AGE ลงพื้นที่ส่งกำลังใจสู้ภัยโควิด-19

บมจ. เอเชีย กรีน เอนเนอจี (AGE) ผนึกกำลังลงพื้นที่ชุมชน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา มอบความช่วยเหลืออุปกรณ์สนับสนุนทางการแพทย์ และเครื่องอุปโภค-บริโภค พร้อมสิ่งของจำเป็น ตลอดจนให้ความรู้ความเข้าใจในการดูแลป้องกันตนเอง เพื่อสู้สถานการณ์โควิด-19 ภายใต้โครงการ “เอจีอี ใส่ใจ ห่วงใยชุมชน สู้ภัยโควิด-19” ตอกย้ำนโยบายใส่ใจต่อสังคม สิ่งแวดล้อมตลอดจนชุมชนในพื้นที่ เพื่อสร้างรากฐานของความรับผิดชอบต่อสังคมอย่างต่อเนื่องและยั่งยืนในระยะยาว

นางสาวปณิตา ควรสถาพร ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอเชีย กรีน เอนเนอจี จำกัด (มหาชน) หรือ AGE กล่าวว่า AGE มีความห่วงใยต่อคนในชุมชนรอบคลังสินค้าและชุมชนพื้นที่ใกล้เคียง ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 จึงได้ดำเนินโครงการ “เอจีอี ใส่ใจ ห่วงใยชุมชน สู้ภัยโควิด-19” ต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2563-2564 ล่าสุดคณะผู้บริหาร และพนักงานบริษัทฯ ลงพื้นที่ส่งมอบอุปกรณ์ป้องกันโควิด-19 ได้แก่ หน้ากากอนามัยและเจลแอลกอฮอล์ล้างมือ ให้แก่พี่น้องในชุมชนรอบคลังสินค้า ในอำเภอนครหลวง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา กว่า 10 หมู่บ้านครอบคลุมพื้นที่ 3 ตำบล รวมกว่า 1,300 ชุด เพื่อช่วยเหลือ บรรเทา ให้กำลังใจ พร้อมให้ข้อมูลความรู้ความเข้าใจในการดูแลตนเองจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ระลอกใหม่ อย่างปลอดภัย ตามนโยบายความรับผิดชอบต่อสังคม สิ่งแวดล้อม เคารพต่อหลักสิทธิมนุษยชน และการเล็งเห็นถึงความสำคัญต่อผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม

นอกเหนือจากช่วยเหลือชุมชนแล้ว AGE ยังได้มอบสิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็นให้แก่โรงพยาบาลสนาม จังหวัดพระนครศรีอยุธยา (หอประชุม ม.เทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ ต.หันตรา อ.พระนครศรีอยุธยา) และมอบหน้ากาก KN95 ชุด PPE และน้ำดื่ม สนับสนุนการปฏิบัติหน้าที่ของบุคลากรทางการแพทย์ สู้ภัยโควิด-19 ณ โรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา และโรงพยาบาลสมเด็จพระสังฆราชเจ้า (วาสนมหาเถร) เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการช่วยเหลือบรรเทาให้กับพี่น้องชาวจังหวัดอยุธยา

ทั้งนี้ AGE ยังคงมุ่งมั่นพัฒนาการดำเนินธุรกิจควบคู่ไปกับความรับผิดชอบต่อสังคม โดยคำนึงถึงความสมดุลทางด้านเศรษฐกิจ สังคมและสิ่งแวดล้อม และให้ความสำคัญกับการอยู่ร่วมกันกับชุมชนอย่างเกื้อกูล มุ่งเน้นส่งเสริมการมีส่วนร่วมเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน พร้อมทั้งปลูกฝังให้ผู้บริหารและพนักงานทุกคนในองค์กร ยึดมั่นในหลักการบริหารและปฏิบัติงานภายใต้หลักธรรมาภิบาลที่ดี เพื่อร่วมกันพัฒนาพื้นที่ให้เกิดความยั่งยืนในทุกมิติ ยึดหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี คำนึงถึงความสมดุลทางด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม เพื่อให้บริษัทฯ เติบโตอย่างยั่งยืนต่อไป

