ชวนท่องเที่ยวเชิงศิลปะและวัฒนธรรม “ย่านเกาลูนตะวันตก”

เพื่อดึงดูดให้ผู้คนจากทั่วฮ่องกงได้ลองมาสัมผัสมุมมองใหม่ๆ ในการขับเคลื่อนการท่องเที่ยวระดับท้องถิ่นแบบเชิงลึกและกระตุ้นกิจกรรมทางเศรษฐกิจในพื้นที่ การท่องเที่ยวฮ่องกง (Hong Kong Tourism Board: HKTB) ได้ออกแคมเปญส่งเสริมการท่องเที่ยวใหญ่ เพื่อแนะนำ “ย่านน่าเที่ยวทั่วฮ่องกง” (Hong Kong Neighbourhoods) ให้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง จึงได้เปิดตัว ย่าน เกาลูนตะวันตก แหล่งมรดกที่เจิดจรัสไปด้วยศิลปะ วัฒนธรรม และวิถีชีวิตตามท้องถนนของผู้คนในเหยาหม่าเต่ย (Yau Ma Tei) และจอร์แดน (Jordan) ที่มีชีวิตชีวา รวมถึงยังเป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์ระดับโลกแห่งใหม่อีก 2 แห่ง ได้แก่ M+ และพิพิธภัณฑ์พระราชวังฮ่องกง ซึ่งตั้งอยู่ใน เขตวัฒนธรรมเกาลูนตะวันตก (West Kowloon Cultural District: WKCD) โดยมีแผนที่จะเปิดให้บริการในช่วงปลายปีนี้และต้นปีหน้าตามลำดับในฐานะจุดแลนด์มาร์กสำคัญ ที่พร้อมให้คุณเต็มที่ไปกับการท่องเที่ยวเชิงศิลปะและวัฒนธรรม

มีคำกล่าวว่า ศิลปะคือส่วนหนึ่งของชีวิตคนเรา การส่งเสริมย่านเกาลูนตะวันตกจึงเป็นเหมือนการสร้างสะพานเชื่อมระหว่างวิถีชีวิตในท้องถิ่นของชุมชนที่จอแจในเหยาหม่าเต่ยกับจอร์แดนเข้าด้วยกัน ทั้งสองพื้นที่ถือเป็นแหล่งรวมงานสถาปัตยกรรมทางประวัติศาสตร์มากมาย ไม่ว่าจะเป็นร้านค้าที่อยู่คู่เมืองมาอย่างยาวนาน และงานฝีมือแบบดั้งเดิม รวมถึงแรงดึงดูดใจทางศิลปะของเกาลูนตะวันตก ซึ่งผ่านการเจียระไนและการฟื้นฟูมาอย่างต่อเนื่อง พร้อมเปิดประสบการณ์ที่แปลกใหม่และน่าอัศจรรย์ให้กับทุกคนที่ได้มาเยือน

เส้นทางเดินเที่ยว สู่การค้นพบแหล่งมรดกที่ร่ำรวยวัฒนธรรม

เริ่มต้นจากแนวชายฝั่งที่สวยงามของเขตวัฒนธรรมเกาลูนตะวันตก กิจกรรมส่งเสริมย่าน “เกาลูนตะวันตก” ได้ครอบคลุมไปถึงเหยาหม่าเต่ยและถนนพิตต์ ทอดยาวไปตามถนนนาธานเพื่อมุ่งไปตามเส้นทางรอบถนนออสตินในจอร์แดน

เพื่อสะท้อนถึงลักษณะเฉพาะของแต่ละพื้นที่ การท่องเที่ยวฮ่องกงได้จัดทำทัวร์เดินชมโดยแบ่งเป็น 5 ธีมที่ต่างกัน เน้นเรื่องราวของมรดกและงานฝีมือ ศิลปะวัฒนธรรม และศิลปะการทำอาหาร เส้นทางนี้ครอบคลุมพื้นที่ตามตรอกซอกซอยที่ทั้งผู้มาเยือนและคนในพื้นที่เองอาจมองข้าม เช่น ร้านหนังสือที่ซ่อนอยู่ในวัดทินโหว ร้านอาหารทะเลที่พลิกโฉมเป็นโรงแรมศิลปะ และร้านเครื่องปรุงรสที่จำหน่ายอาหารตะวันตกผสมผสานกับเต้าหู้หมักแบบดั้งเดิม

