ศุภาลัย ส่งกำลังใจพร้อมฝ่าวิกฤตโควิด-19 ไปด้วยกัน

บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) ผู้นำในธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์มาอย่างยาวนานก้าวสู่ปีที่ 33 ที่ผ่านมาดำเนินธุรกิจด้วยจิตสำนึกความรับผิดชอบต่อสังคมขององค์กร ภายใต้แนวคิด “ศุภาลัย ใส่ใจ…สร้างสรรค์สังคมไทย” บริษัทฯได้คำนึงถึงความปลอดภัยของ Stakeholder ทุกกลุ่มมาอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งได้ส่งต่อกำลังใจให้กับบุคลากรทางการแพทย์ รวมทั้งผู้ป่วยโควิด-19 ผ่านกิจกรรมหลากหลายรูปแบบที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมอย่างแท้จริง และในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ระลอกที่ 3 ครั้งนี้ บริษัทฯ จึงได้สานต่อภารกิจ ส่งกำลังใจ และร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจ ดำเนินการส่งต่อความช่วยเหลือให้ทุกภาคส่วนให้สามารถฝ่าวิกฤตไปด้วยกัน

เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในปัจจุบัน นับเป็นปัญหาที่สังคมไทยจะต้องร่วมมือร่วมใจช่วยเหลือซึ่งกันและกัน เพื่อทำให้ประเทศชาติสามารถผ่านพ้นสถานการณ์ดังกล่าวไปได้ โดยประชาชนทุกคนจะต้องได้รับวัคซีนโดยเร็วที่สุด เพื่อความปลอดภัยของบุคคล รวมทั้งสังคมโดยรวม

บริษัทฯ จึงได้ร่วมมือกับสำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่ 11 โรงพยาบาลลาดพร้าว และโรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์ เปิดสถานที่อาคารศุภาลัย แกรนด์ ทาวเวอร์ ถนนพระราม 3 เป็นหนึ่งในสถานที่ได้รับเลือกให้เป็นสถานที่ให้บริการฉีดวัคซีนโควิด -19 แก่ผู้ประกันตนมาตรา 33 ในพื้นที่สำนักงานประกันสังคมพื้นที่ 11 รวมถึงพนักงาน ศุภาลัย ตลอดจนบริษัทผู้เช่าอาคารศุภาลัย แกรนด์ ทาวเวอร์ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการร่วมรับผิดชอบต่อสังคมด้านความปลอดภัยจากโควิด-19 โดยมีนายไตรเตชะ ตั้งมติธรรม กรรมการผู้จัดการ บมจ.ศุภาลัย และนายสุเทพ ชิตยวงษ์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเเรงงาน ให้เกียรติลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมศูนย์ฉีดวัคซีน

อาคารศุภาลัย แกรนด์ ทาวเวอร์ เป็นอาคารสำนักงานซึ่งมีสถานที่ตั้งในเขตพื้นที่สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานคร พื้นที่ 11 มีความพร้อมด้านสถานที่ เนื่องจากมีพื้นที่ขนาดใหญ่พร้อมให้บริการ อีกทั้งมีมาตรการป้องกัน โควิด-19 อย่างเป็นระบบ โดยตระหนักถึงความปลอดภัยของผู้ปฏิบัติงานในอาคาร และผู้มาติดต่ออย่างสูงสุด ที่ผ่านมาได้กำหนดมาตรการความปลอดภัยด้านชีวอนามัยอย่างเข้มงวด ทั้งการกำหนดมาตรการทำความสะอาดพื้นที่ภายในอาคาร ด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ ติดตั้งเจลล้างมือ ตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายทุกคนก่อนเข้าอาคาร รวมทั้งบุคลากรที่ให้บริการในอาคาร ทุกคนได้ผ่านการฉีดวัคซีนโควิด-19 ทั้งนี้เพื่อเสริมความมั่นใจในการใช้บริการพื้นที่ของอาคารในศักยภาพมาตรการ ความปลอดภัยด้านสุขอนามัยระดับสูง