เดอะ มาร์เก็ต แบงคอก ร่วมเดินหน้าบริการฉีดวัคซีนโควิด – 19

เดอะ มาร์เก็ต แบงคอก (ราชประสงค์) ร่วมมือภาครัฐ เดินหน้าบริการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด – 19 สำหรับผู้ประกันตนมาตรา 33 โดย บมจ.เดอะ แพลทินัม กรุ๊ป ผู้บริหารศูนย์การค้า เดอะ มาร์เก็ต แบงคอก ราชประสงค์ สนับสนุนพื้นที่รวมกว่า 2,500 ตารางเมตร  ณ บริเวณอาคาร M2 ที่ชั้น M และชั้น 1 เพื่อเป็นหน่วยบริการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด – 19 ให้แก่ผู้ประกันตน   จัดโดย กระทรวงแรงงาน, สำนักงานประกันสังคม ทั้งนี้เพื่อเป็นการช่วยเหลือภาครัฐ ในการให้บริการฉีดวัคซีน   โควิด-19 ให้กับประชาชน อย่างเร่งด่วนให้ได้มากที่สุด เพื่อป้องกันโรคให้กับตนเองและคนรอบข้าง ตลอดจนสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ให้กับประเทศโดยเร็วที่สุด ซึ่งได้เริ่มให้บริการมาตั้งแต่เมื่อวันจันทร์ที่ 7 มิ.ย. 2564

โดยปัจจุบันยังคงเดินหน้าเปิดให้บริการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด – 19  สำหรับผู้ประกันตนมาตรา 33 อย่างต่อเนื่อง ตามประกาศสำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน

ทั้งนี้ทาง ศูนย์การค้าเดอะ มาร์เก็ต แบงคอก (ราชประสงค์) ได้เตรียมพื้นที่อำนวยความสะดวกสำหรับหน่วยบริการฉีดวัคซีน สำหรับผู้ประกันตน ดังนี้

1.จัดพื้นที่บริเวณอาคาร M2 ที่ชั้น M และชั้น 1 ซึ่งมีพื้นที่รวมประมาณ 2,500 ตารางเมตร พร้อมจัดการเว้นระยะห่างอย่างเป็นระบบ นอกจากนี้ยังมีระบบเครื่องปรับอากาศที่ผ่านการฆ่าเชื้อและอากาศถ่ายเทเป็นอย่างดี

2.การเดินทางเข้าถึงพื้นที่สะดวกสบาย จากรถไฟฟ้าสถานีสยาม,ชิดลม และท่าเรือประตูน้ำ

3.เปิดบริการฉีดวัคซีนทุกวันตั้งแต่เวลา 08.00 – 17.00 น.ในส่วนศูนย์การค้าเปิดบริการ 10.00– 21.00 น.

4.คุมเข้มมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 อย่างสูงสุด ประกอบด้วย

  • คัดกรองอย่างเข้มงวด
  • เว้นระยะห่าง
  • ลดการสัมผัส
  • รุกเข้มความสะอาด
  • ติดตามเพื่อปลอดภัย

นอกจากนี้ ยังมีมาตรการเชิงรุกป้องกันล่วงหน้า ด้วยการฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อโรคอย่างต่อเนื่อง และอบโอนโซนหลังศูนย์การค้าปิดบริการ  เป็นประจำทุกวัน

สำหรับผู้ประกันตน หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับขั้นตอนการลงทะเบียนรับวัคซีน สามารถติดต่อสำนักงานประกันสังคมพื้นที่สาขาที่นายจ้างสังกัดอยู่ ได้ในเวลาทำการ ทางสายด่วนประกันสังคม 1506 สำหรับสำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานคร พื้นที่ 4 หมายเลขโทรศัพท์  02-634-0181-95 หรือติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ Facebook:TheMarketBangkok

