TPOLY คว้างานก่อสร้างเดินท่อส่งน้ำ มูลค่า 191 ล้าน

TPOLY คว้างานก่อสร้างโครงการจัดหาน้ำดิบฯ จ.ระยอง มูลค่ากว่า 191 ล้านบาท บิ๊กบอส “ปฐมพล สาวทรัพย์” ระบุลุยเดินหน้าประมูลงานใหม่ทั้งภาครัฐและเอกชนต่อเนื่อง ตั้งเป้า Backlog ปลายปีทะลุ 3,000 ล้านบาท

นายปฐมพล สาวทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยโพลีคอนส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TPOLY เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้รับงานก่อสร้างใหม่ เป็นการก่อสร้างงานเดินท่อส่งน้ำและสถานีสูบน้ำ โครงการจัดหาน้ำดิบเพื่อภาคการผลิตพื้นที่จังหวัดระยอง  อ.บ้านฉาง จ.ระยอง ซึ่งเป็นโครงการของบริษัท วาย.เอส.เอส.พี. แอกกริเกต จำกัด มูลค่าโครงการ 191,264,587.50 บาท ระยะเวลาการก่อสร้าง 270 วัน

“แม้การแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่นี้ ยังทวีความรุนแรง แต่บริษัทฯ ก็ยังเข้าประมูลงานใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง ทั้งงานภาครัฐและเอกชน โดยเฉพาะงานที่มีความพร้อมในการก่อสร้าง รวมทั้งการให้บริการภายหลังส่งมอบงาน เพื่อให้ลูกค้าเกิดความพึงพอใจมากที่สุด ซึ่งเป็นจุดแข็งของบริษัทฯ”นายปฐมพล กล่าว

ทั้งนี้ แผนการดำเนินงานที่เหลือของปีนี้ บริษัทฯ เดินหน้าเข้าประมูลงานใหม่ๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน โดยเฉพาะงานภาครัฐที่มีการทยอยออกโครงการอย่างต่อเนื่อง และเป็นงานที่มีความเชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ในการก่อสร้าง ทั้งงาน ก่อสร้างอาคารโรงพยาบาล สถานศึกษา สนามบิน เป็นต้น รวมทั้ง งานก่อสร้างชลประทานและประปา โดยตั้งเป้า Backlog 3,000 ล้านบาท ภายในปีนี้ ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้

กัลเดอร์มา เดินหน้ากลยุทธ์ Partnership สานต่อเติบโตยั่งยืน

กัลเดอร์มา ผสานความร่วมมือพันธมิตรคลินิกความงามและแพทย์ความงามชั้นนำของไทยภายใต้กลยุทธ์ ‘Partnership’ พัฒนา academic training สู่ศูนย์กลางทางความรู้ด้านความงามสมัยใหม่ ต่อยอดศักยภาพแพทย์ไทยให้ก้าวสู่เวทีระดับโลก เพิ่มความมั่นใจให้แก่ผู้บริโภคผ่านการคัดสรรคลินิกคุณภาพ โดยสร้างสรรค์รางวัล ‘The Iconic Award &Top 100 Exclusive Clinic 2021’ ให้เลือกใช้บริการได้ตรงตามความต้องการยิ่งขึ้น 

เภสัชกรพิรพัฒน์ ศรีวัฒนวงศ์ ผู้อำนวยการธุรกิจความงามประเทศไทยและกลุ่มประเทศอาเซียน บริษัท กัลเดอร์มา เปิดเผยว่า ตลอด 7 ปีที่ผ่านมา บ. กัลเดอร์มา (ประเทศไทย) มีอัตราการเติบโตที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เป็นผลมาจากศักยภาพของพันธมิตรคลินิกความงามและแพทย์ความงามที่ไว้วางใจในกลุ่มผลิตภัณฑ์ของกัลเดอร์มา ทั้งสารเติมเต็ม NASHA และ OBT และสารลดเลือนริ้วรอยจากประเทศอังกฤษ ทำให้สามารถเติบโตควบคู่กันอย่างแข็งแกร่ง และเพื่อแทนคำขอบคุณและร่วมเสริมสร้างศักยภาพในการดำเนินธุรกิจให้เติบโตยิ่งขึ้น บริษัทฯ จึงได้พัฒนากลยุทธ์ผ่านการส่งมอบความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ที่สั่งสมมา ผสานกับเทคนิคเฉพาะตัวของแพทย์ด้านความงาม ทั้งในระดับโลกและระดับประเทศ มาร่วมถ่ายทอดเทคนิคและวิวัฒนาการยุคใหม่สู่พันธมิตรคลินิกความงามและแพทย์ความงามให้สามารถต่อยอดการเติบโตไปพร้อมกันกับกัลเดอร์มาได้อย่างยั่งยืนและตอบโจทย์คนไข้ได้อย่างเหมาะสม

