ช่วย เกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้ง ระบายผลผลิตมากกว่า 2,714 ตัน

ไม่มีใครคาดคิดว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 จะยาวนานและส่งผลกระทบยืดเยื้อจนถึงวันนี้

เช่นเดียวกับ หนึ่งในตัวแทนเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งอย่าง “นางจันปภัสร์ ตะถาวรวงศ์เจริญ” ผู้มีเครือข่ายเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้ง หรือลูกฟาร์มกว่า 40 ราย กระจายในพื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทรา ระยอง จันทบุรี ตราด สมุทรสาคร ประจวบคีรีขันธ์

“ในช่วงแรกๆ ที่เกิดโควิด-19 ยอมรับว่าได้รับผลกระทบมาก แต่พอโควิด-19 อยู่กับเรานานจนถึงวันนี้ ก็ได้แม็คโคร เป็นช่องทางในการระบายผลผลิตที่สำคัญและมั่นคง ช่วยเกษตรกรได้มาก”

กับดักสำคัญ ที่เกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งต้องเผชิญอย่างต่อเนื่องทุกปีก็คือ ปัญหาราคาตกต่ำ ที่เกิดจากหลายปัจจัยแตกต่างกัน แต่สำหรับปีนี้ ดูเหมือน “โควิด-19” จะสร้างผลกระทบซ้ำเติมหนักหน่วง

“ปัญหาราคาตกต่ำ นับได้ว่าเป็นปัญหาประจำที่พวกเราทุกคนต้องเผชิญอยู่แล้วทุกปี แต่พอมาเจอกับ สถานการณ์โควิด-19 เราต้องเจอกับปัญหาที่ใหญ่ขึ้น นั่นคือ จากเดิมที่มีช่องทางขายผ่านแม่ค้าในตลาดสด ตลาดนัด ช่องทางนี้ก็หายไป เพราะตลาดต้องปิดตัวลงเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดในหลายพื้นที่ ก็มีแม็คโคร นี่แหละ ที่เป็นช่องทางสำคัญในตอนนี้ และได้ระบายผลผลิตได้อย่างต่อเนื่อง”

“จันปภัสร์” บอกว่า เธอและลูกฟาร์มในเครือข่าย ส่งกุ้งขาวให้แม็คโครอย่างต่อเนื่องอยู่แล้ว และเมื่อมีโครงการช่วยเหลือเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งปี 2564 ที่แม็คโคร ร่วมกับกรมการค้าภายในกระทรวงพาณิชย์ เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรในช่วงโควิด-19 ทำให้มีช่องทางระบายผลผลิตที่สำคัญ ช่วยเกษตรกรที่เป็นลูกฟาร์มเครือข่ายให้มีรายได้เพิ่มขึ้น โดยส่งตรง กุ้งขาวหลายขนาด ทั้งเล็ก ใหญ่ จัมโบ้ หรือกุ้งขาวในรูปแบบตาข่าย ให้กับแม็คโครสาขาต่างๆ

ปัจจุบันแม็คโคร มีเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งรายย่อยส่งผลผลิต กุ้งขาว และกุ้งก้ามกราม กุ้งนาง ให้แม็คโครประมาณ 945 ราย จากหลายภูมิภาค ทั้งภาคใต้ ภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก ในจำนวนนี้มีหลายรายที่พัฒนามาจากการเป็นเกษตรกรรายย่อยที่ประสบปัญหาและเข้าร่วมโครงการเชื่อมโยงกับกรมการค้าภายใน จนกลายเป็นคู่ค้าสำคัญของแม็คโคร สร้างรายได้ที่มั่นคงและยั่งยืน

นางศิริพร เดชสิงห์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานการสื่อสารองค์กร บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนแก่เกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งขาว หลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้รับผลกระทบประสบปัญหามีช่องทางระบายผลผลิตได้น้อยลง แม็คโคร จึงร่วมกับ กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ ขับเคลื่อนโครงการช่วยเหลือเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งปี 2564 สอดคล้องไปกับพันธกิจสำคัญของแม็คโคร นั่นคือ ‘โครงการแม็คโครเคียงข้างเกษตรกรไทย สู้ภัยโควิด’ แม็คโครจึงเร่งเข้ารับซื้อตรงเพื่อแก้ปัญหาอย่างเร่งด่วน ทำให้เกษตรกรในหลายพื้นที่ได้ระบายผลผลิตมาอย่างต่อเนื่องจนถึงทุกวันนี้ เราช่วยรับซื้อกุ้งจากเกษตรกรไปแล้ว 2,714 ตัน”

“ในช่วงวิกฤตการณ์โควิด-19 เช่นนี้ ยังมีเกษตรกรอีกมากมายที่กำลังเดือดร้อน และต้องการความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน ความร่วมมือกับกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ ในหลายมิติ เพื่อเพิ่มช่องทางการจำหน่าย การส่งเสริมการขาย นับเป็นการรวมพลังของภาครัฐและเอกชนขับเคลื่อนการช่วยเหลือเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้ง และเกษตรกรในกลุ่มการผลิตอื่นๆ อย่างเร่งด่วนตามยุทธศาสตร์ ตลาดนำการผลิต อย่างแท้จริง” นางศิริพร กล่าว

แม็คโคร เพิ่มแผนพัฒนาโชห่วยกว่า 5 แสนราย ขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก

บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) เดินเกมรุก เพิ่มแผนพัฒนาโชห่วยกว่า 5 แสนราย ด้วยสารพัดตัวช่วย เพื่อพัฒนาให้เป็น “โชห่วยยุคใหม่” ทั้งตู้แช่ครัวชุมชน ตู้ขายกาแฟอัตโนมัติ มุมอาหารสัตว์ เพิ่มความถี่ยกทัพสินค้าราคาขายส่ง  เสริมรายได้ ลดต้นทุนเพื่อผู้ประกอบการ ชูจุดแข็งความเชี่ยวชาญจากศูนย์มิตรแท้โชห่วย พัฒนาร้านค้าเล็กๆ  ให้เติบโตอย่างครองใจคนในทุกชุมชน ฝ่าทุกวิกฤตไปด้วยกัน

นางศิริพร เดชสิงห์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานการสื่อสารองค์กร บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า  ตลอดระยะเวลา 32 ปีที่เปิดดำเนินธุรกิจในประเทศไทย แม็คโคร เดินหน้าเคียงข้างผู้ประกอบการรายย่อย หรือโชห่วยมาตลอด โดยทำหน้าที่เป็นคู่คิดทางธุรกิจและพี่เลี้ยง ให้ร้านค้าเล็กๆ ในชุมชนได้เกิดความเปลี่ยนแปลง พัฒนาไปตามยุคสมัย  และอยู่รอดได้ในทุกวิกฤต แม้ในยุคสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19  แม็คโครได้วางแผนเชิงรุกในการพัฒนาโชห่วยที่มีกว่า 5 แสนรายทั่วประเทศ ให้อยู่รอดและเติบโตได้ ซึ่งจะดำเนินการอย่างต่อเนื่องและเข้มข้นยิ่งขึ้น

“จุดเด่นของโชห่วย คือเป็นร้านของคนในชุมชน ที่ทุกคนคุ้นเคย เราจึงวางแผนพัฒนาร้านค้าเล็กๆ เหล่านี้ให้ครองความเป็น ‘มิตรแท้ชุมชน’ อย่างยั่งยืน ด้วยตัวช่วยที่เข้ามาตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนไป และยังเป็นการเสริมเพิ่มรายได้อย่าง ตู้ครัวชุมชนที่ขายอาหารแช่แข็ง ตู้กาแฟอัตโนมัติ ทำหน้าที่คาเฟ่ของชุมชน เครื่องซักผ้าหยอดเหรียญ การพัฒนามุมอาหารสัตว์ มุมสินค้าไอที เสริมบริการร้านเล็กให้ครบวงจร ซึ่งได้รับความสนใจจากโชห่วยมากเลยทีเดียว  เนื่องจากทำให้ยอดขายของร้านเขาเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด  ที่สำคัญทำให้เรารู้ว่า ร้านเล็กๆ ในชุมชนเขาก็อยากพัฒนาและเติบโต หลายร้านมีความสนใจนำเทคโนโลยีอย่างเครื่อง POS มาใช้จัดการ และสร้างเครือข่ายการขายและรับสั่งสินค้าจากชุมชนผ่านเฟซบุ๊ก กลุ่มไลน์  ขณะนี้ โชห่วย จึงกลายเป็นร้านค้าเล็กๆ ที่ครบเครื่อง เป็นศูนย์กลางและที่พึ่งในการซื้อสินค้าของคนในชุมชนได้”

ไม่เพียงเท่านั้น แม็คโครยังเน้นย้ำนโยบายช่วยเหลือผู้ประกอบการรายย่อยอย่างต่อเนื่อง ผ่านแคมเปญด้านราคา การตลาด การจัดกิจกรรมเพื่อโชห่วยตลอดทั้งปี เพื่อให้ร้านค้าเล็กๆ ในชุมชนเข้าถึงสินค้าราคาขายส่ง สินค้าราคาดีทำกำไรได้ ผ่านแม็คโครทุกสาขาและแม็คโครคลิก นอกจากนี้ ยังมีผู้เชี่ยวชาญจาก “ศูนย์มิตรแท้โชห่วย” ช่วยเหลือให้คำปรึกษา เติมเต็มองค์ความรู้ด้านต่างๆ ผ่านการนำเทคโนโลยีมาใช้ในระบบการบริหารจัดการร้านค้า สร้างแพลตฟอร์มออนไลน์โชห่วย  แนะนำการให้บริการดิลิเวอรี่ และการปรับปรุงร้านให้มีความทันสมัย

“แม็คโคร เล็งเห็นความสำคัญของโชห่วย ร้านค้าเล็กๆ ที่อยู่คู่คนไทยมายาวนาน ด้วยการทำงานเคียงข้าง เป็นคู่คิดพัฒนาธุรกิจเล็กๆ เหล่านี้มาตลอด 32 ปี  ปัจจุบันแม้จะมีร้านค้าสมัยใหม่เข้ามามากเพียงใด แต่สัดส่วนยอดขายของร้านโชห่วยในเมืองไทยก็ยังคงครองส่วนแบ่งการตลาดสูงสุดราว 44.1% เปรียบเทียบกับร้านสะดวกซื้อที่ 31.8% และไฮเปอร์มาร์เก็ต 24.1% (ข้อมูลกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ปี 2562) และยังมีความสำคัญต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากของประเทศมาก  เราเชื่อว่า ถ้าโชห่วยพัฒนาต่อเนื่องและปรับตัวได้ ร้านเล็กๆ เหล่านี้จะเป็นศูนย์กลางการซื้อสินค้าของคนในชุมชน ที่เข้าถึงและเข้าใจลูกค้าในพื้นที่มากที่สุด” นางศิริพร กล่าว