โรงงานผลิตภัณฑ์อาหารไทย ร่วมก้าวผ่านวิกฤติ COVID-19

นายยศสรัล แต้มคงคา ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท โรงงานผลิตภัณฑ์อาหารไทย จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายบะหมี่และเส้นหมี่กึ่งสำเร็จรูป ภายใต้เครื่องหมายการค้า “ไวไวและควิกแสบ” เข้ามอบผลิตภัณฑ์ในเครือ ให้แก่ โรงพยาบาลต่างๆ อาทิ โรงพยาบาลศิริราช, โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า, คณะแพทยศาสตร์วชิรพยาบาล เพื่อส่งมอบให้แก่บุคลากรทางการแพทย์และใช้ประโยชน์ในสถานพยาบาล ในช่วงวิกฤติการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 

โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า
คณะแพทยศาสตร์วชิรพยาบาล

เรียนฟรี! โครงการไวไวคิดส์ ฟุตบอลคลินิก

นายศิริชัย​ คำลม (ที่4บนจากซ้าย) ผู้จัดการฝ่ายการตลาด​​ บริษัทผลิตภัณฑ์​อาหารไทยจำกัด​ ผู้ผลิตและจัดจำหน่าย​บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปไวไว​ นำทีมเปิด โครงการไวไวคิดส์ ฟุตบอลคลินิก โครงการจัดฝึกสอนทักษะกีฬาฟุตบอลขั้นพื้นฐานให้ถูกต้องและถูกวิธี ให้แก่ เยาวชนในจังหวัดพิษณุโลก​ อายุ​ 7​ – 14​ ปี​ ทั้งชายและหญิง​ รวมเวลา​ 54​ วัน​ 108​ ชั่วโมง​ เพื่อมุ่งให้เยาวชนนำทักษะมาพัฒนาต่อยอดไปสู่ความเป็นเลิศทางกีฬาด้านฟุตบอลในอนาคต โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น โดยมี สิบเอก ดร.ชูศักดิ์ เพชรกระจ่าง (ที่3บนจากซ้าย) ผู้อำนวยการโรงเรียนกีฬา อบจ พิษณุโลก, นายชิษณุชา​ พิณพาทย์ (ที่6บนจากซ้าย) นักฟุตบอลอาวุโสทีมชาติไทยและผู้จัดการโครงการ​ฯ, นายสุทธิรัตน์ ชูสนิท (ที่5บนจากซ้าย) อดีตนักฟุตบอล และโค้ชจังหวัดพิษณุโลก(โค้ชต้นแบบ CSR) พร้อมด้วยผู้ทรงเกียรติในวงการฟุตบอล ร่วมในครั้งนี้ด้วย ณ สนามฟุตบอลหญ้าเทียม องค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก

เฮเฟเล่ มอบข้าวกล่องให้ ชุมชนในกรุงเทพฯ สู้โควิด-19

นางสาวจีรวรรณ  อำไพวรรณ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท เฮเฟเล่ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำด้านอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ อุปกรณ์เฟอร์นิเจอร์ อุปกรณ์ล็อคอิเล็คทรอนิกส์ อุปกรณ์ไฟส่องสว่าง เครื่องใช้​ไฟฟ้าในครัว พร้อมทั้งสุขภัณฑ์และอุปกรณ์ในห้องน้ำ คุณภาพมาตรฐานเยอรมนี ร่วมมอบข้าวกล่อง จำนวน 100 กล่อง และน้ำจำนวน 100 ขวด ให้กับ ชุมชนแม่บ้านร่วมใจพัฒนา เขตสายไหม กรุงเทพฯ เพื่อแบ่งเบาภาระจากการได้รับผลกระทบจากสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19

บาโอจิ มอบหน้ากากอนามัยเด็กให้ มูลนิธิเพื่อการศึกษาและสังคม

นายชาลี ลิ้ม  ประธานบริษัท บริษัท บาโอจิ จำกัด ผู้ผลิต และจัดจำหน่ายรองเท้าผ้าใบแบรนด์ บาโอจิ (Baoji) มอบ หน้ากากอนามัยสำหรับเด็ก” จำนวน 300,000 ชิ้น ให้กับ มูลนิธิเพื่อการศึกษาและสังคม โดยมี นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎรเป็นผู้รับมอบ เพื่อนำไปสนับสนุนภารกิจของมูลนิธิเพื่อการศึกษาและสังคม ในการควบคุม และป้องกันการแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยมี นางสาวอินหนี หลิน และ นายจื่อ สง ไช่ ร่วมมอบ ณ รัฐสภา

