“ท็อปส์” เปิดตัวบริการใหม่ Personal Shopper

จากมาตรการล็อคดาวน์และขอความร่วมมือให้ประชาชน Work From Home เพื่อยับยั้งการแพร่ระบาดโควิด ทำให้ผู้บริโภคยุค New Normal แสวงหาบริการใหม่ๆ  ที่ยังคงสามารถตอบโจทย์ทุกความต้องการตามไลฟ์สไตล์ส่วนบุคคล ท็อปส์ และ เซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์ ในเครือเซ็นทรัล รีเทล พร้อมนำเสนอประสบการณ์การช้อปปิ้งรูปแบบใหม่สุดเอ็กซ์คลูซีฟ กับบริการใหม่ล่าสุด  “Personal Shopper” ช้อปแบบเรียลไทม์ผ่านผู้ช่วยช้อปส่วนตัว ที่จะทำให้ทุกการช้อปปิ้งสะดวก ง่าย ได้ดั่งใจ ตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคปัจจุบันที่ต้องการซื้อสินค้าแต่ไม่อยากเดินทางออกจากบ้าน ในขณะที่ลูกค้ายังคงได้รับประสบการณ์ในการซื้อสินค้าเสมือนไปเดินเลือกช้อปด้วยตนเอง สามารถเลือกซื้อสินค้าได้ทุกแผนก ตั้งแต่อาหารสด อาหารพร้อมรับประทานไปจนถึงสินค้าอุปโภค-บริโภค   

ความพิเศษของบริการ “Personal Shopper” ท็อปส์ และ เซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์ ทุกสาขา ได้จัดเตรียมทีมผู้ช่วยนักช้อปที่ผ่านการฝึกอบรบเป็นพิเศษ มีความรู้ในสินค้าและบริการ สามารถให้คำแนะนำเกี่ยวกับตัวสินค้าที่เหมาะสมตรงกับความต้องการของลูกค้า พร้อมดูแลลูกค้าแบบตัวต่อตัว (Personalized offer on demand) ทำให้ลูกค้ามั่นใจได้ว่าการช้อปปิ้งผ่านทีมผู้ช่วยนักช้อป “Personal Shopper” จะช่วยลูกค้าเลือกสินค้าที่ดี มีคุณภาพ ครบตามที่ต้องการอย่างแน่นอน โดยลูกค้าที่สนใจสามารถเริ่มต้นใช้บริการ “Personal Shopper” ได้ง่าย ๆ เพียง 

  • เพิ่มเพื่อนในLINE ท็อปส์ และ เซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์ สาขาใกล้บ้าน (ตรวจสอบบัญชี LINE สาขาใกล้บ้าน คลิก https://bit.ly/3j8eDBo 
  • ทัก Chat หรือกด Call เพื่อเริ่มต้นช้อปปิ้ง จะมี Personal Shopper คอยบริการตัวต่อตัว ให้คุณช้อปแบบ Exclusive เลือกสินค้าได้ตรงใจเหมือนมาช้อปเองแบบง่ายๆ 
  • เลือกจัดส่งสินค้าถึงบ้าน ผ่านบริการ Home Delivery ส่งฟรีถึงบ้านในพื้นที่ที่ให้บริการ เมื่อซื้อสินค้าครบ 1,500 บาทขึ้นไป  หรือเลือกรับสินค้าที่สาขาภายใน ชั่วโมงหลังยืนยันคำสั่งซื้อ ปลอดภัยยิ่งกว่าเดิม กับบริการรับชำระเงินแบบ contactless หลากหลายวิธี 
สามารถใช้บริการ Personal Shopper บริการช่วยช้อป ของคนชอบช้อป ได้แล้ววันนี้ที่ ท็อปส์ มาร์เก็ต,  ท็อปส์ ซูเปอร์สโตร์, ท็อปส์ เดลีเซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์ทุกสาขา ตั้งแต่เวลา 08.00 – 20.00 น. ของทุกวัน “Personal Shopper” จะเป็นอีกหนึ่งบริการที่จะช่วยให้ลูกค้าทุกท่านช้อปอย่าง อุ่นใจ สะดวก ปลอดภัย ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่  www.tops.co.th , เฟซบุ๊ก TopsThailand, Central Food Hall หรือ แอปพลิเคชั่นไลน์ @TopsThailand 

คอลเล็กชั่นพิเศษ Tops 25th Anniversary X Gongkan

ท็อปส์ ในเครือเซ็นทรัล รีเทล ชวนลูกค้าทุกคนร่วมเดินทางไปยังโลกอนาคตที่เต็มไปด้วยสีสันแห่งการช้อปปิ้ง ผ่านผลงานศิลปะที่มีลายเซ็นโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ของศิลปินหนุ่มป็อปอาร์ตชื่อดังของไทยที่โด่งดังไกลระดับโลก ก้อง-กันตภณ เมธีกุล หรือ “Gongkan” (ก้องกาน) กับโปรเจคสุดพิเศษ “Tops 25th Anniversary X Gongkan มาร่วมคอลาบอเรชั่น ออกแบบสินค้าลิมิเต็ดอิดิชั่นฉลองครบรอบ 25 ปี ผ่านมุมมองประสบการณ์ช้อปปิ้งของศิลปินรุ่นใหม่ในคอนเซ็ปต์  “The Future of Shopping”  

ตลอดระยะเวลา 25 ปีที่ผ่านมา ท็อปส์ร่วมเดินทางเคียงข้างนักช้อปทุกรุ่น ทุกวัย มุ่งมั่นพัฒนาคุณภาพของสินค้าและบริการให้ทันยุคสมัย ในโอกาสฉลองครบรอบ 25 ปี ท็อปส์อยากเชิญชวนลูกค้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการก้าวไปข้างหน้าสู่โลกอนาคตของการช้อปปิ้งที่ไม่เคยหยุดนิ่งผ่านมุมมองศิลปินหนุ่ม “ก้องกาน” ที่มาพร้อมผลงานสุดเอ็กซ์คลูซีฟ Tops 25th Anniversary X Gongkan”  กับการออกแบบสินค้าลิมิเต็ดอิดิชั่นซึ่งสะท้อนเรื่องราวการข้ามมิติหรือ Teleport เพื่อตอกย้ำว่า ท็อปส์ พร้อมแล้วในการก้าวไปสู่โลกอนาคตในฐานะผู้นำธุรกิจซูเปอร์มาร์เก็ตของไทย      