“แม็คโคร” โชว์วิสัยทัศน์ครบรอบ 32 ปี เคียงข้างผู้ประกอบการไทยในทุกวิกฤต

บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) ฉลองครบรอบ 32 ปี ร่วมฝ่าวิกฤตโควิด-19 เดินหน้าช่วยเหลือผู้ประกอบการรายย่อย SME และ เกษตรกร ส่งต่อกำลังใจอย่างต่อเนื่อง ย้ำคู่คิดธุรกิจในทุกวิกฤต เน้นออกแบบกิจกรรมการตลาด  ต่อยอดผู้ประกอบรายย่อยพัฒนาและเป็นช่องทางกระจายผลผลิตจากเกษตรกรท้องถิ่น พร้อมเข้มมาตรการป้องกันขั้นสูงสุดในทุกช่องทาง ก้าวผ่านอุปสรรคใหญ่ไปด้วยกัน

นางศิริพร เดชสิงห์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานการสื่อสารองค์กร บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในปี 2564 ที่แม็คโคร ครบรอบ 32 ปีในการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย นับว่าเป็นปีแห่งความยากลำบากที่เกิดขึ้นท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจและการใช้ชีวิตของลูกค้าผู้ประกอบการ ร้านค้าปลีกรายย่อย ร้านอาหาร หรือแม้แต่คู่ค้าที่เป็นเกษตรกร และเอสเอ็มอี แม็คโครจึงตั้งเป้าหมายการดำเนินงานและจัดกิจกรรมต่างๆ เพื่อช่วยเหลือ สนับสนุน และส่งต่อกำลังใจ ให้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง สอดคล้องกับการใช้ชีวิตวิถีใหม่ โดยเน้นการออกแบบกิจกรรมการตลาดที่ช่วยให้ผู้ประกอบรายเล็กอยู่รอดได้ และเติบโตอย่างยั่งยืน มุ่งมั่นสรรหาสินค้าคุณภาพในราคาขายส่ง เพื่อลดค่าครองชีพให้กับประชาชน พร้อมเป็นกำลังใจให้ทุกคนก้าวผ่านวิกฤตที่เกิดขึ้นและก้าวต่อไปให้ได้

ช่วงปีที่ผ่านมา แม็คโครได้ดำเนินการโครงการต่างๆ มากมาย เพื่อสนับสนุนลูกค้าและชุมชน อาทิ

  • แม็คโคร ส่งมอบสิ่งของจำเป็นแก่การดำรงชีพ ให้แก่ผู้ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 รวมถึง สนับสนุนอุปกรณ์และสินค้าเพื่อการดูแลผู้ป่วย ให้แก่โรงพยาบาลสนาม และโรงพยาบาล ชุมชนที่ได้รับผลกระทบทั่วประเทศกว่า 250 แห่ง
  •    โครงการแม็คโครมิตรแท้โชห่วย ที่ดำเนินการต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 14  ซึ่งได้ช่วยพัฒนาร้านค้าปลีกรายย่อยไปแล้วเกือบ 70,000 ร้านค้า ในปีนี้เรายังสร้างโมเดล Smart Shohuay  ภายใต้คอนเซ็ปต์มิตรแท้ชุมชน ชี้แนะเทคนิคการดำเนินธุรกิจค้าปลีกรายเล็กให้อยู่รอดในทุกสถานการณ์ ผ่านการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่และการต่อยอด เพิ่มเติม บริการเสริม ให้ร้านโชห่วยดึงดูดลูกค้าเข้าร้านได้มากขึ้น
  • โครงการแม็คโครเคียงข้างเกษตรกรไทย สู้ภัยโควิด รับซื้อสินค้าเกษตรจากเกษตรกรรายย่อยที่ประสบปัญหาผลผลิตล้นตลาดอย่างต่อเนื่อง โดยมีเป้าหมายรับซื้อเพิ่มขึ้น 20% จากปีก่อนหน้า หรือประมาณ 204,000 ตัน ในปี 2564
  • โครงการเปิดพื้นที่ฟรีบริเวณหน้าสาขาให้ผู้ประกอบการร้านอาหารรายย่อยมีสถานที่นำอาหารกล่องมาขายและเปิดบริการฟู้ดดิลิเวอรี่ให้แก่ผู้บริโภคทั่วไป ที่แม็คโคร 83 สาขา โดยสามารถช่วยเหลือร้านอาหารรายย่อยได้กว่า 1,300 ร้านค้า พร้อมชูแม็คโครโฮเรก้า อคาเดมี (MHA) หน่วยงานที่ทำหน้าที่ให้คำปรึกษาและชี้แนะการบริหารจัดการร้านอาหาร เพื่อเพิ่มรายได้ในยามที่ธุรกิจร้านอาหารประสบปัญหาอย่างหนัก
  • เน้นย้ำการยกระดับมาตรฐานป้องกันการแพร่ระบาด โดยแม็คโครได้รับมาตรฐานสถานประกอบการปลอดภัย ป้องกันโควิด-19 ‘THAI STOP COVID Plus’ ของกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข และออกมาตรการเสริมจากแนวปฏิบัติหลักของภาครัฐอย่างต่อเนื่อง
  • ในด้านการดูแลสิ่งแวดล้อม แม็คโครประกาศเจตนารมณ์ตั้งเป้าเป็นองค์กรสีเขียว ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก จนเป็นองค์กรคาร์บอนสมดุลในปี 2573 ซึ่งเป้าหมายดังกล่าว จะดำเนินการผ่านโครงการต่างๆ อาทิ การติดตั้งแผงโซลาร์ผลิตไฟฟ้าบนหลังคาสาขา, ประกาศหยุดขายภาชนะโฟมบรรจุอาหารแบบใช้ครั้งเดียวทิ้งทุกสาขาทั่วประเทศภายในสิ้นปี 2564 และโครงการ “เปลี่ยนขวดเปล่าเป็นประโยชน์” เชิญชวนพนักงานและลูกค้าประชาชนเก็บขวดน้ำพลาสติกเปล่า เพื่อนำเข้าสู่กระบวนการ upcycle และผลิตเป็นเสื้อยูนิฟอร์มของพนักงาน และชุด PPE ส่งมอบให้บุคลากรทางการแพทย์

