‘ทีวี ธันเดอร์’ ขายคอนเทนต์ต่างชาติ คาดรายได้ปี 64 กว่า 30 ล้าน

ในสถานการณ์ที่ทั่วโลกประสบวิกฤติโควิด-19นั้น ต้องยอมรับว่าในแวดวงบันเทิงล้วนแล้วแต่เจอ ผลกระทบไม่แพ้แวดวงอื่นๆ แต่ถึงอย่างไรนั้นในการทำงานก็ต้องมีการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ที่ดี  นายณฐกฤต วรรณภิญโญ ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานการพัฒนาธุรกิจ บริษัท ทีวี ธันเดอร์ จำกัด (มหาชน) มั่นใจปีนี้บริษัทจะสามารถเติบโต ได้ 10-15% เมื่อเทียบกับปี 2563 แม้ประเทศไทยจะยังเผชิญกับสถานการณ์วิกฤตโควิด-19 ที่ยังไม่ดีขึ้นจากปีก่อน

สถานการณ์โควิด-19 เป็นปัญหาที่เจอกันทุกวงการ อย่างเราอยู่ในวงการบันเทิงแน่นอนได้รับผลกระทบนี้เช่นกัน เพราะไม่สามารถถ่ายทำทั้งรายการ และซีรี่ส์ได้ แต่ในระหว่างที่ประสบกับวิกฤติระดับ โลกเช่นนี้ เราก็ได้ปรับกลยุทธ์ในการทำงานหลายส่วน ทั้งการบริหารต้นทุนอย่างเหมาะส รวมถึงการสร้างช่องทางการหารายได้ในแบบที่บริษัทไม่เคยทำ และยังไม่ได้ focus มาก่อน อย่างการขายลิขสิทธิ์ คอนเทนต์ไปต่างประเทศ ตั้งแต่ต้นปี ทีวี ธันเดอร์ ตั้งเป้าเรื่องนี้อย่างชัดเจน เราได้มีการเปิดเจรจาตกลง ขายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ไปในประเทศญี่ปุ่น ส่วนประเทศอื่นๆ ในเอเชีย ก็อยู่ในขั้นของการเจรจาพูดคุยเรื่องตัวเลข 

โดยในปี 2564 ทีวี ธันเดอร์ ตั้งเป้าขายคอนเทนท์ไว้ที่ 30 ล้านบาท คาดหวังว่าในอนาคตรายได้ในส่วนการขายลิขสิทธิ์จะเติบโตขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ เนื่องจากความต้อง กา  คอนเทนต์ของไทยในต่างประเทศ ขยายตัวเพิ่มมากขึ้น ซึ่งเรามีกลยุทธ์ในการขายทั้งคอนเทนท์ที่มีอยู่ในมือ และแผนในการสร้างคอนเทนต์เพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นซีรี่ส์ที่มีความหลากหลายของบท เน้นความเป็นสากลมากขึ้น เราไม่เพียงแต่มองที่ความต้องการของคนดูในประเทศไทย แต่เรายังมองไปที่ความต้องการของตลาดต่างปรเทศอีกด้วย รวมถึงรายการวาไรตี้ต่างๆ ถือเป็นสินทรัพย์ที่มีอยู่แล้วโดยไม่ต้องลงทุน หรือเพิ่มเม็ดเงิน ประเมินสัดส่วนรายได้จากการเริ่มต้นขายคอนเทนท์อยู่ที่ประมาณ 8-10% ของรายได้ รวมทั้งหมด วันนี้เรามองข้ามช็อตถึงการผลิตงานปี 65 แล้ว เราเริ่มสะสม backlog ในมือไว้เพื่อเตรียม สร้างการเติบโตเมื่อสถานการณ์กลับสู่ภาวะปกติ เชื่อว่าบริษัทจะกลับมามีความสามารถในการทำกำไร ได้ดีกว่าเดิมแน่นอน

‘มาสเตอร์คีย์’ ครองแชมป์วาไรตี้บันเทิงอันดับ 1 ของไทย 

เดินทางสร้างความสุขให้แฟนเจ้าประจำมายาวนานกว่า 25 ปี ทำให้ มาสเตอร์คีย์ ทางหน้าจอช่อง 3 ติดท็อปไฟว์รายการที่อยู่คู่คนไทยจนกลายเป็นตำนาน ถือเป็นรายการวาไรตี้บันเทิงที่อยู่มานานจนได้อันดับที่หนึ่งไปครอบครอง สร้างสรรค์ผลงานดีๆ ภายใต้การนำของผู้บริหารหนุ่มไฟแรง จ๊อป-ณฐกฤต วรรณภิญโญ ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานการพัฒนาธุรกิจ บริษัท ทีวี ธันเดอร์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า   

