ชวนสมัครบริการ Disney+ Hotstar กับ AIS เดือนละ 35 บาท

หลังจากปล่อย VDO AIS FAMILY ที่มาเล่าถึง Disney ในความทรงจำกันไปแล้ว AIS ยังนัดรวมเหล่า AIS Family มาร่วมปาร์ตี้ผ่านทางออนไลน์สไตล์ New Normal นำโดย เบลล่า ราณี, เป๊ก ผลิตโชค, เจมส์ จิรายุ, แต้ว ณฐพร, พุฒ พุฒิชัย, วี วิโอเลต เรียกได้ว่าแต่ละคนเป็นแฟนตัวจริงของ Disney กันทั้งนั้น ทั้งโชว์และแชร์ความฝัน ความทรงจำกับเรื่องโปรดในดวงใจ เรียกรอยยิ้มและเสียงหัวเราะจากแฟนๆ ได้ไปไม่น้อยเลยทีเดียว

งานนี้ AIS 5G ขนทัพ AIS FAMILY มาทำกิจกรรมที่เกี่ยวกับ Disney ทั้งที ความพิเศษต้องจัดเต็ม นอกจากการพูดคุยและร่วมทำกิจกรรมสนุกๆ ของเหล่า AIS FAMILY แล้ว ทุกคนๆ ยังตื่นเต้นกันมาก เมื่อได้รับของขวัญจากกล่องสุ่มที่ทาง AIS 5G มอบให้ และได้เปิดกล่องสุ่มพร้อมกันเพื่ออวดของสุดพิเศษ แน่นอนว่าถูกใจทุกคนที่สุด ทั้งตุ๊กตาตัวโปรดและอุปกรณ์ไว้ใส่สร้างสีสัน ที่เมื่อเหล่าเซเลบริตี้ใน AIS FAMILY เห็นต่างเป็นร้องกรี๊ด ทำเองเหล่าแฟนคลับที่เข้าร่วมชมต่างยิ้มตามไปกับความน่าเอ็นดูของ AIS FAMILY

นอกจากนี้ แฟนๆ ยังได้ฟินไปกับความฝันของเหล่าดาราที่อยากจะเป็นตัวละครในเรื่องต่างๆ ของดิสนีย์ โดยนางเอกหน้าหวาน “เบลล่า ราณี” ฝันอยากเป็น เจ้าหญิงแอเรียล ใน The Little Mermaid ขณะที่ “แต้ว ณฐพร” ใฝ่ฝันอยากเป็นมู่หลาน ฝั่งดาราชายอย่าง เป๊ก ผลิตโชค” ก็อยากจะแปลงร่างเป็น มนุษย์ตัวเขียวจอมพลัง Hulk จาก The Avengers ด้าน “เจมส์ จิรายุ” ที่นอกจากจะหลงรักจักรวาล Marvel ยังตั้งตารอชมซีรีส์ LOKI ซึ่งจะรับชมได้ทาง DisneyHotstar อีกด้วย

แน่นอนว่า AIS FAMILY ต่างเฝ้ารอที่จะได้ชมคอนเทนต์ระดับโลก เอเชีย และไทย ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์ฮอลลีวู้ดระดับบล็อคบัสเตอร์ และภาพยนตร์ที่ได้รับรางวัลการันตีดังๆ มากมาย จาก Disney, Marvel, Star Wars, Pixar รวมถึงสารคดีจาก National Geographic ซึ่งเหล่า AIS FAMILY ยังฝากถึงทุกๆ คนที่รอชมความบันเทิงเหล่านี้ สามารถสมัครบริการ Disney+ Hotstar กับ AIS ได้ในราคาสุดพิเศษเดือนละ 35 บาท (จากราคาปกติเดือนละ 99 บาท) พร้อมรับสิทธิเพิ่มอีก 1 เดือน เพียงกด *111 โทรออก ตั้งแต่วันที่ 8  27 มิถุนายน 64 ก่อนที่จะโล่ดแล่นสู่จินตนาการพร้อมกันทั้งประเทศ 30 มิถุนายนนี้

เบลล่า ราณี
เป๊ก ผลิตโชค
พุฒ พุฒิชัย
เจมส์ จิรายุ
วี วิโอเลต

ศุภาลัย เปิดตัว พรีโม่ ลาดกระบัง-ฉลองกรุง เริ่ม 2.19 ล้าน

บมจ.ศุภาลัย ปูพรมอสังหาฯ แนวราบมิกซ์โปรดักส์ ส่งโครงการ “ศุภาลัย พรีโม่ ลาดกระบัง – ฉลองกรุง” เติมเต็มการอยู่อาศัยที่ดีที่สุดทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด และทาวน์โฮม บนทำเลคุณภาพโซนลาดกระบัง ราคาเริ่มต้นเพียง 2.19 ล้านบาท* Pre – Sales 26 – 27 มิ.ย นี้ พร้อมสิทธิพิเศษมากมายภายในงาน

นางสาวธัญวรัตน์ ปัญญารัตน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายการตลาดและการขาย บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าเปิดตัวโครงการแนวราบอย่างต่อเนื่อง เจาะตลาดเรียลดีมานด์ ในราคาที่จับต้องได้ สามารถตอบโจทย์การอยู่อาศัยกับพื้นที่ใช้สอยและฟังก์ชันที่มากกว่า บนทำเลที่เดินทางสะดวก สำหรับโครงการ “ศุภาลัย พรีโม่ ลาดกระบัง – ฉลองกรุง” มีจุดเด่นการวางผังบ้านแบบมิกซ์โปรดักส์ ในโครงการเดียวกัน ทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์โฮม หลากหลายฟังก์ชันพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันภายในโครงการ เพื่อเพิ่มทางเลือกให้กับลูกค้า ที่เหมาะกับการเริ่มต้นครอบครัวหรือขยายครอบครัว อีกทั้งใกล้แหล่งธุรกิจสำคัญอย่าง นิคมฯ ลาดกระบัง

