ปตท.เปิดหน่วยคัดกรอง รพ.สนามครบวงจร 4 จุดหลัก

นายทศพร ศิริสัมพันธ์ ประธานกรรมการ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงการผนึกกำลังของกลุ่ม ปตท. ในงานพิธีเปิดหน่วยคัดกรองและโรงพยาบาลสนามครบวงจร (End-to-End) ของกลุ่ม ปตท. ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานว่า ปตท.และบริษัทในกลุ่ม มีเจตนารมณ์ในการช่วยเหลือประชาชน และพร้อมแบ่งเบาภาระของภาครัฐ จึงได้ร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข สถาบันป้องกันควบคุมโรคเขตเมือง (สปคม.) สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) และพันธมิตรทางการแพทย์ จัดตั้งหน่วยคัดกรองและโรงพยาบาลสนามครบวงจร (End-to-End) ภายใต้โครงการลมหายใจเดียวกันขึ้น นับเป็นครั้งแรกที่ภาคเอกชนร่วมมือกับภาครัฐในการดูแลรักษาผู้ป่วยโควิด-19 แบบครบวงจร หวังที่จะมีส่วนช่วยลดการเสียชีวิต บรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน และหยุดยั้งการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 โดยเร็วที่สุด มุ่งเน้น ตรวจเร็ว แยกเร็ว รักษาเร็ว สร้างความอุ่นใจให้แก่ประชาชน

โดยการดำเนินการประกอบด้วย 4 จุดหลัก ได้แก่ จุดที่ 1 หน่วยคัดกรอง โครงการลมหายใจเดียวกัน ณ อาคาร EnCo Terminal หรือ Enter ของบริษัท เอนเนอร์ยี่ คอมเพล็กซ์ จำกัด กลุ่ม ปตท. ถ.วิภาวดีรังสิต กรุงเทพฯ เพื่อใช้เป็นจุดคัดกรองสำหรับกลุ่มเสี่ยง โดยร่วมมือกับ สปคม. วางระบบดิจิทัลเพื่อลงทะเบียน และตรวจโดยใช้ชุดตรวจ Antigen test kit หากพบว่ามีการเสี่ยงติดเชื้อ จะนำส่งตรวจ RT-PCR ต่อไป สำหรับผู้ป่วยที่ตรวจพบเชื้อประเมินอยู่ในระดับสีเขียว สามารถดูแลตนเองเบื้องต้นที่บ้านหรือในชุมชน จะได้รับมอบกล่องพลังใจ คนไทยไม่ทิ้งกัน ที่ ปตท. จัดทำขึ้น ประกอบด้วยชุดอุปกรณ์การทางแพทย์ ยาฟาวิพิราเวียร์ ฯลฯ และมีระบบติดตามอาการด้วย

ส่วนจุดที่ 2 , 3 และ 4 จัดเตรียมเป็น โรงพยาบาลสนามครบวงจร โครงการลมหายใจเดียวกัน เพื่อรองรับการรักษาผู้ป่วยที่ตรวจพบเชื้อโควิด-19 ทุกระดับความรุนแรง ภายใต้การดูแลของบุคลากรทางการแพทย์จากโรงพยาบาลปิยะเวท อีกทั้งโรงพยาบาลสนามครบวงจรแห่งนี้ เป็นการระดมกำลังของกลุ่ม ปตท. ทั้งด้านนวัตกรรม เทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์ต่างๆ เพื่อแบ่งเบาภาระและบรรเทาปัญหาการขาดแคลนเตียงในพื้นที่กรุงเทพมหานคร โดยโรงพยาบาลสนามสำหรับผู้ป่วยระดับสีเขียว เปิดให้บริการในรูปแบบของ Hospitel กระจายอยู่ในหลายโรงแรมในกรุงเทพฯกว่า 1,000 เตียง รองรับผู้ป่วยที่ส่งต่อมาจากหน่วยคัดกรองอย่างเป็นระบบ / โรงพยาบาลสนามสำหรับผู้ป่วยระดับสีเหลือง เปิดให้บริการ ที่ โรงแรมเดอะบาซาร์ กรุงเทพฯ จำนวน 300 เตียง และ/โรงพยาบาลสนามสำหรับผู้ป่วยระดับสีแดง จัดสร้างโรงพยาบาลสนามระดับวิกฤต ICU บนพื้นที่ 4 ไร่ ซึ่งปรับพื้นที่โล่งของโรงพยาบาล ปิยะเวทเป็นสถานที่ก่อตั้ง รองรับผู้ป่วยจำนวน 120 เตียง