โดยในปีที่ผ่านมา กัลเดอร์มา ได้สร้างสรรค์แคมเปญพิเศษขึ้น 2 โครงการ คือ โครงการ The Iconic Award &Top 100 Exclusive Clinic 2021 และโครงการ GAIN (Galderma Aesthetics Injector Network) ซึ่งเป็น training platform ในการฝึกสอนแพทย์สำหรับการฉีดสารเติมเต็มให้มีความปลอดภัยและความสวยงามด้วยผลิตภัณฑ์ของกัลเดอร์มา

The Iconic Award &Top 100 Exclusive Clinic 2021 คือรางวัลเกียรติยศที่มอบให้แก่พันธมิตรคลินิกความงามที่มีศักยภาพการเติบโตและความสำเร็จร่วมกับกัลเดอร์มาอย่างแท้จริง โดยบริษัทฯ ใช้เกณฑ์การวัดผลแบบออร์แกนิค เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่มีคุณภาพสูงสุดควรคู่แก่รางวัลที่เราตั้งใจสร้างสรรค์ขึ้นในครั้งนี้ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อยกระดับมาตรฐานรางวัลดังกล่าวให้เป็นที่ยอมรับทั้งในกลุ่มธุรกิจความงามและกลุ่มผู้บริโภค ทำให้ผู้บริโภคสามารถเลือกคลินิกที่ผ่านการรับรอง ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ ปลอดภัย ได้มาตรฐานตรงกับความต้องการมากยิ่งขึ้น โดยสามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.galdermaaestheticsthailand.com ส่วนโครงการ GAIN Training Platform นั้น บริษัทฯ ได้รับความร่วมมือจากทีมแพทย์เฉพาะทางความงามและการปรับรูปหน้าชั้นนำของเมืองไทยกว่า 30 ท่าน เข้าร่วมเป็น training mentor เพื่อต่อยอดองค์ความรู้ ทักษะและพัฒนาศักยภาพของแพทย์ความงามในเมืองไทยผ่านการจัดอบรมในรูปแบบโปรแกรมระดับโลก ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ทำให้ในอนาคตกัลเดอร์มาวางแผนที่จะผลักดันให้ทีมแพทย์ training mentor ของไทยก้าวสู่การเป็น speaker ในเวทีระดับโลกต่อไป

Advancing Dermatology for Every Skin Story คือปรัชญาในการดำเนินธุรกิจของกัลเดอร์มา เพื่อก้าวสู่การเป็นผู้นำในทุกมิติที่เกี่ยวข้องกับด้านสุขภาพผิวในทุกช่วงชีวิตของผู้บริโภค ผ่านนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายเพื่อประสิทธิภาพสูงสุดในการดูแลความงาม รวมไปถึงการพัฒนานวัตกรรมด้านสุขภาพความงาม พร้อมเดินหน้าพัฒนากลยุทธ์ ‘Partnership’ ร่วมกับเหล่าพันธมิตรด้านธุรกิจความงามเพื่อก้าวสู่ความสำเร็จร่วมกัน

“กัลเดอร์มาให้ความสำคัญอย่างมากเกี่ยวกับการพัฒนา academic training platform เพื่อพัฒนาทักษะทางหัตถการของแพทย์ด้วยเทคนิคที่ทันสมัยและให้ความสำคัญด้านความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น นอกเหนือจากการส่งมอบผลิตภัณฑ์คุณภาพมาตรฐานระดับโลกสู่กลุ่มผู้บริโภค เพื่อสร้างความมั่นใจในทุกครั้งที่ใช้บริการ” เภสัชกรพิรพัฒน์ กล่าวสรุป

AQ คว้ารางวัล Luxury Lifestyle Awards ปี 2021

บริษัท เอคิว เอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ AQ สร้างชื่อคว้ารางวัลระดับโลกอย่าง Luxury Lifestyle Awards สาขา Best Luxury Residential Property Development ของประเทศไทย สำหรับโครงการอสังหาริมทรัพย์สุดหรูอย่าง AQ WELLE ประจำปี 2021 จากประเทศสหรัฐอเมริกา นำมาซึ่งความภาคภูมิใจให้คนไทยและประเทศไทยเป็นอย่างยิ่ง

