ทีเอ็มบีธนชาต รุกหนักตลาดบัตรเครดิต อัดแคมเปญช้อปออนไลน์

ทีเอ็มบีธนชาต หรือ ทีทีบี (ttb) เดินหน้ารุกตลาดบัตรเครดิต เจาะกลุ่มนักช้อปออนไลน์ ส่งแคมเปญ  “เสาร์ช้อป ไม่ง้อโค้ด” ทุกวันเสาร์ช้อปออนไลน์และจ่ายด้วยบัตรเครดิตทีทีบี สามารถใช้คะแนนเท่ายอดซื้อ แลกรับเครดิตเงินคืน 20% – 30% ใช้ได้ทุกร้านค้าออนไลน์ ไม่มีขั้นต่ำ ตอกย้ำความคุ้มค่าสูงสุดของคะแนนจากบัตรเครดิตทีทีบี และตอบโจทย์พฤติกรรมการช้อปปิ้งออนไลน์ผ่านบัตรเครดิตของผู้บริโภค โดยในปีนี้ธนาคารตั้งเป้ายอดการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตทีทีบีเพิ่มขึ้น 40% จากปี 2563

นางสาวนันทพร ตั้งเจริญศิริ หัวหน้าบริหารการตลาดลูกค้าบุคคลและประสบการณ์ลูกค้า ทีเอ็มบีธนชาต หรือ ทีทีบี (ttb) เปิดเผยว่า จากข้อมูลการใช้บัตรเครดิตของลูกค้าทีทีบี ในไตรมาส 2 ปีนี้ พบว่า ลูกค้าบัตรเครดิตทีทีบีมีการใช้จ่ายในหมวดช้อปปิ้งออนไลน์เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องถึง 30% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว โดยหมวดที่เติบโตสูงที่สุด ได้แก่ หมวด e-Commerce, e-Wallet, Market Place และ Food Delivery ดังนั้น ด้วยเป้าหมายของธนาคารที่ต้องการสร้างชีวิตทางการเงินที่ดีให้กับคนไทย ทั้งวันนี้และอนาคต เราจึงได้พัฒนาและต่อยอดบัตรเครดิตทีทีบี ด้วยกลยุทธ์การชูจุดเด่นเรื่องคะแนนสะสมที่ได้เร็ว และแลกคะแนนคุ้มช่วยประหยัดในการใช้จ่ายออนไลน์ ตอบโจทย์ความต้องการและไลฟ์สไตล์ของสมาชิกบัตรเครดิตอย่างเต็มที่

ล่าสุด บัตรเครดิตทีทีบีได้เปลี่ยนทุกการใช้จ่ายให้เป็นคะแนนสะสมที่คุ้มค่ามากกว่าเดิม พร้อมเปิดตัวแคมเปญ เสาร์ช้อปไม่ง้อโค้ด ตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค. – 25 ก.ย. 2564 โดยเมื่อใช้จ่ายออนไลน์ด้วยบัตรเครดิตทีทีบี ช้อปคุ้มได้ทุกร้าน ทุกวันเสาร์ ไม่ต้องรอโค้ด ใช้คะแนนแลกรับเครดิตเงินคืนสูง 20% – 30% (จำกัดการแลกคะแนนสะสม ไม่เกิน 2,000 คะแนนต่อบัญชีบัตรหลัก/วัน ยกเว้นหมวดการท่องเที่ยว จองที่พัก และสายการบิน) โดยบัตรเครดิตทีทีบี โซ ฟาสต์ (ttb so fast) และบัตรเครดิตทีทีบี แอปโซลูท (ttb absolute) ใช้คะแนนเท่ายอดซื้อ แลกรับเงินคืน 20% ด้านบัตรเครดิตทีทีบี รีเซิร์ฟ ซิกเนเจอร์ (ttb reserve signature) ใช้คะแนนเท่ายอดซื้อ แลกรับเงินคืน 25% และบัตรเครดิตทีทีบี รีเซิร์ฟ อินฟินิท (ttb reserve infinite) ใช้คะแนนเท่ายอดซื้อ แลกรับเงินคืน 30%

