โลตัส ร่วมโครงการครัวปันอิ่ม ร้อยเรียงใจ สู้ภัยโควิด-19 

โลตัส จับมือเครือข่ายพันธมิตร มูลนิธิ กลุ่มจิตอาสา และองค์กรสื่อกว่า 100 หน่วยงาน ร่วมแจกอาหาร 2,000,000 กล่องให้กับชุมชนและประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภายใต้โครงการ “ครัวปันอิ่ม ร้อยเรียงใจ สู้ภัยโควิด-19” สนับสนุนโดยเครือเจริญโภคภัณฑ์ ตั้งจุดแจกข้าวกล่อง 40 จุด ให้เครือข่ายจิตอาสาและมูลนิธิที่เป็นพันธมิตร มารับข้าวกล่องเพื่อกระจายสู่ชุมชนต่อไป โดยอาหาร 1,000,000 กล่อง มาจากร้านอาหารรายย่อยที่ได้รับผลกระทบ ส่วนอีก 1,000,000 กล่องร่วมสมทบโดยเครือเจริญโภคภัณฑ์

นายสมพงษ์ รุ่งนิรัติศัย ประธานคณะผู้บริหารธุรกิจโลตัส ประเทศไทย กล่าวว่า “สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในประเทศไทยปัจจุบันยังคงมีความน่ากังวล และได้ส่งผลกระทบต่อหลายภาคส่วน โดยเฉพาะภาคประชาชนที่มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น หลายคนต้องทำการแยกกักตัวที่บ้าน และจำนวนมากต้องขาดรายได้ รวมถึงผู้ประกอบการร้านอาหารรายย่อยทั้งในและนอกศูนย์การค้า ที่ประสบปัญหาขาดรายได้ ทำให้ โลตัส เครือเจริญโภคภัณฑ์ เครือข่ายพันธมิตร มูลนิธิ กลุ่มจิตอาสา และองค์กรสื่อ จับมือกันในโครงการ “ครัวปันอิ่ม ร้อยเรียงใจ สู้ภัยโควิด-19” มอบอาหาร 2,000,000 กล่องให้กับชุมชนและประชาชนที่ได้รับผลกระทบ โดยเป็นการสนับสนุนร้านอาหารรายย่อยในการประกอบอาหารไปพร้อม ๆ กัน นอกจากอาหาร 2,000,000 กล่องแล้ว เรายังร่วมบริจาคมังคุด 100,000 แพ็คที่เครือเจริญโภคภัณฑ์รับซื้อจากเกษตรกรในภาคใต้ และหน้ากากอนามัยซีพีอีกด้วย

โลตัส ใช้สาขาของเรา 10 สาขา ได้แก่ สาขาพระราม 4, ศรีนครินทร์, หลักสี่, หนองจอก, พระราม 1, รังสิต, ปทุมธานี, พระราม 2, บางปู, และบางกะปิ ซึ่งตั้งอยู่ใกล้ชุมชนต่าง ๆ เป็นจุดศูนย์กลางในการแจกข้าวกล่อง มังคุด และหน้ากากอนามัย จากทั้งหมด 40 จุดภายใต้โครงการ “ครัวปันอิ่ม” เพื่อให้มูลนิธิและเครือข่ายจิตอาสา มารับทุกวันก่อนกระจายต่อถึงมือชุมชน

โครงการครัวปันอิ่ม ร้อยเรียงใจ สู้ภัยโควิด-19 จะไม่สามารถเกิดขึ้นได้โดยปราศจากเครือข่ายพันธมิตรทุกภาคส่วนที่มีความสำคัญเป็นอย่างมากในการช่วยขับเคลื่อนโครงการ ทั้งเครือข่ายขององค์กรสื่อที่ทำหน้าที่ประสานงานทุกภาคส่วน และความเข้าใจในพื้นที่และความต้องการของประชาชนของมูลนิธิ และกลุ่มจิตอาสา และทำหน้าที่ที่สำคัญที่สุดคือการมอบข้าวกล่องสู่มือผู้ได้รับความเดือดร้อน ซึ่งรวมถึงผู้ที่ต้องทำการแยกกักตัวที่บ้าน เพื่อให้พวกเขาได้มีอาหารที่ดีรับประทาน โลตัสเพร้อมเดิมหน้าสนับสนุนให้พี่น้องชาวไทยสามารถผ่านวิกฤติครั้งนี้ไปได้ด้วยกัน” นายสมพงษ์ กล่าวสรุป