สำหรับการออกแบบสินค้าลวดลายลิมิเต็ดอิดิชั่น ภายใต้คอนเซ็ปต์ “The Future of Shopping” เกิดจากการผสมผสานภาพจินตนาการของการช้อปปิ้งที่ท็อปส์ในอนาคตข้างหน้า  ซึ่งเต็มไปด้วยนวัตกรรมที่ทันสมัยไม่ว่าจะเป็นรถเข็นหรือตะกร้าลอยได้ หุ่นยนต์ผู้ช่วยนักช้อปที่ให้บริการอย่างอบอุ่นมีกลิ่นอายของคนคุ้นเคยที่รู้ใจนักช้อปไม่ต่างจากเพื่อนสนิท ทำให้การช้อปปิ้งมีสีสัน สนุกสนาน  เกิดเป็นความประทับใจยิ่งขึ้นกว่าเดิม โดย “ก้องกาน” เลือกใช้ซิกเนเจอร์ดีไซน์ที่สร้างชื่อให้ตนเองอย่าง เทเลพอร์ต’ ผลงานการเล่นกับสเปซผ่านพื้นที่วงกลมสีดำ (Teleport Art) มาประยุกต์ออกแบบให้เหมาะกับผลงานคอลาบอเรชั่น “Tops 25th Anniversary X Gongkan” ให้เลือกช้อปและสะสมได้แก่  

  • Tops X Gongkan Gift Card บัตรของขวัญที่ใครได้รับก็แฮปปี้ เพราะช้อปเสร็จก็สามารถเก็บสะสมได้ มีให้เลือกถึง 10 ดีไซน์ พร้อมโปรโมชั่นพิเศษ! รับฟรี Exclusive Bag มูลค่า 99 บาท เมื่อซื้อ Tops X Gongkan Gift Cardครบ ใบ และเติมเงินขั้นต่ำใบละ 500 บาท 
  • Tops X Gongkan Bag ถุงผ้าดีไซน์มินิมอล ผลิตจากผ้าฝ้าย 100% คุณภาพดี ทรงสวย บรรจุของได้เยอะ เป็นกระเป๋าช้อปปิ้งก็เหมาะ หรือจะใช้ในชีวิตประจำวันก็เก๋ มีให้เลือก ลวดลาย ราคาใบละ 169 บาท 
  • Tops X Gongkan Cooler Bag กระเป๋าเก็บความเย็น ผลิตจากวัสดุคุณภาพดี ใบใหญ่ ใส่ของได้เยอะ ช่วยให้สินค้าคงความสด คุณภาพคุ้มค่าในราคาเบาๆ เพียงใบละ 249 บาท 

มาเทเลพอร์ตไปยังโลกอนาคตในแบบฉบับท็อปส์ และรีบเป็นเจ้าของคอลเล็กชั่น “Tops 25th  Anniversary X Gongkan” ได้แล้ววันนี้ที่ ท็อปส์ มาร์เก็ต, ท็อปส์ ซูเปอร์สโตร์, เซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์ทุกสาขา และ www.tops.co.th รายละเอียดเพิ่มเติมที่เฟซบุ๊ก TopsThailand หรือ แอปพลิเคชั่นไลน์ @TopsThailand

ขอพรพระจันทร์สุดปังกับ “มายช้อยส์ขนมไหว้พระจันทร์”

ท็อปส์ และ แฟมิลี่มาร์ท ในเครือเซ็นทรัล รีเทล เชิญร่วมฉลองและขอพรให้สมหวังในเทศกาลไหว้พระจันทร์ด้วย “มายช้อยส์ขนมไหว้พระจันทร์” หลากรสสูตรลับเฉพาะจากภัตตาคารเชียงการีลา จุดเด่นความอร่อย คือ แป้งบางนุ่ม ไส้แน่น  เลือกใช้แต่วัตถุดิบชั้นดี พิถีพิถันอบจนกลิ่นหอม รสสัมผัสนุ่ม ละมุนลิ้น มีให้เลือกอร่อยหลากหลายรสชาติ ได้แก่  

  • ใหม่! รสส้มยูสุแมคคาเดเมีย ความอร่อยที่ลงตัว เติมความหวาน เพิ่มความเปรี้ยว เสริมความหอม ด้วยส้มยูสุที่แท็กทีมความมันอีกนิดจากถั่วแมคคาเดเมีย ผสมเม็ดบัวและสับปะรด กวนจนเข้ากันได้เนื้อแน่นเนียน  รสชาติใหม่ที่ควรลิ้มลอง ขนาด 170 กรัม ราคา 89 บาท
  • ทุเรียนเลิฟเว่อร์ต้องไม่พลาด คัดทุเรียนหมอนทองจันทบุรีคุณภาพดีนำมากวนจนเนื้อเนียน อร่อยเต็มคำกับไส้ทุเรียนหมอนทอง, ทุเรียนหมอนทองไข่แดง อร่อยมันกับไข่แดงเค็มเต็มฟองเพิ่มความกรุบกรอบด้วยเมล็ดแตงโม ราคาเริ่มต้นชิ้นละ 49 บาท
  • โหงวยิ้งไข่แดง ขนมไหว้พระจันทร์สูตรต้นตำหรับขนานแท้ ทำจากธัญพืช 5 ชนิด ประกอบไปด้วย เมล็ดหนำยิ้ง งาขาว เมล็ดมะม่วงหิมพานต์ เมล็ดแตงโม และเมล็ดฟักทอง นำมาผัดกับเครื่องสมุนไพรสูตรเฉพาะพร้อมไข่แดงเค็ม จนได้กลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์ ให้รสชาติที่ถูกปาก ลงตัว ราคาเริ่มต้นชิ้นละ 45 บาท
  • เม็ดบัวไข่แดง  แป้งบางนุ่ม ไส้แน่นเนียน หวานกำลังดี อัดแน่นความอร่อยด้วยเม็ดบัวชั้นดี เป็นอีกหนึ่งไส้ยอดนิยมประจำเทศกาลไหว้พระจันทร์ ราคาเริ่มต้นชิ้นละ 45 บาท
  • มายช้อยส์ขนมไหว้พระจันทร์รวมรส บรรจุในแพคเกจสวยงามสำหรับนำไปมอบเป็นของขวัญในเทศกาลแห่งความสุข ราคาพิเศษ 179 บาท

สามารถหาซื้อขนมไหว้พระจันทร์ “มายช้อยส์” ได้แล้ววันนี้ที่ ท็อปส์ มาร์เก็ต, ท็อปส์ ซูเปอร์สโตร์, ท็อปส์  เดลี่, เซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์, แฟมิลี่มาร์ท และท็อปส์ ออนไลน์

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.tops.co.th , เฟซบุ๊ก TopsThailand, Central Food Hall หรือ แอปพลิเคชั่นไลน์ @TopsThailand

