KUN ผนึก ALT ผุดโปรเจค Solar Rooftop แห่งแรกย่านบางบัวทอง

บมจ. วิลล่า คุณาลัย (KUN) ผนึกกำลัง “เอแอลที เทเลคอม” ผุดโปรเจคSolar Rooftop ภายในโครงการบ้านจัดสรรของคุณาลัย นำร่องโครงการอสังหาฯแนวราบแห่งแรกโซนบางบัวทอง “คุณาลัย พรีม” จำนวน 40 หลัง ช่วยลดค่าไฟให้ลูกค้าเฉลี่ย 1,500  บาทต่อเดือน คาดติดตั้งแล้วเสร็จQ4/64 พร้อมตั้งเป้า2-3 ปี(2564-2566) เดินหน้าติดตั้ง Solar Rooftopไม่ต่ำกว่า 50-60% ของโครงการบ้านทั้งหมด

นางประวีรัตน์ เทวอักษร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วิลล่า คุณาลัย จำกัด (มหาชน) หรือ KUN  ผู้นำด้านธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์แนวราบเพื่อขาย โดยเน้นพื้นที่ในเขตปริมณฑลโดยเฉพาะอำเภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี เปิดเผยว่าบริษัทฯได้ผนึกกำลังพันธมิตรทางธุรกิจกับ บริษัทเอแอลที เทเลคอม จำกัด (มหาชน) หรือ ALT ในการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าจากเซลล์แสงอาทิตย์บนหลังคาอาคาร (Solar Rooftop)ภายในโครงการบ้านจัดสรรของคุณาลัย โดยเบื้องต้นจะนำร่องโปรเจคแรกโครงการคุณาลัย พรีม  โซนบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี จำนวน 40 หลัง ทั้งนี้สำหรับโครงการดังกล่าวคาดว่าจะติดตั้งแล้วเสร็จอย่างเร็วที่สุดภายในไตรมาส4/2564 ซึ่งถือได้ว่าเป็นโครงการอสังหาริมทรัพย์แนวราบแห่งแรกในย่านบางบัวทอง ที่ติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าจากเซลล์แสงอาทิตย์บนหลังคา

สำหรับวัตถุประสงค์การติดตั้ง Solar Rooftop ในครั้งนี้ เนื่องจากบริษัทฯคำนึงถึงการเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยมุ่งเน้นให้ที่อยู่อาศัยโครงการที่พัฒนาโดยคุณาลัย ทุกโครงการได้ใช้พลังงานสะอาด เพราะต้องยอมรับว่าแนวโน้มผู้บริโภคในปัจจุบันหันมาให้ความสนใจการใช้พลังงานไฟฟ้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ดังนั้นมองว่า Solar Rooftop ที่นอกจากจะเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมแล้ว ยังสามารถช่วยประหยัด ช่วยลดต้นทุนการใช้ไฟฟ้ารวมถึงสามารถขายไฟคืนให้หน่วยงานรัฐ เพื่อสร้างรายได้เพิ่มให้กับเจ้าของบ้านกรณีไฟฟ้าเหลือใช้อีกด้วย

อีกทั้งยังถือเป็นการเพิ่มมูลค่าทรัพย์สินให้กับบ้าน และโครงการ ในระยะยาวอีกด้วย  เพื่อเตรียมสู่การเปลี่ยนแปลงไปสู่ Smart home  ที่อยู่อาศัยของยุคดิจิทัล ที่ทั้งประหยัดพลังงาน เป็นพลังงานสะอาด  และรองรับการใช้งานของรถยนต์ไฟฟ้าที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้

ทั้งนี้เชื่อว่า หากมีการติดตั้งแล้วเสร็จ จะสามารถช่วยลดต้นทุนค่าใช้จ่ายค่าไฟฟ้าให้ลูกค้าในโครงการได้เฉลี่ยถึง 1,500 บาทต่อเดือน ซึ่งสามารถตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าในปัจจุบันอย่างมากเนื่องจากด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้เกิดการ Work from Home ทำให้มีค่าไฟสูงขึ้น แต่อย่างไรก็ตามหากสถานการณ์กลับสู่ภาวะปกติก็สามารถที่จะยื่นเรื่องขออนุญาต ขายไฟฟ้ากลับคืนให้ภาครัฐได้ เนื่องจากได้มีการขอใบอนุญาตรองรับไว้เรียบร้อยแล้ว