เส้นทางดังกล่าวมีจุดแวะชมที่น่าสนใจมากกว่า 50 แห่ง ไม่ว่าจะเป็นร้านค้าหรือร้านอาหาร ที่สามารถเปิดดูได้ผ่านทางแผนที่ออนไลน์ (e-map) แบบอินเตอร์แอคทีฟที่หน้าเว็บไซต์แคมเปญของย่านเกาลูนตะวันตก อีกทั้งยังมีข้อเสนอพิเศษจากร้านค้าและร้านอาหารในบริเวณใกล้เคียงต่างๆ เพื่อเป็นการกระตุ้นการใช้จ่ายของผู้ที่มาเยือน

มุมถ่ายรูป พร้อมงานศิลปะจัดวางตระการตาสุดโด่งดังจาก “FriendsWithYou”

ศิลปะคือธีมหลักในของการท่องเที่ยวย่านเกาลูนตะวันตก นอกจากพิพิธภัณฑ์ M+ และพิพิธภัณฑ์พระราชวังฮ่องกงแล้ว การท่องเที่ยวฮ่องกงยังผนึกกำลังกับ “FriendsWithYou” คู่หูป๊อปอาร์ต อย่าง ซามูเอล บอร์กสัน (Samuel Borkson) จากฟลอริดา สหรัฐอเมริกา และอาร์ตูโร แซนโดวัล III (Arturo Sandoval III) จากคิวบา ในการนำผลงานศิลปะจัดวางขนาดมหึมาและคาแรคเตอร์ที่โด่งดังของป๊อปอาร์ตมาเฉิดฉายในย่านน่าเที่ยวของฮ่องกงย่านนี้ โดยงานศิลปะจัดวางนี้จะจัดขึ้นที่ Art Park ในเขตวัฒนธรรมเกาลูนตะวันตก ตั้งแต่วันที่ 23 กันยายน ถึง 14 ตุลาคม โดยเปิดให้เข้าชมฟรี พร้อมให้ผู้เยี่ยมชมได้เพลิดเพลินไปกับนิทรรศการศิลปะนานาชาติและสร้างความทรงจำผ่านภาพถ่าย

หลากหลายพื้นที่จะมีการประดับประดาในฐานะส่วนหนึ่งของการส่งเสริมการท่องเที่ยว อาทิ สะพานลอยและรถไฟใต้ดินที่วิ่งระหว่างเขตวัฒนธรรมเกาลูนตะวันตกกับจอร์แดนจะแปลงโฉมเป็น “ระเบียงงานศิลปะ” โดยจะมีการตกแต่งรอบๆ สถานี MTR เหยาหม่าเต่ยและจอร์แดน รวมถึงตามเสาไฟฟ้ามุ่งหน้าสู่พิพิธภัณฑ์ด้วยธงสีสันสดใสตามธีมที่มาพร้อมกับรหัส QR ซึ่งจะนำไปที่เว็บไซต์ของกิจกรรมให้ทุกคนได้ติดตาม ส่วนสำหรับผู้ที่ยังเดินทางมาไม่ได้นั้น การท่องเที่ยวฮ่องกงก็ได้จัดทำภาพยนตร์ส่งเสริมการท่องเที่ยว ซึ่งได้รับเกียรติจากบุคคลที่มีชื่อเสียงในย่านนี้ มาพาเราท่องไปตามท้องถนน และเปิดประสบการณ์การท่องเที่ยวฮ่องกงได้แม้อยู่ที่บ้าน

 ส่องไฮไลต์ “ย่านน่าเที่ยวทั่วฮ่องกง – เกาลูนตะวันตก

ไฮไลต์ที่ 1: 10 อันดับ “Art Like” จุดถ่ายรูปยอดนิยมประจำย่าน

ภาพถ่ายเหล่านี้ใช้เพื่อการตลาดและเพื่อเป็นไอเดียเท่านั้น โปรดสวมหน้ากากและปฏิบัติตามระเบียบและแนวปฏิบัติล่าสุดที่ออกโดยรัฐบาลฮ่องกงตลอดเวลาที่เยี่ยมชมสถานที่

