ชวนช้อป Haier Inspired Living Live 2021

ยุคโควิดแบบนี้จะเลือกซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าราคาดี ตอบโจทย์วิถี New Normal ต้องแบรนด์ ไฮเออร์ (Haier) ผู้นำด้านผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าระดับโลก และเป็นแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านอันดับ 1 ของโลกติดต่อกัน 12 ปีซ้อน ล่าสุดจัดแคมเปญ Haier Inspired Living Live 2021 ให้ชมและช้อปเครื่องใช้ไฟฟ้าไฮเออร์แบบเรียลไทม์ ผ่านการ Live ทางเฟซบุ๊ก Haier Thailand ส่งตรงสู่เฟซบุ๊กแฟนเพจของร้านค้าตัวแทนจำหน่ายไฮเออร์ที่ร่วมรายการทั่วประเทศ จะซื้อร้านไหน สามารถสั่งตรงได้ที่แฟนเพจร้านนั้น พร้อมให้ช้อปแบบทันใจ ไม่ว่าจะอยู่ในจังหวัดใดก็ตาม วันละ 2 รอบ รอบเวลา 12.00-13.00 น. และ 17.00-18.00 น. ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เริ่มวันที่ 4 มิถุนายน ถึง 31 กรกฎาคม

ที่สำคัญ! เพียงรับชม Facebook Live! นอกจากชมและช้อปเครื่องใช้ไฟฟ้าออนไลน์ได้แล้ว ก็สามารถได้รับสิทธิพิเศษแบบ 2 ต่อได้ทุกวัน

ต่อที่ 1 : รับส่วนลดสูงสุดถึง 40% พร้อมบริการส่งสินค้าฟรีถึงหน้าบ้าน เมื่อชม Facebook Live! แล้วอินบ็อกซ์ หรือโทรสั่งซื้อสินค้าไฮเออร์จากร้านค้าตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมรายการ

ต่อที่ 2 : เมื่อชม Facebook Live! แล้วแชร์ Link ไปยังเพจหรือกลุ่มต่าง ๆ ผู้ที่แชร์จำนวนสูงสุดประจำวัน รับทันที cash voucher จาก Food Panda มูลค่า 1,000 บาท จำนวน 1 รางวัล ส่วนผู้ที่แชร์ในจำนวนรองลงมา รับทันที เสื้อ Haier Inspired Living จำนวน 3 รางวัล

กติกาง่าย ๆ เพียงแคปหน้าจอเป็นหลักฐานการแชร์ในเพจหรือกลุ่มต่างๆ แล้วส่งมาทางอินบ๊อกซ์ เฟซบุ๊ค : HaierThailand ผู้โชคดี จะได้รับการประกาศผลบนเฟซบุ๊กของร้านค้าดีลเลอร์นั้นๆ ในวันถัดไป

ชมและช้อปเครื่องใช้ไฟฟ้าคุณภาพดี ราคาพิเศษ พร้อมลุ้นรับรางวัลมากมาย ติดตามรายละเอียดตารางการ Live ของร้านค้าตัวแทนจำหน่ายและไฮเออร์แบรนด์ช็อปที่ร่วมรายการได้ที่เฟซบุ๊ค : HaierThailand

เดอะ มาร์เก็ต แบงคอก ร่วมเปิดจุดบริการฉีดวัคซีนโควิด–19

บมจ.เดอะ แพลทินัม กรุ๊ป ผู้บริหารศูนย์การค้า เดอะ มาร์เก็ต แบงคอก ราชประสงค์ สนับสนุนพื้นที่รวมกว่า 2,500 ตารางเมตร  ณ บริเวณอาคาร M2 ที่ชั้น M และชั้น 1 เพื่อเป็นหน่วยบริการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด – 19 ให้แก่ผู้ประกันตน โดย กระทรวงแรงงาน, สำนักงานประกันสังคม ซึ่งถือเป็น 1 ใน จุดฉีดวัคซีน 45 แห่ง ในกรุงเทพมหานคร  รับผิดชอบโดยสำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานคร พื้นที่ 4 (บางรัก,ปทุมวัน) สำหรับแนวทางการประสานงานการฉีดวัคซีนกลุ่มเป้าหมาย ทางสำนักงานประกันสังคมเป็นผู้ประสานงานกับนายจ้างของแต่ละบริษัทที่มีผู้ประกันตนโดยตรงพร้อมจัดสรรเวลาตามลำดับ โดยเริ่มต้นให้บริการฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้กับผู้ประกันตนในวันที่ 7  มิถุนายน 64 ซึ่งในแต่ละวันจะสามารถรองรับการฉีดวัคซีนได้ 2,000 คนต่อวัน โดยบุคลากรทางการแพทย์จากโรงพยาบาลมเหสักข์และโรงพยาบาลปิยะเวท

โดยการบริการฉีดวัคซีนดังกล่าว ทางศูนย์การค้าเดอะ มาร์เก็ต แบงคอก ได้ให้การสนับสนุนพื้นที่ ทั้งนี้เพื่อเป็นการช่วยเหลือภาครัฐ ในการให้บริการฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้กับประชาชน อย่างเร่งด่วนให้ได้มากที่สุด    เพื่อป้องกันโรคให้กับตนเองและคนรอบข้าง ตลอดจนสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ให้กับประเทศโดยเร็วที่สุด ทั้งนี้ทางศูนย์การค้า ได้เตรียมพื้นที่อำนวยความสะดวกสำหรับหน่วยบริการฉีดวัคซีน สำหรับผู้ประกันตน ดังนี้

1.จัดพื้นที่บริเวณอาคาร M2 ที่ชั้น M และชั้น 1 ซึ่งมีพื้นที่รวมประมาณ 2,500 ตารางเมตร พร้อมจัดการเว้นระยะห่างอย่างเป็นระบบนอกจากนี้ยังมีระบบเครื่องปรับอากาศที่ผ่านการฆ่าเชื้อและอากาศถ่ายเทเป็นอย่างดี

2.การเดินทางเขาถึงพื้นที่สะดวกสบาย จากรถไฟฟ้าสถานีสยาม,ชิดลม และท่าเรือประตูน้ำ

3.เปิดบริการฉีดวัคซีนทุกวันตั้งแต่เวลา 08.00 – 17.00 น.ในส่วนศูนย์การค้าเปิดบริการ 10.00– 21.00 น.

