มาสัมผัสบรรยากาศความสนุก พร้อมอิ่มอร่อยภายในร้านอาหารญี่
สำรองที่นั่ง บุเกนได เทปันยากิ (Bugendai Teppanyaki) ชั้น 2 ศูนย์การค้าเดอะไนน์ เซ็นเตอร์ พระราม 9 หรือสั่งเมนูอร่อยแบบส่งตรงถึ

สิ่งที่น่าสนใจ
มาสัมผัสบรรยากาศความสนุก พร้อมอิ่มอร่อยภายในร้านอาหารญี่
สำรองที่นั่ง บุเกนได เทปันยากิ (Bugendai Teppanyaki) ชั้น 2 ศูนย์การค้าเดอะไนน์ เซ็นเตอร์ พระราม 9 หรือสั่งเมนูอร่อยแบบส่งตรงถึ

ดร.ฤทธี กิจพิพิธ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สแกน อินเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCN ผู้นำด้านธุรกิจพลังงาน พลังงานหมุนเวียน และยานยนต์ที่ใช้พลังงานทางเลื
พร้อมกันนี้ บริษัท SCN รวมถึงกลุ่มผู้ถือหุ้
หลังจากสถานการณ์โควิ
ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่
ในแต่ละเดือน เชื่อว่าหลายคนมีบิลค่าใช้จ่ายหลายรายการที่ต้องเคลียร์ บางคนอาจลืมจนทำให้จ่ายเกินเวลาที่กำหนด ShopeePay (ช้อปปี้เพย์) ผู้ให้บริการด้านการชำระเงินผ่าน Mobile Wallet ชั้นนำจาก SeaMoney มุ่งยกระดับประสบการณ์การชำระเงินออนไลน์ของคนไทยให้มีความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น ด้วยฟีเจอร์ ‘ผู้ช่วยจ่ายบิลอัตโนมัติ’ ที่ช่วยให้ผู้ใช้งานจ่ายบิลได้ตรงเวลาในทุกๆ เดือน ใช้งานง่าย สะดวก และปลอดภัย ครอบคลุมทุกการจ่ายบิล ไม่ว่าจะเป็น ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ และค่าอินเทอร์เน็ต โดยผู้ใช้งานสามารถตั้งวันที่ในการจ่ายบิลล่วงหน้า และเลือกชำระจาก Wallet Balance ผ่านบัญชีธนาคารหรือบัตรเครดิตที่ผูกกับ ShopeePay ในการตัดยอดบิลนั้นๆ ได้
4 ขั้นตอนง่ายๆ ในการสมัครฟีเจอร์ ผู้ช่วยจ่ายบิลอัตโนมัติของ ShopeePay



ในกรณีที่ผู้ใช้งานต้องการยกเลิกการใช้บริการฟีเจอร์ผู้ช่วยจ่ายบิลอัตโนมัติก็สามารถยกเลิกบน ShopeePay เมื่อใดก็ได้ตามต้องการ
นอกจากนี้ ใครที่ยังไม่เคยจ่ายบิลบน ShopeePay หรือบน Shopee พร้อมจ่ายผ่าน ShopeePay สามารถทดลองใช้กันได้เลย เพราะช่วงนี้มีสิทธิพิเศษและโปรโมชันสุดคุ้มมากมายสำหรับลูกค้าใหม่ ตั้งแต่วันนี้จนถึง 30 มิถุนายน 2564
สมัครเลย! ฟีเจอร์ผู้ช่วยจ่ายบิลอัตโนมัติที่จะมาเป็นคู่หูคนใหม่ พร้อมติดตามรายละเอียดสิทธิประโยชน์ และโปรโมชันอื่นๆ ได้ที่ https://www.facebook.com/ShopeePayTH
เพลิดเพลินกับประสบการณ์การใช้จ่ายที่ดียิ่งขึ้นกับ ShopeePay เพียงกดอัปเดตแอปพลิเคชันเป็นเวอร์ชันล่าสุด หรือดาวน์โหลดแอปพลิเคชันได้ฟรีจาก
App Store Google Play Store และ App Gallery
