี้
  • ช่วยให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่ (Herd Immunity) – เมื่อมีการฉีดวัคซีนมากกว่า 70% ของจำนวนประชากร
  • ป้องกันอาการป่วยจากโควิด-19 – ป้องกันการติดเชื้อรุนแรงที่ต้องเข้านอนรับการรักษาในโรงพยาบาลหรือเสียชีวิตจากโรคโควิด-19 ป้องกันได้ 100% หลังฉีดเข็มแรก 22 วันไปแล้ว[4] และ จากการศึกษาการกระตุ้นภูมิคุ้มกันในคนไทย พบว่าหลังฉีดเข็มแรก 30 วัน ผู้ใช้วัคซีนมีภูมิคุ้มกันถึง 96.7%[5]
  • ลดอัตราการแพร่เชื้อไวรัสโคโรนา – สูงถึง 63.0% หลังฉีดเข็มแรก 3 สัปดาห์
  1. ทางด้านผลข้างเคียงหลังการฉีดวัคซีนป้องกัน-19 จะประกอบไปด้วย
  • อาการข้างเคียงที่พบได้ทั่วไป[6]

> 60% มีอาการเจ็บบริเวณที่ฉีด

> 50% มีอาการปวดศรีษะ และ อ่อนเพลีย

> 40% มีอาการปวดกล้ามเนื้อ ครั่นเนื้อครั่นตัว

> 30% มีอาการไข้ หนาวสั่น

> 20% มีอาการปวดข้อ และ คลื่นไส้

  • อาการข้างเคียงที่พบได้ยาก

< 1% มีอาการต่อมน้ำเหลืองโต เบื่ออาหาร มึนหรือเวียนศรีษะ ปวดท้อง เหงื่อออกมากผิดปกติ มีผื่นคัน

จากข้อมูลการใช้วัคซีนในสหราชอาณาจักพบภาวะลิ่มเลือก 0.000013% ใน 1,000,000 คน[7] และจากข้อมูลการใช้วัคซีนในประเทศอินเดียพบภาวะลิ่มเลือด 0.61 ใน 1,000,000 คน[8] (ข้อมูล ณ วันที่ 27 พฤษภาคม 2564)

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวัคซีนโควิด-19 ของแอสตร้าเซนเนก้า สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ https://www.azcovid-19.com/asia/th/th.html

โฮมโปร สาขาเอกมัย – รามอินทรา เปิดให้บริการแล้ว

โฮมโปร สาขาเอกมัย-รามอินทรา ยกระดับทุกขั้นตอน ในการควบคุมการแพร่กระจายโรคและได้แก้ไขคัดกรองนำเสนอแผนงานมาตรการเชิงรุก ต่อหน่วยงานสาธารณสุข สำนักงานลาดพร้าว และได้ผ่านการพิจารณา เปิดให้บริการ 7 มิ.ย. 2564

การยกระดับมาตรการรักษาความปลอดภัยเชิงรุก เพื่อสร้างความปลอดภัยสูงสุดให้กับลูกค้า และพนักงาน ดังนี้

ลูกค้า

  • ทำความสะอาดอุปกรณ์รถเข็น (Cart Service) และมีบริการถุงมือสำหรับลูกค้า
  • ทำความสะอาดจุดบริการลูกค้า (Customer Service) และห้องน้ำ ทุก 1 ชั่วโมง
  • เพิ่มจุดคัดกรอง เพิ่มน้ำยาฆ่าเชื้อพรมดักฝุ่นทางเข้า-ออก และเพิ่มจุดวางแอลกอฮลอล์
  • ลูกค้าสามารถชำระเงินผ่านระบบ Internet Banking และ QR Payment เพื่อหลีกเลี่ยงการสัมผัส

พนักงาน

  • คัดกรองพนักงานที่เข้ามาปฏิบัติงาน ต้องผ่านการตรวจ Swab Test ปลอดเชื้อ 100%
  • พนักงานที่เข้าปฏิบัติงาน ได้รับการฉีดวัคซีน 95% ( ณ วันที่ 1 มิ.ย. 2564) อย่างน้อย 1 เข็ม
  • ลดความแออัด ของจำนวนพนักงาน เหลือเพียง 25%
  • พนักงานทุกคนต้อง สวมหน้ากาก Face Shield และถุงมือ อย่างเคร่งครัด

