คาราบาวกรุ๊ป – ซี.เจ. เอ็กซ์เพรส กรุ๊ป คว้ารางวัลระดับสากลจาก “ดีลอยท์”

บริษัท คาราบาว กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) และ บริษัท ซี.เจ. เอ็กซ์เพรส กรุ๊ป จำกัด ชนะรางวัล Thailand’s Best Managed Companies 2021 บริษัทที่มีการบริหารจัดการดีที่สุดของประเทศไทย ปี 2564 รางวัลที่ได้รับการยอมรับระดับโลกจาก “ดีลอยท์” ซึ่งจัดขึ้นเป็นปีแรกในประเทศไทย ผ่านช่องทางออนไลน์ เพื่อมอบรางวัลให้กับบริษัทเอกชนชั้นนำของไทยที่มีรายได้มากกว่า 25 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อปี ที่ประสบความสำเร็จในด้านการบริหารจัดการ และมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนวงการอุตสาหกรรม และระบบเศรษฐกิจของประเทศ

รางวัล Thailand’s Best Managed Companies 2021 เป็นส่วนหนึ่งของการมอบรางวัล Best Managed Companies ของดีลอยท์ โดยใช้กระบวนที่น่าเชื่อถือเพื่อประเมินคุณภาพการจัดการของธุรกิจในด้านต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นด้านกลยุทธ์ ความสามารถ และนวัตกรรม วัฒนธรรมองค์กร และพันธสัญญา ตลอดจนการกำกับดูแล และการเงินขององค์กร เพื่อมอบรางวัลให้กับองค์กรในประเทศไทยตามแนวทางของการมอบรางวัลระดับสากล ที่ดีลอยท์ได้จัดขึ้นใน       37 ประเทศทั่วโลก เป็นเวลายาวนานกว่า 25 ปี

สำหรับองค์กรที่ชนะรางวัลในครั้งนี้ ประกอบด้วย 6 บริษัท ได้แก่ บริษัท คาราบาวกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) สาขาอาหารและเครื่องดื่ม, บริษัท เบ็ทเทอร์ ฟาร์ม่า จำกัด สาขาผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม,  บริษัท ซี.เจ. เอ็กซ์เพรส กรุ๊ป จำกัด สาขาร้านสะดวกซื้อ, บริษัท เฌอร่า จำกัด (มหาชน) สาขาวิศวกรรมและการก่อสร้าง, บริษัท ส.ขอนแก่นฟู้ดส์ จำกัด (มหาชน) สาขาอาหารและเครื่องดื่ม และบริษัท ไวส์ โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) สาขาคมนาคม

นายเสถียร เศรษฐสิทธิ์ ประธานกรรมการ บริษัท คาราบาวกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า รางวัล Thailand’s Best Managed Companies 2021 สะท้อนถึงความตั้งใจของพวกเราทุกคนในการทำงานภายใต้วิสัยทัศน์ World Class Product, World Class Brand เพื่อพัฒนาองค์กรให้เราก้าวขึ้นเป็นองค์กรระดับโลก

นายวีรธรรม เศรษฐสิทธิ์ ประธานกรรมการ บริษัท ซี.เจ. เอ็กซ์เพรส กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า การได้รับรางวัลจาก Deloitte ครั้งนี้เป็นสิ่งที่ยืนยันว่า การที่เรานำพลังของคนรุ่นใหม่ มาใช้ในการบริหารจัดการบริษัทนั้นเป็นสิ่งที่ถูกต้อง ทำให้บริษัทเติบโตไปตามเส้นทางที่ควรจะเป็น ผมรับรางวัลนี้ในนามของพนักงาน และผู้บริหารทุกท่าน ที่ได้ร่วมต่อสู้ และฟันฝ่ากันมาตลอดหลายปี

บริษัท คาราบาว กรุ๊ป จำกัด ( มหาชน ) จัดตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2557 และนำบริษัทฯ เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2557 โดยเริ่มจากการเปิดตัวเครื่องดื่มบำรุงกำลังภายใต้เครื่องหมายการค้า “คาราบาวแดง” เข้าสู่ตลาดในประเทศไทยเมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2545

ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา บริษัทมีการขยายธุรกิจต่อเนื่องครอบคลุมกระบวนการจัดหาวัตถุดิบหลัก การผลิต การตลาด การขายและจัดจำหน่ายเครื่องดื่มบำรุงกำลังและเครื่องดื่มอื่นๆ ตั้งแต่การผลิตขวดแก้วและกระป๋องอลูมิเนียมเพื่อใช้เป็นบรรจุภัณฑ์สำหรับโรงบรรจุสินค้าสำเร็จรูป และต่อเนื่องไปจนถึงการบริหารจัดการช่องทางกระจายผ่าน เครือข่ายร้านค้า และพันธมิตรทางธุรกิจสำหรับธุรกิจในประเทศ และต่างประเทศ ภายใต้วิสัยทัศน์สินค้าระดับโลก และแบรนด์ระดับโลก