นอกจากนี้ พนักงานศุภาลัยประจำโครงการทั้งแนวราบและคอนโดฯ ในส่วนฝ่ายขาย ฝ่ายโอนกรรมสิทธิ์และฝ่ายก่อสร้าง ล้วนได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 แล้วเช่นกัน เพื่อสร้างความมั่นใจในความปลอดภัยด้านสุขอนามัยแก่ลูกค้าที่มารับบริการในทุกโครงการของศุภาลัย เน้นย้ำการร่วมรับผิดชอบต่อสังคมขององค์กร

  • สนับสนุนโครงการ “รถเก็บตัวอย่างชีวนิรภัย” นวัตกรรมล่าสุด และเป็นคันแรกในประเทศไทยที่สามารถตรวจผลได้ครั้งละ 3 เคส ออกแบบโดยศูนย์นวัตกรรม KMITL GO FIGHT FOR COVID-19 ศูนย์วิจัยและออกแบบ งานสร้างสรรค์ (Research and Creative Design Center: RCDC) สจล. ร่วมกับ หมอแล็บแพนด้า ทนพ.ภาคภูมิ เดชหัสดิน เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ในการตรวจหาเชื้อโควิด-19 เชิงรุก โดยร่วมบริจาคเงินสนับสนุนโครงการมูลค่า 100,000 บาท
  • จับมือพันธมิตรทางธุรกิจ บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา ร่วมสนับสนุนอุปกรณ์ทางการแพทย์ อาหาร น้ำดื่ม ถุงน้ำใจ และสิ่งของที่จำเป็นให้แก่ทีมแพทย์ พยาบาล และบุคลากรทางการแพทย์ในแคมเปญ “ALL FOR HEROES” ส่งมอบแก่โรงพยาบาลหลัก และโรงพยาบาลสนามที่เป็นด่านหน้าในการรักษาผู้ป่วยโควิดจำนวน 8 แห่ง ได้แก่ โรงพยาบาลศิริราช, โรงพยาบาลรามาธิบดี, โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า, โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์, โรงพยาบาลราชวิถี, วชิรพยาบาล, โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ และโรงพยาบาลตำรวจ สนับสนุนแคมเปญ “ALL FOR HEROES”
  • บริจาคเครื่องปริ้นเตอร์ ให้กับโรงพยาบาลมหาราช จ.นครราชสีมา เพื่อใช้ในงานบริการฉีดวัคซีน และมอบ น้ำดื่มสนับสนุนการทำงานของบุคลากรทางการแพทย์ โดยฝ่ายขาย และฝ่ายก่อสร้างโครงการภูมิภาค 2 เป็นตัวแทนบริษัทฯ ในการส่งมอบ โดยมี นพ. เจษฎ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา เป็นตัวแทนรับมอบสนับสนุนอุปกรณ์สำนักงาน ให้กับโรงพยาบาลมหาราช

บริษัทฯ ตระหนักถึงความยากลำบาก และความเหน็ดเหนื่อยในการทำงานของบุคลากรทางการแพทย์ รวมถึงเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง โดยเชื่อว่าการส่งต่อส่งกำลังใจ และความช่วยเหลือให้บุคลากรทางการแพทย์ซึ่งเป็นด่านหน้าในการต่อสู้กับเชื้อไวรัสโควิด -19 เป็นสิ่งสำคัญ และขอให้คนไทยผ่านพ้นวิกฤตครั้งนี้ไปด้วยกัน

คาร์กิลล์ สนับสนุนอุปกรณ์ทางการแพทย์ สู้โควิด-19

จากนโยบายหลักในการส่งเสริมชุมชนให้มั่นคงอย่างยั่งยืน คาร์กิลล์ ประเทศไทย มอบอุปกรณ์ทางการแพทย์ และชุด PPE แก่องค์กรและหน่วยงานทางการแพทย์ มูลค่าทั้งสิ้น 3,000,000 บาท เพื่อช่วยเหลือในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 การบริจาคในครั้งนี้ดำเนินการโดยมูลนิธิเพื่อพัฒนาการเกษตรและชุมชน (Agriculture and Community Development Foundation) และ Cargill Cares Council องค์กรไม่แสวงหากำไร ก่อตั้งโดยพนักงานคาร์กิลล์