ธนาคารได้พัฒนาแคมเปญเสาร์ช้อปไม่ง้อโค้ด ด้วยความเข้าใจพฤติกรรมและความต้องการของลูกค้าอย่างแท้จริง โดยการทลายข้อจำกัดของการใช้โค้ดส่วนลด แล้วตอบโจทย์ด้วยคะแนนจากบัตรเครดิตทีทีบี ได้แก่

1) ลดความกังวลใจ และไม่ต้องนอนดึกเพื่อกดรับโค้ดตามเวลา เพราะใช้คะแนนแลก สามารถช้อปวันเสาร์ เวลาไหนก็ได้  2) ลดข้อจำกัดเรื่องจำนวนสิทธิ์หรือโค้ดหมด เพราะลูกค้าบัตรเครดิตทีทีบีทุกคน สามารถใช้คะแนนสะสมแลกได้ 3) ลดข้อจำกัดเรื่องการใช้โค้ดที่ได้เฉพาะร้านค้าที่กำหนด เพราะใช้ได้ทุกร้านค้าออนไลน์ (ยกเว้นหมวดท่องเที่ยว จองที่พัก และสายการบิน) และ 4) ลดข้อจำกัดเรื่องยอดซื้อขั้นต่ำเพื่อใช้โค้ดส่วนลด เพราะไม่มีกำหนดการแลกคะแนนขั้นต่ำ นอกจากนี้ บัตรเดรดิตทีทีบี ยังสะสมคะแนนได้เร็ว เพียงใช้จ่ายทุก ๆ 10 บาท รับ 1 คะแนนจากทุกร้าน

“ทั้งนี้ แคมเปญเสาร์ช้อปไม่ง้อโค้ด เป็นแคมเปญแรกของบัตรเครดิตทีทีบี หลังจากการรวมกิจการของทีเอ็มบีและธนชาตเป็น ทีทีบี และในปีนี้เราเดินหน้าเต็มที่ในการรุกตลาดบัตรเครดิต โดยจะมีอีกหลายแคมเปญที่จะทยอยออกมาอย่างต่อเนื่อง พร้อมมอบสิทธิประโยชน์ ประหยัด และคุ้มค่าทุกการใช้จ่ายที่จะตอบโจทย์ความต้องการทุกไลฟ์สไตล์ให้กับลูกค้า เพื่อช่วยสร้างชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้นให้กับลูกค้าต่อไป” นางสาวนันทพร กล่าว

ลูกค้าปัจจุบันที่มีบัตรเครดิตทีทีบี และลูกค้าธนชาตเดิมที่มีบัตรเครดิตแบบสะสมคะแนน สามารถชำระเงินผ่านบัตรที่แอปพลิเคชันช้อปปิ้ง เพื่อใช้จ่ายได้ทันที โดยลงทะเบียน SMS ทุกวันเสาร์ รับสิทธิ์แลกคะแนน ภายในวันที่ทำรายการ (1 SMS ต่อ 1 รายการใช้จ่าย) พิมพ์ TSA ตามด้วยคะแนนเท่ายอดซื้อ เว้นวรรค ตามด้วยหมายเลขบัตรเครดิต 12 หลักสุดท้าย ส่งมาที่ 4806026 (อัตราค่าส่ง SMS ขึ้นอยู่กับเครือข่ายผู้ให้บริการของท่าน)

สำหรับผู้ที่สนใจสมัครบัตรเครดิต ttb so fast ที่นอกจากจะใช้ร่วมช้อปปิ้งในแคมเปญเสาร์ช้อปไม่ง้อโค้ดได้แล้ว ยังได้รับสิทธิพิเศษ ได้แก่ สิทธิ์ผ่อนจ่ายในอัตราดอกเบี้ย 0% นาน 3 เดือนกับ ttb so goood พร้อมรับฟรี 10,000 คะแนน และรับเพิ่มฟรีประกันโควิด-19เมื่อสมัครผ่านแอป ttb touch ตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.ttbbank.com/th/personal/credit-cards/card-type/ttb-so-fast<http://www.ttbbank.com/th/personal/credit-cards/card-type/ttb-so-fast> หรือติดต่อที่ ttb contact center 1428