4.คุมเข้มมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 อย่างสูงสุด ประกอบด้วย  1) คัดกรองอย่างเข้มงวด 2)เว้นระยะห่าง 3) ลดการสัมผัส 4) รุกเข้มความสะอาด 5) ติดตามเพื่อปลอดภัย นอกจากนี้ยังมีมาตรการเชิงรุกป้องกันล่วงหน้า ด้วยการฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อโรคอย่างต่อเนื่อง และอบโอนโซนหลังศูนย์การค้าปิดบริการ  เป็นประจำทุกวัน

สำหรับผู้ประกันตน หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับขั้นตอนการลงทะเบียนรับวัคซีน สามารถติดต่อสำนักงานประกันสังคมพื้นที่สาขาที่นายจ้างสังกัดอยู่ ได้ในเวลาทำการ ทางสายด่วนประกันสังคม 1506 สำหรับสำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานคร พื้นที่ 4 หมายเลขโทรศัพท์  02-634-0181-95 หรือติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ Facebook:TheMarketBangkok

Welcare เปิดตัวสินค้าใหม่ “หน้ากากอนามัยทางการแพทย์”

Welcare แบรนด์หน้ากากอนามัยชั้นนำของไทย เปิดตัวสินค้าใหม่ “Welcare Mask Level 2 Medical Series” อีกระดับของหน้ากากอนามัยทางการแพทย์ ที่ผ่านการทดสอบจากสถาบันทั้งในไทยและต่างประเทศ การันตีโดยได้รับมาตรฐาน มอก. 2424-2562 ระดับ 2 เป็นรายแรกและรายเดียวในประเทศไทยในขณะนี้

สำหรับหน้ากากอนามัยเวลแคร์ ที่เคยได้รับมาตรฐาน มอก.ระดับ 1 เมื่อต้นปีที่ผ่านมา ล่าสุดได้เปิดตัวสินค้าใหม่ หน้ากากอนามัยทางการแพทย์เวลแคร์ ระดับ 2 ซึ่งมีคุณสมบัติเด่นในเรื่องของคุณภาพที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น และผ่านการทดสอบจากสถาบันทั้งในไทยและต่างประเทศที่สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม(สมอ.)รับรอง ทั้งสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย สถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ และ Nelson Laboratories ประเทศสหรัฐอเมริกา

โดยสินค้าหน้ากากอนามัยทางการแพทย์เวลแคร์ที่ได้รับ มอก. ระดับ 2 นี้ได้ผลทดสอบจากแลปด้านประสิทธิภาพในการกรองที่สูงขึ้นดังนี้

  • ประสิทธิภาพการกรองละอองอนุภาคขนาด 0.1 ไมครอน (PFE) ผลทดสอบจากแลปทำได้ ≥ 99% (มาตรฐาน มอก.ระดับ 2 กำหนดที่ ≥ 98%)*
  • ประสิทธิภาพการกรองละอองแบคทีเรีย (BFE) ผลทดสอบจากแลปทำได้ ≥ 99%
  • ประสิทธิภาพการกรองละอองไวรัส (VFE) ผลทดสอบจากแลปทำได้ ≥ 99%
  • ประสิทธิภาพการป้องกันของเหลวหรือละอองเลือดเลือดซึมผ่าน (Fluid Resistance) ผลทดสอบจากแลปทำได้มากถึง 120 มิลลิเมตรปรอท (ตามเกณฑ์กำหนดของ มอก. ระดับ 2)
  • ประสิทธิภาพการกรองสามารถทนต่อการลามไฟผลทดสอบจากแลปทำได้ระดับที่ 1 (ตามเกณฑ์กำหนดของ มอก. ระดับ 2 เป็นระดับที่ดีที่สุด)
  • ประสิทธิภาพการต้านทานในการไหลของอากาศผ่านหน้ากากอนามัยผลทดสอบจากแลปทำได้น้อยกว่า 5 mmH2O/cm2 (ค่ายิ่งน้อยยิ่งหายใจสะดวก)

ด้วยคุณภาพการป้องกันการซึมผ่านของละอองเลือดและของเหลวที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น ทำให้ หน้ากากอนามัยทางการแพทย์เวลแคร์ มอก. ระดับ 2 เหมาะสำหรับการใช้งานในโรงพยาบาลหรือห้องปฏิบัติการที่ผู้สวมใส่มีโอกาสสัมผัสกับของเหลวหรือละอองเลือดโดยตรงแต่อยู่ในปริมาณที่เล็กน้อย อาทิ เช่น แพทย์ทั่วไป, ทันตแพทย์, บุคลากรทางการแพทย์, หน่วยฉุกเฉิน เป็นต้น และสำหรับผู้บริโภคทั่วไปที่ไม่ใช่แพทย์หรือบุคลากรทางการแพทย์ ก็สามารถใช้งานหน้ากากอนามัยเวลแคร์ มอก. ระดับ 2 ได้เช่นกัน เพื่อเพิ่มความมั่นใจในหน้ากากอนามัยเวลแคร์ และการป้องกันตัวเองที่ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม

ทั้งนี้ หน้ากากอนามัยทางการแพทย์เวลแคร์ ระดับ 2 เริ่มจำหน่ายในวันที่ 6 มิถุนายน 2564 เป็นต้นไป ผู้สนใจสามารถสั่งซื้อสินค้าได้ทาง Shopee: หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Facebook: welcarethailand https://www.facebook.com/welcare.thailand และ Line OA: @welcare

เวียตเจ็ท ต้อนรับ 6.6 ตั๋วเครื่องบิน เริ่มต้น 0 บาท

สายการบินไทยเวียตเจ็ท ต้อนรับเทศกาล 6.6 เปิดตัวโปรโมชั่น ‘6.6 Mega Sale’ เสนอตั๋วเครื่องบินราคาพิเศษ เริ่มต้นเพียง 0 บาท เปิดให้จอง 6 วัน ตั้งแต่วันที่ 6 – 11 มิถุนายน 2564  เมื่อจองในช่วงเวลา 12.00-14.00 เท่านั้น และ ตั๋วราคาเริ่มต้น 99 บาท เมื่อจองในช่วงเวลาอื่น ๆ (ราคาไม่รวมภาษี ค่าธรรมเนียม และค่าบริการเสริมพิเศษ) สำหรับใช้เดินทางในทุกเส้นทางบินภายในประเทศของสายการบินฯ  ผู้โดยสารสามารถจองได้ตั้งแต่วันที่ 6 – 11 มิถุนายน 2564 ช่วงเวลาเดินทางตั้งแต่ 1 กรกฎาคม  – 31 ธันวาคม 2564 (ยกเว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์) ที่ www.vietjetair.com

นอกจากนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2564 เป็นต้นไป สายการบินฯ ได้เพิ่มความถี่จำนวนเที่ยวบินภายในประเทศ เพื่อมอบตัวเลือกการเดินทางที่มากขึ้นแก่ผู้โดยสารทุกท่าน

บัตรโดยสารโปรโมชั่นนี้สามารถจองได้ที่เว็บไซต์ www.vietjetair.com โดยสามารถใช้ได้กับเส้นทางบินภายในประเทศทุกเส้นทางของไทยเวียตเจ็ท ประกอบด้วยเส้นทางบินระหว่างกรุงเทพฯ (สุวรรณภูมิ) สู่ เชียงใหม่ เชียงราย ภูเก็ต กระบี่ อุดรธานี หาดใหญ่ ขอนแก่น นครศรีธรรมราช อุบลราชธานี และสุราษฎร์ธานี ตั๋วโดยสารโปรโมชั่น สามารถทำการจองผ่านทางเว็บไซต์ www.vietjetair.com หรือจองผ่านทางเพจเฟซบุ๊ก https://www.facebook.com/vietjetthailand (คลิกที่แถบ “จองเลย”) สามารถชำระเงินด้วยบัตรเครดิตและเดบิตวีซ่า, มาสเตอร์การ์ด, เจซีบี, เคซีพี และ อเมริกันเอ็กซ์เพรส หรือบัตรเอทีเอ็มซึ่งออกโดยธนาคารในประเทศไทยซึ่งสามารถทำธุรกรรมทางการเงินผ่านอินเตอร์เน็ตได้

สายการบินไทยเวียตเจ็ทยังคงมุ่งมั่นให้บริการเที่ยวบินในทุกเครือข่ายเส้นทางบิน แม้ในช่วงการระบาดของโรคไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 (COVID-19) ระลอกที่ 3 ในประเทศไทย สายการบินฯ ได้ขยายมาตรการช่วยเหลือผู้โดยสารที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 สำหรับผู้โดยสารที่ถือบัตรโดยสารเส้นทางบินภายในประเทศทุกเส้นทางของสายการบินไทยเวียตเจ็ท ที่ทำการจองบัตรโดยสารและชำระเงินก่อนวันที่ 30 เมษายน 2564 โดยมีช่วงวันเดินทางระหว่างวันที่ 1 – 30 มิถุนายน 2564  สามารถเลือกรับมาตรการช่วยเหลือได้ ดังนี้

  1. เลือกเปลี่ยนวันเดินทางได้ฟรี 1 ครั้งในเส้นทางบินเดิม โดยไม่มีค่าธรรมเนียมและส่วนต่างค่าโดยสาร โดยกำหนดวันเดินทางใหม่อยู่ภายในวันที่ 30 กันยายน 2564 ทั้งนี้ ไม่สามารถเลือกเปลี่ยนเส้นทางบินได้

ผู้โดยสารที่ทำการจองบัตรโดยสารผ่านเว็บไซต์ skyfun.vietjetair.com สามารถดำเนินการเปลี่ยนวันเดินทางใหม่ได้ด้วยตัวเอง ผ่านเมนู ‘Manage booking’ ที่ skyfun.vietjetair.com/searchreservation (เฉพาะการจองผ่านเว็บไซต์ skyfun.vietjetair.com เท่านั้น)

  1. 2. เลือกเก็บมูลค่าบัตรโดยสารเป็นวงเงินสำหรับชำระค่าบริการของสายการบินในครั้งต่อไป (Credit Shell) โดยวงเงินมีอายุใช้งานได้ 3 เดือนนับจากกำหนดวันเดินทางเดิม โดยจะต้องดำเนินการแจ้งขอเก็บวงเงินเสร็จสิ้นอย่างน้อย 72 ชั่วโมงก่อนกำหนดการเดินทางเดิม

สำหรับผู้โดยสารที่มีช่วงวันเดินทางตามที่ระบุ และต้องการติดต่อรับมาตรการช่วยเหลือ โปรดติดต่อศูนย์บริการลูกค้า (อย่างน้อย 72 ชั่วโมงก่อนกำหนดการเดินทางเดิม) โดยสามารถเลือกติดต่อได้ตามช่องทางที่สะดวก ดังนี้

  1. ดำเนินการเปลี่ยนวันเดินทางใหม่ด้วยตัวเอง ที่ skyfun.vietjetair.com/searchreservation
  2. 2. กรอกข้อมูลผ่านแบบฟอร์มอิเล็กทรอนิกส์ ที่ https://bit.ly/2L6Yv4z (ช่องทางที่แนะนำ)
  3. 3. ติดต่อผ่านไลน์ ที่ @ThaiVietjet
  4. 4. ติดต่อผ่านอีเมล ที่ [email protected]
  5. 5. ติดต่อผ่านระบบตอบกลับอัตโนมัติ (chatbot) ที่ https://skyfun.vietjetair.com/

สายการบินไทยเวียตเจ็ทมุ่งมั่นในการให้บริการด้วยความปลอดภัยสูงสุดสำหรับผู้โดยสาร โดยได้ดำเนินมาตรการทำความสะอาดและฆ่าเชื้ออากาศยานอย่างเคร่งครัดตามมาตรฐานของกระทรวงสาธารณสุข รวมถึงการทำความสะอาดและฆ่าเชื้อในสำนักงาน เพื่อลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นกับพนักงานทุกคน  เพื่อให้ความมั่นใจต่อสุขภาพและความปลอดภัยสูงสุดของผู้โดยสาร