“ โดยส่วนตัวมองว่า ความร่วมมือระหว่าง KUN และ ALT ในครั้งนี้ เชื่อว่าเป็นการต่อยอดระหว่าง  2  บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ภายใต้การเป็น Strategic Partner ร่วมกัน โดย ALT มีศักยภาพในการ เป็นผู้นำให้บริการโครงสร้างพื้นฐานสำหรับธุรกิจดิจิทัล และพลังงานทดแทน และมีบริษัทลูก เป็นตัวแทนจัดจำหน่ายแผงโซล่าเซลล์ในประเทศไทย ภายใต้แบรนด์ “Q CELLS” ซึ่งเป็นผู้ผลิตแผงโซล่าเซลล์ชั้นนำของโลกที่ใช้เทคโนโลยีของประเทศเยอรมัน อีกทั้งยังให้บริการในรูปแบบ One Stop Repair Service Center ดังนั้นด้วยศักยภาพของ ALT ยิ่งเป็นเครื่องพิสูจน์ให้เห็นถึงความน่าเชื่อถือและความเป็นมืออาชีพทางธุรกิจดังกล่าว”

อย่างไรก็ตาม ในอนาคตบริษัทฯตั้งเป้าหมายที่จะติดตั้ง Solar Rooftop ให้บ้านทุกโครงการที่พัฒนาโดยคุณาลัย ซึ่งคาดว่าภายในระยะ 2-3 ปีนี้ ( 2564-2566) จะมีสัดส่วนบ้านที่ติดตั้งแผงโซล่าเซลล์ ไม่ต่ำกว่า 50-60% ของโครงการบ้านที่บริษัทฯพัฒนาแล้วทั้งหมด

ด้าน นางสาวปรียาพรรณ ภูวกุล รองกรรมการผู้อำนวยการ บริษัทเอแอลที เทเลคอม จำกัด (มหาชน) หรือ ALT กล่าวถึงความร่วมมือกับบริษัท วิลล่า คุณาลัย จำกัด (มหาชน) หรือ KUN  ในการติดตั้งแผงโซลาร์รูฟท็อปให้กับบ้านจัดสรร ถือเป็นโครงการนำร่องของ ALT  ในการติดตั้งแผงโซลาร์รูฟท็อปให้กับโครงการบ้านจัดสรร

ทั้งนี้การติดตั้งแผงโซลาร์เหมาะกับคนที่ต้องอยู่บ้านในช่วงเวลากลางวัน โดยเฉพาะในช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19ที่รุนแรงมากขึ้น ทำให้พฤติกรรมการใช้ชีวิตของคนเปลี่ยนไป มีการ Work From Homeมากขึ้น อยู่บ้านเป็นหลักในช่วงเวลากลางวัน  ส่งผลให้มีการใช้ไฟฟ้าในช่วงเวลาดังกล่าวมากขึ้น และการติดตั้งแผงโซลาร์ที่ใช้พลังงานจากแสงอาทิตย์ ซึ่งเป็นพลังงานสะอาด จะช่วยประหยัดค่าไฟฟ้าต่อเดือนได้มาก

การดำเนินการติดตั้งแผงโซลาร์ดังกล่าว ALTจะบริหารจัดการให้ทุกอย่างครบวงจร หรือ One Stop Service  ทั้งการติดต่อดำเนินการกับการไฟฟ้าและภาครัฐที่เกี่ยวข้อง การให้บริการหลังการขาย  หรือในอนาคตหากติดตั้งแผงโซลาร์แล้วลูกบ้านมีไฟฟ้าเหลือใช้ ALTยังบริการให้ลูกค้าสามารถเป็นผู้ขายไฟฟ้าคืนให้กับการไฟฟ้าได้อีกด้วย

“โครงการติดตั้งแผงโซลาร์ในโครงการหมู่บ้านของคุณาลัย นี้ ALTเน้นในผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพระดับโลก โดยเลือกใช้แผงโซลาร์แบรนด์ Q-CELLs ถือเป็นแบรนด์ ระดับเทียร์ 1 และ อินเวอร์เตอร์ของบริษัทหัวเหว่ยฯ สำหรับการดูแลหลังการขาย  ทางเรารับประกันดูแลและซ่อมบำรุงให้ฟรีนานถึง2 ปีรับประกันแผง 12 ปี และรับรองประสิทธิภาพการผลิตไฟฟ้าจากแผงนาน 25 ปี อีกด้วย”นางสาวปรียาพรรณกล่าว

KUN ครึ่งปีหลังลุยสร้างอาณาจักรใหม่ “คุณาลัย นาวาร่า”