 ไฮไลต์ที่ 2: เยือนถิ่นเหยาหม่าเต่ย ดื่มด่ำวิถีแห่งประเพณีที่เป็นอัตลักษณ์

ร้านค้าอายุกว่าร้อยปี สร้างสรรค์ผลงานอย่างชาญฉลาด

Liu Ma Kee ซึ่งตั้งอยู่ในเหยาหม่าเต่ยมานานกว่าศตวรรษ ยังคงรักษาศิลปะแบบดั้งเดิมของโรงโม่หินเพื่อรังสรรค์ผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลืองโดยใช้สูตรลับของครอบครัว Liu Ma Kee จำหน่ายเครื่องปรุงรสต่างๆ ที่ใช้กันทุกวันนี้ พร้อมเพิ่มกิมมิกผ่านการคิดค้น เครื่องปรุงเต้าหู้หมักรสกระเทียม ที่สามารถนำไปใช้ปรุงอาหารเมนูพาสต้าแบบตะวันตกและคาโบนาร่าที่ผสมผสานกับรสชาติคลาสสิกของเต้าหู้หมักได้อย่างลงตัว

ร้านอาหารทะเลแบบดั้งเดิม ที่พลิกโฉมเป็นโรงแรมศิลปะ

Tung Nam Lou Art Hotel ถูกขนานนามว่าเป็นโอเอซิสใจกลางเมือง โดยตั้งอยู่ติดกับสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินเหยาหม่าเต่ย และเปิดให้บริการในปี 2561 ก่อนหน้านี้เคยเป็นร้านอาหารทะเลที่อบอวลไปด้วยกลิ่นอายแบบดั้งเดิมมาก่อน จนกระทั่งกลายเป็นโรงแรมที่มีหอศิลป์และพื้นที่ส่วนกลาง ซึ่งตกแต่งออกมาให้ชวนหวนนึกถึงอดีต นอกจากนี้โรงแรมแห่งนี้ยังเป็นสถานที่จัดงานเวิร์คชอปและนิทรรศการตามธีมอีกด้วย

สมบัติที่ซ่อนอยู่ ในวัดทินโหว

มีการประกาศให้วัดทินโหว (Tin Hau Temple) ในเหยาหม่าเต่ย พร้อมด้วยอาคารที่อยู่ติดกันบนถนนเซี่ยงไฮ้ เป็นอนุสรณ์สถานในปี 2020 ห้องใต้หลังคาได้ผ่านการอัปเกรดและแปลงโฉมให้เป็น The School แห่งเหยาหม่าเต่ย ปัจจุบันห้องต่างๆ ได้เปลี่ยนเป็นร้านหนังสือแบบบริการตนเอง ซึ่งมีหนังสือและสินค้าทางวัฒนธรรมที่ผ่านการคัดสรรมาเป็นอย่างดี นอกจากนี้ ห้องต่างๆ แห่งนี้ยังเคยเป็นโรงเรียนเอกชนมาก่อน ก่อนที่จะได้เปลี่ยนเป็นพื้นที่ที่มีต้นไทรขนาดเล็กตั้งอยู่ตรงกลาง พร้อมจุดถ่ายภาพมากมาย เช่น รถเข็นก๋วยเตี๋ยวเพื่อจำลองบรรยากาศภายนอกวัดที่ยังคงอยู่ในความทรงจำ

ร้านแห่งประวัติศาสตร์ เจาะตลาดผู้บริโภครุ่นใหม่

โรงงานพัดลม Cheung Shing คือหนึ่งในผู้ผลิตพัดลมไม้จันทน์หอมเพียงไม่กี่รายในฮ่องกงที่ยังคงเปิดดำเนินการอยู่ อีกทั้งร้านนี้ยังเป็นผู้ผลิตเครื่องหอม โดยนายลอว์และภรรยาทายาทรุ่นที่สองกลับมาที่ฮ่องกงเพื่อรับช่วงต่อธุรกิจ และได้เล็งเห็นว่า ลูกค้าที่ใช้ชีวิตอยู่ในตัวเมืองมีความชื่นชอบในการใช้ธูปหอมกันมากขึ้น จึงได้เริ่มหันมาจำหน่ายธูปไฟฟ้าและกระถางธูปเพื่อดึงดูดลูกค้ากลุ่มวัยรุ่น

นิทรรศการชั่วคราว: ศิลปะจัดวางขนาดใหญ่

การท่องเที่ยวฮ่องกงได้จับมือกับดูโอป๊อปอาร์ต “FriendsWithYou” อย่างซามูเอล บอร์กสัน จากฟลอริดา สหรัฐอเมริกา และอาร์ตูโร แซนโดวัล III จากคิวบาเพื่อนำผลงานศิลปะขนาดมหึมาและตัวละครป๊อปอาร์ตมาสู่ฮ่องกง โดยศิลปะการจัดวางนี้จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 23 กันยายนถึง 14 ตุลาคมที่ Art Park ในเขตวัฒนธรรมเกาลูนตะวันตก