ทีเอ็มบีธนชาต ส่งมาตรการพักชำระหนี้ 2 เดือน

ทีเอ็มบีธนชาต ส่งมาตรการพักชำระหนี้ 2 เดือน บรรเทาความเดือดร้อนให้ลูกค้ารายย่อยและลูกค้าธุรกิจ ที่ได้รับผลกระทบจากการล็อกดาวน์ เริ่มลงทะเบียนวันที่ 19 ก.ค. –  15ส.ค. 64

กรุงเทพฯ 19 ก.ค. 2564 – ทีเอ็มบีธนชาต หรือ ทีทีบี (ttb) เดินหน้ามาตรการ “ตั้งหลัก” เพื่อให้ความช่วยเหลือด้านการเงินเพิ่มเติมแก่ลูกค้าทุกกลุ่มของธนาคาร ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยล่าสุด ธนาคารออกมาตรการพิเศษตามแนวทางของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เพื่อให้ความช่วยเหลือแก่ลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากการยกระดับมาตรการป้องกันการควบคุมโรค ตามคำสั่งของ ศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) โดยพักการชำระเงินต้นและดอกเบี้ยเป็นระยะเวลา 2 เดือน ให้กับลูกค้าบัตรเครดิต บัตรกดเงินสด สินเชื่อบ้าน สินเชื่อบุคคล สินเชื่อรถยนต์ ทีทีบีไดรฟ์ และลูกค้าสินเชื่อเอสเอ็มอี  ซึ่งเป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบโดยตรง ประกอบด้วย ลูกค้าที่เป็นนายจ้างและลูกจ้างในสถานประกอบการ ทั้งในพื้นที่ควบคุมฯ และนอกพื้นที่ควบคุมฯ ที่ต้องปิดกิจการจากมาตรการของทางการ และมาตรการช่วยเหลืออื่น ๆ สำหรับกลุ่มที่ได้รับผลกระทบโดยอ้อม ซึ่งเป็นลูกค้าที่ยังเปิดกิจการได้ แต่รายได้ลดลงจากมาตรการควบคุมการระบาดของภาครัฐ เพื่อเพิ่มสภาพคล่องทางการเงินและช่วยให้ลูกค้ามีชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้นได้ในสถานการณ์วิกฤต โดยธนาคารมีแนวทางช่วยเหลือ ดังนี้

มาตรการสำหรับลูกค้าบัตรเครดิต บัตรกดเงินสด สินเชื่อบ้าน และสินเชื่อบุคคล ลูกค้าที่ได้รับผลกระทบโดยตรง สามารถพักชำระค่างวด ทั้งเงินต้นและดอกเบี้ย นาน 2 เดือน หลังจากได้รับการอนุมัติเข้าร่วมโครงการ โดยหลักเกณฑ์เป็นไปตามที่ธนาคารกำหนด และสำหรับลูกค้าที่ได้รับผลกระทบโดยอ้อม ธนาคารจะมีมาตรการช่วยเหลือเพิ่มเติม โดยพิจารณาจากความเหมาะสมกับลูกค้าแต่ละราย เช่น การลดยอดผ่อนชำระเหลือ 70% ของยอดผ่อนชำระปกติ หรือ พักชำระเงินต้นโดยผ่อนชำระเฉพาะดอกเบี้ย เป็นเวลา 6 เดือน หรือเปลี่ยนยอดคงค้างในบัตรเครดิตหรือบัตรกดเงินสด เป็นยอดผ่อนชำระ 48 เดือน เป็นต้น