พื้นที่

  • เพิ่มการฉีดพ่นฆ่าเชื้อพื้นที่ และสินค้าทุกวันหลังจากปิดให้บริการ ช่วงเวลา 00 – 22.30 น.
  • บริหารพื้นที่ ลดความแออัดให้มากกว่ามาตรฐานที่ 7 ตร.ม./คน (สาธารณสุขกำหนด 5 ตร.ม./คน)

ทั้งนี้ โฮมโปร ขอยืนยันว่า เราตระหนักถึงความสำคัญในเรื่องความปลอดภัยของลูกค้าและพนักงานเป็นสิ่งสำคัญสูงสุด  เราจะยึดการปฏิบัติตามขั้นตอนของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด เป็นประจำทุกวัน ขอให้ทุกท่านมั่นใจ และไว้วางใจในการใช้บริการอย่างปกติ-ช้อปมั่นใจ ปลอดภัยที่โฮมโปร

เอ็ม บี เค มอบน้ำดื่มและหน้ากากอนามัย สู้โควิด-19

บริษัท เอ็ม บี เค จำกัด (มหาชน) โดย นายสมพล ตรีภพนารถ (ที่ จากซ้าย) กรรมการผู้จัดการธุรกิจศูนย์การค้า บริษัท เอ็ม บี เค จำกัด (มหาชน) มอบน้ำดื่มMBKจำนวน 5,000 ขวดและหน้ากากอนามัยจำนวน 10,000 ชิ้น แก่กรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน เพื่อสนับสนุนการทำงานของเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานใช้สำหรับป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยมี พันตำรวจโทวรรณพงษ์ คชรักษ์ (ที่ 4 จากซ้าย) อธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน เป็นผู้รับมอบ พร้อมมอบน้ำดื่มจำนวน 5,000 ขวดให้กับกรมราชทันฑ์ 

พาราไดซ์ พาร์ค เปิดจุดบริการฉีดวัคซีนโควิด-19

ขานรับนโยบายภาครัฐอย่างเต็มสูบ พาราไดซ์ พาร์ค หนุนคนไทยฉีดวัคซีนโควิด-19 ทั่วถึง ผนึกกำลัง สำนักงานประกันสังคมพื้นที่ 8 และ โรงพยาบาลวิภาราม เปิดพื้นที่ฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้ผู้ประกันตนตามมาตรา 33 ที่บริษัทอยู่ในพื้นที่ บางนา ประเวศ พระโขนง และสวนหลวง เริ่มวันนี้ – 31 ก.ค.นี้ เวลา 08.00-17.00 น. ชั้น 3 โซนบิวตี้ แอนด์ เฮลธ์ (Beauty & Health)

พาราไดซ์ พาร์ค ศูนย์การค้าเครือเอ็ม บี เค สนันสนุนการดำเนินงานของภาครัฐ แก้ปัญหาวิกฤตโควิด-19 โดยการสนับสนุนพื้นที่ในการกระจายวัคซีนให้กับประชาชนได้อย่างครอบคลุมทั่วถึง สร้างภูมิคุ้มกันหมู่ ให้ทุกคนกลับมาใช้ชีวิตตามปกติได้โดยเร็ว และกระตุ้นเศรษฐกิจประเทศชาติให้ขับเคลื่อนเดินหน้าต่อไป โดยร่วมกับ สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่ 8 และ โรงพยาบาลวิภาราม เปิดหน่วยบริการฉีดวัคซีนนอกโรงพยาบาล ให้แก่ผู้ประกันตนตามมาตรา 33 ที่บริษัทอยู่ในเขต 8 ได้แก่ บางนา ประเวศ พระโขนง และสวนหลวง 8 เริ่มให้บริการตั้งแต่วันนี้ – 31 ก.ค. 2564 ตั้งแต่เวลา 08.00 น. – 17.00 น. บริเวณชั้น 3 โซนบิวตี้ แอนด์ เฮลธ์ (Beauty & Health)