บริษัท โกลเด้น ไทรแองเกิ้ล กรุ๊ป จำกัด หรือ GTG ผู้ประกอบการต้นน้ำด้านธุรกิจกัญชา-กัญชง ผู้พัฒนาสายพันธุ์ ‘รักษา’ (Raksa) และผู้ผลิตสารสกัด CBD ที่ผ่านมาตรฐาน GMP ได้เปิดเผยข้อมูลล่าสุดจากการระดมทุนครั้งใหญ่ โดยการออกหุ้นเพิ่มทุนที่มีมูลค่าการลงทุนรวมกว่า 250 ล้านบาท โดยได้ผู้ลงทุนยักษ์ใหญ่อย่าง บริษัท สหพัฒนาอินเตอร์โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SPI ที่ 70 ล้านบาท และ บริษัท ยูไนเต็ด เพาเวอร์ ออฟ เอเชีย จำกัด (มหาชน) หรือ UPA ที่ 50 ล้านบาท ของมูลค่าบริษัทกว่า 2,000 ล้านบาทมาร่วมอยู่ด้วย
โดย นายกฤษณ์ ธีรเกาศัลย์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท โกลเด้น ไทรแองเกิ้ล กรุ๊ป จำกัด หรือ GTG เผยว่า เม็ดเงินลงทุนนี้จะสามารถนำมาเพิ่มกำลังการผลิตเพื่อรองรับความต้องการของตลาด ณ ปัจจุบันได้ อีกทั้งในด้านอุตสาหกรรมการผลิตเครื่องสำอางเองล่าสุดทางสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้มีกฎหมายฉบับแรกที่มีผลบังคับใช้แล้วตั้งแต่วันที่ 12 มกราคม 2564 คือ ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง การใช้กัญชงในเครื่องสำอาง และในครั้งนี้มีความคืบหน้าในการจัดทำ (ร่าง) ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง การใช้สารสกัดที่มีสารแคนนาบิไดออลจากกัญชาและกัญชงในเครื่องสำอาง และ (ร่าง) ประกาศคณะกรรมการเครื่องสำอาง เรื่อง ฉลากของเครื่องสำอางที่มีส่วนผสมของสารแคนนาบิไดออล (CBD) จากกัญชาและกัญชงในเครื่องสำอาง ซึ่งมีสาระสำคัญเกี่ยวกับการอนุญาตให้ใช้สาร CBD ได้เต็มที่ 1% ของน้ำหนัก และมีสาร THC ต่ำกว่า 0.2% จากกัญชาและกัญชงที่ปลูกในประเทศเป็นส่วนประกอบในเครื่องสำอาง และการกำหนดเงื่อนไขการแสดงฉลาก จึงทำให้ผู้ประกอบการรายต่างๆ ในอุตสาหกรรมเครื่องสำอางหันมาให้ความสนใจกับ GTG และเป็นที่ต้องการของตลาดมากยิ่งขึ้น”
ปัจจุบันตลาดมีความเข้าใจถึงผลิตภัณฑ์ CBD ของ GTG มากขึ้นพร้อมทั้งยังมีความต้องการนำสารสกัดไปใช้กับผลิตภัณฑ์ในเครื่องสำอางเนื่องจากตัวสารสกัดของ GTG เองให้ประสิทธิภาพที่สูงกว่าสารสกัดในท้องตลาดทั่วไปจากการสกัดออกมาในรูปแบบของ Full Spectrum นั่นเอง
ธุรกิจเกี่ยวกับการพัฒนาและลงทุนในพืชเศรษฐกิจตัวใหม่ของประเทศไทย ที่รวมถึง กัญชงและกัญชานั้น กำลังเป็นที่นิยมและเป็นที่ยอมรับในสังคมไทยปัจจุบันเป็นอย่างมาก หลังจากภาครัฐปลดล๊อคกัญชาและกัญชง ออกจากการเป็นยาเสพติด แม้จะไม่ได้ปลดล๊อคครบทุกส่วน แต่ธุรกิจหลายธุรกิจก็เริ่มนำประโยชน์ของกัญชงและกัญชามาใช้ในการประกอบธุรกิจได้ ไม่ว่าจะเป็นสินค้าเพื่อบริโภค หรือ สินค้าเพื่ออุปโภค หรือนำไปใช้กับทางการแพทย์