ศุภาลัย พรีโม่ ลาดกระบัง – ฉลองกรุง ตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 35 ไร่ จำนวน 264 แปลง มูลค่าโครงการประมาณ880 ล้านบาท มาพร้อมแนวคิดการออกแบบที่อยู่อาศัย Keep going and Fulfill Your Dream “บ้านที่เติมเต็ม… ความฝันและชีวิตคุณให้สมบูรณ์แบบ” เติมเต็มทุกท่วงทำนองของชีวิต เพื่อสอดคล้องไปด้วยความรู้สึกและความทรงจำที่แสนงดงาม มาพร้อมกับบ้านเดี่ยว บ้านแฝด และทาวน์โฮม สไตล์โมเดิร์นให้เลือกถึง 8 แบบ 8 สไตล์หลากหลายฟังก์ชันที่ออกแบบมาอย่างลงตัว สะดวกสบายสำหรับทุกกิจกรรม และตอบโจทย์ทุกความต้องการของทุกคนในครอบครัว ในราคาเริ่มต้น 2.19 ล้านบาท* พบกับบ้านที่เติมเต็มก้าวแรกแห่งฝันด้วย “ทาวน์โฮม 2 ชั้น” ที่มีให้คุณเลือกถึง 2 แบบ 2 สไตล์ หน้ากว้างถึง 5 – 6.25 ม. พื้นที่ใช้สอย 114 – 141 ตร.ม. 3 ห้องนอน 2 – 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ แบบบ้านศุภโชติ หน้ากว้างถึง 5 เมตร มาพร้อมห้องนอน Master ขนาดใหญ่พร้อมระเบียง ฟังก์ชันลงตัวใช้ประโยชน์ได้จริงในทุกพื้นที่ และแบบบ้านศุภธัญญ์ แปลงมุมกว้างพิเศษถึง 6.25 เมตร และแปลงกลางกว้างถึง 5.5 เมตร มาพร้อมกับพื้นที่อเนกประสงค์ บริเวณชั้น 2 เพิ่มช่องแสงสว่าง Skylight และพื้นที่นั่งเล่นและส่วนทานอาหารขนาดใหญ่กว้างขวาง เชื่อมต่อไปยังสวนหลังบ้าน ให้ความเป็นส่วนตัว เติมเต็มความฝันไปอีกขั้นด้วย “บ้านแฝด” สำหรับการเริ่มต้นครอบครัวอันแสนอบอุ่นด้วยพื้นที่ใช้สอย 128 ตร.ม. 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ มาพร้อมส่วนรับแขกและส่วนทานอาหารเชื่อมต่อกัน ห้องครัวขนาดใหญ่พร้อมประตูกั้นเป็นสัดส่วน กับฟังก์ชันที่ลงตัว ใช้ประโยชน์ได้ในทุกพื้นที่ และห้องนอนที่ 3 สำหรับสมาชิกตัวน้อย และ “บ้านเดี่ยว” บ้านที่ช่วยเติมเต็มครอบครัวให้สมบูรณ์แบบด้วยพื้นที่ใช้สอย 150 – 197 ตร.ม. 3 – 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ เน้นการออกแบบให้มีพื้นที่กว้าง สำหรับทุกกิจกรรมในครอบครัว ห้องนอนใหญ่พร้อม Walk in closet เพื่อทุกการใช้ชีวิตเป็นเรื่องง่าย มาพร้อม 2 มุมพักผ่อนที่ชั้นบนและชั้นล่าง และเพิ่มความสะดวกสบายด้วยห้องนอนล่างสำหรับผู้สูงวัย หรือจะดัดแปลงเป็นห้องทำงาน รวมทั้งการออกแบบบ้านที่เติมเต็มด้วยวัสดุ

ที่มีคุณภาพ ซึ่งได้รับการรับรองมาตรฐานสากล ISO 9001:2015 และช่วยประหยัดพลังงาน เช่น เลือกใช้อิฐมวลเบา ซึ่งกักเก็บความร้อนน้อย กระจกเขียว/อนุรักษ์พลังงานเบอร์ 5 ช่วยตัดแสงเพื่อลดความร้อนจากภายนอกเข้าสู่ตัวบ้าน พร้อมเติมเต็มความสบาย ด้วยช่องแสงรับลม และการจัดวางทิศบ้าน ช่วยให้บ้านเย็นสบาย รวมทั้งเต็มเติมทุกความสุขและทุกการพักผ่อนของคุณได้เต็มที่ภายในโครงการ ด้วยสวนส่วนกลางขนาดใหญ่พร้อม Playzone สโมสร ฟิตเนส และสระว่ายน้ำ มั่นใจกับระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมกล้อง CCTV ภายในโครงการ และทางเข้า – ออก ด้วยระบบ Easy Pass

เติมเต็มทุกการเดินทางโซนลาดกระบัง – ฉลองกรุง บนถนนฉลองกรุง สามารถเข้า – ออกได้ หลายเส้นทาง เชื่อมต่อทั้งถนนลาดกระบัง ถนนสุวินทวงศ์ ถนนเจ้าคุณทหาร ถนนคุ้มเกล้า ใกล้นิคมฯ ลาดกระบัง และใกล้มอเตอร์เวย์ อีกทั้งสะดวกทุกการเดินทางสู่ใจกลางเมืองและแหล่งธุรกิจ อีกทั้งเติมเต็มไลฟ์สไตล์ที่เป็นคุณในทุกวันหยุดด้วยแหล่ง ช้อปปิ้งและคอมมูนิตี้มอลล์ อาทิ เมกาบางนา , Central Village , Siam Premium Outlets , V Market ใกล้โรงพยาบาลและสถาบันการศึกษา อาทิ รพ.ลาดกระบัง สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง Raumrudee International School รร.เทพศิรินทร์ ร่มเกล้า และสนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ เป็นต้น

สัมผัสบ้านที่เติมเต็มความฝันและชีวิตคุณให้สมบูรณ์แบบโซนลาดกระบัง – ฉลองกรุง ในงาน Pre – Sales 26 – 27 มิถุนายน นี้ จองในงานรับฟรี!* แอร์ทุกห้องนอน บัตรกำนัลเฟอร์นิเจอร์ SB มูลค่า 50,000 บาท ชุดอุปกรณ์ กันขโมย และของแถมอีกหลายรายการ โดยสามารถลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษได้ที่ https://bit.ly/2ThUyhp เพื่อสร้างความมั่นใจในการเข้าเยี่ยมชมโครงการ ทางบริษัทฯ ได้เพิ่มศักยภาพมาตรการความปลอดภัยด้านสุขอนามัยระดับสูงแก่พนักงานที่ให้บริการลูกค้า โดยทุกคนได้รับการฉีดวัคซีน COVID – 19 เป็นที่เรียบร้อย อีกทั้งยังมีมาตรการความปลอดภัยด้านชีวอนามัยอย่างเข้มงวดทั้งในโครงการและสำนักงานขาย ด้วยการทำความสะอาดและพ่นน้ำยา ฆ่าเชื้อ จัดเตรียมเจลล้างมือแอลกอฮอล์ ตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา และมาตรการ Social Distancing อีกทั้งสามารติดตามอัพเดทโครงการเปิดใหม่ โปรโมชั่นและสิทธิพิเศษมากมาย เพียงดาวน์โหลด SUPALAI SABAI Application ได้ที่ www.supalai.com/applications/ หรือสอบถามข้อมูลโทร. 1720

TFG ปลื้มติดโผ ESG100 สถาบันไทยพัฒน์

บมจ.ไทยฟู้ดส์กรุ๊ป (TFG) ปลื้ม! ได้รับการคัดเลือกอยู่ในกลุ่มหลักทรัพย์ ESG100 ที่มีความโดดเด่นด้านสิ่งแวดล้อม สังคมและธรรมาภิบาล ประจำปี 2564  จากสถาบันไทยพัฒน์ ตอบโจทย์การลงทุนที่ยั่งยืน หนุนนักลงทุนประเภทสถาบันและกองทุน เพิ่มน้ำหนักลงทุน 

นายเพชร นันทวิสัย ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ บริษัท ไทยฟู้ดส์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TFG เปิดเผยว่า บริษัทฯได้รับการจัดอันดับจากสถาบันไทยพัฒน์ให้เป็น 1 ใน 100 หลักทรัพย์จดทะเบียนที่โดดเด่นด้านสิ่งแวดล้อม สังคมและธรรมาภิบาล (ESG100) ประจำปี 2564 ถือเป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจของบริษัทฯที่สะท้อนให้เห็นถึงการดำเนินธุรกิจที่คำนึงถึงการเติบโตของธุรกิจควบคู่ไปกับสังคม การให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม และยึดมั่นในหลักธรรมาภิบาล

การดำเนินธุรกิจของ TFG ไม่ได้มองเพียงมิติของกำไรจากการดำเนินงานเพียงเท่านั้น แต่ปรัชญาในการดำเนินธุรกิจของเราให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม ชุมชน และสังคม รวมไปถึงการยึดมั่นธรรมาภิบาล ซึ่งถือเป็นโจทย์หลักที่ทำให้ธุรกิจของเราเติบโตอย่างยั่งยืนเคียงคู่ไปกับสังคม