สำหรับ “เอคิว เอสเตท” หรือ AQ นับเป็นอสังหาริมทรัพย์ขนาดกลาง ที่ยืนหยัดพัฒนาสินค้าในแนวทางของตัวเอง มุ่งเน้นสร้างบ้านที่ตอบโจทย์ลูกค้า ครบครันทั้งทำเล ความสวยงาม ทันสมัย และประโยชน์ใช้สอยอย่างเต็มที่ ปัจจุบันมีโครงการที่เปิดขายอยู่จำนวน 8 โครงการ และมีโรงแรม 3 โรงแรมที่เปิดให้บริการอยู่ โปรเจคส่วนนึงอยู่ในย่านพหลโยธิน-รังสิต ซึ่งเป็นที่ตั้งมหาลัยชั้นนำ เช่น ม.ธรรมศาสตร์, ม.กรุงเทพ และ ม.รังสิต ซึ่งถือได้ว่า เป็น U-district โดยทางบริษัทมี 3 โครงการ มีโครงการเอคิว เชดิ เป็นบ้านรุ่นใหม่สไตล์โมเดิร์น 2.โครงการ กฤษดา แกรนด์ พาร์ค เป็นโครงการบ้านเดี่ยวในสวนขนาดใหญ่ 3.โครงการ รังสิต บิซพาร์ค เป็นโฮมออฟฟิศแห่งเดียวที่ตั้งบนถนนพหลโยธิน เหมาะสำหรับเป็นสำนักงานพร้อมสามารถพักอาศัยได้จริง และ ยังมีโครงการ เอคิว อาร์เบอร์ สวนหลวง ร.9-พัฒนาการ, โครงการ เอคิว วีร่า สวนสยาม 24, โครงการบ้านที่ชลบุรี โครงการ เอคิว เชดิ ชลบุรี-บายพาส บ้านสไตล์โมเดิร์น แบบบ้านทันสมัยโครงการเดียวในชลบุรี, และมีโครงการ คอนโด ย่านใจกลางอโศก-พระราม9 โครงการ การ์เดน อีกทั้งโครงการ ระดับ High end โดยใช้ชื่อว่า AQ WELLE เป็นบ้านเดี่ยว 3 ชั้น+ชั้นใต้ดิน พร้อมลิฟต์ส่วนตัว ทำเลใจกลางเมือง ใกล้สิ่งอำนวยความสะดวก ห้างสรรพสินค้า Show DC ใกล้รถไฟฟ้า ใกล้ทางด่วน ทั้งยังมีพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ ระดับ Exclusive ถือเป็นที่พักอาศัยของกลุ่มคนรุ่นใหม่อย่างยิ่ง

นาย ไมเคิล อเล็กซานเดอร์ วิลเลี่ยม เฟอร์นันเดช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เผยว่า รางวัลนี้นับเป็นการตอกย้ำความสำเร็จของ AQ ที่ไม่ได้มุ่งมั่นเพียงแค่พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์หรือสร้างอาคาร ทางบริษัทวางแบบแผนในอนาคตให้กับลูกค้าผ่านสินค้าของเอคิว เอสเตท โดยมุ่งมั่นออกแบบที่อยู่อาศัยให้มีทั้งความทันสมัยอยู่เสมอ พร้อมใช้ประโยชน์ได้ทุกพื้นที่ตารางเมตร อีกทั้งตัวบ้านยังมีความแตกต่าง เพื่อตอบรับนวัตกรรมใหม่ๆ ที่เข้ามาเรื่อยๆ ซึ่งทำให้ผู้อยู่อาศัยได้ใช้ชีวิตที่เหนือระดับ ที่สำคัญสินค้ายังต้องสามารถสร้างมูลค่าได้ในอนาคต ด้วยทำเลที่มีศักยภาพ การดีไซน์ที่ทันสมัยตลอดเวลา

ใหม่! ผลิตภัณฑ์ปรับผ้านุ่ม ดาวน์นี่ เอ็กซ์เพิร์ท ซัมเมอร์คูล

ท่ามกลางอากาศแปรปรวนของไทยในช่วงนี้ เดี๋ยวอากาศร้อน เดี๋ยวฝนตกหนัก แน่นอนว่าย่อมมาพร้อมกับปัญหากลิ่นเหงื่อและความอับชื้นติดผ้า ทำให้เกิดความไม่มั่นใจเมื่อสวมใส่เสื้อผ้า จนไม่เป็นตัวเองในหลายสถานการณ์ 

ดาวน์นี่ แบรนด์ผลิตภัณฑ์น้ำยาปรับผ้านุ่มชั้นนำ ขอแนะนำน้ำยาปรับผ้านุ่มสูตรใหม่ “ดาวน์นี่ เอ็กซ์เพิร์ท ซัมเมอร์คูล กลิ่นฤดูร้อนที่เย็นสุดขั้ว” มาพร้อมกับนวัตกรรมใหม่ล่าสุด ที่ออกแบบมาเพื่อป้องกันกลิ่นอันไม่พึงประสงค์บนเสื้อผ้าโดยเฉพาะยาวนาน 24 ชั่วโมง ได้แก่กลิ่นเหงื่อและกลิ่นอับชื้น ด้วยเทคโนโลยี Duo Expert Fresh คู่หูหอมขั้นสุด พร้อมผสานพลังความหอมยาวนาน มอบกลิ่นหอมเย็น สดชื่น มั่นใจได้ทุกสถานการณ์ อากาศร้อนของไทย ต้อง ดาวน์นี่ เอ็กซ์เพิร์ท ซัมเมอร์คูล เท่านั้นที่เอาอยู่