บมจ. วิลล่า คุณาลัย (KUN) ฟอร์มดีต่อเนื่อง โตสวนกระแสโควิด โชว์งบกำไรไตรมาส2/2564 พุ่งกระฉูด 159.31% YoY แตะระดับ 41.10 ล้านบาท ขณะที่รายได้รวมอยู่ที่ 255.13 ล้านบาท หลังยอดขาย 6 เดือนแตะ 730 ล้านบาท พร้อมแจกปันผลระหว่างกาล 0.05 บาทต่อหุ้น เตรียม XD วันที่ 26 ส.ค.2564 นี้ ด้าน CEO “ประวีรัตน์ เทวอักษร” เดินเกมรุกครึ่งปีหลัง จ่อผุดโปรเจคทิศที่3แห่งใหม่ ภายใต้ชื่อ “คุณาลัย นาวาร่า” มูลค่าลงทุน 2,350 ล้านบาท ระบุความต้องการบ้านแนวราบยังไม่ลดลงหลังไลฟ์สไตล์คนเปลี่ยน สู่ชีวิตวิถีใหม่ (New Normal) มั่นใจปีนี้รายได้โตตามแผน 10-15% อย่างแน่นอน

นางประวีรัตน์ เทวอักษร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วิลล่า คุณาลัย จำกัด (มหาชน) หรือ KUN เปิดเผยว่า  บริษัทฯ ประสบความสำเร็จจากผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/2564 สิ้นสุด ณ 30 มิถุนายน 2564 มีรายได้รวม เท่ากับ 255.13 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 55.11% YoY และกำไรสุทธิ เท่ากับ 41.10 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 159.31% YoY เนื่องจากโครงการของบริษัทฯ ได้รับการตอบรับที่ดีต่อเนื่องจากไตรมาสแรกที่ผ่านมา โดยเฉพาะโครงการคุณาลัย พรีม ซึ่งเป็นโครงการขายดีที่สุดของบริษัทฯ นอกจากนี้บริษัทฯรับรู้รายได้จากอีก 4 โครงการประกอบด้วย โครงการคุณาลัย จอย , คุณาลัย บีกินส์ 1, คุณาลัย บีกินส์ 2 และคุณาลัย จอย ออน 314

ในขณะที่งวด 6 เดือนแรกปี 2564 บริษัทฯ มีรายได้รวมเท่ากับ 446.11 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 36.41% YoY และกำไรสุทธิ เท่ากับ 68.50 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 41.14 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 150% YoY ซึ่งเป็นผลมาจากการรับรู้รายได้จากการจากโอนกรรมสิทธิ์โครงการที่อยู่ในโซนบางบัวทองและฉะเชิงเทรา โดยเฉพาะโครงการคุณาลัยพรีมที่เป็นสินค้าขายดีของบริษัทฯ สามารถทำ market share ได้สูงมากในโซนบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี จากความสำเร็จดังกล่าว ส่งผลให้ครึ่งปีแรก 2564 บริษัทฯมียอดขาย (Pre-sales) อยู่ที่ 730 ล้านบาท ขณะที่ยอดBacklog ณ สิ้นไตรมาส 2/2564 เท่ากับ 380 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ภายในครึ่งหลังทั้งหมด

“ ตั้งแต่ช่วงสถานการณ์โควิด บริษัทฯได้มีการปรับกลยุทธ์เพื่อฝ่าวิกฤตครั้งนี้ไปให้ได้ ไม่ว่าจะเป็นกลยุทธ์ด้านการจัดหาเงินทุนและบริหารสภาพคล่อง เพื่อให้เพียงพอกับพัฒนาโครงการของKUN รวมถึงการปรับกลยุทธ์การขาย ที่หันมาเน้นการสื่อสารผ่านช่องทางสื่อออนไลน์ให้ตรงกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย และที่สำคัญ บริษัทฯยังพยายามที่จะสร้างบ้านให้เสร็จทันเวลา เพื่อให้ส่งมอบบ้านให้กับลูกค้านอกจากนี้ยังบริหารงานร่วมกันกับผู้รับเหมาแต่ละราย ให้สอดคล้องกับกำลังการผลิต ในส่วนของมาตรการการป้องกันโควิด-19 เราตั้งเป้าหมายร่วมกันกับทุก Stakeholders ให้เป็น “คุณาลัย=หมู่บ้านมีภูมิ” ที่มุ่งเน้นให้ทุกคนได้รับวัคซีนอย่างน้อยเข็มแรกครบ 100% ซึ่งปัจจุบันสามารถทำได้มากกว่า 70% แล้วในด้านผู้รับเหมาที่จะเข้ามาปฏิบัติงานในพื้นที่ก่อสร้างโครงการของบริษัทฯ จะต้องผ่านการดูแลอย่างเข้มงวด ซึ่งได้ทำอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่เริ่มมีสถานการณ์โควิดเมื่อปีที่แล้วทั้งนี้บริษัทฯยังมุ่งเน้นการสร้างมาตรฐานการอยู่อาศัยในแคมป์ก่อสร้าง และยังให้ความช่วยเหลือคนงาน เช่นในการจัดหาอาหารกลางวันให้กับคนงานก่อสร้าง เพื่อป้องกันความเสี่ยงอีกด้วย”

 นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ได้มีมติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลงวดผลการดำเนินงานครึ่งปีแรกประจำปี 2564 จำนวน 0.05 บาทต่อหุ้น รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 34.32 ล้านบาท ซึ่งสะท้อนถึงผลการดำเนินงานที่ดีในช่วงครึ่งปีแรก โดยกำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) ในวันที่ 26 ส.ค. 2564 และจะทำการจ่ายเงินปันผลในวันที่ 10 ก.ย.2564 นี้

ส่วนทิศทางในครึ่งปีหลังนั้น นางประวีรัตน์ CEO KUN กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทฯมีแผนในการพัฒนาโครงการซึ่งเป็นทิศที่3 ภายใต้โครงการ “คุณาลัย นาวาร่า” ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งโครงการในแผนธุรกิจของบริษัทฯ ที่วางนโยบายการกระจายการลงทุนให้ครบ 4 ทิศในรอบกรุงเทพฯ โดยโครงการดังกล่าวตั้งอยู่ในทิศใต้ โซนพระราม 2 โดยมีมูลค่าการลงทุนประมาณ 2,350 ล้านบาท และคาดว่าจะเริ่มพัฒนาโครงการได้ในช่วงปลายปี 2564 โดยจะแล้วเสร็จพร้อมเปิดขายในเชิงพาณิชย์ได้ภายในไตรมาส 1 ปี 2565 ทั้งนี้สำหรับโครงการดังกล่าวจะต้องผ่านการอนุมัติผู้ถือหุ้น การจัดประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นในวันที่ 25 ส.ค.นี้

สำหรับแนวโน้มอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์แนวราบนั้น โดยส่วนตัวมองว่า ยังมีดีมานด์อย่างต่อเนื่อง เพราะจากบ้านแนวราบจะเป็นกลุ่มเรียลดีมานด์ ซึ่งตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าต่อเนื่อง ในสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ที่ทำให้ลูกค้าต้องปรับตัวกับการใช้ชีวิตวิถีใหม่ การทำงานจากบ้าน การใช้ชีวิตภายในบ้านมากขึ้น รวมถึงการพัฒนาด้านเทคโนโลยีที่มาเร็วขึ้น จากปัจจัยดังกล่าวจึงทำให้บ้านแนวราบยังเป็นที่ต้องการของกลุ่มลูกค้าในปัจจุบัน

อย่างไรก็ตาม ภายใต้วิถีชีวิตที่เปลี่ยนไป ทำให้เกิดแนวคิดการอยู่อาศัยในรูปแบบใหม่ ภายใต้ EVERYTHING AT HOME ทุกสิ่งเกิดขึ้นที่บ้าน เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคและรองรับกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น โดยชูจุดเด่นเรื่องพื้นที่ใช้สอยภายในบ้านที่เหนือคู่แข่ง ส่งผลให้ทุกโครงการของคุณาลัย ได้การตอบรับที่ดีและประสบความสำเร็จด้านยอดขายตลอดจนถึงปัจจุบัน ซึ่งจากแผนการปรับกลยุทธ์ดังกล่าวรวมถึงการบริหารจัดการและการควบคุมค่าใช้จ่าย ที่มีประสิทธิภาพ ทำให้บริษัทฯรักษาอัตรากำไรไว้ได้ในระดับสูง โดยอัตรากำไรสุทธิ (Net Profit Margin)อยู่ที่ 15.4 % ซึ่งยิ่งเป็นสิ่งที่ทำให้บริษัทฯมั่นใจว่าแผนการปรับกลยุทธ์ดังกล่าวจะส่งให้ภายในปีนี้ บริษัทฯจะมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 10-15% ตามแผนที่วางไว้ ภายใต้แรงกดกันจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 แต่บริษัทฯยังคงมุ่งมั่นรักษายอดขายให้ได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้