นายเพชร กล่าวอีกว่า การที่บริษัทฯได้รับคัดเลือกให้อยู่ในกลุ่มหลักทรัพย์ ESG100 เชื่อว่าจะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับนักลงทุนสถาบันและกองทุนชั้นนำทั้งในและต่างประเทศ เพิ่มน้ำหนักลงทุนในหลักทรัพย์ที่สร้างผลตอบแทนที่ยั่งยืนในระยะยาว

ทั้งนี้  การประเมิน ESG100 ในปี พ.ศ.2564 ครอบคลุม 824 หลักทรัพย์ (ไม่รวมหลักทรัพย์ที่อยู่ระหว่างการฟื้นฟู) รวมทั้งกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REITs) และกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน โดยอ้างอิงจากเอกสารรายงานที่บริษัทเผยแพร่ไว้ต่อสาธารณะในแบบแสดงรายการข้อมูลประจำปี (แบบ 56-1) รวมทั้งในรายงานประจำปี รายงานแห่งความยั่งยืน และข้อมูลผลการดำเนินงานที่เกี่ยวเนื่องกับการพัฒนาความยั่งยืนของหน่วยงานที่ออกหลักทรัพย์/กองทุน จากแหล่งข้อมูล 6 แหล่ง รวมจำนวนกว่า 15,260 จุดข้อมูล

ฟรี! SME Bootcamp ปลดล็อคทุกเทคนิคขาย สร้างยอดปังให้ธุรกิจ

ปัจจุบัน ผู้ประกอบการ SME ต้องปรับตัวสู่การทำธุรกิจรูปแบบออนไลน์ เพื่อให้สอดคล้องกับพฤติกรรมของผู้บริโภคยุคนี้ที่เปลี่ยนแปลงไปอยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะการซื้อขายผ่านแชท หรือแชท คอมเมิร์ซ ที่สามารถตอบสนองพฤติกรรม ความชื่นชอบในการซื้อขายของคนไทยได้เป็นอย่างดีและได้รับความนิยมมากขึ้นในทุกขณะ การศึกษาถึงการใช้งานแพลตฟอร์มแห่งแชท คอมเมิร์ซ เรียนรู้กลยุทธ์ เทคนิคที่ใช่ โดนใจกลุ่มลูกค้า รวมไปถึงการศึกษาทักษะการใช้เครื่องมือดิจิทัลในเชิงลึกจึงล้วนเป็นสิ่งสำคัญที่ SME ไทยจะมองข้ามไม่ได้ในปัจจุบัน เพราะนั่นคือตัวช่วยสำคัญในการรักษาความสัมพันธ์ระหว่างผู้ประกอบการกับลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นการรักษาฐานลูกค้าเก่าและสร้างฐานลูกค้าใหม่ และสร้างโอกาสให้ลูกค้าซื้อสินค้าหรือใช้บริการเพิ่มเติมในอนาคตได้บนโลกออนไลน์อย่างยั่งยืน

LINE แพลตฟอร์มชั้นนำสำหรับการทำธุรกิจด้วยแชท คอมเมิร์ซ มุ่งสนับสนุนผู้ประกอบการ SME ไทยให้เติบโตธุรกิจได้อย่างยั่งยืน ผ่านการใช้งานเครื่องมือทรงประสิทธิภาพอย่าง LINE Official Account ที่เข้าถึงคนไทยกว่า 49 ล้านคน เตรียมจัดงาน SME Bootcamp ที่จะกลับมาอีกครั้งในรูปแบบไลฟ์ออนไลน์ พร้อมขนทัพกูรูแห่งการทำธุรกิจบนแพลตฟอร์ม LINE อย่าง LINE Certified Coach 2021 มาร่วมสอนและให้คำแนะนำในคลาสเรียนสุดเข้มข้นเต็มวัน ภายใต้หัวข้อ ปลดล็อคทุกเทคนิคการขาย สร้างยอดปังให้ธุรกิจคุณ เน้นให้ความรู้ SME ไทย เจาะลึกทุกเทคนิค อัปเดตฟีเจอร์ใหม่ พร้อมไขข้อข้องใจทุกคำถามของการใช้งาน LINE Official Account และการลงโฆษณาผ่าน LINE Ads Platform เพื่อให้ SME ไทยสามารถใช้งานแพลตฟอร์ม LINE ได้อย่างมั่นใจในการทำธุรกิจ ผู้สนใจสามารถเรียนฟรีได้ทาง LINE Official Account: @linebizth, LINE TV ช่อง LINE for Business, หรือ Facebook : LINE for Business ได้ในวันที่ 17 มิ.ย.นี้ ตั้งแต่เวลา 10:00-15:00 น. พิเศษ! หลังการรับชมไลฟ์ ผู้ร่วมชมมีสิทธิ์ได้รับหนังสือคู่มือลงโฆษณาด้วยตนเองอย่าง LINE Ads Platform Handbook ให้ไปศึกษาต่อเองได้ที่บ้านได้ฟรี!

 

Netflix ประกาศแต่งตั้ง ผู้อำนวยการฝ่ายคอนเทนต์ประจำประเทศไทย

Netflix ประกาศแต่งตั้ง นายยงยุทธ ทองกองทุน ให้ดำรงตำแหน่ง ผู้อำนวยการฝ่ายคอนเทนต์ประจำประเทศไทย ด้วยประสบการณ์คร่ำหวอดในวงการบันเทิงไทยกว่า 20 ปี ทั้งในฐานะผู้กำกับ โปรดิวเซอร์ และผู้เขียนบทภาพยนตร์

ทั้งนี้ นายยงยุทธ ได้ฝากผลงานภาพยนตร์ที่ได้รับความนิยมและประสบความสำเร็จทั้งในและต่างประเทศไว้มากมาย ไม่ว่าจะเป็น “สตรีเหล็ก” (2543) “สตรีเหล็ก 2″ (2546) “แจ๋ว” (2547)  “สี่แพร่ง” (2551) หรือ “ความจำสั้น แต่รักฉันยาว” (2552) นอกจากนี้ เขายังเป็นหนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้ง GDH 559 บริษัทผลิตภาพยนตร์ชั้นนำของไทยที่มีผลงานอย่าง”ฉลาดเกมส์โกง” (2560) ที่กวาดมาแล้วทั้งรายได้และเสียงชื่นชมจากเทศกาลหนังทั่วโลก

มาโลบิกา บาเนอร์จี ผู้อำนวยการฝ่ายคอนเทนต์ ประจำเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของ Netflix กล่าวว่า “เรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะได้นำประสบการณ์และความสามารถอันเหลือล้นจากการทำงานในวงการบันเทิงไทยของคุณยงยุทธ มาเสริมศักยภาพให้กับ Netflix และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเราจะได้ร่วมกันสรรสร้างผลงานที่ยังคงมีเอกลักษณ์ของความเป็นไทยที่ชัดเจน และเป็นที่ชื่นชอบในระดับสากล”

นายยงยุทธ เสริมอีกว่า “หลังจากที่ได้ทำงานร่วมกับผู้กำกับและนักสร้างสรรค์ชั้นแนวหน้าของเมืองไทยมาอย่างยาวนาน  ผมรู้สึกตื่นเต้นมากที่ได้ร่วมงานนกับ Netflix ซึ่งเป็นบริษัทระดับโลกในวงการบันเทิงและหวังเป็นอย่างยิ่งว่า Netflix จะได้มีส่วนร่วมในการถ่ายทอดเรื่องราวดีๆ จากฝีมือคนไทย และแสดงพลังความคิดสร้างสรรค์ของคนไทยให้ทั่วโลกได้เห็น”