ท็อปส์ ช่วยเกษตรกรไทยฝ่าวิกฤติโควิด รับซื้อตรงมังคุดใต้

สืบเนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ส่งผลกระทบอย่างหนักต่อเกษตรกรชาวสวนมังคุดภาคใต้  ทั้งอุปสรรคในการเคลื่อนย้ายแรงงานเข้าพื้นที่เพื่อเก็บเกี่ยวผลผลิต ปัญหาด้านการขนส่ง ทำให้ไม่สามารถส่งผลผลิตออกไปจำหน่ายยังพื้นที่ต่าง ๆ ทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศ  ซึ่งขณะนี้เป็นช่วงฤดูกาลที่มังคุดภาคใต้ออกสู่ท้องตลาดเป็นจำนวนมาก และมีผลผลิตมากขึ้นกว่าปีก่อน ทำให้เกิดสภาวะมังคุดใต้ล้นตลาด ราคาตกต่ำ ขาดตลาดรองรับ

เพื่อเป็นการช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนผู้ปลูกมังคุดภาคใต้อย่างเร่งด่วน ท็อปส์ และ เซ็นทรัล ฟู้ด  ฮอลล์ ในเครือเซ็นทรัล รีเทล จึงได้ร่วมคิกออฟแคมเปญ “เกษตรกรแฮปปี้” จับมือ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ , กระทรวงพาณิชย์  รับซื้อตรงมังคุดใต้คุณภาพดี  ส่งตรงจากสวน จำหน่ายในราคา 4 กิโล 100 บาท  ผ่านช่องทางออฟไลน์ที่ร้านท็อปส์ มาร์เก็ต, เซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์  24 สาขาในกรุงเทพและปริมณฑล และบริการสั่งซื้อผ่านออนไลน์ที่   www.tops.co.th และ แอปพลิเคชัน Grab เลือก Tops Select โดยจะเริ่มจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 12 สิงหาคม 2564 (สินค้ามีจำนวนจำกัด)

สำหรับมังคุดใต้ในโครงการ “เกษตรกรแฮปปี้” เป็นมังคุดดี สดจากต้น อร่อย ส่งตรงจากสวนภาคใต้  ที่เกษตรกรตั้งใจปลูกและดูแล รับประกันคุณภาพโดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นอกจากผู้บริโภคจะได้ซื้อมังคุดคุณภาพดี รสชาติอร่อย ในราคาที่เหมาะสมแล้ว สำคัญที่สุดคือการได้ช่วยเหลือ พี่น้องเกษตรกรทางภาคใต้ให้สามารถฝ่าฟันวิกฤติในครั้งนี้ไปได้ เพื่อร่วมสร้างรอยยิ้ม และส่งกำลังใจให้ชาวสวนมังคุดใต้ภายใต้แนวคิด “คนกินยิ้มได้ เกษตรกรไทย Happy” โดยตลอดทั้งปี 2564 ท็อปส์ ตั้งเป้ารับซื้อตรงมังคุดจากพี่น้องเกษตรกรภาคใต้รวมกว่า 120 ตัน

สนใจช้อปสินค้า ท็อปส์ คลิกที่นี่เลย! หรือ ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่  www.tops.co.th , เฟซบุ๊ก TopsThailand หรือ แอปพลิเคชันไลน์ @TopsThailand

ท็อปส์ ชวน ก้าวไปด้วยกัน กับรองเท้ารุ่น Limited Edition ฉลองครบรอบ 25 ปี

ถ้าเทียบกับชีวิตมนุษย์ ท็อปส์ ในวัย 25 ปี คงเป็นคนที่ใช้ชีวิตอย่างสนุกสนานและเต็มที่ที่สุดคนหนึ่ง เพราะ นอกจากจะสร้างสรรค์แคมเปญดีๆ มาอย่างต่อเนื่อง ในด้านการให้บริการ “ท็อปส์” ยังมุ่งมั่นตั้งใจดูแลผู้บริโภคทุกคนเป็นอย่างดี จนถือเป็น “ผู้นำธุรกิจค้าปลีก” ที่ครองใจคนไทยทั้งประเทศ ในโอกาสฉลองครบรอบ 25 ปี “ท็อปส์” ในเครือเซ็นทรัล รีเทล ขอชวนทุกคน “ก้าวไปด้วยกัน” กับรองเท้า Limited Edition ที่ออกแบบพิเศษ 2 แบบ 2 สไตล์ ได้แก่ “รองเท้าแตะ” และ “รองเท้าผ้าใบ” ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Timeless Design” เพื่อให้รองเท้ารุ่นพิเศษนี้ เหมาะกับทุกยุคทุกสมัย ออกแบบโดยเลือกใช้สีสันที่โดดเด่น วัสดุคุณภาพเยี่ยมสวมใส่สบาย และที่สำคัญคุณภาพคุ้มเกินราคา!

ท็อปส์ รองเท้าแตะ เพื่อนคู่ใจ ใส่รับหน้าฝน คุณภาพดี ราคาเพียง 99 บาท! โดดเด่นด้วยสีแดง-ขาว ตัวอักษร TOPS ตัวรองเท้าทำจากวัสดุคุณภาพดี ใส่ลุยน้ำได้สบาย ไม่ลื่น ใส่ได้ตลอดปี

ท็อปส์ รองเท้าผ้าใบ เพื่อนคู่หู ไปไหนไปกัน สวมใส่ได้ทุกโอกาส สำหรับ Sneaker รุ่นนี้เลือกใช้ผ้าอย่างดีมาตัดเย็บ สวมใส่สบาย โดดเด่นมาแต่ไกลด้วยสีแดงสดกับสีเขียว ใส่ไปเที่ยวก็ดี หรือจะใส่ไปเล่นเซิร์ฟสเก็ตก็เท่ห์ไม่แพ้ใคร ที่สำคัญ ราคาเพียง 349 บาทเท่านั้น!

มองหารองเท้าคุณภาพดีที่ราคาคุ้มค่า ดีไซน์ไม่ซ้ำใคร ใส่ไปช้อป ชิม แชะ จับจองเป็นเจ้าของได้แล้ววันนี้ที่ ท็อปส์ มาร์เก็ต ท็อปส์ ซูเปอร์สโตร์ ท็อปส์ เดลี่ และ ท็อปส์ ออนไลน์ ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.tops.co.th , เฟซบุ๊ก TopsThailand หรือ แอปพลิเคชันไลน์ @TopsThailand

