ทำความรู้จัก โกดังไฟฟ้าดอทคอม ตลาดอุปกรณ์ไฟฟ้าออนไลน์หน้าใหม่

เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้วสำหรับ โกดังไฟฟ้าดอทคอม Godungfaifaa.comตลาดออนไลน์ของอุปกรณ์ระบบไฟฟ้าและโซลาร์ความร่วมมือกันระหว่าง GUNKUL SPECTRUM หน่วยนวัตกรรมธุรกิจพลังงานของบริษัทกันกุลเอ็นจิเนียริ่งกับ เอสซีบี เท็นเอกซ์ (SCB 10X) ด้วยแนวคิด Add Energy To Cart – จับพลังงานใส่ตะกร้าช้อป สร้างคอมมูนิตี้ช่างไฟและผู้ประกอบการโซลาร์ให้เข้าถึงสินค้าคุณภาพหลากหลายจากแบรนด์ชั้นนำทั่วโลกในราคาดี แก้ปัญหาการสต๊อคสินค้าและการจัดการราคาต้นทุนโครงการต่างๆให้เป็นเรื่องง่าย ออนไลน์ตลอด 24 ชั่วโมง

“ราคาต้องใช่ ขนส่งต้องเร็ว ที่สำคัญเข้าใจไฟฟ้าเป็นอย่างดี” โดยในระยะเวลาไม่ถึง 3 เดือนก่อนหน้าที่โกดังไฟฟ้าดอทคอมได้ทำการเปิดให้ลูกค้าเข้าไปทดลองใช้งานอย่างไม่เป็นทางการ (Soft launch) มีผู้เข้าชมเว็บไซต์เฉลี่ยเดือนละไม่ต่ำกว่า 4,000 คน และมียอดขายกว่าหลายสิบล้านบาท วันนี้แพลตฟอร์มพร้อมแล้วที่จะลงศึกตลาดอีคอมเมิร์ซอย่างเต็มตัวและอยากจะชวนทำความรู้จักกับตลาดออนไลน์หน้าใหม่นี้กัน

1.ค้นหาสินค้าอุปกรณ์ไฟฟ้าจากหมวดหมู่สินค้าและแบรนด์ชั้นนำหลากหลาย โกดังไฟฟ้าคัดสรรแบรนด์ผู้ผลิตอุปกรณ์ไฟฟ้าและโซลาร์ชั้นนำจากทั่วโลกมาไว้ในที่เดียว โดยแบ่งหมวดหมู่สินค้ายอดนิยม 4 หมวดใหญ่ด้วยกันคือ

– แผงโซลาร์เซลล์ : แผงขนาดวัตต์เล็กถึงใหญ่รองรับทุกความต้องการจากแบรนด์มาตรฐานTier 1
– อินเวอร์เตอร์ : ช้อปเพลินทั้งออนกริด ไฮบริด และออฟกริดจากแบรนด์ยอดนิยม
– แบตเตอรี่ : เริ่มต้นตั้งแต่ 5kWh ไปจนถึง 20kWh ติดได้ทั้งบ้านอยู่อาศัยหรือโรงงานขนาดเล็ก
– ปั๊มน้ำโซลาร์เซลล์ : ประหยัดค่าไฟหลักหมื่นต่อเดือนไปกับปั๊มน้ำหอยโข่งและปั๊มบาดาล

โดยนอกจากนี้ยังมีกลุ่มอุปกรณ์ไฟฟ้าอื่นๆ อาทิเช่น อุปกรณ์ยึดแผงโซลาร์ สายไฟ เบรกเกอร์ ตู้คอนซูเมอร์ยูนิต ที่ชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า และอื่นๆอีกมากมาย

2.GROUP BUY ฟีเจอร์รวมกลุ่มคนชอบแชร์ที่ทำให้ซื้อปลีกได้ในราคาส่ง วิธีการซื้อที่จะทำให้ลูกค้าได้ราคาสุดคุ้มเหมือนซื้อกับผู้ผลิตโดยตรง เปิดรอบรวมกลุ่มซื้อ (GROUP BUY) สินค้าแต่ละรายการโดยจำกัดระยะเวลาเพียง 6 วันเท่านั้นเพื่อไม่ให้ลูกค้ารอกรุ๊ปสำเร็จนานจนเกินไป ลูกค้าชำระเพียง 30% ของยอดซื้อเพื่อจองสินค้า และเมื่อกรุ๊ปสำเร็จค่อยจ่ายในส่วนที่เหลือ หากกรุ๊ปไม่สำเร็จทางแพลตฟอร์มจะทำการคืนเงินให้กับทางลูกค้าทั้งหมด

ทำราคาโครงการไม่นานอีกต่อไป ขอใบเสนอราคาออนไลน์ทันที ไม่ต้องรอแอดมิน
ทำต้นทุนโครงการการติดตั้งให้ง่ายกว่าเดิม เหมือนซื้อสินค้าตามปกติ เลือกชนิดและจำนวนที่ต้องการและกดสั่งซื้อตามขั้นตอนปกติ ลูกค้าก็จะสามารถกดปุ่มขอใบเสนอราคาอัตโนมัติจากระบบได้เองโดยไม่ต้องเสียเวลาแชทกับแอดมิน และสามารถขอเอกสารได้ตามต้องการตลอด 24 ชั่วโมง

3.ขนส่งสะดวกมั่นใจ เลือกได้หลากหลายวิธี มีประกันจัดส่ง โกดังไฟฟ้ามอบ 3 วิธีจัดส่งที่จะดูแลให้สินค้าไปถึงมือผู้ซื้ออย่างปลอดภัยและรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นการขนส่งผ่านพาร์ตเนอร์ขนส่งชั้นนำทั้ง DELIVEREE และ INTEREXPRESS หรือให้ทางโกดังไฟฟ้าแนะนำจ้างรถเหมาขนส่งในกรณีซื้อสินค้าจำนวนมาก รวมทั้งสามารถมารับสินค้าด้วยตัวเองที่คลังสินค้าของกันกุลก็ได้เช่นกัน

4.ชำระเงินง่ายปลอดภัย แถมยังมีผ่อน 0% !! ไม่ต้องเงินสดอีกต่อไป วันนี้ลูกค้าสามารถเลือกระหว่างโอนผ่านบัญชีธนาคาร อินเตอร์เน็ตแบงค์กิ้ง ชำระผ่านบัตรเดบิตหรอเครดิต หรือพร้อมเพย์ โดยหากยอดซื้อถึง 30,000 บาทสามารถเลือกผ่อน 0% นาน 4 เดือนผ่านบัตรเครดิตธนาคารกรุงเทพ, ธนาคารกสิกรไทย, ธนาคารกรุงศรี, กรุงศรีเฟิร์สช๊อยส์, ธนาคารกรุงไทย / บัตร KTC และธนาคารไทยพาณิชย์

มุ่งเป้าสู่ 100 ล้านภายในปี 2564 โกดังไฟฟ้ามีแผนการที่จะเพิ่มจำนวนรายการสินค้าอีกไม่ต่ำกว่า 5,000 รายการ แม้กลุ่มอุปกรณ์โซลาร์จะเป็นกลุ่มหลักของแพลตฟอร์มในวันนี้แต่ในอนาคตมองว่าจะขยายประเภทกลุ่มสินค้าอุปกรณ์ไฟฟ้าอื่นๆ เพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการการใช้งานโครงการที่แตกต่างกันไป และพัฒนาบริการที่มีอยู่ ณ ปัจจุบันไม่ว่าจะเป็นบริการลูกค้าสัมพันธ์ บริการการขนส่งหรือบริการด้านการเงินอื่นๆ โดยเน้นการอำนวยความสะดวกและมอบประสบการณ์ซื้ออุปกรณ์ไฟฟ้าบนออนไลน์ที่สร้างความมั่นใจให้ทุกการช้อปของลูกค้า

นอกจากเป้าหมายด้านธุรกิจแล้ว โกดังไฟฟ้ามีความตั้งใจที่จะสร้างคอมมูนิตี้การเรียนรู้เพื่อสร้างความเข้าใจในการเลือกซื้อสินค้าที่มีคุณภาพและนำไปใช้ได้อย่างและเต็มประสิทธิภาพผ่านพาร์ตเนอร์ชั้นนำระดับโลกอย่าง HUAWEI และ SIEMENS โดยในส่วนของ HUAWEIลูกค้าจะได้พบกับอินเวอร์เตอร์อัจฉริยะและแบตเตอรี่คุณภาพหลากหลายรุ่นและขนาดในราคาที่ดี ซึ่งเชื่อว่าจะเป็นการยกระดับระบบผลิตพลังงานแสงอาทิตย์และเพิ่มการเข้าถึงพลังงานสะอาดให้กับทุกครัวเรือนในฐานะแบรนด์อินเวอร์เตอร์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก ในส่วนของ SIEMENS ซึ่งเข้ามาเติมเต็มเพิ่มความหลากหลายของกลุ่มสินค้าโดยเฉพาะกลุ่มอุปกรณ์ตู้คอนซูมเมอร์ยูนิตหรือตู้ไฟฟ้า เบรกเกอร์ อุปกรณ์ชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า ให้กับของโกดังไฟฟ้าดอทคอมจะทำให้แพลตฟอร์มเติบโตและสามารถรองรับกลุ่มช่างไฟและผู้ประกอบการโซลาร์มากยิ่งขึ้น ทั้งผู้รับเหมาขนาดเล็กไปถึงขนาดใหญ่