นายยงยุทธ จะประจำการอยู่ที่สำนักงานแห่งใหม่ของ Netflix ในกรุงเทพฯ โดยจะรับผิดชอบทั้งในด้านการคัดเลือกคอนเทนต์ไทยเพื่อเผยแพร่บน Netflix และดูแลการสร้างภาพยนตร์และซีรีส์ ของ Netflix ในประเทศไทย

อยู่บ้านอย่างไรไม่ให้เหงา!สดชื่น สมาธิดี ขจัดเชื้อโรคทางเดินหายใจ

มาแรงสุดชั่วโมงนี้! ต้องยกให้ เอสเซนเชียลออยล์ ออร์แกนิค จากเมืองผู้ดี สกัดจากพืชออร์แกนิคหายากจากทั่วทุกมุมโลก บูสต์ความสุขให้ Work from Home และ Online Study เป็นช่วงเวลาแห่งความสดชื่น ผ่อนคลาย และสมาธิดีขึ้น ทั้งยังช่วยให้ทุกมุมของบ้านกลิ่นหอมสะอาด ปราศจากเชื้อโรค และขจัดเชื้อโรคทางเดินหายใจ พร้อมรับโปรโมชั่นพิเศษเฉพาะเดือนมิถุนายนนี้เท่านั้น!

นีลส์ ยาร์ด เรมมิดีส์ (Neal’s Yard Remedies) ผู้นำสกินแคร์พรีเมียมออร์แกนิคยอดนิยมอันดับหนึ่งจากประเทศอังกฤษ ชวนคุณสัมผัสที่สุดแห่งความผ่อนคลายไปกับศาสตร์กลิ่นหอมบำบัดหรือ Aromatherapy กรุ่นกลิ่นหอมของ ‘เอสเซนเชียล ออยล์ ออร์แกนิค’ สกัดจากพืชออร์แกนิคหายากจากทั่วทุกมุมโลก อุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระอันทรงพลังจากธรรมชาติ พร้อมให้คุณสัมผัสกลิ่นหอมแท้ของสมุนไพรและดอกไม้นานาพันธุ์ พิเศษ! ลดทันที 15% เมื่อซื้อ Special Set Aromatherapy คู่กับ Esta Aroma Diffuser หรือ Create Your Own รับฟรี! Natural Defence Hand Rub 30 ml. (มูลค่า 450 บาท) ตั้งแต่วันนี้ถึง 30 มิ.ย. 64⠀⠀⠀⠀⠀⠀⠀⠀⠀⠀⠀⠀⠀⠀

  • Smart Study Set: ช่วยบูสต์ความจำและเพิ่มสมาธิในการเรียนรู้ระหว่างเรียนออนไลน์ ด้วยกลิ่นหอมของ Peppermint Essential Oil+ Rosemary Organic Essential Oil + Frankincense Organic Essential Oil
  • Sweet Dream Set: ส่งคุณเข้านอนให้หลับสบาย และปลอบประโลมร่างกายและจิตใจให้ผ่อนคลายถึงขีดสุด ด้วยกลิ่นหอมของ Mandarin Essential Oil + Lavender Organic Essential Oil + Rose Absolute
  • Her Balance Set: ปรับสมดุลอารมณ์สำหรับคุณผู้หญิง ให้จิตใจสุขสงบและผ่อนคลายแม้ในวันนั้นของเดือน ด้วยกลิ่นหอมของ Orange Organic Essential Oil + Geranium Organic Essential Oil + Patchouli Organic Essential Oil
  • Home Defence & Protect Set: เพิ่มความสดชื่นให้ทุกมุมของบ้านสะอาด สดชื่น ปราศจากเชื้อโรค และช่วยขจัดเชื้อโรคทางเดินหายใจ ด้วยกลิ่นหอมของ Organic Lemon Essential Oil + Eucalyptus Globulus Org + Frankincense Organic Essential Oil

พิเศษ! ช้อปครบ 6,000 บาท รับฟรี! เอสเซนเชียลออยล์ ออร์แกนิค 1 ขวด (มูลค่า 690 บาท) และ ช้อปครบ 10,000 บาท รับฟรี! Nourish Bee Lovely Trio (มูลค่า 1,800 บาท) เซ็ตของขวัญสุดหรูจากน้ำผึ้งออร์แกนิคแท้ ช่วยคืนความนุ่มละมุน ชุ่มชื่น และเปล่งประกายให้ผิว เซ็ตนี้ประกอบด้วย Bee Lovely Beautiful Lip, Bee Lovely Shower Gel และ Bee Lovely Body Lotion

สัมผัสประสบการณ์การดูแลผิวจากประสิทธิภาพอันทรงคุณค่าของส่วนผสมออร์แกนิคอันแสนบริสุทธิ์ อ่อนโยน และปลอดภัยต่อผิวพรรณ พร้อมศาสตร์ในการดูแลผิวและสุขภาพแบบองค์รวม ผสานวิทยาศาสตร์ล้ำยุคเพื่อผิวที่สวยสดใสอ่อนเยาว์อย่างยั่งยืนจากภายในสู่ภายนอกของนีลส์ ยาร์ด เรมมิดีส์ (Neal’s Yard Remedies) ได้แล้ววันนี้ที่ชั้นเอ็มบิวตี้ฮอลล์ สยามพารากอน / เอ็มโพเรียม และ Beauty Hall ชั้น G เดอะมอลล์ บางแค หรือทางLine Official Account : @nyr_th และเว็บไซต์ www.nealsyardremedies.co.th

“คาเฟ่ อเมซอน” ส่งกาแฟ Cold Brew รับเทรนด์สินค้า Home Use

คาเฟ่ อเมซอน (Café Amazon) ส่งผลิตภัณฑ์ใหม่กาแฟสกัดเย็น Café Amazon Cold Brew ออกสู่ตลาด หลังสถานการณ์ระบาดของโควิด  19 ปรับตัวรับเทรนด์สินค้า Home Use/ Home Brew สอดรับพฤติกรรมการบริโภคกาแฟของคนไทย มุ่งสร้างประสบการณ์โฮมบาริสต้าให้กับลูกค้า โดยเน้นความง่าย สะดวก รวดเร็ว สมกับเป็นเจ้าตลาดกาแฟสด ตอบรับช่วงเวลาการอยู่บ้านของผู้คนในปัจจุบัน 

จากสถานการณ์ระบาดของโควิด  19 ตั้งแต่ช่วงปี 2563 ที่ผ่านมา ทำให้ผู้บริโภคส่วนใหญ่หันมาให้ความสนใจกับวิธีการดื่มกาแฟชงเองที่บ้านมากขึ้น โดยคอกาแฟต่างมองหาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตยุคโควิด-19 พร้อมทดลองประสบการณ์การชงกาแฟด้วยตนเอง คาเฟ่ อเมซอน เล็งเห็นโอกาสใหม่ในการตอบสนองลูกค้ากลุ่มนี้ จึงเปิดตัว Café Amazon Cold Brew กาแฟสกัดเย็นที่สามารถชงเองได้ที่บ้านง่าย  ใน 3 ขั้นตอน เพียงแค่ ฉีก-แช่-เอาเข้าตู้เย็น 8 ชั่วโมง ก็พร้อมสำหรับการดื่มด่ำลิ้มรสความสดชื่นเหมือนมีบาริสต้ามืออาชีพจากร้านมาชงให้

สุชาติ ระมาศ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ธุรกิจค้าปลีก บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR

นายสุชาติ ระมาศ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ธุรกิจค้าปลีก บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR เปิดเผยว่า “ไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคในปัจจุบันใช้เวลาในการอยู่บ้านมากขึ้น และเริ่มหันมาให้ความสนใจในรายละเอียดของการดื่มกาแฟจากแหล่งผลิตต่าง ๆ อีกทั้งยังมุ่งหาความเป็นเอกลักษณ์ของกาแฟนั้น ๆ คาเฟ่ อเมซอน มุ่งตอบโจทย์กลุ่มคอกาแฟที่มีความสนใจดังกล่าว ที่กำลังมองหาประสบการณ์การดื่มกาแฟที่มีคุณภาพเหมือนได้ลิ้มรสกาแฟจากร้านชื่อดังที่ได้มาตรฐาน จึงเกิดเป็นกาแฟสกัดเย็นทางเลือกใหม่ที่คาดว่าจะได้รับความนิยมจากผู้บริโภคเป็นอย่างดี นอกจากจะออกผลิตภัณฑ์ใหม่เพื่อเป็นทางเลือก ตอบโจทย์การใช้ชีวิตในรูปแบบใหม่แล้ว คาเฟ่ อเมซอน ยังให้ความสำคัญกับการคัดสรรเมล็ดกาแฟจากแหล่งเพาะปลูกกาแฟคุณภาพโดยพี่น้องเกษตรกรท้องถิ่นที่ยึดหลักวิถียั่งยืน อีกทั้งยังส่งเสริมการเติบโตร่วมกันกับชุมชนผ่านโครงการ CCS หรือ Community Coffee Sourcing ที่จัดตั้งขึ้นเพื่อพัฒนาความรู้ และทักษะอาชีพให้กับวิสาหกิจชุมชนผู้ปลูกและผลิตกาแฟ รวมถึงเป็นช่องทางการรับซื้อเมล็ดกาแฟที่แน่นอนให้กับกลุ่มวิสาหกิจชุมชนและเกษตรกร ให้มีรายได้จากการซื้อขายในระดับราคาที่เป็นธรรม (Fair Trade) เพื่อสร้างกลุ่มชุมชนให้มีอาชีพอย่างยั่งยืน ซึ่งสอดคล้องกับกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจของ OR ที่มุ่งขับเคลื่อนการเติบโตร่วมกัน เพื่อสร้างชุมชนน่าอยู่ และสิ่งแวดล้อมที่สมบูรณ์ในทุกที่ที่ OR ดำเนินธุรกิจ”

สำหรับกาแฟสกัดเย็น Café Amazon Cold Brew มีวางจำหน่ายด้วยกัน 2 สูตร ได้แก่ อเมซอน วัลเลย์ ซีเครท กาแฟแท้คั่วบด สำหรับสกัดเย็น (Amazon Valley Secret Roasted Coffee For Cold Brew) กาแฟ สูตรเฉพาะจากเมล็ดกาแฟบนแหล่งปลูกในจังหวัดเชียงรายอันมีชื่อเสียงโดยเกษตรกรชาวเขาในชุมชน 3 พื้นที่ ปางขอน ผาลั้ง และแม่สลอง คั่วในระดับกลาง รสชาตินุ่มละมุนสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของธรรมชาติอย่างแท้จริง และอเมซอน เฮาส์เบลนด์ กาแฟแท้คั่วบด สำหรับสกัดเย็น (Amazon House Blend Roasted Coffee For Cold Brew) กาแฟเฮาส์เบลนด์ที่มีส่วนผสมอันลงตัวระหว่างเมล็ดกาแฟอะราบิกา และโรบัสตาคุณภาพดี จากฝีมือการปลูกของเกษตรกรไทย ผ่านกระบวนการผลิตด้วยความพิถีพิถันจากโรงคั่วกาแฟคาเฟ่ อเมซอน คั่วในระดับกลางถึงเข้ม ออกมาเป็นเมล็ดกาแฟที่มีกลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์ รสชาติเข้มระดับพอดี นำไปสร้างสรรค์เมนูกาแฟได้หลากหลาย 

ผลิตภัณฑ์ Café Amazon Cold Brew มีวางจำหน่ายแล้ววันนี้ที่ Café Amazon สาขาใกล้บ้านคุณ ทุกสาขา หรือสามารถสั่งซื้อผ่านช่องทางออนไลน์ได้ทางแอปพลิเคชัน Lazada และ Shopee สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 1365 Contact Center

ลิกซิล ขนทัพ 4 แบรนด์ชั้นนำ ร่วมงาน Kitchen & Bath China 2021

ลิกซิล ผู้บุกเบิกผลิตภัณฑ์เพื่อที่อยู่อาศัยและสุขภัณฑ์ ประกอบไปด้วย 4 แบรนด์ชั้นนำภายในเครือ ได้แก่ อเมริกันสแตนดาร์ด (American Standard) โกรเฮ่ (GROHE) อิแนกซ์ (INAX) และ ลิกซิล คิทเช่น (LIXIL Kitchens) ได้จัดแสดงเทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์นวัตกรรมใหม่ในงาน Kitchen & Bath China 2021 พร้อมถ่ายทอดความมุ่งมั่นของลิกซิลในการมุ่งเน้นเนรมิตบ้านที่ดีกว่าเดิมแก่ทุกคน ไม่ว่าจะอยู่ที่ใดในโลก ผ่านการนำเสนอแนวคิดและการออกแบบล่าสุดของแบรนด์ชั้นนำทั้งสี่

ลิกซิล เปิดบูธของแบรนด์ทั้ง 4 พร้อมจัดงานแถลงข่าวในวันแรกของการจัดนิทรรศการ โดยมีลีดเดอร์จากลิกซิล อินเตอร์เนชันแนล อาทิ บิจอย โมฮาน (Bijoy Mohan) ผู้นำ ลิกซิล อินเตอร์เนชันแนล ชินจิ อิโต (Shinji Ito) ผู้นำกลุ่มธุรกิจอุปกรณ์ติดตั้งของลิกซิล อินเตอร์เนชันแนล ธอมัส ฟัวร์ (Thomas Fuhr) ผู้นำกลุ่มธุรกิจอุปกรณ์ฟิตติ้งของลิกซิล อินเตอร์เนชันแนล และ พอล ฟลาวเออส (Paul Flowers) ผู้นำฝ่ายออกแบบระดับโลกของลิกซิล อินเตอร์เนชันแนล พร้อมด้วยลีดเดอร์ลิกซิลจากเอเชียอย่าง อันทวน เบแซร์ เดส์ ออรส์ (Antoine Besseyre des Horts) ผู้นำฝ่ายออกแบบระดับโลกของ ลิกซิลเอเชีย ร่วมพูดคุยทางออนไลน์กับสื่อมวลชนและคู่ค้าธุรกิจ โดยมี อเดล เตา (Adele Tao) ผู้นำกลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีการใช้น้ำของลิกซิลประจำจีนแผ่นดินใหญ่ และทีมงานของเธอเป็นหัวหอกในการประชุมเพื่อตอกย้ำความสำเร็จของลิกซิลตลอดทศวรรษที่ผ่านมา