“ท็อปส์” ร่วมโครงการ Care and Share Food for All แบ่งปันอาหารส่วนเกิน

ทั่วทั้งโลกกำลังเผชิญกับวิกฤต “ความหิวโหย” ที่รุนแรงยิ่งกว่าเดิม สืบเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 โดยเป็นการระบุจากองค์การสหประชาชาติ (UN) ที่ล่าสุดอัตราการขาดสารอาหารเพิ่มขึ้นสูงถึงร้อยละ 10 “ท็อปส์” ในเครือเซ็นทรัล รีเทล  ผู้นำด้านค้าปลีกซูเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำของประเทศ  จัดโครงการ “FOOD for GOOD DEED อาหารปันสุข” ภารกิจแบ่งปันอาหารส่วนเกิน (Surplus food) จากการจำหน่ายในแต่ละวัน ได้แก่ เบเกอรี่ ผัก และผลไม้ ที่ยังมีคุณภาพดีสามารถนำไปปรุงอาหารและรับประทานได้  บริจาคให้แก่ผู้ขาดแคลนผ่านองค์กรต่างๆ โดยความร่วมมือล่าสุด ท็อปส์ มาร์เก็ต และ เซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์ 33 สาขา บริจาคอาหารส่วนเกินให้กับ สหพันธ์อธิการเจ้าคณะนักบวชในประเทศไทย  ในโครงการ “Care and Share Food for All”  (ให้ใจและแบ่งปันอาหารสำหรับทุกคน) เพื่อช่วยเหลือเด็กยากจน เด็กทุพลภาพ (พิการ ตาบอด) ผู้สูงอายุและคนเจ็บป่วยในชุมชน รวมไปถึงผู้ลี้ภัยในพื้นที่ ที่อยู่ภายใต้การดูแลของศูนย์คาทอลิกทั่วประเทศ

นายสเตฟาน คูม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล จำกัด ในเครือเซ็นทรัล รีเทล กล่าวว่า “บริษัทฯ ตระหนักถึงความสำคัญของการสูญเสียอาหาร และขยะอาหารที่เกิดจากกระบวนการผลิตสินค้าพื่อจำหน่ายในแต่ละวัน จึงมีเจตนารมณ์ในการลดปริมาณขยะอาหารในประเทศไทย ตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนแห่งสหประชาชาติ (Sustainable Development Goals:SDGs) ข้อ12: ว่าด้วยเรื่องสร้างหลักประกันให้มีรูปแบบการผลิตและการบริโภคที่ยั่งยืน (Ensure sustainable consumption and production patterns) โดยในข้อ 12.3 มีเป้าประสงค์ที่ครอบคลุมประเด็นการลดของเสียที่เป็นอาหาร (food waste)  เพื่อจัดการอาหารส่วนเกินให้เกิดประโยชน์สูงสุด บริษัทฯ ได้จัดทำโครงการ “FOOD for GOOD DEED อาหารปันสุข” เกิดจากแนวคิดที่ว่า อาหารทุกชนิดที่เราจำหน่ายมีคุณค่าและไม่ควรถูกทิ้งอย่างสูญเปล่า เพราะการทิ้งอาหารที่ยังมีคุณภาพดี  นอกจากจะสูญเสียทรัพยากรแล้ว ยังเป็นการสร้างขยะอาหารให้เกิดขึ้นอย่างไม่จำเป็น  และจะเกิดประโยชน์มากกว่าหากเรานำอาหารที่ยังมีคุณภาพเหล่านั้นนำกลับมาทำให้เกิดคุณค่า ด้วยการส่งมอบให้กับหน่วยงานที่ดูแลเพื่อนำไปส่งต่อให้ผู้อื่นที่ขาดแคลน

ตั้งแต่ปี 2562 บริษัทฯ ได้ร่วมมือกับภาคีเครือข่ายต่าง ๆ  ได้แก่ มูลนิธิสโกลารส์ ออฟ   ซัสทีแนนนซ์ (SOS) มูลนิธิวีวีแชร์ ส่งมอบอาหารส่วนเกิน ได้แก่ ผัก ผลไม้ เบเกอรี่ และล่าสุด ท็อปส์ มาร์เก็ต และ เซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์ 33 สาขา ได้สนับสนุนโครงการ “Care and Share Food for All”   (ให้ใจและแบ่งปันอาหารสำหรับทุกคน) ภายใต้การดูแลของสหพันธ์อธิการเจ้าคณะนักบวชในประเทศไทย  บริจาคอาหารส่วนเกิน ให้กับ ศูนย์คาทอลิกทั่วประเทศ 33 ศูนย์ เพื่อนำไปมอบให้กับกลุ่มบุคคลเป้าหมายที่ศูนย์คาทอลิกดูแล เช่น  เด็กยากจน เด็กทุพลภาพ (พิการ ตาบอด) ผู้สูงอายุและคนเจ็บป่วยในชุมชน รวมไปถึงผู้ลี้ภัยในพื้นที่” นับเป็นอีกหนึ่งรูปแบบของการขจัดความหิวโหย (Zero Hunger) ตามเป้าหมายอันดับที่ 2 การพัฒนาอย่างยั่งยืนของสหประชาชาติ

ซิสเตอร์บังอร มธุรสสุวรรณ เลขาธิการสหพันธ์ฯ ณ อารามพระหฤทัย คลองเตย หนึ่งในผู้รับผิดชอบโครงการ “Care and Share Food for All”  (ให้ใจและแบ่งปันอาหารสำหรับทุกคน) กล่าวว่า “โครงการดังกล่าวเกิดขึ้นจากการที่สหพันธ์อธิการเจ้าคณะนักบวชในประเทศไทย ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญในการกำจัดความหิวโหยและการสูญเสียอาหารโดยเปล่าประโยชน์ในประเทศไทย เพื่อนำมายังผู้ยากจนในทุกกลุ่ม ตลอดจนผู้ที่มีอาหารไม่เพียงพอ ทั้งในชุมชนและกลุ่มบุคคลที่อยู่ในความดูแลของคณะนักบวชและ/หรือในสังฆมณฑลต่างๆ ซึ่งเป็นการแสดงออกซึ่งความรักและการแบ่งปันที่เป็นรูปธรรมตามจิตตารมณ์ของพระเยซูคริสตเจ้า และรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ โครงการ “Care and Share Food for All” ได้รับการสนับสนุนจากท็อปส์  โดยเริ่มต้นโครงการครั้งแรกเมื่อเดือน มีนาคม 2564 ที่ผ่านมา มีการรับมอบอาหารส่วนเกินจากท็อปส์ มาร์เก็ต และ เซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์  6 สาขา ในพื้นที่กรุงเทพฯ นนทบุรี และ พัทยา เพื่อส่งต่อไปยังศูนย์คาทอลิก 5 แห่ง ที่เข้าร่วม ซึ่งการดำเนินโครงการประสบผลสำเร็จอย่างมาก จนปัจจุบันได้ขยายความช่วยเหลือเพิ่มอีก 28 ศูนย์ รวมเป็น 33 ศูนย์ทั่วประเทศ และรับมอบอาหารส่วนเกิน จากท็อปส์ มาร์เก็ต และ เซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์ ในพื้นที่ภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคเหนือ รวม 33 สาขา”