ช่วยแท็กซี่ จัดสรรกองทุนพัฒนาสหกรณ์ ปล่อยกู้สู้โควิด-19

นายวิศิษฐ์ ศรีสุวรรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังหารือร่วมกับนายวิฑูรย์ เเนวพานิช ที่ปรึกษาชุมนุมสหกรณ์บริการเดินรถแห่ง ประเทศไทย จำกัด ในโอกาสขอเข้าพบเพื่อหารือถึงแนวทางการแก้ไขปัญหารถแท็กซี่ของสหกรณ์ ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด – 19 เบื้องต้นต้องการให้ช่วยประสานหาพื้นที่จอดรถแท็กซี่ที่ต้องหยุดวิ่งบริการเนื่องจากประชาชนงดเดินทางทำให้จำนวนผู้ใช้บริการแท็กซี่ลดลง ซึ่งสหกรณ์ได้นำรถแท็กซี่บางส่วนไปจอดไว้ที่หน้ากระทรวงการคลัง กระทรวงคมนาคมและกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ทางกรมส่งเสริมสหกรณ์จึงขอความร่วมมือสหกรณ์แท็กซี่นำรถออกจากบริเวณด้านหน้าของหน่วยงานดังกล่าว และประสานกับกรมธนารักษ์ และหน่วยงานต่างๆ จัดหาพื้นที่ว่างเพื่อรองรับรถแท็กซี่ไปจอดไว้ในช่วงสถานการณ์โควิด

ขณะนี้ ได้พื้นที่จอดภายในโรงงานยาสูบ จอดได้ 150 คัน บริษัท แคทเทเลคอม จังหวัดนนทบุรี จอดได้ 120 คัน ที่ซอยเสรีไทย 66 พื้นที่ 10 ไร่และที่ในเขตหนองจอก สามารถจอดได้ประมาณที่ละ 1,000 คัน และพื้นที่ของหน่วยงานกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่กรมชลประทาน ปากเกร็ด 300 คัน พื้นที่ของสำนักพัฒนาและถ่ายทอดเทคโนโลยีการสหกรณ์ เขตดุสิต ศูนย์ถ่ายทอดเทคโนโลยีการสหกรณ์ที่ 1 และ 2 และสำนักงานสหกรณ์จังหวัดปทุมธานี รวม 500 คัน และอยู่ระหว่างการขอความอนุเคราะห์ใช้พื้นที่กับการรถไฟแห่งประเทศไทยเพิ่มเติม เพื่อให้สหกรณ์แท็กซี่ใช้พื้นที่ในการจอดรถแท็กซี่ที่ไม่สามารถประกอบการได้ เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายของสหกรณ์ในการเช่าพื้นที่จอดรถ

ด้าน นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ห่วงใยในความเดือดร้อนของพี่น้องสมาชิกสหกรณ์แท็กซี่ จึงสั่งการให้กรมส่งเสริมสหกรณ์ทำโครงการส่งเสริมและพัฒนาอาชีพสหกรณ์นอกภาค การเกษตร โดยจัดสรรเงินกองทุนพัฒนาสหกรณ์ในอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 1 ให้กู้ยืมไปประกอบอาชีพเพื่อสร้างรายได้ช่วงสถานการณ์โควิด รวมทั้งประสานกับกระทรวงแรงงาน เพื่อให้คนขับรถบริการที่อยู่ในระบบสหกรณ์ ทั้งรถแท็กซี่ สามล้อเล็ก รถสองแถวหรือมอเตอร์ไซค์รับจ้าง เข้าสู่มาตรา 40 ของกฎหมายแรงงาน ให้มีสิทธิ์ได้รับเงินเยียวยาจากรัฐบาลคนละ 5,000 บาท ด้วย

กรมการแพทย์ฯ ชี้แจงกรณีสารสกัดฟ้าทะลายโจร ช่วยลดพัฒนาโควิด-19

แพทย์หญิงอัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กล่าวถึงกรณีทีมผู้วิจัยขอถอนการวิจัยระหว่างรอการตีพิมพ์วารสารทางการแพทย์ระดับนานาชาติ กรณียาฟ้าทะลายโจรในการรักษาโรคโควิด -19 ที่มีคนเข้าใจว่าถูกปฏิเสธ ข้อมูลไม่พอ ฟ้าทะลายโจรใช้ไม่ได้จริงกับโควิด -19 จึงถูกตีกลับ ว่า เป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน ทีมนักวิจัยของไทยกรมการแพทย์แผนไทยฯ ได้ขอถอนงานวิจัยออกมาเองเป็นการชั่วคราวเพื่อแก้ไขตัวเลขสถิติที่พบเพิ่มเติม จากการเก็บข้อมูลเชิงรายละเอียดพบข้อผิดพลาดตัวเลขเล็กน้อยตรงผลคำนวณนัยยะสำคัญทางสถิติ ผลการทดลองสารสกัดฟ้าทะลายโจรกับอาการปอดอักเสบ ที่เดิมคำนวณว่า 0.03 และนำเสนอไปแต่เมื่อกลับมาพิจารณาอีกครั้ง พบนัยยะสำคัญทางสถิติอยู่ที่ 0.112 แม้จะเป็นตัวเลขเพียงเล็กน้อยแต่ในแง่ของงานวิจัยตัวเลขเล็กน้อยนี้ถือเป็นเรื่องใหญ่ นักวิจัยจึงมีความซื่อสัตย์และชัดเจนต่อผลลัพธ์ จึงดึงข้อมูลกลับมาเพื่อแก้ไขก่อนส่งกลับไปตีพิมพ์ในวารสารเดิมเพื่อแบ่งปันข้อมูลให้นักวิจัยทั่วโลก ไม่ได้เป็นการถูกปฏิเสธจากวารสารแต่ประการใด