ปีพ.ศ. 2564 นับเป็นก้าวสำคัญของแบรนด์ เนื่องจากเป็นโอกาสที่ลิกซิลครบรอบ 10 ปี ลิกซิลได้ถูกก่อตั้งขึ้นเมื่อปีพ.ศ. 2554 จากการควบรวมกันของ 5 กิจการบริษัทวัสดุก่อสร้างและที่อยู่อาศัยที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดของญี่ปุ่นอย่าง ทอสเท็ม (TOSTEM) อิแนกซ์ (INAX) ชิน นิกเกอิ (Shin Nikkei) ซันเวฟ (Sunwave) และ โทเอ็กซ์ (TOEX) โดยในปัจจุบันแบรนด์ระดับโลกเหล่านี้ได้กลายมาเป็นส่วนหนึ่งของลิกซิลควบคู่ไปกับ อเมริกันสแตนดาร์ด (American Standard) และ โกรเฮ่ (GROHE) ด้วยแนวความคิดที่คล้ายคลึงกันและนำเสนอการผสมผลิตภัณท์ที่ช่วยเสริมมูลค่าผลิตภัณฑ์ได้ดียิ่งขึ้น จึงทำให้ลิกซิลสามารถตอบสนองไลฟ์สไตล์ ตลอดจนความพึงพอใจด้านสุนทรียภาพที่หลากหลายของผู้บริโภคได้

บิจอย โมฮาน ผู้นำ ลิกซิล อินเตอร์เนชันแนล กล่าวว่า แม้แต่ละแบรนด์ของเราจะมีบุคลิกและจุดแข็งที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง แต่ต่างก็นำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีใครเทียบได้และสามารถตอบสนองความต้องการและความชอบของผู้บริโภคได้อย่างเต็มที่ เราภูมิใจที่จะนำเสนอนวัตกรรมอีกมากมายให้กับผู้บริโภคของเราในช่วงแห่งวาระการเฉลิมฉลองครบรอบ 10 ปีของการก่อตั้งลิกซิลกรุ๊ปในงาน KBC 2021 ซึ่งเป็นงานแสดงสินค้าเครื่องครัวและสุขภัณฑ์ระดับชั้นนำแห่งหนึ่งในเอเชีย

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ลิกซิลได้ปรับใช้กลยุทธ์ของการมีสินค้าหลากหลายประเภท ภายใต้แบรนด์ที่หลากหลาย (Multi-Brand and Multi-Category) ในทวีปเอเชีย เพื่อตอบสนองความความต้องการในผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายในกลุ่มผู้บริโภคที่แตกต่างกันได้อย่างเต็มที่ โดยได้รับความไว้วางใจในกลุ่มผลิตภัณฑ์ระดับชั้นนำและบริการที่เปี่ยมไปด้วยคุณภาพ รวมเป็นจุดแข็งของลิกซิลที่ต่างเป็นที่รู้จักและได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางจากลูกค้าและผู้ใช้งานจริง

ซาโตชิ โคนาไก ผู้นำกลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีการใช้น้ำของลิกซิลประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก กล่าวว่า เราได้เรียนรู้สิ่งต่าง ๆ มากมายจากการรับมือกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน และนับเป็นเรื่องดีที่ได้เห็นว่าตลาดเริ่มกลับมาเคลื่อนไหวอีกครั้ง การแพร่ระบาดอย่างต่อเนื่องส่งผลให้เกิดความต้องการที่เพิ่มขึ้นในตัวผลิตภัณฑ์และโซลูชันเพื่อสุขอนามัยที่ดี และเนื่องจากผู้บริโภคใช้เวลาอยู่ในบ้านมากขึ้น ความต้องการในประสบการณ์ด้านสปาที่บ้าน (Home Spa Experiences) ก็ค่อย ๆ มีมากขึ้นเช่นกัน ในฐานะที่เป็นบริษัทขับเคลื่อนด้วยจุดมุ่งหมาย (Purpose-Driven Company) เราจะก้าวเป็นผู้นำในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่เปี่ยมด้วยนวัตกรรมและความแปลกใหม่เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค และการที่จีนเป็นเจ้าภาพการจัดงาน KBC ในปีนี้ นับเป็นเครื่องยืนยันถึงความเชื่อมั่นของเราว่าอุตสาหกรรมทั่วโลกกำลังเริ่มฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง

นวัตกรรมและการยึดผู้บริโภคเป็นศูนย์กลางถือเป็นหัวใจสำคัญในการดำเนินธุรกิจของลิกซิล องค์กรมีการเฝ้าสังเกตและรวบรวมข้อมูลของผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง เพื่อทำความเข้าใจถึงความต้องการเชิงลึกหรือแม้กระทั่งความต้องการที่แฝงอยู่ของผู้บริโภค อย่างในยุค New Normal ที่ผู้บริโภคได้หันมาให้ความสำคัญกับสุขอนามัยและความเป็นอยู่ที่ดีมากยิ่งขึ้น ทำให้เห็นถึงความต้องการในผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีอย่าง ก๊อกน้ำแบบไร้สัมผัส (Touchless Faucets) และโซลูชันที่รองรับ IoT (IoT Enabled Solutions) ที่มากขึ้นตามเช่นกัน

ซาโตชิ กล่าวเสริมว่า จุดแข็งของเราอยู่ที่การก้าวนำหน้าในด้านนวัตกรรม การเป็นองค์กรระดับโลกนั้นยังทำให้เราได้เปรียบเหนือคู่แข่ง เนื่องจากเราสามารถใช้ขีดความสามารถและเทคโนโลยีชั้นเลิศด้านการวิจัยและพัฒนา การออกแบบ และการตลาดได้จากทั่วโลก ลิกซิลได้ตอบสนองต่อเทรนด์ในระดับมหภาค (Macro Trend) ที่สำคัญทั้งในด้านสุขภาพ ความเป็นอยู่ และพื้นที่ใช้สอยอเนกประสงค์ โดยมุ่งเน้นไปที่การค้าปลีกและการเร่งการพัฒนาก๊อกน้ำและโถสุขภัณฑ์ระบบเซ็นเซอร์เพื่อลดการสัมผัส วัสดุพื้นผิวกันแบคทีเรีย ระบบกรองน้ำ ฝารองนั่งสุขภัณฑ์ระบบอัตโนมัติ และโถสุขภัณฑ์อัจฉริยะชนิดลดการสัมผัส

“ในช่วงการเกิดโรคระบาด เรายังคงเดินหน้าสร้างสายผลิตภัณฑ์ที่ขับเคลื่อนด้วยแพลตฟอร์มระดับโลก โดยมีมูลค่าการขายกว่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐเมื่อนับรวมจากทุกแบรนด์ในเครือของเรา นับเป็นกุญแจสำคัญเนื่องจากมีความต้องการในการปรับปรุงบ้านเพิ่มสูงขึ้น เพราะผู้คนเลือกใช้เวลาอยู่อาศัยที่บ้านกันมากขึ้นในปัจจุบันนี้” ซาโตชิ กล่าวเสริมในตอนท้าย

เมื่อเร็ว ๆ นี้ ลิกซิลได้เปิดศูนย์การออกแบบสุดล้ำแห่งใหม่ในสิงคโปร์ (จากเดิมตั้งอยู่ที่ประเทศไทย) นับเป็น 1 ใน 6 ศูนย์การออกแบบของลิกซิลทั่วโลก อีกทั้งยังเป็นศูนย์การออกแบบแห่งเดียวในเอเชียนอกประเทศญี่ปุ่นอีกด้วย ทั้งนี้ลิกซิลยังคงเดินหน้าลงทุนต่อในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เพื่อเปิดทางสู่การพัฒนาอุตสาหกรรมอย่างครอบคลุมผ่านนวัตกรรมและเทคโนโลยี

ไฮไลท์สำคัญของแบรนด์ในเครือลิกซิล ณ มหกรรม KBC ประกอบไปด้วย

อเมริกันสแตนดาร์ด (American Standard)

