ปตท.เปิดหน่วยคัดกรอง รพ.สนามครบวงจร 4 จุดหลัก

นายทศพร ศิริสัมพันธ์ ประธานกรรมการ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงการผนึกกำลังของกลุ่ม ปตท. ในงานพิธีเปิดหน่วยคัดกรองและโรงพยาบาลสนามครบวงจร (End-to-End) ของกลุ่ม ปตท. ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานว่า ปตท.และบริษัทในกลุ่ม มีเจตนารมณ์ในการช่วยเหลือประชาชน และพร้อมแบ่งเบาภาระของภาครัฐ จึงได้ร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข สถาบันป้องกันควบคุมโรคเขตเมือง (สปคม.) สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) และพันธมิตรทางการแพทย์ จัดตั้งหน่วยคัดกรองและโรงพยาบาลสนามครบวงจร (End-to-End) ภายใต้โครงการลมหายใจเดียวกันขึ้น นับเป็นครั้งแรกที่ภาคเอกชนร่วมมือกับภาครัฐในการดูแลรักษาผู้ป่วยโควิด-19 แบบครบวงจร หวังที่จะมีส่วนช่วยลดการเสียชีวิต บรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน และหยุดยั้งการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 โดยเร็วที่สุด มุ่งเน้น ตรวจเร็ว แยกเร็ว รักษาเร็ว สร้างความอุ่นใจให้แก่ประชาชน

โดยการดำเนินการประกอบด้วย 4 จุดหลัก ได้แก่ จุดที่ 1 หน่วยคัดกรอง โครงการลมหายใจเดียวกัน ณ อาคาร EnCo Terminal หรือ Enter ของบริษัท เอนเนอร์ยี่ คอมเพล็กซ์ จำกัด กลุ่ม ปตท. ถ.วิภาวดีรังสิต กรุงเทพฯ เพื่อใช้เป็นจุดคัดกรองสำหรับกลุ่มเสี่ยง โดยร่วมมือกับ สปคม. วางระบบดิจิทัลเพื่อลงทะเบียน และตรวจโดยใช้ชุดตรวจ Antigen test kit หากพบว่ามีการเสี่ยงติดเชื้อ จะนำส่งตรวจ RT-PCR ต่อไป สำหรับผู้ป่วยที่ตรวจพบเชื้อประเมินอยู่ในระดับสีเขียว สามารถดูแลตนเองเบื้องต้นที่บ้านหรือในชุมชน จะได้รับมอบกล่องพลังใจ คนไทยไม่ทิ้งกัน ที่ ปตท. จัดทำขึ้น ประกอบด้วยชุดอุปกรณ์การทางแพทย์ ยาฟาวิพิราเวียร์ ฯลฯ และมีระบบติดตามอาการด้วย

ส่วนจุดที่ 2 , 3 และ 4 จัดเตรียมเป็น โรงพยาบาลสนามครบวงจร โครงการลมหายใจเดียวกัน เพื่อรองรับการรักษาผู้ป่วยที่ตรวจพบเชื้อโควิด-19 ทุกระดับความรุนแรง ภายใต้การดูแลของบุคลากรทางการแพทย์จากโรงพยาบาลปิยะเวท อีกทั้งโรงพยาบาลสนามครบวงจรแห่งนี้ เป็นการระดมกำลังของกลุ่ม ปตท. ทั้งด้านนวัตกรรม เทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์ต่างๆ เพื่อแบ่งเบาภาระและบรรเทาปัญหาการขาดแคลนเตียงในพื้นที่กรุงเทพมหานคร โดยโรงพยาบาลสนามสำหรับผู้ป่วยระดับสีเขียว เปิดให้บริการในรูปแบบของ Hospitel กระจายอยู่ในหลายโรงแรมในกรุงเทพฯกว่า 1,000 เตียง รองรับผู้ป่วยที่ส่งต่อมาจากหน่วยคัดกรองอย่างเป็นระบบ / โรงพยาบาลสนามสำหรับผู้ป่วยระดับสีเหลือง เปิดให้บริการ ที่ โรงแรมเดอะบาซาร์ กรุงเทพฯ จำนวน 300 เตียง และ/โรงพยาบาลสนามสำหรับผู้ป่วยระดับสีแดง จัดสร้างโรงพยาบาลสนามระดับวิกฤต ICU บนพื้นที่ 4 ไร่ ซึ่งปรับพื้นที่โล่งของโรงพยาบาล ปิยะเวทเป็นสถานที่ก่อตั้ง รองรับผู้ป่วยจำนวน 120 เตียง