เปิดประสบการณ์ช้อปอุปกรณ์ระบบไฟฟ้าและโซลาร์ไปกับตลาดออนไลน์ ‘โกดังไฟฟ้าดอทคอม’ พบกับสิทธิประโยชน์และโปรโมชั่นมากมายสำหรับสมาชิกเก่าและสมาชิกใหม่ที่สมัครภายในเดือนกันยายน ร่วมเฉลิมฉลองการเปิดตัววันนี้ – 31 ตุลาคม 2564 ที่ https://www.godungfaifaa.com/

 

Add ENERGY to cart จับพลังงานใส่ตะกร้าช้อป

ในช่วงภาวะวิกฤตการณ์โควิด 19 ที่ผู้บริโภคต้องหันมาจับจ่ายใช้สอยบนโลกออนไลน์กันมากขึ้น วันนี้วงการอีคอมเมิร์ซได้แทรกซึมเข้าไปในชีวิตประจำวันของทุกคนโดยไม่แบ่งแยกเพศ วัย และประเภทสินค้าจนเกิดพฤติกรรมบนโลกอีคอมเมิร์ซอย่างหนึ่งที่เรียก “Add to cart” หรือการเลือกสินค้าใส่ตะกร้า วันนี้ GUNKUL SPECTRUM อยากชวนมาคิดว่าหากเราอยากช้อปพลังงานหรือสินค้าที่เป็นกลุ่มอุปกรณ์ไฟฟ้าจะเป็นอย่างไร

นฤชล ดำรงปิยวุฒิ์ SPECTRUM LEAD ของหน่วยนวัตกรรมธุรกิจพลังงาน GUNKUL SPECTRUM และประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการสายงานกลยุทธ์การลงทุนและนวัตกรรมของ บริษัท กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “เป้าหมายของ GUNKUL SPECTRUM คือการคิดธุรกิจพลังงานที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคอย่างแท้จริงไม่ว่าวันนี้คุณจะเล่นบทบาทไหนก็ตาม เราเชื่อว่าการสร้างแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซอย่างโกดังไฟฟ้า จะเป็นอีกหนึ่งจิ๊กซอว์สำคัญด้านพลังงาน เป็นคอมมูนิตี้อุปกรณ์ไฟฟ้าบนออนไลน์ มอบสินค้าคุณภาพในราคาที่ดี โดยเราเห็นปัญหาหรือ Pain point ของกลุ่มเป้าหมายเราอย่างกลุ่มช่างไฟและผู้ประกอบการโซลาร์ทั่วประเทศ ทั้งผู้รับเหมาขนาดเล็กจนถึงขนาดใหญ่ ที่ในวันนี้เค้าอาจมีข้อจำกัดด้านการเข้าถึงสินค้าคุณภาพในราคาที่ดีหรือความไม่แน่นอนของการบริหารสต๊อกสินค้า นั่นคือปัญหาทั้งราคาและพื้นที่จัดเก็บ ที่โกดังไฟฟ้าสามารถตอบโจทย์ตรงนั้นได้ ด้วยประสบการณ์บนเส้นสายพลังงานกว่า 40 ปีของกันกุลเอ็นจิเนียริ่ง เราได้มีโอกาสพาร์ตเนอร์กับแบรนด์ผู้ผลิตชั้นนำจากทั่วโลก เราจึงไม่ใช่แค่การันตีคุณภาพแต่ยังหมายถึงราคาสินค้าที่สามารถแข่งขันกับตลาดได้อย่างสมน้ำสมเนื้อ รวมไปถึงโอกาสที่จะต่อยอดแพลตฟอร์มโกดังไฟฟ้านี้ไปสู่การเป็นแหล่งการเรียนรู้ที่ผู้รับเหมาจะได้สื่อสารและทำความเข้าใจเทรนด์ด้านพลังงานที่เปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลาจากเจ้าของเทคโนโลยีโดยตรง”

ในส่วนของ SCB 10X ซึ่งเป็นบริษัทผู้เข้ามาร่วมทุนและรับหน้าที่ในการพัฒนาตัวแพลตฟอร์มนี้ขึ้นมา นายกวีวุฒิ เต็มภูวภัทร Head of Venture Builder บริษัท เอสซีบี เท็นเอกซ์ จำกัด ให้ความเห็นถึงสาเหตุที่ SCB 10X เข้ามาร่วมในโครงการนี้ “SCB 10X มุ่งเน้นการสร้างขีดความสามารถใหม่ทางด้านเทคโนโลยีผ่านการลงทุนในบริษัทเทคคอมพานีที่มีศักยภาพทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง พร้อมช่วยพัฒนาธุรกิจร่วมกับพาร์ตเนอร์ในอุตสาหกรรมที่เป็น new s-curve ของประเทศ โดยหนึ่งในธุรกิจที่เราสนใจและให้ความสำคัญที่จะเข้าไปศึกษาเพื่อพัฒนาต่อยอดธุรกิจ คือ ธุรกิจอีคอมเมิร์ซ ซึ่งถือเป็นธุรกิจที่เติบโตอย่างก้าวกระโดดโดยเฉพาะอย่างยิ่งในอุตสาหกรรมด้านพลังงาน ซึ่งเป็นตลาดที่มีขนาดใหญ่ และเติบโตอย่างต่อเนื่อง SCB 10X จึงร่วมลงทุนกับ GUNKUL SPECTRUM หน่วยนวัตกรรมธุรกิจพลังงานของบริษัท กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง ในการพัฒนา “โกดังไฟฟ้าดอทคอม”  อีกทั้งเรายังนำเอาจุดแข็งของ SCB 10X ได้แก่ ความสามารถด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีในด้านการเงิน (Financial Technology) ของ SCB 10X มาผสานเข้ากับความเป็นผู้นำด้านการผลิตและจำหน่ายอุปกรณ์ไฟฟ้าระดับต้น ๆ ของเมืองไทย เพื่อสร้างสรรค์นวัตกรรมแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซในรูปแบบ B2B (Business-to-Business) แบบครบวงจรที่แรกในประเทศไทย ที่สามารถเชื่อมต่อกลุ่มลูกค้าทั่วไป (End User) ผู้รับเหมา แบรนด์ และโรงงาน ให้สามารถเลือกซื้อขายอุปกรณ์ไฟฟ้าและโซลาร์เซลล์ตลอดจนชำระเงินแบบออนไลน์ได้อย่างสะดวก โดยมีดิจิทัลเทคโนโลยีเป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญ”

กว่า 40 ปีที่กันกุลเริ่มต้นจากจากการเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายอุปกรณ์ไฟฟ้าและได้รับความไว้วางใจทั้งจากภาครัฐและภาคอุตสาหกรรม จึงทำให้ทีมงานมีความเข้าใจในสายการผลิต (End-to-end process) นอกจากนี้ยังประกอบจิ๊กซอว์ด้านบริการอื่น ๆ เพื่อเน้น ช้อปง่าย ชำระสบาย จัดส่งหลายวิธี ขอใบเสนอราคาได้ตลอด 24 ชั่วโมง ปัจจุบันโกดังไฟฟ้าดอทคอมแบ่งกลุ่มสินค้าเป็น 2 กลุ่มใหญ่ด้วยกัน โดยในอนาคตจะมีกลุ่มที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์มากยิ่งขึ้น

  • กลุ่มสินค้าระบบโซลาร์เซลล์ อาทิเช่น แผงโซลาร์เซลล์ อินเวอร์เตอร์ แบตเตอรี่ ฯลฯ
  • กลุ่มสินค้าระบบไฟฟ้า อาทิเช่น สายไฟ รางไฟ ตู้คอนซูเมอร์ยูนิต เบรกเกอร์ ฯลฯ