มาสเตอร์คีย์สำหรับผมคือสัญลักษณ์ความบันเทิงแบบทีวีของคนไทยที่เชื่อมโยงกับตัวตนของทีวี ธันเดอร์ ด้วยความที่อยู่คู่คนดูมาอย่างยาวนาน เป็นวาไรตี้บันเทิงที่ไม่ยึดติดกับรูปแบบ เพราะปกติรายการทีวีจะต้องมีรูปแบบหรือโครงสร้างหลักที่มักไม่ค่อยเปลี่ยนแต่มาสเตอร์คีย์มีความแข็งแรงในเชิง branding มากจนสามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบให้อยู่ได้กับทุกยุคสมัย ภายใต้หลักการคำนึงถึงพฤติกรรมของคนดูด้วยความเข้าใจ จึงไม่ส่งผลกระทบที่ไม่ดีต่อรายการ คนจะจดจำพิธีกรรายการคือพี่นีโน่-เมทนี บุรณศิริ เสมือนเป็นโลโก้ของรายการไปแล้ว เราจึงสามารถเดินทางมาได้ถึงตอนนี้

หากย้อนกลับไปในช่วงเริ่มต้นทำรายการ มาสเตอร์คีย์ ได้ช่วงเวลา Day Time ในการออกอากาศซึ่งเป็นเวลาที่ไม่ค่อยมีคนดูด้วยซ้ำกลุ่มคนดูหลักของรายการมีอายุ 35+ ซึ่งเป็นกลุ่มใหญ่ที่สุดของทีวี คอนเทนท์ของเราจึงต้องเหมาะสมไม่เร็วเกินไป ไม่แปลกเกินไป ช่วงยุคหนึ่งคนชอบดูดาราสร้างเสียงหัวเราะ มาสเตอร์คีย์ก็เป็นรายการเกมโชว์ที่เล่นกับดาราด้วยกัน มีทั้งเสียงหัวเราะและการลุ้นเกม หลังจากนั้นก็เป็นยุคหนึ่งที่คนดูหันมาชอบดูคนทางบ้านแสดงความสามารถ อย่างเช่น การร้องเพลง เราก็ทำคอนเทนท์เชิญคนทางบ้านมาร้องเพลง ไม่ว่าจะเป็นเพลงแนวป๊อบจนถึงเพลงลูกทุ่ง มาที่ปัจจุบันคนชอบที่จะดูดาราแสดงความสามารถที่ไม่คุ้นตา เราก็ทำคอนเทนท์ที่เชิญดารากับคนทางบ้านมาร้องเพลงแข่งกันเราทำงานภายใต้ข้อจำกัดหลายอย่างจนประสบความสำเร็จมาจนถึงทุกวันนี้ ผมมองว่าเป็นโจทย์ที่ท้าทายมากๆ ที่จะทำให้คนดูหวนคิดถึงเรา เสมือนเราเป็นเพื่อน และเป็น Top of mind ของเค้าอยู่เสมอ 

“ทุกวันนี้เรายังคงมองไปถึงกลุ่มผู้รับสารเป็นหลัก สำรวจว่าคนดู ต้องการอะไร ชอบอะไร แล้วเลือกมาเพื่อทำเป็นเนื้อหารายการ เราปรับตัวในการทำงานอยู่ตลอดเวลา ซึ่งเป็นการสะท้อนให้เห็น Creativity ของบริษัทที่ทำให้รายการเดินหน้าต่อไปได้ โดยซีซั่นนี้ของ มาสเอร์คีย์เป็นรูปแบบ hybrid ชื่อ “มาสเตอร์คีย์ ยินดีต้อนรับ” ที่มีทั้งทอล์ค และเพลง เพราะเราได้สำรวจความคิดเห็น คนดูพบว่าแท้จริงแล้วผู้ชมยังชื่นชอบที่จะได้เห็นดาราในมุมใหม่และยังได้ฟังเพลงเพราะๆ ด้วย เรียกว่าเป็นเพื่อนที่มีความครบสมบูรณ์มากขึ้น ล่าสุดเราได้นำเรื่องที่คนดูถามถึงมากที่สุด เรื่องหนึ่งของมาสเตอร์คีย์มาทำคอนเทนท์นั่นคือ การกลับมาของพิธีกรที่เรียกได้ว่าเป็นยุคทอของรายการ นั่นคือ ป๋าเทพ-โพธิ์งาม, ถนอม-สามโทน และ จ๋า-ญาสุมินทร์ เพื่อให้แฟนรายการได้หวนคิดถึงบรรยากาศ ความสนุกในวันวาน จะเซอร์ไพรส์แค่ไหนนั้น ต้องติดตามชมกันใน มาสเตอร์คีย์ ยินดีต้อนรับ เทปวันที่ 2-4 สิงหาคมนี้ ออกอากาศเวลา 10.55 น. ทางช่อง ทางช่อง3 กด 33 เชื่อว่าจะสร้างความสุขให้คนดูอย่างแน่นอนครับ” จ๊อป กล่าวทิ้งท้าย