ด้าน นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ปตท. กล่าวว่า บริษัทในกลุ่ม ปตท. ยังได้คิดค้นนวัตกรรม ผลิตอุปกรณ์และครุภัณฑ์ทางการแพทย์ มาสนับสนุนอย่างเต็มกำลัง อาทิ บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) สนับสนุนหุ่นยนต์ CARA ช่วยบุคลากรทางการแพทย์ในการส่งอาหาร อุปกรณ์แก่ผู้ป่วย และหุ่นยนต์ฆ่าเชื้อโรคอัตโนมัติด้วยแสง UV / บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) สนับสนุนผลิตภัณฑ์นวัตกรรม อาทิ หมวกอัดอากาศความดันบวก PAPR ชุดป้องกันการติดเชื้อ PE Gown ชุดตรวจคัดกรอง Rapid Test / บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) สนับสนุนน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับการขนส่งเดินทางดูแลผู้ป่วยและบุคลากร โดยโครงการลมหายใจเดียวกันที่ผ่านมาได้สนับสนุนการแก้ปัญหาวิกฤตโควิด-19 ของประเทศมาอย่างต่อเนื่อง ส่งมอบเครื่องช่วยหายใจ เครื่องให้ออกซิเจนอัตราไหลสูง กว่า 400 เครื่อง สนับสนุนออกซิเจนเหลว อุปกรณ์ทางการแพทย์ที่จำเป็นแก่หน่วยงานรัฐ โรงพยาบาลในพื้นที่วิกฤตและมีความจำเป็นเร่งด่วน กว่า 300 แห่งทั่วประเทศ  พร้อมสนับสนุนงบประมาณและอุปกรณ์ทางการแพทย์ในการจัดตั้งโรงพยาบาลสนาม 7 แห่ง ร่วมกับกรุงเทพมหานคร จัดหน่วยวัคซีนเคลื่อนที่เชิงรุกใน 4 พื้นที่เปราะบางและมีความเสี่ยงสูง รวมถึงเดินหน้าโครงการ Restart Thailand ต่อเนื่อง ทำให้มีอัตราการจ้างงานภายในประเทศเพิ่มขึ้นกว่า 25,000 อัตรา ซึ่งนับตั้งแต่ต้นปี 2563 จนถึงปัจจุบัน กลุ่ม ปตท. ได้สนับสนุนความช่วยเหลือบุคลากรทางการแพทย์ ร่วมบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน รวมเป็นงบประมาณกว่า 1,700 ล้านบาท

สปสช. แจงผู้ติดโควิด -19 ไม่ต้องขอใบรับรองแพทย์เพื่อเคลมประกัน

ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เปิดเผยว่า นับตั้งแต่เริ่มมีการปลดล็อกให้ใช้ชุดตรวจ Antigen Test Kit (ATK) ในการตรวจคัดกรองหาผู้ติดเชื้อโควิด-19 ก็ทำให้ปริมาณผู้ได้รับการตรวจหาเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างมาก อย่างไรก็ดี มีประเด็นผู้ที่ผลตรวจเป็นบวกและต้องการขอใบรับรองแพทย์เพื่อนำไปเคลมสิทธิประโยชน์จากบริษัทประกัน ซึ่งหน่วยบริการสาธารณสุขบางหน่วยก็ออกให้ บางหน่วยไม่ได้ออกให้ โดยเฉพาะในส่วนของการตรวจคัดกรองเชิงรุกที่มีบุคลากรจากหลายหน่วยงานมาให้บริการนอกที่ตั้ง ทำให้มีประชาชนจำนวนมากสอบถามไปยังหน่วยงานต้นสังกัดเพื่อขอใบรับรองแพทย์ เพราะบางกรณีบริษัทประกันมีเงื่อนไขอีกว่าต้องมีใบรับรองแพทย์ที่ประทับตราของหน่วยงานนั้นๆ ทำให้ผู้ต้องการใบรับรองแพทย์ต้องเดินทางไปถึงที่ตั้งของหน่วยงานดังกล่าว