จากช่วงสั้น ๆ ของการเปิดให้บริการอย่างไม่เป็นทางการ (Soft Launch) ปัจจุบันมีผู้ใช้เข้าใช้แพลตฟอร์มต่อเดือนเฉลี่ยกว่า 4,000 ราย เกิดยอดซื้อขายจริงแล้วกว่า 10 ล้านบาท โดยมีสถิติยอดซื้อสูงสุดต่อ 1 บิลอยู่ที่ 1.4 ล้านบาท โดยกลุ่มสินค้าขายดีจะเป็นกลุ่มอุปกรณ์ระบบโซลาร์เซลล์ อันได้แก่ แผงโซลาร์เซลล์ (69%) และ อินเวอร์เตอร์ (20%) โดยลูกค้าให้ความเห็นว่าการซื้อขายออนไลน์สามารถมอบความสะดวกสบายทั้งในเรื่องการตรวจสอบสถานะการซื้อและขอใบเสนอราคา นอกจากนั้นวิธีการชำระเงินก็หลากหลายและมีความปลอดภัย ทางโกดังไฟฟ้าจึงวางแผนที่จะขยายกลุ่มสินค้าให้เติบโตขึ้นจากเดิมเพื่อรองรับความต้องการที่หลากหลายรูปแบบ ตั้งเป้ายอดขายอยู่ที่ 100 ล้านภายในสิ้นปี 2564

โดยวันนี้ได้มี Strategic Partner ชั้นนำอย่าง HUAWEI และ SIEMENS มาร่วมทัพลงศึกอีคอมเมิร์ซ โดยกันกุลและ HUAWEI ได้มีโอกาสทำงานกันอย่างใกล้ชิดทั้งในฐานะพาร์ตเนอร์ระดับกลยุทธ์และการตลาด การร่วมมือกันครั้งนี้ผ่านโกดังไฟฟ้าจึงถือเป็นการเพิ่มโอกาสให้ลูกค้าได้พบกับสินค้าอาทิเช่นแบตเตอรี่และและอินเวอร์เตอร์อัจฉริยะคุณภาพสูงของหัวเว่ยได้ในราคาที่ดี นายเจสัน วู Executive Senior Vice President ของ HUAWEI Thailand Digital Power Business กล่าวว่า “ในฐานะแบรนด์อินเวอร์เตอร์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก หัวเว่ยสนับสนุนในการก่อตั้งแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซของกันกุลเป็นอย่างมากและยินดีที่จะสนับสนุนบริการให้คำแนะนำอย่างใกล้ชิดผ่านช่องทางของโกดังไฟฟ้า เราหวังว่าการร่วมมือกันครั้งนี้จะช่วยส่งเสริมการนำพลังงานสะอาดมาสู่ทุกครัวเรือนในประเทศไทย หัวเว่ยได้พัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ระบบผลิตพลังงานแสงอาทิตย์จากโซลาร์เซลล์มีความปลอดภัยมั่งคงและประหยัดค่าไฟสูงสุดให้กับเจ้าของบ้าน”

ในขณะเดียวกันทาง Siemens ซึ่งเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับกันกุลในส่วนของ Power Distribution System และเติบโตคู่กับอุตสาหกรรมพลังงานไฟฟ้าของประเทศไทยร่วมกันมากกว่า 10 ปี ก็เป็นอีกหนึ่งพาร์ตเนอร์ที่เข้ามาเติมเต็มให้กลุ่มสินค้าของโกดังไฟฟ้ามีความหลากหลายยิ่งขึ้น ด้วยผลิตภัณฑ์ระบบไฟฟ้าสำหรับการใช้งานทุกระดับตั้งแต่ บ้านพักอาศัย อาคาร ไปจนถึงโรงงานอุตสาหกรรมทุกขนาด  เช่น ตู้คอนซูเมอร์ยูนิต เซอร์กิตเบรกเกอร์ต่างๆ ผลิตภัณฑ์ชารจ์รถยนต์ไฟฟ้า รวมถึงตู้รีเลย์ป้องกันสำหรับงานโซลาร์ระบบออนกริด คุณสุวรรณี สิงห์ฤาเดช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและซีอีโอ Siemens ประเทศไทย เสริมว่า “Siemens มั่นใจว่าแพลตฟอร์มโกดังไฟฟ้าดอทคอมจะเป็นศูนย์กลาง และเป็นช่องทางที่จะอำนวยความสะดวกให้กับกลุ่มช่างไฟและผู้ประกอบการโซลาร์ทั่วประเทศ ทั้งผู้รับเหมาขนาดเล็กจนถึงขนาดใหญ่ ในการจัดหาอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ครบวงจรในที่เดียว ซึ่งแน่ใจว่าเป็นของแท้และมั่นใจได้ในคุณภาพ”

การลงสู้ศึกอีคอมเมิร์ซครั้งนี้ นับเป็นแต้มต่อของกันกุลที่ GUNKUL SPECTRUM นำมาต่อยอดได้อย่างทันท่วงที และเชื่อได้ว่า ‘โกดังไฟฟ้า’ จะไม่หยุดพัฒนาและอัปเดตสินค้าบนตลาดซื้อขายออนไลน์แห่งนี้ ให้เต็มไปด้วยสินค้าคุณภาพ ที่มาพร้อมกับแคมเปญพิเศษต่าง ๆ มากมายต้อนรับการเปิดตัวครั้งยิ่งใหญ่นี้อย่างแน่นอน

TSX Sustainable Innovation Competition & Hackathon ร่วมประกวดค้นหาสุดยอดนวัตกร

ตลอดเวลากว่าสองปีครึ่งที่ทั่วทั้งโลกต้องผจญกับวิกฤติครั้งใหญ่ หนำซ้ำส่อแววจะยืดเยื้อยาวนานจำเป็นอย่างยิ่งที่คนรุ่นใหม่ต่อไปนี้จะต้องเตรียมพร้อมและสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ เพื่อให้สังคมอยู่รอดไปด้วยกัน ในสภาวะที่โลกและสังคมของเราต้องอยู่กับโควิดแบบมาราธอนไปยาวๆ

จากแนวคิดดังกล่าว ทำให้ Thailand Sustainability Expo 2021 ร่วมกับ CU Innovation Hub และ ThaiBev  เปิดรับสมัครผู้ที่ใฝ่ฝัน อยากจะเป็นนวัตกร   เข้าร่วมสมัครในกิจกรรมโครงการ  TSX Sustainable Innovation Competition & Hackathon” หัวข้อ Disrupting Health & Wellness Experience in COVID-19  เพื่อเฟ้นหาสุดยอดทีมนวัตกรที่สร้าง Impact ได้อย่างยั่งยืน    ชิงเงินรางวัลรวม 80,000 บาท!  คนที่มีความสามารถในด้าน  ธุรกิจการตลาดการออกแบบเทคโนโลยี ฯลฯ อย่างลืมรวมกลุ่มกันมา สมัครได้แล้ววันนี้ถึง 19 กันยายน 2564 เท่านั้น!

ด้านกติกตาและคุณสมบัติของผู้สมัคร  1. นักเรียน/นิสิต/นักศึกษา อายุตั้งแต่ 14 – 25 ปี, 2.รูปแบบเป็นการแข่งขันประเภท ทีม โดยแต่ละทีมต้องมีสมาชิกอย่างน้อย คน แต่ไม่เกิน คน,  3. การสมัคร ส่งตัวแทนสมาชิก คน กรอกข้อมูลทางออนไลน์,  4. ผู้สมัครในทีมจะต้องมีความสามารถในด้าน Business/ Design/ Technology ทั้ง ด้าน อย่างน้อยด้านละ คน, 5. หากผ่านเข้ารอบ ทีมผู้สมัครจะต้องสามารถเข้าร่วมกิจกรรมในวันและเวลาที่โครงการกำหนด (*หมายเหตุ ใช้แพลทฟอร์มทางออนไลน์สำหรับทำการแข่งขันตลอดโครงการ)

ขั้นตอนการสมัคร 1.กรอกใบสมัครที่ https://bit.ly/3yHnezk 2.หลังกรอกใบสมัครเรียบร้อย ทางโครงการจะนำส่ง Team Mission ให้กับสมาชิกตัวแทนที่กรอกข้อมูลใบสมัคร ทีมตอบคำถามภายในระบบออนไลน์ได้ ตั้้งแต่วันนี้ต้นไป รายละเอียดเพิ่มเติม : https://bit.ly/3hbr7Xk  สอบถามข้อมูล : info@thailandsustainability.com

ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ พัฒนางานวิจัย สร้างความเป็นเลิศทางวิชาการสัตวแพทย์

