กรุงศรี x SC ASSET มอบสินเชื่อบ้านดอกเบี้ยสุดพิเศษ

กรุงศรี (ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)) ในฐานะองค์กรที่ขับเคลื่อนด้วยการยึดความต้องการของลูกค้าเป็นศูนย์กลาง และเข้าใจถึงความต้องการของลูกค้าที่อยากมีบ้านหรือที่อยู่อาศัยเป็นของตัวเองร่วมกับคู่เพื่อนที่เราต้องการใช้ชีวิตร่วมกันในระยะยาว อันจะช่วยเพิ่มคุณภาพชีวิตและเชื่อมความสัมพันธ์อันดีให้แก่ลูกค้าทุกกลุ่มอย่างเท่าเทียมกัน จับมือผู้นำธุรกิจอสังหาฯ SC ASSET จัดแคมเปญ Rainbow Over Your House ในโอกาส Pride Month เดือนแห่งความภาคภูมิใจของกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศ (LGBTQ+) เปิดโอกาสให้คู่เพื่อน หรือคู่รัก LGBTQ+ ที่ต้องการใช้ชีวิตร่วมกัน และสนใจที่อยู่อาศัยในโครงการของ SC ASSETสามารถเข้ารับคำปรึกษาเรื่องการกู้บ้านง่ายๆ กับกรุงศรีในงาน “Rainbow Over Your House” ซึ่งจัดขึ้นในวันที่ 5-6 มิถุนายนนี้ ที่โครงการแกรนด์ บางกอก บูเลอวาร์ด อีสท์ พระราม9, บางกอก บูเลอวาร์ด พระราม9, และ เวนิว พระราม 9 โดยกรุงศรีเตรียมข้อเสนอพิเศษ ด้วยอัตราดอกเบี้ยต่ำสุด 3 ปีแรก เฉลี่ยที่ 2.40% ต่อปี สำหรับผู้สนใจที่อยู่อาศัยในโครงการของ SC Asset และจดจำนองสินเชื่อบ้านภายในวันที่ 30 มิถุนายน 2564 ลูกค้าที่สนใจสามารถลงทะเบียนจองคิวเพื่อเข้าชมโครงการและรับคำปรึกษาล่วงหน้า ได้ที่ Call 1749 หรือติดต่อทาง Line: @scasset

สำหรับคู่เพื่อนที่ต้องการใช้ชีวิตร่วมกันและกำลังมองหาสินเชื่อเพื่อซื้อบ้านร่วมกัน สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมหรือขอรับคำปรึกษาได้ที่ https://www.krungsri.com/th/personal/loans/home-loans/friend-relationship

โฮมโปรฉลองครึ่งปี 6:6 DOUBLE DAY DOUBLE DEAL

เติมความสุขครึ่งปีแรก เดินหน้ารับความคุ้ม กับโปรลดแรงฉลองวันคู่ HomePro 6:6 “Double Day Double Deal” !! ดีลจัดเต็มลดจุใจ สินค้าครบคุ้ม ตอบทุกโจทย์คนรักบ้าน !! มาพร้อมสิทธิพิเศษให้เยอะกว่าเดิม ไม่ว่าจะเป็น สินค้า และของตกแต่งบ้านราคาโดนใจ ลด 5-20% !! พร้อมแจกส่วนลดกันต่อเนื่อง ให้มากกว่าสำหรับ สมาชิกบัตรโฮมการ์ด รับส่วนลดเพิ่มสูงสุด 20% (เมื่อใช้คะแนนโฮมการ์ดเท่ายอดซื้อ ที่สาขา) และสมทบความคุ้มต่ออีกขั้น สำหรับสมาชิก 4 บัตรเครดิตชั้นนำ บัตรเครดิตโฮมโปร วีซ่า แพลทินัม, บัตรเครดิต SCB, บัตรเครดิต KTC และบัตรเครดิตธนาคารกรุงเทพ ได้ส่วนลด+รับเพิ่ม สูงสุดอีกถึง 15% (เมื่อใช้คะแนนเท่ายอดชำระ) งานนี้ห้ามพลาดเด็ดขาด !! ฉลองความสุขรับครึ่งปีพร้อมกัน ที่โฮมโปรทุกสาขาทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 4 มิถุนายน 64 – 7 มิถุนายน 64 นี้

ช้อปออนไลน์ได้ที่ www.homepro.co.thหรือ ทักมาเราช้อปให้ที่ LINE: @HomePro กับบริการ SHOP 4 YOU หรือ Click & Collect คลิกช้อปรับที่สาขา และ Sameday Delivery ซื้อวันนี้ ส่งวันนี้

DITP เผยอาหารฮาลาลไทยเป็นที่ยอมรับตลาดโลก

กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) ส่งออกอาหารฮาลาลไทย ยังคงได้รับความเชื่อมั่นจากทั่วโลก เร่งยกระดับมาตรการป้องกันปนเปื้อนโควิด-19 พร้อมเดินหน้า “โครงการประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์สินค้าอาหารไทยปลอดการปนเปื้อนเชื้อไวรัสโคโรนา 2019” (Thailand Delivers with Safety) วางเป้าปีนี้ส่งออกอาหารฮาลาลไปยังประเทศมุสลิม (OIC) มูลค่า 122,087.61 ล้านบาท