IDOL แนะคนไทยแยกขยะให้ถูกวิธีด้วย 3R

เนื่องในสัปดาห์วันสิ่งแวดล้อมโลก (5 มิ.ย ) มิวเซียมสยาม ในฐานะพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้ เล็งเห็นถึงความสำคัญในการเป็นส่วนหนึ่งของสังคมที่จะช่วยแก้ไขและบรรเทาปัญหาดังกล่าวเพื่ออนาคตที่ดีของสังคมไทยและของโลกด้วย จึงมีแนวคิดในการลดปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม โดยผุดโครงการขยะบทที่ 3 ยิ่งลดเท่ากับยิ่งให้ ขึ้นมาเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ ตระหนักถึงการรักษาสิ่งแวดล้อม และเข้าใจในวิธีการคัดแยกขยะที่ถูกต้องเพื่อสามารถนำไปต่อยอดให้เกิดเป็นประโยชน์ต่อไปได้อีก โดยสามารถนำแนวคิดไปปรับใช้และปฏิบัติได้แองให้เห็นเป็นรูปธรรมเพื่อก่อให้เกิดประโยชน์ต่อสังคมในภาพรวมต่อไป โดยเชื่อมโยงด้วยแนวคิด 3R คือ

:Reduce การลดขยะ ลดการใช้ หรือคิดก่อนใช้ ควบคุมปริมาณการใช้พลาสติกให้อยู่ในสัดส่วนที่พอเหมาะ  บริโภคทรัพยากรที่ไม่จำเป็นลง ลดการสร้างขยะในชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะลดการใช้ถุงพลาสติก เลือกบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

:Reuse นำกลับมาใช้ซ้ำ (ใช้แล้วใช้อีก) ถือเป็นการใช้ทรัพยากรให้คุ้มค่าที่สุด โดยการนำสิ่งของเครื่องใช้ มาใช้ซ้ำก่อนทิ้ง หรือ หาภาชนะ เลือกสินค้าที่เราสามารถใช้ซ้ำได้ เช่น ถุงผ้า กระบอกน้ำ กล่องใส่อาหารส่วนตัว

:Recycle นำกลับมาใช้ใหม่ โดยคัดแยกขยะมูลฝอยแต่ละประเภท ที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่หมุนเวียนกลับเข้าสู่กระบวนการผลิตของแต่ละประเภทได้เพื่อต่อยอดไปสู่ผลิตภัณฑ์ใหม่ได้ เช่น ขวดแก้ว กระดาษ โลหะ ขวดและฝาพลาสติก เป็นต้น หรือเลือกซื้อสินค้าที่ผลิตจากวัสดุรีไซเคิล

จะเห็นได้ว่า แนวคิดเชื่อมโยง 3R เป็นวิธีการหนึ่ง ที่จะช่วยลดปริมาณขยะ ลดการสร้างมลพิษให้แก่โลก และนำกลับมาใช้ประโยชน์อย่างคุ้มค่าให้กับสังคม เป็นวิถีแห่งความยั่งยืนที่พวกเราช่วยกันทำได้จริง

โครงการขยะบทที่ 3 ยิ่งลดเท่ากับยิ่งให้ ในครั้งนี้ถือเป็นการสานต่อจากโครงการขยะบทที่ 2 ฟื้นชีวิตขยะให้มีค่า ของมิวเซียมสยามที่ร่วมสร้างความตระหนักในเรื่องของการคัดแยกและสร้างคุณค่าให้ขยะอีกครั้ง โดยมีเป้าหมายให้คนไทยตระหนักเกิดการเรียนรู้ ปรับใช้ หรือปฏิบัติให้เกิดผลเป็นรูปธรรมที่ชัดเจน และผลักดันให้เกิดแรงบันดาลใจในการรักษาสิ่งแวดล้อมอย่างแท้จริง ซึ่งในปีนี้จะเน้นการส่งเสริมการเรียนรู้ไปกับ  บุคคลต้นแบบด้านการรักษาสิ่งแวดล้อม โดยที่ผ่านมา มิวเซียมสยาม ได้จัดกิจกรรม Museum Live เปิดคลาสพิเศษ แลกเปลี่ยนมุมมองรักษ์โลก ในหัวข้อ “ธรรมชาติสร้างของขวัญ”  โดยครั้งแรกนี้ได้ อเล็กซ์ เรนเดลล์ ผู้ก่อตั้งโครงการ EEC Thailand หรือ ศูนย์สิ่งแวดล้อมศึกษา ที่สร้างความตระหนักด้านสิ่งแวดล้อมให้กับเด็กๆ มายาวนานกว่า 5 ปี จนได้รับการแต่งตั้งจาก โครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ (UNEP) เป็นทูตสันถวไมตรีคนแรกประจำประเทศไทย  รวมถึง ได้รับรางวัล Muse Idol Awards 2020 บุคคลต้นแบบด้านการส่งเสริมการเรียนรู้ผ่านแหล่งเรียนรู้ทางธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ของ มิวเซียมสยาม มาทำหน้าที่บรรยายในคลาสพิเศษ

โดย อเล็กซ ได้ให้มุมมองในการบรรยายที่ผ่านมาว่า  “การแยกขยะในวิธีการของผมแบบง่าย คือการแยกขยะแห้ง กับ ขยะเปียก เพราะขยะแห้งสามารถทำไปทำอะไรที่เป็นประโยชน์ได้มากกว่า ทั้ง Reduce Reuse Recycle   สำหรับผม ธรรมชาติ ทำให้เราได้เติบโตหลายทิศทาง ธรรมชาติบำบัดได้ ทำให้เราใจเย็น  ทำให้ความคิดของเรามันช้าลง ทำให้ผมมีสมาธิ และเข้าใจชีวิตได้ดีขึ้น  เราได้เห็นความสำคัญของสิ่งเล็กๆน้อยๆ ทำให้เราไม่ใช่คนฟุ่มเฟือย เรารู้สึกว่าเราโชคดี และอยากใช้โอกาสในความโชคดีนี้ กระจายไปสู่ทุกคน เป็นสิ่งที่ธรรมชาติให้ของขวัญเรา ในชีวิตครับ”