ซิสเตอร์ปิยฉัตร บุญมูล ผู้อำนวยการศูนย์ธารชีวิตสตรี อธิการ คณะศรีชุมพาบาลบ้านพัทยา หนึ่งในศูนย์คาทอลิกที่รับอาหารส่วนเกินจาก ท็อปส์ มาร์เก็ต สาขา บ้านแอนด์บียอนด์พัทยา และ พัทยาใต้ ตึกคอม กล่าวว่า “รู้สึกขอบคุณต่อความใจดี มีเมตตาจิตแก่สังคม เพราะโครงการ “FOOD for GOOD DEED อาหารปันสุข” ที่ร่วมส่งมอบอาหารส่วนเกินให้กับโครงการ Care and Share Food for All ของสหพันธ์อธิการเจ้าคณะนักบวชในประเทศไทย มีประโยชน์อย่างยิ่งต่อเยาวสตรีและบรรดาสตรีที่เข้ามาใช้บริการที่ศูนย์คาทอลิก คนที่ไม่เงินซื้อข้าวหรือตกงานก็ได้ทานอาหารที่รับมา ยิ่งปัจจุบันมีสถานการณ์ COVID-19 ทางศูนย์ฯ ได้แบ่งบางส่วนของขนมปังประมาณ 30-50 ชิ้น เพื่อนำไปแจกให้กับชาวบ้านที่มารอรับอาหารชายหาดเมืองพัทยาอีกด้วย” ทั้งนี้ ศูนย์ธารชีวิตสตรีเข้าร่วมโครงการเมื่อต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา และมีประชาชนได้รับอาหารจากท็อปส์ราว 200-250 คนต่อวัน

นายสเตฟาน กล่าวเพิ่มเติมว่า  โครงการ “FOOD for GOOD DEED อาหารปันสุข”จะยังคงดำเนินต่อไป เพราะถือได้ว่าเป็นการบริหารจัดการอาหารส่วนเกินอีกรูปหนึ่ง นอกจากความร่วมมือกับมูลนิธิต่าง ๆ ที่มารับสินค้าและนำไปส่งต่อชุมชนแล้ว เรายังยินดีให้ความร่วมมือกับชุมชนต่าง ๆ ที่มีความพร้อมและประสงค์ขอรับอาหารส่วนเกินจากร้านค้าของเรา เพื่อนำไปบริหารจัดการส่งต่ออาหารส่วนเกินไปยังผู้ที่ขาดแคลนภายในชุมชนใกล้เคียงสาขา การดำเนินโครงการดังกล่าวนอกจากจะได้ช่วยเหลือผู้ที่ได้รับความลำบากให้หลุดพ้นจากความหิวโหย การบริจาคอาหารส่วนเกินยังมีประโยชน์อีกหลากหลายมิติด้วยกัน  ได้แก่ ลดปริมาณการสูญเสียอาหาร  ลดปริมาณขยะอาหารส่วนเกินของประเทศที่ส่งผลต่อมลภาวะทางสิ่งแวดล้อม  ซึ่งในประเทศไทยขยะอาหารที่ถูกทิ้งในแต่ละวันมีปริมาณสูงมากและไม่ได้รับการบริหารจัดการที่ดีพอ การทับถมของขยะอาหารจึงส่งผลเสียมากมายทั้งด้านสิ่งแวดล้อม สุขอนามัยของประชาชน และคุณภาพชีวิต  จากวันนั้นถึงวันนี้ “ท็อปส์ เซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์ และ แฟมิลี่มาร์ท” 109 สาขาทั่วประเทศ ได้ร่วมแบ่งปันอาหารส่วนเกินไปแล้วว่า 1,608,161 มื้อ ซึ่งนอกจากช่วยให้ผู้คนได้อิ่มท้องเพื่อมีแรงสู้ต่อแล้ว ยังช่วยลดปริมาณก๊าซเรือนกระจกได้อีก 727,501.60 กิโลกรัม

ภาพเด็กน้อยและผู้คนที่ยิ้มออกเมื่อได้รับอาหาร คือ แรงผลักดันและแรงบันดาลใจสำคัญที่ทำให้เรามุ่งมั่นที่จะเดินหน้าช่วยเหลือสังคมต่อไป เพราะท็อปส์รู้ดีว่าทุกมื้อที่อิ่มท้อง ย่อมหมายถึงหนึ่งชีวิตที่สามารถก้าวต่อไปได้ และพร้อมกลับมาเป็นกำลังหลักในการพัฒนาประเทศไทยไปด้วยกัน

ติดตามรายละเอียดโครงการเพิ่มเติมได้ที่  www.tops.co.th, เฟซบุ๊ก TopsThailand หรือแอปพลิเคชันไลน์ @TopsThailand หรือสนใจช้อปสินค้า ท็อปส์ คลิกที่นี่เลย!

ท็อปส์ เปิดพื้นที่ส่งความสดจากยอดดอยสู่ชุมชน

จากสถานการณ์แพร่ระบาดของ ไวรัสโควิด-19 รอบใหม่นี้ ได้ส่งผลกระทบต่อเกษตรกรผู้ผลิตพืชผลต่าง ๆ ทั่วประเทศ  ท็อปส์ และ เซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์ ในเครือเซ็นทรัล รีเทล จึงได้ร่วมสนับสนุนการส่งต่อผลผลิตจากเกษตรกรสู่ผู้บริโภค นอกจากจะเป็นการระบายผลผลิตช่วยเหลือแก่เกษตรกร แล้วยังเป็นการส่งมอบสุขภาพที่ดีแก่ประชาชน โดยตลอดเดือนสิงหาคมนี้ ท็อปส์ มาร์เก็ต, ท็อปส์ ซูเปอร์สโตร์, เซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์  รวม 59 สาขา และช่องทางท็อปส์ ออนไลน์ ได้จัดเทศกาล “สินค้าโครงการหลวง  ดี อร่อย  ส่งความสด จากยอดดอยสู่ชุมชน” โดยนำพืชผัก สด ๆ ผลไม้อร่อย ๆ และสินค้าแปรรูปหลากหลาย จากโครงการหลวง มาให้ทุกท่านได้ช้อป ตั้งแต่วันนี้ – 31 ส.ค. 2564