เปิดแผน ‘ทีวี ธันเดอร์’ ใช้กลยุทธ์ KOL Marketing เพิ่มมูลค่า

เรียกว่าปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์มาอย่างต่อเนื่อง บริษัท ทีวี ธันเดอร์ จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้ผลิตคอนเทนต์ที่เข้าถึงผู้ชมในทุกแพลตฟอร์ม ล่าสุดได้เปิดบริการที่เป็นการพัฒนาต่อยอด Asset ที่มี มาช่วยเสริมและเพิ่มมูลค่าทางการตลาดให้กับพาร์ทเนอร์ รวมไปถึงลูกค้าคนสำคัญ

นายณฐกฤต วรรณภิญโญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานปฏิบัติการ บริษัท ทีวี ธันเดอร์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปัจจุบันผู้คนใช้ชีวิตอยู่บนโลกออนไลน์มากขึ้นอย่างต่อเนื่องสถานการณ์โควิดยิ่งเป็นตัวเร่งให้ผู้ คนใช้จ่ายผ่านออนไลน์มากขึ้น เห็นได้จากตลาดอีคอมเมิร์ซมีมูลค่าเติบโตมากขึ้นกว่าหลายอุตสาหกรรม การรับรู้ของผู้บริโภคนั้นเปลี่ยนไป การโฆษณาสินค้าไม่จำกัดเพียงแค่ศิลปิน ดารา-นักแสดงเท่านั้น ยังมีกลุ่มเน็ตไอดอล หรือ Influencer ที่เข้ามามีบทบาทสร้างความน่าเชื่อถือให้กับสินค้าหรือแบรนด์นั้นๆ เป็นอย่างมาก นั่นก็คือการตลาดแบบKOLMarketing (Key Opinion Leader) ถ้ามองตัวเลขแล้วมีการเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วตั้งแต่ปี 2559 จนถึงปี 2564 มีการเติบโตสูงถึง 712% และยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตรงนี้ทีวี ธันเดอร์ในฐานะ Entertainment Value Creator แน่นอนว่าเราคำนึงถึงการสร้างคุณค่าเป็นสำคัญ มีการปรับกลยุทธ์การทำงานด้วยการใช้การตลาดแบบ KOL Marketing เพื่อเพิ่มมูลค่าและตอบโจทย์พาร์ทเนอร์ และลูกค้าของเราให้ได้มากที่สุด

จุดแตกต่างของเราคือ คลังข้อมูลจากรายการ Take Me Out Thailand รายการเดทติ้งเกมส์โชว์อันดับหนึ่งของประเทศไทย ที่ได้รับความนิยมต่อเนื่องและยาวนานถึง 10 ปี ปัจจุบันเรามีผลผลิตหนุ่มสาวจากรายการ แบ่งออกเป็นหนุ่มโสดกว่า 500 คน, สาวโสด 190 คน,มีแบล็คเอาท์ 52 คน, ยังมีสาวโพเดียมอีก 1,000 กว่าคน บางคนมีไลฟ์สไตล์ที่โดดเด่นไม่ว่าจะเป็นด้านบิวตี้ความงาม หรือเป็นหนุ่มสาวที่รักสุขภาพชื่นชอบการออกกำลังกาย บางคนมีงานอดิเรกที่สร้างความเป็นตัวตน รวมถึงเชี่ยวชาญในด้านใดด้านหนึ่งเป็นพิเศษ เราได้รวบรวมข้อมูลและแบ่งกลุ่ม KOL ที่มีอย่างละเอียด KOL ของเรามีช่องทางในการติดตามบนโซเชียลมีเดียทั้ง Facebook, Instagram, Tiktok, Youtube ยอดฟอลโล่วเริ่มตั้งแต่ 1k ขึ้นไป จนถึงหลักล้าน ในการทำงานจะมีการมอนิเตอร์ประสิทธิภาพของการทำงานในแคมเปญต่างๆของ KOL อย่างเป็นระบบ ทำให้ข้อมูลที่ได้รับการนำเสนอมีน้ำหนัก และความน่าเชื่อถือ ตรงกับความสนใจของผู้บริโภค

“ผมมองว่าสิ่งเหล่านี้เป็นการเพิ่มมูลค่าทางการตลาดที่เราสามารถทำใหักับลูกค้าและพาร์ทเนอร์ของเราได้ ตรงตามที่เราตั้งใจจะทำให้ content ของเราสร้างมูลค่าสูงสุดได้อย่างไร นอกจากนี้รายการ Take Guy Out และ You are my fantasy เราก็ใช้กลยุทธ์ในแบบเดียวกัน เพราะเชื่อมั่นว่าเป็นการทำการตลาดที่ตอบโจทย์ว่าสังคมออนไลน์ได้เข้ามาอยู่ในชีวิตประจำวันของผู้บริโภคและผู้ชมอย่างปฏิเสธไม่ได้ โดยคาดการณ์ตัวเลขจากบริการนี้ถึงสิ้นปี 2564 อยู่ที่ 10 ล้านบาท” นายณฐกฤต กล่าวทิ้งท้าย