บริษัท ซี.เจ. เอ็กซ์เพรส กรุ๊ป จำกัด ดำเนินกิจการค้าปลีกในรูปแบบใหม่ โดยการจำหน่ายสินค้าอุปโภคและบริโภคที่ครบครันในราคาประหยัด ภายใต้การบริหารงานของ “บริษัท พีเอสดี รักษ์ไทย จำกัด” ซึ่งจัดตั้งเมื่อวันที่ 4 มกราคม 2548 และต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็น “บริษัท ซี.เจ. เอ็กซ์เพรส กรุ๊ป จำกัด” เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2556

ตลอดระยะเวลา 15 ปี ที่ผ่านมา บริษัทเติบโตอย่างต่อเนื่องและรวดเร็ว และในปี 2563 ได้เปิดตัวโมเดลธุรกิจใหม่ ในชื่อ “ซีเจ มอร์” (CJ MORE) ภายใต้คอนเซ็ปต์ More Than Anyone, More Than Supermarket เพื่อสร้างความแตกต่างจากคู่แข่งในธุรกิจเดียวกัน  โดยเปิดตัวแฟลกชิพสโตร์ที่สาขาสีลม เพื่อเป็นร้านต้นแบบในการขยายสาขา “ซีเจ มอร์” ในอนาคต พร้อมเดินหน้าพัฒนาแบรนด์ค้าปลีกของตัวเอง เพื่อตอบสนองลูกค้าได้อย่างครบครันมากขึ้น โดยมีแผนนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในอนาคต

สำหรับรางวัล Thailand’s Best Managed Companies 2021 ดีลอยท์มีกระบวนการคัดเลือกที่เข้มงวด และดำเนินการอย่างอิสระ และมีคณะกรรมการตัดสินอิสระ ประกอบด้วยตัวแทนจากภาคธุรกิจและสถาบันการศึกษา ทำหน้าที่ตัดสินผู้ชนะตามแนวทางปฏิบัติชั้นนำของ Best Managed Companies ได้แก่ รศ.ดร. กฤตินี ณัฎฐวุฒิสิทธิ์ สถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, ดรุษกร วิสุทธิสิน ผู้ช่วยเลขาธิการ สมาคมธนาคารไทย และอรวรรณ หอยจันทร์ บรรณาธิการบริหาร นิตยสาร Forbes Thailand โดยบริษัทที่เข้าร่วมโปรแกรมจะถูกประเมินทักษะ และแนวทางการบริหาร ซึ่งกระบวนการดังกล่าวประกอบด้วยการวิเคราะห์กลยุทธ์ และวิเคราะห์การดำเนินงานทางธุรกิจ รวมถึงเปรียบเทียบกับกรอบการประเมินที่ได้มีการใช้กับบริษัทเอกชนที่มีการจัดการที่ดีที่สุดทั่วโลกกว่า 1,000 แห่ง ทั้งนี้ ผู้นำธุรกิจสามารถนำความรู้ที่ได้จากการร่วมโปรแกรมไปปรับใช้ในการวางกลยุทธ์ และวางแผนเพื่อเพิ่มการเติบโตให้กับธุรกิจของตนต่อไป

ย้ำเพิ่มมาตรฐานจัดส่งสินค้า กล่องบรรจุภัณฑ์อาหาร ป้องกันโควิด-19

นายทรงศักดิ์ ทองศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย มอบนโยบายในการป้องกันควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่แพร่กระจายเป็นวงกว้างในขณะนี้ โดยการกระจายขนส่งสินค้าต้องคุมเข้มด้านความปลอดภัยขับเพื่อลดความเสี่ยงในการติดและแพร่กระจายของเชื้อโรค ทั้งนี้ ได้เน้นย้ำให้องค์การตลาด (อต.) กระทรวงมหาดไทยกระจายสินค้าขนส่งในสถานการณ์โควิด-19 ด้วยการเพิ่มความระมัดระวังขั้นสูงสุด ด้วยมาตรการรักษาความสะอาดกล่องบรรจุภัณฑ์อาหารและสินค้าท้ายยานพาหนะต้องปกปิดมิดชิด รักษาความสะอาดยานพาหนะที่ใช้ในการขนส่ง โดยทำการฆ่าเชื้อเป็นประจำ สม่ำเสมอ ฉีดพ่นฆ่าเชื้อบริเวณใกล้พื้นผิวสัมผัสมากที่สุดเพื่อไม่ให้เกิดการฟุ้งกระจาย แล้วเช็ดถูพื้นผิวทำความสะอาดอีกชั้นเพื่อความปลอดภัยสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภค

เบื้องต้นเมื่อวันที่ 7 สิงหาคมที่ผ่านมา การกระจายสินค้าไปยังเรือนจำจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เรือนจำกลางพระนครศรีอยุธยา ทัณฑสถานบำบัดพิเศษพระนครศรีอยุธยาและทัณฑสถานวัยหนุ่มพระนครศรีอยุธยา ดำเนินการตามมาตรการเฝ้าระวัง ป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อย่างเคร่งครัด

ผู้สูงอาย 60 ปีขึ้นไปที่ลงทะเบียนแล้ว รับวัคซีนได้ตามนัดหมาย เริ่มพรุ่งนี้ (10 ส.ค.)

เพจเฟซบุ๊กไทยร่วมใจกรุงเทพฯปลอดภัย แจ้งว่า หน่วยความร่วมมือบริการฉีดวัคซีนโควิด-19 กรุงเทพมหานคร -หอการค้าไทย แจ้งให้ผู้สูงอาย 60 ปีขึ้นไป ที่จองคิวฉีดวัคซีนทางโทรศัพท์ เข้ารับการฉีดวัคซีนตามที่ได้นัดหมาย โดยรับการฉีดวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า  AstraZeneca เข็มที่ 1 ณ ศูนย์ฉีดวัคซีนไทยร่วมใจฯ

สำหรับผู้ที่มีอายุ 18 -59 ปีที่ลงทะเบียนฉีดวัคซีนไทยร่วมใจกรุงเทพฯปลอดภัยรอบวันที่ 7-26  ก.ค.64 ให้มาฉีดวัคซีนในวันที่ 10-14 ส.ค.64 โดยมีรายละเอียดคือ คิวฉีดเดิม 7-10 ก.ค. เปลี่ยนเป็นคิวฉีดใหม่วันอังคารที่ 10 ส.ค. คิวฉีดเดิม 11-14 ก.ค.เปลี่ยนเป็นคิวฉีดใหม่วันพุธที่ 11 ส.ค.คิวฉีดเดิม 15-18 ก.ค. เปลี่ยนเป็นคิวฉีดใหม่วันพฤหัสบดีที่ 12 ส.ค. คิวฉีดเดิม 19-22 ก.ค. เปลี่ยนเป็นคิวฉีดใหม่วันศุกร์ที่ 13 ส.ค. และคิวฉีดเดิม 23-26 ก.ค. เปลี่ยนเป็นคิวฉีดใหม่วันเสาร์ที่ 14 ส.ค. นี้ สามารถเข้ารับบริการฉีดวัคซีนได้ที่ 25 จุด ตามที่ได้ลงทะเบียนไว้ในเวลาเดิม ส่วนผู้ที่มีคิวนัดหมายตั้งแต่วันที่ 27 ก.ค. 64 เป็นต้นไป ระบบจะแจ้งคิวฉีดวัคซีนใหม่ให้ทราบทันทีเมื่อได้รับการจัดสรรวัคซีน