ดาวน์นี่ เอ็กซ์เพิร์ท ซัมเมอร์คูล กลิ่นฤดูร้อนที่เย็นสุดขั้ว มีจำหน่ายแล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป สั่งซื้อออนไลน์ได้ที่ Shopee http://bit.ly/DownySummerCool

คิง เพาเวอร์ ภูเก็ต ขานรับโมเดล ภูเก็ต แซนบ็อซ์ 

คิง เพาเวอร์ภูเก็ตเตรียมพร้อมสำหรับดูแลนักท่องเที่ยวอีกครั้งในโครงการภูเก็ต แซนบ็อกซ์ วันที่ 1 กรกฎาคม นี้ ด้วยมาตรการสุขอนามัย การันตีด้วยเครื่องหมาย SHA Plus ตามมาตรฐานการให้บริการของจังหวัดภูเก็ตและการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย 

ในฐานะผู้ประกอบการธุรกิจรีเทลเพื่อการท่องเที่ยวชั้นนำระดับโลกในจังหวัดภูเก็ต คิง เพาเวอร์ ภูเก็ต ผ่านการรับรองมาตรฐาน SHA Plus พร้อมให้บริการด้วยความมั่นใจตามมาตรการทางสาธารณสุขแบบครบครัน โดยพนักงานที่อยู่ในส่วนที่ต้องพบปะและให้บริการลูกค้า จะเป็นผู้ที่ได้รับวัคซีนครบถ้วน ทั้ง 2 โดส รวมไปถึงมีการกำหนดขั้นตอนการปฏิบัติด้านสุขอนามัยโดยเคร่งครัดอีกด้วย

สำหรับในส่วนของพื้นที่บริการลูกค้า จะมีการดูแลด้านสุขอนามัยอย่างเต็มรูปแบบไม่ว่าจะเป็นการฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อ มีการทำความสะอาดผิวสัมผัส สินค้า และอุปกรณ์ต่างๆ อยู่เสมอ

นอกจากมาตรการด้านสุขอนามัยแล้ว คิง เพาเวอร์ ยังได้เตรียมมอบความคุ้มค่ากับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศด้วยแคมเปญพิเศษมากมาย โดยสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ในเว็ปไซต์ www.kingpower.com  และ เฟชบุค ไอจี ทวิตเตอร์ King Power Official

MBK ชวนอิ่มไม่อั้น!!! ข้าวแกงบุฟเฟ่ต์ เพียง 49 บาท 

อิ่มจุกจุกกับร้านเด็ดโดนใจ ศูนย์การค้า เอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ แนะนำโปรโมชันแคมเปญสุดคุ้ม อิ่มไม่อั้น!!! ข้าวแกงบุฟเฟ่ต์ ในราคาพียง 49 บาท จาก TOO FAST FOODS ชั้น G โซน TAKE HOME ยกขบวนเมนูอาหารหมุนเวียนให้ได้ชิมกันแบบจุใจ อาทิ ไข่พะโล้หมูสามชั้น ผัดผักรวม ต้มยำไก่ หมูกระเทียม ไก่กระเทียม ผัดเผ็ดปลาดุก และอีกหลากหลายเมนูสลับหมุนเวียนให้ได้เลือกสรรและเติมได้ไม่อั้น ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป 
ผู้ที่สนใจสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมและกิจกรรมต่างๆ ได้ที่ www.mbk-center.co.th และ www.facebook.com/mbkcenterth

7UP มาตามนัด ซื้อหุ้นโกลด์ ชอร์ส เพิ่มเป็น 81%

7UP มาตามนัด จ่อเข้าซื้อหุ้นโกลด์ ชอร์ส จากBKD ส่วนที่เหลืออีก 40% ภายหลังพบสถานการณ์ในจังหวัดภูเก็ต ฉีดวัคซีนให้ประชาชนในพื้นที่มากกว่า 70% และเตรียมเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ 1 กรกฎาคม นี้ คาดเข้าทำรายการแล้วเสร็จภายในเดือนกันยายน 2564 หนุนผลประกอบการแข็งแกร่งในระยะยาว เหตุได้รับสัมปทานขายน้ำประปา ระยะยาวถึง 30 ปี เร่งเดินหน้าก่อสร้างกำลังการผลิตน้ำประปาให้ได้ 96,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน ภายในปี 2566 คาดจะสร้างรายได้ถึง 550 ล้านบาทต่อปี

