เปลี่ยนบ้านปรุเป็นบ้านปัง รีโนเวทบ้านไม่ยากอย่างที่คิด

บ้านที่ผ่านการใช้งานมาระยะเวลานาน ย่อมทรุดโทรมไปตามกาลเวลา โดยเฉพาะบ้านที่ห่างหายจากการดูแล ซ่อมแซม และตกแต่ง การทำความสะอาดอาจจะช่วยได้เพียงแค่บางส่วน หรืออาจจะมีการซ่อมแซมเพียงเล็กน้อยก็ทำให้กลับมาดูใหม่ได้ แต่บางจุดอาจต้องมีการรีโนเวท

มาดู 6 เช็คลิสต์ เปลี่ยนบ้านปรุเป็นบ้านปังสำหรับเจ้าของบ้าน ที่ยิปซัมตราช้าง นำมาฝากกันครับ

เริ่มจากโครงสร้างเป็นหัวใจหลัก  

ก่อนที่จะเริ่มซ่อมแซมหรือต่อเติมบ้าน สิ่งแรกที่ต้องตรวจสอบคือโครงสร้างของอาคารต้องใช้งานได้ดี ไม่ว่าจะเป็นเสาเข็ม ฐานราก เสา คาน พื้น เนื่องจากโครงสร้างเปรียบเสมือนโครงกระดูกของบ้านที่จะต้องพยุงและรองรับน้ำหนักของบ้าน โดยรับแรงสัมพันธ์กันเป็นระบบ หากรื้อโครงสร้างบางส่วนอาจส่งผลกระทบไปถึงโครงสร้างอาคารทั้งหลังได้ แนะนำให้ตรวจสอบสภาพและซ่อมแซมให้แข็งแรงเสียก่อน ที่สำคัญควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ เช่น วิศวกร สถาปนิกหรือช่างมืออาชีพเพื่อวางแผนในการซ่อมแซม

งานระบบต้องตรวจให้ถี่ถ้วน

สิ่งที่ต้องตรวจสอบไปพร้อม กับโครงสร้าง คือ งานระบบ ทั้งระบบไฟฟ้า และระบบประปา  เพื่อความปลอดภัยและสุขอนามัยในการใช้งาน โดยสามารถทดสอบระบบไฟฟ้าจากการทำงานของตู้ไฟหรือตู้เบรกเกอร์ ทดสอบปลั๊กไฟให้ครบทุกจุด ตรวจสายไฟในแต่ละจุดว่ามีการเชื่อมต่อที่ปลอดภัยอยู่ในลักษณะที่ใช้งานได้ดี ส่วนระบบประปา ควรทดสอบระบบน้ำดูว่ามีแรงดันปกติ น้ำไม่มีสีสนิมหรือกลิ่นไม่พึงประสงค์ ทดสอบการใช้งานของสุขภัณฑ์ภายในบ้านทั้งก๊อกน้ำ ฝักบัว และโถสุขภัณฑ์

คำนึงถึงน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นจากการซ่อมแซมบ้าน

ในการซ่อมแซมอาคาร บางคนอาจจะมองถึงการต่อเติมเพื่อเพิ่มประโยชน์ใช้สอยไปพร้อมกัน สิ่งที่ต้องระวัง คือ การเพิ่มน้ำหนักให้บ้านหรือตัวอาคาร เช่น การต่อเติมชั้นดาดฟ้า หรือการเปลี่ยนฟังก์ชันอาคารใหม่จากที่พักอาศัยมาเป็นสำนักงาน อย่าลืมเรื่องแรงรับน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นเพราะที่พักอาศัยจะออกแบบให้รับน้ำหนักบรรทุกจริงได้อย่างน้อย 150 กิโลกรัม / ตารางเมตร แต่สำนักงานต้องรับน้ำหนักบรรทุกจริงอย่างน้อย 250 กิโลกรัม / ตารางเมตร ดังนั้นการต่อเติมหรือซ่อมแซมผนังเบาช่น ผนังยิซัม จึงเป็นอีกทางเลือกที่นิยมกันอย่างมากในปัจจุบัน