“แม็คโครเชื่อว่า ในการดำเนินธุรกิจ เราจะมองเรื่องการสร้างผลกำไรย่างเดียวไม่ได้ แต่จะต้องตอบโจทย์ของสังคมและช่วยให้ผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วนเติบโตไปด้วยกัน ตลอด 32 ปี ที่ผ่านมา เรายืนหยัดอยู่เคียงข้างผู้ประกอบการรายย่อย ทั้งร้านโชห่วย ร้านอาหาร คู่ค้าที่เป็นธุรกิจ SMEs เกษตรกรรายย่อย ตลอดจนเป็นแหล่งจำหน่ายอาหารปลอดภัย ที่ได้รับความไว้วางใจจากประชาชนและสังคมไทยมาตลอด 32 ปี นอกจากนี้เรายังมุ่งเน้นการปลูกจิตสำนึกในการพัฒนาสังคมให้กับพนักงานในทุกระดับ กว่า 20,000 คน เพื่อให้เป็นพลังขับเคลื่อนองค์กร สังคมและโลก ให้พร้อมก้าวไปด้วยกัน” นางศิริพร กล่าว

แม็คโคร ผนึก กรมการค้าภายใน ช่วยชาวสวนมังคุดกว่า 550 ตัน

บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) โดย นางศิริพร เดชสิงห์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานการสื่อสารองค์กร (ที่ 3 จากซ้าย)  ให้การต้อนรับนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ (ที่ 4 จากซ้าย)  และ กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ โดย นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน (ที่ จากซ้าย) ตรวจเยี่ยมการจำหน่ายมังคุดภายในสาขาของแม็คโคร เพื่อรณรงค์ช่วยเหลือชาวสวนมังคุดภาคใต้ที่กำลังประสบปัญหาผลผลิตล้นตลาด เพิ่มช่องทางระบายผลผลิตกระจายขายทุกสาขาทั่วประเทศ โดยรับซื้อไปแล้ว 350 ตัน คาดว่าตลอดฤดูกาลจะรับซื้อได้ประมาณ 550 ตัน ณ แม็คโคร สาขาสามเสน

แม็คโคร ส่งมอบอาหารจากครัวปันอิ่มแก่ผู้รับผลกระทบโควิด-19

บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน)  ผนึกมูลนิธิดวงประทีป และพันธมิตรจิตอาสา ภาคประชาสังคม ร่วมส่งมอบมื้ออาหารจากโครงการครัวปันอิ่ม  ให้ผู้ได้รับผลกระทบจากโควิด-19  รวมถึงต่อลมหายใจให้ผู้ประกอบร้านอาหารรายย่อย หลังสถานการณ์การแพร่ระบาดยังน่าห่วง

นางศิริพร เดชสิงห์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานการสื่อสารองค์กร บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน)  กล่าวว่า ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 เช่นนี้ มีหลายส่วนของสังคมที่มีความต้องการอาหารเพิ่มขึ้น เนื่องจากอยู่ในภาวะกักตัว  เป็นผู้รักษาตัวที่บ้าน (Home Isolation)  เป็นผู้ว่างงาน ผู้คนขาดรายได้ในการดำรงชีวิต แม็คโครจึงได้ร่วมกับ มูลนิธิดวงประทีป พันธมิตรจิตอาสา ภาคประชาคม ในพื้นที่ต่างๆ  ส่งมอบอาหารสู่ชุมชนที่กำลังเดือดร้อนทั่วกรุงเทพฯ และปริมณฑล ภายใต้โครงการ “ครัวปันอิ่ม ร้อยเรียงใจสู้ภัยโควิด-19”  ตลอดระยะเวลากว่า 2 เดือน

“ครั้งนี้นับเป็นการผนึกกำลังครั้งสำคัญของหลายภาคส่วนที่มีเป้าหมายเดียวกันคือ บรรเทาความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ในหลายมิติ ทั้งการมอบมื้ออาหาร ปันความอิ่มให้แก่ผู้ที่อยู่ในภาวะกักตัว  ผู้ว่างงานขาดรายได้ มีความยากลำบากในการซื้ออาหารรับประทานที่เพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ  และการสั่งอาหารกล่องเข้าร่วมโครงการจากผู้ประกอบการร้านอาหาร ที่กำลังประสบปัญหาอย่างหนัก เพื่อต่อลมหายใจให้ธุรกิจเล็กๆ ธุรกิจเอสเอ็มอี จำนวนไม่น้อยได้มีกำลังในการต่อสู้กับวิกฤตที่เกิดขึ้นไปด้วยกัน”