นายมนต์เทพ มะเปี่ยม รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซเว่น ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ จำกัด(มหาชน) หรือ 7UP เปิดเผยว่า คณะกรรมการบริษัทฯมีมติให้กลับเข้าลงทุนเพิ่มเติมโครงการผลิตน้ำประปาในจังหวัดภูเก็ต ด้วยการซื้อหุ้นบริษัท โกลด์ ชอร์ส จำกัด หรือGS เพิ่มอีกในสัดส่วน 40% จากบริษัท บางกอกเดค-คอน จำกัด(มหาชน) หรือBKD คิดเป็นมูลค่าการลงทุน 550 ล้านบาท เนื่องจากได้พิจารณาแล้วว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในจังหวัดภูเก็ตกำลังจะฟื้นตัวไปในทิศทางที่ดีขึ้น โดยพบว่าทางจังหวัดภูเก็ตดำเนินมาตรการเร่งฉีดวัคซีนให้กับประชาชนในพื้นที่มากกว่า 70% และกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬามีกำหนดการเปิดต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติภายใต้รูปแบบแซนด์บ็อกซ์ ผ่านโครงการภูเก็ตโมเดล โดยจะเริ่มรับนักท่องเที่ยวต่างชาติวันที่ 1 กรกฎาคม 2564 นี้

ก่อนหน้านี้ บริษัทฯได้ชะลอการเข้าลงทุนเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในช่วงตั้งแต่ปลายปี 2563 จนถึงปัจจุบัน ทำให้เกิดความไม่แน่นอนต่อการใช้น้ำในจังหวัดภูเก็ต ทางบริษัทฯได้ติดตามสถาการณ์ดังกล่าวอย่างใกล้ชิด และเมื่อพบว่าทางจังหวัดภูเก็ตมีความชัดเจนถึงการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติทำให้บริษัทฯ พิจารณากลับเข้าลงทุนดังกล่าว โดยจะเข้าทำรายการให้แล้วเสร็จภายในเดือนกันยายน 2564 นี้ และจะส่งผลให้7UP ถือหุ้นใน โกล์ด ชอร์ส เพิ่มเป็น 81%

นายมนต์เทพ กล่าวว่า การเข้าซื้อหุ้นGS จะสนับสนุนให้บริษัทฯ ดำเนินธุรกิจสาธารณูปโกคทางด้านน้ำ และจะมีส่วนช่วยสร้างรายได้และกำไรในระยะยาว ขยายขอบเขตงานในกลุ่มธุรกิจสัมปทานผลิตน้ำประปา นับเป็นการกระจายความเสี่ยงทางธุรกิจ เนื่องจากโกลด์ ชอร์ส ดำเนินธุรกิจพัฒนาระบบสาธารณูปโภคด้านการประปา พื้นที่ให้บริการหลักอยู่ในจังหวัดพังงาและภูเก็ต และได้รับสัมปทานประกอบกิจการประปา เป็นระยะเวลา 30 ปี หรือระหว่างปี 2560-2589 ซึ่งจะช่วยสร้างรายได้มั่นคงให้กับบริษัทฯในระยะยาว

ปัจจุบันโกลด์ ชอร์ส มีกำลังการผลิตน้ำประปา 48,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน และคาดว่าจะได้รับสัญญาขายน้ำประปาในจังหวัดภูเก็ตมากกว่า 40,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวันภายในปี 2564 นี้ และทางโกลด์ ชอร์ส อยู่ระหว่างการก่อสร้างส่วนขยายเพิ่มเติม เพื่อให้มีกำลังการผลิต 96,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวันภายในปี 2566

“กรณีขยายกำลังการผลิตได้เต็มกำลังผลิต คาดว่าจะสร้างรายได้ราว 550 ล้านบาท และจะเป็นผลให้สัดส่วนรายได้จากธุรกิจจำหน่ายน้ำประปา เพิ่มขึ้นสูงขึ้นและจะมีส่วนสำคัญในการสร้างผลประกอบการที่ดีให้กับบริษัทฯอย่างมั่นคงในระยะยาว เนื่องจากธุรกิจดังกล่าวมีอัตรากำไรขั้นต้นในระดับสูงถึง 75% และมีอายุสัมปทานเป็นระยะเวลานานถึง 30 ปี” นายมนต์เทพ กล่าว