ตลอดเดือนสิงหาคมนี้ ทุกท่านจะได้ช้อปผลิตผลภายใต้การดูแลและควบคุมคุณภาพของโครงการหลวง ส่งตรงความสดจากยอดดอยถึงมือผู้บริโภค  ไม่ว่าจะเป็นผักสดที่มีหมุนเวียนทุกสัปดาห์ ได้แก่ ฟักทองญี่ปุ่น ผักโขม มะเขือเทศพันธุ์เนื้อ เบบี้ฮ่องเต้  ยอดฟักซาโยเต้ ลูกฟักแม้ว ถั่วแขก ผักกาดกวางตุ้ง  มะเขือม่วง  แตงกวาญี่ปุ่น  คะน้าฮ่องกง ปวยเล้ง  สลัดคอส , ผักออร์แกนิคนานาชนิด ได้แก่  บีทรูท ปวยเล้ง โอ๊คลีฟเขียว บัตเตอร์เฮด, ผลไม้สดอร่อยดีต่อสุขภาพ ได้แก่ เสาวรส ลูกพลับ  อโวคาโด ฯลฯ  สินค้าแปรรูปโครงการหลวง ได้แก่ ถั่วแดงหลวง งาดำ ข้าวกล้องไก่ป่า ข้าวกล้องเฮงาะเลอทิญ ข้าวกล้องเล่าทูหยา ข้าวดอยซ้อมมือ ควินัว นอกจากนี้ยังมีสินค้าแปรรูปตราดอยคำ ได้แก่ น้ำผลไม้ ผลไม้อบแห้ง ซอสมะเขือเทศ  น้ำผึ้งเกสรดอกลำไย  แยมผลไม้ เครื่องดื่มผงสำเร็จรูป เป็นต้น

ในสถานการณ์โควิด-19 การดูแลรักษาสุขภาพเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง ดังนั้น การเลือกซื้อผลผลิตที่ดีมีคุณภาพ  เลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ จึงเป็นสิ่งสำคัญเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันแก่ร่างกาย และยังเป็นการร่วมช่วยเหลือกลุ่มเกษตรกรให้มีรายได้เลี้ยงดูครอบครัว  อุดหนุนสินค้าโครงการหลวง ได้ที่ ท็อปส์ มาร์เก็ต, ท็อปส์ ซูเปอร์สโตร์, เซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์ ทุกสาขา พร้อมช้อปผ่าน www.tops.co.th ในเทศกาล “สินค้าโครงการหลวง    ดี อร่อย  ส่งความสด จากยอดดอยสู่ชุมชน”  ได้ตั้งแต่วันนี้จนถึง 31 สิงหาคม 2564

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่  www.tops.co.th , เฟซบุ๊ก TopsThailand, Central Food Hall หรือ แอปพลิเคชันไลน์ @TopsThailand

ท็อปส์ และ แฟมิลี่มาร์ท มอบส่วนลด 10% แก่บุคลากรทางการแพทย์

จากสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ในปัจจุบัน ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าด่านหน้าที่สำคัญที่สุดและปฏิบัติภารกิจภายใต้ความเสี่ยงก็คือบุคลากรทางการแพทย์ทุกท่าน เพื่อเป็นการแสดงความขอบคุณและตอบแทนการเสียสละ เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล ในเครือเซ็นทรัล รีเทล มอบส่วนลด 10% โดยไม่มีขั้นต่ำ ให้แก่บุคลากรทางการแพทย์ สำหรับการซื้อสินค้าราคาปกติที่ ท็อปส์เซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์ และ แฟมิลี่มาร์ท ทุกสาขา ตั้งแต่วันที่ 15 กรกฎาคม-31 สิงหาคม 2564  โดยบุคลากรทางการแพทย์สามารถรับสิทธิ์ได้ง่าย ๆ  

    • สำหรับบุคลากรทางการแพทย์ที่มีรายชื่อในระบบฐานข้อมูลเดอะวัน จะได้รับ SMS การได้รับสิทธิ์ และสามารถแจ้งหมายเลขเดอะวันหรือเบอร์โทรศัพท์ที่จุดแคชเชียร์เมื่อชำระค่าสินค้าเพื่อรับส่วนลดทันที 
    • บุคคลากรทางแพทย์ที่ยังไม่เคยลงทะเบียน เพียงแสดงบัตรประจำตัวบุคลากรทางการแพทย์เพื่อลงทะเบียนรับสิทธิ์ที่จุดบริการลูกค้า 
นอกจากการมอบส่วนลดพิเศษในการซื้อสินค้าแล้ว ตลอดเวลาที่ผ่านมา ท็อปส์ และ แฟมิลี่มาร์ท ได้สนับสนุนภารกิจต่อสู้กับ COVID-19 ของบุคลาการทางการแพทย์อย่างต่อเนื่อง ผ่านโครงการ “CRC รวมพลัง กู้วิกฤตโควิด-19” ส่งมอบสิ่งของจำเป็น อาหาร และเวชภัณฑ์ ให้กับโรงพยาบาลสนามทั่วประเทศ การสนับสนุนอุปกรณ์ทางการแพทย์ กิจกรรม“ทำด้วยใจ ไฟท์โควิด-19: Help Thai Fight Covid-19” ระดมทุนเพื่อต่อยอดการวิจัยและพัฒนากระบวนการรักษา และป้องกันโรคที่เกิดจากโควิด-1ท็อปส์ และ แฟมิลี่มาร์ท จะขอเป็นกำลังสำคัญและสนับสนุนการทำงานของบุคลากรทางแพทย์ เพราะเราเชื่อว่าทุกวิกฤตจะผ่านพ้นไปได้หากเราทุกคนร่วมมือกั