อุปกรณ์ทางการแพทย์ที่บริจาคในครั้งนี้ ประกอบด้วย เครื่องผลิตออกซิเจน เครื่องฟอกอากาศ เครื่องให้อากาศผสมออกซิเจนอัตราการไหลสูง ห้องป้องกันเชื้อความดันลบ เครื่องวัดความดันโลหิต เครื่องวัดความอิ่มตัวของออกซิเจนในเลือด หน้ากากอนามัยป้องกัน PM 2.5 หน้ากากเฟซชิลด์ ชุด PPE และเจลล้างมือแอลกอฮอล์ ซึ่งจะกระจายไปยังโรงพยาบาลและศูนย์แพทย์ แห่ง ในจังหวัดสระบุรี นครราชสีมา และปทุมธานี เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยโควิด-19 กว่า 3,000 คน ที่ยังคงรักษาอยู่ในโรงพยาบาล  

ในสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด19 โรงพยาบาลพระพุทธบาทได้ดูแลผู้ป่วยโควิดในเขตพื้นที่อำเภอพระพุทธบาทและใกล้เคียง ผมรู้สึกซาบซึ้งและขอขอบพระคุณบริษัท คาร์กิลล์มีทส์ (ไทยแลนด์) เป็นอย่างมากที่บริจาคเครื่องผลิตออกซิเจน ความเข้มข้นสูงจำนวน 5 ชุดนี้ เราจะได้นำเครื่องมือนี้ไปใช้ดูแลผู้ป่วยที่ติดเชื้อโควิดได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น นพ.ธงชัย เขมรัตน์ตระกูล ผู้อำนวยการ โรงพยาบาลพระพุทธบาท กล่าว

จากการเป็นส่วนหนึ่งที่ร่วมสนับสนุนบุคลากรทางการแพทย์ไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้ติดเชื้อ และผู้ที่อยู่ในสถานกักกันโรคในระยะเวลาที่ต้องต่อสู่กับโควิด-19 อันยาวนานนี้ คาร์กิลล์ยังมอบผลิตภัณฑ์ไก่ปรุงสุก ซันแวลเล่ย์ (Sun Valley) จำนวน 500 กิโลกรัม และไข่ไก่ มูลค่าเดือนละ 200,000 บาท แก่โรงพยาบาลด้วย

ธุรกิจของเราดำเนินงานในชุมชนที่พนักงานนับพันคนอยู่อาศัยและทำงาน เรามีความยินดีที่ได้สนับสนุนและช่วยเหลือชุมชน รวมถึงหน่วยงานทางการแพทย์ เรามีความเชื่อว่า เพื่อนที่ช่วยเหลือในยามยากคือเพื่อนแท้ คาร์กิลล์จะเป็นเพื่อนที่ประเทศไทยสามารถไว้วางใจและเติบโตไปด้วยกัน นายวัชรพล ประสพเกียรติโภคา หัวหน้าคณะผู้บริหารกลุ่มธุรกิจคาร์กิลล์ ประเทศไทย กล่าวทิ้งท้าย

เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา คาร์กิลล์มีการส่งมอบเครื่องวัดอุณหภูมิและเจลล้างมือ มูลค่า 200,000 บาท แก่โรงเรียน 50 แห่ง ในจังหวัดสระบุรี และนครราชสีมา มีนักเรียนกว่า 5,000 คน ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่  Cargill.co.th 

ไลอ้อน มอบผลิตภัณฑ์ให้สำนักการแพทย์ กทม. สู้โควิด-19

บริษัท ไลอ้อน (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าอุปโภค บริโภค โดย นายสมศักดิ์ อัศวรุ่งสกุล (ที่ จากขวา) กรรมการบริหารการตลาด และนางสาวสายพิณ ประจงพงศ์พันธุ์ (ที่ จากขวา) รองผู้จัดการบริหารธุรกิจสหพัฒน์ฝ่ายการตลาด ผู้แทนบริษัทฯ ร่วมฝ่าวิกฤตโควิด-19 โดยมอบผลิตภัณฑ์มูลค่ากว่า 200,000 บาท ให้กับสำนักการแพทย์ กทม. เพื่อจัดชุดมอบให้กับผู้ป่วยโควิด-19 แรกรับ ที่เข้ามารักษาในโรงพยาบาลในสังกัดเพื่อกระจายตามโรงพยาบาลสนามในพื้นที่กรุงเทพมหานคร โดยมี พญ.สุภาพร กรลักษณ์ (ที่ จากซ้าย) รองผู้อำนวยการสำนักการแพทย์ และ นพ.อดิศร วิตตางกูร (ที่ จากซ้าย) ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาระบบบริการทางการแพทย์  ให้เกียรติรับมอบ ณ สำนักการแพทย์ กทม.