ผลการศึกษาสารสกัดฟ้าทะลายโจร ยังคงเดิมคือมีผลต่อผู้ป่วยโควิด ที่มีอาการเล็กน้อยและมีแนวโน้มที่ได้ผลดี โดยเฉพาะลดการพัฒนาของโรคไม่ให้เดินหน้ารุนแรงขึ้นจนมีปอดอักเสบ การขอถอนงานวิจัยชั่วคราวกลับมาแก้ตัวเลขนี้จึงไม่ได้มีผลต้องปรับเปลี่ยนนโยบายการใช้ยาฟ้าทะลายโจรในการรักษาผู้ป่วยโควิดในประเทศไทยแต่อย่างใด ยาสารสกัดจากฟ้าทะลายโจรและยาจากผงฟ้าทะลายโจร ยังคงเป็นสมุนไพรในบัญชียาหลักแห่งชาติ ที่มีข้อบ่งใช้บรรเทาอาการของโรคหวัด และใช้ในผู้ป่วยโควิด -19 ที่มีอาการความรุนแรงน้อยเพื่อลดการเกิดโรคที่รุนแรง ซึ่งขณะนี้มีผู้ป่วยโรคโควิด -19 ที่ได้รับยาฟ้าทะลายโจรไปแล้ว 107,728 คน ทั้งนี้สมุนไพรฟ้าทะลายโจรแม้จะมีผลดีต่อการความรุนแรงของโรคแต่ต้องใช้ภายใต้คำแนะนำของแพทย์ เพราะยังมีข้อห้ามใช้กับผู้แพ้ยาฟ้าทะลายโจร หญิงตั้งครรภ์ หญิงให้นมบุตร ผู้ป่วยโรคตับ โรคไตและยังมีข้อควรระวังการใช้ร่วมกับยาวาร์ฟาริน แอสไพริน โคลพิโดเกรล ยาลดความดันโลหิตด้วย จึงไม่ควรใช้เองพร่ำเพรื่อ

พรุ่งนี้ (11 ส.ค.) เปิดลงทะเบียนรับจัดสรรวัคซีนซิโนฟาร์ม สำหรับบุคคลธรรมดา รอบ 3

ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ แจ้งกำหนดการเปิดลงทะเบียนขอรับการจัดสรรวัคซีน “ซิโนฟาร์ม” สำหรับ “บุคคลธรรมดา” รอบ 3 จำนวน 100,000 ราย ในวันพุธที่ 11 สิงหาคม 2564
• เวลา 08.18 น. เปิดระบบลงทะเบียน
• เวลา 14.00 น. เปิดระบบการจองวัคซีนสำหรับผู้ที่ลงทะเบียนสำเร็จ

ทั้งนี้ ผู้ที่ลงทะเบียนสำเร็จในรอบที่ 3 สามารถเข้ามาดำเนินการจองวัคซีน เลือกโรงพยาบาล เลือกวันนัดฉีดและโอนเงินให้เสร็จสิ้นได้ตั้งแต่วันที่ 11 สิงหาคม เวลา 14.00 น. ถึงวันที่ 13 สิงหาคม 2564 เวลา 18.00 น. หากไม่ได้เข้ามาดำเนินการตามวันที่กำหนดระบบจะลบข้อมูลท่านออกจากการลงทะเบียนโดยอัตโนมัติ และท่านต้องลงทะเบียนใหม่อีกครั้ง หากประสงค์ขอรับการจัดสรรในครั้งต่อไป

ลงทะเบียนขอรับการจัดสรรวัคซีนซิโนฟาร์มสำหรับบุคคลธรรมดาได้ 2 ช่องทาง
1) เว็บไซด์ https://sinopharm.cra.ac.th
2) แอปพลิเคชั่น CRA SINOP ทั้งระบบ iOS และ Android
‼อย่าลืมอัปเดตแอปเป็นเวอร์ชันล่าสุด
หมายเหตุ: อัตราค่าวัคซีนซิโนฟาร์ม 2 โดสต่อคน 1,554 บาท (โดสละ 777 บาท) โดยทุกๆ 2 โดส ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์จะบริจาคสมทบครึ่งโดสให้กับผู้ด้อยโอกาส

