ซีพี ออลล์ ติดกลุ่มดัชนี FTSE4Good Index 2021 สี่ปีซ้อน

FTSE Russell (Financial Times Stock Exchange Russell) บริษัทอิสระที่จัดตั้งขึ้นโดย The Financial Times และ London Stock Exchange ในปี 1995 เพื่อทำดัชนีในระดับสากล (Independent Global Index Provider) ซึ่งมีความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์ในการจัดทำดัชนีให้ตลาดหลักทรัพย์หลายๆ แห่งทั่วโลก อาทิ ตลาดหลักทรัพย์ลอนดอน ตลาดหลักทรัพย์แนสแด็ก ตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ ตลาดหลักทรัพย์เบอร์ซ่ามาเลเซีย ตลาดหลักทรัพย์โตเกียว เป็นต้น ได้ประกาศรายชื่อบริษัทที่ได้รับการคัดเลือกให้เป็นสมาชิก FTSE4Good Index ประจำปี 2021 ซึ่งเป็นหนึ่งในดัชนีชั้นนำที่ประเมินศักยภาพการดำเนินงานด้านความยั่งยืนในมิติสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG)  ที่ได้รับการยอมรับระดับโลก

โดย บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารเซเว่น อีเลฟเว่น และเซเว่น เดลิเวอรี่ ได้รับคัดเลือกเป็นปีที่ ติดต่อกันแล้ว (2561-2564) ในกลุ่ม Food Retailers & Wholesalers ซึ่งมีคะแนนสูงกว่าค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรมในทุกมิติจากคะแนนเต็ม 5.0 ไม่ว่าจะเป็น ด้านสิ่งแวดล้อมที่ 4.1 คะแนน (ค่าเฉลี่ย 1.3) ด้านสังคม 4.0 คะแนน (ค่าเฉลี่ย 2.0) และด้านธรรมาภิบาล 5.0 คะแนน (ค่าเฉลี่ย 3.6) ทำให้ยังรักษาระดับคะแนนเฉลี่ยรวมไว้ได้ที่ 4.3 คะแนน ขณะเดียวกัน เมื่อลงลึกไปในแต่ละด้านปรากฏว่า ซีพี ออลล์ ได้คะแนนสูงกว่าคะแนนเฉลี่ยของประเทศไทยในเกือบทุกตัวชี้วัด ประกอบด้วย มิติสิ่งแวดล้อม ด้านการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ 3.0 คะแนน (ค่าเฉลี่ย 2.0 คะแนน) ด้านห่วงโซ่อุปทานที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม 5.0 คะแนน (ค่าเฉลี่ย 2.8 คะแนน) ด้านมลภาวะและทรัพยากร 4.0 คะแนน (ค่าเฉลี่ย 3.2 คะแนน) มิติสังคม ด้านความรับผิดชอบต่อลูกค้า 5.0 คะแนน (ค่าเฉลี่ย 2.9 คะแนน) ด้านสิทธิมนุษยชนและชุมชน 4.0 คะแนน (ค่าเฉลี่ย 3.1 คะแนน) ด้านห่วงโซ่อุปทานทางสังคม 4.0 คะแนน (ค่าเฉลี่ย 2.9 คะแนนมิติธรรมาภิบาล ด้านการต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่น 5.0 คะแนน (ค่าเฉลี่ย 4.5) และด้านการกำกับดูแลกิจการ 5.0 คะแนน (ค่าเฉลี่ย 4.4 คะแนน)

นายธานินทร์ บูรณมานิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ซีพี ออลล์ กล่าวว่า การได้รับเกียรติให้เข้าเป็นสมาชิก FTSE4Good Index ตั้งแต่ปี 2561 ไม่เพียงเป็นความภาคภูมิใจของทุกคนที่ซีพี ออลล์ แต่ยังถือเป็นเครื่องพิสูจน์ความมุ่งมั่นของบริษัทในการเติบโตอย่างยั่งยืนไปพร้อมกับสังคม โดยคำนึงถึงผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกกลุ่ม ตามปณิธานองค์กร ร่วมสร้างสรรค์และแบ่งปันโอกาสให้ทุกคน ซึ่ง ซีพี ออลล์ให้คำมั่นจะพัฒนาอย่างต่อเนื่องไม่หยุดยั้ง