American Standard Booth

อเมริกันสแตนดาร์ด มีชื่อเสียงในด้านคุณภาพและนวัตกรรมที่สั่งสมมายาวนานมากกว่า 140 ปี โดยเป็นแบรนด์ที่นำเสนอโซลูชันห้องน้ำที่ผสานการออกแบบอย่างพิถีพิถันกับนวัตกรรมเทคโนโลยีเข้าไว้ด้วยกัน ทั้งนี้อเมริกันสแตนดาร์ดได้สร้างนิยามของมาตรฐานใหม่ทั้งในด้านสุขอนามัย ความปลอดภัย ความรับผิดชอบ และความสวยงาม ผ่านโซลูชันที่ผสมผสานระหว่างความสะดวกสบายและประสิทธิภาพสูงสุด

ในมหกรรม KBC 2021 อเมริกันสแตนดาร์ด จะจัดแสดงผลิตภัณฑ์ในธีม “การออกแบบที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อการใช้ชีวิตอย่างสะดวกสบาย (Purposeful Designs for a Comfortable Living)” พร้อมนำเสนอสุขภัณฑ์อัจฉริยะ อาทิรุ่น E-Lite Shower Toilet และ Smart-Air E-Bidet ซึ่งประกอบไปด้วยฟังก์ชันที่เป็นประโยชน์ในการมอบประสบการณ์การใช้งานห้องน้ำที่สะดวกสบายและถูกสุขอนามัย นอกจากนี้ยังมีการจัดแสดงโซลูชันการดูแลด้านการแพทย์และผู้สูงอายุ ซึ่งจะเป็นชุดโซลูชันนวัตกรรมห้องน้ำใหม่ที่สามารถมอบความสะดวกสบายให้กับทั้งผู้ใช้งานในบ้าน (Residential Users) และ ผู้ใช้งานเชิงพาณิชย์ (Commercial Users)

โกรเฮ่ (GROHE)

GROHE Booth

หากผลิตภัณฑ์ล้ำสมัยคือหัวใจสำคัญในการแข่งขันของลิกซิลแล้ว “การออกแบบ” ก็นับเป็นหนึ่งในตัวขับเคลื่อนที่สำคัญของกลยุทธ์การสร้างความแตกต่างของแบรนด์ โดยในปีนี้ โกรเฮ่จะทำการสื่อสาร “เปลี่ยนอนาคตการใช้น้ำ (Shaping the Future of Water)” เพื่อสื่อสารว่าแบรนด์สามารถเปลี่ยนอนาคตการใช้น้ำในอุตสาหกรรมได้อย่างไร นอกจากนี้จะมีการเปิดตัว โกรเฮ่ สปา (GROHE SPA ) ในฐานะแบรนด์หรูอิสระ ผ่านการนำเสนอ 2 คอลเลคชันแรกที่ส่งมอบคอนเซปต์ “สุขภาพดีผ่านการใช้น้ำ (Health Through Water)” ให้กับบ้านและโรงแรมหรู โดยฟิตติ้งและอุปกรณ์ในห้องน้ำในคอลเลคชัน The New GROHE SPA New Allure ที่แสนหรูหรานั้นได้รับการออกแบบมาอย่างพิถีพิถัน และมาพร้อมสีสันที่ลงตัว อีกทั้งระบบฝักบัวติดเพดานแบบโมดูลาร์รุ่นใหม่ของ The new GROHE SPA Rainshower Aqua ก็มาพร้อมกับหัวสเปรย์ที่มีให้เลือกมากถึง 5 รูปแบบ รวมถึงสายน้ำสำหรับช่วงลำตัวของ GROHE SPA AQUA ที่จะมอบประสบการณ์การอาบน้ำรูปแบบสปาที่แสนสงบ ผ่อนคลาย และปลุกความรู้สึกของคุณให้กระปรี้กระเปร่ายิ่งขึ้น

อิแนกซ์ (INAX)

INAX Booth

การจัดสรรพื้นที่ที่มีปริมาณจำกัดอย่างชำนาญและการสร้างโลกที่สวยงามภายในพื้นที่นั้น คืองานศิลปะที่ผู้คนปรารถนาในประเทศญี่ปุ่น ในฐานะที่เป็นแบรนด์เชื้อสายญี่ปุ่นที่แข็งแกร่ง ลิกซิลได้ผสมผสานสุนทรียศาสตร์และไลฟ์สไตล์แบบฉบับของญี่ปุ่นเข้ากับดีเอ็นเอการออกแบบของตัวเอง ในปีนี้ อิแนกซ์ จะจัดแสดงในธีม “แสงและเงา ความใส่ใจที่เรามีให้คุณทั้งกลางวันและกลางคืน (Light and Shadow, Caring for You Day and Night)” นำเสนอผลิตภัณฑ์รุ่น S600 LINE ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากสถาปัตยกรรมของญี่ปุ่น เพื่อสร้างพื้นที่แห่งความงามขั้นสุดผ่านการเล่นแสงและเงาอย่างชำนาญ มาพร้อมโซลูชันห้องน้ำที่มีระบบฝักบัวอัจฉริยะ, อ่างล้างหน้า Cerafine™, ฝักบัวและนวัตกรรมโถสุขภัณฑ์และฝารองนั่งอัจฉริยะ ที่ได้รวบรวมเทคโนโลยีของญี่ปุ่นที่มีความพิถีพิถัน ผสานเข้ากับไอเดียการต้อนรับแสนละเมียดละไมในแบบญี่ปุ่น เพื่อสร้างช่วงเวลาอันเงียบสงบและมอบความสะดวกสบายสูงสุดในการใช้ห้องน้ำ นอกจากนี้คอลเลกชันที่ได้รับรางวัลยังรวมไปถึงสุขภัณฑ์อัจฉริยะรุ่น SATIS G ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีชั้นนำอย่าง Aqua Ceramic, Plasmacluster® และ Powerful Air Shield Deodorizer เพื่อให้ผู้ใช้งานได้สัมผัสประสบการรณ์การชำระล้างอย่างถูกสุขอนามัยมากที่สุด

ลิกซิล คิทเช่น (LIXIL Kitchen)

LIXIL Kitchen Booth

ในปีนี้ ลิกซิล คิทเช่นมาพร้อมกับแนวคิดอย่าง เทคโนโลยีที่เหมาะกับมนุษย์และการออกแบบที่เหมาะกับการอยู่อาศัย (Human Fit Technology and Living Fit Design) สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสำหรับห้องครัวแบบตะวันออก นำความงดงามแบบฉบับญี่ปุ่นมาผสานเข้ากับห้องครัวแบบจีน โดยลิกซิล คิทเช่นพร้อมที่จะสร้างพื้นที่สำหรับการทำอาหารอันเป็นเอกลักษณ์ในบ้านของคุณ ด้วยชุดผลิตภัณฑ์ระดับไฮเอนด์แบบครบชุด

A&W 102 ปี ตำนานความอร่อยสไตล์อเมริกัน

เป็นแบรนด์ที่ครองใจคนทั้งโลกมาอย่างยาวนานถึง 102 ปีเต็ม สำหรับ A&W (เอ แอนด์ ดับบลิว) แบรนด์ร้านอาหารความอร่อยสไตล์อเมริกัน และถือเป็น 38 ปีเต็มที่ก่อตั้งขึ้นในเมืองไทย โดยปัจจุบันภายใต้การบริหารโดย บริษัท โกลคอล คอนซูเมอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ GLOCON ล่าสุดเพื่อเป็นการฉลองในโอกาสครบรอบ 102 ปี เตรียมดันกลยุทธ์พร้อมงัดหมัดเด็ดสู้ศึกสภาวะเศรษฐกิจ ให้กลุ่มผู้บริโภคได้ทานอาหารคุณภาพดีในราคาสบายกระเป๋ากับโปรเด็ด SUPER SAVE ในราคาเบาๆ 102 บาท