เงื่อนไขการลงทะเบียนจองวัคซีน

  • ขอสงวนสิทธิ์เฉพาะสำหรับประชาชนที่ยังไม่เคยรับวัคซีนเข็มแรกและพร้อมเข้าฉีดวัคซีนได้ทันทีเท่านั้น
  • ‼ลงทะเบียนจองวัคซีนด้วยเลขที่บัตรประชาชนของผู้ที่จะเข้ารับการฉีดวัคซีนเท่านั้น คนต่างชาติ ใช้เลขที่หนังสือเดินทาง หรือเลขที่บัตรประจำตัวคนซึ่งไม่มีสัญชาติไทย
  • ภายหลังจากชำระเงินค่าวัคซีนเรียบร้อยแล้ว ไม่สามารถเปลี่ยนสิทธิ์ให้ผู้อื่นได้ทุกกรณี
  • เลือกวันเข้ารับการฉีดในโรงพยาบาลที่กำหนดได้ตั้งแต่วันที่ 23 ส.ค. – 5 ก.ย. 2564

โรงพยาบาลที่เข้าร่วมให้บริการฉีดวัคซีนซิโนฟาร์มสำหรับบุคคลธรรมดา ตามภาคต่างๆ ดังนี้

กรุงเทพและปริมณฑล
• โรงพยาบาลจุฬาภรณ์
• โรงพยาบาลปิยะเวท
• โรงพยาบาลพญาไท 3
• โรงพยาบาลพญาไท นวมินทร์
• โรงพยาบาลจุฬารัตน์ 3 อินเตอร์
• โรงพยาบาลจุฬารัตน์ 9 แอร์พอร์ต
• โรงพยาบาลอินเตอร์เมด
• โรงพยาบาลกรุงเทพ
• โรงพยาบาลวิชัยเวช แยกไฟฉาย
• โรงพยาบาลวิชัยเวช อินเตอร์เนชั่นแนล หนองแขม
• โรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ
• โรงพยาบาลเทพธารินทร์
• โรงพยาบาลบางปะกอก 1
• โรงพยาบาลเวชธานี
• โรงพยาบาลมิชชั่น
• โรงพยาบาลพริ้นซ์ สุวรรณภูมิ สมุทรปราการ
• โรงพยาบาลแพทย์รังสิต ปทุมธานี
• โรงพยาบาลเอกชัย สมุทรสาคร
• โรงพยาบาล อินเตอร์กำแพงแสน นครปฐม
• โรงพยาบาลกรุงเทพสนามจันทร์ นครปฐม
• โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ รัตนาธิเบศร์ นนทบุรี
• โรงพยาบาลรามาธิบดีจักรีนฤบดินทร์ สมุทรปราการ

ภาคกลาง
• โรงพยาบาลพริ้นซ์ ปากน้ำโพ จ.นครสวรรค์
• โรงพยาบาลมิตรภาพเมโมเรียล จ.สระบุรี
• โรงพยาบาลเอกชนเมืองกำแพง จ.กำแพงเพชร
• โรงพยาบาลพริ้นซ์ จ.อุทัยธานี
• โรงพยาบาลพิษณุเวช จ.พิจิตร
• โรงพยาบาลเพชรรัตน์ จ.เพชรบูรณ์
• โรงพยาบาล ศรีสุโข จ.พิจิตร
• โรงพยาบาลศรีสวรรค์ จ.นครสวรรค์
• โรงพยาบาลเมืองนารายณ์ จ.ลพบุรี
• โรงพยาบาลมหาชัยแม่กลอง จ.สมุทรสงคราม
• โรงพยาบาลศุภมิตร จ.สุพรรณบุรี
• โรงพยาบาลพิษณุเวช จ.พิษณุโลก
• โรงพยาบาลรวมแพทย์ จ.พิษณุโลก
• โรงพยาบาลรวมแพทย์ จ.ชัยนาท
• โรงพยาบาลพีรเวช จ.พระนครศรีอยุธยา

ภาคใต้
• โรงพยาบาลกรุงเทพหาดใหญ่ จ.สงขลา
• โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ จ.นราธิวาส
• โรงพยาบาลสงขลา
• โรงพยาบาลสิโรรส จ.ยะลา
• โรงพยาบาล รวมแพทย์ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช
• โรงพยาบาลนครินทร์ จ.นครศรีธรรมราช
• โรงพยาบาลนครคริสเตียน จ.นครศรีธรรมราช
• โรงพยาบาลวิรัชศิลป์ จ.ชุมพร
• โรงพยาบาลราษฎร์ยินดี หาดใหญ่ จ.สงขลา
• โรงพยาบาล วัฒนแพทย์อ่าวนาง จ.กระบี่
• โรงพยาบาลวัฒนแพทย์ จ.ตรัง
• โรงพยาบาลโรคผิวหนังเขตร้อนภาคใต้ จ.ตรัง
• โรงพยาบาลควนขนุน จ.พัทลุง
• โรงพยาบาลมิชชั่น จ.ภูเก็ต
• โรงพยาบาลควนโดน จ.สตูล