ฮ่องกงเที่ยวฮ่องกงปากต่อปากจากระดับท้องถิ่น

นายเดน เฉิง ผู้อำนวยการบริหารการท่องเที่ยวฮ่องกง  กล่าวปิดท้ายว่า “การท่องเที่ยวเชิงประสบการณ์เป็นเทรนด์ที่กำลังได้รับความนิยม เราจึงตัดสินใจเปิดตัวกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวครั้งนี้ก่อนที่จะมีการเปิดพรมแดนอย่างเป็นทางการ เนื่องจากเราต้องการให้ผู้คนในท้องถิ่นได้ลองสัมผัสประสบการณ์ต่างๆ ก่อนเป็นกลุ่มแรก พร้อมพาพวกเขาไปค้นพบอัญมณีอันล้ำค่าที่ซ่อนอยู่ในชุมชนของพวกเขาเอง นอกจากนี้ยังเป็นการบ่มเพาะให้พวกเขารู้สึกภูมิใจและซาบซึ้งไปกับวัฒนธรรมที่มีอยู่ และเนรมิตบรรยากาศสุนทรีย์ของชีวิตและศิลปะที่ผสานกันอย่างแยกไม่ออกให้ย่านน่าเที่ยวแห่งนี้

เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ชาวฮ่องกงจะร่วมถ่ายทอดประสบการณ์เช่นนี้กับเพื่อนๆ และครอบครัวที่ไม่ได้อาศัยอยู่ในฮ่องกง เพื่อเปิดโอกาสให้โลกได้ยลโฉมการท่องเที่ยวทางศิลปะ และปลุกความสนใจนักเดินทาง สร้างแรงผลักดันให้ฮ่องกงเป็นจุดหมายปลายทางที่ต้องมาเยือน เรายังสนับสนุนให้ผู้ประกอบการด้านการนำเที่ยว จัดทัวร์ท่องเที่ยวเชิงลึกสำหรับชาวฮ่องกงเพื่อช่วยให้ทุกคนสามารถวางแผนล่วงหน้า เพื่อรองรับการกลับมาของนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศทันทีเมื่อมีการผ่อนคลายการจำกัดการเดินทางระหว่างพรมแดน”

 สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับแคมเปญ “Hong Kong Neighborhoods – West Kowloon” โปรดติดตาม ได้ที่ www.discoverhongkong.com/westkowloon-en

มนต์เสน่ห์มัดใจ : วัฒนธรรมเหนือกาลเวลาของ ‘ฮ่องกง’

ฮ่องกง ถือเป็นเมืองแห่งเอกลักษณ์ที่ผสานรวมความทันสมัยเข้ากับประเพณีอันล้ำค่า แม้เมืองแห่งนี้จะมีความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยี การเงิน และความพร้อมสรรพด้านสิ่งอำนวยความสะดวกและการบริการด้านสุขภาพที่ไม่เคยตกยุค แต่ฮ่องกงก็ยังรักษาเสน่ห์ของสิ่งเล็กๆ อย่างอาหาร งานฝีมือ และวัฒนธรรมไว้ได้อย่างเต็มเปี่ยม ไม่ว่าคุณจะเป็นคนฮ่องกงแท้ๆ แต่ดั้งเดิม นักท่องเที่ยว หรือชาวต่างชาติที่ลงหลักปักฐานอยู่ในเมืองแห่งนี้ คุณก็ย่อมมีสิ่งที่เรียกได้ว่าเป็นประเพณีโดยแท้ของฮ่องกงติดตราตรึงใจอยู่แน่นอน