การร่วมพันธมิตรครั้งนี้ของทาง GTG และสองบริษัทยักษ์ใหญ่ อาจจะส่งผลให้เกิดนวัตกรรมใหม่ๆ และสินค้าอุปโภค บริโภค ที่มาจากกัญชงและกัญชา ความแปลกใหม่และประโยชน์ของสินค้านั้นอาจทำให้เกิดความหลากหลายในการเลือกใช้สินค้าของผู้บริโภคได้มากขึ้น
เจ้าของสินค้า : บริษัท ผลิตภัณฑ์ตราเพชร จำกัด (มหาชน)
ชื่อสินค้า : บอร์ดตกแต่งผนังพิมพ์ลาย ตราเพชร
ชื่อเรื่อง : เปลี่ยน
รูปแบบ : ภาพยนตร์ความยาว 30 วินาที
เริ่มสื่อสารครั้งแรก : เดือนพฤษภาคม 2564
ช่องทางสื่อสาร :
1. สื่อออนไลน์ ได้แก่ Youtube, Facebook และ Instagram : DIAMONDBrandOfficial
2. สื่อสิ่งพิมพ์ ได้แก่ นิตยสารบ้านและสวน และ Weekend
3. สื่อ ณ จุดขาย ภายในร้านค้าตัวแทนจำหน่าย
ผู้สร้างสรรค์และผลิตโฆษณา : บริษัท วิว ไวด์ จำกัด
วัตถุประสงค์ : บริษัท ผลิตภัณฑ์ตราเพชร จำกัด (มหาชน) หรือ DRT ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์
แนวคิดโฆษณา : ภาพยนตร์โฆษณา “เปลี่ยน” ต้องการนำเสนอทางเลือกสำหรับกลุ่
เนื้อเรื่องย่อ : เปิดเรื่องด้วยบาริสต้าสาวกำลั
คิง เพาเวอร์ ออนไลน์ มอบแคมเปญ Mid Year Sale : Fashion & Tech Wishlist และ Home Sweet Home ลดสุดคุ้มกับสินค้าในกลุ่
คิง เพาเวอร์ ออนไลน์ ยังคงมอบความคุ้มค่าสำหรับช่วง
Mid Year Sale : Fashion&Tech Wishlist #รวมสินค้าแฟชั่นที่คุ
Mid Year Sale : Home Sweet Home #โปรโมชั่นเพื่อคุณพ่อบ้านกับสิ
พิเศษ! วันที่ 15-16 มิถุนายนนี้
นอกจากนี้ยังลดเพิ่มอีก 5% เมื่อซื้อครบ 1,200 บาท เพียงใส่รหัสส่วนลด SV CODE จากพนักงานคิง เพาเวอร์ ร่วมช้อปสินค้าราคาดิวตี้ฟรี แบบไม่ต้องมีไฟล์บินได้เลยที่ h
คิง เพาเวอร์ แอปพลิเคชั่น สอบถามเพิ่มเติมที่ Contact Centre 1631 หรือ King Power’s Official Facebook

วันนี้ (15 มิ.ย. 64) ดร.อภิชาต ทองอยู่ ที่ปรึกษาเลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก และประธานคณะทำงานประสานงานด้านการพัฒนาบุคลากร (EEC HDC) ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีเปิดโครงการฝึกอบรมระยะสั้น ตามแนวทางพัฒนาบุคลากรตรงความต้องการหรือ EEC model ซึ่งเป็นหนึ่งในนโยบายสำคัญของ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) หรืออีอีซี
ดร.อภิชาต กล่าวว่า อีอีซี ได้รับความร่วมมือจาก สถาบันไทย-เยอรมันหรือ TGI ซึ่งเป็นสถาบันฝึกอบรมที่มีความพร้อมทั้งด้านบุคลากรและเทคโนโลยี พร้อมทั้งได้จับมือกับเอกชน บริษัท เอส เอ็น ซี ฟอร์เมอร์ จำกัด หรือ SNC ขานรับนโยบายของ EEC Model โดยดำเนินการจัดฝึกอบรมหลักสูตร EEC Model Type B เป็นหลักสูตรระยะสั้น โดยโครงการนี้มีเป้าหมายเพื่อสร้างบุคลากรยุคใหม่ เรียนรู้-พัฒนาทักษะจากประสบการณ์จริงด้วยการศึกษา และการฝึกอบรมยุคใหม่แบบ EEC Model
