“อร่อยดี” พลิกกลยุทธ์ส่งแคมเปญ Fantastic 4 ครบจบในแอปเดียว

จากมาตรการของภาครัฐที่ให้เว้นระยะห่าง ไม่นั่งทานอาหารร่วมกันที่ร้าน โดยให้บริการเฉพาะซื้อกลับบ้านเท่านั้น ส่งผลให้ธุรกิจร้านอาหารเร่งปรับตัวเพื่อสู้ศึกสถานการณ์ปัจจุบันวันต่อวัน เพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น แนวคิด ปลาใหญ่ ปลาเล็ก ไม่สำคัญเท่ากับ ปลาที่พลิกตัวเร็ว! แต่ละแบรนด์วิ่งทำเวลาขายอาหารผ่านแพลตฟอร์มเดลิเวอรี่มากขึ้น เพราะเป็นช่องทางเดียวที่จะทำให้มีรายได้ใกล้เคียงเท่าเดิม หรือในบางแบรนด์ อาจพลิกวิกฤติเป็นโอกาส สร้างยอดขายได้มากขึ้นก็เป็นได้!!

เซ็นทรัล เรสตอรองส์ กรุ๊ป หรือ ซีอาร์จี (CRG) พลิกกลยุทธ์ หนุน แบรนด์ อร่อยดี เสิร์ฟความอร่อยถึงบ้านช่วงสถานการณ์โควิด-19 ในแบบ 4 in 1 อร่อยครบจบในแอปเดียว เลือกช้อปสุดยอด 50 เมนูฮอต จาก 4 ร้านดัง อร่อยดี, Tokyo Bowl รวมเมนูเด็ดข้าวหน้าสไตล์ญี่ปุ่น, เจ๊เกียง โจ๊กกองปราบ, และเจ๊เกียงหมูทอด ข้าวเหนียวนุ่ม ไว้ทานได้ทั้งวัน พร้อมจับมือ Grab Express ส่งอาหาร ผู้ป่วยสีเขียวที่กักตัวที่บ้าน หรือ Home Isolation กับโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์

Fantastic 4 อร่อยครบจบในแอปเดียว กับ 4 ร้านดัง

ด้วยสถานการณ์โควิด-19 คนส่วนใหญ่ใช้ชีวิตอยู่บ้าน ลดการเดินทางเพื่อเลี่ยงการติดเชื้อ ในด้านการบริการแล้ว นายธนพล ธรรพสิทธิ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส ฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท เซ็นทรัล เรสตอรองส์ กรุ๊ป จำกัด หรือ CRG (Mr. Tanapoln Tunpasit – Head of Thai & Chinese Cuisine) กล่าวว่า “อร่อยดี” จะต้องเป็นแบรนด์ร้านอาหารอร่อยที่คนส่วนใหญ่เข้าถึงได้ง่ายที่สุดผ่านแอปพลิเคชั่น “วางกลยุทธ์อร่อยดี ให้เข้าถึงง่าย ราคาประหยัด สั่งได้ทุกวัน ตามคอนเซ็ปท์ “รสชาติคุ้น อิ่มครบ จบทุกมื้อ” มีเมนูที่หลากหลาย ไม่ให้กลุ่มเป้าหมายจำเจ ซึ่งแบรนด์ “อร่อยดี” ได้รวบรวมพันธมิตรความอร่อยไว้ทั้ง 4 ร้านดังที่คัดสรรมาแล้ว ได้แก่ อร่อยดี, Tokyo Bowl รวมเมนูเด็ดข้าวหน้าสไตล์ญี่ปุ่น, เจ๊เกียง โจ๊กกองปราบ, และเจ๊เกียงหมูทอด ข้าวเหนียวนุ่ม ซึ่งเป็นที่ยอมรับทั้งคุณภาพอาหารและรสชาติ ซึ่งมีมากกว่า 50 เมนูให้เลือก ในการกดสั่งเพียงครั้งเดียวเท่านั้น

