อีอีซี เปิดโมเดลสร้างคนตรงความต้องการ มีงานทำ รายได้สูง

วันนี้ (3 ส.ค.2564) สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) หรือ อีอีซี ร่วมกับ หัวเว่ย อาเซียน อะคาเดมี (Huawei ASEAN Academy) และ ม.บูรพา จัดสัมมนาเชิงปฏิบัติการ (work shop) รูปแบบออนไลน์ หัวข้อ“Technology Seeker vs Competence Development Workshop” โดยมี ดร.คณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการ อีอีซี และ นายอาเบล เติ้ง (Mr. Abel Deng) ประธานกรรมการบริหาร บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมเปิดการสัมมนาฯ พร้อมคณะวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิในเทคโนโลยีดิจิทัล 5มาให้ความรู้ ซึ่งมีผู้เข้าร่วมสัมมนาจำนวนมาก อาทิ ผู้บริหารระดับสูงและผู้ประกอบการในพื้นที่อีอีซี กลุ่มเอสเอ็มอี และกลุ่มสตาร์ทอัพ ที่มีความสนใจต่อการนำนวัตกรรมดิจิทัล 5G เข้ามาผนวกกับการพัฒนาบุคลากร

การจัดสัมมนาฯครั้งนี้ จัดขึ้นตามแนวทาง อีอีซี โมเดล สร้างคนตรงความการ มีงานทำ รายได้สูง พร้อมขับเคลื่อนหลักสูตรนวัตกรรมที่มีต่อภาคอุตสาหกรรมในอีอีซี อีกทั้งมุ่งให้เกิดการเรียนรู้เทคโนโลยี 5G ระดับโลกของ หัวเว่ย ที่ได้พัฒนาระบบดิจิทัลในภาคอุตสาหกรรมให้มีประสิทธิภาพ และเพื่อรวบรวมองค์ความรู้และข้อมูล สำหรับสร้างหลักสูตรการฝึกอบรม ให้กับ นักศึกษาคนรุ่นใหม่ ผู้ที่มีความสามารถด้านเทคโนโลยี ICT ในพื้นที่อีอีซี  โดยในการสัมมนาฯ จะมีผู้เชี่ยวชาญจาก หัวเว่ย ร่วมถ่ายทอดความรู้ที่น่าสนใจ เช่น เทคโนโลยี 5G, ระบบการจัดเก็บข้อมูล Cloud, Big Data, และ IoT รวมทั้งการยกระดับเทคโนโลยีดิจิทัลเชื่อมโยงในภาคอุตสาหกรรม เป็นต้น นอกจากนี้ จะได้รวบรวมข้อเสนอแนะ และความต้องการในมิติต่างๆ จากผู้เข้าสัมมนาภาคอุตสาหกรรม ซึ่งถือเป็นข้อมูลสำคัญ ที่ Huawei ASEAN Academy จะได้นำไปปรับการจัดทำหลักสูตร เพื่อเตรียมความพร้อม และพัฒนาอุตสาหกรรมในพื้นที่อีอีซี สู่อุตสาหกรรม 4.0 ในอนาคต

ดร.คณิศ แสงสุพรรณ กล่าวถึงความร่วมมือระหว่าง อีอีซี หัวเว่ย และม.บูรพา ครั้งนี้ ว่า ในวันนี้ ถือเป็นก้าวแรกเพื่อร่วมกันขับเคลื่อน โครงการ Huawei ASEAN Academy (ThailandEEC Branch ที่จะสร้างโอกาสการพัฒนาทักษะบุคลากรด้านดิจิทัล ที่ไม่เพียงแค่ตอบโจทย์การสร้างงานให้ตรงความต้องการภาคอุตสาหกรรม แต่จะขยายผลไปสู่การสร้างความสำเร็จ เพื่อนำเทคโนโลยี 5G มาเสริมศักยภาพอุตสาหกรรม 4.0 เพิ่มผู้ใช้ 5G ในภาคการผลิต โดยอีอีซี ได้ตั้งเป้าหมายให้เกิดการใช้สูงถึง 8,000 โรงงานในพื้นที่ ซึ่งจะเป็นก้าวสำคัญผลักดันให้ประเทศไทย ก้าวสู่อุตสาหกรรม 4.0 อย่างยั่งยืน