ศาสตราจารย์ นายแพทย์นิธิ มหานนท์ เลขาธิการราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ พร้อมด้วย รองศาสตราจารย์ นายสัตวแพทย์ปานเทพ รัตนากร ผู้ช่วยเลขาธิการราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ฝ่ายพัฒนาวิทยาเขตและการสัตวแพทย์ ลงนามผ่านระบบออนไลน์ ร่วมกับภาคเอกชนชั้นนำ เพื่อสนับสนุนการจัดการศึกษาสาขาสัตวแพทยศาสตร์และสัตววิทยาประยุกต์ แลกเปลี่ยนการสร้างองค์ความรู้ด้านการวิจัย ด้านวิชาการ พัฒนาโครงการอุทยานวิทยาศาสตร์สุขภาพหนึ่งเดียว และโรงพยาบาลสัตว์ศรีสวางควัฒน ตามพระปณิธาน ศาสตราจารย์ ดร. สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวาควัฒน วรขัตติยราชนารี องค์ประธานราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์

ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ มีความมุ่งมั่นที่จะสืบสานพระปณิธาน ศาสตราจารย์ ดร. สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี องค์ประธานราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนชาวไทยให้มีสุขภาพดี ด้วยเหตุนี้แผนงานและการพัฒนาโครงการอีกหลายอย่างของราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ จึงมีเป้าหมายบูรณาการองค์ความรู้ใหม่และสร้างสรรค์นวัตกรรมทางการแพทย์ ทั้งในมิติของการส่งเสริมสุขภาพ รวมทั้งการป้องกันโรคซึ่งไม่ได้มีข้อจำกัดอยู่เฉพาะในคนเท่านั้น ด้วยวิวัฒนาการทางการแพทย์เชื่อมโยงระหว่างสิ่งมีชีวิตทั้งคน สัตว์ และสิ่งแวดล้อม ตามหลักการ “สุขภาพหนึ่งเดียว” (One Health) จึงก่อให้เกิดการพัฒนาโครงการอุทยานวิทยาศาสตร์สุขภาพหนึ่งเดียว และโรงพยาบาลสัตว์ศรีสวางควัฒน บนพื้นที่กว่า 230 ไร่ ณ บริเวณพื้นที่อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา องค์ประธานราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ทรงโปรดเกล้าฯ พระราชทานชื่อวิทยาเขตดังกล่าวว่า “วิทยาเขตเจ้าฟ้าจุฬาภรณ์พนารักษ์ ปากช่อง” โดยพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์สำคัญในภาคเกษตรกรรม อุตสาหกรรมอาหารและชีวภัณฑ์ การปศุสัตว์ ตลอดจนพื้นที่อนุรักษ์ทรัพยากรความหลากหลายทางชีวภาพของประเทศ มีทั้งหน่วยงานของภาครัฐ เอกชน รวมทั้งสถาบันการศึกษา  มีความสะดวกรวดเร็วด้านการคมนาคมเชื่อมต่อได้หลายภูมิภาคของประเทศอีกด้วย

โดยที่คณะสัตวแพทยศาสตร์และสัตววิทยาประยุกต์ วิทยาลัยวิทยาศาสตร์การแพทย์เจ้าฟ้าจุฬาภรณ์ เป็นหน่วยงานภายใต้การกำกับของราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ มีแผนพัฒนาหลักสูตรเพื่อจัดการเรียนการสอนในหลักสูตรสัตวแพทยศาสตรบัณฑิต (นานาชาติ) และหลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑิตอื่นๆ ทั้งในระดับปริญญาตรี และระดับบัณฑิตศึกษา ตลอดจนบูรณาการหน่วยงานต่าง ๆ ของราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ เพื่อดำเนินการภายใต้แนวคิดอุทยานวิทยาศาสตร์สุขภาพหนึ่งเดียว ในการผลิตและพัฒนาบุคลากร ตลอดจนงานวิชาการและงานวิจัยด้านการสัตวแพทย์และสัตววิทยาประยุกต์ให้มีคุณภาพ มาตรฐาน และปริมาณ สอดคล้องกับความต้องการของประเทศ อนึ่งเพื่อให้มีแนวทางการร่วมดำเนินการที่ชัดเจน จึงนำมาซึ่งความร่วมมือระหว่างราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ กับองค์กรภาคเอกชนชั้นนำรวม 6 บริษัท ประกอบด้วย บริษัท ทีอาร์เอฟ ฟีดมิลล์ จำกัด บริษัท กีซเซ่ จำกัด ห้างหุ้นส่วนจำกัด ภมรชัย ซัพพลาย บริษัท เกรนาเดส ไบโอเทค จำกัด บริษัท โอ สแควร์ ดิสทริบิวชั่น จำกัด และ บริษัท กรีน อินโนเวทีฟไบโอเทคโนโลยี จำกัด โดยมีกรอบระยะเวลา 5 ปี ในการสนับสนุนและส่งเสริมการพัฒนาหลักสูตร การวิจัยและนวัตกรรม รวมทั้งกลยุทธ์การจัดการเรียนการสอนให้เหมาะสมกับตลาดแรงงาน และยุทธศาสตร์ภาคธุรกิจ ร่วมมือกันบริการวิชาการที่สอดคล้องกับความต้องการของ ประชาชน สังคม และประเทศเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน ตามปรัชญาของราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ “เป็นเลิศเพื่อทุกชีวิต”

วิทยาลัยวิทยาศาสตร์การแพทย์เจ้าฟ้าจุฬาภรณ์ เปิดหลักสูตรใหม่

ปัจจุบันนี้ ข้อมูลต่าง ๆ เข้ามามีส่วนสำคัญต่อชีวิตของผู้คนในสังคมเป็นอย่างมาก เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ด้านต่างๆ  เช่น ข้อมูลเส้นทางการเดินทางและสภาพการจราจร ข้อมูลรายการอาหาร ฯลฯ ข้อมูลสถานพยาบาลต่าง ๆ ฯลฯ  โดยผู้คนสามารถเข้าถึงข้อมูลเหล่านี้ได้อย่างง่ายดาย และหลากหลายช่องทาง ดังนั้นเป็นเรื่องดี ถ้าจะมีการจัดการ วิเคราะห์ และนำข้อมูลเหล่านั้นมาใช้อย่างมีประสิทธิภาพ และเกิดประโยชน์สูงสุด

ทางด้าน วิทยาศาสตร์สุขภาพ และ วิทยาศาสตร์การแพทย์ เป็นอีกหนึ่งสาขาที่ผลิตข้อมูลจำนวนมหาศาลในทุก ๆ วัน ทั้งจากข้อมูลประวัติการรักษา ข้อมูลการใช้ยา ข้อมูลการวิจัย ตลอดจนแอพพลิเคชันเกี่ยวกับสุขภาพต่าง ๆ ที่ถูกผลิตขึ้นเพื่อให้ความสะดวกสบายแก่ผู้คนทั่วไป ดังนั้นการนำข้อมูลเหล่านี้มาใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อการรักษาโรค ป้องกันโรค และปรับปรุงบริการทางการแพทย์ จึงเป็นสิ่งจำเป็นเร่งด่วนที่จะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คนในสังคมให้ดียิ่งขึ้น

ด้วยเหตุนี้ คณะแพทยศาสตร์และการสาธรณสุข วิทยาลัยวิทยาศาสตร์การแพทย์เจ้าฟ้าจุฬาภรณ์ ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ จึงได้ร่วมมือกับ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี จัดตั้งหลักสูตรใหม่ วิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาวิทยาศาสตร์ข้อมูลสุขภาพ ขึ้น เพื่อตอบสนองต่อการขยายตัวอย่างรวดเร็วของข้อมูลทางด้านวิทยาศาสตร์สุขภาพ และรองรับความต้องการนักวิทยาศาสตร์ข้อมูลซึ่งเป็นสาขาที่ใหม่และมีความสำคัญ โดยทั้งสองสถาบันมุ่งหวังให้บัณฑิตของหลักสูตรฯ สำเร็จการศึกษาออกไปเป็นบุคลากรที่มีความสามารถในการคิด วิเคราะห์ และประมวลผลข้อมูลสุขภาพจากแหล่งต่างๆ และนำมาใช้แก้ไขปัญหาทางการแพทย์ และการสาธารณสุขได้อย่างถูกต้อง รวดเร็ว มีระเบียบแบบแผน และสามารถเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศต่อไปในอนาคต ผ่าน ปรัชญาของหลักสูตร ผลิตนักวิทยาศาสตร์ที่มีทักษะปฏิบัติที่ดี สามารถเรียนรู้ได้เองอย่างต่อเนื่อง ประยุกต์องค์ความรู้เพื่อวิเคราะห์ข้อมูล”