มาตรการสำหรับลูกค้าสินเชื่อรถยนต์ ทีทีบีไดรฟ์  โดยในกลุ่มรถยนต์ใหม่ รถยนต์ใช้แล้ว รถแลกเงิน และเล่มแลกเงิน (รถแลกเงินแบบลดต้นลดดอก) สำหรับลูกค้าที่ได้รับผลกระทบรุนแรงหรือต้องปิดกิจการ หรือไม่สามารถให้บริการได้ ตามคำสั่งของ ศบค. ธนาคารจะมีมาตรการพิเศษ พักชำระค่างวดสูงสุดไม่เกิน 2 งวด สำหรับลูกค้าที่ได้รับผลกระทบ ธนาคารจะพิจารณาตามความเหมาะสมกับลูกค้าแต่ละราย เช่น พักชำระค่างวด ลดค่างวด และขยายเวลาผ่อนชำระ เป็นต้น และในกลุ่มที่ได้รับผลกระทบโดยอ้อม ธนาคารจะพิจารณา ลดค่างวด หรือขยายเวลาผ่อนชำระ หรือมาตรการอื่น ๆ

นอกจากนี้ สำหรับลูกค้าสินเชื่อเล่มแลกเงิน (รถแลกเงินแบบลดต้นลดดอก) ที่ได้รับผลกระทบ ธนาคารมีมาตรการให้พักชำระค่างวด หรือลดค่างวดผ่อนชำระสูงสุด 30% และคิดอัตราดอกเบี้ยสูงสุดไม่เกิน 22% เป็นระยะเวลาไม่เกิน 6 เดือน

มาตรการสำหรับลูกค้าสินเชื่อเอสเอ็มอี ที่มีวงเงินกู้ระยะยาว วงเงินกู้เบิกเกินบัญชี(O/D) และวงเงินสินเชื่อหมุนเวียน ธนาคารจะพักชำระเงินต้นและดอกเบี้ยสูงสุด นาน 2 เดือน

ทั้งนี้ หลักเกณฑ์การพิจารณาเป็นไปตามที่ธนาคารกำหนด ซึ่งธนาคารมีความห่วงใยลูกค้าทุกกลุ่มที่ได้รับผลกระทบ โดยพร้อมจะช่วยเหลือและยืนหยัดเคียงข้างไปกับลูกค้า เพื่อก้าวข้ามสถานการณ์โควิด-19 ไปด้วยกัน และสามารถต่อยอดสร้างชีวิตทางการเงินที่ดี ทั้งในวันนี้และอนาคต

ลูกค้าที่สนใจศึกษาข้อมูลมาตรการช่วยเหลือของธนาคารและต้องการสมัครเข้าร่วมโครงการ สามารถลงทะเบียนได้ตั้งแต่วันที่ 19 กรกฎาคม – 15สิงหาคม 2564 โดย

  • ลูกค้ารายย่อยลงทะเบียนผ่านโครงการ “ตั้งหลัก” ในเว็บไซต์www.ttbbank.com/tang-luk
  • ลูกค้าเอสเอ็มอี (นิติบุคคล) และลูกค้าธุรกิจ ลงทะเบียน หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ เจ้าหน้าที่บริหารความสัมพันธ์ลูกค้าธุรกิจ หรือ ศูนย์บริการลูกค้าธุรกิจ ทีทีบี โทร. 0 2643 7000 กด 1 กด 2

อีเมล: [email protected] (ระบุข้อมูล: ชื่อบริษัท/เลขจดทะเบียนนิติบุคคล (13 หลัก)/ชื่อ-นามสกุลผู้ติดต่อ/เบอร์โทรศัพท์มือถือ)

  • ลูกค้าเอสเอ็มอี (บุคคลธรรมดา) ลงทะเบียน หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ ทีเอ็มบีธนชาต คอนแทค เซ็นเตอร์โทร. 1428 กด 3 กด 2

