เคอรี่ โลจิสติคส์ คว้ารางวัลรับรองมาตรฐาน GMP Codex

นายสมคิด บุณยสรณ์สิริ ผู้ช่วยผู้จัดการทั่วไป บริษัท เคอรี่ โลจิสติคส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทได้รับใบรับรองมาตรฐานหลักเกณฑ์และวิธีการที่ดีในการผลิตอาหาร (Good Manufacturing Practice : GMP Codex) ซึ่งเป็นมาตรฐานสากลที่ได้รับการยอมรับทั่วโลก สำหรับการจัดเก็บและขนส่งอาหาร สินค้าสำเร็จรูป วัตถุดิบและบรรจุภัณฑ์  แบบห้องเย็นและอุณหภูมิห้อง จากบริษัท Lloyd’s Register หน่วยงานที่ให้การตรวจประเมินและให้การรับรอง

GMP เป็นหลักเกณฑ์และวิธีการที่ดีในการผลิตอาหาร จัดทำขึ้นโดยหน่วยงานมาตรฐานอาหารระหว่างประเทศหรือ โคเด็กซ์ (Codex) เพื่อความปลอดภัยของผู้บริโภค

การได้รับการรับรองมาตรฐาน GMP ในครั้งนี้ถือว่าสำคัญมาก ซึ่งช่วยยกระดับมาตรฐานการให้บริการให้เป็นมาตรฐานสากล ตามนโยบายของเคอรี่ฯ (GMP Policy) มุ่งมั่นที่จะให้บริการด้านโลจิสติกส์ ที่มีคุณภาพและได้มาตรฐาน ถูกต้องตามหลักเกณฑ์วิธีการที่ดีในการจัดเก็บและขนส่งผลิตภัณฑ์ สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ในทุกขั้นตอน ส่งมอบอาหารสะอาด คุณภาพปลอดภัยสู่ผู้บริโภค

ความสำเร็จเกิดขึ้นจากความร่วมมือที่ดีจากทุกฝ่าย ที่ร่วมแรงร่วมใจจัดทำและสร้างระบบจนผ่านการรับรอง โดยเริ่มจากระบบมาตรฐาน ISO9001 เมื่อปี 2005 ตามมาด้วย ISO45001, ISO14001, Halal และได้พัฒนาอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ และเพื่อเป็นการยืนยันเรื่องคุณภาพ จึงได้ดำเนินการขอการรับรองระบบ GMP ข้างต้น ซึ่งถือเป็นการยกระดับมาตรฐานการให้บริการขึ้นไปอีกระดับหนึ่ง

รางวัลดังกล่าว สะท้อนให้เห็นว่า การให้บริการของเคอรี่ฯ มีคุณภาพและมาตรฐานการจัดเก็บและการปฏิบัติงานที่ดี เพื่อความปลอดภัยของผู้บริโภคสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าที่จะเข้ามาใช้บริการคลังสินค้าและขนส่งสินค้า และเพื่อสร้างความยั่งยืนในอุตสาหกรรมอาหาร เครื่องดื่ม และอื่นๆ ตลอดห่วงโซ่

โดยปัจจุบัน เคอรี่ โลจิสติคส์ กำลังขยายธุรกิจคลังสินค้า เพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจด้านอาหาร สินค้าอุปโภคบริโภค ยา และเวชภัณฑ์ ยังคงมุ่งมั่นในการนำมาตรฐานสากลที่เกี่ยวข้องมาปฏิบัติ เพื่อตอบสนองความพึงพอใจ และคงไว้ซึ่งความเชื่อมั่นสูงสุดแก่ลูกค้า ตามกลยุทธ์ขององค์กรต่อไป

 

 

 

เคอรี่ รุกหนักธุรกิจบริหารคลังสินค้า-ปูพรมลูกค้าทุกอุตสาหกรรม

เคอรี่ โลจิสติคส์ วางยุทธศาสต์ในไทย รุกหนักธุรกิจการบริหารคลังสินค้า เจาะกลุ่มลูกค้าทุกอุตสาหกรรม ชูจุดแข็งให้บริการครบวงจร ทั้งคลังสินค้า ขนส่ง บริการเพิ่มมูลค่าสินค้า และวางแผนการตลาดon-line เพิ่มประสิทธิภาพ-ลดต้นทุน ด้านโลจิสติกส์ให้ลูกค้า “พงศ์ศิริ ศิริธร” แม่ทัพคนใหม่ ตั้งเป้า 3 ปี ขึ้นแท่นผู้นำให้บริการกลุ่มอุตสาหกรรมแห่งอนาคต S-Curve มั่นใจเครือข่ายครอบคลุมทั่วโลก

นายพงศ์ศิริ ศิริธร ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท เคอรี่ โลจิสติคส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า  บริษัทเป็นหนึ่งในกลุ่ม Kerry Logistics Network Limited หรือ KLN ซึ่งเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ธุรกิจขนส่งและโลจิสติกส์ ปัจจุบันจดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ที่ฮ่องกง  โดย KLN เป็นบริษัทแม่และเป็นผู้ก่อตั้งบริษัทเคอรี่ โลจิสติคส์ ฯ ที่เข้ามาทำธุรกิจในประเทศไทยเป็นกลุ่มแรกและเป็นหัวหอกสำคัญ ที่ให้บริการด้านบริหารคลังสินค้าแบบครบวงจร ก่อนจะขยายไปสู่กลุ่มธุรกิจด้านโลจิสติกส์อื่นๆ ทั่วประเทศ