อร่อยดี กับทิศทางตลาดที่ลงตัว

ในยุคที่มีการแข่งขันสูง และต้องปรับตัวอยู่ตลอดเวลา การสร้างสรรค์เมนูที่คุ้นเคยอร่อย ทานง่าย ราคาคุ้มค่า และสั่งได้ทุกวัน เป็นแนวทางที่แบรนด์ “อร่อยดี” ให้ความสำคัญ

นายธนพล ผู้บริหาร “อร่อยดี” กล่าวเพิ่มเติม จากทิศทางตลาดเปลี่ยนไปหลังจากมาตรการด้านการป้องกันการระบาดโควิด – 19 ที่เข้มมากขึ้น ทำให้กลุ่มลูกค้าปรับพฤติกรรม จากนั่งร้าน หรือสั่งกลับบ้าน (Take away) มาเป็นเดลิเวอรี่ ซึ่งวันนี้แบรนด์เราทำได้ดี สัดส่วนเดลิเวอรี่เพิ่มขึ้นเป็น 70 % ในส่วนออฟไลน์ การตั้งร้านค้าสถานีบริการน้ำมันก็เป็นอีกเหตุผลที่ทำให้ธุรกิจยังไม่ได้รับผลกระทบมากนักจากสถานการณ์โควิด-19 ที่สามารถให้บริการและเปิดครัวทำอาหารเพื่อส่งถึงทุกออเดอร์ที่สั่งเข้ามาได้แบบไม่สะดุด

ทั้งนี้ ในโลกวิถีใหม่ ความคุ้มค่า ยังคงเป็นเหตุผลหลักที่ทำให้ผู้บริโภคตัดสินใจซื้อ การใช้เครื่องมือการตลาด เช่นช่องทางออนไลน์เข้ามาสนับสนุนการขาย การสร้างความเชื่อมั่นในแบรนด์ เป็นเป้าหมายในการพัฒนาและขยายฐานลูกค้าให้กว้างขึ้น

อร่อยดี อิ่มท้องช่วง Home Isolation

นอกจากนี้ อร่อยดี ยังขานรับโครงการ Meal for You ของกลุ่มเซ็นทรัล ด้วยการจับมือกับ “แกร็บเอ็กซ์เพรส” (GrabExpress) จัดส่งอาหารปรุงสุก 3 มื้อทุกวัน ให้ผู้ป่วยสีเขียวของโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ที่กักตัวที่บ้าน (Home Isolation) ในรัศมี 10 กม. พร้อมทั้งยังร่วมสมทบทุนมื้ออาหารเพิ่มเติม เพื่อให้ผู้ป่วยได้บริโภคอาหารที่หลากหลายตามหลักโภชนาการ

แคมเปญเพื่อสังคม Food for Heroes

จากสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ทางแบรนด์ “อร่อยดี” ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งการส่งต่อน้ำใจภายใต้แคมเปญเพื่อสังคม Food for Heroes ที่เริ่มไปแล้วก็คือ ข้าวกล่องราคาเบา สำหรับให้แพทย์ พยาบาล (ราคา 39/49/59) เพียงโทร.สั่ง 1312 สำหรับผู้ที่อยากส่งกำลังใจให้กับบุคลากรทางการแพทย์ ด้วยเมนูอร่อยๆ สั่งและส่งทันที

โดยมี สถานที่บริจาคทั้ง 9 แห่ง: 1.โรงพยาบาลสนามธรรมศาสตร์ (ศูนย์รังสิต) 2.โรงพยาบาลสนาม-สถาบันบําราศนราดูร 3.โรงพยาบาลสนาม-ศูนย์การแพทย์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ มศว. องครักษ์” 4.โรงพยาบาลลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย 5.โรงพยาบาลศิริราช 6.โรงพยาบาลรามาธิบดี 7.คณะแพทยศาสตร์วชิรพยาบาล มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช 8.โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า 9.โรงพยาบาลราชวิถี หรือนอกเหนือจากรายการสถานพยาบาลด้านบน ลูกค้าสามารถระบุปลายทางได้โดยแจ้งพนักงาน 1312