“ซังซัง” มอบนมถั่วเหลืองคั้นสด ร่วมฝ่าวิกฤติโควิด -19

นางสาวสาธิตา จิรพัฒนกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ บริษัท แลคตาซอย จำกัด พร้อมด้วยพรีเซ็นเตอร์ซังซัง ออฟจุมพล อดุลกิตติพร มอบผลิตภัณฑ์นมถั่วเหลืองซังซัง ขนาด 300 ml. จำนวน 300 ลัง (10,800 กล่อง) ภายใต้ โครงการ ซังซัง…รักกัน ครั้งที่ 2 ให้กับโรงพยาบาลสนามบุษราคัม โดยมี นายพลพีร์ สุวรรณฉวี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี, นายณัฐนันท์ สุตะวงศ์ และ นพ.พลภัทร สุลีสถิระ ให้เกียรติรับมอบ เพื่อนำไปร่วมเสริมสร้างกำลังกายให้กับบุคลากรทางการแพทย์ ณ อาคารชาเลนเจอร์ อิมแพ็ค เมืองทองธานี 

อัยการ สคช.จันทบุรี มอบสิ่งของช่วยเหลือประชาชน

นายสุธี ทองแย้ม (กลาง) ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี รับมอบสิ่งของช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จากสำนักงานอัยการคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดี (สคช.) จ.จันทบุรี นำโดย นายทรงศักดิ์ นาควิจิตร์ (ที่ 4 จากซ้าย) อัยการ สคช. จ.จันทบุรี พร้อมด้วยนายขวัญไพร จันทนา อัยการจังหวัดจันทบุรี นายไพรวัลย์ เพ็งพา อัยการจังหวัดคดีเยาวชนและครอบครัวจังหวัดจันทบุรี นายบรรพต จันทรธาดา ที่ปรึกษาสำนักงานอัยการจังหวัดพัทยา และนักธุรกิจจากเมืองพัทยา โดยสิ่งของที่นำมามอบประกอบด้วย หน้ากากอนามัย, แอลกอฮอล์ และเครื่องอุปโภค บริโภคที่จำเป็น  โดยผู้ว่าฯจันทบุรี จะนำสิ่งของที่ได้รับบริจาคจะนำไปมอบให้บุคลากรทางการแพทย์ และพี่น้องประชาชนที่เข้ารับการรักษาทั้งในรพ.สังกัด รพ.สนาม

นอกจากการช่วยเหลือสิ่งของแล้ว สคช. จ.จันทบุรี ยังมีบทบาทในการช่วยเหลือประชาชนในการดำเนินการ และการให้ความรู้ทางด้านกฎหมาย โดยเป็นการบริการฟรี ไม่เสียค่าใช้จ่าย ยกเว้นค่าธรรมเนียมในชั้นศาลที่ต้องเสียตามกฎหมาย ซึ่งเป็นการลดค่าใช้จ่ายให้แก่ประชาชน เช่น จัดหาทนายอาสา, จัดทำนิติกรรมสัญญาให้แก่ประชาชน เป็นต้น

“ซัยโจ เด็นกิ” ชูนวัตกรรมป้องกันบุคลากรทางการแพทย์ติดเชื้อจากผู้ป่วยโควิด

ซัยโจ เด็นกิ ตระหนักถึงความรุนแรงของผลกระทบของสถานการณ์ระบาดของโควิด-19 ที่มีต่อการใช้ชีวิตของประชาชนและการให้บริการทางการแพทย์   เร่งพัฒนานวัตกรรมระบบแลกเปลี่ยนอากาศความดันลบ (Negative Pressure) เพื่อใช้ป้องกันบุคลากรทางการแพทย์ให้ปฏิบัติงานในสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยจนสำเร็จ พร้อมต่อยอดนวัตกรรมด้วยการขยายบริการไปยังหอผู้ป่วยทั่วไป สถานที่ทำงานและบ้านอยู่อาศัย  หวังช่วยลดโอกาสการติดเชื้อและการมีสุขภาวะด้านอากาศที่สะอาดบริสุทธิ์ของสังคมไทยแม้ภายหลังจากโรคระบาดผ่านพ้นไปแล้ว (Post Covid-19) เผยภูมิใจที่อุตสาหกรรมไทยสามารถพัฒนาเทคโนโลยีระบบแลกเปลี่ยนอากาศที่มีความซับซ้อนด้วยตนเอง