ค่านิยม 3 ประโยชน์ของเครือเจริญโภคภัณฑ์ ได้แก่ การสร้างประโยชน์ต่อประเทศชาติ ประชาชน และองค์กร เป็นสิ่งที่ซีพี ออลล์ ยึดมั่นเสมอมาในการดำเนินธุรกิจกว่า 33 ปี เพื่อขับเคลื่อนองค์กรไปสู่ความยั่งยืนที่ครอบคลุมทั้งการดูแลสิ่งแวดล้อม อยู่เคียงข้างสังคม และมีธรรมาภิบาล รวมทั้งเตรียมพร้อมรับมือกับท้าทายใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นจากการพัฒนาของเทคโนโลยี ตลอดจนปัจจัยภายนอกที่ควบคุมไม่ได้อย่างโรคระบาด จนทำให้วิถีชีวิตผู้คนเปลี่ยนแปลงไป เพื่อบรรลุตามพันธกิจที่วางไว้ ในการสร้างความผูกพันกับลูกค้าด้วยสินค้าและบริการที่เปี่ยมด้วยนวัตกรรม มุ่งสู่องค์กรคุณภาพและมีความยั่งยืน” นายธานินทร์ กล่าวเน้นย้ำ

สำหรับการประเมิน FTSE4Good Index ในปีนี้ มีตัวชี้วัดทั้งสิ้น 156 ตัวชี้วัด ใน 10 หัวข้อหลัก ที่ครอบคลุมทั้งด้านนโยบาย การบริหารจัดการ การประเมินและจัดการความเสี่ยง และการรายงานผล โดยยึดข้อมูลที่เปิดเผยสู่สาธารณะจากรายงานของบริษัททั้งรายงานการพัฒนาอย่างยั่งยืน รายงานประจำปี รวมทั้งเว็บไซต์ขององค์กร

สานต่อโครงการซีพีร้อยเรียงใจ สู้ภัยโควิด-19

เพื่อสนับสนุนภารกิจฉีดวัคซีน หยุดเชื้อเพื่อชาติ มหาวิทยาลัยรามคำแหง โดย ผู้ช่วยศาสตราจารย์วุฒิศักดิ์ ลาภเจริญทรัพย์ (ที่ 4 จากซ้าย) รักษาราชการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง รับมอบการสนับสนุนน้ำดื่ม อาหาร และระบบสื่อสาร ภายใต้โครงการซีพีร้อยเรียงใจ สู้ภัยโควิด-19 จากเครือเจริญโภคภัณฑ์และบริษัทในเครือฯ โดย นายอาณัติ เมฆไพบูลย์วัฒนา (ที่ 4 จากขวา) รองประธานคณะกรรมการบริหาร บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น พร้อมด้วย นางสาวรุจนาฏก์ วิมลสถิตย์ (ที่ 3 จากขวา) รองกรรมการผู้จัดการใหญ่บริหาร ด้านบรรษัทสัมพันธ์ เครือเจริญโภคภัณฑ์ นางสาวอนรรฆวี ชูรัตน์ (ที่ 2 จากขวา) รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ด้านการตลาด บมจ. เจริญโภคภัณฑ์อาหาร และ นายสุพจน์ สุวรรณศรี (ขวาสุด) ผู้ช่วยผู้จัดการทั่วไป บมจ.ซีพี ออลล์ ผู้บริหารเซเว่น อีเลฟเว่นและเซเว่น เดลิเวอรี่ ณ ศูนย์บริการฉีดวัคซีนโควิด-19 มหาวิทยาลัยรามคำแหง

ทั้งนี้ การสนับสนุนดังกล่าว ประกอบด้วย น้ำดื่มซีพี น้ำดื่มเซเว่น อีเลฟเว่น และน้ำดื่มทรู รวมจำนวน 66,000 ขวด อาหารจากตู้ CP ปันอิ่ม ปันสุข ตลอดจนความสะดวกด้านการสื่อสารจากกลุ่มทรู ทั้งทรู 5G /4G / WiFi เพื่อให้แพทย์ พยาบาล บุคลากรทางการแพทย์ ผู้มาใช้บริการฉีดวัคซีน ได้อิ่มท้อง มีพลังกายพลังใจ รวมถึงรองรับการติดต่อสื่อสารได้อย่างราบรื่นอีกด้วย ซึ่งทั้งหมดนี้ สะท้อนความตั้งใจของเครือเจริญโภคภัณฑ์ ที่ต้องการช่วยแบ่งเบาภาระระบบการแพทย์และสาธารณสุข พร้อมร่วมเคียงข้างคนไทยก้าวผ่านวิกฤตแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ระลอกใหม่ไปได้โดยเร็ว