นอกจากนี้ ยังมีบุคคลต้นแบบที่ทำงานด้านอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอีกมากมาย ที่จะมาเล่าเรื่องราว ร่วมเรียนรู้และค้นหาคำตอบด้วยกันว่า “ธรรมชาติสร้างของขวัญ ได้อย่างไร” โดยสามารถติดตาม ข้อมูลกิจกรรม Museum Live ธรรมชาติสร้างของขวัญ ผ่านทาง Facebook Live เพจ Museumsiamfan ได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

อัปเกรด “ทีทีบี สมาร์ทพอร์ต” เริ่มเสนอขาย 7 มิ.ย. นี้

ทีเอ็มบีธนชาต หรือ ทีทีบี (ttb) ยกระดับประสบการณ์การลงทุนเพื่ออนาคต ผ่าน “ทีทีบี สมาร์ทพอร์ต” (ttb smart port) รูปแบบใหม่ ตอบโจทย์ความต้องการของนักลงทุนได้ดียิ่งขึ้น เพิ่มความยืดหยุ่นให้ปรับพอร์ตได้ทันท่วงที ขายคืนได้เงินเร็วไม่ติดปัญหาเรื่องสภาพคล่อง แสดงมูลค่าหน่วยลงทุน (NAV) เหมือนการซื้อขายกองทุนทั่วไป พร้อมมีผู้เชี่ยวชาญระดับโลกจัดพอร์ตการลงทุนที่ง่ายเลือกได้ถึง 5 พอร์ต ช่วยเพิ่มโอกาสได้รับผลตอบแทนที่ดีขึ้น สามารถบรรลุเป้าหมายการลงทุนตามต้องการได้อย่างสบายใจ นอกจากนี้ ยังขยายโอกาสให้เข้าถึงการลงทุนได้ง่ายขึ้น ด้วยเงินลงทุนเริ่มต้นเพียง 1 บาท เพื่อให้ลูกค้ามีชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้นทั้งวันนี้และในอนาคต โด ttb smart port จะเริ่มเสนอขายตั้งแต่วันที่ 7 มิถุนายน 2564

นางกิดาการ  ชัฏสุวรรณ หัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหารผลิตภัณฑ์กองทุนรวม ทีเอ็มบีธนชาต หรือ ทีทีบี (ttb) เปิดเผยว่า ด้วยเป้าหมายของทีเอ็มบีธนชาตที่ต้องการสร้างชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้นให้กับลูกค้าทั้งในวันนี้และอนาคต โดยมุ่งมั่นออกแบบโซลูชันทางการเงินที่ตรงกับความต้องการของลูกค้าแต่ละกลุ่ม ในแต่ละช่วงชีวิต ทั้งนี้สำหรับกลุ่มลูกค้าที่มีความพร้อม ต้องการเริ่มลงทุน หรือเพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนจากการลงทุนที่มากขึ้น ธนาคารได้พัฒนา ttb smart port รูปแบบใหม่ ซึ่งได้ยกระดับมาจาก TMB Smart Port พอร์ตการลงทุนที่ได้รับผลตอบรับอย่างดีจากนักลงทุนจำนวนมากอย่างต่อเนื่อง โดยจากผลการดำเนินงานที่ผ่านมา ตั้งแต่จัดตั้งพอร์ตเมื่อวันที่ 1 มกราคม 2560 พอร์ตที่ความเสี่ยงสูงสุด (Aggressive) สามารถทำผลตอบแทนได้เฉลี่ย 7.02% ต่อปี ซึ่งได้พิสูจน์ด้วยระยะเวลาการลงทุนแม้ในช่วงวิกฤตโควิดเดือนมีนาคมที่ผ่านมา โดย “ttb smart port” จะเป็นการยกระดับประสบการณ์การลงทุนขึ้นไปอีกขั้น เป็นคำตอบการลงทุนสำหรับทุกคน ด้วยพอร์ตการลงทุนที่ง่าย สะดวก เลือกได้ตามสไตล์ของลูกค้า มีผู้เชี่ยวชาญดูแลอย่างใกล้ชิด ช่วยให้ลูกค้าบรรลุเป้าหมายการลงทุนตามต้องการได้อย่างสบายใจ

ttb smart port รูปแบบใหม่ พัฒนาขึ้นด้วย 3 กลยุทธ์สำคัญ ได้แก่ 1. Fund selection ผ่านกระบวนการที่คัดเฉพาะกองทุนที่มีผลการดำเนินงานโดดเด่นจากทั่วโลก 2. Asset allocation จัดวางสัดส่วนการลงทุนอย่างเหมาะสมให้เป็นไปตามความเสี่ยงและเป้าหมายการลงทุนของลูกค้า และ 3. Rebalancing portfolio ด้วยทีมงานมืออาชีพที่คอยติดตามสภาวะตลาด ดูแลอย่างใกล้ชิด โดยลูกค้าสามารถเลือกลงทุนผ่าน 5 พอร์ต ได้ง่าย ๆ ตามระดับความเสี่ยงที่เหมาะสม

  1. ttb smart port preserver (TSP-PRESERVER) ลงทุนในตราสารหนี้ไม่น้อยกว่า 80%
  2. ttb smart port nurturer (TSP-NURTURER) ลงทุนในตราสารทุนไม่เกิน 40%
  3. ttb smart port balancer (TSP-BALANCER) ลงทุนในตราสารทุนไม่เกิน 80%
  4. 4. ttb smart port explorer (TSP-EXPLORER) ลงทุนในตราสารทุน 0-100%
  5. ttb smart port go-getter (TSP-GOGETTER) ลงทุนในตราสารทุนไม่น้อยกว่า 80%

ttb smart port รูปแบบใหม่นี้ ได้มีปรับปรุงเชิงรุกโดยใช้ข้อมูลเชิงลึก (Insight) มาตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าให้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม พร้อมขยายโอกาสการลงทุนได้ง่ายขึ้นสำหรับทุกคน ด้วยเงินลงทุนเริ่มต้นเพียง 1 บาท ไม่มีค่าธรรมเนียมแรกเข้า เพิ่มความยืดหยุ่นมากขึ้น และเพิ่มความโปร่งใส สำหรับการลงทุนต่างประเทศ จะลงทุนตรงใน Master Fund ซึ่งนักลงทุนจะเห็นได้ชัดเจนมากขึ้นว่าลงทุนในกองทุนต่างประเทศกองทุนใด การซื้อขายสับเปลี่ยนกองทุนจะคล่องตัวขึ้นแม้อยู่ในช่วงปรับพอร์ต ไม่ติดปัญหาเรื่องสภาพคล่องหรือเสียโอกาสการลงทุน เพราะจะได้รับเงินค่าขายคืนภายใน 5 วันทำการหลังจากวันที่สั่งขาย (T+5) และสามารถติดตามผลการดำเนินงานและรู้กำไร/ขาดทุน จากการแสดงรายละเอียดมูลค่าหน่วยลงทุน (NAV) เหมือนการซื้อขายกองทุนทั่วไป ผ่านการแจ้งเตือนในแอป touch ที่ง่าย ครบ จบ ที่เดียว