กรณีลักษณะนี้ ขอแจ้งให้ทราบว่าประชาชนผู้ทำประกันไม่มีความจำเป็นต้องขอใบรับรองแพทย์แต่อย่างใด เนื่องจากคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ได้ออกคำสั่งนายทะเบียนที่ 45/2564 เรื่อง การใช้เอกสารประกอบการจ่ายผลประโยชน์ตามกรมธรรม์ประกันภัยโควิด-19 สำหรับบริษัทประกันชีวิต และคำสั่งนายทะเบียนที่ 46/2564 เรื่องการใช้เอกสารประกอบการจ่ายผลประโยชน์ตามกรมธรรม์ประกันภัยโควิด-19 สำหรับบริษัทประกันวินาศภัย เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 2564 ที่ผ่านมา ซึ่งระบุว่าให้บริษัทใช้เอกสารการตรวจพบเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งสามารถยืนยันตัวตนของผู้ที่ได้รับการตรวจหาเชื้อได้ จากห้องปฏิบัติการที่ผ่านการรับรองจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ โดยวิธี RT-PCR แทนใบรายงานหรือรับรองจากแพทย์ สำหรับการจ่ายผลประโยชน์ตามกรมธรรม์ประกันภัยโควิด-19 กรณีผู้เอาประกันภัยเจ็บป่วยหรือตรวจพบเชื้อโควิด-19 เป็นจำนวนเงินที่กำหนดไว้ (แบบเจอ-จ่าย-จบ) อ้างอิงตามประกาศดังกล่าว ทำให้ใบรับรองแพทย์ไม่มีผลในการเอาประกันภัยอีกต่อไป

ขอชี้แจงไปยังประชาชนผู้รับการตรวจคัดกรองโควิด-19 ด้วย ATK ทราบ ซึ่งโดยหลักการแล้ว เมื่อผลตรวจ ATK พบว่าเป็นบวก ทางเจ้าหน้าที่จะทำการตรวจด้วยวิธี RT-PCR ซ้ำเพื่อยืนยันผลอยู่แล้ว ดังนั้นจึงสามารถนำผลตรวจ RT-PCR  ไปเคลมประกันได้โดยไม่ต้องขอใบรับรองแพทย์อีก ส่วนผู้ที่ตรวจหาเชื้อด้วยวิธี RT-PCR ตั้งแต่แรกก็ยิ่งไม่มีปัญหา สามารถนำไปเคลมประกันได้เลย

เปิดเงื่อนไข ลูกจ้างติดโควิด-19 เบิกเงินขาดรายได้ 50% ของค่าจ้าง

นางสาวลัดดา แซ่ลี้ โฆษกสำนักงานประกันสังคม ชี้แจงว่า กรณีที่ผู้ประกันตนเป็นผู้ป่วยโฮมไอโซเลชันคือ ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นผู้ป่วยโรคโควิด-19 แล้ว และแพทย์ผู้ดูแลรักษาของสถานพยาบาลพิจารณาอาการเจ็บป่วยแล้ว เห็นควรให้ผู้ประกันตนรายนั้น สามารถแยกกักตัวในที่พักได้อย่างเหมาะสมและปลอดภัย โดยได้รับความยินยอมจากผู้ประกันตนและเจ้าของสถานที่ และรวมถึงกรณีที่ผู้ประกันตนรักษาในสถานพยาบาล และกลับมาแยกกักตัวในที่พักต่อจนครบกำหนดเป็นไปตามหลักเกณฑ์และแนวทางที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนดนั้น

สำนักงานประกันสังคมจะดูแลค่าใช้จ่ายของผู้ประกันตนที่เจ็บป่วย โดยจ่ายค่าบริการทางการแพทย์แก่สถานพยาบาลและแพทย์ผู้ดูแลรักษา โดยใช้หลักเกณฑ์การจ่ายประเภทผู้ป่วยในตามประกาศคณะกรรมการการแพทย์ เป็นค่าตรวจทางห้องปฏิบัติการ ค่าดูแลการให้บริการผู้ประกันตนที่ป่วย โดยเป็นค่าใช้จ่ายรวมค่าอาหาร 3 มื้อ การติดตามประเมินอาการ และการให้คำปรึกษา เหมาจ่ายในอัตรา 1,000 บาทต่อวัน ไม่เกิน 14 วัน ค่าอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่จำเป็น เช่น ค่าปรอทวัดไข้ เครื่องวัดออกซิเจนในเลือดและอุปกรณ์อื่นๆ ที่จำเป็น ค่าชุด PPE สำหรับบุคลากรทางการแพทย์ ค่ายาที่ใช้รักษา ค่าพาหนะเพื่อรับหรือส่งต่อผู้ป่วยระหว่างที่พัก โรงพยาบาลสนามและสถานพยาบาล และค่าบริการ X-ray ทรวงอก