ทั้งนี้ โอกาสทางธุรกิจในการขายน้ำประปาในจังหวัดภูเก็ตยังมีอีกสูง หากสถานการณ์กลับเข้าสู่ภาวะปกติ นับเป็นจังหวัดท่องเที่ยวหลักของประเทศ รวมถึงการขยายตัวอย่างรวดเร็วของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว พบว่าความต้องการใช้น้ำกรณีสูงสุดอยู่ที่ 300,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน ขณะที่การประปาส่วนภูมิภาค(กปภ.) สามารถให้บริการรองรับได้เพียง 80,000-100,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวันเท่านั้น นับเป็นโอกาสในการขยายธุรกิจของโกลด์ ชอร์สใน อนาคต

OCEAN จัดหนักจัดเต็ม! โครงการ IKON SUKHUMVIT 77

โครงการ IKON SUKHUMVIT 77” ของ บมจ.โอเชี่ยน คอมเมิรช (OCEAN) จัดแคมเปญเด็ดมาเสิร์ฟ เดือนมิ.ย. 64 จัดหนัก-จัดเต็มในโครงการ “ IKON SUKHUMVIT 77” คอนโด Low Rise 8 ชั้น 3 อาคาร 442 ยูนิต พร้อมอยู่ ช่วยอัพเกรดชีวิตด้วยการใช้พื้นที่ส่วนกลางอย่างคุ้มค่า เปิดบริการตลอด 24 ชม. ตั้งอยู่บนทำเลดี ติดคอมมูนิตี้มอลล์ People Park เดินทางสะดวกเพียง 3 นาที จาก BTS สถานีอ่อนนุช (มีบริการรถรับ-ส่ง) ราคาเริ่มต้นแค่ 2.09 ล้านบาทต่อยูนิต พร้อมโปรโมชั่นสุดพิเศษ ลดสูงสุด 150,000 บาท ฟรี! ทุกค่าใช้จ่าย  เครื่องใช้ไฟฟ้า  เฟอร์นิเจอร์ครบชุด โดนใจขนาดนี้ ใครสนใจเป็นเจ้าของ จ่ายเพียงแค่ 5,000 บาทเท่านั้น… คลิกไปที่ https://bit.ly/2shkNDT หรือสอบถามข้อมูลรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ MAP : bit.ly/2FwpEYV LINE : @vproperty  หรือโทร. 1298

IMH เตรียมฉีด“ซิโนฟาร์ม” 25 มิ.ย.นี้

บมจ.โรงพยาบาลอินเตอร์เมดิคัล แคร์ แอนด์ แล็บ (IMH) ประกาศตอกย้ำการเป็นผู้นำในการตรวจโควิด-19 แบบครบวงจร เสิร์ฟข่าวดีส่งท้าย Q2/64 คว้าสิทธิลงทะเบียน เป็นสถานพยาบาลให้บริการฉีดวัคซีนตัวเลือก “ซิโนฟาร์ม” ของราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ เป็นที่เรียบร้อย เตรียมดีเดย์ฉีคเข็มแรก 25 มิ.ย.นี้ พร้อมส่งซิกมีลูกค้าเลือกขอรับบริการฉีดกับ IMH แล้วกว่า 35,000 ราย มั่นใจภายใน Q3/64 นี้ จะมีผู้ใช้บริการครบ 50,000 ราย หรือ 100,000 โดส อย่างแน่นอน   

ดร.สิทธิวัตน์ กำกัดวงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โรงพยาบาลอินเตอร์เมดิคัลแคร์ แอนด์ แล็บ จำกัด (มหาชน) หรือ IMH และประธานกรรมการบริหาร โรงพยาบาลประชาพัฒน์ เปิดเผยว่า ล่าสุด บริษัทฯ ได้ลงทะเบียนเป็นสถานพยาบาลให้บริการฉีดวัคซีนตัวเลือก “ซิโนฟาร์ม” ของราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่งผลให้บริษัทฯมีความพร้อมในการเปิดให้บริการฉีดวัคซีนดังกล่าว ตั้งแต่วันที่ 25 มิถุนายนนี้เป็นต้นไป ซึ่งขณะนี้มีลูกค้าลงทะเบียนเลือกขอรับบริการฉีดวัคซีนซิโนฟาร์มกับทาง IMH เข้ามาแล้วกว่า 35,000 ราย โดยบริษัทฯ ตั้งเป้าที่จะฉีดวัคซีนดังกล่าวให้ครบ 50,000 ราย หรือประมาณ 100,000 โดส ภายในไตรมาส 3/2564 นี้