อาจารย์ น.สพ.ดร.พีรุทย์ เชียรวิชัย ผู้ช่วยคณบดีฝ่ายวางแผนกลยุทธ์การสรรหาและการคัดเลือก คณะแพทยศาสตร์และการสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ถึงวัตถุประสงค์ของหลักสูตรนี้คือ ผลิตบัณฑิตวิทยาศาสตร์ข้อมูลให้มีทักษะ 5 ด้าน ได้แก่ การเรียนรู้ด้วยตนเอง มีความคิดสร้างสรรค์ ตระหนักในคุณธรรมและจริยธรรม มีทักษะทางสังคม และเป็นนักปฏิบัติผลิตบัณฑิตวิทยาศาสตร์ข้อมูลให้มีความรู้ด้านซอฟต์แวร์การประยุกต์ใช้งานคอมพิวเตอร์และระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อพัฒนาคุณภาพและสุขภาพของประชาชน, เพื่อส่งเสริมการวิจัยพัฒนาและถ่ายทอดเทคโนโลยีที่เหมาะสมจากต่างประเทศ, เพื่อให้บริการวิชาการด้านวิทยาศาสตร์ข้อมูลในประเทศไทยโดยเน้นการวิจัยและพัฒนาที่ใช้ข้อมูลทางการแพทย์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการทางการแพทย์ สุขภาพ และสาธารณสุข, เพื่อปลูกฝังนักศึกษาให้มีจิตสำนึกในการใฝ่เรียนรู้สามารถเรียนรู้ได้ด้วยตนเองและเรียนรู้อย่างต่อเนื่องตลอดชีวิตด้านสุขภาพ และพัฒนาต่อยอดองค์ความรู้ไปสู่การพัฒนาคุณภาพและสุขภาพของประชาชน

หลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาวิทยาศาสตร์ข้อมูลสุขภาพ  ใช้เวลาทั้งสิ้น 4 ปี และมีหน่วยกิตรวมจำนวน 125 หน่วยกิต โดยแบ่งออกเป็นรายวิชาในหมวด กลุ่มวิชาการศึกษาทั่วไป นักศึกษาจะได้เรียนรู้ศาสตร์ในหลาย ๆ แขนงที่มีประโยชน์ และเสริมสร้างความสุขในการดำเนินชีวิตประจำวัน เช่น รายวิชาทางสังคมศึกษา ภาษาอังกฤษ กีฬาประเภทต่าง ๆ เป็นต้น กลุ่มวิชาวิทยาศาสตร์สุขภาพ นักศึกษาจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับโรคต่าง ๆ ที่มีความสำคัญในปัจจุบัน กลไกการเกิดโรค ปัจจัยเสี่ยง รวมถึงระบบการจัดการภายในโรงพยาบาล เศรษฐศาสตร์สุขภาพ และวิทยาการใหม่ ๆ เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์สุขภาพอีกด้วย กลุ่มวิชาวิทยาศาสตร์ข้อมูล นักศึกษาจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับกระบวนการวิเคราะห์ หาความสัมพันธ์ จัดเก็บข้อมูลประเภทต่าง ๆ โดยเฉพาะข้อมูลทางด้านวิทยาศาสตร์สุขภาพ นอกจากนี้นักเรียนจะได้ลงมือวิเคราะห์ข้อมูลจริง ทดลองเขียนโปรแกรม และลองนำโปรแกรมดังกล่าวไปใช้งาน

เมื่อนักศึกษาได้เรียนรู้ทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติจนมีองค์ความรู้เพียงพอแล้ว นักศึกษาจะได้นำความรู้จากห้องเรียนไปฝึกใช้ในการทำงานจริง โดยการทำโครงงานด้านต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับวิทยาศาสตร์ข้อมูลสุขภาพ เพื่อให้เกิดความเข้าใจอย่างลึกซึ้งต่อวิทยาการที่ได้เรียนรู้มา โดยอาชีพที่สามารถประกอบได้หลังสำเร็จการศึกษา อาทิ 1. นักวิทยาศาสตร์ข้อมูล 2. นักวิเคราะห์ข้อมูล 3. นักพัฒนาซอฟต์แวร์และระบบข้อมูล 4. ผู้จัดการซอฟต์แวร์และข้อมูล 5. นักวิชาการคอมพิวเตอร์

ด้านรายละเอียดอื่นๆ ค่าเล่าเรียน  56,000 บาท ระยะเวลา 4 ปี สถานที่เรียน วิทยาลัยวิทยาศาสตร์การแพทย์เจ้าฟ้าจุฬาภรณ์ และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ปีการศึกษา หลักสูตรใหม่ปีการศึกษา 2561  การรับสมัครปีการศึกษา 2565 จำนวนรับเข้าศึกษา (รวมทั้งสิ้น 40 คน) สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://www.pccms.ac.th/?p=3821  e-mail: [email protected] Facebook: Health Data Science PCCMS KMUTT

เปปเปอร์ ลันช์ X สลัดแฟคทอรี่ ตอกย้ำกลยุทธ์ Collaboration

เปปเปอร์ ลันช์ (Pepper Lunch) สุดยอดร้านสเต็กสไตล์ญี่ปุ่น หนึ่งเดียวในประเทศไทย บริหารงานโดย บริษัท เซ็นทรัล เรสตอรองส์ กรุ๊ป จำกัด (ซีอาร์จี) ผนึกกำลังกับ บริษัท กรีนฟู้ด แฟคทอรี่ โดยแบรนด์ สลัดแฟคทอรี่ (Salad Factory) ร้านสลัดที่เสิร์ฟความอร่อยจากเมนูเพื่อสุขภาพที่หลากหลาย ให้คนทานได้ทานผักจากแหล่งผลิตอาหารที่ดี ตอกย้ำกลยุทธ์ Collaboration ผนึกกำลังขานรับกระแสรักสุขภาพ พร้อมขยายฐานลูกค้าให้ครอบคลุม ทั้งกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ใส่ใจสุขภาพ, กลุ่มคนรักสุขภาพ รวมไปถึงกลุ่มครอบครัว โดยดึงเอาจุดแข็งของทั้ง 2 แบรนด์ มาร่วมกันนำเสนอเมนู New! Salad ยกขบวนสลัดจัดเต็ม 5 เมนูสุดพิเศษ เพื่อเพิ่มทางเลือกอาหารสุขภาพ และความหลากหลายให้กับผู้บริโภค

ด้วยกระแสรักสุขภาพ (Health Conscious) ถือเป็นเทรนด์ที่ได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย ทั้งในกลุ่มของคนรุ่นใหม่ รวมถึงกลุ่มผู้สูงอายุ และยิ่งการระบาดของโควิด-19 ก่อให้เกิดกระแสการตื่นตัวของการระวังป้องกัน รวมถึงการสร้างเสริมสุขภาพให้แข็งแรง ส่งผลให้ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพซึ่งสอดคล้องกับวิถีการดำเนินชีวิตที่เป็นปกติใหม่ (New Normal) อาทิ การเว้นระยะห่างทางสังคม การพึ่งตนเองทางด้านอาหาร และการป้องกันดูแลสุขภาพด้านอื่นๆ ได้รับความสนใจเพิ่มขึ้น จึงเกิดเป็นการร่วมมือกันระหว่างเปปเปอร์ ลันช์ และ สลัดแฟคทอรี่ ด้วยการนำเอาจุดแข็งของทั้ง 2 แบรนด์ คือ ความเป็นสุดยอดในด้านสเต็กสไตล์ญี่ปุ่นกับเนื้อคุณภาพดี มาเสริมกำลังกับสลัดแฟคทอรี่ ที่เชี่ยวชาญและแข็งแกร่งในเมนูสลัด ร่วมกันคิดสูตรเมนู จนได้ออกมาเป็น New! Salad เมนูสลัดผักออแกนิคแบบใหม่ที่จัดเสิร์ฟบนกระทะร้อนที่เป็นซิกเนเจอร์ของเปปเปอร์ ลันช์ หนึ่งเดียวในประเทศไทย ให้รสชาติที่อร่อยไม่เหมือนใคร โดยอุณหภูมิกระทะร้อนจะสามารถรักษาความร้อนที่อุณหภูมิพอเหมาะ ให้ได้อุ่นอร่อยไปกับเมนูอาหารจานโปรดได้จนถึงคำสุดท้าย

ซึ่งแคมเปญนี้ นอกจากจะเป็นการช่วยต่อยอดไอเดียเมนูและสร้างประสบการณ์ใหม่ ๆ ให้กับผู้บริโภคแล้ว ยังเป็นการขยายฐานลูกค้า และเพิ่มการรับรู้ของทั้ง 2 แบรนด์ด้วย โดยในด้านของการสื่อสารกับลูกค้าเน้นสื่อสารผ่านช่องทางโซเชียลมีเดีย, อินฟลูเอนเซอร์ , KOLs และบล็อกเกอร์ ทั้งสายสุขภาพ และ สายไลฟ์สไตล์ เป็นต้น โดยตั้งเป้ายอดขายจากแคมเปญนี้ 2.5 ล้านบาท