นายสมเด็จ สุสมบูรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า จากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ส่งผลให้ทั่วโลกเกิดความกังวลด้านอาหารปลอดภัยมากขึ้น ที่ผ่านมากรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ได้ดำเนินโครงการต่าง ๆ เพื่อพัฒนาศักยภาพการตลาดฮาลาลสู่สากล อาทิ การสร้างภาพลักษณ์สินค้าและบริการฮาลาล การส่งเสริมการส่งออกสินค้าฮาลาลไปยังกลุ่มประเทศเป้าหมาย ฯลฯ ซึ่งการส่งออกอาหารฮาลาลไทย ยังคงได้รับความเชื่อมั่นด้วยกระบวนการผลิตตามบทบัญญัติศาสนาอิสลาม มีข้อกำหนดที่มาของวัตถุดิบ ส่วนผสม กรรมวิธีการผลิต กระบวนการเพาะปลูกการเพาะเลี้ยง และการปฏิบัติของบุคลากรในกระบวนการผลิตอย่างเคร่งครัด เพื่อให้ปลอดภัยจากสิ่งต้องห้าม โดยได้รับการตรวจสอบและรับรองเครื่องหมายฮาลาลจากสำนักงานคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศ

นอกจากนี้ เพื่อความปลอดภัยของผู้บริโภคและเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับคู่ค้าทั่วโลก กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศได้บูรณาการกับภาครัฐและภาคเอกชนที่เกี่ยวข้อง ยกระดับกระบวนการผลิต ด้วยการออกมาตรการป้องกันการปนเปื้อนเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ในกระบวนการผลิตอาหารเพื่อการส่งออกอย่างเข้มงวด เพื่อเป็นแนวทางปฏิบัติสำหรับผู้ผลิต ผู้ส่งออก ผู้ประกอบการ ผู้จัดส่งวัตถุดิบ อาหารแช่เยือกแข็ง รวมถึงผู้ประกอบการโลจิสติกส์ ให้ปฏิบัติในแนวทางเดียวกัน โดยมาตรการดังกล่าว มุ่งให้ผู้ประกอบการ และ Supplier ที่เกี่ยวข้องกับการจัดส่งวัตถุดิบจากเรือ หรือท่าเรือ เพิ่มความเข้มข้นในการลดความเสี่ยงจากการปนเปื้อนมากับวัตถุดิบ Ingredient และภาชนะบรรจุ โรงงานผู้ผลิตต้องมีการควบคุมกระบวนการผลิตที่เข้มงวด ทั้งคุณภาพและความปลอดภัยในการรับวัตถุดิบจากเรือ หรือท่าเรือ การจัดเก็บในห้องเย็น การแปรรูป การบรรจุ รวมถึงมาตรการในการขนส่ง การทำความสะอาดและฆ่าเชื้อภายในตู้คอนเทนเนอร์ การควบคุมสุขอนามัยของพนักงานและสิ่งแวดล้อมในโรงงาน ตั้งแต่สถานที่และอาคารผลิต ระบบสุขาภิบาล การเคร่งครัดในการทำความสะอาด และฆ่าเชื้อในอาคารผลิต เครื่องจักร พื้น ผนัง รวมทั้งพื้นที่ผิวจุดเสี่ยงที่มีการสัมผัสร่วมกันตามความถี่ที่เหมาะสม มีมาตรการคัดกรองบุคลากร สถานที่ทำงาน การอบรม ให้พนักงานมีความรู้ในการป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เพื่อการปฏิบัติตนอย่างถูกต้องเหมาะสม

“นอกจากการยกระดับมาตรการที่เข้มข้นแล้ว เรายังเดินหน้าสร้างความเชื่อมั่นให้กับคู่ค้าโดยการจัด “โครงการประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์สินค้าอาหารไทยปลอดการปนเปื้อนเชื้อไวรัสโคโรนา 2019” (Thailand Deliver with Safety) โดยคุมเข้มมาตรการป้องกันการปนเปื้อนเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) เพื่อให้ผู้ผลิต ผู้ส่งออก ผู้ประกอบการ ผู้จัดส่งวัตถุดิบ รวมถึงผู้ประกอบการโลจิสติกส์ ปฏิบัติในแนวทางเดียวกัน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับคู่ค้าทั่วโลก และเป็นการตอกย้ำว่าไทยมีศักยภาพในการเป็นผู้ผลิตอาหาร และมีเทคโนโลยีในการผลิตที่ทันสมัยมีคุณภาพตามมาตรฐานสากล มีความปลอดภัยทุกขั้นตอน ตั้งแต่การผลิตวัตถุดิบ การเก็บเกี่ยว การขนส่ง มีระบบป้องกันตนเองของพนักงานในโรงงาน การบรรจุ และการขนส่งจนถึงมือผู้บริโภค”นายสมเด็จ กล่าว