ทั้งนี้ สาเหตุหลักที่มีกลุ่มลูกค้าเลือกเข้ามาใช้บริการอย่างต่อเนื่อง เพราะIMH เป็นโรงพยาบาลเอกชนเฉพาะทางด้านอาชีวเวชศาสตร์ ที่มุ่งเน้นด้านบริการทางการแพทย์แบบเชิงรุกนอกสถานที่ (Mobile Checkup) ด้านการตรวจสุขภาพ ที่มีประสบการณ์มากกว่า 20 ปี รวมถึงมีประสบการณ์และเป็นที่ยอมรับในวงกว้างด้านการให้บริการฉีดวัคซีน ให้กับลูกค้าองค์กร และลูกค้าบุคคล เป็นระยะเวลาที่ยาวนาน  โดย IMH มีจุดเด่นที่สำคัญคือ การมี Mobile Checkup ที่สามารถบริการถึงสถานที่ และสามารถตรวจสุขภาพ รวมถึงเข้ารับการฉีดวัคซีนได้เฉลี่ยสูงถึง 10,000 คนต่อวัน

“บริษัทฯ คาดว่าจะลูกค้าให้ความสนใจเลือกใช้ IMH เป็นสถานพยาบาลในการให้บริการฉีด วัคซีนตัวเลือก “ซิโนฟาร์ม” มากถึง 50,000 คน ซึ่งจะส่งผลให้ในไตรมาส 3 บริษัทฯ จะมีสัดส่วนรายได้เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง  ทั้งนี้ IMH มีศักยภาพในการให้บริการฉีดวัคซีน ได้มากถึง 10,000 คน ต่อวัน ทั้งแบบ walkin และนอกสถานที่”

ขณะเดียวกัน IMH  ยังเปิดให้บริการตรวจหาภูมิคุ้มกันโควิดแบบละเอียด (IgG ll Quanti) เพื่อเจาะกลุ่มผู้ที่ได้รับฉีดวัคซีนโควิด-19  โดยเป็นการตรวจวิเคราะห์ด้วยเครื่องตรวจวิเคราะห์ทางภูมิคุ้มกันวิทยา ของบริษัท แอ๊บบอต ลาบอแรตอรีส (ABBOTT) ซึ่งเป็นบริษัทเครื่องมือแพทย์ชั้นนำระดับโลก ทั้งนี้เชื่อว่าการให้บริการดังกล่าว จะสามารถรองรับผู้เข้ารับบริการได้มากกว่า 100,000 คน  ซึ่งเป็นการสอดรับ นโยบายการเร่งระดมฉีดวัคซีนโควิด-19 รวมถึงนโยบายการเปิดประเทศ ของภาครัฐบาลที่ให้ทันภายในช่วงไตรมาส 3/64นี้

นอกจากนี้ IMH ยังให้บริการตรวจเชิงรุก สำหรับการตรวจ COVID-19 ซึ่งเป็นการตรวจเชื้อแบบ Antigen swab ที่สามารถให้บริการได้ถึง 3 แห่ง ได้แก่ โรงพยาบาล อินเตอร์เมดฯ, โรงพยาบาลประชาพัฒน์ และ ศูนย์สุขภาพ IMH ASOKE  (ชั้น 4 รพ.ผิวหนังอโศก)อีกด้วย

อย่างไรก็ตาม จนถึงปัจจุบันนี้ IMH มีกลุ่มลูกค้าเข้ามาใช้บริการในการตรวจเชื้อโควิด และตรวจสุขภาพ อย่างต่อเนื่องโดยเฉลี่ย 500 – 1,000 ต่อวันต่อคน ซึ่งการให้บริการในรูปแบบดังกล่าว สามารถตอกย้ำให้เห็นว่า IMH ก้าวสู่การเป็นผู้นำในการตรวจโควิด-19 แบบครบวงจร ส่งผลให้บริษัทฯคาดว่าภายในปีนี้ IMH จะมีรายได้รวมแตะระดับ 600 ล้านบาท จากปีก่อนที่มีรายได้รวม 247.75 ล้านบาท ซึ่งถือว่าเป็นการเติบโตแบบก้าวกระโดด

 ด้าน บล.หยวนต้า ประเมินภาพรวม IMH  คาดการณ์รายได้ทั้งปี ไม่ต่ำกว่า 600 ล้านบาท และปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 64 เป็นนิวไฮ 62 ล้านบาท พลิกจากขาดทุนปีก่อนที่ 17 ล้านบาท เป็นผลบวกการให้บริการตรวจโควิด ซึ่งทำได้ดีกว่าที่คาดไว้ จึงให้ราคาเป้าหมายใหม่ 7.15 สะท้อนการปรับตัวของกำไรที่เพิ่มขึ้น

LINE SHOPPING อวดโฉมรายการใหม่ “แซะแซ่บ”