New! Salad ขบวนสลัด จัดเต็มเวอร์ ด้วยวัตถุดิบชั้นเยี่ยมการันตีความอร่อยจากเปปเปอร์ ลันช์ เสิร์ฟพร้อมผักสลัดสดออแกนิคจากฟาร์มคุณภาพจากสลัดแฟคทอรี่ มีให้ลิ้มลองถึง 5 เมนู

  1. สลัดผักรวม (Mix Salad) 129บาท ผักออแกนิคสดๆจากฟาร์มของสลัดแฟคทอรี่ทานคู่กับน้ำสลัดซีอิ้วญี่ปุ่น
  2. สลัดไก่คาราอาเกะงาญี่ปุ่น (Chicken Karaage Salad) 159 บาท ผักออแกนิคสดๆจากฟาร์มของสลัดแฟคทอรี่ทานคู่กับไก่คาราอาเกะสูตรเฉพาะของเปปเปอร์ ลันช์ ทานน้ำสลัดงาญีปุ่น
  3. สลัดหมูสไลด์กิมจิเกาหลี (Pork Salad with Kimchi) 159 บาท ผักออแกนิคสดๆจากฟาร์มของสลัดแฟคทอรี่ทานคู่กับหมูสไลด์ที่คัดมาอย่างดี ทานกับกิมจิเกาหลี และน้ำสลัดงาญี่ปุ่น
  4. สลัดเนื้อมิกซ์กิมจิเกาหลี (Beef (S.Beef) Salad with Kimchi) 189 บาท ผักออแกนิคสด ๆ จากฟาร์มของสลัดแฟคทอรี่ทานคู่กับเนื้อนำเข้า (U.S.Beef) ทานกับน้ำสลัดซีอิ้วญี่ปุ่น
  5. สลัดย่างกระทะร้อน(Grilled Salad) 99 บาท หรือ เพิ่มเงิน 20 บาท เสริฟพร้อมเบคอนกรอบ(Crispy bacon) และพามาซานชีส(Parmesan Cheese) ไฮไลท์ที่พลาดไม่ได้ คือ เมนูสลัดย่างกระทะร้อน นำผักครอสสดๆจากสลัดแฟคทอรี่ ย่างบนกระทะที่รักษาอุณหภูมิที่เหมาะ ทำให้ผักมีรสชาติอร่อยมากขึ้นได้ความหวาน กรอบ และหอมของผักเมื่อย่างยิ่งทานคู่กับเบคอนกรอบ(Crispy bacon) และพามาซานชีส(Parmesan Cheese) ได้รสชาติที่อร่อยมากยิ่งขึ้น

พร้อมเสิร์ฟความอร่อยได้สุขภาพที่ร้านเปปเปอร์ ลันช์ 8 สาขาที่ร่วมรายการ ได้แก่ สาขาเซ็นทรัล เวิลด์, เซ็นทรัล ลาดพร้าว, เมกาบางนา, เกตเวย์เอกมัย, แฟชั่นไอร์แลนด์, เซ็นทรัลปิ่นเกล้า, สีลมคอมเพล็กซ์ และ เดอะพรอมมานาด และในช่องทางเดลิเวอรี่ ตั้งแต่วันที่ 15 กันยายน – 30 พฤศจิกายน 2564

 โปรโมชั่นพิเศษ

  1. โปรโมชั่นบน Line Official เพียงกดรับสิทธิ์ผ่านทาง Line@pepperlunchth (เฉพาะรับประทานที่ร้าน)
  • สลัดกระทะร้อน + พาสต้าซีฟู้ด ราคาเพียง 237 บาท จากปกติ  279 บาท
  • สลัดคาราอาเกะ หรือ สลัดหมูกิมจิ + ซุปเห็ด ราคาเพียง 209 บาท จากปกติ 218 บาท
  • สลัดเนื้อกิมจิ + สลัดกระทะร้อนเสริฟพร้อมเบคอนกรอบและพามาซานชีส ราคาเพียง 289 บาท จากปกติ 308 บาท

ระยะเวลารับสิทธิ์ตั้งแต่ 16 – 25 ก.ย. 2564

ระยะเวลาการใช้สิทธิ์ตั้งแต่ 16 – 30 ก.ย. 2564

  1. โปรโมชั่นเซตพิเศษบนเดลิเวอรี่ เสริฟพร้อมซุปเห็ดและน้ำแร่ เพื่อตอบโจทย์กระแสผู้รักสุขภาพ โดยวางจำหน่ายบนเดลิเวอรี่ทุกเมนู ยกเว้น สลัดกระทะร้อน
  • สลัดรวม + ซุปเห็ด + น้ำแร่ ราคาเพียง 199 บาท  จากปกติ 233 บาท
  • สลัดไก่คาราอาเกะงาญี่ปุ่น + ซุปเห็ด + น้ำแร่ ราคาเพียง 229 บาท ราคาปกติ  263 บาท
  • สลัดหมูสไลด์กิมจิเกาหลี + ซุปเห็ด + น้ำแร่ ราคาเพียง 239 บาท ราคาปกติ 263 บาท
  • สลัดเนื้อ (S.Beef) สไลด์กิมจิเกาหลี +ซุปเห็ด+น้ำแร่ ราคาเพียง  270 บาท   ราคาปกติ 293 บาท

ระยะเวลาการใช้สิทธิ์ตั้งแต่ 15  ก.ย. –  30 พ.ย. 2564

HappyFresh ส่งมอบหนัง “ดีที่สด” เจาะตลาดครอบครัวมือใหม่

HappyFresh (แฮปปี้เฟรช) ผู้นำแพลตฟอร์มซูเปอร์มาร์เก็ตออนไลน์แห่งอาเซียนดึง “เผือก – พงศธร” ขึ้นแท่นพรีเซนเตอร์พร้อมสร้างคอนเทนต์สุดเจ๋ง รุกตลาดครอบครัวยุคใหม่ ตอกย้ำบริการ Personal Shopper เจ้าเดียวในประเทศภายใต้คอนเซ็ปต์เลือกของที่ดีที่สด” เพื่อคุณ 

นายเดวิด ลิม กรรมการผู้จัดการ HappyFresh ประจำประเทศไทย กล่าวว่า เราตั้งเป้าหมายตั้งแต่เริ่มธุรกิจ เพื่อจะส่งมอบของสดของใช้ที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าทุกคน โดยเฉพาะกลุ่มครอบครัวยุคใหม่ โดยตลอดระยะเวลา 6 ปีที่ผ่านมา ความทุ่มเทของเราได้พิสูจน์ถึงคุณภาพของสินค้าและบริการที่ดีเลิศ รวมถึงสร้างความไว้วางใจให้กับครัวเรือนต่างๆในประเทศไทย ว่าทุกคนจะได้รับสินค้าที่สดและมีคุณภาพดีที่สุด โดยที่ผ่านมาทั่วโลกรวมถึงประเทศไทยต่างก็ได้รับผลกระทบจากวิกฤตการณ์โควิด-19  HappyFresh จึงอยากส่งมอบความพิเศษให้แก่ครอบครัวมือใหม่ทุกท่านผ่าน หนังโฆษณาชุด ดีที่สด ซึ่งจะมาทั้งความสุขรอยยิ้ม และเสียงหัวเราะให้แก่ผู้บริโภคทุกท่าน 

ด้วยการดึงต้นแบบครอบครัวมือใหม่ เผือก พงศธร จงวิลาส เป็นพรีเซนเตอร์ผู้นำพาเสียงหัวเราะมาให้ทุกคน เนื่องจากคุณเผือกสะท้อนภาพลักษณ์ของผู้ใช้งาน HappyFresh ได้เป็นอย่างดี เป็นตัวแทนของครอบครัวยุคใหม่ ที่มองหาบริการที่จะช่วยทำให้ชีวิตของพวกเขาสะดวกสบาย และตัดความกังวลออกไป พร้อมเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่เพื่อตอกย้ำศักยภาพของPersonal Shopper ภายใต้คอนเซ็ปต์ เลือกของที่ดีที่สด เพื่อคุณ 