สำหรับทิศทางการส่งออกอาหารฮาลาลในปี 2564 ประเทศไทยมีเป้าหมายการส่งออกไปยังประเทศมุสลิม (OIC) มูลค่าประมาณ 122,087.61 ล้านบาท อัตราการส่งออกเพิ่มขึ้นร้อยละ 3 โดยในปี 2563 มีมูลค่าส่งออก 118,531.66 ล้านบาท ซึ่งประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศผู้ผลิตสำคัญในการป้อนสินค้าฮาลาลประเภทต่าง ๆ ที่มีคุณภาพ มาตรฐาน และได้รับการยอมรับอย่างมากจากผู้บริโภคภายในประเทศและตลาดโลก ไม่ว่าจะเป็น ไก่ กุ้ง ทูน่ากระป๋อง ข้าว ผลไม้สดและแห้ง ผักสดแช่เย็นและแช่แข็ง ของขบเคี้ยว อาหารสำเร็จรูป frozen food, ready to eat food เครื่องสำอาง แฟชั่น เป็นต้น โดยกลุ่มสินค้าอาหารที่ส่งออกไปยังประเทศมุสลิมมากที่สุด คือ ข้าว น้ำตาลทราย อาหารทะเล กระป๋องและแปรรูป ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง ผลไม้กระป๋องและแปรรูป ตามลำดับ

ตลาดอาหารฮาลาล เป็นตลาดขนาดใหญ่และมีกำลังซื้อสูง มีมูลค่าตลาดทั่วโลกประมาณ 1.2 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งไทยมีความได้เปรียบในด้านโลจิสติกส์ และมีสินค้าที่มีความหลากหลายตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี และปัจจุบันไทยมีบริษัทที่ได้รับรองมาตรฐานอาหารฮาลาลประมาณ 5,000 บริษัท มีผลิตภัณฑ์ที่ขอรับการรับรองฮาลาลมากกว่า 160,000 รายการ (ข้อมูลของคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย)

ปัจจุบัน ไทยส่งออกสินค้าอาหารฮาลาลไปยังกลุ่มประเทศมุสลิมมากเป็นอันดับ 13 ของโลก โดยประเทศที่มีการส่งออกไปยังประเทศมุสลิมเป็นจำนวนมาก ได้ แก่ จีน สหรัฐอเมริกา เยอรมนี เนเธอร์แลนด์ ฝรั่งเศส อิตาลี สเปน อินเดีย เบลเยี่ยม บราซิล สหราชอาณาจักร แคนาดา อินโดนีเซีย และไทย ตามลำดับ

พิซซ่าควอตโตร ไซส์ใหญ่เต็มคำพิซซ่าแท้ 4 หน้าในถาดเดียว

โดมิโนส์ พิซซ่า พิซซ่าแท้สัญชาติอเมริกันเปิดมิติใหม่แห่งวงการพิซซ่าด้วยเมนู พิซซ่าควอตโตร (Quattro) มิกซ์หน้าอร่อย 4 หน้ารวมไว้ใน 1 เดียวด้วยหน้าท็อปฮิตถาดใหญ่อิ่มอร่อยเต็มคำที่มาเอาใจแฟนพันธุ์แท้พิซซ่าด้วย 3 หน้าหลักทั้งพิซซ่าควอตโตรต้นตำรับ ที่รวมหน้าฮาวายเอี้ยน, เอ็กซ์ตร้าวากันซ่า, อัลติเมท เปปเปอโรนี, เอ็กซ์ตรีมชีส พิซซ่าควอตโตรหมูทะเล ที่รวมหน้าฮาวายเอี้ยน, อัลติเมท เปปเปอโรนี, ค็อกเทลกุ้ง, ซีฟู๊ดไอส์แลนด์ และ พิซซ่าควอตโตรจ้าวสมุทร ที่รวมหน้าค็อกเทลกุ้ง, ซีฟู๊ดไอส์แลนด์, ซีฟู๊ดมาเนีย, ซีฟู๊ดไอส์แลนด์ มาพร้อมความพิเศษของแป้งที่มีให้เลือก 2 แบบไม่ว่าจะเป็นแป้งบางกรอบ (Thin & Crispy) กรอบอร่อยสไตล์อเมริกัน หรือแป้งหนานุ่ม (Classic Hand-Tossed) แป้งโดว์นวดสด นุ่มอร่อยด้วยสูตรลับเฉพาะของโดมิโน่ส์พิซซ่า

ทุกถาดเรารังสรรค์ด้วยความตั้งใจ แป้งพิซซ่าที่ดีที่สุด ชีสนำเข้าที่ดีที่สุดยืด หอม อร่อย กับท็อปปิ้งแน่นจัดเต็ม เพื่อให้แฟนพิซซ่าอร่อยตั้งแต่คำแรกจนถึงคำสุดท้าย ทั้งนี้โดมิโนส์ พิซซ่า เรายังคงยึดมั่นและใส่ใจในการบริการด้วยมาตรการ Clean & Safe อร่อยปลอดภัย ลดเลี่ยงการสัมผัส พร้อมเดินหน้าให้บริการส่งความอร่อยให้คุณถึงหน้าบ้านด้วยความห่วงใยและความปลอดภัยสูงสุด