ท็อปส์ – แฟมิลี่มาร์ท จัดล็อคราคาสินค้า ราคาเริ่มต้น 9 บาท

นายสเตฟาน คูม  ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล จำกัด ในเครือเซ็นทรัล รีเทล กล่าวว่า “จากสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 ที่รุนแรงอย่างต่อเนื่อง นำไปสู่การประกาศพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 10 จังหวัด  ท็อปส์ และ แฟมิลี่มาร์ทในเครือเซ็นทรัล รีเทล สร้างความมั่นใจรับประกันสต็อคสินค้าอุปโภค-บริโภคมีปริมาณเพียงพอต่อความต้องการในทุกสาขา ทุกจังหวัดที่เปิดให้บริการ รวมทั้งวางแผนบริหารการจัดส่งสินค้าภายใต้มาตรการคุมเข้มของภาครัฐให้มีประสิทธิภาพสูงสุด พร้อมวางมาตรการเชิงรุกประสานความร่วมมือกับบริษัทผู้ผลิตสินค้าซึ่งเป็นพันธมิตรของเรา ในการจัดเตรียมสินค้าคงคลังให้มีปริมาณเพียงพอเพื่อเติมสินค้าให้กับหน้าร้านได้ทุกวัน  รวมทั้งการจัดเตรียมพนักงานและเพิ่มความถี่ในการเติมสินค้าที่ชั้นวาง และร่วมมือกับกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์  เพื่อดูแลปริมาณสินค้าให้เพียงพอ ตลอดจนจัดให้มีการจำหน่ายสินค้าในราคาประหยัด  โดยการจัด “ล็อคราคา” สินค้าอุปโภค-บริโภคที่จำเป็นในชีวิตประจำกว่า 100 รายการ ตั้งแต่วันนี้ – 7 กันยายน 2564 ที่ท็อปส์, เซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์ และ แฟมิลี่มาร์ททุกสาขา โดยสินค้า “ล็อคราคา” จัดมาครบทุกหมวดหมู่ทั้งของกิน ของใช้ อาหารสด ราคาเริ่มต้น 9 บาท อาทิ สมาร์ทผลิตภัณฑ์ปรับผ้านุ่มชนิดเติม 450 มล., ถูกใจน้ำปลาผสมขนาด 700 มล., ท็อปส์ข้าวหอมผสมคัดพิเศษ 5 กก. 129 บาท, เด็กสมบูรณ์ซอสหอยเข้มข้น 800กรัม 29 บาท, มายช้อยส์น้ำมันรำข้าว 1 ลิตร 55 บาท, คนอร์ซุปก้อนรสหมู รสไก่ไม่ใส่ผงชูรส 60 กรัม 19 บาท, มงกุฎทะเลปลาแมกเคอเรลในซอสมะเขือเทศ 145 กัม 12 บาท, เห็ดเข็มทอง แพค 200 กรัม 15 บาท, แอปเปิ้ลแดงไซส์แอล ลูกละ 11 บาท ฯลฯ ทั้งนี้การเปิดให้บริการในทุกสาขาอยู่ภายใต้มาตรการป้องกันโควิด-19 อย่างเข้มงวดเพื่อความปลอดภัยและสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าและพนักงานทุกคน  

นอกจากนั้น เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายและปลอดภัยมากขึ้นกว่าเดิม ลูกค้าสามารถสั่งซื้อสินค้าผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ www.tops.co.th รวมทั้งบริการสั่งซื้อสินค้าผ่าน GrabMart และ Foodpanda  ซึ่งบริษัทฯ ได้พยายามอย่างเต็มที่ในการดูแลระบบสั่งซื้อและบริหารการจัดส่งสินค้าให้รวดเร็วมากยิ่งขึ้น เพื่อรองรับปริมาณการสั่งซื้อที่เพิ่มขึ้น พร้อมให้ความสำคัญกับมาตรฐานป้องกันโควิด-19 คุมเข้มด้านความสะอาด ปลอดภัยในการจัดส่งสินค้าทุกออเดอร์ถึงมือลูกค้า

ติดตามรับข้อมูลข่าวสาร บริการ และสิทธิประโยชน์ต่างๆ เพิ่มเติมได้ที่ www.tops.co.th, เฟซบุ๊ก TopsThailand, FamilyMartThailand หรือ แอปพลิเคชันไลน์: @TopsThailand, @Topsonline และ @FamilyMartThailand 

GrabMart ส่งตรงผลผลิตจากเกษตรกรถึงมือผู้บริโภค

แกร็บ ประเทศไทย จับมือ กระทรวงพาณิชย์ ร่วมด้วย ท็อปส์ แฟมิลี่มาร์ท และ โลตัส สานต่อ โครงการตลาดสดคนไทย (Thai Fresh Market) บริการที่ช่วยให้ผู้บริโภคเข้าถึงผลิตภัณฑ์ด้านการเกษตรที่สดใหม่ส่งตรงจากท้องถิ่นผ่านบริการแกร็บมาร์ท (GrabMart) พร้อมทั้งสนับสนุนช่องทางในการกระจายสินค้าและเพิ่มช่องทางในการสร้างรายได้กับเกษตรกรไทยและผู้ประกอบการรายย่อย (MSME)

โครงการตลาดสดคนไทย เปิดตัวครั้งแรกในเดือนมิถุนายน 2563 โดยได้มีการนำร่องกับกลุ่มเกษตรกรและผู้ประกอบการรายย่อย ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากทั้งเกษตรกร ผู้ประกอบการรายย่อยและจากกลุ่มผู้บริโภค จึงได้มีการสานต่อโครงการและขยายความร่วมมือกับกลุ่มเกษตรกรท้องถิ่นอย่างต่อเนื่องปัจจุบันได้เปิดโอกาสให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงสินค้าและผลิตภัณฑ์ด้านการเกษตร อาทิ ผัก ผลไม้ อาหารทะเล และเนื้อสัตว์จากชุมชนต่าง ๆ รวมกว่า 800 แห่งได้โดยตรงผ่านบริการ GrabMart บนแอปพลิเคชัน Grab ด้วยบริการส่งไวภายใน 25 นาที

ดร. เก่งการ เหล่าวิโรจนกุล ผู้อำนวยการฝ่ายรัฐกิจสัมพันธ์ แกร็บ ประเทศไทย กล่าวว่า ด้วยความมุ่งในการส่งเสริมให้ผู้ประกอบการรายย่อยเข้าถึงประโยชน์ของเทคโนโลยีและก้าวทันเศรษฐกิจดิจิทัล ตามพันธกิจ ‘GrabForGood’ หรือ แกร็บเพื่อชีวิตที่ดีกว่า รวมไปถึงการสนับสนุนเกษตรกรไทยและร้านค้าท้องถิ่น ในการใช้แพลตฟอร์มของแกร็บเป็นตัวกลางในการเพิ่มช่องทางในการขายและเพิ่มรายได้ให้กับกลุ่มผู้ประกอบการและเกษตรกร เรามีความยินดีที่ได้รับความร่วมมือกับภาครัฐและภาคเอกชนในการจัดหาเกษตรกรและร้านค้าในกลุ่มผักและผลไม้ อาหารทะแลและเนื้อสัตว์ที่เข้าร่วมโครงการ ‘ตลาดสดคนไทย (Thai Fresh Market)’ โครงการ 2 บนแกร็บมาร์ท (GrabMart)

ทางด้าน นางสาวจันต์สุดา ธนานิตยอุดม ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและพันธมิตรทางธุรกิจ แกร็บ ประเทศไทย กล่าวเสริมว่า นับจากการเปิดตัวโครงการ ‘ตลาดสดคนไทย’ (Thai Fresh Market) ไปเมื่อกลางปี 2563 ได้รับการตอบรับที่ดีจากเกษตรกรและผู้ประกอบการรายย่อยในแง่ของการเพิ่มรายได้และฐานลูกค้า อีกทั้งยังได้รับการตอบรับอย่างดีจากผู้บริโภคทั้งในด้านของคุณภาพและความหลากหลายของประเภทสินค้าผ่านบริการ GrabMart ซึ่งการต่อยอดโครงการ ‘ตลาดสดคนไทย’ โครงการ 2 บนแกร็บมาร์ท (GrabMart) มุ่งเน้นในการส่งมอบความหลากหลายและสดใหม่ของสินค้าทางการเกษตรให้แก่ผู้บริโภคโดยตรง รวมไปถึงการร่วมส่งเสริมผู้ประกอบการรายย่อยและชุมชนเกษตรกรรมให้ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นเพื่อขยายธุรกิจได้ดียิ่งขึ้น