เรื่องราวในหนังโฆษณานี้ ล้อเลียนมาจากภาพยนตร์ชื่อดังระดับโลก   เรื่อง สไตล์ แต่สิ่งหนึ่งที่เหมือนกันของหนังทุกเรื่อง คือตัวละครเอกจะต้องพบเจอกับสถานการณ์คับขัน ที่ยากจนไม่รู้จะเลือกทางออกยังไง แต่ท้ายที่สุดแล้ว พนักงานPersonal Shopper ของ HappyFresh ก็สามารถที่จะช่วยเลือกทางออกที่ดีที่สุดให้ได้เสมอ เหมือนกับปัญหาการซื้อของสดของใช้ ที่ทุกครอบครัวต้องเผชิญ ไม่ว่าจะเป็นไม่มีเวลาไป หรือเลือกไม่เป็น ก็สามารถให้ HappyFresh ช่วยเลือกของที่ดีที่สุดให้คุณได้” นายเดวิด กล่าวเสริม 

ด้าน เผือก พงศธร ยังเล่าเสริมว่า ตอนที่ตัดสินใจรับพรีเซนเตอร์ให้กับ HappyFresh ผมก็ปรึกษากับภรรยาอย่างดี เพราะเราต้องมั่นใจในบริการนั้นก่อน เราถึงจะรับงาน จนผมได้ลองใช้บริการ HappyFresh แล้วจึงพบว่า นี่แหละคือบริการที่ผมและครอบครัวมองหา เหมาะกับครอบครัวมือใหม่อย่างผมมากๆ เพราะโดยปกติ คุณลูกจ๋า (ภรรยาจะค่อนข้างวุ่นเพราะต้องคอยดูแล น้องลูกครับ (ลูกชายรวมถึงดูแลงานในบ้านทั้งหมด บางทีก็ไม่มีเวลาออกไปซื้อของข้างนอก หรือด้วยสถานการณ์ปัจจุบัน เราก็ไม่อยากที่จะออกไปเสี่ยงเอาเชื้อกลับเข้ามาหาลูก จะให้ผมไปซื้อของ ผมก็เลือกไม่เก่ง ซื้อกลับมาทีไรไม่เคยถูกใจภรรยาสักที จนมาเจอ HappyFresh ที่เป็นเจ้าเดียวในประเทศไทยที่มีพนักงาน Personal Shopper มืออาชีพที่ถูกฝึกมาอย่างดี มั่นใจได้ว่าของที่ได้รับ สดใหม่ และดีที่สุดแน่นอน พอรู้แบบนี้ผมและครอบครัวก็วางใจ และใช้บริการ HappyFresh มาโดยตลอด 

นายเดวิด ลิม ยังเน้นย้ำว่า HappyFresh ยังคงมุ่งพัฒนาบริการอย่างต่อเนื่อง  โดยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา จุดแข็งที่ทำให้ลูกค้าประทับใจมากที่สุดคือเรื่องคุณภาพของสินค้า ที่ถูกเลือกอย่างดีที่สุด เนื่องจาก HappyFresh มีพนักงานที่เรียกว่า Personal Shopper หรือผู้ช่วยเลือกซื้อสินค้าเพื่ออำนวยความสะดวกสบายแก่ลูกค้า และรักษามาตรฐานการคัดสรรสินค้าที่สดใหม่ของทุกการสั่งซื้อแม้ในช่วงวิกฤติการณ์ เพื่อให้ลูกค้าทุกท่านมั่นใจได้ว่า จะได้รับสินค้าที่ดีที่สด เพราะมีมืออาชีพคอยเลือกให้อย่างแน่นอน โดยพนักงาน Personal Shopperทุกคน จะต้องผ่านการฝึกฝนฝีมืออย่างเข้มงวด เรียกได้ว่าไม่ได้ผ่านได้ง่ายๆ 

ในระยะเวลา 18เดือนที่ผ่านมา HappyFresh มียอดตัวเลขเติบโตพุ่งทะยานขึ้นถึง 20 เท่า โดยในช่วงไตรมาสที่3นี้ HappyFresh ได้เตรียมการขยายพื้นที่ให้บริการให้ครอบคลุมทั่วทั้งกรุงเทพฯ เพื่อตอบรับความต้องการของครัวเรือน และสร้างความเชื่อมั่นว่าทุกครอบครัวจะสามารถเข้าถึงบริการในการสั่งซื้อและรับสินค้าที่บ้านได้อย่างปลอดภัย อีกทั้งยังมีแผนขยายพื้นที่ให้บริการ HappyFresh ไปยังจังหวัดอื่นๆ ของประเทศไทย เพราะเราเชื่อว่า HappyFresh เป็นส่วนสำคัญในการช่วยเหลือให้ทุกครอบครัว สามารถเข้าถึงสินค้าอุปโภคบริโภคในช่วงเวลาที่ยากลำบากเช่นนี้” นายเดวิด กล่าวทิ้งท้าย 

https://www.youtube.com/watch?v=Mzj3Sa_si_Y

เปิดตัวแคมเปญ “ท้าไม่ทิ้ง กับกาแฟเขาช่อง ซีซั่น 2 เก็บแยกแลกดื่ม”

กาแฟเขาช่อง เริ่มดำเนินธุรกิจครั้งแรก ในปี พ.ศ. 2502 ตลอดระยะเวลากว่า 62 ปี ได้พัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อให้ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของลูกค้าอย่างไม่หยุดนิ่ง อีกทั้งยังมุ่งเน้นดำเนินกิจกรรมเพื่อส่งเสริมสังคมไทยให้เจริญเติบโตอย่างยั่งยืนด้วยวิถีพอเพียง

ในปี 2564 นี้ ถึงแม้ทั่วโลกจะตกอยู่ในสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิค19 และประเทศไทยเอง กำลังฝ่าวิกฤตการณ์โรคระบาดนี้อย่างเข้มแข็ง กาแฟเขาช่อง ภายใต้การบริหารงาน โดย ดร. อริยา จิระเลิศพงษ์  รองกรรมการผู้จัดการ แห่งกาแฟเขาช่อง ที่มีความตั้งใจในการรับผิดชอบต่อสังคมอย่างสร้างสรรค์ ล่าสุด เปิดตัวแคมเปญ “ท้าไม่ทิ้ง กับกาแฟเขาช่อง ซีซั่น เก็บแยกแลกดื่ม” เพื่อปลุกกระแสให้คนแคร์โลกและตระหนักถึงปัญหาสิ่งแวดล้อม ปัญหาขยะพลาสติกล้นเมือง ส่งเสริมให้ลูกค้าผลิตภัณฑ์กาแฟเขาช่องและประชาชนทั่วไป หันมาร่วมกันสร้างสรรค์สังคมไทยให้เป็นสังคมไร้ขยะพลาสติก นำขยะพลาสติกมาสร้างให้มีมูลค่า สร้างความยั่งยืนในอนาคต

ดร. อริยา จิระเลิศพงษ์ รองกรรมการผู้จัดการ แห่งกาแฟเขาช่อง เผยว่า แคมเปญ “ท้าไม่ทิ้งกับกาแฟเขาช่อง ซีซั่น เก็บแยกแลกดื่ม” เป็นการปลุกพลังคนรุ่นใหม่ ให้หันมาใส่ใจกับปัญหาสิ่งแวดล้อมรอบตัวเองหรือในชุมชนมากขึ้น โดยเราสร้างแรงบันดาลใจ ผ่านกลุ่มศิลปินไอดอล Three Man Down , ลำไย ไหทองคำ และ นนท์ ธนนท์ จำเริญ ที่จะมาแชร์ไอเดียรักษ์โลก การลดปัญหามลพิษ การลดขยะพลาสติก การนำขยะพลาสติก ไปสร้างประโยชน์ต่างๆ ให้กับสังคม ถ่ายทอดผ่านรายการที่สนุกสนาน บนการเดินทางทำภารกิจที่ท้าทาย ให้เรื่องสิ่งแวดล้อมเป็นเรื่องที่ไม่น่าเบื่อ”