ท้ายสุด ผู้บริหาร กล่าวเพิ่มเติมว่า การสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าที่มาใช้บริการ เป็นเรื่องสำคัญ แบรนด์ “อร่อยดี” ในเครือ ซีอาร์จี ได้รับตราสัญลักษณ์ SHA : Safety and Health Administration ผ่านการรับรองมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย และยังคงเข้มงวดในเรื่องมาตรการความปลอดภัย ให้ไกลห่างโรคโควิด-19 ด้วยแผน 3C คุมเข้มที่ร้านอาหารประกอบด้วย 1) Cleanliness Procedure คัดกรองอย่างเข้มงวด รักษาความสะอาดทุกขั้นตอน 2) Consideration of Social Distancing Measures เน้นย้ำมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม 3) Contactless Service การให้บริการแบบไร้สัมผัส เพื่อสร้างความมั่นใจในความปลอดภัยให้กับลูกค้าที่มาใช้บริการทุกคน

 

Meal For You ส่งอาหารปรุงสุกถึงหน้าบ้านผู้ป่วยกักตัว

กลุ่มเซ็นทรัล โดย เซ็นทรัล เรสตอรองส์ กรุ๊ป (ซีอาร์จี) ร่วมกับ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย เปิดโครงการ Meal for You จัดส่งอาหารปรุงสุก มื้อทุกวัน จากร้าน อร่อยดี และแบรนด์อื่น ๆ ในเครือซีอาร์จี ให้ผู้ป่วยสีเขียวที่กักตัวที่บ้าน (Home Isolation) ในรัศมี กมของโรงพยาบาล ผ่านบริการ แกร็บเอ็กซ์เพรส (GrabExpress) โดย กลุ่มเซ็นทรัลยังร่วมสมทบทุนมื้ออาหารเพิ่มเติม เพื่อให้ผู้ป่วยได้บริโภคอาหารที่หลากหลายตามหลักโภชนาการ ควบคู่กับการรักษาผ่าน Teleclinic ที่มีประสิทธิภาพจากทีมแพทย์

ณัฐ วงศ์พานิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เซ็นทรัล เรสตอรองส์ กรุ๊ป จำกัด ในเครือกลุ่มเซ็นทรัล

นายณัฐ วงศ์พานิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เซ็นทรัล เรสตอรองส์ กรุ๊ป จำกัด ในเครือกลุ่มเซ็นทรัล กล่าวว่า จากจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้เกิดปัญหาการขาคแคลนเตียงรักษา จึงเป็นที่มาของมาตรการทางการแพทย์ที่เรียกว่า Home Isolation หรือการกักตัวเองที่บ้านของกลุ่มผู้ป่วยสีเขียว โดยทางโรงพยาบาลจะประเมินการรักษาทางออนไลน์แบบรายวัน พร้อมจัดส่งอุปกรณ์วัดไข้ ยา และอาหารทุกมื้อ ด้วยเหตุนี้ กลุ่มเซ็นทรัล โดยบริษัท เซ็นทรัล เรสตอรองส์ กรุ๊ป ผู้นำธุรกิจร้านอาหารเครือข่าย จึงได้ร่วมมือกับ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย เป็น ผู้ดำเนินการจัดส่งอาหารปรุงสุกจาก แบรนด์ “อร่อยดี” และแบรนด์อื่น ๆ ในเครือซีอาร์จี มอบให้กับผู้ป่วยที่เข้าร่วมมาตรการ Home Isolation ของทางโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ฯ ภายในรัศมี กม. ครบทั้ง มื้อทุกวัน โดยมีพันธมิตรทางธุรกิจ ได้แก่ แกร็บ (Grab) อำนวยความสะดวกในการจัดส่งอาหารให้กับผู้ป่วยถึงที่พัก ผ่านบริการแกร็บ เอ็กซ์เพรส ภายใต้มาตรฐานความปลอดภัยและสุขอนามัย ทั้งนี้ ซีอาร์จีและแกร็บจะรักษาข้อมูลของผู้ป่วยตาม พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 เพื่อให้แน่ใจว่าข้อมูลผู้ป่วยที่ทางเราได้รับจากทางโรงพยาบาลจะถูกทำลายทิ้งทันทีเมื่ออาหารส่งถึงผู้ป่วยวันต่อวัน