ศุภาลัย ส่งกำลังใจพร้อมฝ่าวิกฤตโควิด-19 ไปด้วยกัน

บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) ผู้นำในธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์มาอย่างยาวนานก้าวสู่ปีที่ 33 ที่ผ่านมาดำเนินธุรกิจด้วยจิตสำนึกความรับผิดชอบต่อสังคมขององค์กร ภายใต้แนวคิด “ศุภาลัย ใส่ใจ…สร้างสรรค์สังคมไทย” บริษัทฯได้คำนึงถึงความปลอดภัยของ Stakeholder ทุกกลุ่มมาอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งได้ส่งต่อกำลังใจให้กับบุคลากรทางการแพทย์ รวมทั้งผู้ป่วยโควิด-19 ผ่านกิจกรรมหลากหลายรูปแบบที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมอย่างแท้จริง และในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ระลอกที่ 3 ครั้งนี้ บริษัทฯ จึงได้สานต่อภารกิจ ส่งกำลังใจ และร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจ ดำเนินการส่งต่อความช่วยเหลือให้ทุกภาคส่วนให้สามารถฝ่าวิกฤตไปด้วยกัน

เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในปัจจุบัน นับเป็นปัญหาที่สังคมไทยจะต้องร่วมมือร่วมใจช่วยเหลือซึ่งกันและกัน เพื่อทำให้ประเทศชาติสามารถผ่านพ้นสถานการณ์ดังกล่าวไปได้ โดยประชาชนทุกคนจะต้องได้รับวัคซีนโดยเร็วที่สุด เพื่อความปลอดภัยของบุคคล รวมทั้งสังคมโดยรวม

บริษัทฯ จึงได้ร่วมมือกับสำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่ 11 โรงพยาบาลลาดพร้าว และโรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์ เปิดสถานที่อาคารศุภาลัย แกรนด์ ทาวเวอร์ ถนนพระราม 3 เป็นหนึ่งในสถานที่ได้รับเลือกให้เป็นสถานที่ให้บริการฉีดวัคซีนโควิด -19 แก่ผู้ประกันตนมาตรา 33 ในพื้นที่สำนักงานประกันสังคมพื้นที่ 11 รวมถึงพนักงาน ศุภาลัย ตลอดจนบริษัทผู้เช่าอาคารศุภาลัย แกรนด์ ทาวเวอร์ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการร่วมรับผิดชอบต่อสังคมด้านความปลอดภัยจากโควิด-19 โดยมีนายไตรเตชะ ตั้งมติธรรม กรรมการผู้จัดการ บมจ.ศุภาลัย และนายสุเทพ ชิตยวงษ์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเเรงงาน ให้เกียรติลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมศูนย์ฉีดวัคซีน

อาคารศุภาลัย แกรนด์ ทาวเวอร์ เป็นอาคารสำนักงานซึ่งมีสถานที่ตั้งในเขตพื้นที่สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานคร พื้นที่ 11 มีความพร้อมด้านสถานที่ เนื่องจากมีพื้นที่ขนาดใหญ่พร้อมให้บริการ อีกทั้งมีมาตรการป้องกัน โควิด-19 อย่างเป็นระบบ โดยตระหนักถึงความปลอดภัยของผู้ปฏิบัติงานในอาคาร และผู้มาติดต่ออย่างสูงสุด ที่ผ่านมาได้กำหนดมาตรการความปลอดภัยด้านชีวอนามัยอย่างเข้มงวด ทั้งการกำหนดมาตรการทำความสะอาดพื้นที่ภายในอาคาร ด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ ติดตั้งเจลล้างมือ ตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายทุกคนก่อนเข้าอาคาร รวมทั้งบุคลากรที่ให้บริการในอาคาร ทุกคนได้ผ่านการฉีดวัคซีนโควิด-19 ทั้งนี้เพื่อเสริมความมั่นใจในการใช้บริการพื้นที่ของอาคารในศักยภาพมาตรการ ความปลอดภัยด้านสุขอนามัยระดับสูง

