นายชูวิทย์ จึงธนสมบูรณ์ (แถวบน ที่ 5 จากซ้าย) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร พร้อมด้วย นางภณิดา จึงธนสมบูรณ์ (แถวบน ที่ 4 จากซ้าย) รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานซัพพลายเชน บริษัท นอร์ทอีส รับเบอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ NER ผู้ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายยางแผ่นรมควัน ยางแท่ง และยางผสม เพื่อจำหน่ายไปยังผู้ผลิตในอุตสาหกรรมยานยนต์ และกลุ่มผู้ค้าคนกลาง ทั้งในและต่างประเทศ ร่วมกับดร.สมภพ ศักดิ์พันธ์พนม (แถวบน ที่ 5 จากขวา) ประธานกรรมการ บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ มอบเตียงสนามกระดาษ 500 เตียง แก่องค์การบริหารส่วนจังหวัดบุรีรัมย์ เพื่อใช้รองรับผู้ป่วยโควิด-19 ที่เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลสนามของจังหวัดบุรีรัมย์
ป้ายกำกับ: นอร์ทอีส รับเบอร์
NER ติดอันดับหุ้นยั่งยืน ESG100 ปีที่ 3
บมจ.นอร์ทอีส รับเบอร์ หรือ NER ได้รับคัดเลือกให้เป็น 1 ในบริษัทกลุ่มหลักทรัพย์ ESG100 ที่มีการดำเนินงานโดดเด่นด้านสิ่
นายชูวิทย์ จึงธนสมบูรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท นอร์ทอีส รับเบอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ NER ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่
ทั้งนี้การที่บริษัทได้รับคั
สำหรับสถาบันไทยพัฒน์ เป็นผู้ริเริ่มพัฒนาข้อมูลด้
ขณะที่ การจัดอันดับบริษัทจดทะเบียนด้
NER คว้ารางวัล Master Entrepreneur Award กลุ่มอุตสาหกรรมการเกษตร
นายชูวิทย์ จึงธนสมบูรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท นอร์ทอีส รับเบอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ NER ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายยางแผ่นรมควัน ยางแท่ง และยางผสม เพื่อจำหน่ายไปยังผู้ผลิตในอุตสาหกรรมยานยนต์ และกลุ่มผู้ค้าคนกลาง ทั้งในและต่างประเทศ คว้ารางวัล Master Entrepreneur Award กลุ่มอุตสาหกรรมการเกษตร จากเวที Asia Pacific Entrepreneurship Award 2021 (APEA) โดยคัดเลือกผู้บริหารที่มีแนวคิด วิสัยทัศน์ ในการบริหารองค์กร ผลประกอบการให้เติบโตและสนับสนุนให้เกิดการสร้างแรงจูงใจในการปฎิบัติหน้าที่ รวมทั้งตระหนักถึงความรับผิดชอบต่อสังคมส่วนรวมเพื่อสร้างการเติบโตขององค์กรอย่างยั่งยืน
ทริสเรทติ้ง เพิ่มอันดับเครดิต NER เป็น “BBB-” จาก “BB+”
ทริสเรทติ้ง เพิ่มอันดับเครดิตของ นอร์ทอีส รับเบอร์ หรือ NER เป็นระดับ “BBB-” จากเดิมที่ระดับ “BB+” ด้วยแนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” โดยคาดว่ายอดขายของบริษัทจะเติ
นายชูวิทย์ จึงธนสมบูรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท นอร์ทอีส รับเบอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ NER ผู้ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่
ด้านประเด็นสำคัญที่กำหนดอันดั
นอกจากนี้ทริสเรทติ้งยังคาดว่
สำหรับแนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนถึงความคาดหวังของทริ
NER พบนักลงทุนในงาน Opportunity Day
นายชูวิทย์ จึงธนสมบูรณ์ (กลาง) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร พร้อมด้วย นายศักดิ์ชัย จงสถาพงษ์พันธ์ (ซ้าย) รองประธานเจ้าหน้าที่บริ
นอกจากนี้ บริษัทฯ เพิ่มเป้าปริ
NER ปรับเป้ารายได้ปี 64 เป็น 2.45 หมื่นล้าน