นอกจากนี้ กลุ่มเซ็นทรัลยังได้ร่วมสมทบทุนค่าอาหารและบริการจัดการ ที่ทางโรงพยาบาลได้รับจากทางภาครัฐเพิ่มเติมอีกด้วย เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ป่วยได้บริโภคอาหารที่หลากหลายยิ่งขึ้นและไม่เป็นภาระค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม

ผศ.พญ.ยุวรีย์ พิชิตโชค รองผู้อำนวยการฯฝ่ายยุทธศาสตร์องค์กรและทรัพยากรบุคคล โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย

ทางด้าน ผศ.พญ.ยุวรีย์ พิชิตโชค รองผู้อำนวยการฯฝ่ายยุทธศาสตร์องค์กรและทรัพยากรบุคคล โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย กล่าวว่า ทางโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย พบว่าจำนวนผู้ป่วยที่มากขึ้นทั้งใน โรงพยาบาลและ Hospitel  ซึ่งเราดูแลกว่า 500 ราย เกือบทุกวัน ทำให้ไม่สามารถมีเตียงรองรับเพียงพอ อีกทั้งทีมบุคลากรทางการแพทย์ที่มีจำกัด ดังนั้นทางออกของปัญหาดังกล่าว คือ การดูแลคนไข้ที่บ้านระหว่างรอเตียง (home isolation) โดยเราได้เตรียมทีมแพทย์ ทีมพยาบาล ระบบเทคโนโลยี  ยา และ อาหาร เพื่อสื่อสารและอำนวยความสะดวกให้กับคนไข้ ภายใต้แนวคิด การที่คนไข้ยังไม่มีเตียงในโรงพยาบาล แต่หากมีทีมแพทย์และพยาบาลพร้อมติดต่อใกล้ชิด จะช่วยทำให้คนไข้อุ่นใจ ทั้งนี้ผู้ป่วยบางรายอาจมีอาการไม่รุนแรง และสามารถหายป่วยได้โดยไม่จำเป็นต้องเดินทางมาโรงพยาบาล

สำหรับด้าน “มื้ออาหาร” ทางเราได้มองหาพันธมิตรในการดำเนินการจัดทำและจัดส่งอาหาร เพื่อแบ่งเบาภาระของโรงพยาบาล จึงขอรับการสนับสนุนจาก กลุ่มเซ็นทรัล ซึ่งมีธุรกิจร้านอาหาร ในการเป็นตัวกลางจัดสรรอาหารปรุงสุก ส่งถึงผู้ป่วย Home Isolation ภายใต้การดูแลของทางโรงพยาบาล ซึ่งได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีในชื่อโครงการ MEAL FOR YOU โดยมีการนำร่องจัดส่งอาหารผ่านแกร็บให้กับผู้ป่วยบางรายแล้ว

กลุ่มเซ็นทรัล จะอยู่เคียงข้างคนไทยก้าวผ่านวิกฤตนี้ไปด้วยกันอย่างเข้มแข็ง ด้วยกำลังใจที่ส่งให้กันและกัน เพื่อรอยยิ้มของคนไทยได้กลับมาอีกครั้ง