โดยวันแรกของการเปิดหน่วยบริการวัคซีนโควิด-19 ได้รับเกียรติจาก นางสาวอำพันธ์ ธุววิทย์ รองปลัดกระทรวงแรงงาน พร้อมด้วย นางชณิการ์ โกวะประดิษฐ์ ผู้อำนวยการสำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่ 8 นายวรเศรษฐ์ วิศาลศักดิ์ ผู้อำนวยการเขตประเวศ และนายแพทย์ไพบูลย์ เอกแสงศรี ผู้อำนวยการโรงพยาบาลวิภาราม มาตรวจความเรียบร้อยและการดำเนินงานของหน่วยบริการฉีดวัคซีน โดยมีผู้บริหารศูนย์การค้าพาราไดซ์ พาร์ค นางสาวไปรยาภรณ์ แข็งแรง กรรมการผู้จัดการ และนายเอกรัตน์ ชลลัมพี ผู้อำนวยการฝ่ายบริหาร บริษัท พาราไดซ์ พาร์ค จำกัด ให้การต้อนรับ

สำหรับพื้นที่บริเวณโซนบิวตี้ แอนด์ เฮลธ์ ชั้น 3 (Beauty & Health) ที่จัดเป็นหน่วยบริการฉีดวัคซีนนั้น เป็นพื้นที่กว้าง 1,200 ตร.ม. สามารถรองรับเจ้าหน้าที่และประชาชนที่มารับริการฉีควัคซีนได้มากถึงวันละ 1,000 คน นอกจากนี้ทางศูนย์ฯ ได้จัดเตรียมเจ้าหน้าที่ช่วยดูแลความเรียบร้อยและอำนวยความสะดวกแก่และบุคลากรทางการแพทย์ ระหว่างดำเนินงาน และจัดหาอุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่างๆ ตลอดการดำเนินงาน ขณะเดียวกันผู้ที่มาฉีดวัคซีนโควิด-19 ที่ พาราไดซ์ พาร์ค ขอให้มั่นใจในความสะอาด ปลอดภัย เพราะศูนย์ฯ ได้ปฏิบัติมาตรการป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างเคร่งครัดตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขและกรุงเทพมหานคร ภายใต้ 3 มาตรการหลัก คือ คัดกรอง ป้องกัน ปลอดภัย มีการทำความสะอาดฆ่าเชื้อแบบเข้มข้นทั่วทั้งศูนย์ฯ อย่างต่อเนื่อง จัดพื้นที่เว้นระยะห่าง Social Distancing ตามที่ภาครัฐกำหนด ตลอดจนเดินทางที่สะดวก พื้นที่จอดรถกว้างขวาง

นอกจากความพร้อมด้านสถานที่ ความสะอาดและความปลอดภัยขั้นสูงสุด พาราไดซ์ พาร์ค ร่วมกับร้านค้าชั้นนำมากมายให้กับผู้ฉีดวัคซีนโควิด-19 ผ่าน แคมเปญ THAI SAVE THAI รวมใจฉีดวัคซีน เพียงแสดงหลักฐานการฉีดวัคซีน โควิด-19 และบัตรประจำตัวประชาชน รับทันทีส่วนลดของแถมจากร้านค้าชั้นนำมากมาย ตั้งแต่วันนี้ถึง 31 ก.ค. 2564

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ เอ็ม บี เค คอนแทคท์เซ็นเตอร์ 1285 พร้อมติดตามกิจกรรม และโปรโมชั่นดี ๆ ของศูนย์การค้า พาราไดซ์ พาร์ค ได้ที่ www.paradisepark.co.th หรือเฟซบุ๊กเพจ Paradise Park อินสตาแกรม paradisepark_th และยูทูป paradiseparkchannel

ส. ขอนแก่น ส่งกำลังใจสู้ภัย COVID-19

นางนิรมล รุจิราโสภณ (ที่ 4 จากซ้าย) รองประธานกรรมการบริหาร พร้อมด้วยทีมงาน บริษัท ส. ขอนแก่นฟู้ดส์ จำกัด (มหาชน) หรือ SORKON เดินสายมอบผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นกำลังใจให้กับเจ้าหน้าที่บุคลากรกรมราชทัณฑ์ สู้โควิด-19 ด้วยการส่งมอบผลิตภัณฑ์ ส. ขอนแก่น รวมถึงช่วยเหลือชาวบ้านซื้อฟักทองเพื่อบรรเทาความเดือดร้อน มูลค่าผลิตภัณฑ์รวมประมาณ 100,000 บาท มอบให้แก่กรมราชทัณฑ์ โดย นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม มอบหมายให้ นายสิทธิ สุธีวงศ์ (ที่ 3 จากขวา) รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ และ นายวรพงษ์ น้อยสุขเสริม (ที่ 2 จากขวา) เลขานุการกรม เป็นผู้รับมอบแทน ณ กรมราชทัณฑ์