“เพื่อให้ ttb smart port เป็นคำตอบการลงทุนสำหรับทุกคนช่วยให้ลูกค้าเลือกแผนการลงทุนได้เอง เลือกผลตอบแทนที่เหมาะกับตัวเองที่สุด เพื่อให้ลูกค้าบรรลุเป้าหมายการลงทุนได้อย่างต้องการ ธนาคารได้ร่วมเป็นพันธมิตรกับ บลจ.ธนชาต (Thanachart Fund Eastspring) โดยมอบหมายให้ Amudi Asset Management เป็นผู้รับดำเนินการงานด้านจัดการลงทุนของกองทุน ซึ่ง Amudi Asset Management เป็นบริษัทจัดการสินทรัพย์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในยุโรป มีชื่อเสียงและความเชี่ยวชาญสามารถคัดเลือกกองทุนที่มีคุณภาพจากบลจ.ชั้นนำทั้งในและต่างประเทศกว่า 30,000 กองทุน มาจัดพอร์ตการลงทุนที่เหมาะสม ช่วยดูแลปรับพอร์ตของ ttb smart port ได้ตลอดเวลาตามสภาวะตลาดได้อย่างทันท่วงที นอกจากนี้ ธนาคารยังมีแผนที่จะเพิ่มพอร์ตลงทุนใหม่ ๆ ใน ttb smart port เพื่อเป็นทางเลือกการลงทุนที่ทำให้ลูกค้ามีชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้นทั้งในวันนี้และอนาคตต่อไป” นางกิดาการ กล่าวสรุป

ทั้งนี้ ลูกค้า ttb smart port เดิม ที่สนใจลงทุน ttb smart port รูปแบบใหม่ สามารถแจ้งความยินยอมเพื่อให้ธนาคารยกเลิกและดำเนินการขายหน่วยลงทุนเดิมทั้งหมด เพื่อนำไปลงทุนใน ttb smart port รูปแบบใหม่ ที่จะมีผลวันที่ 30 กรกฏาคม 2564 โดยธนาคารจะเลือกพอร์ตลงทุนปลายทางตามระดับความเสี่ยงการลงทุนที่ลูกค้าเคยลงทุนไว้

ttb smart port จะเริ่มเสนอขายตั้งแต่วันที่ 7 มิถุนายนนี้ เป็นต้นไป ผู้สนใจสามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ทีเอ็มบีธนชาตทุกสาขา หรือ ttb investment line โทร.1428 กด #4 ทุกวันจันทร์ – วันศุกร์ ตั้งแต่เวลา 9:00 – 17:30 น. (ยกเว้นวันหยุดธนาคาร)

BROOK ผู้ถือหุ้นไฟเขียวเพิ่มทุน 1.36 พันล้านหุ้น

BROOK ผู้ถือหุ้นอนุมัติจัดสรรหุ้นเพิ่มทุนแบบ RO 1.36 พันล้านหุ้น แจกวอแรนต์ฟรีรุ่นที่ 6 – 7 เตรียมนำเงินระดมทุนลุยธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลกระจายความเสี่ยง หลังเปิดฉากเป็นบจ. แรกในตลาดหลักทรัพย์ฯลงทุนคริปโตฯ ย้ำเป้าลงทุน 1.2 พันล้านบาท

นายวริศ บูลกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายสินทรัพย์ดิจิทัล บริษัท บรุ๊คเคอร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ BROOK ประกอบธุรกิจที่ปรึกษาด้านการลงทุนและอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของประเทศไทย เปิดเผยว่า ที่ประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัทฯมีมติอนุมัติการเพิ่มทุนจดทะเบียนบริษัทฯ จากทุนจดทะเบียนเดิม 888,375,760.37 บาท เป็นทุนจดทะเบียนใหม่ 1,489,315,218.75 บาท โดยเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนแก่ผู้ถือหุ้นเดิม (Right Offering) จำนวนไม่เกิน 1,365,576,042 หุ้น อัตราการจัดสรรหุ้น 5 หุ้นสามัญเดิมต่อ 1 หุ้นสามัญเพิ่มทุน ราคาเสนอขายหุ้นละ 0.40 บาท โดยผู้ถือหุ้นที่ซื้อหุ้นและชำระค่าหุ้นเพิ่มทุน จะได้ใบสำคัญแสดงสิทธิ (Warrant) รุ่นที่ 6 (BROOK-W6) ในอัตราส่วน 1 หุ้นสามัญเพิ่มทุนใหม่ ต่อ BROOK-W6 จำนวน 2 หน่วย โดยไม่คิดมูลค่า และมีราคาใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญตาม BROOK-W6 เท่ากับ 0.65 บาท/หุ้น มีอายุการใช้สิทธิเป็นระยะเวลา 3 ปี และได้ใบสำคัญแสดงสิทธิ รุ่นที่ 7 (BROOK-W7) ในอัตราส่วน 2 หุ้นสามัญเพิ่มทุนใหม่ ต่อ BROOK-W7 จำนวน 1 หน่วย โดยไม่คิดมูลค่า และมีราคาใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญตาม BROOK-W7 เท่ากับ 1.30 บาท/หุ้น มีอายุการใช้สิทธิเป็นระยะเวลา 5 ปี ทั้งนี้ผู้ถือหุ้นสามารถจองซื้อและชำระเงินค่าหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทระหว่างวันที่ 21-25 มิถุนายน 2564

“การเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน หากผู้ถือหุ้นใช้สิทธิครบตามจำนวน จะทำให้ได้เงินประมาณ 546 ล้านบาท บริษัทจะนำเงินที่ได้รับในครั้งนี้ลงทุนในธุรกิจที่เป็นเทคโนโลยีเปิดสมัยใหม่บนระบบนิเวศของสินทรัพย์ดิจิทัล ซึ่งรวมถึงเทคโนโลยีบล็อกเชนที่เกี่ยวเนื่องกับสัญญาอัจฉริยะ, ตลาดการซื้อขายแบบมีตัวกลาง, ตลาดการซื้อขายแบบไร้ตัวกลาง และระบบการเงินไร้ตัวกลาง ซึ่งรูปแบบการลงทุนอาจอยู่ในรูปของ Security Tokens , หุ้นสามัญ หรือ Option ที่อ้างอิงบริษัทด้านเทคโนโลยีใหม่อย่างใดอย่างหนึ่งหรือทั้งหมดก็ได้ ทั้งนี้ในการลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัลที่เกิดขึ้นก่อนการเพิ่มทุน บริษัทฯจะนำเงินเพิ่มทุนทั้งหมดหรือบางส่วนคืนเงินกู้และนำเงินส่วนที่เหลือมาใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนหรือนำไปลงในสินทรัพย์ดิจิทัลให้ครบตามงบที่ตั้งไว้ที่ 1,200 ล้านบาท” นายวริศ กล่าว

ทั้งนี้ ปัจจุบันบริษัทได้ลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลประเภทคริปโตเคอร์เรนซี 794 ล้านบาท โทเคนดิจิทัล 313 ล้านบาท รวมลงทุนในช่วงครึ่งปีแรกมูลค่า 1,107 ล้านบาท สำหรับการลงทุนที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในอนาคต จะมีการลงทุนเพิ่มราว 93 ล้านบาท ซึ่งเป็นไปตามกรอบการลงทุนของคณะกรรมการบริษัทฯที่ให้ไว้เกี่ยวกับการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลที่ประเมินความเหมาะสมอยู่ที่ 1,200 ล้านบาท

รพ.พริ้นซ์ ปากน้ำโพ จัดวัคซีนบุญ

โรงพยาบาลพริ้นซ์ ปากน้ำโพ ซึ่งเป็นโรงพยาบาลในเครือบริษัท พริ้นซิเพิล แคปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ PRINC ได้ทำพิธีไหว้ศาลพระพรหมและทำบุญถวายสังฆทานเป็นการภายใน เนื่องในวันครบรอบปีที่ 32 ของการเปิดให้บริการแก่ประชาชนชาวนครสวรรค์ พร้อมกันนี้ได้จัดโครงการ “วัคซีนบุญ” โดยระดมทุนจากบุคคลากรทางการแพทย์ของโรงพยาบาล เพื่อมอบวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ให้คณะครู และนักเรียน ในมูลนิธิแสงสวรรค์ และโรงเรียนวิชาวดี จำนวน 100 คน โดยมีนายแพทย์ บุญชนะ เพชรพลอยงาม ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพริ้นซ์ ปากน้ำโพ พร้อมคณะผู้บริหาร และเจ้าหน้าที่เป็นตัวแทนของโรงพยาบาลฯ มอบวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ให้กับผู้อำนวยการฯทั้ง 2 สถาบัน พร้อมให้บริการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ในคณะครู และนักเรียน

อินโดรามา เวนเจอร์ส มอบ PPE ให้แก่บุคลากรทางการแพทย์

บริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส จำกัด (มหาชน) หรือ ไอวีแอล บริษัทเคมีภัณฑ์ชั้นนำระดับโลก ส่งมอบ PPE 1,000 ชุด ซึ่งผลิตจากเส้นด้าย PET รีไซเคิล เพื่อสนับสนุนบุคลากรทางการแพทย์ในการต่อสู้กับวิกฤติโควิด-19 เส้นด้ายดังกล่าวผลิตมาจากการรีไซเคิลขวด PET ใช้งานแล้ว ซึ่งรวบรวมมาจากทั่วประเทศ รวมทั้งผ่านการดำเนินกิจกรรมเพื่อสังคม (CSR) ขององค์กรพันธมิตรอย่าง บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ และศูนย์การค้า เดอะ สตรีท รัชดา

เส้นด้ายคุณภาพสูงที่ใช้ในการผลิตชุด PPE มาจากการรีไซเคิลขวด PET ที่โรงงานของไอวีแอลในจังหวัดนครปฐม ซึ่งเป็นผู้ผลิตเส้นด้ายรีไซเคิลสำหรับใช้งานทางการแพทย์รายเดียวในประเทศไทย โดยโรงงานแห่งนี้รีไซเคิลขวด PET ใช้งานแล้วกว่า 1,600 ล้านขวดต่อปี ซึ่งรวมถึงขวดจำนวน 1,400 ตันที่ตั้งเป้ารวบรวมจากศูนย์การค้า เดอะ สตรีท รัชดา และบิ๊กซีชุด ทั้งนี้ ชุด PPE สำหรับใช้งานทางการแพทย์ที่ส่งมอบนั้น ตัดเย็บโดยโรงงานที่ผ่านการรับรองมาตรฐานจากองค์การอาหารและยา (อย.)

ชุด PPE จำนวน 500 ชุด ถูกส่งมอบให้แก่โรงพยาบาลในจังหวัดนครปฐม 8 แห่ง ได้แก่ โรงพยาบาลสามพราน โรงพยาบาลนครชัยศรี โรงพยาบาลหลวงพ่อเปิ่น โรงพยาบาลห้วยพอ โรงพยาบาลดอนตูม โรงพยาบาลบางเลน โรงพยาบาลกำแพงแสน และโรงพยาบาลพุทธมณฑล จำนวน 300 ชุด ถูกส่งมอบให้แก่โรงพยาบาลสนาม 2 แห่ง ได้แก่ โรงพยาบาลสนามธรรมศาสตร์ และโรงพยาบาลสนามเขตหนองจอก และอีกจำนวน 200 ชุด ถูกส่งมอบให้แก่กรมการแพทย์ทหารเรือ