หลุยส์ เตชะอุบล ประธานกรรมการบริหาร และรักษาการกรรมการผู้จัดการ บริษัท โกลบอล คอนซูเมอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ GLOCON

นางสาวหลุยส์ เตชะอุบล ประธานกรรมการบริหาร บมจ.โกลคอน คอนซูเมอร์ (GLOCON) กล่าวว่า  “A&W เป็นแบรนด์ที่มีประวัติยาวนานมาถึง 102 ปี โดยคนทั่วโลกชื่นชอบและจดจำแบรนด์รวมถึงเมนู ซึ่งถือเป็นจุดแข็งของแบรนด์เป็นอย่างมาก และคนที่ชื่นชอบความอร่อยสไตล์อเมริกัน ก็จะนึกถึง A&W เป็นท็อปออฟมายแบรนด์ในใจของพวกเขา เมนูเด่นๆ ที่ขายดีตลอดกาล และทุกคนพูดถึงนั่นคือ รูทเบียร์ ซิกเนเจอร์ ซึ่งหาทานที่อื่นไม่ได้ ต้องแวะเวียนมาทานที่ A&W เท่านั้น จากความยาวนานของแบรนด์ ทำให้เราต้องเพิ่มความน่าสนใจให้กับแบรนด์อยู่เสมอ ไม่หยุดนิ่งในการพัฒนา โดยเฉพาะหัวใจหลัก นั่นคือ เมนูที่จะทำให้คนชื่นชอบและเกิดการบอกต่อ ซึ่งเราพยายาม R&D เมนูใหม่ๆ ให้แฟนประจำของแบรนด์ได้ลองอะไรใหม่ๆ รวมถึงมีเมนูใหม่ๆ ในการดึงกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ มาเพิ่มเติมด้วย ในขณะเดียวกัน เราก็ยังคงคุณภาพของเมนูอาหารที่มีอยู่ในร้านให้เกิดการซื้อซ้ำมากที่สุด”

“ในโอกาสครบรอบ 102 ปี ทั้งที แน่นอนว่าเราต้องจัดใหญ่ไม่ธรรมดา โดยเรามีแคมเปญเฉลิมฉลอง 102 ปี ร่วมกับ A&W ทั่วโลกในช่วงไตรมาส 2 ของปีนี้ ในการปรับรูปแบบโลโก้ มีการนำเอาเลข 102 เข้ามาเพื่อให้คนจดจำ แต่เพิ่มลูกเล่นให้มีความน่าสนใจ และเน้นย้ำในทุกข่องทางต่างๆ ทั้งแฟลกชิพสโตร์ และฟู้ดทรัคของเรา พร้อมทั้งมีเมนู SUPER SAVE ในราคา 102 บาท แต่ความคุ้มค่าคือลูกค้าจะได้ทานถึง 5 เมนูในเซ็ตนี้ ที่จะประกอบด้วย นักเก็ตไก่ เมจิกฟรายส์ ข้าวลาบไก่กรอบ ชิคเก้นแรปแอนด์โรล และรูทเบียร์ ที่เป็นซิกเนเจอร์ดริ้งค์ของเรา โดยมีจำหน่ายเฉพาะที่สาขา ซึ่งเป็นกลยุทธ์ในการสร้างทราฟฟิคให้คนมาที่ร้านของเราเพิ่มการบอกต่อให้มากขึ้น นอกจากนั้นในปีนี้ เรายังเน้นกระจายสาขาต่างๆ โดยใช้กลยุทธ์บุกไปหาทุกๆคนให้เราได้ใกล้กันมากขึ้น โดยกระจาย A&W Food Truck เสิร์ฟความอร่อยประจำจุดต่างๆ ในกรุงเทพ และจะได้เห็นจำนวนเพิ่มมากขึ้นภายในปีนี้ นอกจากนั้น ในช่วงครึ่งปีหลังจะได้เห็นมูฟเม้นท์ใหม่ๆ ของแบรนด์ โดยเน้นกลยุทธ์ Co-partner เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้เรามีเมนูใหม่ๆ ที่หลากหลายและเป็นทางเลือกให้กับแบรนด์มากยิ่งขึ้น ซึ่งอยากให้รอติดตามกัน” นางสาวหลุยส์ กล่าวเพิ่มเติม

พบกับโปรโมชั่นคุ้มๆ แบบ SUPER SAVE ในราคา 102 บาท และเมนูยอดฮิต และเมนูใหม่ๆ ที่พร้อมเสิร์ฟให้อร่อยใกล้บ้านผ่าน เอ แอนด์ ดับบลิว แฟลกชิพ สโตร์ และฟู้ด ทรัค ทั่วกรุงเทพและปริมณฑล รายละเอียดและโปรโมชั่นโดนๆ ติดตามได้ทาง https://facebook.com/awthai/

SCN ยอดขายกลุ่มธุรกิจก๊าซธรรมชาติเติบโตก้าวกระโดด

ดร.ฤทธี กิจพิพิธ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สแกน อินเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCN ผู้นำด้านธุรกิจพลังงาน พลังงานหมุนเวียน และยานยนต์ที่ใช้พลังงานทางเลือก เผยว่า กลุ่มธุรกิจก๊าซธรรมชาติของบริษัทกลับมาเติบโตอย่างก้าวกระโดด จากที่ก่อนหน้านี้ ธุรกิจ iCNG ได้กลับมามียอดขนส่งแตะ 4,000 MMBTU ต่อวัน หลังจากสถานการณ์โควิด อีกทั้งยังได้รับแรงหนุนจากราคาน้ำมันดิบและถ่านหินที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น ทำให้ยอดขายในกลุ่มธุรกิจธรรมชาติเติบโตต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นสถานีก๊าซธรรมชาติหลัก ปั๊ม NGV รวมถึงธุรกิจขนส่งก๊าซธรรมชาติ

นอกจากนี้ยังได้รับผลบวกจากการที่กลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรมรายใหม่ที่หันมาสนใจใช้ iCNG มากขึ้น เนื่องจากเป็นเชื้อเพลิงจากก๊าซธรรมชาติที่มีราคาถูกกว่า ไม่ผันผวน มีเสถียรภาพชัดเจน และยังเป็นเชื้อเพลิงสะอาด ช่วยลดการปล่อย CO2  ยิ่งทำให้ธุรกิจก๊าซธรรมชาติของบริษัทอยู่ในจุดที่กำลังรุ่งโรจน์ไม่น้อยหน้าธุรกิจอื่น

ดร.ฤทธี กิจพิพิธ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า บริษัท สแกน อินเตอร์ จำกัด (มหาชน) เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านก๊าซธรรมชาติอย่างครบวงจร มีความพร้อมต่อการรองรับปริมาณงานและการให้บริการด้านก๊าซธรรมชาติอย่างมืออาชีพ เรามั่นใจว่าผลประกอบการจากธุรกิจก๊าซธรรมชาติที่ดีขึ้นนับจากนี้ จะสามารถช่วยผลักดันผลประกอบการของบริษัทให้เติบโตอย่างแข็งแกร่งและโดดเด่นกว่าปีที่ผ่านมาตามเป้าที่วางไว้