ภาคอีสาน
• โรงพยาบาลกรุงเทพอุดร จ.อุดรธานี
• โรงพยาบาลนอร์ทอีสเทอร์น-วัฒนา จ.อุดรธานี
• โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา จ.นครราชสีมา
• โรงพยาบาลปากช่องนานา จ.นครราชสีมา
• โรงพยาบาลเซ็นเมรี่ จ.นครราชสีมา
• โรงพยาบาลสีคิ้ว จ.นครราชสีมา
• โรงพยาบาลพริ้นซ์ อุบลราชธานี
• โรงพยาบาลโขงเจียม อุบลราชธานี
• โรงพยาบาลขอนแก่น ราม จ.ขอนแก่น
• โรงพยาบาลกรุงเทพขอนแก่น
• โรงพยาบาลเมืองเลยราม จ.เลย
• โรงพยาบาลพริ้นซ์ จ.ศรีสะเกษ
• โรงพยาบาลชัยภูมิ
• โรงพยาบาลสุรินทร์รวมแพทย์ จ.สุรินทร์
• โรงพยาบาลรวมแพทย์ (หมออนันต์) จ.สุรินทร์
• โรงพยาบาลหนองคาย-วัฒนา จ.หนองคาย
• โรงพยาบาลบุรีรัมย์ราม จ.บุรีรัมย์
• โรงพยาบาลรักษ์สกล จ.สกลนคร
• โรงพยาบาลรวมแพทย์ จ.หนองคาย
• โรงพยาบาลนาแก จ.นครพนม
• โรงพยาบาลร้อยเอ็ดธนบุรี จ.ร้อยเอ็ด
• โรงพยาบาลมุกดาหารอินเตอร์เนชั่นแนล จ.มุกดาหาร
• โรงพยาบาลกาฬสินธุ์-ธนบุรี จ.กาฬสินธุ์

ภาคตะวันออก
• โรงพยาบาลชลบุรี
• โรงพยาบาลปิยะเวชช์ บ่อวิน จ.ชลบุรี
• โรงพยาบาลจุฬารัตน์ระยอง
• โรงพยาบาลสิริเวช จันทบุรี
• โรงพยาบาลจุฬารัตน์ 11 จ.ฉะเชิงเทรา
• โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร จ.ปราจีนบุรี

ภาคเหนือ
• โรงพยาบาลเชียงใหม่ใกล้หมอ จ.เชียงใหม่
• โรงพยาบาลลานนา จ.เชียงใหม่
• โรงพยาบาลเชียงใหม่เมดิคอลเซ็นเตอร์
• โรงพยาบาลพริ้นซ์ จ.ลำพูน
• โรงพยาบาลลำพูนใกล้หมอ จ.ลำพูน
• โรงพยาบาลพิษณุเวช จ.อุตรดิตถ์
• โรงพยาบาลเขลางค์นคร-ราม จ.ลำปาง
• โรงพยาบาลแพร่-ราม จ.แพร่
• โรงพยาบาลพะเยา ราม จ.พะเยา
• โรงพยาบาลน่าน จ.น่าน

ภาคตะวันตก
• โรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์
• โรงพยาบาลมหาชัยเพชรรัชต์ จ.เพชรบุรี
• โรงพยาบาลกรุงเทพเมืองราช จ.ราชบุรี
• โรงพยาบาลสินแพทย์กาญจนบุรี จ.กาญจนบุรี
• โรงพยาบาลนครแม่สอด อินเตอร์เนชั่นแนล จ.ตาก

ผู้จองวัคซีนชำระค่าบริการฉีด ณ โรงพยาบาลโดยตรง

ศุกร์นี้ (13 ส.ค.) เปิดลงทะเบียนรับจัดสรรวัคซีนซิโนฟาร์ม ระยะที่ 2 สำหรับองค์กร/นิติบุคคล

ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ แจ้งกำหนดเปิดลงทะเบียนขอรับการจัดสรรวัคซีนตัวเลือก “ซิโนฟาร์ม” ระยะที่ 2 สำหรับองค์กร/นิติบุคคล ครั้งที่ 2 สำหรับกลุ่มนิติบุคคลขนาดย่อม (SMEs)

กำหนดการยื่นขอรับการจัดสรรวัคซีนตัวเลือก “ซิโนฟาร์ม” ระยะที่ 2 สำหรับองค์กรและหน่วยงาน ครั้งที่ 2 สำหรับนิติบุคคลขนาดย่อมที่ต้องการยื่นขอรับการจัดสรรวัคซีนให้กับกลุ่มบุคคลได้ทุกประเภท ทั้งพนักงาน ครอบครัวพนักงาน แรงงานต่างชาติ ตั้งแต่ 10 – 100 ราย จำนวน 550 บริษัท หรือ 50,000 ราย