ด้าน นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ปตท. กล่าวว่า บริษัทในกลุ่ม ปตท. ยังได้คิดค้นนวัตกรรม ผลิตอุปกรณ์และครุภัณฑ์ทางการแพทย์ มาสนับสนุนอย่างเต็มกำลัง อาทิ บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) สนับสนุนหุ่นยนต์ CARA ช่วยบุคลากรทางการแพทย์ในการส่งอาหาร อุปกรณ์แก่ผู้ป่วย และหุ่นยนต์ฆ่าเชื้อโรคอัตโนมัติด้วยแสง UV / บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) สนับสนุนผลิตภัณฑ์นวัตกรรม อาทิ หมวกอัดอากาศความดันบวก PAPR ชุดป้องกันการติดเชื้อ PE Gown ชุดตรวจคัดกรอง Rapid Test / บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) สนับสนุนน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับการขนส่งเดินทางดูแลผู้ป่วยและบุคลากร โดยโครงการลมหายใจเดียวกันที่ผ่านมาได้สนับสนุนการแก้ปัญหาวิกฤตโควิด-19 ของประเทศมาอย่างต่อเนื่อง ส่งมอบเครื่องช่วยหายใจ เครื่องให้ออกซิเจนอัตราไหลสูง กว่า 400 เครื่อง สนับสนุนออกซิเจนเหลว อุปกรณ์ทางการแพทย์ที่จำเป็นแก่หน่วยงานรัฐ โรงพยาบาลในพื้นที่วิกฤตและมีความจำเป็นเร่งด่วน กว่า 300 แห่งทั่วประเทศ  พร้อมสนับสนุนงบประมาณและอุปกรณ์ทางการแพทย์ในการจัดตั้งโรงพยาบาลสนาม 7 แห่ง ร่วมกับกรุงเทพมหานคร จัดหน่วยวัคซีนเคลื่อนที่เชิงรุกใน 4 พื้นที่เปราะบางและมีความเสี่ยงสูง รวมถึงเดินหน้าโครงการ Restart Thailand ต่อเนื่อง ทำให้มีอัตราการจ้างงานภายในประเทศเพิ่มขึ้นกว่า 25,000 อัตรา ซึ่งนับตั้งแต่ต้นปี 2563 จนถึงปัจจุบัน กลุ่ม ปตท. ได้สนับสนุนความช่วยเหลือบุคลากรทางการแพทย์ ร่วมบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน รวมเป็นงบประมาณกว่า 1,700 ล้านบาท

NGV พร้อมเปิดให้บริการ EV Charging Station ภายในปีนี้

นางสาวจิราพร ขาวสวัสดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) (โออาร์) พร้อมด้วย นายวุฒิกร สติฐิต รองกรรมการผู้จัดการใหญ่หน่วยธุรกิจก๊าซธรรมชาติ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (ปตท.) ร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ การพัฒนาธุรกิจให้บริการสถานีอัดประจุสำหรับยานยนต์ไฟฟ้า หรือ EV Charging Station ในสถานีบริการก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ (NGV) โดยมี นายบุญมา พนธนกรกุล รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ธุรกิจค้าปลีกน้ำมัน โออาร์ และ นายณรงค์ไชย ปัญญไพโรจน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่สายงานก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ ปตท. ร่วมลงนาม

ความร่วมมือดังกล่าวเป็นการพัฒนาธุรกิจการให้บริการสถานีอัดประจุสำหรับยานยนต์ไฟฟ้าสาธารณะ (Public EV Charging Station) เพื่อเตรียมความพร้อมรองรับการใช้งานยานยนต์ไฟฟ้าในอนาคต และร่วมกันกำหนดแบบจำลองธุรกิจที่เหมาะสมในการให้บริการเชิงพาณิชย์ ตลอดจนศึกษาความเป็นไปได้ในการขยายการให้บริการ EV Charging Station ในสถานีบริการ NGV ในอนาคต โดยมีแผนเปิดให้บริการแห่งแรก ณ สถานีบริการ NGV ปตท. สาขากำแพงเพชร 2 เป็นสถานีต้นแบบ เพื่อรองรับการเติบโตของกลุ่มผู้ใช้ยานยนต์ไฟฟ้า โดยเฉพาะกลุ่มรถสาธารณะและประชาชนทั่วไปในพื้นที่จตุจักร ซึ่งเป็นกลุ่มผู้ใช้บริการหลัก โดยคาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการได้ในปีนี้ และจะขยายพื้นที่การให้บริการ EV Charging Station ภายในสถานีบริการ NGV ทั้งหมด 10 แห่งทั่วประเทศ โดย ปตท. และ โออาร์มีแผนที่จะขยายเครือข่ายให้เพิ่มมากขึ้น เพื่อตอบโจทย์ผู้ใช้บริการและตอบสนองต่อการขยายตัวของอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าของประเทศในอนาคต

ความร่วมมือระหว่าง ปตท. และ โออาร์ ในครั้งนี้ นับเป็นการสร้างพันธมิตรทางธุรกิจร่วมกันของกลุ่ม ปตท. เพื่อสนับสนุนพลังงานทางเลือกที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมให้กับผู้ใช้บริการและประชาชน อีกทั้งยังร่วมกันขับเคลื่อนธุรกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมให้เติบโตไปพร้อมกันอย่างยั่งยืน