ลินด์เซย์ วาร์ตี นักเขียน นักข่าว และนักรักบี้

ร้านรวง เข่งไม้ไผ่ และไพ่นกกระจอก

ลินด์เซย์ วาร์ตี (Lindsay Varty) เป็นนักเขียน นักข่าว และนักรักบี้ แม้จะเป็นลูกครึ่งมาเก๊า-อังกฤษโดยกำเนิด แต่ก็สามารถพูดได้เต็มปากว่าเธอมีความเป็นชาวฮ่องกงอยู่เต็มหัวใจ และได้ฝากผลงานการเขียนไว้กับหนังสือชื่อ “Sunset Survivors” ที่บอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับการค้าและเหล่าช่างฝีมือของฮ่องกง สำหรับเธอแล้วสิ่งที่จะทำให้เราได้ดื่มด่ำกับรสชาติที่แท้จริงของฮ่องกงก็คือการได้ไปเยือน ถนนต่ายผ่ายตอง (Dai Pai Dong) “ร้านอาหารอันเป็นเอกลักษณ์เหล่านี้มักจะตั้งอยู่ตามตรอกซอกซอยและลานโล่ง โดยกางกันสาดคลุมด้านบน ตั้งโต๊ะเก้าอี้กันง่ายๆ ใต้กันสาด และเสิร์ฟอาหารฮ่องกงสุดคลาสสิกทุกประเภท ตั้งแต่ขนมปังฝรั่งเศสไตล์ฮ่องกง ไปจนถึงน้ำซุปมะเขือเทศเคี่ยวสำหรับทานคู่กับมักกะโรนีที่อร่อยจนวางไม่ลง”

ลินด์เซย์ ซึ่งเป็นผู้ที่เคยเดินทางไปแล้วทั่วโลก เชื่อว่าอาหารและการตกแต่งที่เรียบง่ายนี้คือสิ่งที่ทำให้ร้านรวงในฮ่องกงมีความพิเศษและแตกต่างจากร้านอาหารที่คุณอาจพบตามที่ต่างๆ ทั่วโลก “ฉันขอแนะนำให้ทุกคนไปเที่ยวที่ต่ายผ่ายตอง! ถ้าได้ไปแล้ว ต้องอย่าพลาดร้านแซงเฮิ้งหยูน (Sing Heung Yuen) ในย่านเซ็นทรัล (Central) เพราะอาหารและการบริการที่นี่เรียกได้ว่าชั้นยอด แถมเจ้าของร้าน คุณไอรีน ลี (Irene Lee) ยังเป็นเพื่อนของฉันเองค่ะ!”

หลังจากที่ได้ใช้ชีวิตท่ามกลางอาหารเลิศรสและของอร่อยนับไม่ถ้วนในฮ่องกง ลินด์เซย์ยอมรับว่าเธอเป็นแฟนตัวยงของติ่มซำ (ใครบ้างล่ะที่จะไม่ชอบติ่มซำ?) ติ่มซำมักจะนึ่งในเข่งไม้ไผ่ ที่มักผลิตในประเทศจีน แต่ถ้าหากคุณอยากสัมผัสเข่งไม้ไผ่ในรูปแบบศิลปะท้องถิ่นที่หาไม่ได้จากที่ไหน ขอให้คุณได้แวะเวียนไปที่บริษัท Tuck Chong Sum Kee Bamboo Steamer ในไซ้เหย่งผู่น (Sai Ying Pun) เพราะนอกจากจะได้สิทธิพิเศษในการมองดูการสานเข่งของช่างฝีมือแบบใกล้ๆ ผ่านหน้าต่างบานเล็กๆ ของร้าน คุณจะอยากหิ้วเข่งไม้นี้ติดไม้ติดมือกลับบ้านไปด้วยซ้ำ! ลินด์เซย์เล่า                  “อาจารย์เรย์มอนด์ แลม บริหารธุรกิจครอบครัวนี้มานานกว่า 40 ปี! โดยเป็นเจ้าของธุรกิจรุ่นที่ 5 เขาทำงานทุกวันตั้งแต่เช้าจรดค่ำเพื่อผลิตเข่งไม้ไผ่ให้กับโรงแรม ร้านอาหาร ร้านค้า และครัวเรือนต่างๆ ทั่วฮ่องกง รวมถึงผู้ประกอบการในต่างประเทศ” ลินด์เซย์สังเกตว่า ผู้คนเริ่มมองว่าเข่งไม้เหล่านี้เป็นงานศิลป์ แทนที่จะนำไปใช้นึ่งติ่มซำแบบปกติ หลายคนจึงนำไปใช้เป็นเชิงเทียนบ้าง โคมไฟบ้าง ภาชนะเก็บของบ้าง หรือแม้แต่นำไปประดับผนัง