ปัจจุบันบริษัทมีพื้นที่ให้บริการคลังสินค้ารวมกันมากกว่า 1 แสนตารางเมตร ครอบคลุม 3 พื้นที่สำคัญใน กรุงเทพฯ ชลบุรี และระยอง โดยมีสัดส่วนรายได้จากการบริการ 3 ส่วนสำคัญอันได้แก่ การบริหารคลังสินค้า, การขนส่งทุกรูปแบบ, และบริการอื่นๆเช่น การบริหารการบรรจุหีบห่อ, การจัดการด้านการตลาดออนไลน์ เป็นต้น จากประสบการณ์ ความชำนาญ ของทีมงานคนไทย 100% ที่เข้าใจถึงความต้องการลูกค้า สามารถยืดหยุ่นปรับเปลี่ยนรูปแบบการให้บริการได้ตามความต้องการของตลาดในเมืองไทย ภายใต้ระบบการทำงานที่เป็นมาตรฐานสากลทั้ง ISO9001, ISO45001, ISO14001, GMP, Halal etc. ส่งผลให้บริษัทได้รับความไว้วางใจจากลูกค้า offline และ online ครอบคลุมทุกกลุ่มธุรกิจ

โดยกลุ่มลูกค้าของบริษัทประกอบด้วย 1.สินค้าภาคอุตสาหกรรม 2.สินค้าสุขภาพและอุปกรณ์ทางการแพทย์ ที่กำลังมาแรงในยุคนี้ 3.สินค้าอาหารและเครื่องดื่ม 4.สินค้าแฟชั่นและไลฟ์สไตล์ เช่น เครื่องสำอางค์ และสินค้าแบนด์เนม เป็นต้น 5.สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ 6.สินค้าอุปโภคบริโภค และ 7. สินค้าอุตสาหกรรมยานยนต์

บริษัทฯ ตั้งเป้า 3 ปี ขึ้นแท่นผู้นำให้บริการโลจิสติกส์แบบครบวงจรในการบริหารคลังสินค้ากลุ่มอุตสาหกรรมแห่งอนาคต S-Curve ขยายสัดส่วนรายได้จากการบริหารคลังสินค้าให้มีอัตราการเติบโตแบบก้าวกระโดดและด้านการขนส่งทุกรูปแบบเท่าตัวภายในปี 2022”

นายพงศ์ศิริ กล่าวต่อว่า  บริษัทได้วางจุดยืนอย่างชัดเจนในเรื่อง “Global Network and Local Specialist” คือ เรามีความชำนาญในการให้บริการโลจิสติกส์แบบครบวงจรในประเทศไทย และด้วยเครือข่ายที่มีครอบคลุมทั่วโลก จะช่วยสนับสนุนและสร้างความแข็งแกร่งให้กับผู้ประกอบการของไทยในการเชื่อมโยงธุรกิจสู่เวทีระดับภูมิภาคเอเชีย หรือแม้แต่ระดับโลกได้

ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัทเคอรี่ โลจิสติคส์ (ประเทศไทย) กล่าวต่อว่า การเปลี่ยนไปของตลาดกับการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่จาก Disruption ในทุกทิศทุกทาง โดยเฉพาะจากสถานการณ์โควิด-19 ทำให้เกิด New Normal ของการดำเนินธุรกิจของลูกค้าที่ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป บริษัทจึงได้พัฒนานวัตกรรมและสรรหาเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาบริหารจัดการด้านคลังสินค้า, สต๊อกสินค้า และการขนส่ง ที่จะทำให้การบริการด้านโลจิสติกส์เป็นเรื่องง่าย รวดเร็ว พร้อมรับมือกับสถานการณ์ที่จะเปลี่ยนไปในอนาคต

การที่ลูกค้ามีพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจ ที่ช่วยบริหารจัดการด้านโลจิสติกส์ในยุค  Disruption เคอรี่ โลจิสติคส์ น่าจะเป็นคำตอบที่ดีที่สุดที่อยู่เคียงข้างลูกค้า ในการทำธุรกิจแบบยั่งยืน

ทั้งนี้ การได้รับมอบหมายให้เป็นแม่ทัพเพื่อบริหาร  เคอรี่ โลจิสติคส์ ประจำประเทศไทย ถือเป็นความท้าทาย และจากประสบการณ์ที่ทำงานด้านโลจิสติกส์กับบริษัทต่างชาติมาอย่างยาวนาน ผนวกกับความเชี่ยวชาญในการทำธุรกิจโลจิสติกส์ และความแข็งแกร่งของเครือข่ายกลุ่ม Kerry network รวมทั้งทีมงานมืออาชีพที่มีความรู้ ความสามารถ ทำให้มั่นใจว่า เคอรี่ โลจิสติคส์ฯมีความพร้อมที่จะให้บริการและสร้างความพึงพอใจให้ลูกค้าได้อย่างดีเยี่ยม