นอกจากนี้ เมื่อผู้ประกันตนติดเชื้อโควิด-19 และต้องดูแลรักษาในที่พักระหว่างรอเข้ารับการรักษาแบบผู้ป่วยในโรงพยาบาล หรือการดูแลรักษาในโรงพยาบาลสนาม หรือการดูแลรักษาในชุมชน หรือการดูแลรักษาในโรงพยาบาลสนามในโรงงานหรือสถานประกอบการ สามารถขอใบรับรองแพทย์จากสถานพยาบาลที่รับผิดชอบการรักษาได้ หรือบันทึกภาพหน้าจอจาก Application Line หรือโปรแกรมอื่นใด ที่ใช้ในการติดต่อสื่อสารกับสถานพยาบาลที่รับการรักษา และสำเนาเวชระเบียนที่ได้จากการบันทึกหน้าจอจาก Application Line หรือโปรแกรมอื่นๆ โดยมีรายละเอียดระบุวันที่เริ่มรักษา จนสิ้นสุดการรักษา รวมไปถึงการให้หยุดพักรักษาตัวต่อ เพื่อใช้ประกอบการเบิกเงินค่าทดแทนการขาดรายได้จากสำนักงานประกันสังคม

โฆษกสำนักงานประกันสังคม กล่าวถึงเงื่อนไขการเบิกค่าทดแทนการขาดรายได้นั้น ผู้ประกันตนต้องมีการนำส่งเงินสมทบ 3 เดือน ภายในระยะเวลา 15 เดือน ประกอบกับการพิจารณาตามกฎหมายคุ้มครองแรงงาน คือผู้ประกันตนลาป่วย 30 วันแรกจะรับค่าจ้างจากนายจ้าง แต่หากมีความจำเป็นต้องหยุดพักรักษาตัวนานเกินกว่า 30 วัน สามารถเบิกสิทธิประโยชน์กรณีขาดรายได้จากสำนักงานประกันสังคมได้ตั้งแต่วันที่ 31 ของการลาป่วยเป็นต้นไป ในอัตราร้อยละ 50 ของค่าจ้าง (จ่ายครั้งละไม่เกิน 90 วันต่อ 1 ปีปฏิทิน แต่ไม่เกิน 180 วัน) ทั้งนี้ ผู้ประกันตนสามารถยื่นเบิกเงินขาดรายได้ภายใน 2 ปี เมื่อรักษาหายจากอาการเจ็บป่วยแล้ว ให้ติดต่อขอรับประโยชน์ทดแทนได้ที่สำนักงานประกันสังคมได้ทุกแห่งทั่วประเทศตามที่ท่านสะดวก สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ติดต่อสายด่วน 1506 ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง

เริ่มแล้ว (12 ส.ค.) เปิดลงทะเบียนอาสาสมัครกู้ชีพกู้ภัยรับวัคซีนป้องกันโควิด-19

รายงานข่าวแจ้งว่า ศูนย์แพทย์ภัยพิบัติและฉุกเฉินเจ้าฟ้าจุฬาภรณ์ ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ขอเชิญอาสาสมัครกู้ชีพกู้ภัยที่ปฏิบัติงานช่วยเหลือประชาชนในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ที่ยังไม่เคยได้รับวัคซีนป้องกันโควิด-19 ชนิดใดมาก่อน สามารถลงทะเบียนเข้ารับวัคซีนหลัก (AstraZeneca หรือ Sinovac) กับราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ได้ที่ >> ตั้งแต่วันนี้ – 15 สิงหาคม 2564

ภายหลังจากลงทะเบียนราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ จะส่งข้อความไปยังเบอร์โทรศัพท์ที่ท่านได้ลงทะเบียนไว้ เพื่อให้ท่านเข้ามาดำเนินการทำแบบคัดกรองและใบยินยอม และเลือกวันนัดหมายเข้ารับวัคซีนต่อไป โดยเข้ารับการฉีดได้ที่ศูนย์ฉีดวัคซีนโควิด-19 ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ CAT Convention Hall ถ.แจ้งวัฒนะ ซอย 7