ดร.สมชัย ไทยสงวนวรกุล ประธานกรรมการบริหาร กลุ่มบริษัท เอส เอ็น ซี ฟอร์เมอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ SNC กล่าวว่า ในฐานะสถานประกอบการมีความยินดีที่ได้เข้าร่วมกับโครงการนี้ โดยจะเป็นการฝึกอบรมเป็นหลักสูตรระยะสั้นรุ่นที่ 1 ระหว่างวันที่ 14 มิ.ย. – 23 ก.ค. 64 ประกอบไปด้วยกลุ่ม 4 กลุ่มหลักสูตร เช่น Injection Moulding Machine (Smart Production), CNC Machine & Robotics, Industrial IoT และ Industrial Robot & Automation System โดยจะมีการฝึกอบรม ณ สถาบันไทย-เยอรมัน ศูนย์ชลบุรี
ด้าน นายสมหวัง บุญรักษ์เจริญ ผู้อำนวยการสถาบันไทย-เยอรมัน กล่าวว่า คณะวิทยากรของ TGI ได้ออกแบบหลักสูตรฝึกอบรมให้ตรงกับความต้องการของสถานประกอบการ เป็นการพัฒนาทักษะบุคลากรแบบ Demand Driven พร้อมทั้งเน้นย้ำมาตรการป้องกัน Covid-19 สร้างความมั่นใจให้กับผู้เข้าอบรมและลูกค้าทุกคนที่เข้ามาใช้บริการ โดย TGI มีความยินดีอย่างยิ่งที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของของการขับเคลื่อน EEC Model และพร้อมที่จะร่วมการพัฒนาทักษะบุคลากรตามแนวทาง EEC Model ให้บรรลุวัตถุประสงค์ของโครงการต่อไป

บริษัท เงินติดล้อ จำกัด (มหาชน) โดย นางสาวภคมน ตุลยาพิศิษฐ์ชัย ผู้อำนวยการอาวุโส-ดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่น เป็นตัวแทนรับรางวัลจาก The Digital CX Awards 2021 เวทีประกวดชั้นนำระดับภูมิภาคเอเชีย จัดโดย The Digital Banker ในฐานะองค์กรที่สร้างประสบการณ์ลูกค้าด้านดิจิทัลยอดเยี่ยมถึง 2 รางวัล ได้แก่ รางวัลชนะเลิศ : Outstanding CX in Digital Sales Strategy จากผลงานการใช้ดาต้ามาปรับกระบวนการขายผ่านช่องทางออนไลน์ ทำให้สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่มีความต้องการแตกต่างกัน ทั้งด้านสินเชื่อและประกันภัยรถยนต์ ส่งผลให้ปีที่ผ่านมาช่องทางออนไลน์มียอดจัดสินเชื่อและเบี้ยประกันภัยรถยนต์เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ต้นทุนการหาลูกค้าลดลงเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า และ รางวัล Highly Acclaimed : Best Use of Data and Analytics for CX จากผลงานการนำดาต้า และเครื่องมือ Google 360 มาใช้ในการวางกลยุทธ์ด้านการใช้งานของลูกค้าบนเว็บไซต์เงินติดล้อ และโมบายแอปพลิเคชันเงินติดล้อ ส่งผลให้มียอดขายและจำนวนผู้ใช้งานแอปพลิเคชันเงินติดล้อเป็นประจำเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากการออกแบบการใช้งานที่ตรงตามพฤติกรรมของลูกค้าและผู้ใช้งานแพลตฟอร์มออนไลน์ของเงินติดล้อ ตอกย้ำความเป็นองค์กรแห่งนวัตกรรม มุ่งลดความเหลื่อมล้ำ เดินหน้ายกระดับการสร้างโอกาสเข้าถึงบริการทางการเงินที่เท่าเทียมในสังคม