­CP ALL ปิดการขายหุ้นกู้ 7 ชุดตามเป้าหมาย

บมจ. ซีพี ออลล์ (CP ALL) ปิดการขายหุ้นกู้ 7 ชุด รวมมูลค่า 66,000 ล้านบาท ตามเป้าหมาย หลังเสนอขายแก่ผู้ลงทุนทั่วไป ผู้ลงทุนสถาบัน และผู้ลงทุนรายใหญ่ เมื่อวันที่ 11 และ 14–15 มิถุนายนที่ผ่านมา ปลื้มผู้ลงทุนให้การตอบรับดี ตอกย้ำความเชื่อมั่นในศักยภาพธุรกิจและกลยุทธ์การเติบโต  

นายเกรียงชัย บุญโพธิ์อภิชาติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ CP ALL เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 11 และ 14-15 มิถุนายนที่ผ่านมา บริษัทฯ เสนอขายหุ้นกู้ทั้งหมด 7 ชุด ประกอบด้วย หุ้นกู้ชุดที่ 1 อายุ 5 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ 3.00% ต่อปี หุ้นกู้ชุดที่ 2 อายุ 7 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ 3.40%  ต่อปี และหุ้นกู้ชุดที่ 3 อายุ 10 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ 3.90% ต่อปี โดยหุ้นกู้ชุดที่ 1-3 เสนอขายแก่ผู้ลงทุนทั่วไป และหุ้นกู้ชุดที่ 4 อายุ 2 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ 1.53% ต่อปี หุ้นกู้ชุดที่ 5 อายุ 3 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ 1.76% ต่อปี หุ้นกู้ชุดที่ 6 อายุ 4 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ 2.14% ต่อปี และหุ้นกู้ชุดที่ 7 อายุ 12 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ 4.20% ต่อปี โดยหุ้นกู้ชุดที่ 4-7 เสนอขายแก่ผู้ลงทุนสถาบันและผู้ลงทุนรายใหญ่ ผ่านผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ 10 ราย ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารทหารไทยธนชาต ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย ธนาคารยูโอบี บริษัทหลักทรัพย์เกียรตินาคินภัทร และบริษัทหลักทรัพย์เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุนและปิดการเสนอขายหุ้นกู้ทั้งหมดได้ตามเป้าหมาย รวมมูลค่า 66,000 ล้านบาท ทางบริษัทฯ ต้องขอขอบคุณสถาบันการเงินทั้ง 10 ราย และผู้ลงทุนทุกท่านที่สนับสนุนให้การเสนอขายหุ้นกู้ครั้งนี้ประสบความสำเร็จด้วยดี

ผลตอบรับจากนักลงทุนดังกล่าวสะท้อนถึงความเชื่อมั่นในบริษัทฯ ที่เป็นผู้นำธุรกิจร้านสะดวกซื้อในประเทศไทย มีฐานะการเงินที่มั่นคง และเป็นบริษัทจดทะเบียนชั้นนำในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย นอกจากนี้ หุ้นกู้ของบริษัทฯ ยังได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือที่ระดับ “A+” แนวโน้มอันดับเครดิต “คงที่” จากบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เป็นการตอกย้ำศักยภาพและความแข็งแกร่งของบริษัทฯ จากความเชี่ยวชาญในธุรกิจค้าปลีก

ทั้งนี้ บริษัทฯ มีความมุ่งมั่นผลักดันผลการดำเนินงานให้กลับมาเติบโต พร้อมทั้งมุ่งคิดค้นพัฒนาผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมด้านการบริการใหม่ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า ตลอดจนบริหารต้นทุนในการจัดจำหน่ายและค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานอย่างมีประสิทธิภาพ

“จากพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปเนื่องจากสถานการณ์โรคระบาด COVID-19 เราจึงมุ่งเน้นการใช้กลยุทธ์ O2O จำหน่ายสินค้าทางออนไลน์และออฟไลน์ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพและสามารถนำเสนอการให้บริการแก่ลูกค้าได้จากหลากหลายช่องทางเพื่อสร้างรายได้เพิ่มขึ้น เช่น บริการออลล์ ออนไลน์ (ALL Online) บริการ 7-Eleven Delivery และ 24 Shopping โดยยังมีแผนการขยายสาขาอยู่อย่างต่อเนื่อง ตลอดจนมีการเตรียมความพร้อมรองรับการเปิดสาขาในประเทศกัมพูชาและ สปป.ลาว  หากสถานการณ์โรคระบาดเริ่มคลี่คลาย ซึ่งการเสนอขายหุ้นกู้ครั้งนี้ บริษัทฯจะนำเงินไปชำระคืนเงินกู้จากสถาบันการเงิน และไถ่ถอนหุ้นกู้ที่ครบกำหนดไถ่ถอนในปี 2564 ซึ่งจะทำให้บริษัทฯ สามารถปรับโครงสร้างทางการเงินได้อย่างเหมาะสม และมีสถานะทางการเงินที่มั่นคงขึ้น” นายเกรียงชัย กล่าว

ด้านสถาบันการเงินซึ่งเป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ ซีพี ออลล์ ในครั้งนี้เปิดเผยว่า ด้วยสถานการณ์แพร่ระบาดของ COVID-19 ในปัจจุบัน ทำให้นักลงทุนต้องพิจารณาในเรื่องการลงทุนมากขึ้น และเลือกลงทุนในหุ้นกู้ของบริษัทที่มีความมั่นคงสูง ฐานะการเงินแข็งแกร่ง เป็นผู้นำในอุตสาหกรรม และให้ผลตอบแทนที่น่าพอใจ ซึ่งหุ้นกู้ ซีพี ออลล์ สามารถตอบโจทย์ต่างๆ เหล่านี้ได้เป็นอย่างดี ทำให้ได้รับการตอบรับที่ดีทั้งจากผู้ลงทุนทั่วไป ผู้ลงทุนสถาบัน และผู้ลงทุนรายใหญ่ ขณะเดียวกัน ผู้ลงทุนยังมีความสนใจลงทุนในบริษัทที่ให้ความสำคัญกับสังคมและสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ซึ่ง ซีพี ออลล์ ได้ดำเนินธุรกิจโดยคำนึงถึงสิ่งเหล่านี้มาโดยตลอด และได้กำหนดเป็นพันธกิจของบริษัทฯ ภายใต้กลยุทธ์เซเว่น โก กรีน (7 Go Green) ได้แก่ Green Building คือการออกแบบร้านค้าให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม Green Logistic การจัดระบบขนส่งและกระจายสินค้าที่สามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก Green Store การออกแบบบรรจุภัณฑ์เพื่อลดปริมาณขยะพลาสติกผ่านแนวคิด “ลด และ ทดแทน” และ Green Living เพื่อปลูกจิตสำนึกเพื่อสิ่งแวดล้อม ทั้งหมดนี้เป็นปัจจัยสนับสนุนให้การเสนอขายหุ้นกู้ “ซีพี ออลล์” ครั้งนี้ประสบความสำเร็จ

ซีพี ออลล์ ชูคาถาบรรษัทภิบาล ค่านิยม 3 ประโยชน์

บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารร้านเซเว่น อีเลฟเว่นและเซเว่น เดลิเวอรี่ ตระหนักถึงความสำคัญของการกำกับดูแลกิจการที่ดี ประกาศเจตนารมณ์องค์กรธรรมาภิบาล ปี 64 ชูคาถาบรรษัทภิบาล “ซื่อสัตย์ โปร่งใส ยุติธรรม คำนึงถึงชุมชน สังคม สิ่งแวดล้อม” เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกกลุ่มทั้งภายในและภายนอกองค์กร บนพื้นฐานค่านิยมเครือเจริญโภคภัณฑ์ ‘3 ประโยชน์’ ตอบโจทย์ประเทศชาติ ประชาชน และองค์กร