รีโนเวทด้วยการกั้นห้อง เพิ่มพื้นที่ใช้สอย  

เชื่อหรือไม่ว่าการแบ่งพื้นที่ใช้สอยใหม่สามารถพลิกโฉมห้องเก่าเป็นห้องใหม่ได้อย่างง่ายดาย เพียงแค่จัดสัดส่วนพื้นที่ให้มีความหลากหลายมากขึ้น ยกตัวอย่างเช่น การกั้นห้องทำเป็นโฮมเธียเตอร์ในห้องนั่งเล่น หรือการจัดพื้นที่ทำงานส่วนตัว สอดรับกับยุคสถานการณ์ในการทำงานที่บ้าน หรือ Work from Home

การกั้นห้องในยุคปัจจุบัน นิยมเลือกใช้วัสดุที่เป็นผนังเบาแต่มีความแข็งแรงทนทาน ให้ความรู้สึกแน่นทึบ สามารถติดตั้งและรื้อถอนได้ง่ายโดยไม่ต้องวางบนแนวคาน เพื่อไม่กระทบกับงานโครงสร้างเดิมของอาคารหรือบ้านเก่า และยังสามารถกั้นเสียงระหว่างห้องได้ดี อย่างผนังโซลิดวอลล์ วี 2 รุ่นใหม่ จากยิปซัมตราช้าง นวัตกรรมผนังภายในเพื่อบ้านคุณ สวยแกร่ง แข็งแรงทนทาน และแน่นทึบ อีกทั้งยังกั้นเสียงระหว่างห้องได้ดี ช่วยสร้างพื้นที่ส่วนตัว นอกจากนี้ ผนังโซลิดวอลล์ วี 2 สามารถยึดแขวนของหนักได้ถึง 20 กก./จุด จึงมั่นใจว่าผนังจะไม่เสียหายจากการยึดของรองรับน้ำหนัก

สุดท้ายอย่าลืมคำนวณถึงงบประมาณในกระเป๋า ตั้งแต่ช่วงวางแผน การรีโนเวทบ้านและบอกเพื่อนบ้านข้างเคียงให้ทราบถึงการซ่อมแซมเพื่อลดผลกระทบและความขัดแย้งทั้งในเรื่องของเสียง ฝุ่น และอื่น ๆอีกด้วยครับ

 

ขอบคุณข้อมูลจาก ยิปซัมตราช้าง

แกะรอย ยิปซัมตราช้าง คว้าฉลากคาร์บอนฟุตพริ้นท์ผลิตภัณฑ์

ในปัจจุบันภาวะโลกร้อน และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ยังคงเป็นประเด็นที่ทั่วโลกให้ความสนใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคธุรกิจ จากรายงาน IPCC (Intergovernmental Panel on Climate Change) ชี้ให้เห็นว่าแหล่งปล่อยก๊าซเรือนกระจก มาจากภาคพลังงาน ร้อยละ 35 รองลงมาคือภาคอุตสาหกรรม คิดเป็นร้อยละ 18 รวมถึงภาคอาคารวัสดุก่อสร้างคิดเป็นร้อยละ 8

ยิปซัมตราช้าง ผู้นำด้านผลิตภัณฑ์แผ่นยิปซัม และนวัตกรรมระบบฝ้าเพดานและผนังยิปซัมในประเทศไทยตระหนักถึงความสำคัญของธุรกิจคาร์บอนต่ำ และพร้อมเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยภาคธุรกิจลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ด้วยการขึ้นทะเบียนฉลากคาร์บอนฟุตพริ้นท์ผลิตภัณฑ์ จากองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) หรือ อบก.

นายจรุง กาญจนภูมิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามอุตสาหกรรมยิปซัม (สระบุรี) จำกัด เผยเทรนด์การทำธุรกิจว่าตอนนี้โลกกำลังมุ่งสู่การเป็นสังคมคาร์บอนต่ำ ภาคธุรกิจก็เช่นเดียวกัน ที่ต้องมีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมเพิ่มมากขึ้น โดย ยิปซัมตราช้าง กำลังเดินหน้าเพื่อมุ่งสู่เป้าหมายการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ให้ต่ำที่สุดและต้องทำอย่างต่อเนื่อง

ปัจจุบันเราเป็นบริษัทผู้ผลิตแผ่นยิปซัมรายแรกในประเทศไทยที่ได้รับฉลากคาร์บอนฟุตพริ้นท์ผลิตภัณฑ์ ซึ่งมั่นใจได้ว่าตัวผลิตภัณฑ์ กระบวนการผลิต การใช้งาน ตลอดจนการกำจัดเศษซากจะส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยลง

แม้ปัจจุบันกฎหมายจะไม่ได้บังคับใช้ในเรื่องฉลากคาร์บอนฟุตพริ้นท์ แต่เราเข้าใจและตระหนักดีถึงความสำคัญและยังคงเดินหน้าสร้างโมเมนตัมผลักดันให้ภาคธุรกิจและภาคอุตสาหกรรมมีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน ขณะเดียวกันธุรกิจเองจะได้รับผลพลอยได้จากการดำเนินงานเรื่องนี้ในเชิงการสร้างมูลค่าเพิ่มให้ผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการรับรองแล้ว ได้แก่ แผ่นยิปซัมมาตรฐาน ตราช้าง พลัส ความหนา 9 มม. แผ่นยิปซัมทนชื้น ตราช้าง พลัส ความหนา 9 มม. และแผ่นยิปซัมทนไฟ ตราช้าง ความหนา 15 มม.

เราใส่ใจทุกกระบวนการตั้งแต่ต้นน้ำจนปลายน้ำ เริ่มตั้งแต่วัตถุดิบ ขั้นตอนการผลิตจากฐานผลิตหลักที่จังหวัดสระบุรี การกระจายสินค้า และการใช้ประโยชน์ ตลอดจนการกำจัดซากที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

นอกจากนี้ การเลือกใช้ฉลากคาร์บอนฟุตพริ้นท์ผลิตภัณฑ์ เป็นส่วนหนึ่งของเกณฑ์การประเมินอาคารที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ได้แก่ มาตรฐาน TREES (Thai’s Rating of Energy and Environmental Sustainability) โดยสถาบันอาคารเขียวไทย (TGBI) รวมถึงการประเมินมาตรฐานอาคารเขียว หรือ LEED (Leadership in Energy & Environmental Design) ซึ่งเป็นระบบการรับรองอาคารที่ยั่งยืนที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล ซึ่งถือเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้ภาคธุรกิจ

ด้าน นายยุทธศักดิ์ นฤชัยปราโมทย์ ผู้อำนวยการฝ่ายสถาปัตยกรรม บริษัท สยามอุตสาหกรรมยิปซัม (สระบุรี) จำกัด อธิบายถึงความสำคัญของ ฉลากคาร์บอนฟุตพริ้นท์ผลิตภัณฑ์ ที่ช่วยประเมินปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่ปล่อยออกมาจากกิจกรรมขององค์กร นำไปสู่การหาแนวทางในการลดก๊าซเรือนกระจก ตลอดจนยังสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย และลูกค้าด้วย

ประโยชน์สำหรับเจ้าของโครงการคือ การสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่โครงการนั้น ๆ และยังตอกย้ำความตั้งใจที่จะรับผิดชอบต่อสังคม ขณะที่ลูกค้าตรงของโครงการ หรือเจ้าของบ้าน จะมั่นใจได้ว่าเขาอยู่ในอาคารที่มีวัสดุก่อสร้างผ่านเกณฑ์มาตรฐานฉลากคาร์บอนฟุตพริ้นท์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม ในขณะที่กลุ่มนักออกแบบหรือสถาปนิก จะมั่นใจได้ว่างานที่ออกแบบมีการสเปกงานจากผลิตภัณฑ์เพื่ออุตสาหกรรมเชิงนิเวศ

นายยุทธศักดิ์ สรุปหลักง่าย ๆ ว่าการพิจารณามาจากการคิดค่าคาร์บอนฟุตพริ้นท์ของช่วงวัฏจักรชีวิตแต่ละผลิตภัณฑ์ ตั้งแต่การได้มาซึ่งวัตถุดิบ การผลิต การกระจายสินค้า การใช้ประโยชน์และการกำจัดซาก โดย ผลิตภัณฑ์ที่ผ่านเกณฑ์มี 3 รุ่น ได้แก่ แผ่นยิปซัมมาตรฐาน ตราช้าง พลัส ความหนา 9 มม. ได้ค่าคาร์บอนฟุตพริ้นท์ที่ 3.43 ในขณะที่แผ่นยิปซัมทนชื้น ตราช้าง พลัส ความหนา 9 มม. ได้ 3.35 และ แผ่นยิปซัมทนไฟ ตราช้าง ความหนา 15 มม. ได้ 7.98