นายสมศักดิ์ จิตติพลังศรี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซัยโจ เด็นกิ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เปิดเผยว่า จากวิกฤติของโรคระบาดโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบไปทั่วโลกรวมถึงประเทศไทย “ซัยโจ เด็นกิ” มีความห่วงใยในความปลอดภัยของบุคคลกรทางการแพทย์และของประชาชน จึงเร่งพัฒนานวัตกรรมระบบแลกเปลี่ยนอากาศความดันลบ (Negative Pressure) เพื่อใช้ป้องกันบุคลากรทางการแพทย์ให้ปฏิบัติงานในสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยจนสำเร็จ โดยนวัตกรรมระบบแลกเปลี่ยนอากาศดังกล่าวพัฒนามาจากเทคโนโลยีอินเวอร์เตอร์ที่ “ซัยโจ เด็นกิ” มีประสบการณ์มากว่า 15 ปี  ซึ่งระบบนี้สามารถควบคุมทิศทางการไหลเวียนของอากาศภายในห้อง จากบุคลากรทางการแพทย์ (โซนสะอาด) ไปยัง ผู้ป่วย COVID-19 (โซนเชื้อโรค) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดโอกาสเกิดความเสี่ยงในการติดเชื้อจากผู้ป่วยมาสู่บุคลากรทางการแพทย์  ด้วยการนำอากาศใหม่ 100% (Fresh Air) เติมเข้าสู่ภายในห้องตลอดเวลา เพื่อลดปริมาณเชื้อโรคภายในห้องอย่างรวดเร็ว และทำให้ระบบดังกล่าวสามารถปรับความชื้นสัมพัทธ์ และมีประสิทธิภาพในการสร้างแรงดันลบ (Negative Pressure) ได้ตามเกณฑ์มาตรฐานของ WHO และ CDC สหรัฐอเมริกา เพื่อป้องกันไม่ให้เชื้อโรคจากภายในห้อง ไหลออกสู่บริเวณภายนอก เช่น ชุมชน หรือส่วนอื่นๆภายในโรงพยาบาล

ตั้งแต่ต้นปี 2564  ซึ่งอยู่ในช่วงสถานการณ์โควิดแพร่ระบาด  บริษัท ‘ซัยโจ เด็นกิ’ ได้ติดตั้งระบบแลกเปลี่ยนอากาศด้วยระบบความดันลบให้กับโรงพยาบาลต่างๆ ไปแล้วรวมกว่า 1,000 เตียงทั่วประเทศ ซึ่งรวมถึงการเปลี่ยนอาคารท่านผู้หญิงประภาศรี กำลังเอก โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ที่มีอายุร่วม 37 ปี ซึ่งเดิมรองรับได้แค่ผู้ป่วยธรรมดา ปรับให้ดีขึ้นเป็นหอรับผู้ป่วยวิกฤติ Covid-19 ได้จำนวนมากถึง 41 เตียง มูลค่ากว่า 26 ล้านบาท โดยใช้เวลาติดตั้งเพียงแค่ 10 วัน เท่านั้น

นอกจากการพัฒนานวัตกรรมระบบแลกเปลี่ยนอากาศเพื่อใช้ป้องกันบุคลากรทางการแพทย์ให้ปฏิบัติงานในสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยจากเชื้อโควิดจนสำเร็จแล้ว “ซัยโจ เด็นกิ” ยังได้ต่อยอดนวัตกรรมดังกล่าวด้วยการขยายบริการไปยังหอผู้ป่วยทั่วไป รวมถึงในสถานที่ทำงานและบ้านอยู่อาศัย    เพื่อช่วยลดโอกาสในการติดเชื้อในสถานพยาบาล รวมถึงการมีสุขภาวะด้านอากาศที่สะอาดบริสุทธิ์ของสังคมไทย แม้ภายหลังจากโรคระบาดผ่านพ้นไปแล้ว  (Post Covid-19)