เธอยังกล่าวเสริมอีกด้วยว่า “เป็นเรื่องที่ดีมากที่ได้เห็นว่าผู้คนหันมาอนุรักษ์งานชิ้นนี้ด้วยการนำไปใช้ ไม่ว่าจะเพื่ออะไรก็ตาม เพราะมันเป็นการทำให้พวกเขาเห็นคุณค่าของความงามและความพิเศษของวัฒนธรรมฮ่องกง อย่างไรก็แล้วแต่ฉันคิดว่าผู้คนส่วนใหญ่ก็ยังคงจะนำไปใช้นึ่งอาหาร เพื่อสืบทอดมรดกทางวัฒนธรรมเช่นนี้ไม่ให้สูญไปค่ะ”

เมื่อพูดถึงการนำเครื่องจักรมาแทนที่งานฝีมือของมนุษย์แล้ว สิ่งที่เราจะไม่พูดถึงไม่ได้เลยก็คือการทำ ไพ่นกกระจอก การเล่นไพ่นกกระจอกเป็นที่นิยมมากในฮ่องกง หลายๆ คนมักจะเล่นกันทุกวันหยุดสุดสัปดาห์ แต่ทราบหรือไม่ว่า ในปัจจุบัน ไพ่นกกระจอกพลาสติกราคาถูกกำลังมาแทนที่ไพ่นกกระจอกทำด้วยมือแบบดั้งเดิม

“การวาดภาพมักใช้เวลาและต้องใช้ความพยายามสูง แถมไพ่นกกระจอกทำมืออาจมีราคาสูงถึงประมาณ 4,000 ดอลลาร์ฮ่องกง (ประมาณ 16,000 บาท) หนึ่งในนักวาดไพ่นกกระจอกแบบดั้งเดิมที่ยังมีชีวิตอยู่คือ อาจารย์ชวง ชุน คิง หรือ “คุณลุงคิง” ที่เรามักเรียกกัน เขาทำงานที่ Biu Kee Mahjong ในจอร์แดน ทุกๆ วันเขาจะแต่งแต้มชุดไพ่นกกระจอก บรรจงลงสีอย่างประณีต และแกะสลักไพ่แต่ละตัวด้วยตัวเองโดยใช้วิธีการแบบดั้งเดิมที่สืบทอดจากบรรพบุรุษของเขามาหลายชั่วอายุ สิ่งที่น่าสนใจก็คือ อาจารย์คิงไม่ทราบวิธีการเล่นไพ่นกกระจอกด้วยซ้ำ เขาบอกว่าเขาต้องอยู่กับไพ่พวกนี้ทั้งวัน ก็เลยไม่อยากจะต้องมานั่งจ้องมันอีกเวลาอยู่ที่บ้าน”

หากคุณสนใจการวาดลวดลายไพ่นกกระจอกแบบดั้งเดิม อย่าลืมมาร่วมเวิร์กชอปกันดูสักครั้ง เพราะศิลปะนี้กำลังค่อยๆ ฟื้นคืนกลับมา คุณสามารถติดต่อไปที่คุณลุงคิง หรือคาเรน อารูบา (Karen Aruba) ได้โดยตรง มาร่วมบ่มเพาะความสัมพันธ์ของคุณกับวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์อันยาวนานของฮ่องกงไปพร้อมกัน  ขนมกินเล่น กะปิ และเครื่องลายคราม 

คริสติน แคปปิโอ นักเขียนและนักวาดภาพประกอบชาวฝรั่งเศส

ในขณะที่ลินด์เซย์เติบโตในฮ่องกง คริสติน แคปปิโอ (Christine Cappio) นักเขียนและนักวาดภาพประกอบชาวฝรั่งเศสได้บินลัดฟ้ามาตามเสียงหัวใจ หนังสือของเธอ “Gweimui’s Hong Kong Story” บอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับการเดินทางของหญิงสาวชาวฝรั่งเศสที่ได้พบเห็นตลาดสดต่างๆ การตกแต่งสีสันสดใส และอาหารที่น่าทึ่ง และแม้ว่าเธอจะยืนกรานว่าไม่ใช่นักกิน (แต่เป็นนักออกแบบเครื่องเคลือบมืออาชีพ) แต่เธอก็ไม่สามารถห้ามใจที่จะไม่ตกหลุมรักไปกับประเพณีด้านอาหารมากมายในเมืองแห่งนี้ได้เลยสักครั้ง

“ฉันชอบเรียนรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมอาหารของฮ่องกงและการใช้วัตถุดิบที่หาได้ในท้องถิ่น อาหารจานพิเศษอย่างหนึ่งที่ฉันชอบทำมากเลยก็คือ ขนมเมีย (Wife Cake)