ก.แรงงาน ชี้แจงสมัครผู้ประกันตน ม.40 ไม่กระทบสิทธิบัตรทอง

นางเธียรรัตน์ นะวะมะวัฒน์ โฆษกกระทรวงแรงงาน เปิดเผยถึงกรณีที่มีกระแสข่าวในสื่อโซเชียลว่า ผู้ประกอบอาชีพอิสระที่สมัครเป็นผู้ประกันตนมาตรา 40 แล้วจะไม่สามารถใช้สิทธิบัตรทอง บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ บัตรคนจน หรือสวัสดิการแห่งรัฐต่าง ๆ ได้นั้น ในเรื่องนี้ กระทรวงแรงงาน ขอชี้แจงว่า จากการที่รัฐบาลมีมาตรการเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการ “ล็อกดาวน์” ในพื้นที่สีแดงเข้ม 29 จังหวัด ครอบคลุม 9 ประเภทกิจการ สำหรับผู้ประกันตนมาตรา 40 ที่จะได้รับเงินเยียวยาเป็นเวลา 1 เดือน จะต้องเป็นผู้ประกันตนมาตรา 40 และไม่สามารถใช้สิทธิบัตรทอง บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ บัตรคนจน หรือสวัสดิการแห่งรัฐต่าง ๆ ได้นั้น ในเรื่องนี้ว่า ไม่เป็นความจริง เพราะการสมัครมาตรา 40 มีทั้งหมด 3 ทางเลือก ได้แก่ ทางเลือกที่ 1 ผู้ประกันตนจ่ายเงินสมทบ 70 บาทต่อเดือน ได้รับสิทธิประโยชน์คุ้มครอง 3 กรณี มีทดแทนการขาดรายได้เมื่อเจ็บป่วย ทุพพลภาพ และค่าทำศพ ทางเลือกที่ 2 ผู้ประกันตนจ่าย 100 บาท ต่อเดือน ได้รับสิทธิประโยชน์คุ้มครอง 4 กรณี มีทดแทนการขาดรายได้เมื่อเจ็บป่วย ทุพพลภาพ ค่าทำศพ และเพิ่มบำเหน็จชราภาพอีกหนึ่งกรณี และทางเลือกที่ 3 ผู้ประกันตนจ่าย 300 บาท ได้รับสิทธิประโยชน์พื้นฐานคุ้มครอง 5 กรณี มีทดแทนการขาดรายได้เมื่อเจ็บป่วย ทุพพลภาพ ค่าทำศพ บำเหน็จ ชราภาพ และสงเคราะห์บุตร ซึ่งสิทธิประโยชน์ดังกล่าวไม่เกี่ยวกับสิทธิรักษาพยาบาลร่วมกับบัตรทอง (สปสช.) หรือสิทธิประโยชน์สวัสดิการแห่งรัฐต่าง ๆ ที่เคยได้รับยังเหมือนเดิม และในขณะนี้สำนักงานประกันสังคมยังลดเงินสมทบได้ลดเงินสมทบ ผู้ประกันตนตามมาตรา 40 เหลือร้อยละ 60 ของเงินสมทบเดิม เป็นระยะเวลา 6 เดือนตั้งวันที่ 1 ส.ค. 64 -31 ม.ค. 65 ให้แก่ผู้ประกันตน ทางเลือกที่ 1 เดิมจ่าย 70 บาท เหลือ 42 บาทต่อเดือน ทางเลือกที่ 2 เดิมจ่าย 100 บาท เหลือ 60 บาทต่อเดือน และทางเลือกที่ 3 เดิมจ่าย 300 บาท เหลือ 180 บาท

นางเธียรรัตน์ ยังกล่าวยืนยันว่า การสมัครมาตรา 40 ไม่เกี่ยวข้องกับสิทธิรักษาพยาบาลร่วมกับบัตรทอง (สปสช.) รวมทั้งสิทธิประโยชน์สวัสดิการแห่งรัฐต่างๆ แต่อย่างใด และสิทธิที่เคยได้รับยังเหมือนเดิม และมีสิทธิได้รับเงินทดแทนจากการขาดรายได้เมื่อเจ็บป่วย หรือสิทธิประโยชน์กรณีเสียชีวิตจากสำนักงานประกันสังคมเพิ่มขึ้นมาอีกด้วย ส่วนสิทธิประโยชน์ของมาตรา 40 แต่ละทางเลือกขึ้นอยู่กับทางเลือกที่ผู้ประกันตนสมัคร ทั้งนี้ การสมัครมาตรา 40 เพื่อให้ได้มีหลักประกันทางสังคมจากรัฐบาล โดยท่านนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มีความห่วงใยแรงงานนอกระบบหรือผู้ประกอบอาชีพอิสระที่ยังไม่มีหลักประกันทางสังคมจึงได้สั่งการให้นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน เร่งรัดให้สำนักงานประกันสังคมอำนวยความสะดวกให้ผู้ประกอบการอาชีพอิสระได้สมัครมาตรา 40 เพื่อเข้าสู่ระบบประกันสังคม เพื่อมีเงินออมในระยะยาว สามารถเข้าถึงความช่วยเหลือและอุดหนุนเยียวยาจากมาตรการต่างๆ จากภาครัฐได้ในอนาคต

ยื่นก่อน ได้ก่อน เงินเยียวยานายจ้าง 9 ประเภทกิจการ ใน 10 จังหวัด

สำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน ประกาศย้ำ นายจ้างที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการของรัฐใน 10 จังหวัด 9 ประเภทกิจการ ที่ยังไม่ยื่นขอรับเงินชดเชยเยียวยา ขอให้ท่านดำเนินการยื่นแบบความประสงค์ขอรับเงินโดยด่วน ขั้นตอนคือเข้าระบบ e-service บนเว็บไซต์ www.sso.go.th ของสำนักงานประกันสังคม กรอกข้อมูล แล้วส่งกลับมาให้สำนักงานประกันสังคมในเขตพื้นที่รับผิดชอบของสถานประกอบการนั้นตั้งอยู่ กรณีนายจ้างที่เป็นนิติบุคคลให้แนบสำเนาบัญชีธนาคารกลับมาด้วย ส่วนนายจ้างบุคคลธรรมดาให้ผูกบัญชีพร้อมเพย์เลขบัตรประชาชน เพื่อสำนักงานประกันสังคมจะโอนเงินได้อย่างรวดเร็ว