นอกจากนี้ พนักงานศุภาลัยประจำโครงการทั้งแนวราบและคอนโดฯ ในส่วนฝ่ายขาย ฝ่ายโอนกรรมสิทธิ์และฝ่ายก่อสร้าง ล้วนได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 แล้วเช่นกัน เพื่อสร้างความมั่นใจในความปลอดภัยด้านสุขอนามัยแก่ลูกค้าที่มารับบริการในทุกโครงการของศุภาลัย เน้นย้ำการร่วมรับผิดชอบต่อสังคมขององค์กร

  • สนับสนุนโครงการ “รถเก็บตัวอย่างชีวนิรภัย” นวัตกรรมล่าสุด และเป็นคันแรกในประเทศไทยที่สามารถตรวจผลได้ครั้งละ 3 เคส ออกแบบโดยศูนย์นวัตกรรม KMITL GO FIGHT FOR COVID-19 ศูนย์วิจัยและออกแบบ งานสร้างสรรค์ (Research and Creative Design Center: RCDC) สจล. ร่วมกับ หมอแล็บแพนด้า ทนพ.ภาคภูมิ เดชหัสดิน เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ในการตรวจหาเชื้อโควิด-19 เชิงรุก โดยร่วมบริจาคเงินสนับสนุนโครงการมูลค่า 100,000 บาท
  • จับมือพันธมิตรทางธุรกิจ บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา ร่วมสนับสนุนอุปกรณ์ทางการแพทย์ อาหาร น้ำดื่ม ถุงน้ำใจ และสิ่งของที่จำเป็นให้แก่ทีมแพทย์ พยาบาล และบุคลากรทางการแพทย์ในแคมเปญ “ALL FOR HEROES” ส่งมอบแก่โรงพยาบาลหลัก และโรงพยาบาลสนามที่เป็นด่านหน้าในการรักษาผู้ป่วยโควิดจำนวน 8 แห่ง ได้แก่ โรงพยาบาลศิริราช, โรงพยาบาลรามาธิบดี, โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า, โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์, โรงพยาบาลราชวิถี, วชิรพยาบาล, โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ และโรงพยาบาลตำรวจ สนับสนุนแคมเปญ “ALL FOR HEROES”
  • บริจาคเครื่องปริ้นเตอร์ ให้กับโรงพยาบาลมหาราช จ.นครราชสีมา เพื่อใช้ในงานบริการฉีดวัคซีน และมอบ น้ำดื่มสนับสนุนการทำงานของบุคลากรทางการแพทย์ โดยฝ่ายขาย และฝ่ายก่อสร้างโครงการภูมิภาค 2 เป็นตัวแทนบริษัทฯ ในการส่งมอบ โดยมี นพ. เจษฎ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา เป็นตัวแทนรับมอบสนับสนุนอุปกรณ์สำนักงาน ให้กับโรงพยาบาลมหาราช

บริษัทฯ ตระหนักถึงความยากลำบาก และความเหน็ดเหนื่อยในการทำงานของบุคลากรทางการแพทย์ รวมถึงเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง โดยเชื่อว่าการส่งต่อส่งกำลังใจ และความช่วยเหลือให้บุคลากรทางการแพทย์ซึ่งเป็นด่านหน้าในการต่อสู้กับเชื้อไวรัสโควิด -19 เป็นสิ่งสำคัญ และขอให้คนไทยผ่านพ้นวิกฤตครั้งนี้ไปด้วยกัน

คาร์กิลล์ สนับสนุนอุปกรณ์ทางการแพทย์ สู้โควิด-19

จากนโยบายหลักในการส่งเสริมชุมชนให้มั่นคงอย่างยั่งยืน คาร์กิลล์ ประเทศไทย มอบอุปกรณ์ทางการแพทย์ และชุด PPE แก่องค์กรและหน่วยงานทางการแพทย์ มูลค่าทั้งสิ้น 3,000,000 บาท เพื่อช่วยเหลือในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 การบริจาคในครั้งนี้ดำเนินการโดยมูลนิธิเพื่อพัฒนาการเกษตรและชุมชน (Agriculture and Community Development Foundation) และ Cargill Cares Council องค์กรไม่แสวงหากำไร ก่อตั้งโดยพนักงานคาร์กิลล์