นางสาวลาวัณย์ เตียงหงษากุล ประธานคณะอนุกรรมการบรรษัทภิบาล บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารเซเว่น อีเลฟเว่น และเซเว่น เดลิเวอรี่ กล่าวว่า ซีพี ออลล์ ได้กำหนดนโยบายบริหารองค์กรตามหลักธรรมาภิบาล (Good Governance) โดยให้ความสำคัญกับการกำกับดูแลกิจการที่ดี ส่งเสริมการต่อต้านคอร์รัปชัน เป็นแนวทางให้ผู้บริหารและพนักงานในบริษัททุกคนใช้เป็นกรอบในการปฏิบัติอย่างเคร่งครัด อีกทั้งยังให้ทุกคนยึดมั่นในคาถาบรรษัทภิบาล ซื่อสัตย์ โปร่งใส ยุติธรรม คำนึงถึงชุมชน สังคม สิ่งแวดล้อม เพื่อร่วมกันสร้างค่านิยมในการดำเนินงานที่ปราศจากการคอร์รัปชันให้เป็นวัฒนธรรมขององค์กร ซึ่งถือเป็นหนึ่งหัวใจสำคัญในการดำเนินธุรกิจของซีพี ออลล์ ตลอดมา

นอกจากนี้ ซีพี ออลล์ ยังคงมุ่งมั่นดำเนินธุรกิจโดยคำนึงถึงผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในทุกมิติ ทั้งเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม เพื่อก้าวไปสู่องค์กรแห่งความยั่งยืน ภายใต้ปณิธาน “ร่วมสร้างสรรค์และแบ่งปันโอกาสให้ทุกคน” มาอย่างต่อเนื่องกว่า 30 ปี พร้อมตระหนักถึง 3 ประโยชน์บนพื้นฐานค่านิยมเครือเจริญโภคภัณฑ์ ซึ่งประกอบไปด้วย

1. ประโยชน์ต่อประเทศชาติ ยืนหยัดความซื่อสัตย์ถือ ‘ทุจริตคอร์รัปชัน’ เป็นศัตรูในทุกส่วนงาน คำนึงถือผลประโยชน์ของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอย่างสมดุล รวมถึงได้เข้าร่วมกับองค์กรต่อต้านคอร์รัปชั่น (ประเทศไทย) และเครือข่ายต่างๆ ในการสนับสนุนกิจกรรมเพื่อแสดงพลังในการป้องกันการทุจริตที่กระทบต่อเศรษฐกิจ สังคม และประเทศชาติ

2. ประโยชน์ต่อประชาชน การขับเคลื่อนธุรกิจทำให้เกิดการสร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้กับพนักงานกว่า 170,000 คนทั่วประเทศและส่งเสริมอาชีพกลุ่มเปราะบาง เพื่อลดความเหลื่อมล้ำในสังคม นอกจากนี้ยังส่งเสริมผู้ประกอบการ SME จำหน่ายสินค้าผ่านร้านเซเว่น อีเลฟเว่น กว่า 1,000 ราย รวมทั้งมีการบริหารผลิตภัณฑ์เพื่อส่งเสริมสุขภาพและโภชนาการ เพื่อให้ประชาชนในสังคมเข้าถึงอาหารที่ปลอดภัย มีคุณค่าทางโภชนาการ มีสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี

3. ประโยชน์ต่อองค์กร ถือเป็นบทพิสูจน์ความเป็นองค์กรชั้นนำ ในฐานะภาคธุรกิจที่ให้ความสำคัญกับความยั่งยืนในทุกมิติ ปีที่ผ่านมา 2563 ซีพี ออลล์ได้รับการรับรองจากสถาบันชั้นนำระดับประเทศ และระดับโลก ถึง 4 สถาบัน ไม่ว่าจะเป็น ดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์(DJSI) ซึ่งซีพี ออลล์ ได้รับคัดเลือกให้อยู่ในกลุ่ม World Index ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 (2561-2563) และกลุ่ม Emerging Markets Index ต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 (2560-2563) ในกลุ่มอุตสาหกรรม Food & Staples Retailing, ได้รับคัดเลือกให้เป็นสมาชิก FTSE4Good Index ในกลุ่ม Food & Drug Retailers ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 (2561-2563) อีกทั้งยังมีคะแนนสูงสุดติด 1 ใน 5 ของบริษัทชั้นนำทั่วโลกในกลุ่มค้าส่งค้าปลีกอาหาร และอุตสาหกรรมการให้บริการผู้บริโภค, สถาบันไทยพัฒน์ คัดเลือกซีพี ออลล์ ให้อยู่ใน Universe ของหลักทรัพย์ ESG 100 กลุ่มบริการ (Services) ต่อเนื่องกันเป็นปีที่ 3 (2561-2563) และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยซึ่งประกาศรายชื่อหุ้นยั่งยืน หรือ Thailand Sustainability Investment (THSI) ประจำปี 2563 ให้ซีพี ออลล์ เป็นหุ้นยั่งยืน ปีที่ 3 ติดต่อกัน (2561-2563) ในกลุ่มบริการ (Services)