นอกจากนี้ ที่ผ่านมาในปี 2020 เงินติดล้อ ยังคว้ารางวัลชนะเลิศจากเวทีประกวด Digital CX Awards 2020 ในหมวด Most Innovative – Digital Innovation in Financial Inclusion จากผลงานการพัฒนานวัตกรรมโซลูชั่นผ่าน Line OA ช่วยให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงบริการทางการเงินได้สะดวกมากขึ้น อาทิ การตรวจสอบสิทธิเพิ่มวงเงินขอสินเชื่อ การเช็คยอดดูวันครบกำหนดชำระและแจ้งเตือน การรับข่าวสารโปรโมชั่นและสิทธิพิเศษต่างๆ ได้ด้วยตนเองตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งเป็นการสร้างประสบการณ์ที่ตอบโจทย์และแก้ไขปัญหาลูกค้าได้อย่างแท้จริง อีกทั้งยังสามารถเพิ่มรายได้มากกว่า 50 เท่า จากช่องทางดังกล่าวอีกด้วย และหมวด Outstanding Leadership in Customer Experience–Team จากวิธีการทำงานแบบ Agile และการลองผิดลองถูกที่ทำให้เกิดนวัตกรรมที่ตอบโจทย์ทั้งลูกค้าและธุรกิจได้อย่างดี ไม่ว่าจะเป็นการใช้ทรัพยากรที่ชาญฉลาด และการพัฒนาโซลูชั่นดิจิทัลที่ใช้งานง่าย โดยยึดหลักการดีไซน์ของกระบวนการ และการใช้งานของลูกค้าเป็นหลัก ที่ผ่านมาเงินติดล้อได้รับการตอบรับที่ดีจากช่องทางออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นไลน์ เว็บไซต์ โซเชียลมีเดีย และแอป “เงินติดล้อ”
เวทีประกวด Digital CX Awards จัดขึ้นโดย The Digital Banker เว็บไซต์ด้านการเงินการธนาคารระดับโลก เพื่อยกย่องธนาคารและสถาบันการเงินชั้นนำ ซึ่งมีบทบาทในการยกระดับมาตรฐานและพัฒนาขีดความสามารถการบริการและการสร้างนวัตกรรมดิจิทัล พัฒนาผลิตภัณฑ์ระบบชำระเงิน เทคโนโลยี ตลอดจนประสบการณ์ลูกค้าใหม่ ๆ เพื่อพลิกโฉมอุตสาหกรรมด้านการเงินสู่อนาคต สนใจเยี่ยมชมข้อมูลเงินติดล้อได้ที่เว็บไซต์ www.tidlor.com facebook Fan page เงินติดล้อ หรือ call center หมายเลขโทรศัพท์ 088-088-0880
เจเคเอ็น สร้างความตื่นเต้นให้กับวงการผลิตภัณฑ์เสริมอาหารอีกแล้ว ทุมงบมหาศาลเพื่อดึงพระเอกคมเข้มดีกรีนายทหารสุดหล่อ พันเอก(พิเศษ) วันชนะ สวัสดี หรือที่เราคุ้นเคยกันดีในชื่อ “ผู้พันเบิร์ด” นั่งแท่นเป็นพรีเซนเตอร์คนใหม่ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร “Herb Cordy – เฮิร์บ คอร์ดี้” ถั่งเช่าแท้สายพันธุ์ทิเบต