เปิดรับวันศุกร์ที่ 13 สิงหาคม 2564 เวลา 09.19 น. (จนกว่าจะเต็มจำนวน 550 บริษัท หรือ 50,000 รายอย่างใดอย่างหนึ่ง)

ยื่นขอรับการจัดสรรผ่านระบบออนไลน์ https://vaccine.cra.ac.th
เลือกเมนู “ยื่นความประสงค์ขอรับการจัดสรรวัคซีนสำหรับองค์กรและหน่วยงาน” เท่านั้น

ประกาศแจ้งองค์กรที่ได้รับการจัดสรรในวันจันทร์ที่ 16 สิงหาคม 2564 ผ่านทางอีเมลผู้บริหารสูงสุดขององค์กร โดยองค์กรที่ได้รับการจัดสรรจะได้รับอีเมลแจ้งรหัสล็อกอินเข้าระบบผ่านเมนู “2 ลงทะเบียนองค์กรผู้ได้รับการจัดสรรวัคซีน” เพื่อทราบจำนวนวัคซีนที่ได้รับการจัดสรร และวิธีการโอนเงิน

ทั้งนี้ กรุณาโอนเงินค่าวัคซีนเต็มจำนวน (รวมจำนวนวัคซีนที่บริจาค) ภายในวันที่ 18 สิงหาคม 2564 เวลา 18.00 น. หากไม่สามารถเข้ามาดำเนินการตามเวลากำหนดได้ระบบจะลบข้อมูลและชื่อองค์กรท่านออกจากระบบการลงทะเบียนโดยอัตโนมัติ เพื่อจะนำจำนวนวัคซีนนั้นไปจัดสรรให้ผู้อื่นต่อไป และหากท่านมีความประสงค์จะลงทะเบียนเพื่อขอจัดสรรใหม่หรือเพิ่มเติม ท่านต้องเข้ามาลงทะเบียนใหม่ในการจัดสรรครั้งต่อๆไป

กำหนดช่วงเวลาการเข้าฉีดวัคซีนกับสถานพยาบาล ตั้งแต่ 25 สิงหาคม 2564 เป็นต้นไป ภายหลังจากที่องค์กรได้รับการจัดสรรและโอนเงินเรียบร้อย และได้รับการตรวจสอบยืนยันแล้ว องค์กรต้องประสานเลือกสถานพยาบาลในระบบ (ตรวจสอบรายชื่อโรงพยาบาลที่ขึ้นทะเบียนให้บริการในพื้นที่จังหวัดของสถานประกอบการ >> https://www.chulabhornhospital.com/page.php?name=1529) เพื่อลงนามข้อตกลง 3 ฝ่าย(ระหว่างองค์กร สถานพยาบาลและราชวิทยาลัย) ผ่านระบบออนไลน์ และนัดหมายวันฉีด ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์จะจัดส่งวัคซีนไปยังสถานพยาบาลปลายทางที่องค์กรเลือกเข้ารับบริการล่วงหน้าอย่างน้อย 2 วันก่อนถึงวันนัดฉีดวัคซีน

ทั้งนี้ องค์กรจะต้องเตรียมรายชื่อบุคคลที่จะเข้ารับวัคซีนและอัพโหลดเข้าระบบให้เรียบร้อยสองวันก่อนวันกำหนดฉีด(องค์กรไม่สามารถเปลี่ยนชื่อและจำนวนบุคลากรหรือย้ายที่ฉีดได้ในช่วงเวลาสองวันก่อนและหลังวันฉีดด้วยเหตุผลเรื่องการประกันและการจัดส่งวัคซีน)

หมายเหตุ: ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ จะเปิดให้องค์กรยื่นความประสงค์ขอรับการจัดสรรวัคซีนซิโนฟาร์มทุกวันศุกร์ (จำนวนการประกาศรับลงทะเบียนแต่ละรอบ ขื้นอยู่กับจำนวนโควต้าวัคซีนที่มีในแต่ละสัปดาห์)

 

สปสช. เร่งหาชุดตรวจ Antigen Test Kit กระจายให้ประชาชน

นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวถึงการเตรียมกระจายส่ง Antigen Test Kit ให้นำไปตรวจค้นหาผู้ป่วยโควิด-19 เพื่อนำเข้าสู่ระบบการรักษาว่า อยู่ระหว่างจัดหา Antigen Test Kit เมื่อได้บริษัทผู้นำเข้าแล้วจะรีบจัดส่งให้เร็วที่สุด โดยสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ได้ตั้งคณะกรรมาธิการ 1 ชุดมาวางแผนการกระจายชุดตรวจแอนติเจนด้วยตนเอง (COVID-19 Antigen self-test Test Kits : ATK )  8.5 ล้านชุดให้กับประชาชนภายในเวลา 1 เดือนผ่านหน่วยบริการสาธารณสุขโดยองค์การเภสัชกรรม (อภ.)ที่เน้นกลุ่มเสี่ยงสูงในชุมชนและครอบครัว