“นับเป็นความสำเร็จและความน่าภาคภูมิใจของอุตสาหกรรมไทยที่สามารถพัฒนาเทคโนโลยีที่มีระบบแลกเปลี่ยนอากาศที่มีความซับซ้อนด้วยตนเอง ซึ่งทาง “ซัยโจ เด็นกิ” ได้จดสิทธิบัตรทรัพย์สินทางปัญญานี้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว  นอกจากนี้ระบบนี้ยังได้ผ่านการทดสอบประสิทธิภาพโดยคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี และคณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ว่ามีความปลอดภัยต่อบุคลากรทางการแพทย์และชุมชน อีกด้วย” นายสมศักดิ์ กล่าว

“สหพัฒน์” ร่วมขับเคลื่อนสังคมไทยพ้นวิกฤตโควิด-19

นายบุญชัย โชควัฒนา ประธานกรรมการ บริษัท สหพัฒนพิบูล จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ขณะนี้ ประเทศไทยยังต้องเผชิญกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ยังไม่มีท่าทีว่าจะจบลงเมื่อใด โดยมีผู้ป่วยและผู้เสียชีวิตสะสมเพิ่มขึ้นทุกวัน และโควิดยังส่งผลกระทบต่อประชาชนทั้งการดำเนินชีวิตและเศรษฐกิจ ช่วงนี้จึงเป็นช่วงเวลาที่คนไทยทุกคนต้องร่วมใจช่วยกันหยุดยั้งการระบาด หากใครมีกำลังที่จะช่วยเหลือสังคมได้ก็อยากเชิญชวนให้มาร่วมกัน ในส่วนของสหพัฒน์ได้ให้ความช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 มาตั้งแต่ปี 2563 ที่เริ่มมีการระบาด และปีนี้ยังได้ร่วมกับ 5 องค์กร คือ สำนักการแพทย์และสำนักอนามัยกรุงเทพมหานคร, สภากาชาดไทย, โรงพยาบาลวชิรพยาบาล, เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ และเดอะมอลล์ เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติงานของบุคลากรทางการแพทย์ และช่วยเหลือผู้ป่วยโควิด ผู้ป่วยติดบ้าน ผู้พิการ ผู้สูงวัย และผู้ที่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ โดยได้มอบผลิตภัณฑ์และเงิน รวมมูลค่ากว่า 3.5 ล้านบาท

โดยความช่วยเหลือที่ส่งไปยัง สำนักการแพทย์ และสำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร นั้น สหพัฒน์ได้มอบปลากระป๋องซื่อสัตย์ 1,000 กระป๋อง น้ำแร่มองต์เฟลอ 1,000 ขวด ในนามกลุ่ม SAHAGROUP Health Care & Wellness เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติหน้าที่ของบุคลากรทางการแพทย์ในการดูแลผู้ป่วยในสถานพยาบาลสังกัดกรุงเทพมหานคร และชุมชนในเขตกรุงเทพมหานคร ในส่วนของ สภากาชาดไทย ได้สนับสนุนโครงการมอบธารน้ำใจสู่ผู้สูงอายุที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ทั่วประเทศ โดยมอบบะหมี่ซื่อสัตย์ 300,060 ซอง น้ำเต้าหู้โทฟุซัง 50,400 กล่อง เพื่อมอบให้กับผู้ป่วยติดเตียง ผู้ป่วยติดบ้าน ผู้พิการ ผู้สูงอายุ และผู้ที่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ทางด้าน โรงพยาบาลวชิรพยาบาล ได้มอบเงิน 1 ล้านบาท ให้กับโครงการเตียงต่อชีวิต ผู้ป่วยโควิด-19 เพื่อสร้างห้องความดันลบรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ที่อยู่ในภาวะวิกฤต