ยอดโควิด-19 วันนี้ ผู้ติดเชื้อเพิ่ม 19,603 ราย

ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ประจำวันจันทร์ที่ 9 สิงหาคม 2564 รวม 19,603 ราย จำแนกเป็น ผู้ติดเชื้อใหม่ 19,290 ราย ผู้ติดเชื้อภายในเรือนจำ/ที่ต้องขัง 313 ราย ผู้ป่วยสะสม 747,245 ราย (ตั้งแต่ 1 เมษายน) ผู้หายป่วยกลับบ้าน 19,819 ราย ผู้หายป่วยสะสม 527,908 ราย (ตั้งแต่ 1 เมษายน) ผู้ป่วยกำลังรักษา 214,421 ราย ผู้เสียชีวิต 149 ราย

ยอดโควิด-19 วันนี้ ผู้ติดเชื้อเพิ่ม 19,983 ราย

ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ประจำวันอาทิตย์ที่ 8 สิงหาคม 2564 รวม 19,983 ราย จำแนกเป็น ผู้ติดเชื้อใหม่ 19,633 ราย ผู้ติดเชื้อภายในเรือนจำ/ที่ต้องขัง 350 ราย ผู้ป่วยสะสม 727,642 ราย (ตั้งแต่ 1 เมษายน) ผู้หายป่วยกลับบ้าน 18,503 ราย ผู้หายป่วยสะสม 508,089 ราย (ตั้งแต่ 1 เมษายน)ผู้ป่วยกำลังรักษา 214,786 ราย ผู้เสียชีวิต 138 ราย

ผู้ป่วยหัวใจควรรู้เมื่อต้องผ่าตัดรักษาช่วง COVID-19

ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อ COVID-19 อาจส่งผลกระทบกับผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัวหลายโรคที่ต้องติดตามผลหรือเช็กสุขภาพอย่างต่อเนื่อง รวมถึงผู้ป่วยโรคหัวใจด้วยที่ต้องได้รับการรักษาหรือเข้ารับการผ่าตัดหัวใจ แต่ด้วยสภาวะไม่ปกติขณะนี้ผู้ป่วยและครอบครัวอาจเกิดความกังวลใจในความปลอดภัยจากเชื้อ COVID-19

นพ.วิฑูรย์ ปิติเกื้อกูล ศัลยแพทย์หัวใจและทรวงอก โรงพยาบาลหัวใจกรุงเทพ กล่าวว่า ผู้ป่วยโรคหัวใจที่ได้รับเชื้อ COVID-19 มีโอกาสเสียชีวิตสูงถึง 20% และต้องใช้เครื่องช่วยหายใจในการรักษา อาจตกอยู่ในภาวะฉุกเฉิน และใช้เวลาในการรักษาที่นานขึ้นกว่าปกติ ฉะนั้นการดูแลตนเองให้ห่างไกลจาก COVID-19 จึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุด

สำหรับผู้ป่วยโรคหัวใจ ควรเลี่ยงการออกนอกบ้าน โดยเฉพาะการไปที่ชุมชนหรือพบเจอผู้คนจำนวนมาก ควรใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลาหรือทุกครั้งที่ออกจากบ้าน และหากอยู่ในบ้านกับผู้มาจากที่อื่นควรสวมหน้ากากอนามัยด้วยเช่นเดียวกัน ควรล้างมือทุกครั้งที่สัมผัสสิ่งต่าง ๆ โดยเฉพาะเวลาสั่งอาหารหรือสั่งของไม่ควรรับโดยตรง เมื่อได้รับของแล้วควรฉีดสเปรย์แอลกอฮอล์ทันที หลังจากแกะของแล้วควรทำความสะอาดก่อนนำไปใช้งาน

นอกจากนี้ การชำระเงินควรเป็นการจ่ายแบบอิเล็กทรอนิกส์ ไม่ควรใช้เงินสดเพราะเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรค ควรแยกกันรับประทานอาหาร เว้นระยะห่างและรับประทานในจานของตัวเองเท่านั้น หากจำเป็นจะต้องรับประทานอาหารร่วมกันต้องมีช้อนส้อมส่วนตัวและช้อนกลางแยกของแต่ละคน ไม่ควรใช้ห้องน้ำร่วมกัน หากมีความจำเป็นควรให้ผู้ที่มีความเสี่ยงต่ำใช้ห้องน้ำก่อนแล้วตามด้วยผู้ที่มีความเสี่ยงสูง ควรทำความสะอาดห้องน้ำและใช้แอลกอฮอล์ทำความสะอาดอีกครั้งก่อนออกจากห้องน้ำ