นอกจากชุด PPE แล้ว ไอวีแอลกำลังผลิตชุดเครื่องนอนอีก 1,000 ชุด โดยใช้เส้นด้ายรีไซเคิลจากขวดน้ำดื่ม PET จำนวน 45 ขวด และมีคุณสมบัติป้องกันเชื้อไวรัสและแบคทีเรีย และจะส่งมอบให้แก่โรงพยาบาลสนามธรรมศาสตร์ และโรงพยาบาลสนามในเขตหนองจองต่อไป

ยาช โลเฮีย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านความยั่งยืน บริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส จำกัด (มหาชน)

นายยาช โลเฮีย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านความยั่งยืน บริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ไอวีแอลเป็นบริษัทไทยที่มีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม โดยเราได้มองหาโอกาสในการช่วยเหลือชุมชนซึ่งอาจจะได้รับผลกระทบจากโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง ไอวีแอลสามารถพัฒนาเส้นด้าย PET รีไซเคิลที่เหมาะสำหรับผลิตชุด PPE สำเร็จตั้งแต่ปีที่ผ่านมา เรามีเป้าหมายที่จะปกป้องบุคลากรทางการแพทย์ซึ่งเป็นหน้าด่านสำคัญด้วยแนวทางที่ยั่งยืน โดย PET สามารถรีไซเคิลได้ 100% และมีประโยชน์อย่างมากในฐานะวัสดุที่ก่อให้เกิดสุขอนามัยที่ดีและมีความยั่งยืน ความร่วมมือกับศูนย์การค้า เดอะ สตรีท รัชดา และบิ๊กซี จะช่วยสร้างการรับรู้ต่อการจัดการขยะอย่างถูกต้องเหมาะสม พร้อมผลักดันให้เกิดความร่วมมือในสร้างเศรษฐกิจหมุนเวียนที่แท้จริง

พงษ์ศักดิ์ นันตวรรณกุล กรรมการผู้จัดการศูนย์การค้า เดอะ สตรีท รัชดา

นายพงษ์ศักดิ์ นันตวรรณกุล กรรมการผู้จัดการศูนย์การค้า เดอะ สตรีท รัชดา กล่าวว่า เราได้สนับสนุนการผลิตชุด PPE โดยรวบรวมขวด PET ใช้งานแล้วตั้งแต่ปีที่ผ่านมา โดยส่งมอบขวดไปแล้วกว่า 730 กิโลกรัม เพื่อใช้เป็นวัตถุดิบสำหรับการรีไซเคิล เราตระหนักดีว่าบุคลากรทางการแพทย์กำลังทำงานอย่างหนักและมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ จึงเป็นเรื่องสำคัญที่ทุกภาคส่วนต้องช่วยสนับสนุนกันและกัน เพื่อให้เราสามารถผ่านพ้นสถานการณ์การแพร่ระบาดนี้ไปได้ เราขอเป็นกำลังใจให้คนไทยทุกคนเข้มแข็งและก้าวผ่านวิกฤติครั้งนี้ไปด้วยกัน

พิริยะ กมลเดชเดชา รองประธานเจ้าหน้าที่สายธุรกิจ/สายงานปฏิบัติการค้าปลีกไฮเปอร์, มาร์เก็ตและฟู้ดเพลส บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) ห้างค้าปลีกในกลุ่มบีเจซี

นายพิริยะ กมลเดชเดชา รองประธานเจ้าหน้าที่สายธุรกิจ/สายงานปฏิบัติการค้าปลีกไฮเปอร์, มาร์เก็ตและฟู้ดเพลส บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) ห้างค้าปลีกในกลุ่มบีเจซี เปิดเผยว่า การรวบรวมขวด PET เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ “พี่หมีบิ๊กกี้ ชวนรีไซเคิล” ของกลุ่มบีเจซี บิ๊กซี ที่เรามุ่งมั่นเป็นพลังขับเคลื่อน และมีบทบาทร่วมพัฒนาชุมชน สังคม และสิ่งแวดล้อม ในฐานะ ‘ห้างคนไทย หัวใจคือลูกค้า’ โดยให้พื้นที่บิ๊กซี กว่า137 สาขาทั่วประเทศ เพื่อเป็นศูนย์กลางในการรับขวด PET ที่ใช้แล้ว ซึ่งกลุ่มบีเจซี บิ๊กซี ตระหนักถึงการขยะที่เพิ่มขึ้นในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 จึงเป็นที่มาของการต่อยอดโครงการดังกล่าว และความร่วมมือกับไอวีแอลนี้จะช่วยให้เราสามารถสร้างประโยชน์จากวัสดุใช้งานแล้วได้อย่างเป็นรูปธรรม ทั้งยังสามารถสนับสนุนการทำงานของบุคลากรทางการแพทย์ได้อีกด้วย

เฮอริเทจ อัดแคมเปญ 6.6 Mega Sale ลด 20%

เครือเฮอริเทจ ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ เปิดแคมเปญออนไลน์รับเดือนหก “6.6 Mega Sale” จัดผลิตภัณฑ์ถั่ว ธัญพืช และผลไม้อบแห้งพรีเมี่ยมนานาชนิดของแบรนด์ “เฮอริเทจ” ลด 20% ทุกรายการ อาทิ อัลมอนด์ วอลนัท ฮาเซลนัท ลูกฟิก ลูกพรุน เมล็ดฟักทองอบ พิสทาชิโอ อินทผาลัม มะม่วงหิมพานต์ แมคคาเดเมีย, ลูกเกดดำ เมล็ดเจีย เมล็ดข้าวโพดดิบพันธุ์มัชรูม ถั่วลูกไก่ดิบ ข้าวบาร์เลย์ ถั่วดำญี่ปุ่น และเก๋ากี้อบแห้ง เป็นต้น

ต้อนรับเดือนหกด้วยสินค้าถั่วและผลไม้อบแห้งพรีเมี่ยมนานาชนิดภายใต้แบรนด์ “เฮอริเทจ” ได้แล้ววันที่ 4 – 6มิถุนายน 2564 ที่ ช่องทาง LINE Official : @Heritagethailand สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่โทร 02-813-0954-5 หรือติดตามกิจกรรมและข่าวสารของเครือเฮอริเทจได้ที่ www.heritagethailand.com, www.facebook.com/Heritagegroupth และ IG: heritage_thailand