สำหรับการร่วมมือกับ เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ ได้ร่วมสนับสนุนในโครงการถุงปันยิ้ม โดยมอบบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมาม่า 4,860 ซอง บิสชิน 690 กล่อง ปลากระป๋องซื่อสัตย์ 1,600 กระป๋อง นมถั่วเหลืองมารูซัน 960 กล่อง เจลแอลกอฮอล์ซื่อสัตย์เพื่อชาติ 720 หลอด เพื่อมอบให้ชุมชนในกรุงเทพมหานคร ส่วนความร่วมมือกับ เดอะมอลล์ ซึ่งได้จัดพื้นที่สาขาบางแค บางกะปิ เป็นสนามฉีดวัคซีนนั้น ทางสหพัฒน์ได้มอบบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปซื่อสัตย์ 180 ถ้วย ริวอง 2,400 ถ้วย นมถั่วเหลืองมารูซัน 1,440 กล่อง น้ำแร่มองต์เฟลอ 1,440 ขวด ทุกเดือน เพื่อสนับสนุนบุคลากรทางการแพทย์ที่มาให้บริการฉีดวัคซีนให้กับประชาชน

“สหพัฒน์หวังว่าผลิตภัณฑ์และเงินบริจาคในครั้งนี้จะช่วยบรรเทาความเดือนร้อนให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบและเป็นกำลังใจให้กับบุคลากรทางการแพทย์ในการต่อสู้กับวิกฤตโควิด เราหวังว่าความร่วมมือร่วมใจของคนไทยในการช่วยเหลือกัน จะทำให้สถานการณ์การระบาดคลี่คลาย เพื่อที่ทุกคนจะได้เดินหน้าใช้ชีวิตตามปกติและเศรษฐกิจของไทยกลับมาฟื้นตัวโดยเร็ว” นายบุญชัย กล่าว

ท็อปส์ สนับสนุนให้คนไทยฉีควัคซีนป้องกันโควิด-19

ท็อปส์ และ เซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์ ในเครือเซ็นทรัล รีเทล ขอร่วมเป็นส่วนหนึ่งรณรงค์สนับสนุนให้คนไทยเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ลดการแพร่ระบาด หยุดเชื้อเพื่อชาติ ช่วยสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ให้คนในประเทศ รวมถึงส่งผลบวกต่อความเชื่อมั่นทางด้านเศรษฐกิจไทย ช่วยลดภาระหมอและพยาบาล รวมถึงบุคลากรทางการแพทย์

ขอมอบสิทธิพิเศษแทนคำขอบคุณในการร่วมกันฝ่าฟันวิกฤติโควิด-19 นี้ สำหรับผู้ที่ผ่านการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 เพียงแสดงบัตรประชาชน พร้อมหลักฐานการฉีดวัคซีน รับฟรี! เครื่องดื่มเป๊ปซี่ ขนาด 22 ออนซ์ 1 แก้ว มูลค่า 25 บาท ตั้งแต่วันที่ 16 มิ.ย. – 31 ส.ค. 64 ที่จุดเครื่องดื่ม Tops Drink ท็อปส์ มาร์เก็ต สาขา เซ็นทรัลพลาซา พระราม 9, พระราม 2, พระราม 3, ปิ่นเกล้า, เวสต์เกต, รามอินทรา, โรบินสันฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต, เซ็นทรัลฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต, แฟชั่นไอซ์แลนด์, เอสพลานาด, ศรีนครินทร์, วันโอวันเดอะเทริ์ดเพลส, เซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์ สาขา เซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว, บางนา และอีสต์วิลล์

ตรวจสอบรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.tops.co.th , เฟซบุ๊ก TopsThailand และ Central Food Hall หรือ แอปพลิเคชันไลน์ @TopsThailand, Central Food Hall