ถอดบทเรียนฝ่าวิกฤตผ่าน CRG ชูกลยุทธ์เร่งเดลิเวอรี่และออนไลน์

จากประกาศราชกิจจานุเบกษา ห้ามการจำหน่ายอาหารหรือเครื่องดื่ม ในร้านอาหารทั้งหมดในพื้นที่ กทม.และปริมณฑล โดยให้เปิดดำเนินการเฉพาะการนำกลับไปบริโภคที่อื่นเท่านั้น มีผลตั้งแต่ 28 มิ.ย. 64 ซีอาร์จี จึงจัดกลยุทธ์เร่งการขายทั้งในช่องทางเดลิเวอรี่และออนไลน์ มุ่งสร้างยอดขายฝ่าวิกฤต

นายณัฐ วงศ์พานิช  กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เซ็นทรัล เรสตอรองส์ กรุ๊ป จำกัด (Central Restaurants Group) หรือ ซีอาร์จี เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ยังมีการแพร่กระจายอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับการประกาศจากภาครัฐที่ห้ามการจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มภายในร้าน ในพื้นที่ กทม. และปริมณฑล กระทบต่อธุรกิจร้านอาหารมากกว่าทุกครั้งที่ผ่าน ๆ มา เพราะเป็นการกระทบต่อเนื่องในระยะเวลานาน เนื่องด้วยช่องทางการรับประทานในร้าน (Dine in) เป็นช่องทางรายได้หลัก ของธุรกิจร้านอาหารทั้งรายเล็ก ไปจนถึงรายใหญ่ และด้วยครั้งนี้ ไม่ใช่ครั้งแรกที่ให้ปิดบริการที่หน้าร้าน และร้านอาหารของ ซีอาร์จี กว่า 50% อยู่ในพื้นที่ กทม. และปริมณฑล

จึงพร้อมปรับตัวรับสถานการณ์ มุ่งดำเนินแผนงานที่เคยวางไว้ โดยปรับให้มีความยืดหยุ่น และมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยจะมุ่งเน้นในด้านหลักๆ คือ ด้านการบริหารจัดการต้นทุน และควบคุมค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ให้เหมาะสม และด้านการเพิ่มยอดขายเพื่อมาชดเชยรายได้ในส่วนที่หายไป จึงเร่งหาช่องทางอื่นที่เพิ่มรายได้ ทั้งในช่องทางเดลิเวอรี่ และออนไลน์ อาทิ เน้นช่องทางการจำหน่ายผ่านอีคอมเมิร์ซและระบบแพลตฟอร์มช้อปปิ้งออนไลน์, พัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อให้สอดคล้องกับการให้บริการเดลิเวอรี่ อาทิ เมนูแกร็บ แอนด์ โก (Grab & Go), เทคโฮม (Take home) และสินค้าพร้อมทาน (RTE product) เพื่อสะดวกต่อการรับประทานอาหารที่บ้าน อีกทั้งยังร่วมมือกับพันธมิตร Aggregator ชั้นนำทุกรายอย่างใกล้ชิด เพื่อสร้างวาไรตี้ด้านเมนู และโปรโมชั่นต่าง ๆ ช่วยกระตุ้นยอดขาย

ขณะเดียวกันก็ขานรับนโยบายรัฐ ระดมพลังแบรนด์ดังในเครือทุกแบรนด์เข้าร่วมโครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ เพื่อร่วมกระตุ้นเศรษฐกิจครึ่งปีหลัง ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. – 31 ธ.ค. 2564 เพียงใช้ G-Wallet ชำระค่าอาหาร และเครื่องดื่ม (เฉพาะทานที่ร้านหรือซื้อกลับบ้าน) ที่ร้านอาหารในเครือซีอาร์จี ทั้ง 17 แบรนด์ จำนวนกว่า 1,100 สาขา ทั่วประเทศ (ยกเว้นสาขาในฟู้ดคอร์ท) นอกจากนี้ ยังจัดโปรโมชั่นพิเศษเพิ่มความคุ้มค่ากระตุ้นการใช้จ่าย พร้อมรับเงินคืน E-Voucher สูงสุด 7,000 บาท และยังสามารถนำ E-Voucher กลับมาใช้จ่ายที่ร้านได้อีกต่อ ตั้งแต่วันที่ 7 ส.ค. – 31 ธ.ค. 2564