ตำนานเกี่ยวกับขนมชิ้นนี้เล่าว่า มีภรรยาที่ยอมขายตัวเองเป็นทาสเพื่อช่วยเหลือครอบครัวของเธอ ผู้เป็นสามีจึงเริ่มขายพายชิ้นเล็กๆ สอดไส้แตงโมหวานและอัลมอนด์ จนกระทั่งได้เงินมาพอที่จะนำไปไถ่ตัวของเธอคืน ลองคิดภาพตามกันดูว่า ขนมที่เบานุ่มเช่นนี้จะอร่อยขนาดไหน! ขนมอบดั้งเดิมสไตล์กวางตุ้งนี้สามารถหาซื้อได้ตามร้านเบเกอรี่ฮ่องกง แต่เราขอแนะนำให้คุณเก็บไว้ทานเป็นของว่างคู่กับน้ำชาร้อนๆ สักแก้ว

สิ่งที่คริสตินชอบอีกอย่างหนึ่งก็คือ “เมื่อสองสามปีก่อนฉันได้เรียนทำขนมแป้งนึ่งที่เรียกว่า Tea Cake ซึ่งเป็นหนึ่งในอาหารขึ้นชื่อของชาวฮากกา (หรือ “จีนแคะ”) พวกเขาตั้งรกรากอยู่ทางตอนใต้ของผืนแผ่นดินจีนมายาวนาน และเผยแผ่วัฒนธรรมอาหารมาถึงฮ่องกง อาหารชนิดนี้เป็นแป้งนึ่งชิ้นเล็กๆ ที่ทำจากแป้งข้าวเหนียว สอดไส้คาวหรือหวานแล้วนำไปนึ่งบนใบตอง โดยแต่ละชิ้นจะแต้มด้วยถั่วลิสงหรือถั่วแดงอยู่ด้านบน”

ขนมแป้งนึ่ง

ขนมแป้งนึ่ง มักจะมาในรูปแบบพร้อมทาน และจะเป็นที่นิยมกันในช่วงเทศกาลเช็งเม้ง หรือเทศกาลเก้าคู่ (Double Ninth) แม้ว่าขนมแป้งนึ่งของชาวจีนแคะจะไม่ได้เป็นที่นิยมทานกันทั่วไปเหมือนขนมเมีย แต่คุณก็สามารถหาซื้อได้ที่ร้านขนมหวานในไทโอ หรือโรงอาหารในตลาดไทโป

ฮ่องกง มักจะมีความเชื่อมโยงกับอาหารทะเลอยู่เสมอ และส่วนประกอบพื้นฐานในเมนูอาหารมากมาย นับตั้งแต่ข้าวผัดไปจนถึงผัดผักก็คือซอสกะปิรสโอชา แม้ว่าจะเคยเป็นที่นิยมในฮ่องกงอยู่ช่วงหนึ่ง แต่การทำซอสกะปิได้ค่อยๆ สูญไปหลังจากการลากอวนกลายเป็นสิ่งผิดกฎหมายในปี 2556 เนื่องจากทางการต้องการปกป้องทรัพยากรมีค่าทางทะเล ซอสกะปิจึงถือเป็นหนึ่งในมรดกทางวัฒนธรรมของฮ่องกงมาตั้งแต่ปี 2557

ณ วันนี้ ยังมีผู้ผลิตท้องถิ่นอีกสองสามรายที่ยังผลิตซอสจากกุ้งเคยที่จับได้จากในท้องถิ่นทั้งหมด และ Sing Lee Shrimp Sauce & Paste Manufacturer ซึ่งเป็นธุรกิจครอบครัวอันมีประวัติยาวนานกว่า 80 ปี ถือเป็นหนึ่งในนั้น โดยธุรกิจนี้ตั้งอยู่ในไทโอ  อดีตหมู่บ้านชาวประมงที่โด่งดังในเรื่องบ้านไม้ยกสูง หรือบางครั้งเราก็จะเรียกกันว่าลิตเติลเวนิสแห่งฮ่องกง

ไทโอ อดีตหมู่บ้านชาวประมงที่โด่งดังในเรื่องบ้านไม้ยกสูง

ถ้าคุณมีโอกาสได้เดินทางไปที่ไทโอในช่วงเดือนมิถุนายนถึงตุลาคม คุณก็จะได้เห็นถังสีน้ำเงินที่ปริ่มไปด้วยซอสกะปิเข้มข้น  รวมถึงถาดหวายขนาดใหญ่ที่บรรจุซอสข้นและก้อนสีชมพูตากแห้ง กลิ่นคาวปลานั้นช่างทรงพลังจนคุณจะรู้เลยล่ะว่าคุณมาถูกที่แล้วแน่!