นายจรุง ปิดท้ายว่า การขอฉลากคาร์บอนฟุตพริ้นท์ผลิตภัณฑ์ สอดคล้องกับนโยบายการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนของเราที่มีมายาวนานกว่า 10 ปี นอกจากนี้ ยิปซัมตราช้าง ได้รับรางวัลต่าง ๆ มากมายด้านสิ่งแวดล้อม เช่น รางวัลโรงงานอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ (Eco Factory) รวมถึงการดำเนินการเรื่องการประเมินวัฏจักรชีวิตของผลิตภัณฑ์ หรือ LCA (Life Cycle Assessment) ตลอดจนมาตรฐานสิ่งแวดล้อม EPD (Environmental Product Declaration) ที่เราได้ทำมาตลอด และยังมุ่งมั่นเดินหน้ายกระดับมาตรฐานอุตสาหกรรมวัสดุก่อสร้างไทยให้เติบโตเพื่อสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่ดูแลสิ่งแวดล้อมได้อย่างยั่งยืน

โปรฯ ช้างอย่างเท่ ฟรี! เสื้อสุดหล่อ 1 ตัว

ยืนหนึ่งความเท่กับ ยิปซัมตราช้าง ที่ชวนมาอวดความแมนรับหน้าฝน กับเสื้อสุดหล่อในแคมเปญ “โปรฯช้างอย่างเท่ ฟรี…เสื้อสุดหล่อ 1 ตัว” รับประกันความเฟี้ยว เพียงซื้อแผ่นยิปซัมตราช้าง ขนาด 1200X2400 มม. รุ่นมาตรฐาน หรือ รุ่นทนชื้น/ฟอยล์ จำนวน 26 แผ่น หรือ แผ่นฝ้าทีบาร์ เปเปอร์ทัชตราช้าง ขนาด 600X600 มม. จำนวน 20 กล่อง รับฟรี เสื้อสุดหล่อเอาไปใส่เท่ๆ 1 ตัว มีให้เลือกถึง 6 สี     6 แบบ รุ่นพิเศษผ้าทอท็อปดาย (Top-dyed) ได้แก่ เทาท็อป เขียวสมอ ฟ้าคราม เทาอากาศ เปลือกมังคุด และปูน เท่ยืนหนึ่งกันได้ตั้งแต่วันนี้ จนถึง 30 มิถุนายน 2564 หรือจนกว่าของแถมจะหมด

ผู้ที่สนใจโปรโมชันนี้ สอบถามได้ ณ ร้านยิปซัมเอ็กซ์เพรส ผู้แทนจำหน่ายเอสซีจี และร้านขายวัสดุก่อสร้างชั้นนำทั่วประเทศ หรือค้นหาข้อมูลการใช้งานเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ https://www.usgboral.com/th_th/ หรือเฟซบุ๊กแฟนเพจ: @GypsumTraChangTH

ทำความสะอาดสู้โควิด-19 ในบ้านแบบง่ายๆ

ในสถานการณ์โควิด อาจทำให้ใครหลาย ๆ คนอยู่บ้านและมีความกังวลเรื่องของสุขอนามัยความสะอาดภายในบ้าน เราขอแนะนำวิธียับยั้งเชื้อโรคที่แฝงตัวในที่พักอาศัย ด้วยกิจกรรม “บิ๊กคลีนนิ่ง” ที่สามารถทำได้ง่าย ๆ ด้วยเคล็ด (ไม่) ลับ ดังนี้

เริ่มต้นที่จุดสัมผัส อย่าชะล่าใจว่าบ้านเราจะปลอดภัย เพราะจุดสัมผัสร่วมที่หลาย ๆ คนต่างจับ เป็นสิ่งแรกเลยที่ต้องทำความสะอาด และดูแลกันอย่างต่อเนื่อง เริ่มกันด้วย

– ลูกบิดประตู กลอนประตู-หน้าต่าง บานจับหน้าต่าง สวิทช์ไฟ ราวบันได สำหรับจุดไหนก็ตามที่เป็นจุดจับสัมผัสแบบโลหะ ควรเช็ดด้วยแอลกอฮอล์ที่มีความเข้มข้น 70-90% แล้วทิ้งไว้ให้แห้ง อย่างน้อยวันละ 1 ครั้ง

– โต๊ะ เก้าอี้ เตียง ตู้ ให้ใช้น้ำยาฟอกผ้าขาวผสมกับน้ำยา 1 ส่วน ต่อน้ำ 49 ส่วน เช็ดหรือแช่ทิ้งไว้ 10 นาที จากนั้นเช็ดออกด้วยน้ำสะอาด