กทม. ตั้ง 14 จุด เปิดนัดล่วงหน้าตรวจโควิด-19

รายงานข่าวแจ้งว่่า กทม. ตั้ง 14 จุด เปิดนัดล่วงหน้าตรวจยืนยันให้ผู้มีผล ATK เป็นบวก สามารถรับบริการตรวจยืนยันด้วยวิธี RT-PCR ได้ที่จุดบริการของ กรุงเทพมหานครโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย แต่เพื่อลดความแออัดและความเสี่ยงในการแพร่ระบาด

โดยสามารถโทรศัพท์นัดหมายวันเวลาเข้ารับการตรวจล่วงหน้ากับจุดที่ต้องการไปตรวจ (ไม่รับ walk in) เมื่อได้รับนัดหมายแล้วให้นำใบผลตรวจ Covid-19 Antigen Test Kit หรือรูปถ่าย ATK self test คู่กับบัตรประจำตัวประชาชน พร้อมนำบัตรประจำตัวประชาชนตัวจริงไปแสดง เพื่อขอตรวจซ้ำด้วยวิธี RT-PCR ตามวันเวลาที่ได้รับนัดหมาย ได้ที่จุดตรวจ 14 แห่งทั่วกรุงเทพมหานคร
จุดตรวจ RT-PCR ทั้ง 14 แห่ง ได้แก่
1. ศูนย์สร้างสุขทุกวัย เขตจตุจักร
2. ศูนย์กีฬาประชานิเวศน์ เขตจตุจักร
3. วัดปากบ่อ เขตสวนหลวง
4. วัดสุทธิวราราม เขตสาทร
5. วัดไทร เขตบางคอแหลม
6. ศูนย์สร้างสุขทุกวัยหนองจอก เขตหนองจอก
7. ร้านจงกั๋วเหยียน เขตลาดกระบัง
8. ศูนย์สร้างสุขทุกวัยสะพานสูง เขตสะพานสูง
9. อาคารศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมหนองบอน สำนักการระบายน้ำ เขตประเวศ
10. วัดศรีสุดาราม เขตบางกอกน้อย
11. ศูนย์สร้างสุขทุกวัยทวีวัฒนา เขตทวีวัฒนา
12. จุดตรวจใต้สะพานพุทธ (ฝั่งธน) เขตคลองสาน
13. โรงพยาบาลสนามเอราวัณ 1 เขตบางแค และ
14. ศูนย์สร้างสุขทุกวัยบางขุนเทียน เขตบางขุนเทียน

ท็อปส์ ช่วยเกษตรกรไทยฝ่าวิกฤติโควิด รับซื้อตรงมังคุดใต้

สืบเนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ส่งผลกระทบอย่างหนักต่อเกษตรกรชาวสวนมังคุดภาคใต้  ทั้งอุปสรรคในการเคลื่อนย้ายแรงงานเข้าพื้นที่เพื่อเก็บเกี่ยวผลผลิต ปัญหาด้านการขนส่ง ทำให้ไม่สามารถส่งผลผลิตออกไปจำหน่ายยังพื้นที่ต่าง ๆ ทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศ  ซึ่งขณะนี้เป็นช่วงฤดูกาลที่มังคุดภาคใต้ออกสู่ท้องตลาดเป็นจำนวนมาก และมีผลผลิตมากขึ้นกว่าปีก่อน ทำให้เกิดสภาวะมังคุดใต้ล้นตลาด ราคาตกต่ำ ขาดตลาดรองรับ

เพื่อเป็นการช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนผู้ปลูกมังคุดภาคใต้อย่างเร่งด่วน ท็อปส์ และ เซ็นทรัล ฟู้ด  ฮอลล์ ในเครือเซ็นทรัล รีเทล จึงได้ร่วมคิกออฟแคมเปญ “เกษตรกรแฮปปี้” จับมือ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ , กระทรวงพาณิชย์  รับซื้อตรงมังคุดใต้คุณภาพดี  ส่งตรงจากสวน จำหน่ายในราคา 4 กิโล 100 บาท  ผ่านช่องทางออฟไลน์ที่ร้านท็อปส์ มาร์เก็ต, เซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์  24 สาขาในกรุงเทพและปริมณฑล และบริการสั่งซื้อผ่านออนไลน์ที่   www.tops.co.th และ แอปพลิเคชัน Grab เลือก Tops Select โดยจะเริ่มจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 12 สิงหาคม 2564 (สินค้ามีจำนวนจำกัด)

