รายงานข่าวแจ้งว่า สำนักงานประกันสังคม ขยายเวลาให้ผู้ประกอบอาชีพอิสระ ใน 13 จังหวัด พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 9 กลุ่มกิจการ ที่สมัครมาตรา 40 แล้ว สามารถจ่ายเงินสมทบงวดแรกได้ถึงวันที่ 10 ส.ค.นี้ ที่ เซเว่น บิ๊กซี โลตัส #ธกส #กรุงไทย #กรุงศรี ฯลฯ เพื่อให้สถานะเป็นผู้ประกันตนตามกฎหมาย พร้อมรับสิทธิเยียวยาจากรัฐ 5,000บาท
หมวดหมู่: Uncategorized
ธอส. ลดดอกเบี้ยเงินกู้เหลือ 1% ต่อปี นาน 4 เดือน
ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) จัดโครงการ “My Hero: บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข”วงเงิน 8,000 ล้านบาท เพื่อแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายรายเดือนบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข โดยลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้เหลือเพียง 1% ต่อปี นาน 4 เดือน ตั้งแต่เดือนกันยายน – ธันวาคม 2564) ทำให้เงินค่างวดลดลง 50% ของเงินงวดเดิม ซึ่งเงินงวดใหม่ที่จ่ายเข้ามานี้จะตัดทั้งเงินต้นและดอกเบี้ย หากจ่ายมากกว่าเงินงวดใหม่ที่กำหนด ส่วนที่เกินจะนำไปตัดเงินต้นให้อีกด้วย ทั้งนี้ เมื่อครบกำหนด 4 เดือน จะกลับไปใช้อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ตามเดิม โดยไม่ถือว่ามีดอกเบี้ยค้างชำระกับธนาคารแต่อย่างใด
ผู้ได้รับสิทธิเข้าร่วมโครงการ My Hero ต้องเป็นลูกค้าของ ธอส. ที่ประกอบอาชีพแพทย์ บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขปฏิบัติหน้าที่เป็นบุคลากรด่านหน้าในการดูแลผู้ป่วยโควิด19 รวมถึงการปฏิบัติหน้าที่ในศูนย์ฉีดวัคซีน และต้องมีสถานะบัญชีปกติ
ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการผ่านออนไลน์ได้ที่ (1)แอปฯ GHB ALL (2)ไลน์ GHB Buddy และ(3)เว็บไซต์ www.ghbank.co.th ตั้งแต่วันที่ 9 – 29 สิงหาคม 2564 พร้อมแนบหลักฐานแสดงการปฏิบัติงานที่หน้าที่จริง เช่น บัตรประจำตัวเจ้าหน้าที่ หนังสือรับรองการปฏิบัติงานจากหน่วยงาน สอบถามเพิ่มเติม โทร 0-2645-9000
เปิดคลัสเตอร์ใหม่ทั่วไทยอีก 8 แห่ง
- ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. รายงานคลัสเตอร์ใหม่วันนี้ พบว่าทั่วประเทศมีคลัสเตอร์ใหม่ จำนวน 8 แห่ง ประกอบด้วย
- สมุทรปราการ ที่โรงงานหล่อโลหะ อ.บางพลี มีผู้ติดเชื้อ 29 ราย และที่บริษัทผลิตพรม อ.พระประแดง มีผู้ติดเชื้อ 12 ราย
- ชลบุรี ที่บริษัทลวดสายไฟ อ.ศรีราชา มีผู้ติดเชื้อ 18 ราย และที่โรงงานโลหะ อ.เมือง มีผู้ติดเชื้อ 13 ราย
- สมุทรสาคร ที่โรงงานห้องเย็น อ.เมือง มีผู้ติดเชื้อ 63 ราย และที่บริษัทกล่องกระดาษ อ.เมือง มีผู้ติดเชื้อ 45 ราย
- พระนครศรีอยุธยา ที่คลังสินค้า อ.วังน้อย มีผู้ติดเชื้อ 19 ราย
- ภูเก็ต ที่แพปลา อ.เมือง มีผู้ติดเชื้อ 18 ราย

ประจวบคีรีขันธ์ เร่งจัดทำแผนเปิดหัวหินรับนักท่องเที่ยวต่างชาติใน ต.ค. นี้