ขณะที่ Home Isolation หรือการกักตัวที่  บ้าน และ Community Isolation หรือการแยกกักตัวผู้ป่วยโควิด-19 ในชุมชน จะเน้นกลุ่มที่มีอาการไม่รุนแรง โดยจะมีการจัดส่งอาหาร สิ่งของจำเป็นและยารักษาโรคให้กับผู้ที่รักษาตัว โดยจะจัดส่งยารักษาให้เร็วขึ้น

นพ.จเด็จ กล่าวย้ำถึงประชาชนที่ซื้อชุดตรวจเองว่า หากตรวจแล้วผลเป็นบวกให้แจ้งไปหน่วยรับบริการเพื่อรับการรักษาในรูปแบบ Home Isolation หรือติดต่อมาที่เบอร์โทรศัพท์ 1330 ต่อ 14 หรือติดต่อหน่วยบริการที่เคยเข้ารับการรักษา

วันนี้ (10 ส.ค) ประกันสังคม เตรียมเสนอ ครม. เยียวยากลุ่มตกหล่น รับสิทธิ์ 5,000 บาท

รายงานข่าวแจ้งว่า การประชุมคณะรัฐมนตรี วันนี้ (10 ส.ค.64) เป็นการประชุม ผ่านระบบ Video Conference  โดยมี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธาน ซึ่งมีวาระสำคัญคือ สำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน เตรียมเสนอ ครม.พิจารณาจ่ายเงินเยียวยาให้กับกลุ่มอาชีพอิสระ ในพื้นที่ 13 จังหวัด ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ที่ตกหล่น ยังไม่ได้ลงทะเบียนเป็นผู้ประกันตนมาตรา 40 เพื่อให้สามารถโอนเงินเยียวยา 5,000 บาท ได้ในวันที่ 24 สิงหาคมนี้ต่อไป

ยอดโควิด-19 วันนี้ ผู้ติดเชื้อเพิ่ม 19,843 ราย

ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ประจำวันอังคารที่ 10 สิงหาคม 2564 รวม 19,843 ราย จำแนกเป็น ผู้ติดเชื้อใหม่ 19,445 ราย ผู้ติดเชื้อภายในเรือนจำ/ที่ต้องขัง 398 ราย
ผู้ป่วยสะสม 767,088 ราย (ตั้งแต่ 1 เมษายน) ผู้หายป่วยกลับบ้าน 22,806 ราย ผู้หายป่วยสะสม 550,714 ราย (ตั้งแต่ 1 เมษายน) ผู้ป่วยกำลังรักษา 211,223 ราย ผู้เสียชีวิต 235 ราย

EA ร่วมกับ เอสอี บิซ กรุ๊ปและกลุ่มพันธมิตร มอบเงินสู้ภัยโควิด-19

นายสมโภชน์ อาหุนัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA ร่วมกับ กลุ่มบริษัท เอสอี บิซ โดย นางสาวสินีนารถ เองตระกูล กรรมการผู้จัดการ พร้อมด้วย บริษัท ดีอาร์เจแอล กรุ๊ป จำกัด สถาบันศัลยกรรมความงาม บีบีคลินิก (BB Clinic) และ บริษัท มาดามฟิน จำกัด มอบเงินบริจาค จำนวน 2,500,000 บาท เพื่อนำไปใช้ในการช่วยเหลือและป้องกันการแพร่ระบาดของโรคไวรัส COVID-19 ให้แก่ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย โดยมี ผศ.นพ.กวิรัช ตันติวงษ์ รองผู้อำนวยการฯ ฝ่ายเทคโนโลยีสารสนเทศ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ เป็นผู้รับมอบ

นายสมโภชน์ อาหุนัย เปิดเผยว่า วิกฤต COVID-19 ระลอกนี้ มีการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสอย่างรวดเร็ว ตัวเลขผู้ป่วยติดเชื้อต่อวันเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้บุคลากรทางการแพทย์ ซึ่งเป็นด่านหน้าในการต่อสู้กับเชื้อโรคเพื่อรักษาชีวิตผู้ป่วย ต้องทำงานหนักและเสี่ยงมากขึ้น บริษัทฯ มีความห่วงใย และต้องการอำนวยความสะดวกในด้านความปลอดภัย ด้านการดูแลรักษาแก่เหล่าบุคลากรในด่านหน้าที่ทุ่มเทปฏิบัติหน้าที่อย่างต่อเนื่องและเต็มกำลังความสามารถ ผ่านการสนับสนุนเงินแก่โรงพยาบาลเพื่อใช้ในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคไวรัส COVID-19 เป็นการส่งมอบกำลังใจแก่บุคลากรด่านหน้า ตลอดจนอีกหนึ่งกำลังใจให้ประชาชนชาวไทยผ่านวิกฤตนี้ได้เหมือนเช่นระลอกที่ผ่านมาโดยเร็วที่สุด