ทีเอ็มบีธนชาต คาดรวมเป็นหนึ่งเดียวทั่วประเทศ 5 ก.ค. นี้

ทีเอ็มบีธนชาต หรือ ทีทีบี (ttb) ย้ำความมั่นใจแก่ลูกค้าบัญชีเงินฝากธนชาตทั่วประเทศ โดยตั้งแต่วันที่ กรกฎาคม 2564 เมื่อการรวมกิจการของทีเอ็มบีและธนชาตเสร็จสมบูรณ์ ประเภทบัญชีและเลขที่บัญชีเงินฝากของธนชาตจะเปลี่ยนเป็นบัญชีเงินฝากของทีเอ็มบีธนชาต ตามที่ธนาคารได้เคยส่งจดหมายรายละเอียด พร้อม QR Code ให้สแกนเข้าไปดูข้อมูลเฉพาะของลูกค้าแต่ละบุคคล ดังนั้น ลูกค้าสามารถใช้เลขบัญชีเงินฝากใหม่ทำธุรกรรมการเงินได้อย่างต่อเนื่อง พร้อมรับสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ที่จะเพิ่มขึ้น เพื่อช่วยให้ลูกค้ามีชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้นทั้งในวันนี้ และอนาคต

นางสาวนันทพร ตั้งเจริญศิริ หัวหน้าบริหารการตลาดลูกค้าบุคคลและประสบการณ์ลูกค้า ทีเอ็มบีธนชาต หรือ ทีทีบี (ttbเปิดเผยว่า ตามที่การรวมกิจการของทีเอ็มบีและธนชาตได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง และมีกำหนดจะเสร็จสมบูรณ์ในวันที่ กรกฎาคมนี้ ทุกผลิตภัณฑ์และช่องทางบริการของทั้งสองธนาคารจะรวมเป็นหนึ่งเดียว ทั้งนี้ ในกลุ่มของลูกค้าบัญชีเงินฝากของธนชาต รวมกว่า 1.7 ล้านบัญชีทั่วประเทศ ธนาคารได้มีการแจ้งรายละเอียดการเปลี่ยนแปลงรวมไปถึงการเพิ่มเติมในสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ โดยส่งจดหมายพร้อมด้วย QR Code ให้สแกนเข้าไปดูข้อมูลเฉพาะของแต่ละบุคคล ตั้งแต่เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา เพื่อเตรียมพร้อมให้ลูกค้าสามารถดำเนินธุรกรรมการเงินอย่างราบรื่นและต่อเนื่อง รวมไปถึงการมอบสิทธิประโยชน์เพิ่มเติม ที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการของลูกค้า นำไปสู่การยกระดับประสบการณ์ทางการเงินที่ดียิ่งขึ้นอย่างแน่นอน

โดยตั้งแต่วันที่ กรกฎาคมนี้ ประเภทบัญชีและเลขที่บัญชีของธนชาตเดิม จะเปลี่ยนใหม่เป็นเลขที่บัญชีของทีเอ็มบีธนชาต ตามที่ธนาคารได้แจ้งลูกค้าทางจดหมายเป็นรายบุคคล ดังนั้น ลูกค้าสามารถใช้เลขที่บัญชีเงินฝากใหม่ทำธุรกรรมการเงินได้อย่างต่อเนื่อง โดยไม่ต้องรีบเร่งในการเปลี่ยนสมุดบัญชี แต่สำหรับลูกค้าที่ต้องการรับสมุดบัญชีใหม่ สามารถนำสมุดบัญชีธนชาตเดิม พร้อมบัตรประชาชนมาติดต่อขอรับได้ที่ทีเอ็มบีธนชาตทุกสาขา โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ในส่วนของบัตรเอทีเอ็มและบัตรเดบิตของธนชาตยังคงใช้งานได้อย่างต่อเนื่องถึงวันที่ 15 มกราคม 2565 โดยลูกค้าสามารถขอออกบัตรเดบิตทีเอ็มบีธนชาตใหม่ โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ได้ตั้งแต่วันที่ 5 กรกฎาคม 2564 – วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2565 ผ่านโมบายแอปพลิเคชัน ttb touch หรือสามารถขอออกบัตรเดบิตใหม่เพื่อรับสิทธิประโยชน์ที่เพิ่มขึ้นได้ ตั้งแต่วันนี้ที่ทีเอ็มบีธนชาตทุกสาขา” นางสาวนันทพร กล่าวย้ำ