หากคุณมาเที่ยวที่ ไทโอ อย่าลืมซื้อซอสกะปิ (ในโหลแก้ว) และเคย (เป็นก้อนห่อด้วยพลาสติกใส) ของร้าน Sing Lee และเจ้าอื่นๆ ไปฝากคนที่บ้านจากร้านขายของชำแบบดั้งเดิมที่ตั้งอยู่ในตัวเมือง

สำหรับนักออกแบบเครื่องเคลือบอย่างคริสติน ฮ่องกงนับว่าเป็นสถานที่ที่น่าอัศจรรย์ใจ พรั่งพร้อมด้วยเครื่องลายครามสวยสดจำนวนมากจัดเรียงรายอยู่ในร้านต่างๆ ทั่วเมือง

ฉันชอบ เครื่องลายครามฮ่องกง หรือที่เรียกว่ากวางโจวมากค่ะ ย้อนกลับไปก่อนยุค 60 ที่ฮ่องกงมีผู้ผลิตเครื่องลายครามเจ้าใหญ่อยู่ 4 เจ้า ที่ผลิตงานทำมือ แต่ตอนนี้ Yuet Tung China Works เป็นเจ้าเดียวที่เหลืออยู่

เครื่องเคลือบวาดมือ

Yuet Tung China Works ก่อตั้งขึ้นในฮ่องกงเมื่อปี 2471 โดยตระกูลโซที่อพยพมาจากกวางโจว วันนี้โรงงานได้ดำเนินการมาจนถึงผู้สืบทอดรุ่นที่สามนามว่า โจเซฟ โซ นับตั้งแต่ช่วงทศวรรษที่ 1960 เป็นต้นมา ลวดลายของเครื่องลายครามจะสร้างสรรค์ผ่านการพิมพ์โดยใช้ตรายางและการติดสติกเกอร์ทีละชิ้น (ไม่มีการวาดมืออีกแล้ว) โดย Yuet Tung ส่งมอบบริการประทับใจให้กับลูกค้ามากมาย ไม่ว่าจะเป็นสำนักวาติกัน ราชวงศ์ และข้าราชการในต่างประเทศ แถมยังผลิตสินค้าตามสั่งให้กับโรงแรม องค์กร และบุคคลที่มีชื่อเสียงจากทั่วทุกมุมโลกมาจนถึงทุกวันนี้

โจเซฟ โซ Yuet Tung China Works

คริสติน บอกเล่าเรื่องราวถึงเอกลักษณ์และชิ้นงานอันทรงคุณค่า ศิลปะกวางโจวเป็นงานฝีมือแบบดั้งเดิมและเป็นหนึ่งในมรดกทางวัฒนธรรมของฮ่องกง ภายในร้านจะอัดแน่นไปด้วยสินค้ามากมาย (ทั้งแบบกวางโจวและแบบโมเดิร์น) และถ้าหากคุณลองใช้เวลาในการค่อยๆพินิจสินค้าเหล่านี้ คุณจะต้องได้พบกับสิ่งที่โดนใจของคุณอย่างแน่นอนอย่างเช่น งานกวางโจววาดมือที่รังสรรค์โดยคุณปู่ของโจเซฟ โซ! แถมคุณยังสามารถลงมือทำของขวัญที่มีชิ้นเดียวในโลกได้ด้วยการออกแบบลายและสั่งพิมพ์พิเศษลงบนจานหรือเครื่องเคลือบอื่นๆ ซึ่งฉันชอบมากเลยล่ะค่ะ! อยากลองดูไหม? หลายๆ คนหันมาวาดภาพเครื่องเคลือบเป็นงานอดิเรก และตอนนี้คุณก็สามารถหากิจกรรมเวิร์กชอปแบบนี้ในฮ่องกงได้ง่ายๆ และหนึ่งในนั้นคือเวิร์กชอปสอนการวาดภาพลงบนเครื่องเคลือบตามสถานที่ต่างๆ ทั่วฮ่องกง (ทั้งเดี่ยวและกลุ่ม) โดยภรรยาของโจเซฟ โซ