ปังสุด ฉุดไม่อยู่แล้วจริงๆ สำหรับ LINE SHOPPING ที่สามารถสร้างประวัติศาสตร์ “คนดูหลายแสน ยอดขายหลายล้าน!” แบบตัวจริง และยังตอกย้ำความเป็น Social Commerce Platform ด้วยจุดแข็งอย่างแตกต่างของ LINE Ecosystem ซื้อ-ขาย-จบ ครบในแพลตฟอร์มเดียว ที่มีรายการยอดขายพุ่งทะลุทุกสัปดาห์อย่าง TuesLIVE โดยโฮสต์ประจำรายการ #มาดามแห่งวงการออนไลน์ อย่าง ป้าตือ – สมบัษร ถิระสาโรช ที่ยอดขายเติบโตแบบก้าวกระโดดถึง 73% และคืนกำไรให้คนดูทุกสัปดาห์ด้วยคูปองกว่า 3 ล้านบาทตลอดซีซั่นนี้ ล่าสุดผุดอีกรายการ “แซะแซ่บ” ที่จะมาสร้างความปังอย่างต่อเนื่องโดยเหล่าพิธีกร อั๋น-ภูวนาท, บุ๋ม-ปนัดดา, เก๋-ชลลดา, ได๋-ไดอาน่า และ ดีเจ.ดาด้า-วรินดา ที่จะสลับสับเปลี่ยนมาแซะเรื่องบันเทิงให้แซ่บกว่าที่เคย!

ไม่เคยหยุดพัฒนาเลย สำหรับ LINE SHOPPING แพลตฟอร์มที่นำคอนเทนต์ในการ LIVE บวกเข้ากับ COMMERCE ในรูปแบบใหม่ และยังเพิ่มความบันเทิงเข้าไปแบบเต็มขั้น จึงทำให้รายการ LINE SHOPPING X @TuesLIVE ที่เปิดตัวในปี 2563 และรายการน้องใหม่ล่าสุด “แซะแซ่บ” เตรียมขึ้นแท่นปังปุริเย่ไม่ไหวแล้ว! เพราะถึงแม้จะเป็นในช่วงภาวะวิกฤติโควิด-19 แต่ด้วยพฤติกรรมของผู้บริโภคที่สามารถช้อปปิ้งออนไลน์ได้จากบนหน้าจอมือถือ จึงทำให้ยอดขายสินค้าผ่านรายได้เติบโตแบบก้าวกระโดด และล่าสุด เพื่อเป็นการคืนกำไรให้ผู้ชมและสร้างความบันเทิงอย่างต่อเนื่อง จึงเปิดตัวรายการใหม่ รายการ “แซะแซ่บ” ที่มีเหล่าพิธีกร นำทีมโดย  อั๋น-ภูวนาท, บุ๋ม-ปนัดดา, เก๋-ชลลดา, ได๋-ไดอาน่า และ ดีเจ.ดาด้า-วรินดา

มา “แซะ” แบบเกาะติดข่าววงในแบบ LIVE กับคนในวงการ พร้อมด้วยความ “แซ่บ” กับสินค้า สินค้าดัง มาให้เลือกช้อปกันแบบสดๆ เรียกได้ว่าแค่ 2 รายการนี้ คนดูมีก็ทางเลือกให้ช้อปกันได้ยาวตลอดทั้งสัปดาห์ และที่แน่นอนคือมีดีลเด็ดๆ มาเสิร์ฟถึงหน้าจอโทรศัพท์ของคุณอย่างแน่นอนแบบปังกว่าเคย!

ติดตามทั้ง 2 รายการ ได้แก่

  • LINE SHOPPING X @TuesLIVEทุกวันอังคาร เวลา 17.00 น. – 18.30 น. กับตัวแม่อย่าง ป้าตือ – สมบัษร ถิระสาโรช ที่จะชักชวนโคโฮสต์จากวงการบันเทิงมาบอกดีลเด็ดๆ ทุกสัปดาห์
  • แซะแซ่บ ทุกวันพฤหัสบดี เวลา 17.00 น. – 18.30 น. โดย 2 พิธีกร อั๋น-ภูวนาท และ บุ๋ม-ปนัดดา ที่จะมีเซอร์ไพรส์อะไร ต้องติดตาม!

ติดตามความสนุกสุดคุ้มจากทั้ง 2 รายการ เพียงกดเพิ่มเพื่อน @LINESHOPPING ทางแอปพลิเคชัน LINE หรือช้อปกับ LINE SHOPPING ได้ง่ายนิดเดียว เพียงเปิด LINE เข้า Wallet และกด LINE SHOPPING พร้อมติดตามความเคลื่อนไหวและดีลพิเศษจากLINE SHOPPING ได้ทาง LINE OA โดยกดเพิ่มเพื่อน @lineshoppingth หรือคลิก https://lin.ee/eUn3ArU