ด้าน นางประทีป อึ้งทรงธรรม ฮาตะ หรือ ‘ครูประทีป’ ผู้ก่อตั้งและเลขาธิการมูลนิธิดวงประทีป  หนึ่งในพันธมิตรสำคัญ กล่าวว่า ในช่วงสถานการณ์ที่บ้านเมืองวิกฤต ที่มีผู้ติดโควิดเป็นจำนวนมาก  ต้องมีผู้ถูกกักตัวอยู่ในบ้าน มีผู้รักษาตัวที่บ้านเพิ่มขึ้น  ทำให้เรารู้ว่า อาหารเป็นเรื่องสำคัญที่จะช่วยเหลือพวกเขาได้ ทุกวันนี้ในคลองเตยที่มีผู้อาศัยเป็นจำนวนมาก เรามีชุมชนอยู่ 45 ชุมชน ยังมีผู้คนหิวโหย ไม่มีงานทำ ไม่มีรายได้ หลายบ้านที่ติดโควิดก็ออกไปไหนไม่ได้ อยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก ดิฉันคิดว่า โครงการนี้จะช่วยพวกเขาได้มาก นอกจากนี้โครงการยังสนับสนุนร้านค้าที่หมดทางทำมาหากิน ช่วยให้ผู้ประกอบการร้านอาหารได้เข้าร่วม นับเป็นการกู้วิกฤตในขณะนี้ได้เป็นอย่างดี”

ทั้งนี้ โครงการครัวปันอิ่มร้อยเรียงใจสู้ภัยโควิด-19 เกิดขึ้นโดยการระดมสรรพกำลังของกลุ่มธุรกิจในเครือซีพีและพันธมิตรหลายภาคส่วน ช่วยเหลือและให้กำลังใจประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน 40 ชุมชนในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ผ่านการส่งมอบอาหาร 2  ล้านกล่องตลอดระยะเวลา 2 เดือน

แม็คโคร รับซื้อตรงมังคุดช่วยเกษตรกรภาคใต้ มากกว่า 300 ตัน

บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) เร่งให้ความช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกมังคุดในภาคใต้ หลังได้รับผลกระทบจากโควิด-19  ประสบปัญหาผลผลิตล้น ร่วมมือ กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ ตั้งเป้ารับซื้อตลอดเดือนสิงหาคมมากกว่า 300 ตัน ช่วยชาวสวนกว่า 1,000 ราย  เสริมช่องทางส่งตรงสาขา คาดกระจายมังคุดใต้คุณภาพดีสู่ผู้บริโภคผ่านแม็คโครทุกสาขาทั่วประเทศ

นางศิริพร เดชสิงห์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานการสื่อสารองค์กร บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน)  กล่าวว่า  จากสถานการณ์เกษตรกรผู้ปลูกมังคุดภาคใต้ประสบปัญหาล้นตลาด เนื่องจากผลผลิตในปีนี้ออกสู่ตลาดในปริมาณมาก ประกอบกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 สร้างผลกระทบเป็นวงกว้าง แม็คโคร ตระหนักถึงความเดือดร้อนของเกษตรกร เร่งให้ความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน และยังบูรณาการความร่วมมือกับ กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ ในการบรรเทาความเดือดร้อน ด้วยการรับซื้อมังคุดคุณภาพดีจากภาคใต้มาอย่างต่อเนื่อง คาดว่าตลอดเดือนสิงหาคมนี้ จะช่วยชาวสวนระบายผลผลิตได้มากกว่า  300 ตัน

“ในครั้งนี้ เราช่วยกลุ่มเกษตรกรแปลงใหญ่  กลุ่มวิสาหกิจชุมชน เกือบ 20 กลุ่มในจังหวัดภาคใต้ ไม่ว่าจะเป็น จังหวัดนครศรีธรรมราช พัทลุง ชุมพร ระนอง นราธิวาส ซึ่งมีเกษตรกรรายย่อยเป็นสมาชิกรวมกันมากกว่า 1,000 ราย  คาดว่าจะรับซื้อมังคุดได้มากกว่า 300 ตัน ช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้กับชาวสวนที่เดือดร้อนได้อย่างทันท่วงที เพราะมังคุดเป็นผลไม้ฤดูกาลมีช่วงระยะเวลา โดยแม็คโครได้จัดโปรโมชั่นส่งเสริมการขายตลอดเดือนสิงหาคมเพื่อให้ลูกค้าทั่วประเทศได้ร่วมกันอุดหนุนผลผลิตของเกษตรกรที่กำลังเดือดร้อน ซึ่งในช่วงเดียวกันนี้ยังเป็นช่วงฉลองการครบรอบ 32 ปีของแม็คโครด้วย”

ทั้งนี้ แม็คโคร ดำเนินการรับซื้อผลผลิตมังคุด ภายใต้  ‘โครงการแม็คโครเคียงข้างเกษตรกรไทย สู้ภัยโควิด’  ที่บูรณาการความร่วมมือกับ กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ และภาคีอื่นๆ ในการแก้ปัญหา สินค้าเกษตรล้นตลาดอย่างรวดเร็ว สามารถช่วยเกษตรกรที่กำลังประสบปัญหาได้ทันท่วงที ที่ผ่านมาได้ช่วยระบายผลผลิตจากเกษตรกรทั่วประเทศที่ประสบปัญหาล้นตลาดไปแล้วมากมาย อาทิ มะม่วง, ฟักทอง, เผือก, หน่อไม้หวาน, พริกสด, สับปะรดปัตตาเวีย, สละอินโด, ปลานิล, กุ้ง ฯลฯ