นอกจากนี้ ผู้ที่ดูแลหรือใกล้ชิดผู้ป่วยโรคหัวใจต้องดูแลตัวเองให้ดีเพื่อป้องกันการติดเชื้อเช่นเดียวกัน และในสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อ COVID-19 ผู้ป่วยโรคหัวใจควรที่จะรับประทานยาอย่างสม่ำเสมอและพบแพทย์ตามนัดหมายทุกครั้ง เพื่อตรวจปัจจัยเสี่ยงและการควบคุมโรคว่าเป็นไปด้วยดีหรือไม่ เพื่อที่แพทย์จะได้ปรับการรักษาและการรับประทานยาให้เหมาะสมและป้องกันการเกิดความรุนแรงของโรค ดังนั้นเมื่อจำเป็นต้องไปโรงพยาบาลผู้ป่วยควรสวมหน้ากากอนามัย เว้นระยะห่าง ล้างมือให้บ่อย และรีบกลับทันทีเมื่อตรวจเสร็จเรียบร้อยแล้ว

ในกรณีที่ผู้ป่วยโรคหัวใจจำเป็นต้องเข้ารับการผ่าตัดรักษาไม่ว่าจะเป็นการผ่าตัดหลอดเลือดหัวใจ การผ่าตัดซ่อมหรือเปลี่ยนลิ้นหัวใจ การผ่าตัดรักษาหลอดเลือดแดงใหญ่โป่งพอง ต้องเป็นการผ่าตัดในภาวะฉุกเฉินหรือภาวะเร่งด่วน และเป็นการผ่าตัดที่พิจารณาโดยแพทย์เฉพาะทางด้านหัวใจเท่านั้น โดยผู้ป่วยและผู้ดูแลจะต้องตรวจไม่พบเชื้อ COVID-19 ภายใน 72 ชม. ก่อนผ่าตัด หากต้องเข้ารับการผ่าตัดทันทีโดยไม่สามารถรอผลตรวจหาเชื้อได้ หรือผู้ป่วยโรคหัวใจติดเชื้อ COVID-19 แล้วต้องผ่าตัดทันที แพทย์สามารถทำการผ่าตัดรักษาได้ทันทีภายใต้มาตรการป้องกันการติดเชื้อในทุกกระบวนการเพื่อความปลอดภัยที่สูงที่สุด ในผู้ป่วยที่มีอาการไม่รุนแรง แพทย์จะพิจารณาเลื่อนผ่าตัดออกไปก่อนประมาณ 3 – 6 เดือน เพื่อให้สถานการณ์ COVID-19  เป็นที่ไว้วางใจและลดความกังวลใจให้กับผู้ป่วยในการผ่าตัด ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของแพทย์เป็นสำคัญ

สำหรับโรงพยาบาลหัวใจกรุงเทพมีมาตรฐานในการให้บริการ ทั้งในด้านความสะอาดของสถานที่ เครื่องมือ และอุปกรณ์ต่าง ๆ บุคลากรทางการแพทย์ที่ให้บริการจะต้องผ่านการตรวจหาเชื้อ COVID-19 เป็นที่เรียบร้อย ลดระยะเวลาในการพูดคุยขณะทำการรักษา นอกจากนี้เมื่อผู้ป่วยมาถึงจะต้องเข้ารับการตรวจวัดอุณหภูมิและซักประวัติเพื่อเช็กความเสี่ยงในการป่วยเป็น COVID-19 หากมีความเสี่ยงจะต้องตรวจรักษาในบริเวณที่โรงพยาบาลจัดไว้เท่านั้น ผู้ป่วยโรคหัวใจจึงมั่นใจได้ในการเข้ารับบริการกับทางโรงพยาบาล สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ รพ.หัวใจกรุงเทพ โทร. 02-310-3000 โทร.1719  หรือ LINE Official : @hearthospital