แม็คโคร ส่งมอบอาหารจากครัวปันอิ่มแก่ผู้รับผลกระทบโควิด-19

บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน)  ผนึกมูลนิธิดวงประทีป และพันธมิตรจิตอาสา ภาคประชาสังคม ร่วมส่งมอบมื้ออาหารจากโครงการครัวปันอิ่ม  ให้ผู้ได้รับผลกระทบจากโควิด-19  รวมถึงต่อลมหายใจให้ผู้ประกอบร้านอาหารรายย่อย หลังสถานการณ์การแพร่ระบาดยังน่าห่วง

นางศิริพร เดชสิงห์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานการสื่อสารองค์กร บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน)  กล่าวว่า ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 เช่นนี้ มีหลายส่วนของสังคมที่มีความต้องการอาหารเพิ่มขึ้น เนื่องจากอยู่ในภาวะกักตัว  เป็นผู้รักษาตัวที่บ้าน (Home Isolation)  เป็นผู้ว่างงาน ผู้คนขาดรายได้ในการดำรงชีวิต แม็คโครจึงได้ร่วมกับ มูลนิธิดวงประทีป พันธมิตรจิตอาสา ภาคประชาคม ในพื้นที่ต่างๆ  ส่งมอบอาหารสู่ชุมชนที่กำลังเดือดร้อนทั่วกรุงเทพฯ และปริมณฑล ภายใต้โครงการ “ครัวปันอิ่ม ร้อยเรียงใจสู้ภัยโควิด-19”  ตลอดระยะเวลากว่า 2 เดือน

“ครั้งนี้นับเป็นการผนึกกำลังครั้งสำคัญของหลายภาคส่วนที่มีเป้าหมายเดียวกันคือ บรรเทาความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ในหลายมิติ ทั้งการมอบมื้ออาหาร ปันความอิ่มให้แก่ผู้ที่อยู่ในภาวะกักตัว  ผู้ว่างงานขาดรายได้ มีความยากลำบากในการซื้ออาหารรับประทานที่เพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ  และการสั่งอาหารกล่องเข้าร่วมโครงการจากผู้ประกอบการร้านอาหาร ที่กำลังประสบปัญหาอย่างหนัก เพื่อต่อลมหายใจให้ธุรกิจเล็กๆ ธุรกิจเอสเอ็มอี จำนวนไม่น้อยได้มีกำลังในการต่อสู้กับวิกฤตที่เกิดขึ้นไปด้วยกัน”

ด้าน นางประทีป อึ้งทรงธรรม ฮาตะ หรือ ‘ครูประทีป’ ผู้ก่อตั้งและเลขาธิการมูลนิธิดวงประทีป  หนึ่งในพันธมิตรสำคัญ กล่าวว่า ในช่วงสถานการณ์ที่บ้านเมืองวิกฤต ที่มีผู้ติดโควิดเป็นจำนวนมาก  ต้องมีผู้ถูกกักตัวอยู่ในบ้าน มีผู้รักษาตัวที่บ้านเพิ่มขึ้น  ทำให้เรารู้ว่า อาหารเป็นเรื่องสำคัญที่จะช่วยเหลือพวกเขาได้ ทุกวันนี้ในคลองเตยที่มีผู้อาศัยเป็นจำนวนมาก เรามีชุมชนอยู่ 45 ชุมชน ยังมีผู้คนหิวโหย ไม่มีงานทำ ไม่มีรายได้ หลายบ้านที่ติดโควิดก็ออกไปไหนไม่ได้ อยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก ดิฉันคิดว่า โครงการนี้จะช่วยพวกเขาได้มาก นอกจากนี้โครงการยังสนับสนุนร้านค้าที่หมดทางทำมาหากิน ช่วยให้ผู้ประกอบการร้านอาหารได้เข้าร่วม นับเป็นการกู้วิกฤตในขณะนี้ได้เป็นอย่างดี”

ทั้งนี้ โครงการครัวปันอิ่มร้อยเรียงใจสู้ภัยโควิด-19 เกิดขึ้นโดยการระดมสรรพกำลังของกลุ่มธุรกิจในเครือซีพีและพันธมิตรหลายภาคส่วน ช่วยเหลือและให้กำลังใจประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน 40 ชุมชนในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ผ่านการส่งมอบอาหาร 2  ล้านกล่องตลอดระยะเวลา 2 เดือน