สำหรับเมนู พิซซ่าควอตโตร (Quattro) พร้อมเสิร์ฟร้อนสำหรับลูกค้าทุกสาขา หรือโทร 1612 สำหรับบริการส่งฟรีถึงบ้านแบบรวดเร็วทันใจ หรือสั่งออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ https://www.dominospizza.co.th/ ในราคาเริ่มต้น 299 บาท/ถาด เพื่อฉลองแคมเปญใหม่ จากปกติราคา 499 บาท/ถาด ยิ่งกว่านั้น เมื่อสั่งซื้อพิซซ่าควอตโตร (Quattro) สามารถแลกซื้อไก่ 6 ชิ้นในราคา 99 บาท (จากราคาปกติ 129 บาท) หรือแลกซื้อพาสต้าในราคา 99 บาท (จากราคาปกติ 129 บาท) สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ Facebook : https://www.facebook.com/DominosPizzaThailand และ Line Official : @dominospizzath

แม็คโคร ตั้งเป้าองค์กรปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์

บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) ประกาศเจตนารมณ์รับวันสิ่งแวดล้อมโลก ตั้งเป้าลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เป็นศูนย์ในปี 2573 ขับเคลื่อนธุรกิจสีเขียวตลอดห่วงโซ่ ลดปล่อยก๊าซเรือนกระจก ไปแล้ว 2 หมื่นตันคาร์บอนเทียบเท่าต่อปี พร้อมเดินหน้าหยุดขายโฟมบรรจุอาหารทุกสาขาทั่วประเทศสิ้นปี 2564

ดร.อนันต์ วัชรพงษ์วินิจ ผู้อำนวยการ ฝ่ายก่อสร้างและบริหารทรัพยากรอาคาร บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน)

ดร.อนันต์ วัชรพงษ์วินิจ ผู้อำนวยการ ฝ่ายก่อสร้างและบริหารทรัพยากรอาคาร บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา แม็คโครมีปรัชญาในการดำเนินธุรกิจเพื่อการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในทุกมิติ ตลอดห่วงโซ่ธุรกิจ เริ่มตั้งแต่การไม่ให้ถุงพลาสติกหูหิ้วตั้งแต่วันแรกของการเปิดดำเนินธุรกิจในประเทศไทย ซึ่งช่วยลดการทิ้งถุงพลาสติกลงสู่สิ่งแวดล้อมไปกว่า 4,400 ล้านชิ้น ล่าสุด เนื่องในวาระครบรอบ 32 ปีของแม็คโคร เราได้ประกาศเจตนารมณ์ในการตั้งเป้าลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เป็นศูนย์ ในปี 2573 ผ่านการวางโรดแมปการจัดการพลังงานที่มีประสิทธิภาพและการใช้พลังงานไฟฟ้าจากพลังงานสะอาด การส่งเสริมให้ลูกค้าผู้ประกอบการใช้บรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ผ่านแผนเชิงรุกในการหยุดขายโฟมบรรจุอาหารและทดแทนด้วยบรรจุภัณฑ์แบบย่อยสลายได้

ในปีนี้การดำเนินการเพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมของแม็คโคร ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี จากหลายโครงการ ทั้งการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่ติดตั้งบนหลังคา (Solar rooftop) จำนวน 52 สาขา ลดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกไปได้ประมาณ 20,000 ตัน CO2e ต่อปี เทียบได้กับการปลูกต้นไม้ 1.3 ล้านต้น , การบริหารจัดการพลังงานภายในอาคารอย่างมีประสิทธิภาพ จากการเปลี่ยนโคมไฟแสงสว่างเป็นหลอด LED ประสิทธิภาพสูง ใน 26 สาขา การบริหารจัดการระบบทำความเย็นและน้ำยาทำความเย็นที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ของระบบตู้แช่อาหารสด รวมทั้ง เปลี่ยนเครื่องทำความเย็น (Chiller) ระบบปรับอากาศที่มีประสิทธิภาพสูง จำนวน 17 สาขา ทำให้ลดการใช้พลังงานไฟฟ้าลง 5,460,000 กิโลวัตต์ชั่วโมง ลดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกไปได้ 2,800 ตัน CO2e ต่อปี

ไม่เพียงเท่านั้น หลังจากประกาศความเป็นผู้นำธุรกิจค้าส่งไทยรายแรกที่ตั้งเป้าลดการจำหน่ายภาชนะโฟมใส่อาหารแบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง ผ่านโครงการแม็คโครรักษ์โลก Say Hi to Bio, Say No to Foam ในปี 2562 จนถึงปัจจุบันแม็คโคร 52 สาขา หยุดจำหน่ายโฟมบรรจุอาหาร ลดการจำหน่ายไปแล้วกว่า 32.78 ล้านชิ้น ซึ่งโครงการนี้มีเป้าหมายหยุดขายโฟมบรรจุอาหารในทุกสาขาทั่วประเทศภายในปี 2564 นอกจากหยุดยั้งการสร้างขยะย่อยสลายยากให้แก่โลกแล้ว แม็คโครยังจัดกิจกรรมรณรงค์ผู้ประกอบการร้านอาหาร ร้านโชห่วย ที่เป็นกลุ่มลูกค้าหลักที่สำคัญ หันมาใช้บรรจุภัณฑ์ย่อยสลายง่ายเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง

ดร.อนันต์ กล่าวอีกว่า นอกเหนือจากวิกฤตโควิด-19 เราทุกคนยังต้องเผชิญกับภาวะโลกร้อนอย่างต่อเนื่อง ทุกภาคส่วนบนโลกจึงล้วนมีส่วนสำคัญในการสร้างความเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น เช่นเดียวกับการดำเนินงานและ พันธกิจของแม็คโคร ที่มุ่งสู่การเป็นธุรกิจสีเขียวตลอดห่วงโซ่ ตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ สร้างความตระหนักและชวนเชิญลูกค้าประชาชนให้เห็นความสำคัญของวิกฤตการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศที่กำลังเกิดขึ้นทั่วโลกด้วย

ทั้งนี้ แม็คโคร ได้รับรางวัลในด้านสิ่งแวดล้อมมากมาย อาทิ รางวัลประกาศเกียรติคุณในฐานะที่เป็นองค์กรที่สนับสนุนกิจกรรมการลดก๊าซเรือนกระจก (Low Emission Support Scheme) ด้านการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานในอาคาร ประจำปี 2561 โดย องค์การบริการจัดการก๊าซเรือนกระจก, ในปี 2563 รับรางวัลด้านความยั่งยืนและสิ่งแวดล้อมระดับยอดเยื่ยม Platinum จากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค GSEE (Global Sustainable Energy and Environment) และโล่ห์ประกาศเกียรติคุณจากโครงการลดก๊าซเรือนกระจกภาคสมัครใจตามมาตรฐานของประเทศไทย (Thailand Voluntary Emission Reduction Programm : T-Ver) ประจำปี 2563 จำนวน 3 รางวัล

ดร.อนันต์ วัชรพงษ์วินิจ ผู้อำนวยการ ฝ่ายก่อสร้างและบริหารทรัพยากรอาคาร บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน)

พิซซ่า ฮัท เปิดเกมแข่งกินเผ็ดแบบ Virtual Challenge

พิซซ่า ฮัท 1150 (Pizza Hut) แบรนด์พิซซ่าระดับโลกภายใต้การบริหารของบริษัท พีเอช แคปปิตอล จำกัด จัดเกมการแข่งขัน “Hottest Pizza Challenge” ใครกันจะแน่กว่า…กับเมนู ซี้ดเด็ดฮัท ซัมยังฮอต ครั้งแรกในประเทศไทย ท้าผู้บริโภคมาประชันความเร็วและความอึดในการกินเผ็ดแบบสุดขั้วขั้นเทพ ลุ้นรับรางวัลมูลค่ารวมกว่า 100,000 บาท ! เปิดรับผู้แข่งขันตั้งแต่วันนี้จนถึง 16 มิถุนายน 2564

กติกาการแข่งขันง่ายมาก ผู้สมัครร่วมแข่งขันเพียงสั่งพิซซ่า ฮัท “ซี้ดเด็ดฮัท ซัมยังฮอต” ขนาดบิ๊กสไลซ์ (Big Slice) อย่างน้อย 1 ชิ้น แล้วบันทึกวิดีโอขณะรับประทานจนหมดชิ้น โดยห้ามดื่มน้ำและใช้นาฬิกาจับเวลาที่สามารถบันทึกเวลาเป็นหน่วยมิลลิวินาทีเพื่อแสดงเวลาตลอดการแข่งขัน เมื่อรับประทานหมดพูดสโลแกน “พิซซ่า ฮัท ซี้ดเด็ดฮัท ซัมยังฮอต เผ็ดซี้ดซี้ด ชีสเยิ้มเยิ้ม” จากนั้นโพสต์คลิปลงเฟซบุ๊กของตนเอง และพิมพ์ #Pizzahuthottestcontest #ซี้ดเด็ดฮัทซัมยังฮอต พร้อมโพสต์คลิปในคอมเมนต์ใต้โพสต์การแข่งขันในเฟซบุ๊ก Pizza Hut (TH) โดยผู้เข้าแข่งขัน 20 คนที่ทำเวลาได้ดีที่สุดในรอบแรกจะได้รับโทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟน WIKO Power U20 วีโก สมาร์ทโฟน พลังแบตยาว ตอบโจทย์ทุกความต้องการ คนละ 1 เครื่อง ทันที !

สำหรับผู้แข่งขันที่ทำเวลาดีที่สุดในรอบแรกจำนวน 5 คน จะผ่านเข้าไปแข่งต่อในรอบไฟนอลชิงรางวัลเงินสดในวันที่ 26 มิถุนายน 2564 เพื่อค้นหาผู้กล้าที่เอาชนะความเผ็ดซี้ดสุดโหดของ “ซี้ดเด็ดฮัท ซัมยังฮอต” จากพิซซ่า ฮัท ไปได้ โดยการแข่งขันรอบสุดท้ายจะจัดขึ้นในรูปแบบ LIVE ซึ่งได้รับเกียรติจากคุณปิงปอง-ธงชัย ทองกันทม พิธีกรสายเอนเตอร์เทน มาการันตีความสนุกแซ่บตลอดการแข่งขันอีกด้วย และผู้ชม ผู้เชียร์ที่อยู่ทางบ้านสามารถรับชมการแข่งขันและร่วมสนุกทายผลผู้ชนะผ่านทางคอมเมนต์ได้แบบเรียลไทม์