เวอร์จิ้น แอ็คทีฟ ชวนชาวเชียงใหม่สร้างภูมิคุ้มกันสู้โควิด-19

ไม่ว่าจะสถานการณ์โควิด-19 หรือ PM 2.5 แต่ เวอร์จิ้น แอ็คทีฟ เชียงใหม่ ยังคงเดินหน้าสร้างแรงบันดาลใจและสนับสนุนให้ชาวเชียงใหม่มีความสนุกในการออกกำลังกายตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ พร้อมสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกายสู้โควิด-19 กับ 3 ข้อเสนอสุดคุ้มเกินห้ามใจให้แก่เมมเมอร์เก่าและผู้ที่สมัครใหม่ ทั้งออกกำลังกายที่คลับหรือออนไลน์ที่บ้าน

3 ข้อเสนอสุดคุ้มเกินห้ามใจจากเวอร์จิ้น แอ็คทีฟ เชียงใหม่ เพื่อชาวเชียงใหม่เสริมภูมิคุ้มกันป้องกันโควิด-19 และลดความเสี่ยงจาก PM 2.5 ประกอบด้วย 1) ลดทันที 50% ตั้งแต่รอบบิลแรก สำหรับเมมเบอร์เก่าที่ต้องการกลับมาแอ็คทีฟอีกครั้ง และผู้ที่เพิ่งสมัครเมมเบอร์เป็นครั้งแรก 2) ยิ่งเข้าคลับยิ่งลด เมมเบอร์ปัจจุบันที่ต้องการต่อสัญญาหรือสมาชิกใหม่ในเดือนนี้ เพียงแค่เข้ามาออกกำลังกายที่คลับอาทิตย์ละ 2 ครั้ง จะได้ส่วนลด 50% ในรอบบิลถัดไปต่อเนื่องอีก รอบบิล และ 3) ออกกำลังกายออนไลน์แบบจุใจ กับรูปแบบสมาชิกแบบไลต์ (Lite) เฉพาะเมมเบอร์ของคลับเชียงใหม่เท่านั้นในราคาเพียง 251.54 บาทต่อสัปดาห์ โดยสามารถเข้ามาใช้บริการที่คลับเชียงใหม่ได้อาทิตย์ละ 1 ครั้ง และเต็มอิ่มกับบริการออนดีมานด์แบบไม่จำกัด (Unlimited online Workout Asset) ให้ได้สนุกกับการออกกำลังกายแบบออนดีมานด์และคลาสออนไลน์จากเวอร์จิ้น แอ็คทีฟ ทั่วโลก

สำหรับบริการออนดีมานด์ของเวอร์จิ้น แอ็คทีฟ ในประเทศไทย อยู่ภายใต้ mylocker.virginactive.co.th โดย MyLocker เป็นเครื่องมือในการจัดการคลาสต่างๆ ทั้งการใช้บริการภายในคลับ การจองคลาส การค้นหาข้อมูลคลาสในอดีต โปรแกรมการออกกำลังกายแบบถ่ายทอดสด การแนะนำคลิปที่ใกล้เคียงกับความต้องการ รวมทั้งสามารถดูคอนเทนต์และคลาสต่างๆ ที่สอนโดยเทรนเนอร์ที่มีชื่อเสียงทั้งในประเทศไทยและระดับโลก ซึ่งมีการจัดหมวดหมู่ไว้อย่างชัดเจน สะดวกและประหยัดเวลาในการค้นหา ไม่ต้องเสียเวลาค้นหาจากช่องทางอื่น และยังสามารถสนุกกับคลาสถ่ายทอดสดทางเฟซบุ๊ก (Facebook LIVE) ได้อีกด้วย

เพราะการออกกำลังกายเป็นการดูแลสุขภาพที่ทำได้ง่ายและยั่งยืน เวอร์จิ้น แอ็คทีฟ จึงสนับสนุนให้ทุกท่านออกกำลังกายอย่างต่อเนื่องแม้ไม่สามารถเข้ามาใช้บริการที่คลับได้ เพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกันในช่วงสถานการณ์โควิด-19 โดยเมมเบอร์ในคลับกรุงเทพฯ และนนทบุรี ที่ล็อคดาวน์อยู่ในพื้นที่สีแดงเข้ม ยังสามารถสนุกกับการออกกำลังกายแบบออนดีมานด์และคลาสออนไลน์ พร้อมด้วยซีรีส์การออกกำลังกายนอกคลับตามเป้าหมายแบบเลือกได้ทั้ง VA Homekit Series, YOGA Foundation Series, Virgin Active Talks ฯลฯ ที่ช่วยตอบโจทย์ความต้องการในการออกกำลังกายที่บ้านได้อย่างมีประสิทธิภาพและเป็นไปตามเป้าหมายที่แตกต่างกันของแต่ละซีรีส์การออกกำลังกาย รวมทั้งคอนเทนต์คลาสออกกำลังกายทางเฟซบุ๊กไลฟ์ได้ทุกวันธรรมดา