“นอกจากกิจกรรมที่กล่าวไปแล้ว เราในฐานะของผู้ประกอบการที่ต้องการรับผิดชอบต่อสังคมทั้งจากภายในองค์กรภายใต้ความร่วมมือร่วมใจของพนักงานทุกคนที่ให้ความสำคัญกับการจัดการขยะและระบบสิ่งแวดล้อมในบริษัทให้มีประสิทธิภาพสูงสุดแล้ว เรายังมีความคาดหวังว่าบรรจุภัณฑ์จากผลิตภัณฑ์ของเราที่ออกสู่ตลาดแล้ว จะได้รับการจัดการ       ที่เหมาะสม เพื่อนำกลับมาเป็นประโยชน์คืนต่อสังคมได้เช่นกัน จึงได้ออกแคมเปญท้าไม่ทิ้งกับกาแฟเขาช่อง ซีซั่น 2 เก็บแยกแลกดื่ม เพื่อกระตุ้นให้ลูกค้าส่งชิ้นส่วนซองผลิตภัณฑ์กาแฟเขาช่อง กลับมาแลกบัตรกำนัล (E-Vouchers) ใช้แทนเงินสด    เพื่อซื้อผลิตภัณฑ์กาแฟเขาช่องทาง www.khaoshong.com/onlinestore ได้ ซึ่งถือเป็นการคืนกำไรให้ลูกค้าอีกด้วย   และท้ายที่สุด ชิ้นส่วนของผลิตภัณฑ์ที่ส่งเข้ามาจะถูกรวบรวมนำไปสร้างถนนสีเขียว มอบให้อุทยานแห่งชาติออบขาน    จ.เชียงใหม่ จึงขอเชิญชวนให้ลูกค้ากาแฟเขาช่อง ส่งซองผลิตภัณฑ์มาร่วมสมทบในแคมเปญเพื่อเป็นส่วนนึงในการสร้างสรรค์ประโยชน์ด้วยกัน และรอติดตามข่าวสารกิจกรรมนี้ทาง Facebook Fanpage : Khao Shong Coffee Thailand และช่องทางต่างๆ ของเวิร์คพอยท์ค่ะ” ดร. อริยา จิระเลิศพงษ์ กล่าวปิดท้าย 

ยอดจอง ปอร์เช่ 911 จีที3 ใหม่ ทะลุกว่า 20 คัน ทันทีที่เปิดจอง

ยอมใจในความแรงไม่แพ้รุ่นไหนกับ ปอร์เช่ 911 จีที3 ใหม่ (The new Porsche 911 GT3) ที่นำเข้าภายใต้ ปอร์เช่ ประเทศไทย โดย บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ปอร์เช่อย่างเป็นทางการ ซึ่งไม่ใช่แค่รถเท่านั้นที่แรงอย่างมีคุณภาพ ตัวเลขการจองก็พุ่งทะยานแรงไม่แพ้ใคร โดยหลังจากที่ได้เปิดจองไปเมื่อไม่นานนี้สนนราคาเริ่มต้น 17.9 ล้านบาท มีผู้สนใจจับจองเป็นเจ้าของความแรงแล้วกว่า 20 คันซึ่งเป็นอัตราสูงสุดในประวัติศาสตร์ของยอดจอง GT 3 ในประเทศไทย และเพิ่มความเอ็กซ์คลูซีฟอย่างฉุดไม่อยู่ เอเอเอสฯ พร้อมเปิดให้ท่านยลโฉมและสัมผัสความหรูของรถสปอร์ตจากแบรนด์ระดับโลกอย่างใกล้ชิดเพื่อครอบครองรุ่นท็อปแห่งไอคอนนิค 911กันได้แล้ว ตั้งแต่วันที่ 1 – 22 กันยายน 2021 นี้ ณ Porsche Studio Bangkok ศูนย์การค้า ไอคอนสยาม และ ชั้น Porsche City Showroom ศูนย์การค้า สยามพารากอน

ธนบดี กุลทล ผู้อำนวยการฝ่ายขาย ปอร์เช่ ประเทศไทย บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด กล่าวว่า นับเป็นอีกหนึ่งรุ่นสุดยอดที่มีผลิตมาจำนวนจำกัด กับ ปอร์เช่ 911 จีที3 ใหม่ (The new Porsche 911 GT3) ด้วยคุณสมบัติที่ตอบโจทย์คอรถพันธุ์แรงโดยเฉพาะ เสริมอุปกรณ์ทางเทคนิคที่โดดเด่นในขั้นตอนการพัฒนา ยกระดับขีดความสามารถด้านสมรรถนะของยนตรกรรมสปอร์ตพลังแรง โดยไม่ลดทอนอรรถประโยชน์ความสะดวกสบายในการใช้งานประจำวันลงแม้แต่น้อย เพิ่มการปรับแต่งด้วยอุโมงค์ลมนานกว่า 160 ชั่วโมง ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่ปีกหลังแบบลอยตัว หรือ Swan neck rear wing ได้รับการติดตั้งลงในรถสปอร์ตปอร์เช่จากสายการผลิตปกติ ทำให้งานออกแบบใหม่ช่วยลดการสูญเสียที่ไม่จำเป็นและเพิ่มแรงกดท้ายรถให้มากขึ้น ทำให้งานออกแบบใหม่ช่วยลดการสูญเสียที่ไม่จำเป็นและเพิ่มแรงกดท้ายรถให้มากขึ้น แรกได้ว่าแรงกดรถรุ่นนี้มากกว่ารุ่นก่อนหน้าถึง 50 เปอร์เซ็นต์ ที่ความเร็ว 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อันเป็นผลจากการปรับแต่งอุปกรณ์ภายนอกตัวรถเท่านั้น ในกรณีที่ต้องการแรงกดสูงสุด สามารถปรับตั้งให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นกว่า 150 เปอร์เซ็นต์ อีกด้วย

ปวราภา ดุพัสกูล ผู้อำนวยการแผนกการตลาดและประชาสัมพันธ์ ปอร์เช่ ประเทศไทย บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด กล่าวว่า แน่นอนว่าในฐานะผู้นำเข้ารถยนต์ปอร์เช่อย่างเป็นทางการ เอเอเอสฯ เตรียมวางแผนการจัดงานเปิดตัวและกิจกรรมสุดพิเศษ ของ 911 GT3 เพื่อให้แฟนๆ ปอร์เช่ที่รอคอยรุ่นท็อปไอคอนนิคความแรง ความเร็ว ได้ร่วมสัมผัสกันเร็วๆ นี้แน่นอน แต่ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของ Covid-19 ในปัจจุบัน ทำให้ทางแบรนด์เองต้องปรับตัว ปรับกลยุทธ์ ให้เหมาะสมและดีที่สุด สำหรับโชว์รูมและศูนย์บริการที่เรายังเปิดทำการปกติ เอเอเอสฯ ได้มีมาตรการยกระดับการป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อไวรัส Covid-19 โดยสนับสนุนให้พนักงานทุกคนได้รับวัคซีน 100% และมีการทำความสะอาดด้วยการพ่นฆ่าเชื้อในทุกจุดสัมผัส บริการเจลแอลกอฮอล์ล้างมือ และตรวจวัดอุณหภูมิทั้งพนักงานและผู้เข้ามาเยี่ยมชม เพื่อความอุ่นใจของท่านในการเข้ามารับบริการ

เรียกว่าสมการรอคอยของคอรถสปอร์ตจริงๆ สำหรับใครที่สนใจ 911 GT3 ใหม่นี้ สามารถติดต่อที่ปรึกษาทางการขายของปอร์เช่ เอเอเอสฯ ได้ทุกสาขาเพื่อไม่พลาดในการได้รับเชิญร่วมกิจกรรมก่อนใคร หรือสามารถติดตามข่าวสารและข้อมูลกิจกรรมต่างๆ ของปอร์เช่ประเทศไทยได้ที่ Facebook Instagram และ Line official ของ Porsche Thailand รวมถึง ช่อง Youtube AAS Auto Service

ช้อปอะไรดี? ละมุนลิ้นกับ 18 รสชาติจาก Azabu Sabo

Azabu Sabo ไอศกรีมเจลาโต้ต้นตำรับจากญี่ปุ่น ในเครือ JAO GROUP จัดโปรโมชั่นขยายพื้นความอร่อย ตามคำเรียกร้อง จัดส่งฟรีทั่วประเทศ เมื่อสั่งซื้อ Azabu Sabo Big Cup Set” จำนวน 5 ควอท ที่ให้คุณเลือกรสชาติไอศกรีมที่ชื่นชอบได้ถึง 18 รสชาติ อาทิ Hokkaido Milk, Green Tea#1, Greentea#2, Genmaicha, Houjicha, Chocolate, Strawberry, Dark Chocolate, Chocolate & Oreo, Coffee, Black Sesame, Seasalt Caramel, Cookie and Cream, Mint Chocolate, Red Velvet, Rum Raisin, Yuzu และ Passion Fruit

กับโปรโมชั่นในราคาสุดพิเศษเฉพาะเดือนนี้เท่านั้น 5 ควอท Big Size ราคา 995 บาท จากปกติ 1,345 บาท (สำหรับพื้นที่กรุงเทพฯ) และราคา 1,195 บาท จากปกติ 1,345 บาท (สำหรับจัดส่งต่างจังหวัด) ตั้งแต่วันนี้ – 30 กันยายนนี้ เฉพาะการสั่งผ่าน Call Center เท่านั้น ทาง 061-628-9826 หรือ ทาง Line Official Account: @azabusaboth คือคลิกลิงค์นี้ https://lin.ee/nOGdsQs เพื่อแชทกับพนักงานได้เลย!