นอกจากนี้ เพื่อเพิ่มความสะดวกคล่องตัวในการทำธุรกรรม ลูกค้าสามารถดาวน์โหลดโมบายแอปพลิเคชัน ttb touch ใช้ร่วมกับบัญชีเงินฝากของทีเอ็มบีธนชาตได้ และในส่วนของบริการ PromptPay SMS alert การหักบัญชีเงินฝากอัตโนมัติ การหักชำระค่าสินเชื่อ การฝากเงินเข้าอัตโนมัติ หรือเพื่อใช้รับเงินเดือน (Payroll) ที่ลูกค้าสมัครใช้บริการไว้ ยังคงใช้บริการได้อย่างต่อเนื่องตามปกติ โดยธนาคารจะดำเนินการเปลี่ยนแปลงเลขที่บัญชีเป็นเลขที่บัญชีใหม่ให้อัตโนมัติ

ทั้งนี้ ลูกค้าธนชาตที่มีบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ฟรีเว่อร์ เงินฝากออมทรัพย์ฟรีเว่อร์ไลท์ เงินฝากออมทรัพย์คุ้มครองอุบัติเหตุ และเงินฝากออมทรัพย์คุ้มค่า บัญชีของลูกค้าจะเปลี่ยนเป็นบัญชี ทีทีบี ออลล์ฟรี ซึ่งมีสิทธิประโยชน์ตอบโจทย์แนวคิดการใช้ชีวิตฟรีรอบด้าน ได้แก่ ฟรี ธุรกรรม กด โอน จ่าย เติม ที่ตู้เอทีเอ็มทุกธนาคาร ทั่วประเทศ และแอปพลิเคชัน ttb touch ฟรี ประกันอุบัติเหตุ เบิกค่ารักษาพยาบาลได้สูงสุด 3,000 บาท ต่อครั้ง ไม่จำกัดครั้ง ไม่ต้องสำรองเงินจ่ายก่อน ฟรี วงเงินคุ้มครองอุบัติเหตุ 20 เท่า สูงสุด ล้านบาท ฟรี ประกันช้อปออนไลน์ ฟรี ค่าธรรมเนียมจากการเปลี่ยนแปลงทุกสกุลเงินทั่วโลก และ ฟรี ประกันเดินทางต่างประเทศ

“ธนาคารขอให้ลูกค้ามั่นใจได้ว่าการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ ลูกค้าจะได้รับความสะดวกและสามารถทำธุรกรรมได้อย่างต่อเนื่อง รวมถึงได้รับสิทธิประโยชน์เพิ่มมากขึ้น ตอบโจทย์ครอบคลุมทุกความต้องการ เพื่อเป็นรากฐานในการสร้างชีวิตทางการเงินที่ดีให้กับลูกค้าทั้งในวันนี้ และอนาคต” นางสาวนันทพร กล่าวสรุป

รายละเอียดเพิ่มเติมที่ ttbbank.com/welcome หรือสอบถามที่ ttb contact center โทร. 1428 และ ธนชาต contact center โทร. 1770

อัปเกรด “ทีทีบี สมาร์ทพอร์ต” เริ่มเสนอขาย 7 มิ.ย. นี้

ทีเอ็มบีธนชาต หรือ ทีทีบี (ttb) ยกระดับประสบการณ์การลงทุนเพื่ออนาคต ผ่าน “ทีทีบี สมาร์ทพอร์ต” (ttb smart port) รูปแบบใหม่ ตอบโจทย์ความต้องการของนักลงทุนได้ดียิ่งขึ้น เพิ่มความยืดหยุ่นให้ปรับพอร์ตได้ทันท่วงที ขายคืนได้เงินเร็วไม่ติดปัญหาเรื่องสภาพคล่อง แสดงมูลค่าหน่วยลงทุน (NAV) เหมือนการซื้อขายกองทุนทั่วไป พร้อมมีผู้เชี่ยวชาญระดับโลกจัดพอร์ตการลงทุนที่ง่ายเลือกได้ถึง 5 พอร์ต ช่วยเพิ่มโอกาสได้รับผลตอบแทนที่ดีขึ้น สามารถบรรลุเป้าหมายการลงทุนตามต้องการได้อย่างสบายใจ นอกจากนี้ ยังขยายโอกาสให้เข้าถึงการลงทุนได้ง่ายขึ้น ด้วยเงินลงทุนเริ่มต้นเพียง 1 บาท เพื่อให้ลูกค้ามีชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้นทั้งวันนี้และในอนาคต โด ttb smart port จะเริ่มเสนอขายตั้งแต่วันที่ 7 มิถุนายน 2564