ผู้สนใจร่วมเกมการแข่งขัน “Hottest Pizza Challenge” ใครกันแน่กว่ากับเมนู ซี้ดเด็ดฮัท ซัมยังฮอต สามารถศึกษากติกา เงื่อนไข และรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://bit.ly/3bCFQYE* หรือเฟซบุ๊ก Pizza Hut (TH)

 

BEAUTY แต่งตั้งผู้แทนร้านค้าปลีกรายใหญ่ภาคตะวันออก

ดร.พีระพงษ์ กิตติเวชโภคาวัฒน์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.บิวตี้ คอมมูนิตี้ (BEAUTY) ลงนามในสัญญาร่วมกับ นายสมพงษ์ เกียรติยุทธชาติ กรรมการ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เอ็น.พี.ฟลาวเวอร์ ตัวแทนจำหน่ายเครื่องดื่มและสินค้าอุปโภคบริโภคในเขตภาคตะวันออก เพื่อแต่งตั้งเป็นผู้แทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์ โดยผ่านช่องทางจำหน่ายร้านค้าปลีกรายย่อย ครอบคลุมพื้นที่เขตภาคตะวันออก 8 จังหวัด ประกอบไปด้วย จังหวัดชลบุรี ฉะเชิงเทรา ระยอง จันทบุรี ตราด สระแก้ว ปราจีนบุรี และนครนายก ซึ่งมีจุดจำหน่ายรวมทั้งสิ้นกว่า 1,500 จุดจำหน่าย ณ สำนักงาน ห้างหุ้นส่วนจำกัด เอ็น.พี.ฟลาวเวอร์ จ.ชลบุรี

ชวนเหล่านักเขียนมาปล่อยของใน MAJOR WRITER CONTEST ครั้งที่ 2

เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป สานต่อโครงการ MAJOR WRITER CONTEST คุณเขียน เราสร้าง ครั้งที่ 2 เฟ้นหาพล็อตเรื่องคุณภาพนำมาพัฒนาเป็นบทภาพยนตร์ หลังได้กระแสตอบรับอย่างท่วมท้นในการประกวดครั้งที่ 1 โดยในปีที่ผ่านมา MAJOR WRITER CONTEST ได้นำผลงานที่ชนะเลิศการประกวด มาพัฒนามาเป็นบทภาพยนตร์เพื่อสร้างเป็นภาพยนตร์ออกสู่สายตาผู้ชม ครั้งนี้ถึงเวลาปล่อยของ ชวนเหล่านักเขียนมาโชว์พลังไอเดียสุดสร้างสรรค์ ส่งผลงานเข้าประกวด ไม่จำกัดจำนวนเรื่องต่อคน ตั้งแต่วันที่ 15 มิถุนายน-31 กรกฎาคม 2564 ชิงเงินรางวัลเรื่องละ 30,000 บาท

สำหรับโครงการ MAJOR WRITER CONTEST คุณเขียน เราสร้าง ครั้งที่ 2 เป็นการเพิ่มพื้นที่ในการพัฒนาศักยภาพแก่วงการบทภาพยนตร์ เปิดโอกาสให้คนมีฝันที่มีไอเดียอยู่เต็มกระเป๋าและต้องการบอกเล่าเรื่องราวของตัวเองผ่านบทภาพยนตร์ เปิดกว้างให้นักเขียนทั่วไป ไม่จำกัดอายุ เพศ เพียงแค่คุณมีความสามารถในการเล่าเรื่อง ส่งผลงานเรื่องย่อภาพยนตร์ 1-2 หน้า ไม่กำหนด Font และ format ได้ตั้งแต่วันที่ 15 มิถุนายน-31 กรกฎาคม 2564 ชิงเงินรางวัลเรื่องละ 30,000 บาท โดยผลงานที่มีไอเดียสุดเจ๋งจะได้รับการพิจารณานำมาพัฒนาเป็นบทภาพยนตร์ในกลุ่มบริษัทผู้ผลิตภาพยนตร์ในเครือ เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป

อย่าปล่อยให้ไอเดียเจ๋งๆ อยู่แค่ในความคิด…ผู้สนใจสามารถส่งผลงานพร้อมประวัติโดยย่อของคุณมาที่อีเมล์ [email protected] และติดตามความเคลื่อนไหวและการประกาศผลผ่านทาง Fanpage Major Group โดยจะประกาศผลงานที่ได้รับการพิจารณาคัดเลือกจำนวน 10 เรื่อง ผ่านสู่รอบ Pitching กับคณะกรรมการ ในวันที่ 1 กันยายน 2564 โดยผู้ที่ผ่านเข้ารอบจะได้ร่วมการ Pitching กับคณะกรรมการในวันที่ 14 กันยายน 2564 และจะประกาศผลผู้ที่ได้รับคัดเลือกผลงานในวันที่ 24 กันยายน 2564