MBKG ร่วมต้านภัยโควิด-19 กับรพ.ศิริราช ปี 2

บริษัท เอ็ม บี เค การันตี จำกัด (MBKG) หนึ่งในกลุ่มธุรกิจการเงินของเครือเอ็ม บี เค จัดโครงการ MBKG ยิ่งให้  ยิ่งได้ ร่วมต้านภัยโควิด-19 กับโรงพยาบาลศิริราช ปี 2” เพื่อต้องการมีส่วนร่วมช่วยเหลือบุคลากรทางการแพทย์ที่มีส่วนสำคัญในการตรวจคัดกรองและดูแลรักษาผู้ป่วยโควิด – 19  ที่กลับมาแพร่ระบาดอีกครั้ง  จึงขอเชิญร่วมบริจาคเข้าศิริราชมูลนิธิ ในชื่อกองทุน ศิริราชสู้ภัยโควิด โดยผู้ที่บริจาคตั้งแต่ 1,000 บาทขึ้นไปผ่าน Mobile Banking  จะได้รับของที่ระลึกเป็น เสื้อ MBKG X  WANNASU Exclusive Collection สุดเก๋ที่เกิดจากการดีไซน์ร่วมกันของ MBKG กั WANNASU แบรนด์คราฟต์แฟชั่นไทยที่ดัง ไกลถึงต่างแดน  จำนวนจำกัดเพียง 100 ตัวเท่านั้น ตั้งแต่วันนี้ถึง 30 มิถุนายน 2564 หรือจนกว่าของจะหมด โดยท่านสามารถร่วมบริจาคได้ตามขั้นตอนนี้

1. บริจาคตรงเข้าศิริราชมูลนิธิ

– ใช้ Mobile Banking สแกน QR Code บัญชีศิริราชมูลนิธิ (ศิริราชสู้ภัยโควิด)
– กดยืนยันการบริจาค เซฟไฟล์สลิปการบริจาคเก็บไว้

2. ส่งหลักฐานการบริจาค        

ส่งไฟล์สลิปบริจาคเข้ากองทุนศิริราชสู้ภัยโควิด พร้อมชื่อ-นามสกุลที่อยู่จัดส่งขนาดเสื้อและเบอร์มือถือ มาที่ inbox ของ         MBK Guarantee  หลังจากเจ้าหน้าที่ตรวจสอบยอดบริจาคกับศิริราชมูลนิธิแล้วจะจัดส่งของที่ระลึกให้ทางไปรษณีย์ลงทะเบียน

** รายละเอียดเสื้อ MBKG X WANNASU  เสื้อ  Exclusive  Collection  ที่เกิดจากการดีไซน์ร่วมกันของ  MBKG  และ  WANNASU
แบรนด์คราฟต์แฟชั่นไทยที่ดังไกลถึงต่างแดน ขนาด (รอบอก=นิ้ว) XS(34)  S(36)  M(38)  L(40)  XL(42)

สอบถามและติดตามรายละเอียดได้ที่ Facebook Page : MBK Guarantee

อาร์เอส กรุ๊ป ส่งมอบสิ่งของช่วยชุมชน ร่วมฝ่าวิกฤตโควิด-19

เพื่อเป็นการพัฒนาและยกระดับคุณภาพชีวิตร่วมกันของคนในชุมชนอย่างต่อเนื่อง บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) หรือ อาร์เอส กรุ๊ป นำโดย คุณวิทวัส เวชชบุษกร ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน และ ดร.ชาคริต พิชญางกูร หัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหารธุรกิจไลฟ์สตาร์ บริษัทในเครือ อาร์เอส กรุ๊ป ส่งมอบหน้ากากอนามัย เจลล้างมือ และยาสารสกัดฟ้าทะลายโจร ตราทองเอก ยาสามัญประจำบ้านแผนโบราณ ซึ่งผลิตโดย บริษัท ไลฟ์สตาร์ ด้วยนวัตกรรมใหม่ที่มีปริมาณสารสกัดฟ้าทะลายโจร 300 มิลลิกรัม เทียบเท่าฟ้าทะลายโจรชนิดบดผง 15,000 มิลลิกรัม รับประทานทานเพียงครั้งละ 1 เม็ด จำนวน 1,000 ชุด ให้แก่ คุณอาฤทธิ์ ศรีทอง ผู้อำนวยการเขตจตุจักร เพื่อนำไปแจกจ่ายให้กับคนในชุมชนที่ได้รับผลกระทบในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ต่อไป ณ สำนักงานเขตจตุจักร เมื่อเร็วๆ นี้

ผู้สนใจสามารถติดตามข่าวสาร และความเคลื่อนไหวต่างๆ ของ อาร์เอส กรุ๊ป ได้ที่ www.rs.co.th และ https://www.facebook.com/RSGROUPOFFICIAL