นางกิดาการ  ชัฏสุวรรณ หัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหารผลิตภัณฑ์กองทุนรวม ทีเอ็มบีธนชาต หรือ ทีทีบี (ttb) เปิดเผยว่า ด้วยเป้าหมายของทีเอ็มบีธนชาตที่ต้องการสร้างชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้นให้กับลูกค้าทั้งในวันนี้และอนาคต โดยมุ่งมั่นออกแบบโซลูชันทางการเงินที่ตรงกับความต้องการของลูกค้าแต่ละกลุ่ม ในแต่ละช่วงชีวิต ทั้งนี้สำหรับกลุ่มลูกค้าที่มีความพร้อม ต้องการเริ่มลงทุน หรือเพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนจากการลงทุนที่มากขึ้น ธนาคารได้พัฒนา ttb smart port รูปแบบใหม่ ซึ่งได้ยกระดับมาจาก TMB Smart Port พอร์ตการลงทุนที่ได้รับผลตอบรับอย่างดีจากนักลงทุนจำนวนมากอย่างต่อเนื่อง โดยจากผลการดำเนินงานที่ผ่านมา ตั้งแต่จัดตั้งพอร์ตเมื่อวันที่ 1 มกราคม 2560 พอร์ตที่ความเสี่ยงสูงสุด (Aggressive) สามารถทำผลตอบแทนได้เฉลี่ย 7.02% ต่อปี ซึ่งได้พิสูจน์ด้วยระยะเวลาการลงทุนแม้ในช่วงวิกฤตโควิดเดือนมีนาคมที่ผ่านมา โดย “ttb smart port” จะเป็นการยกระดับประสบการณ์การลงทุนขึ้นไปอีกขั้น เป็นคำตอบการลงทุนสำหรับทุกคน ด้วยพอร์ตการลงทุนที่ง่าย สะดวก เลือกได้ตามสไตล์ของลูกค้า มีผู้เชี่ยวชาญดูแลอย่างใกล้ชิด ช่วยให้ลูกค้าบรรลุเป้าหมายการลงทุนตามต้องการได้อย่างสบายใจ

ttb smart port รูปแบบใหม่ พัฒนาขึ้นด้วย 3 กลยุทธ์สำคัญ ได้แก่ 1. Fund selection ผ่านกระบวนการที่คัดเฉพาะกองทุนที่มีผลการดำเนินงานโดดเด่นจากทั่วโลก 2. Asset allocation จัดวางสัดส่วนการลงทุนอย่างเหมาะสมให้เป็นไปตามความเสี่ยงและเป้าหมายการลงทุนของลูกค้า และ 3. Rebalancing portfolio ด้วยทีมงานมืออาชีพที่คอยติดตามสภาวะตลาด ดูแลอย่างใกล้ชิด โดยลูกค้าสามารถเลือกลงทุนผ่าน 5 พอร์ต ได้ง่าย ๆ ตามระดับความเสี่ยงที่เหมาะสม

  1. ttb smart port preserver (TSP-PRESERVER) ลงทุนในตราสารหนี้ไม่น้อยกว่า 80%
  2. ttb smart port nurturer (TSP-NURTURER) ลงทุนในตราสารทุนไม่เกิน 40%
  3. ttb smart port balancer (TSP-BALANCER) ลงทุนในตราสารทุนไม่เกิน 80%
  4. 4. ttb smart port explorer (TSP-EXPLORER) ลงทุนในตราสารทุน 0-100%
  5. ttb smart port go-getter (TSP-GOGETTER) ลงทุนในตราสารทุนไม่น้อยกว่า 80%