สำหรับในด้านพนักงาน ยืนยันพร้อมดูแลพนักงานของเราทั้งหมดให้ดีที่สุด ทั้งในเรื่องรายได้ตามความเหมาะสม, การให้พนักงานส่วนสำนักงานทำงานจากที่บ้าน (Work from Home), การจัดสรรวัคซีนแก่พนักงาน รวมทั้งแผนประกันภัยโควิด-19 ในกรณีพบติดเชื้อและคุ้มครองผลกระทบจากการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 แก่พนักงานทุกคน

อีกทั้งยังต้องสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าที่มาใช้บริการ โดยร้านอาหารในเครือซีอาร์จี 13 แบรนด์ 999 สาขา ได้รับตราสัญลักษณ์ SHA : Safety and Health Administration ผ่านการรับรองมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย และยังคงเข้มงวดในเรื่องของมาตรการความปลอดภัย ให้ไกลห่างโรคโควิด-19 ด้วยแผน 3C คุมเข้มที่ร้านอาหารในเครือซีอาร์จีทุกสาขาทั่วประเทศ ประกอบด้วย 1) Cleanliness Procedure คัดกรองอย่างเข้มงวด รักษาความสะอาดทุกขั้นตอน 2) Consideration of Social Distancing Measures เน้นย้ำมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม และ 3) Contactless Service การให้บริการแบบไร้สัมผัส เพื่อสร้างความมั่นใจในความปลอดภัยให้กับลูกค้าที่มาใช้บริการทุกคน

การแพร่ระบาดของโควิด-19 คงจะมีโอกาสเกิดขึ้นเรื่อย ๆ ด้วยอาจเกิดการกลายพันธุ์ของเชื้อที่อาจจะทวีความรุนแรงขึ้น สิ่งสำคัญที่จะเข้ามาช่วยเหลือตรงนี้ได้หลัก ๆ คือวัคซีนที่มีประสิทธิภาพและมีความหลากหลายเพื่อรับการกลายพันธุ์ของเชื้อ แต่อย่างไรก็ตามเราทุกคนคงต้องอยู่กับสถานการณ์เช่นนี้ให้ได้ รวมทั้งขอเป็นกำลังใจให้ผู้ประกอบการร้านอาหารทุกท่านที่ต่างก็โดนพิษโควิด-19 ซึ่งต่างก็ต้องปรับตัวเพื่อความอยู่รอด สำหรับซีอาร์จี เราก็นำประสบการณ์จากผลกระทบที่ได้รับ มาเรียนรู้จนได้เป็นบทเรียนสำคัญ คือ 1) การรักษากระแสเงินสดเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้มีเงินหมุนเวียนในธุรกิจ ระมัดระวังเรื่องค่าใช้จ่ายและต้นทุนต่าง ๆ ทั้งค่าแรง ค่าเช่า รวมถึงควบคุม waste ให้ดี 2) คิดหรือพัฒนาโมเดลใหม่ ๆ โดยการต่อยอดจากสิ่งที่มี เพื่อรองรับข้อจำกัดต่าง ๆ  และพฤติกรรมลูกค้าที่เปลี่ยนไป 3) การนำเทคโนโลยีหรือเครื่องมือใหม่ ๆ เข้ามาช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้ธุรกิจ อย่างในแง่ธุรกิจร้านอาหารก็มี เดลิเวอรี่ ที่เป็นอีกหนึ่งเครื่องมือหลักที่จะสามารถช่วยสร้างยอดขายได้ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าประเทศไทยจะสามารถผ่านพ้นช่วงสถานการณ์ที่ยากลำบากเช่นนี้ได้โดยเร็ว” นายณัฐ กล่าวในตอนท้าย