หลังจากที่เปิดตัวบริษัทใหม่ บริษัท เจเคเอ็น เบสท์ ไลฟ์ จำกัด ในเครือ JKN Group เพื่อจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพความงาม และผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ที่นอกจากจะให้ความใส่ใจในเรื่องคุณภาพและความหลากหลายของผลิตภัณฑ์แล้ว ยังเน้นเรื่องของการสร้างและโปรโมทจุดเด่นให้กับแบรนด์ผ่านพรีเซนเตอร์คนดังมากมาย อาทิเช่น ก้อง สหรัถ, แอน สิเรียม, โยชิ รินรดา, นาว ทิสานาฏ เป็นต้น และล่าสุดกับ “Herb Cordy – เฮิร์บ คอร์ดี้” ก็ได้ผู้พันเบิร์ดมาร่วมงานด้วย
จักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท เจเคเอ็น โกลบอล มีเดีย จำกัด (มหาชน) หรือ JKN เผยว่า ได้มีการติดต่อผู้พันเบิร์ดมาสักระยะหนึ่งแล้วและก่อนที่จะได้มาร่วมงานกันก็ได้ส่งตัวผลิตภัณฑ์ “Herb Cordy – เฮิร์บ คอร์ดี้” ไปให้ทดลองเพื่อให้พิสูจน์ถึงผลลัพธ์ที่แท้จริง ก่อนที่จะตัดสินใจมาร่วมงานกันในฐานะพรีเซ็นเตอร์คนใหม่ในธีมชุดไทยซึ่งก็สนุกสนานมาก ผลิตภัณฑ์นี้มีความโดดเด่น เป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อการบำรุงสุขภาพจากสารสกัดถั่งเช่าแท้สายพันธุ์ทิเบต (Cordyceps Sinensis Extract) ผสมสมุนไพรสกัดจากธรรมชาติอีกหลายชนิดที่มีส่วนช่วยในการเสริมเรื่องภูมิคุ้มกัน และมีส่วนช่วยในการบำรุงสายตาและบำรุงร่างกาย ลดอาการภูมิแพ้ ลดความเหนื่อยล้า และอุดมไปด้วยวิตามินรวม 5 ชนิด (C, D3, B1, B6, B12) ช่วยเสริมการบำรุงร่างกายอย่างเต็มประสิทธิภาพ มีส่วนช่วยบำรุงระบบประสาทและสมอง และช่วยให้การนอนหลับลึกยาวนานขึ้นจากส่วนผสมของฟาร์ม่า กาบา

Carro ผู้ดำเนินกิจการตลาดซื้อขายยานยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประกาศว่า บริษัทฯ ได้รับเงินจำนวน 360 ล้านเหรียญสหรัฐจากการระดมทุนรอบ Series C นำโดย SoftBank Vision Fund 2 ทำให้บริษัทฯ กลายเป็นยูนิคอร์นรายแรกในตลาดซื้อขายยานยนต์แห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และการระดมทุนรอบใหม่นี้ยังมีกองทุนที่โดดเด่นของอินโดนีเซียอีกหลายกองทุน รวมไปถึง EV Growth
Aaron Tan ซีอีโอและผู้ก่อตั้ง Carro เผยว่า “ความสำเร็จในครั้งนี้นับเป็นก้าวที่ยิ่งใหญ่ และเราขอขอบคุณการสนับสนุนอย่างแข็งขันจากผู้ลงทุน ถือเป็นการตอกย้ำความเชื่อของเราที่ AI จะเข้ามาสร้างความเปลี่ยนแปลงต่ออุตสาหกรรมยานยนต์ โดยการเปลี่ยนผ่านไปสู่ระบบดิจิทัลนั้น จะเป็นตัวกำหนดมุมมองของโลกอันเกิดจากพฤติกรรมผู้บริโภคและการดำเนินธุรกิจในรูปแบบใหม่ นับเป็นช่วงเวลาที่น่าตื่นเต้นมากสำหรับตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ออนไลน์อย่าง Carro”