นางศิริพร กล่าวอีกว่า  “ด้วยสถานการณ์แห่งความยากลำบากที่เกิดขึ้น แม็คโครพบว่า พี่น้องเกษตรกรรายย่อยประสบปัญหาเป็นจำนวนมาก อะไรที่สามารถช่วยได้ เราจะดำเนินการอย่างทันท่วงที  นอกจากนี้ยังกำหนดระยะเวลาการชำระสินค้า (Credit Term) ให้เร็วขึ้น เพื่อส่งเสริมสภาพคล่องให้พวกเขาได้เดินหน้าต่อ  ซึ่งปัจจุบันเรามีเกษตรกรรายย่อยที่เป็นคู่ค้ากับแม็คโคร มากกว่า 7,000 ราย และมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงวิกฤตการณ์โควิด-19  เกษตรกรรายย่อยเป็นอีกภาคส่วนหนึ่งที่แม็คโครให้ความสำคัญในการช่วยเหลือ พัฒนา เราจะเคียงข้างกับพวกเขาเพื่อต่อสู้วิกฤตนี้ไปด้วยกัน”

แม็คโคร ขยายเวลาเปิดพื้นที่ฟรี! ช่วยร้านอาหารรายย่อย

ยังคงทำหน้าที่เคียงข้างผู้ประกอบการร้านอาหารรายย่อย สู้วิกฤตโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง  ล่าสุด บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) ประกาศขยายเวลาเปิดพื้นที่ให้ผู้ประกอบการร้านอาหาร ขายอาหารกล่องและ   ฟู้ดดิลิเวอรี่ที่หน้าสาขาแม็คโครไปจนถึง สิ้นเดือน สิงหาคม  เพื่อสร้างรายได้ในช่วงแห่งความยากลำบาก หลังได้รับการตอบรับและช่วยเหลือผู้ประกอบรายย่อยได้เป็นอย่างมาก

สำหรับการเปิดพื้นที่เพื่อให้ร้านค้าขายอาหารกล่องและรับออเดอร์ดิลิเวอรี่หน้าสาขาของแม็คโคร ครั้งนี้นับเป็นรอบที่สอง หลังจากการล็อกดาวน์ครั้งแรกเมื่อปี 2563  และในช่วงการระบาดรอบใหม่นี้ แม็คโครได้เปิดพื้นที่ให้ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม ใน 83 สาขา (ในจังหวัดที่ภาครัฐยังอนุญาตให้เปิดได้) ให้ร้านอาหารรายย่อยหมุนเวียนมาใช้พื้นที่ขายอาหารแก่ลูกค้าทั่วไป ทั้งนี้การเปิดพื้นที่ดังกล่าวอยู่ภายใต้มาตรการป้องกันความปลอดภัยจากโควิด-19 ขั้นสูงสุด อาทิ มาตรการรักษาระยะห่าง (Social distancing)  ให้แต่ละบูทห่างกันอย่างน้อย 2 เมตร รวมถึงผู้ขายประจำบูทจะต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันของแม็คโคร อย่างเคร่งครัด ทั้งนี้ ผู้ประกอบการที่สนใจ สามารถคลิกเพื่อติดต่อเข้าร่วมโครงการได้ที่ : https://bit.ly/3jkhuHH  ส่วนการเปิดอบรมคอร์สออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ www.makrohorecaacademy.com หรือ MHA จะมีผู้เชี่ยวชาญในการให้คำปรึกษาสอนทำอาหารกล่องดิลิเวอรี่ และเทคนิคการปรับตัวสู้กับทุกวิกฤตโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย

แม็คโคร ชวนผู้บริโภคท่องแดนกีวีผ่านวัตถุดิบคุณภาพ

บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) ร่วมกับ สำนักงานพาณิชย์ สถานทูตนิวซีแลนด์ ประจำประเทศไทย ชวนผู้บริโภค พบเทศกาล Discover A Taste of New Zealand สร้างสรรค์ด้วยใจ สดใหม่จากนิวซีแลนด์” ที่แม็คโครทุกสาขา ขนวัตถุดิบคุณภาพ ตอบโจทย์พฤติกรรมทำอาหารกินเองที่บ้าน เน้นปลอดภัยดีต่อสุขภาพ ตั้งแต่วันนี้ – 10 สิงหาคมนี้

นางซันนี่ ซิดิค ผู้บริหารสูงสุด สายงานบริหารสินค้า บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า หลังจากเกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19  ต้องยอมรับว่า พฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนไป โดยให้ความสำคัญกับการทำอาหารทานเองที่บ้านมากขึ้น  รวมถึงยังพิถีพิถันกับการคัดเลือกวัตถุดิบคุณภาพปลอดภัย ดีต่อสุขภาพ แม็คโคร ในฐานะผู้นำอาหารสด จึงร่วมกับ สำนักงานพาณิชย์ สถานทูตนิวซีแลนด์ จัดเทศกาล Discover A Taste of New Zealand สร้างสรรค์ด้วยใจ สดใหม่จากนิวซีแลนด์”  ขึ้น เพื่อนำเสนอทางเลือกของสินค้าราคาคุ้มค่า ซึ่งนิวซีแลนด์ถือเป็นแหล่งผลิตอาหารปลอดภัยที่ได้รับความนิยมจากลูกค้าและผู้ประกอบการร้านอาหารของแม็คโครอย่างต่อเนื่อง

“ที่ผ่านมา วัตถุดิบนำเข้าจากนิวซีแลนด์ ไม่ว่าจะเป็น แอปเปิ้ล กีวี่ ลูกพลับ หอยแมลงภู่ ปลาแซลมอน  ชีส เนย เนื้อแกะ เนื้อวัว ผักแช่แข็ง  ได้รับความนิยมจากผู้ประกอบการร้านอาหาร  และลูกค้าทั่วไปที่หันมาสร้างสรรค์เมนูอาหารพรีเมียมในราคาเอื้อมถึงได้ เราเชื่อว่า เทศกาลนี้จะช่วยตอบโจทย์ ทั้งกลุ่มที่ซื้อไปทำอาหารทานเองที่บ้าน และนำไปทำเมนูดิลิเวอรี่ขายสร้างรายได้  ซึ่งจะมีวัตถุดิบราคาคุ้มค่ามากกว่า 100 รายการให้เลือกมากมาย”