นายปริญญ์ พานิชภักดิ์ ที่ปรึกษาและคณะทำงานรองนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์ ถือเป็นหน่วงงานภาครัฐที่มีส่วนสำคัญในการช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย โดยมีพันธกิจในการพัฒนาเศรษฐกิจการค้าให้เข้มแข็ง ลดความเหลื่อมล้ำและยกระดับรายได้ของประเทศ จึงได้มีส่งเสริมให้เกษตรกรและร้านค้ารายย่อยมีช่องทางในการกระจายสินค้าออกสู่ตลาดที่เพิ่มขึ้น โดยมีการร่วมมือกับภาคเอกชนมาอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ผู้ประกอบการไทยมีโอกาสในการเพิ่มพูนรายได้ ลดความเสี่ยงเรื่องผลผลิตล้นตลาด และยังช่วยให้ธุรกิจของคนไทยสามารถอยู่รอดต่อไปได้ และเรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ แกร็บ ได้สานต่อโครงการ ‘ตลาดสดคนไทย’ เป็นครั้งที่ 2 ทำให้เกษตรกรและร้านค้ารายย่อยมีโอกาสใช้เทคโนโลยีมาช่วยในการขายสินค้าที่มีคุณภาพให้กับผู้บริโภค

นายจูเลี่ยน เทสสันนิว ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโสฝ่ายธุรกิจดิจิตอล บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล จำกัด ในเครือเซ็นทรัล รีเทล กล่าวถึงความร่วมมือในครั้งนี้ว่า ท็อปส์ และ แฟมิลี่มาร์ท ในเครือเซ็นทรัล รีเทล มีความมุ่งมั่นในการเป็นกำลังสำคัญร่วมขับเคลื่อนและผลักดันเศรษฐกิจไทย รวมไปถึงการส่งเสริมการกระจายรายได้คืนสู่คนไทยทุกระดับ โดยเฉพาะกลุ่มผู้ประกอบการรายย่อยและกลุ่มเกษตรกรทั่วประเทศ เป็นหนึ่งในพันธกิจสำคัญ เพื่อให้ครัวเรือนและชุมชนสามารถพึ่งพาตนเอง มีรายได้และเติบโตอย่างยั่งยืน

โดยการทำงานร่วมกับทุกภาคส่วน และรับซื้อตรงสินค้าทางการเกษตร รวมทั้งมีการเปิดตลาดจริงใจ FARMERS MARKET ตลาดรูปแบบใหม่ที่เรามีความตั้งใจสร้างให้เป็นแหล่งรวม ผัก ผลไม้ปลอดภัย ปลอดสารพิษ และของดีประจำจังหวัด เพื่อให้เกษตรกร ผู้ประกอบการรายย่อยมีพื้นที่จำหน่ายสินค้า ซึ่งประสบผลสำเร็จอย่างสูงทั้งการตอบรับที่ดีจากผู้บริโภค และเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการให้สามารถยกระดับคุณภาพชีวิต สร้างรายได้ สร้างความเข้มแข็งให้กับเกษตรกรกว่า 6,000 ครัวเรือนทั่วประเทศ และเพื่อช่วยให้เกษตรกรและผู้ประกอบการรายย่อย สามารถมีตลาดรองรับ ผู้บริโภคมีช่องทางในการซื้อสินค้าที่สะดวกสบายเพิ่มมากขึ้น จึงมีบริการสั่งซื้อสินค้าผ่านแกร็บมาร์ทบนแอปพลิเคชันแกร็บจากร้านท็อปส์ มาร์เก็ต, ท็อปส์ ซูเปอร์สโตร์, ท็อปส์เดลี่, เซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์, แฟมิลี่มาร์ท และ จริงใจ FARMERS’ MARKET แฟล็กชิพสโตร์สาขาบางนา ครอบคลุม 952 สาขาในพื้นที่ 37 จังหวัดที่ร้านค้าของเราเปิดให้บริการ

นางสาวปาริตา ปัทมรังสรรค์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการแผนก O2O สายงานการพาณิชย์ โลตัส กล่าวว่า โลตัส ให้การสนับสนุนเกษตรกรมาอย่างต่อเนื่องผ่านโครงการซื้อผลิตผลทางการเกษตรโดยตรงจากเกษตรกรโดยไม่ผ่านพ่อค้าคนกลาง ซึ่งนอกจากจะขยายช่องทางการจำหน่ายผักและผลไม้สดผ่านสาขาของเรากว่า 2,100 แห่งทั่วประเทศแล้ว โลตัสยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาศักยภาพและยกระดับเกษตรกรในทุกด้านเพื่อสร้างความเข้มแข็งอย่างยั่งยืน ทั้งด้านเกษตรสมัยใหม่ มาตรฐานความปลอดภัย การสร้างแบรนด์ การตลาด และการเงิน ความร่วมมือกับ แกร็บ ในครั้งนี้ จึงเป็นโอกาสที่ดีที่โลตัส จะสามารถสานต่อยอดพันธกิจในการช่วยเหลือเกษตรกร โดยเฉพาะท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

โครงการ ตลาดสดคนไทย (Thai Fresh Market) โครงการ 2 มีเกษตรกรและร้านค้ารายย่อยที่เข้าร่วมมากกว่า 800 ราย จาก 15 จังหวัดทั่วประเทศ อาทิ กรุงเทพฯ นครปฐม นครสวรรค์ ภูเก็ต โดยจำแนกสินค้าทั้งหมดออกเป็น 4 ประเภท ได้แก่ อาหารทะเล เนื้อสัตว์ ผักและผลไม้ โดยสามารถสั่งซื้อผ่านบริการแกร็บมาร์ท (GrabMart) บนแอปพลิเคชันแกร็บ (Grab) ด้วยบริการส่งไวภายใน 25 นาที และเพื่อเป็นกระตุ้นการสร้างยอดขายเพื่อสนับสนุนเกษตรกรและผู้ประกอบการ มอบส่วนลดให้ผู้ใช้บริการใหม่สูงสุด 40% เมื่อสั่งขั้นต่ำ 200 บาท โดยใช้โค้ดส่วนลด “FARM” และส่วนลดสูงสุด 180 บาท สำหรับผู้ใช้บริการปัจจุบัน เมื่อสั่งขั้นต่ำ 650 บาท โดยใช้โค้ดส่วนลด FRESH180 ตั้งแต่วันนี้ ถึง 22 สิงหาคม 2564