อุปกรณ์ทางการแพทย์ที่บริจาคในครั้งนี้ ประกอบด้วย เครื่องผลิตออกซิเจน เครื่องฟอกอากาศ เครื่องให้อากาศผสมออกซิเจนอัตราการไหลสูง ห้องป้องกันเชื้อความดันลบ เครื่องวัดความดันโลหิต เครื่องวัดความอิ่มตัวของออกซิเจนในเลือด หน้ากากอนามัยป้องกัน PM 2.5 หน้ากากเฟซชิลด์ ชุด PPE และเจลล้างมือแอลกอฮอล์ ซึ่งจะกระจายไปยังโรงพยาบาลและศูนย์แพทย์ แห่ง ในจังหวัดสระบุรี นครราชสีมา และปทุมธานี เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยโควิด-19 กว่า 3,000 คน ที่ยังคงรักษาอยู่ในโรงพยาบาล  

ในสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด19 โรงพยาบาลพระพุทธบาทได้ดูแลผู้ป่วยโควิดในเขตพื้นที่อำเภอพระพุทธบาทและใกล้เคียง ผมรู้สึกซาบซึ้งและขอขอบพระคุณบริษัท คาร์กิลล์มีทส์ (ไทยแลนด์) เป็นอย่างมากที่บริจาคเครื่องผลิตออกซิเจน ความเข้มข้นสูงจำนวน 5 ชุดนี้ เราจะได้นำเครื่องมือนี้ไปใช้ดูแลผู้ป่วยที่ติดเชื้อโควิดได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น นพ.ธงชัย เขมรัตน์ตระกูล ผู้อำนวยการ โรงพยาบาลพระพุทธบาท กล่าว

จากการเป็นส่วนหนึ่งที่ร่วมสนับสนุนบุคลากรทางการแพทย์ไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้ติดเชื้อ และผู้ที่อยู่ในสถานกักกันโรคในระยะเวลาที่ต้องต่อสู่กับโควิด-19 อันยาวนานนี้ คาร์กิลล์ยังมอบผลิตภัณฑ์ไก่ปรุงสุก ซันแวลเล่ย์ (Sun Valley) จำนวน 500 กิโลกรัม และไข่ไก่ มูลค่าเดือนละ 200,000 บาท แก่โรงพยาบาลด้วย

ธุรกิจของเราดำเนินงานในชุมชนที่พนักงานนับพันคนอยู่อาศัยและทำงาน เรามีความยินดีที่ได้สนับสนุนและช่วยเหลือชุมชน รวมถึงหน่วยงานทางการแพทย์ เรามีความเชื่อว่า เพื่อนที่ช่วยเหลือในยามยากคือเพื่อนแท้ คาร์กิลล์จะเป็นเพื่อนที่ประเทศไทยสามารถไว้วางใจและเติบโตไปด้วยกัน นายวัชรพล ประสพเกียรติโภคา หัวหน้าคณะผู้บริหารกลุ่มธุรกิจคาร์กิลล์ ประเทศไทย กล่าวทิ้งท้าย

เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา คาร์กิลล์มีการส่งมอบเครื่องวัดอุณหภูมิและเจลล้างมือ มูลค่า 200,000 บาท แก่โรงเรียน 50 แห่ง ในจังหวัดสระบุรี และนครราชสีมา มีนักเรียนกว่า 5,000 คน ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่  Cargill.co.th 