นายพรหมพิริยะ กิจนุสนธิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้มอบหมายให้สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดฯ ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งจัดทำแผนการเปิดเมืองหัวหินต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ได้รับวัคซีนครบโดสแล้วแบบไม่ต้องกักตัว ตามโครงการหัวหิน รีชาร์จ พร้อมสำรวจจำนวนบุคลากรภาคการท่องเที่ยวและบริการในเขตเทศบาลเมืองหัวหินว่ามีผู้ที่ได้รับวัคซีนโควิด -19 แล้วกี่คน ยังไม่ได้รับกี่คน เพื่อเสนอแผนการท่องเที่ยวไปยังส่วนกลางให้ได้รับการสนับสนุนวัคซีนมาฉีดให้กับบุคลากรภาคการท่องเที่ยวและบริการได้ครบ 100 เปอร์เซ็นต์ รวมทั้งเร่งฉีดวัคซีนให้กับประชาชนในเขตเทศบาลเมืองหัวหินไม่ต่ำกว่า 70 เปอร์เซ็นต์ของประชากร
นอกจากนี้ ยังมีองค์การบริหารส่วนจังหวัดฯ เทศบาลเมืองหัวหิน และภาคเอกชน ช่วยสนับสนุนการจัดซื้อวัคซีนซิโนฟาร์มนำมาฉีดให้กับประชาชนอีกทางหนึ่งด้วยเพื่อให้สามารถเปิดการท่องเที่ยวเมืองหัวหินได้ทันตามแผนในเดือนตุลาคมนี้ ซึ่งเชื่อว่าจะช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจในช่วงปลายปีนี้ได้ เพราะรายได้ทางเศรษฐกิจของ จ.ประจวบฯ มาจากการท่องเที่ยวและบริการเป็นหลัก
สตูล ขอความร่วมมือพิจารณาหญิงตั้งครรภ์ Work From Home ลดเสี่ยงโควิด – 19
นายชาติชาย ไชยพิมล รองผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล เปิดเผยว่า จังหวัดสตูลได้รับแจ้งจากกระทรวงมหาดไทยว่า กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ได้ออกแนวปฏิบัติในการดูแลสุขภาพหญิงตั้งครรภ์ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด – 19 เพื่อเป็นแนวทางให้ทุกภาคส่วนได้พิจารณาดำเนินการลดความเสี่ยงในการติดเชื้อในกลุ่มหญิงตั้งครรภ์
ทั้งนี้ เพื่อให้เป็นไปตามแนวปฏิบัติในการดูแลสุขภาพหญิงตั้งครรภ์ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด – 19 จังหวัดสตูล จึงขอความร่วมมือให้ส่วนราชการทุกส่วนราชการดำเนินการตามแนวปฏิบัติดังกล่าว โดยเฉพาะการพิจารณาให้หญิงตั้งครรภ์ทำงานแบบ Work From Home หรือมอบหมายให้ปฏิบัติงานที่ลดความเสี่ยงในการสัมผัสหรือการพบปะผู้คนเป็นจำนวนมาก โดยคำนึงถึงสุขภาพหญิงตั้งครรภ์และความสมัครใจของหญิงตั้งครรภ์เป็นสำคัญ อีกทั้งเพื่อเป็นการลดความเสี่ยงในการติดเชื้อไวรัสโควิด – 19 ในกลุ่มหญิงตั้งครรภ์ต่อไปด้วย
เร่งผลักดันกฎหมายเลิกใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียว
นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวถึงแนวทางการพัฒนากฎหมายเพื่อเลิกใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียว ภายในปี 2565 และการขับเคลื่อนมาตรการกำกับการนำเข้าเศษพลาสติกว่า ที่ผ่านมาปัญหาขยะพลาสติกส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศและความรู้สึกของประชาชน จึงจำเป็นทั้งด้านข้อมูลผลกระทบต่อระบบนิเวศที่สามารถประเมินมูลค่าความเสียหายได้ และข้อมูลปริมาณขยะพลาสติกที่เข้าสู่บ่อฝังกลบ (Landfill) ที่ต้องผลักดันไปสู่การพัฒนากฎหมายเพื่อเลิกใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียว โดยเฉพาะถุงพลาสติกแบบบางที่มีขนาดน้อยกว่า 36 ไมครอน หลอดพลาสติก และแก้วพลาสติกแบบบาง