นอกจากข้อเสนอสุดคุ้มเกินห้ามใจแล้ว เมมเบอร์คลับเชียงใหม่ทุกท่านยังมั่นใจไปกับมาตรการต่างๆ ที่เวอร์จิ้น แอ็คทีฟ เตรียมไว้บริการเพื่อป้องกันความเสี่ยงอย่างเต็มที่ให้กับเมมเบอร์ทุกท่านตามมาตรฐานที่ทางราชการกำหนดอย่างเคร่งครัด ทั้งระบบระบายอากาศ การถ่ายเทอากาศ การจำกัดจำนวนผู้เข้า ข้อปฏิบัติตามหลักระยะห่างทางสังคมภายในคลับและระหว่างคลาส รวมทั้งการให้บริการและรักษามาตรฐานความสะอาดของสถานที่และอุปกรณ์ออกกำลังกายอย่างสูงสุด เช่น สอบถามประวัติเดินทางย้อนหลัง 14 วัน ตรวจเช็คอุณหภูมิ ลงทะเบียนไทยชนะ จุดบริการเจลแอลกอฮอล์และน้ำยาทำความสะอาดประสิทธิภาพสูงรวม 23 จุด พร้อมทีม Covid Team ทำความสะอาดทุกสองชั่วโมง พนักงานและสมาชิกทุกท่านใส่หน้ากากตลอดเวลาในทุกโซนของคลับทั้งขณะออกกำลังกายและการเทรนส่วนตัว เพื่อให้เมมเบอร์คลับเชียงใหม่ทุกท่านได้รับประสบการณ์ความสนุกในการออกกำลังกายตามเป้าหมายที่ตั้งไว้

JD CENTRAL ชวนสาวๆ มาช้อป ลดสูงสุด 80% ตั้งแต่วันนี้ -18 ส.ค. 64

พบกับโปรปังๆ ที่ซิสนักช้อปทุกคนห้ามพลาด! JD CENTRAL เอาใจสาวๆ ที่รักการช้อปปิ้งมาเอนจอยไปกับแคมเปญ #ช้อปปังพลังหญิง ที่ยกขบวนไอเท็มเด็ดๆ และสินค้าแบรนด์ดัง มาลดกระหน่ำสูงสุดถึง 80% พิเศษ! สำหรับลูกค้าใหม่ รับคูปองลดเพิ่มมูลค่ารวม 2,000 บาท ตั้งแต่ 6-18 ส.ค. 64 นี้เท่านั้น

จอยชัวร์ กับแคมเปญ #ช้อปปังพลังหญิง จุใจกับดีลดีพิเศษชัวร์ ต้อนรับวันแม่ ให้สาวๆ ได้เลือกซื้อหลากหลายสินค้าในราคาสุดพิเศษเป็นของขวัญให้กับคุณแม่สุดเลิฟ พร้อมพบกับไอเทมเด็ดชัวร์ที่สาวๆ ห้ามพลาด ไม่ว่าจะเป็นสินค้าแฟชั่น บิวตี้ อุปกรณ์ไฮเทค และของใช้ในบ้าน มาช้อปปังกับดีลดี แถมส่งฟรีชัวร์* ส่งไวถึงบ้าน

งานนี้ สาวๆ ต้องเตรียมพลังกันมาให้พร้อม ช้อปปิ้งกันแบบปังๆ กับสินค้า Flash sale ลดราคาแบบจุกๆ และอย่าลืม! แท็กทีมกันมาช้อปปังพลังหญิงกับฟีเจอร์ SHARE BUY ช้อปกลุ่มคุ้มกว่า 80% ที่จะทำให้การช้อปปิ้งของสาวๆ ทั้งสนุก สุดคุ้มมากยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ ยังหมดกังวลไปกับการขนส่งสินค้าในช่วงล็อคดาวน์ เพราะ JD CENTRAL รับประกันเรื่อง “จอยชัวร์ตัวจริง” จัดส่งเร็ว ส่งไว แถมส่งฟรีชัวร์ พร้อมให้ความสำคัญกับความปลอดภัยในสุขภาพ โดยพนักงานคลังและพนักงานส่งของ (JD MAN) มีมาตรการดูแลและเฝ้าระวังอย่างเคร่งครัด เพื่อให้ลูกค้าทุกคนได้รับของไวแบบอุ่นใจชัวร์ มา #ช้อปปังพลังหญิง กันได้ที่ JD CENTRAL Mobile Application หรือJD CENTRAL website ตั้งแต่วันที่ 6-18 สิงหาคม 2564 นี้เท่านั้น

สนใจช้อป JD CENTRAL คลิกเลยที่นี่