ด้าน นายไรอัน เฟรียร์ ทูตพาณิชย์นิวซีแลนด์ ประจำประเทศไทย กล่าวว่า ในปีที่ผ่านมา ประเทศไทย นำเข้าอาหารและเครื่องดื่มจากนิวซีแลนด์คิดเป็นมูลค่ากว่า 15,400 ล้านบาท หรือ 689 ล้านดอลลาร์นิวซีแลนด์ ซึ่งแม็คโครนับเป็นแหล่งจำหน่ายที่สำคัญ เพราะครอบคลุมผู้บริโภคหลากหลาย ทั้งกลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจร้านอาหาร โรงแรม และจัดเลี้ยง (HoReCa) และลูกค้าที่ใส่ใจในเรื่องสุขภาพที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยวัตถุดิบอาหารที่ได้รับความนิยม 3 อันดับแรก คือ ผลิตภัณฑ์นม เนย, ผลไม้สด (แอปเปิ้ล กีวี่ เชอร์รี่ อะโวคาโด) และ อาหารทะเล (หอยแมลงภู่ ปลาแซลมอน) เรามั่นใจว่าวัตถุดิบของนิวซีแลนด์ จะตอบโจทย์ความต้องการในเรื่องความปลอดภัย คุณภาพ  และความอร่อยได้อย่างแน่นอน

ทั้งนี้ นิวซีแลนด์ถือเป็นประเทศอันดับต้นๆ ของโลก ที่ส่งออกอาหารมากเกินกว่า 50% ของอาหารที่ผลิตในประเทศได้ทั้งหมด มีชื่อเสียงในด้านการเป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายอาหารที่มีคุณภาพและปลอดภัยให้แก่ผู้บริโภคทั่วโลก ด้วยการควบคุมมาตรฐานและกระบวนการผลิตทุกขั้นตอน ตั้งแต่การเพาะเลี้ยงจนกระทั่งถึงมือผู้บริโภคจนแน่ใจว่าปลอดภัยจากการปนเปื้อน

พบวัตถุดิบคุณภาพมากกว่า 100 รายการ อาทิ หอยแมลงภู่, เนื้อวัว, เนื้อแกะ, ชีส, เนย, แอปเปิ้ล, กีวี่, ลูกพลับ ในราคาโปรโมชั่นพิเศษ ตั้งแต่วันนี้ – 10 สิงหาคม ณ แม็คโคร ทุกสาขาทั่วประเทศ รวมทั้งช่องทาง แม็คโครคลิก และแม็คโคร แอปพลิเคชั่น

แม็คโคร ขนวัตถุดิบคุณภาพจากนิวซีแลนด์

บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) จัดเทศกาล Discover A Taste of New Zealand สร้างสรรค์ด้วยใจ สดใหม่จากนิวซีแลนด์ ขานรับนโยบายอยู่บ้านหยุดเชื้อเพื่อชาติและเอาใจลูกค้าช่วงเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศยังทำได้ยาก ขนทัพสินค้าจากนิวซีแลนด์ที่ได้รับความนิยมจากผู้ประกอบการร้านอาหารในการนำไปสร้างสรรค์เมนูดิลิเวอรี่สร้างรายได้ ลูกค้าทั่วไปที่หันมาทำอาหารรับประทานเองที่บ้านมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น หอยแมลงภู่, เนื้อวัว, เนื้อแกะ, ชีส, เนย รวมไปถึงผลไม้นำเข้าอย่าง แอปเปิ้ล, กีวี่, ลูกพลับ ฯลฯ ซึ่งล้วนแต่เป็นวัตถุดิบที่สร้างสรรค์ด้วยใจ และกำลังถูกกล่าวถึงในกลุ่มผู้หลงใหลการทำอาหาร โดยจัดโปรโมชั่นลดราคาสินค้ามากกว่า 100 รายการ ระหว่างวันที่ 14 กรกฎาคม -10 สิงหาคมนี้ ณ แม็คโคร ทุกสาขาทั่วประเทศ

โอกาสในวิกฤต ของโชห่วยไทย ร่วมฝ่าโควิด-19

หลังจาก แม็คโคร และกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ จับมือกันสนับสนุน สำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ (สทบ.) เดินหน้ามอบชุดสินค้าอุปโภคบริโภคภายใต้ โครงการ ซื้อง่าย ถูกใจ ใกล้ชุมชน ให้แก่ร้านค้าในสังกัดกองทุนหมู่บ้านอย่างต่อเนื่อง เสียงสะท้อนของ “โอกาสในวิกฤต” ก็ดังขึ้นจากร้านค้าเล็กๆ ในชุมชนหลายแห่ง

เช่นเดียวกับ “ร้านค้าประชารัฐ กองทุนหมู่บ้านชุมชนเมือง ชุมชนพรหมสัมฤทธิ์” ย่านดอนเมือง ที่มี “อดิเรก สังข์นุช” เป็นประธาน ร้านนี้เป็นหนึ่งใน 3,500 ร้านค้าในสังกัดกองทุนหมู่บ้าน ที่ได้รับชุดสินค้าอุปโภคบริโภค สินค้าขายดีสำหรับร้านโชห่วยฟรี 23 รายการไปต่อยอดให้ร้านค้าเล็กๆในชุมชนได้มีกำลังใจต่อสู้กับวิกฤตโควิด-19