– ก๊อกน้ำ ใช้ผ้าชุบน้ำร้อน หรือน้ำสบู่ผสมน้ำยาฆ่าเชื้อเจือจางเล็กน้อย เช็ดทำความสะอาด ถ้าอยากเพิ่มความเงางามให้ขัดด้วยเบกกิ้งโซดาผสมน้ำมะนาว ก็เพิ่มความเงาและสะอาดไปพร้อม ๆ กัน

อย่าละเลยที่กั้นดักฝุ่น ผ้าม่าน มุ้งลวด มู่ลี่ ที่เราไว้กันฝุ่นอย่างดีให้บ้าน จนบางครั้งเราก็ลืมไปว่าเป็นแหล่งสะสมฝุ่นและเชื้อโรคชั้นดีเหมือนกัน แต่ในสถานการณ์แบบนี้แนะนำให้ถอดออกมาล้างทำความสะอาดเดือนละครั้ง โดยตัวของผ้าม่าน สามารถถอดซักโดยใช้ผงซักฟอกธรรมดา ที่ผสมน้ำยาฆ่าเชื้อโรค หรือซักด้วยน้ำร้อนที่อุณหภูมิ 60-90 องศาเซลเซียส

สำหรับมุ้งลวดสามารถถอดล้างด้วยน้ำสบู่แล้วใช้แปรงขัดออก ก่อนนำไปผึ่งให้แห้ง พร้อมใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดรางมุ้งลวดให้สะอาด ส่วนของมู่ลี่ ให้ใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์ชุบน้ำที่ผสมน้ำยาฆ่าเชื้อเจือจาง แล้วเช็ดทีละซี่ จากนั้นใช้ผ้าแห้งเช็ดซ้ำอีกรอบ เพื่อไม่ให้เกิดคราบน้ำ และตัวบานมู่ลี่จะไม่บวมน้ำอีกด้วย

ระวัง! จุดสะสมเชื้อโรค จุดสะสมเชื้อโรคหลักของบ้านก็คือ ถังขยะ นั่นเอง! รู้หรือไม่ว่า ถึงแม้เราจะนำขยะออกจากถังไปทิ้งทุกวัน แต่ก็ยังไม่สะอาดเพียงพอ เพราะแบคทีเรียและกลิ่นเหม็นยังตกค้างสะสมอยู่ในถังขยะได้ ดังนั้นเราควรใช้ถุงพลาสติกรองรับขยะและผูกปากถุง/ปิดฝาทุกครั้งเมื่อไม่ใช้งาน เพื่อป้องกันสัตว์เลี้ยงหรือหนู แมลงสาบมาตอมไต่เศษอาหารในถังขยะ และเมื่อนำถุงขยะไปทิ้งแล้วควรล้างทำความสะอาดถังขยะด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อเพื่อกำจัดเชื้อโรคและกลิ่นในถังขยะให้หมดไป

เปลี่ยนฝ้าลดเชื้อโรค สร้างอากาศบริสุทธิ์ สำหรับบ้านที่ห่วงเรื่องสุขอนามัยในเรื่องของระบบหายใจแล้วล่ะก็ การปรับเปลี่ยนแผ่นฝ้าในห้องที่ใช้งานหลัก ก็สามารถช่วยลดแบคทีเรียได้ ลองเลือกใช้ แผ่นฝ้าเคลือบสี คัลเลอร์ทัช ตราช้าง รุ่นไอออนคลีน ที่มีนวัตกรรม “ไอออน คลีน” ช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียในอากาศ ลดฝุ่น สลายสารมลพิษ และสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีต่อสุขภาพของผู้อาศัยและผู้ใช้งานทั้งภายในบ้านและอาคาร

นอกจากดูแลบ้านให้สะอาดปลอดเชื้อแล้ว สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ การดูแลความสะอาดและสุขอนามัยของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นการล้างมือบ่อย ๆ จัดให้ห้องมีอากาศถ่ายเทสะดวก รวมถึงการสวมหน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันการแพร่เชื้อสู่ผู้อื่น เพราะไม่เพียงแต่เราจะมีสุขภาพที่ดีแล้ว เรายังไม่เป็นพาหะนำเชื้อไปสู่ผู้อื่นอีกด้วย

ขอบคุณข้อมูลจาก ยิปซัมตราช้าง