ในช่วงที่ผ่านมา ซีพี ออลล์ ได้ให้ความสำคัญเป็นอย่างมากกับการวางมาตรการการต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชันภายในและภายนอกองค์กรอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2564 นี้ ซีพี ออลล์ ยังคงมุ่งมั่นเดินหน้าประกาศเป็นนโยบายสำคัญขององค์กร เผยแพร่ข้อมูลข่าวสาร และจัดอบรมให้ความรู้แก่บุคลากรทุกหน่วยงาน ทุกระดับชั้น พร้อมกำหนดแนวทางปฏิบัติต่อคู่ค้าหรือผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทางธุรกิจทุกกลุ่มอย่างชัดเจน ตอกย้ำให้พนักงานและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียภายนอกได้รับรู้ถึงช่องทางในการรับแจ้งเบาะแสหรือข้อสงสัยเกี่ยวกับการคอร์รัปชัน รวมทั้งมีการติดตามผลการดำเนินงานของทุกภาคส่วนเพื่อรายงานต่อคณะกรรมการความยั่งยืนและบรรษัทภิบาลทุกไตรมาส เพื่อดูแลควบคุมนโยบาย ปรับปรุง ให้คำแนะนำต่างๆ ในการทำงานให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ตลอดจนสร้างเครือข่ายผู้นำรุ่นใหม่ด้านธรรมาภิบาล ผ่านรูปแบบกิจกรรมเฟ้นหาสุดยอด Mister & Miss Good Governance เพื่อเป็นเวทีให้คนรุ่นใหม่ได้แสดงออกถึงแนวคิดเรื่องธรรมาภิบาลที่ทันยุค ทันสมัย และให้ผู้ชนะดำรงตำแหน่งเป็น “แอมบาสเดอร์” ส่งเสริมธรรมาภิบาลขององค์กรอย่างยั่งยืน

“ธรรมาภิบาลนั้น เมื่อทุกคนในองค์กรร่วมกันยึดมั่นปฏิบัติ ตระหนักถึงความซื่อสัตย์ ความโปร่งใส จะทำให้เกิดความสุข ความไว้วางใจและเชื่อใจกันและกัน ทำให้องค์กรนั้นเกิดพลังในการสร้างสรรสิ่งใหม่ๆ ที่ดีต่อสังคม ชุมชน และประเทศชาติ มีแต่ความเจริญตราบใดที่ผู้คนไม่เริ่มทุจริต เห็นแก่ตัว หาผลประโยชน์เข้าตัว ซึ่งจะส่งผลกระทบให้เกิดการกัดกินองค์กร ทำให้เกิดการกัดกร่อน องค์กรเกิดความไม่มั่นคง และในที่สุดพลังขององค์กรก็จะหายไป ดังนั้น ตลอดระยะเวลากว่า 30 ปี ซีพี ออลล์ ดำเนินธุรกิจด้วยความมุ่งมั่นและทุ่มเทนำเสนอสินค้าคุณภาพ และบริการความสะดวกมอบแด่ลูกค้า ควบคู่ไปกับการดำเนินธุรกิจอย่างเป็นธรรมกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกกลุ่ม และมุ่งมั่นดำเนินธุรกิจตามหลักธรรมาภิบาลเป็นสำคัญ รวมพลังผู้บริหารและพนักงานทุกคน เพื่อขับเคลื่อนองค์กรสู่ความยั่งยืนต่อไป” นางสาวลาวัณย์ กล่าวทิ้งท้าย