“ร้านของเราเป็นร้านค้าเล็กๆ มีสมาชิกเป็นคนในชุมชน พอได้รับสินค้าจากโครงการมาต่อยอดในสถานการณ์เช่นนี้ ก็รู้สึกเลยว่า ยังมีโอกาส เข้ามาช่วยร้านค้าและสมาชิก ทำให้มีสินค้าหมุนเวียน มีรายได้เพิ่มขึ้นเพื่อต่อยอดรายได้ให้ร้านค้าดำเนินต่อไปได้

รายการสินค้าที่ได้รับจำนวน 23 รายการจะเป็น คัดเลือกมาจากการวิเคราะห์ฐานข้อมูลเชิงลึกของแม็คโครที่มีลูกค้าโชห่วยเป็นสมาชิกมากกว่า 500,000 ราย  อาทิ นม กาแฟสำเร็จรูป นมถั่วเหลืองกล่อง ขนมขบเคี้ยว แชมพู สบู่ ผ้าอนามัย

นับเป็นโอกาสที่เกิดขึ้นในช่วงวิกฤตที่โชห่วยรูปแบบร้านค้ากองทุนได้รับ ซึ่ง “อดิเรก” มองว่าในช่วงโควิด ต้องประคับประคองร้านให้อยู่รอดปลอดภัยให้ได้ โชคดีที่ร้านของเขาเป็นร้านค้าประชารัฐ รับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ รับคนละครึ่งและเป็นร้านค้าในชุมชน เมื่ออาศัยหลักพึ่งพาอาศัยกัน มีความเชื่อใจกันและกันก็ทำให้พออยู่ได้

ผู้คนตอนนี้เน้นใช้ชีวิตอยู่บ้าน ไม่อยากเดินทางไปไหน เวลาจะซื้อของใช้จำเป็นก็หันมาซื้อร้านใกล้บ้าน โชห่วย ร้านค้าชุมชนอย่างเราแทน มุมหนึ่งผมมองว่า เป็นโอกาสที่เกิดขึ้น แต่เราเองก็ต้องปรับตัว เพราะร้านค้ารายย่อยมีเยอะ เราก็ต้องสร้างความมั่นใจในความปลอดภัยเรื่องโควิด-19 ให้ลูกค้า ก็ต้องมีมาตรการในการป้องกันให้เห็น อย่างร้านเราใช้วีธีลดการสัมผัส เวลาลูกค้ามาซื้อของ ก็ให้เรียกว่าจะเอาอะไร แล้วเราก็ไปหยิบให้”

“โครงการซื้อง่าย ถูกใจ ใกล้ชุมชน” เป็นโครงการที่ แม็คโคร ผนึกกำลังกรมพัฒนาธุรกิจการค้า และสำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ (สทบ.) จัดขึ้น โดย แม็คโคร ได้จัดชุดสินค้าอุปโภค-บริโภคที่จำเป็นต่อการดำรงชีพ จำนวน 23 รายการ รวมมูลค่ากว่า 3.7 ล้านบาท  สมทบให้ฟรี กับร้านค้ากองทุนหมู่บ้าน 3,500แห่ง เพื่อเป็นแหล่งกระจายสินค้าราคาประหยัดสู่ท้องถิ่น ช่วยลดค่าครองชีพให้แก่ประชาชน ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19

“หัวใจสำคัญของร้านโชห่วยก็คือ ต้องมีแหล่งซื้อสินค้าราคาถูก สามารถนำไปต่อยอดได้ ซึ่งโครงการนี้เข้ามาช่วยทำให้เราเดินหน้าต่อได้  ขณะที่แม็คโครก็เป็นแหล่งซื้อสินค้าราคาขายส่งที่ตอบโจทย์ร้านค้าอย่างเราได้มาก” อดิเรก กล่าว

สำหรับร้านค้ากองทุนหมู่บ้านฯ ที่มีความสนใจเข้าร่วมโครงการ “ซื้อง่าย ถูกใจ ใกล้ชุมชน” สามารถตรวจสอบสิทธิ์ได้ที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้า โทร. 02-547-5986 ในเวลาราชการ หรือติดต่อสำนักงานกองทุนหมู่บ้าน ฯ ในพื้นที่ของท่าน และสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่แม็คโครทุกสาขา  

ไม่เพียงเท่านั้น ในทุกเดือน แม็คโครจะจัด มหกรรมสินค้าลดแรงเพื่อผู้ประกอบการ เพื่อสนับสนุนร้านค้ารายย่อยอย่างโชห่วย อย่างต่อเนื่องยาวไปถึงสิ้นปี  ล่าสุดจัดงานวันที่ 14-18กรกฎาคม ณ แม็คโครทุกสาขาทั่วประเทศ พร้อมกันนั้นยังเปิดโอกาสให้โชห่วยที่สนใจปรับปรุงร้านค้า เรียนรู้ระบบการจัดการร้านให้ก้าวทันยุคสมัย หรืออยากมีอาชีพ เปิดร้านค้าเล็ก ๆ สามารถรับคำปรึกษาได้ที่ “ศูนย์มิตรแท้โชห่วย” ในทุกช่องทาง อาทิ https://www.siammakro.co.th/mra.php  หรือ Line@makro-mra ทั้งนี้ก็เพื่อช่วยเหลือและส่งกำลังใจให้ธุรกิจฐานรากอย่างโชห่วยสู้โควิด-19ต่อไป