ttb smart port รูปแบบใหม่นี้ ได้มีปรับปรุงเชิงรุกโดยใช้ข้อมูลเชิงลึก (Insight) มาตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าให้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม พร้อมขยายโอกาสการลงทุนได้ง่ายขึ้นสำหรับทุกคน ด้วยเงินลงทุนเริ่มต้นเพียง 1 บาท ไม่มีค่าธรรมเนียมแรกเข้า เพิ่มความยืดหยุ่นมากขึ้น และเพิ่มความโปร่งใส สำหรับการลงทุนต่างประเทศ จะลงทุนตรงใน Master Fund ซึ่งนักลงทุนจะเห็นได้ชัดเจนมากขึ้นว่าลงทุนในกองทุนต่างประเทศกองทุนใด การซื้อขายสับเปลี่ยนกองทุนจะคล่องตัวขึ้นแม้อยู่ในช่วงปรับพอร์ต ไม่ติดปัญหาเรื่องสภาพคล่องหรือเสียโอกาสการลงทุน เพราะจะได้รับเงินค่าขายคืนภายใน 5 วันทำการหลังจากวันที่สั่งขาย (T+5) และสามารถติดตามผลการดำเนินงานและรู้กำไร/ขาดทุน จากการแสดงรายละเอียดมูลค่าหน่วยลงทุน (NAV) เหมือนการซื้อขายกองทุนทั่วไป ผ่านการแจ้งเตือนในแอป touch ที่ง่าย ครบ จบ ที่เดียว

“เพื่อให้ ttb smart port เป็นคำตอบการลงทุนสำหรับทุกคนช่วยให้ลูกค้าเลือกแผนการลงทุนได้เอง เลือกผลตอบแทนที่เหมาะกับตัวเองที่สุด เพื่อให้ลูกค้าบรรลุเป้าหมายการลงทุนได้อย่างต้องการ ธนาคารได้ร่วมเป็นพันธมิตรกับ บลจ.ธนชาต (Thanachart Fund Eastspring) โดยมอบหมายให้ Amudi Asset Management เป็นผู้รับดำเนินการงานด้านจัดการลงทุนของกองทุน ซึ่ง Amudi Asset Management เป็นบริษัทจัดการสินทรัพย์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในยุโรป มีชื่อเสียงและความเชี่ยวชาญสามารถคัดเลือกกองทุนที่มีคุณภาพจากบลจ.ชั้นนำทั้งในและต่างประเทศกว่า 30,000 กองทุน มาจัดพอร์ตการลงทุนที่เหมาะสม ช่วยดูแลปรับพอร์ตของ ttb smart port ได้ตลอดเวลาตามสภาวะตลาดได้อย่างทันท่วงที นอกจากนี้ ธนาคารยังมีแผนที่จะเพิ่มพอร์ตลงทุนใหม่ ๆ ใน ttb smart port เพื่อเป็นทางเลือกการลงทุนที่ทำให้ลูกค้ามีชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้นทั้งในวันนี้และอนาคตต่อไป” นางกิดาการ กล่าวสรุป

ทั้งนี้ ลูกค้า ttb smart port เดิม ที่สนใจลงทุน ttb smart port รูปแบบใหม่ สามารถแจ้งความยินยอมเพื่อให้ธนาคารยกเลิกและดำเนินการขายหน่วยลงทุนเดิมทั้งหมด เพื่อนำไปลงทุนใน ttb smart port รูปแบบใหม่ ที่จะมีผลวันที่ 30 กรกฏาคม 2564 โดยธนาคารจะเลือกพอร์ตลงทุนปลายทางตามระดับความเสี่ยงการลงทุนที่ลูกค้าเคยลงทุนไว้

ttb smart port จะเริ่มเสนอขายตั้งแต่วันที่ 7 มิถุนายนนี้ เป็นต้นไป ผู้สนใจสามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ทีเอ็มบีธนชาตทุกสาขา หรือ ttb investment line โทร.1428 กด #4 ทุกวันจันทร์ – วันศุกร์ ตั้งแต่เวลา 9:00 – 17:30 น. (ยกเว้นวันหยุดธนาคาร)