อาเบล เติ้ง ประธานกรรมการบริหาร บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จำกัด

ด้าน นายอาเบล เติ้ง กล่าวว่า เป้าหมายของ Huawei ASEAN Academy จะพัฒนาทักษะบุคลากรด้านดิจิทัล 5G ให้ได้ 30,000 คน ภายในระยะเวลา ปี ซึ่งทาง หัวเว่ย พร้อมจะให้การสนับสนุนร่วมกับ อีอีซี และมหาวิทยาลัยบูรพา ในการสร้างความพร้อมอย่างรอบด้าน ทั้งด้านองค์ความรู้ หลักสูตรด้านดิจิทัล และทรัพยากรต่างๆ ซึ่งหัวเว่ย พร้อมจะร่วมผลักดัน ให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางด้านการพัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัลของภูมิภาค (Digital Hub of the ASEAN) รองรับการลงทุนในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูง เพิ่มความสามารถการแข่งขันทางธุรกิจ รวมทั้งการสร้างบุคลากรด้านดิจิทัล ที่หัวเว่ย จะให้การสนับสนุนและยินดีให้ความร่วมมืออย่างต่อเนื่อง

 

อีอีซี เดินหน้าฝึกอบรมสร้างทักษะบุคลากรเร่งด่วน

อีอีซี สร้างกำลังคนตรงความต้องการอุตสาหกรรมเป้าหมายครบทุกมิติ เดินหน้าฝึกอบรมสร้างทักษะบุคลากรเร่งด่วน ชะลอการว่างงานรับมือโควิด-19 มั่นใจร่วมเอกชนชั้นนำ ยกระดับทักษะด้วยนวัตกรรมใหม่คู่กับการขับเคลื่อนสิทธิประโยชน์ เพิ่มลงทุนพัฒนาบุคลากรต่อเนื่อง

นายคณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก เป็นประธานเปิดการประชุมคณะทำงานประสานงานด้านการพัฒนาบุคลากรในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC HDC) ครั้งที่ 2/2564 ผ่านระบบออนไลน์ โดยมี นายอภิชาต ทองอยู่ ประธานคณะทำงานฯ EEC HDC รองศาสตร์จารย์ชิต เหล่าวัฒนา รองประธานคณะทำงานฯ นายทรงศัก สายเชื้อ ที่ปรึกษาพิเศษ สกพอ. พร้อมด้วยคณะทำงาน EEC HDC เข้าร่วมประชุม

การประชุมคณะทำงานประสานงานด้านการพัฒนาบุคลากรในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC HDC) ครั้งที่ 2/2564 นายอภิชาต ทองอยู่ ประธานคณะทำงานฯ EEC HDC ได้รับทราบ และพิจารณาความก้าวหน้า การดำเนินงานพัฒนาทักษะบุคลากรในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ตามแนวทาง EEC Model ไตรมาส 2 ปี 2564 มีมิติการขับเคลื่อนพัฒนาบุคลากรในพื้นที่อีอีซี ที่สำคัญ ๆ ได้แก่

1)   มิติการฝึกอบรมระยะสั้น (EEC model Type B Short course) ที่ผ่านมาได้จัดอบรมแล้วกว่า 156 คน

โดยเน้นพัฒนาทักษะที่เป็นจำเป็น และปฏิบัติจริง อาทิ โครงการยกระดับทักษะพัฒนาบุคลากรเร่งด่วนรองรับอุตสาหกรรมเป้าหมาย โครงการฝึกอบรมเพื่อชะลอการว่างงานในภาคยานยนต์ พร้อมกันนี้ได้การเตรียมการฝึกอบรมไว้กว่า 3,852 คน คาดว่าหากสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย พร้อมดำเนินการฝึกอบรมได้ทันที