รวมถึง ต้องเพิ่มการสร้างความรับผิดชอบจากผู้ผลิตและการสร้างวินัยให้กับผู้บริโภคควบคู่กันไปด้วย ทั้งนี้ การกำหนดการนำเข้าเศษพลาสติกในปัจจุบัน ประเทศไทยนำเข้าเศษพลาสติกปี 2564 ช่วงเดือนมกราคม-มิถุนายน รวมปริมาณ 71,182 ตัน กรมควบคุมมลพิษ จึงเตรียมการเสนอมาตรการกำกับการนำเข้าเศษพลาสติกต่อคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ โดยกำหนดการนำเข้าเศษพลาสติกปี 2564 ในปริมาณ 250,000 ตันต่อปี หรือประมาณร้อยละ 50 ของกำลังการผลิตทั้งหมดของโรงงาน จากปีฐาน 2563 ร่วมกับ การใช้เศษพลาสติกภายในประเทศปริมาณ 250,000 ตันต่อปี และกำหนดให้ลดปริมาณการนำเข้าเศษพลาสติกปีละร้อยละ 20 หรือประมาณ 50,000 ตัน และห้ามนำเข้าเศษพลาสติก 100 เปอร์เซ็นต์ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2569 ด้วยการสนับสนุนการใช้เศษพลาสติกภายในประเทศเพื่อเป็นวัตถุดิบในโรงงาน 100 เปอร์เซ็นต์ เพื่อให้สอดรับกับนโยบายขับเคลื่อนประเทศไทยด้วยระบบการพัฒนาเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว (BCG Model)
นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า ประเทศไทย ได้กำหนด Road Map การจัดการขยะพลาสติก พ.ศ. 2561-2573 ด้วยการกำหนดเป้าหมายสำคัญ 2 ประการ คือ การลดเลิกใช้พลาสติกเป้าหมายแล้วใช้วัสดุทดแทนที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยให้เลิกใช้พลาสติกหุ้มฝาขวดน้ำดื่ม ผลิตภัณฑ์พลาสติกที่ผสมสารอ๊อกโซ่ (Oxo) และไมโครบีดส์เมื่อปี 2562 และกำหนดให้เลิกใช้ถุงพลาสติกหูหิ้วแบบบางน้อยกว่า 36 ไมครอน กล่องโฟมบรรจุอาหาร แก้วพลาสติกแบบบางน้อยกว่า 100 ไมครอน และหลอดพลาสติกภายในปี 2565 และสุดท้าย การนำขยะพลาสติกเป้าหมายกลับมาใช้ประโยชน์ 100 เปอร์เซ็นต์ภายในปี 2570
ขอนแก่น เปิดโรงพยาบาลสนามอำเภอชุมแพ รองรับผู้ป่วยโควิด-19
นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น เปิดโรงพยาบาลสนามอำเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น พร้อมกล่าวว่า โรงพยาบาลชุมแพ ได้ถูกกำหนดให้เป็นพื้นที่บริการในการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ใน 5 อำเภอ โซนทิศตะวันตกของจังหวัดขอนแก่น รวมถึงผู้ป่วยบางส่วนจากพื้นที่ใกล้เคียงและยังเป็นพื้นที่ที่รองรับบริการจากผู้ป่วยจากจังหวัดอื่นๆ ในเบื้องต้น ผู้ป่วยโควิด-19 กว่า 500 คน ในชุดแรก โรงพยาบาลชุมแพ ได้ทำการรักษาไปแล้ว และบางส่วนก็ได้กลับบ้านแล้ว โดยเทศบาลเมืองชุมแพ และหน่วยทหารได้สนับสนุนกำลังพลและรถในการเคลื่อนย้ายผู้ป่วย รวมถึงผู้ป่วยที่มีอาการดีขึ้นได้กลับสู่ชุมชนต่างๆ และเทศบาลเมืองชุมแพ ได้ใช้อาคารสถานที่ โรงเรียนเทศบาล 1 (สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลอุปถัมภ์) เป็นโรงพยาบาลสนามของผู้ที่ step down หรือผู้ที่รักษามา 10 วันแล้วและอาการดีขึ้น ได้เข้าสู่ขั้นตอนการพักคอยเพื่อที่จะเดินทางกลับไปสู่ภูมิลำเนา เพื่อเข้าสู่กระบวนการ home isolation หรือ community isolation ในขั้นตอนต่อไป