สำหรับผู้ที่ได้รับรางวัล… ลิขสิทธิ์จะเป็นของโครงการประกวด 1 ปี หลังจากนั้นจะเป็นของผู้เขียน สำหรับผู้ที่ไม่ผ่านการคัดเลือก ลิขสิทธิ์จะเป็นของผู้เขียน #MajorWriterContest #คุณเขียนเราสร้าง

ชวนช้อป Haier Inspired Living Live 2021

ยุคโควิดแบบนี้จะเลือกซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าราคาดี ตอบโจทย์วิถี New Normal ต้องแบรนด์ ไฮเออร์ (Haier) ผู้นำด้านผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าระดับโลก และเป็นแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านอันดับ 1 ของโลกติดต่อกัน 12 ปีซ้อน ล่าสุดจัดแคมเปญ Haier Inspired Living Live 2021 ให้ชมและช้อปเครื่องใช้ไฟฟ้าไฮเออร์แบบเรียลไทม์ ผ่านการ Live ทางเฟซบุ๊ก Haier Thailand ส่งตรงสู่เฟซบุ๊กแฟนเพจของร้านค้าตัวแทนจำหน่ายไฮเออร์ที่ร่วมรายการทั่วประเทศ จะซื้อร้านไหน สามารถสั่งตรงได้ที่แฟนเพจร้านนั้น พร้อมให้ช้อปแบบทันใจ ไม่ว่าจะอยู่ในจังหวัดใดก็ตาม วันละ 2 รอบ รอบเวลา 12.00-13.00 น. และ 17.00-18.00 น. ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เริ่มวันที่ 4 มิถุนายน ถึง 31 กรกฎาคม

ที่สำคัญ! เพียงรับชม Facebook Live! นอกจากชมและช้อปเครื่องใช้ไฟฟ้าออนไลน์ได้แล้ว ก็สามารถได้รับสิทธิพิเศษแบบ 2 ต่อได้ทุกวัน

ต่อที่ 1 : รับส่วนลดสูงสุดถึง 40% พร้อมบริการส่งสินค้าฟรีถึงหน้าบ้าน เมื่อชม Facebook Live! แล้วอินบ็อกซ์ หรือโทรสั่งซื้อสินค้าไฮเออร์จากร้านค้าตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมรายการ

ต่อที่ 2 : เมื่อชม Facebook Live! แล้วแชร์ Link ไปยังเพจหรือกลุ่มต่าง ๆ ผู้ที่แชร์จำนวนสูงสุดประจำวัน รับทันที cash voucher จาก Food Panda มูลค่า 1,000 บาท จำนวน 1 รางวัล ส่วนผู้ที่แชร์ในจำนวนรองลงมา รับทันที เสื้อ Haier Inspired Living จำนวน 3 รางวัล

กติกาง่าย ๆ เพียงแคปหน้าจอเป็นหลักฐานการแชร์ในเพจหรือกลุ่มต่างๆ แล้วส่งมาทางอินบ๊อกซ์ เฟซบุ๊ค : HaierThailand ผู้โชคดี จะได้รับการประกาศผลบนเฟซบุ๊กของร้านค้าดีลเลอร์นั้นๆ ในวันถัดไป

ชมและช้อปเครื่องใช้ไฟฟ้าคุณภาพดี ราคาพิเศษ พร้อมลุ้นรับรางวัลมากมาย ติดตามรายละเอียดตารางการ Live ของร้านค้าตัวแทนจำหน่ายและไฮเออร์แบรนด์ช็อปที่ร่วมรายการได้ที่เฟซบุ๊ค : HaierThailand

เวียตเจ็ท ต้อนรับ 6.6 ตั๋วเครื่องบิน เริ่มต้น 0 บาท

สายการบินไทยเวียตเจ็ท ต้อนรับเทศกาล 6.6 เปิดตัวโปรโมชั่น ‘6.6 Mega Sale’ เสนอตั๋วเครื่องบินราคาพิเศษ เริ่มต้นเพียง 0 บาท เปิดให้จอง 6 วัน ตั้งแต่วันที่ 6 – 11 มิถุนายน 2564  เมื่อจองในช่วงเวลา 12.00-14.00 เท่านั้น และ ตั๋วราคาเริ่มต้น 99 บาท เมื่อจองในช่วงเวลาอื่น ๆ (ราคาไม่รวมภาษี ค่าธรรมเนียม และค่าบริการเสริมพิเศษ) สำหรับใช้เดินทางในทุกเส้นทางบินภายในประเทศของสายการบินฯ  ผู้โดยสารสามารถจองได้ตั้งแต่วันที่ 6 – 11 มิถุนายน 2564 ช่วงเวลาเดินทางตั้งแต่ 1 กรกฎาคม  – 31 ธันวาคม 2564 (ยกเว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์) ที่ www.vietjetair.com

นอกจากนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2564 เป็นต้นไป สายการบินฯ ได้เพิ่มความถี่จำนวนเที่ยวบินภายในประเทศ เพื่อมอบตัวเลือกการเดินทางที่มากขึ้นแก่ผู้โดยสารทุกท่าน