สำหรับมังคุดใต้ในโครงการ “เกษตรกรแฮปปี้” เป็นมังคุดดี สดจากต้น อร่อย ส่งตรงจากสวนภาคใต้  ที่เกษตรกรตั้งใจปลูกและดูแล รับประกันคุณภาพโดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นอกจากผู้บริโภคจะได้ซื้อมังคุดคุณภาพดี รสชาติอร่อย ในราคาที่เหมาะสมแล้ว สำคัญที่สุดคือการได้ช่วยเหลือ พี่น้องเกษตรกรทางภาคใต้ให้สามารถฝ่าฟันวิกฤติในครั้งนี้ไปได้ เพื่อร่วมสร้างรอยยิ้ม และส่งกำลังใจให้ชาวสวนมังคุดใต้ภายใต้แนวคิด “คนกินยิ้มได้ เกษตรกรไทย Happy” โดยตลอดทั้งปี 2564 ท็อปส์ ตั้งเป้ารับซื้อตรงมังคุดจากพี่น้องเกษตรกรภาคใต้รวมกว่า 120 ตัน

สนใจช้อปสินค้า ท็อปส์ คลิกที่นี่เลย! หรือ ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่  www.tops.co.th , เฟซบุ๊ก TopsThailand หรือ แอปพลิเคชันไลน์ @TopsThailand

ยอดโควิด-19 วันนี้ ผู้ติดเชื้อเพิ่ม 22,782 ราย

ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ประจำวันพฤหัสบดีที่ 12 สิงหาคม 2564 รวม 22,782 ราย จำแนกเป็น ผู้ติดเชื้อใหม่ 22,407 ราย ผู้ติดเชื้อภายในเรือนจำ/ที่ต้องขัง 375 ราย ผู้ป่วยสะสม 810,908 ราย (ตั้งแต่ 1 เมษายน) ผู้หายป่วยกลับบ้าน 23,649 ราย ผู้หายป่วยสะสม 596,375 ราย (ตั้งแต่ 1 เมษายน) ผู้ผู้ป่วยกำลังรักษา 209,028 ราย ผู้เสียชีวิต 147 ราย

ยอดโควิด-19 วันนี้ ผู้ติดเชื้อเพิ่ม รวม 21,038 ราย

ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ประจำวันพุธที่ 11 สิงหาคม 2564 รวม 21,038 ราย จำแนกเป็น ผู้ติดเชื้อใหม่ 20,865 ราย ผู้ติดเชื้อภายในเรือนจำ/ที่ต้องขัง 173 ราย ผู้ป่วยสะสม 788,126 ราย (ตั้งแต่ 1 เมษายน) ผู้หายป่วยกลับบ้าน 22,012 ราย ผู้หายป่วยสะสม 572,726 ราย (ตั้งแต่ 1 เมษายน) ผู้ป่วยกำลังรักษา 210,042 ราย ผู้เสียชีวิต 207 ราย

แจ้งเลื่อนลงทะเบียนรับจัดสรรวัคซีนซิโนฟาร์ม สำหรับบุคคลธรรมดา รอบ 3 พรุ่งนี้ (11 ส.ค.)

ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ประกาศ ขอแจ้งเลื่อนเวลาการลงทะเบียนขอรับการจัดสรรวัคซีน “ซิโนฟาร์ม” สำหรับ “บุคคลธรรมดา” รอบ 3 พุธที่ 11 สิงหาคม 2564 เป็นเวลา 11.11 น. ผ่านทางเว็บไซต์ https://sinopharm.cra.ac.th เท่านั้น

แม็คโคร ผนึก กรมการค้าภายใน ช่วยชาวสวนมังคุดกว่า 550 ตัน

บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) โดย นางศิริพร เดชสิงห์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานการสื่อสารองค์กร (ที่ 3 จากซ้าย)  ให้การต้อนรับนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ (ที่ 4 จากซ้าย)  และ กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ โดย นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน (ที่ จากซ้าย) ตรวจเยี่ยมการจำหน่ายมังคุดภายในสาขาของแม็คโคร เพื่อรณรงค์ช่วยเหลือชาวสวนมังคุดภาคใต้ที่กำลังประสบปัญหาผลผลิตล้นตลาด เพิ่มช่องทางระบายผลผลิตกระจายขายทุกสาขาทั่วประเทศ โดยรับซื้อไปแล้ว 350 ตัน คาดว่าตลอดฤดูกาลจะรับซื้อได้ประมาณ 550 ตัน ณ แม็คโคร สาขาสามเสน