สำหรับอาคารโรงพยาบาลสนามอำเภอชุมแพ แห่งนี้รองรับผู้ป่วนได้ 75- 100 เตียง โดยชั้นที่ 2 จะเป็นพื้นที่่สำหรับผู้หญิง ชั้นที่ 3 เป็นพื้นที่ของครอบครัว ชั้นที่ 4 สำหรับผู้ชาย ซึ่งมีความพร้อมในเรื่องเครื่องมือการตรวจเช็ครักษาความปลอดภัย โดยการสนับสนุนจากเทศบาลเมืองชุมแพ
สืบเนื่องจาก การที่โรงพยาบาลชุมแพ ได้กำหนดให้เป็นจุดรับมือของสถานการณ์ COVID-19 และโรคอื่นๆ เพราะเป็น Smart City เมืองใหม่เฟสที่ 1 ที่เน้นให้เป็นศูนย์กลางทางการแพทย์ทางทิศตะวันตก เพื่อดูแลพื้นที่ห่างไกลจากตัวจังหวัดและจังหวัดอื่นๆ ข้างเคียงด้วย จึงมีความพร้อมทางด้านเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ ในการเป็น Medical hub อีกด้วย
พญ.ดวงพร อัศวราชันย์ ผู้อำนวยโรงพยาบาลชุมแพ กล่าวว่า โรงพยาบาลสนามอำเภอชุมแพ เกิดจากการแก้ปัญหาระดับอำเภอ โดยคณะกรรมการบริหารศูนย์ราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินอำเภอชุมแพ เพื่อแก้ปัญหาการแพร่ระบาดของโรค covid-19 ซึ่งมีความรุนแรงและเพิ่มทวีมากขึ้น ทำให้เตียงรองรับผู้ป่วยในโรงพยาบาลชุมแพมีไม่เพียงพอที่จะสามารถรองรับผู้ป่วยได้ ปัจจุบันโรงพยาบาลชุมแพ สามารถรับผู้ป่วยโควิด- 19 ที่มีอาการระดับรุนแรง ปานกลาง รุนแรงน้อย และไม่มีอาการได้ แต่มีจำนวนผู้ป่วยรอเตียงอีกจำนวนมาก ประกอบกับผู้ป่วยที่กลับมาจากจังหวัดพื้นที่เสี่ยงและผู้ป่วยติดเชื้อในพื้นที่ ทำให้โรงพยาบาลชุมแพ มีข้อจำกัดไม่เกี่ยวกับสานที่ ไม่สามารถขยายบริการได้ จึงต้องเพิ่มศักยภาพในการดูแลผู้ป่วยนอกสถานบริการ เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับการดูแลรักษาในระบบสาธารณสุขอย่างรวดเร็ว ป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อ โดยโรงพยาบาลสนามอำเภอชุมแพ รองรับผู้ป่วยที่ไม่มีอาการและอาการดีขึ้น ที่นอนรักษาในโรงพยาบาลมาแล้ว มาดูแลต่อ เพื่อให้หายจากโรคและไม่แพร่กระจายเชื้อ สามารถกลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติ
Kabuto 22 มอบข้าวกล่อง ส่งกำลังใจผู้ติดเชื้อโควิด-19
ร้านอาหารญี่ปุ่น Kabuto 22 (คาบูโตะ สองสอง) นำโดย เชฟก๊อฟ นายปริญญา สายทิพย์ (แถวแรก บุคคลที่ 4 จากซ้าย) และ นางนิ
PRAPAT มอบเจลแอลกอฮอล์ ป้องกันโควิด-19
นางสาวสิริวรรณ พวงสว่าง (ที่ 3 จากซ้าย) ผู้จัดการแผนกบิวดิ้งแคร์ บริษัท พีรพัฒน์ เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ PRAPAT ส่งมอบผลิตภัณฑ์ฆ่าเชื้อ ได้แก่ แฮนดี้ เซฟี่ เจลแอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อ ขนาด 3.8 ลิตร จำนวน 40 แกลลอน และมาโนแอคทีฟ แฮนดิการ์ด แอลกอฮอล์น้ำฆ่าเชื้อ ขนาด 280 มล. จำนวน 100 ขวด ให้กับมหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุ
MTC ร่วมใจสู้ภัยโควิด-19 มอบเงินบริจาคให้โรงพยาบาล
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข รับมอบเงิน จำนวน 110 ล้านบาท จาก นายชูชาติ เพ็ชรอำไพ ประธานกรรมการบริหาร และ ดาวนภา เพชรอำไพ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เมืองไทย แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ MTC เพื่อสนับสนุนการจัดหาอุปกรณ์