2)   มิติหลักสูตร ดำเนินการอนุมัติหลักสูตรแล้ว 112 หลักสูตร จากเป้าหมาย 200 หลักสูตรครอบคลุมอุตสาหกรรมเป้าหมาย รวมทั้งได้ขยายในการท่องเที่ยวชุมชน สำหรับกลุ่มรายได้ดี เพิ่มเติมอีก หลักสูตร

3)   มิติศูนย์เครือข่าย ปัจจุบันมีการจัดตั้งศูนย์เครือข่ายความร่วมมือที่สำคัญ 11 ศูนย์ เช่น ศูนย์เครือข่ายระบบราง เน้นความร่วมมือผ่านสถาบันการศึกษา อาทิ ม.บูรพา ม.เทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ ร่วมกับ รฟท. เตรียมการฝึกอบรมถ่ายทอดเทคโนโลยีในโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน ศูนย์เครือข่ายอุตสาหกรรมหุ่นยนต์ที่พัฒนาจาก EEC automation park ใน ม.บูรพา และร่วมกับ 10 บริษัทเอกชน เตรียมฝึกอบรมด้านนวัตกรรมหุ่นยนต์ทันที ที่สถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย

4)   มิตินวัตกรรม เตรียมจัดตั้งโรงเรียนในสถานประกอบการ ตามแนวคิด Univertory ตั้งเป้าหมายในระยะ ปี ผลิตบุคลากรปีละ 10,000 คน และยกระดับอุตสาหกรรม SMEs กว่า 3,000 แห่ง รวมทั้งโครงการสร้างอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าดัดแปลง (Converted EV Industry : CEV) ร่วมกับสถานศึกษา แห่ง และอู่รถยนต์ 80 แห่ง ตั้งเป้าหมายแปลงรถยนต์ไฟฟ้าได้ 5,000 คัน ภายในปี 2564

ทั้งนี้ ที่ประชุมฯ ได้พิจารณาความก้าวหน้าการพัฒนาบุคลากรร่วมกับหน่วยงานต่างประเทศ เพื่อยกระดับทักษะบุคลากรด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ โดยมีการจัดทำข้อตกลงความร่วมมือ MOU ที่สำคัญ เช่น หลักสูตร 5G ICT และ Digital ภายใต้ Huawai ASEAN Academy ดำเนินการอบรมทักษะบุคลากรด้านดิจิทัล 30,000 คนภายใน ปี ความร่วมมือ มิตซูบิชิ อิเล็คทริค ผลักดัน EEC Automation Park เน้นการนำเทคโนโลยีไปปรับใช้ เป้าหมาย 8,000 โรงงานในอีอีซี นอกจากนี้ยังอยู่ระหว่างเจรจากรอบความร่วมมือเพิ่มเติมกับบริษัทชั้นนำ เช่น เตรียม MOU ร่วมกับกลุ่มบริษัท Cisco – Mavenir – 5GCT PlanetComm ขยายผลการใช้ 5G ในพื้นที่บ้านฉาง การจัดทำหลักสูตรแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า ร่วมกับบริษัท Evlomo และหลักสูตรยานยนต์ไฟฟ้า ร่วมกับ Great Wall Motors เป็นต้น

นอกจากนี้ ที่ประชุม ฯ ยังได้พิจารณาสิทธิประโยชน์การลงทุนด้านการพัฒนาทักษะบุคลากร ตามที่คณะรัฐมนตรี (25 พ.ค.2564) ได้อนุมัติหลักการร่าง พ.ร.ฎ. และได้ขยายเวลามาตรการภาษี 2 ปี (ม.ค. 64 – 31 ธ.ค. 65) โดยสิทธิประโยชน์ที่สำคัญ ๆ อาทิ มาตรการรองรับการย้ายฐานการผลิตของนักลงทุนต่างชาติ ส่งเสริมการพัฒนาบุคลากรให้มีทักษะสูง สามารถหักรายจ่ายค่าฝึกอบรมได้ 2.5 เท่า มาตรการส่งเสริมบุคลากรสำหรับอุตสาหกรรม 4.0 การบริจาคสินทรัพย์ให้ศูนย์ส่งเสริมการพัฒนาบุคลากร สามารถหักรายจ่ายการบริจาคฯ ได้ เท่า