ศุภาลัย มอบเงินสนับสนุนปรับปรุงภูมิทัศน์ศาลากลางภูเก็ต

บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) ร่วมมอบเงินให้แก่จังหวัดภูเก็ต สนับสนุนกิจกรรม “จัดหาต้นไม้ปรับปรุงสภาพภูมิทัศน์ศาลากลางภูเก็ตหลังใหม่” อาทิ ต้นประดู่บ้าน ต้นจามจุรี ต้นแคนา ต้นตะแบก ต้นชมพูพันธุ์ทิพย์ ต้นราชพฤกษ์ โดยมี นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต และคณะ เป็นผู้แทนจังหวัดภูเก็ตรับมอบเงิน ณ ศูนย์ราชการจังหวัดภูเก็ต โดยกิจกรรมดังกล่าว บริษัทฯ ได้ให้ความสำคัญของการ มีส่วนร่วมในการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม และสร้างประโยชน์ให้กับสังคมอย่างยั่งยืน

SUN เข้าซื้อขายใน SET พร้อมเดินทัพลุยเพิ่มโอกาสธุรกิจ

บริษัท ซันสวีท จำกัด (มหาชน) หรือ SUN ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายข้าวโพดหวานแปรรูปและผลิตภัณฑ์แปรรูปสินค้าเกษตรอื่นๆ ภายใต้ตราสินค้าของบริษัท “KC” โชว์ศักยภาพแข็งแกร่ง ย้ายเข้าเทรดในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) เพิ่มช่องทางขยายการลงทุนทางธุรกิจให้มีการเติบโต และเปิดโอกาสให้นักลงทุนทั้งในและต่างประเทศเข้ามาลงทุนเสริมสภาพคล่อง สู่การต่อยอดธุรกิจและยกระดับความเป็นเลิศด้านอุตสาหกรรมอาหาร ผลักดันรายได้โตต่อเนื่อง

นายองอาจ กิตติคุณชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซันสวีท จำกัด (มหาชน) หรือ SUN เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์ได้อนุมัติการย้ายหลักทรัพย์ของ SUN เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) เป็นวันแรก (18 มิ.ย. 2564) ในกลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม ด้วยทุนจดทะเบียน 322.49 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) 0.50 บาท นับตั้งแต่ วันที่ 28 ธันวาคม 2560 ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) บริษัทฯมุ่งเน้นการส่งเสริมความแข็งแกร่งทางด้านฐานะทางการเงิน โดยบริหารจัดการองค์กรปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต และนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาใช้ในการวิจัยพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีคุณภาพตามมาตรฐานสูงสุด เพื่อสร้างความได้เปรียบเชิงการแข่งขัน และสามารถรุกขยายธุรกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศ ส่งผลให้การดำเนินงานในด้านรายได้และกำไรสุทธิเติบโตอย่างต่อเนื่อง รวมถึงได้รับผลประเมินการกำกับดูแลกิจการบริษัทจดทะเบียนไทย (CGR) ในระดับ “ดีมาก (4 ดาว)”

การเข้าจดทะเบียนและซื้อขายหุ้นใน SET จะเอื้ออำนวยและเพิ่มโอกาสทางธุรกิจ ขยายฐานผู้ถือหุ้นและกองทุนทั้งในและต่างประเทศเข้ามาเพิ่มสัดส่วนลงทุน และสภาพคล่องให้สูงขึ้น รวมถึงรองรับกับการขยายงานด้านธุรกิจของบริษัทในอนาคต เนื่องจาก SUN มีแผนที่จะลงทุนในโครงการใหม่ ๆ อาทิ โครงการพลังงานสะอาด โครงการพืชเศรษฐกิจมูลค่าสูง ควบคู่ไปกับแสวงหาพันธมิตรในการพัฒนาโครงการร่วมกัน สำหรับต่อยอดธุรกิจให้เติบโตยิ่งขึ้น

ด้าน แผนการดำเนินธุรกิจ บริษัทฯตั้งเป้ารายได้เติบโต 10-15% โดยมุ่งเน้นผลักดันธุรกิจ วิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ ยังคงเป็น Core Business สำคัญที่บริษัทมุ่งมั่นพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภค สร้างการรับรู้แบรนด์และเป็นที่ยอมรับทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งเชื่อว่าจะผลักดันให้รายได้เติบโตตามเป้าหมาย และส่งผลดีต่อการก้าวไปสู่การเติบโตได้อย่างยั่งยืนในระยะยาวต่อไป