บมจ.นอร์ทอีส รับเบอร์ (NER) ปรับเป้ารายได้ปี 2564 จาก 2.2 หมื่นล้านบาท เป็น 2.45 หมื่นล้านบาท จากความสามารถในการผลิตเพิ่มขึ้น และการขายล่วงหน้า นอกจากนี้ในปลายปี 2564 บริษัทมีแผนจะขยายโรงงานเพื่อเพิ่มกำลังการผลิตอีก 50,000 ตัน จาก 460,000 ตัน เป็น 510,000 ตัน เพื่อรองรับลูกค้าทั้งรายใหม่และรายเก่าที่ต้องการสั่งสินค้าเพิ่มขึ้น
นายชูวิทย์ จึงธนสมบูรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท นอร์ทอีส รับเบอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ NER ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายยางแผ่นรมควัน ยางแท่ง และยางผสม เพื่อจำหน่ายไปยังผู้ผลิตในอุตสาหกรรมยานยนต์ และกลุ่มผู้ค้าคนกลาง ทั้งในและต่างประเทศ เปิดเผยในงาน Opportunity Day ประจำไตรมาส 1/2564 ว่าบริษัทได้มีปรับเพิ่มเป้ารายได้ปี 64 เป็น 2.45 หมื่นล้านบาท จากเดิมที่บริษัทตั้งเป้ารายได้ 2.2 หมื่นล้านบาท และเพิ่มเป้าปริมาณขายขึ้นเป็น 4.4 แสนตัน จาก 4.1 แสนตัน เนื่องจากบริษัทมีความสามารถในการผลิตเพิ่มขึ้น ที่สามารถรองรับยอดขายโดยขณะนี้ยอดขายของบริษัทครอบคลุมไปจนถึงไตรมาส 4 และตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่มีจำนวนเพิ่มมากขึ้น เพื่อรองรับกลุ่มลูกค้าจากสิงคโปร์และอินเดีย ประกอบกับราคายางปรับขึ้นต่อเนื่อง และได้ลูกค้าใหม่เพิ่มหลายราย
สำหรับทิศทางราคายางนั้นยังอยู่ในช่วงขาขึ้น โดยคาดราคายางแผ่นรมควันเฉลี่ยปีนี้อยู่ที่ 75 บาท/ก.ก. จากปัจจุบันอยู่ที่ 66 บาท/ก.ก. เทียบปีก่อนที่ 55 บาท/ก.ก. ซึ่งการที่ราคายางที่ปรับขึ้นมาจากปัจจัยโควิด เนื่องจากซัพพลายน้ำยางข้นถูกนำไปใช้ผลิตถุงมือยางเป็นจำนวนมาก จึงทำให้ซัพพลายหายไปพอสมควร และคาดว่าเศรษฐกิจเริ่มดีขึ้น หลังจากสถานการณ์โควิดกลับมาดีขึ้น จากความต้องการใช้ยางพาราก็จะมากขึ้นทั้งในอุตสาหกรรมยานยนต์ การขนส่ง โลจิสติกส์ นอกจากนี้บริษัทคาดการณ์ว่าจะเห็นภาพรวมความต้องการใช้ยางพาราทั่วโลกเติบโตอย่างต่อเนื่องในปี 2565 จากการที่ทั่วโลกสนับสนุนการใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้ามีเป้าหมายเพื่อลดการปล่อยก๊าซพิษไอเสียรถยนต์สู่อากาศนั้น ทำให้ยอดขายรถยนต์พลังงานใหม่ (NEV) ซึ่งรวมถึงรถยนต์ไฟฟ้าแบบใช้แบตเตอรี่ รถยนต์ไฟฟ้าแบบไฮบริด และรถยนต์พลังงานเซลส์เชื้อเพลิงไฮโดรเจนทั่วโลกมียอดขายที่เพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ ในปลายปี 2564 บริษัทมีแผนจะขยายโรงงานเพื่อเพิ่มกำลังการผลิตอีก 50,000 ตัน จาก 460,000 ตัน เป็น 510,000 ตัน โดยจะลงทุนซื้อเครื่องจักรประมาณ 50 ล้านบาท เพื่อรองรับลูกค้าทั้งรายใหม่และรายเก่าที่ต้องการสั่งสินค้าเพิ่มขึ้น สำหรับสัดส่วนรายได้ปี 2564 ทางบริษัทยังวางนโยบายการจำหน่ายสินค้าในประเทศและต่างประเทศเป็น 60 : 40 ซึ่งในสัดส่วนลูกค้าต่างประเทศแบ่งเป็น จีน 70% , ญี่ปุ่น 20% และอื่นๆอีก 10% เช่นสิงคโปร์ อินเดีย บังคลาเทศ เป็นต้น โดยมองว่าเป็นอัตราส่วนที่เหมาะสมของลูกค้าในประเทศที่มีการเพิ่มกำลังการผลิตจากการย้ายฐานการผลิตจากประเทศจีนย้ายมาตั้งโรงงานอยู่ที่ประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น และลูกค้าต่างประเทศที่มีความต้องการใช้ยางธรรมชาติอยู่
ทั้งนี้ บริษัทขอแจ้งวันใช้สิทธิ NER W1 ครั้งที่ 2 วันที่ 15 มิถุนายน 2564 สำหรับอัตราและราคาการใช้สิทธินั้นใบสำคัญแสดงสิทธิ 1 หน่วย ซื้อหุ้นสามัญของบริษัทได้ 1 หุ้น ในราคาใช้สิทธิ 1.80 บาทต่อหุ้น ด้านระยะเวลาแจ้งความจำนงการใช้สิทธิ และขอรับใบแจ้งความจำนงการใช้สิทธิ ในวันที่ 8 – 11 มิถุนายน 2564 และวันที่ 14 มิถุนายน 2564 ตั้งแต่เวลา 09 .00 – 15 .30 น.