บัตรโดยสารโปรโมชั่นนี้สามารถจองได้ที่เว็บไซต์ www.vietjetair.com โดยสามารถใช้ได้กับเส้นทางบินภายในประเทศทุกเส้นทางของไทยเวียตเจ็ท ประกอบด้วยเส้นทางบินระหว่างกรุงเทพฯ (สุวรรณภูมิ) สู่ เชียงใหม่ เชียงราย ภูเก็ต กระบี่ อุดรธานี หาดใหญ่ ขอนแก่น นครศรีธรรมราช อุบลราชธานี และสุราษฎร์ธานี ตั๋วโดยสารโปรโมชั่น สามารถทำการจองผ่านทางเว็บไซต์ www.vietjetair.com หรือจองผ่านทางเพจเฟซบุ๊ก https://www.facebook.com/vietjetthailand (คลิกที่แถบ “จองเลย”) สามารถชำระเงินด้วยบัตรเครดิตและเดบิตวีซ่า, มาสเตอร์การ์ด, เจซีบี, เคซีพี และ อเมริกันเอ็กซ์เพรส หรือบัตรเอทีเอ็มซึ่งออกโดยธนาคารในประเทศไทยซึ่งสามารถทำธุรกรรมทางการเงินผ่านอินเตอร์เน็ตได้

สายการบินไทยเวียตเจ็ทยังคงมุ่งมั่นให้บริการเที่ยวบินในทุกเครือข่ายเส้นทางบิน แม้ในช่วงการระบาดของโรคไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 (COVID-19) ระลอกที่ 3 ในประเทศไทย สายการบินฯ ได้ขยายมาตรการช่วยเหลือผู้โดยสารที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 สำหรับผู้โดยสารที่ถือบัตรโดยสารเส้นทางบินภายในประเทศทุกเส้นทางของสายการบินไทยเวียตเจ็ท ที่ทำการจองบัตรโดยสารและชำระเงินก่อนวันที่ 30 เมษายน 2564 โดยมีช่วงวันเดินทางระหว่างวันที่ 1 – 30 มิถุนายน 2564  สามารถเลือกรับมาตรการช่วยเหลือได้ ดังนี้

  1. เลือกเปลี่ยนวันเดินทางได้ฟรี 1 ครั้งในเส้นทางบินเดิม โดยไม่มีค่าธรรมเนียมและส่วนต่างค่าโดยสาร โดยกำหนดวันเดินทางใหม่อยู่ภายในวันที่ 30 กันยายน 2564 ทั้งนี้ ไม่สามารถเลือกเปลี่ยนเส้นทางบินได้

ผู้โดยสารที่ทำการจองบัตรโดยสารผ่านเว็บไซต์ skyfun.vietjetair.com สามารถดำเนินการเปลี่ยนวันเดินทางใหม่ได้ด้วยตัวเอง ผ่านเมนู ‘Manage booking’ ที่ skyfun.vietjetair.com/searchreservation (เฉพาะการจองผ่านเว็บไซต์ skyfun.vietjetair.com เท่านั้น)

  1. 2. เลือกเก็บมูลค่าบัตรโดยสารเป็นวงเงินสำหรับชำระค่าบริการของสายการบินในครั้งต่อไป (Credit Shell) โดยวงเงินมีอายุใช้งานได้ 3 เดือนนับจากกำหนดวันเดินทางเดิม โดยจะต้องดำเนินการแจ้งขอเก็บวงเงินเสร็จสิ้นอย่างน้อย 72 ชั่วโมงก่อนกำหนดการเดินทางเดิม

สำหรับผู้โดยสารที่มีช่วงวันเดินทางตามที่ระบุ และต้องการติดต่อรับมาตรการช่วยเหลือ โปรดติดต่อศูนย์บริการลูกค้า (อย่างน้อย 72 ชั่วโมงก่อนกำหนดการเดินทางเดิม) โดยสามารถเลือกติดต่อได้ตามช่องทางที่สะดวก ดังนี้

  1. ดำเนินการเปลี่ยนวันเดินทางใหม่ด้วยตัวเอง ที่ skyfun.vietjetair.com/searchreservation
  2. 2. กรอกข้อมูลผ่านแบบฟอร์มอิเล็กทรอนิกส์ ที่ https://bit.ly/2L6Yv4z (ช่องทางที่แนะนำ)
  3. 3. ติดต่อผ่านไลน์ ที่ @ThaiVietjet
  4. 4. ติดต่อผ่านอีเมล ที่ [email protected]
  5. 5. ติดต่อผ่านระบบตอบกลับอัตโนมัติ (chatbot) ที่ https://skyfun.vietjetair.com/

สายการบินไทยเวียตเจ็ทมุ่งมั่นในการให้บริการด้วยความปลอดภัยสูงสุดสำหรับผู้โดยสาร โดยได้ดำเนินมาตรการทำความสะอาดและฆ่าเชื้ออากาศยานอย่างเคร่งครัดตามมาตรฐานของกระทรวงสาธารณสุข รวมถึงการทำความสะอาดและฆ่าเชื้อในสำนักงาน เพื่อลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นกับพนักงานทุกคน  เพื่อให้ความมั่นใจต่อสุขภาพและความปลอดภัยสูงสุดของผู้โดยสาร