Carro จะใช้เงินทุนเพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับการครองส่วนแบ่งการตลาดและขยายการขายปลีกทั้งในประเทศอินโดนีเซีย ไทย มาเลเซีย และสิงคโปร์ ซึ่งตลาดทั้งหมดที่กล่าวมาบริษัทฯ มีการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญในปีที่ผ่านมา โดยในแต่ละเดือนมียอดขายรวมกันมากกว่า 13,000 คัน และร่วมมือกันกับตัวแทนจำหน่ายอีกหลายหมื่นรายในภูมิภาค นอกจากนี้ Carro ยังตั้งใจที่จะขยายงานบริการทางการเงินโดยให้บริการมากกว่าการให้เงินกู้สำหรับหน่วยงานภายในบริษัทฯเท่านั้น ตลอดจนการเร่งพัฒนาความสามารถด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) อีกด้วย
Greg Moon ผู้บริหารร่วมของ SoftBank Vision Fund กล่าวว่า “Carro กำลังพลิกโฉมอุตสาหกรรมยานยนต์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ผ่านประสบการณ์การซื้อและขายรถยนต์ที่สะดวกสบาย ราบรื่น ให้แก่ผู้บริโภคและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ โดยใช้นวัตกรรม AI เข้ามาขับเคลื่อน ซึ่งเทคโนโลยีที่ Carro นำมาใช้ช่วยให้ผู้บริโภคได้รับบริการแบบครบวงจรที่มาพร้อมความโปร่งใสตลอดกระบวนการซื้อรถยนต์ที่Carro โดยในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา Carro มีความโดดเด่นเป็นอย่างมากและเรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมเป็นพันธมิตรกับ Aaron และทีม Carro เพื่อส่งเสริมให้ Carro สร้างสรรค์บริการใหม่ๆ บนพื้นฐานของ AI ออกสู่ตลาด และทำให้ขั้นตอนการซื้อรถยนต์ดียิ่งขึ้น ง่ายยิ่งขึ้น และปลอดภัยยิ่งขึ้น”
SoftBank Group ได้ลงทุนกับ Carro ในครั้งแรกผ่าน SoftBank Ventures Asia ซึ่งเป็นธุรกิจการร่วมลงทุนของเครือในปีพ.ศ. 2559 และได้สนับสนุนแผนงานและการเติบโตของ Carro อย่างต่อเนื่องมาโดยตลอดจนถึงปัจจุบัน
Carro พร้อมให้บริการแบบครบวงจรในการช่วยให้ผู้บริโภคเป็นเจ้าของรถยนต์คุณภาพดี และใช้เทคโนโลยีที่ขับเคลื่อนด้วย AI เพื่อสร้างประสบการณ์การซื้อและขายรถยนต์ที่แตกต่างออกไป ซึ่งทางบริษัทฯ ได้บุกเบิกนวัตกรรมสำหรับการบริการแบบใหม่ เช่น บริการจัดซื้อรถยนต์แบบไร้สัมผัสแห่งแรกของสิงคโปร์ บริการระบบซื้อรถยนต์รูปแบบการสมัครสมาชิกเป็นแห่งแรก และการประกันภัยรถยนต์ตามลักษณะและพฤติกรรมการใช้งานจริงเป็นแห่งแรกในภูมิภาค จากที่กล่าวมานี้ทาง Carro ได้ปิดงบการเงินประจำปีในเดือนมีนาคม 2564 ด้วยรายได้เพิ่มขึ้นมากกว่า 2.5 เท่า และมีตัวเลขกำไรก่อนหักภาษีรวมถึงค่าใช้จ่ายที่เป็นบวกอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน นอกจากนี้ Carro ยังได้รับการจัดอันดับโดย The Financial Times และ Statista ให้เป็นบริษัทที่เติบโตเร็วที่สุดของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ประจำปี 2564 อีกด้วย