สามย่านมิตรทาวน์ คาดมียอดผู้ใช้บริการอยู่ที่ 40% หลังกลับมาเปิดให้บริการ

ศูนย์การค้าสามย่านมิตรทาวน์ ขานรับนโยบายภาครัฐ เปิดให้บริการภายใต้มาตรการรักษาความสะอาด และความปลอดภัยขั้นสูงสุดอย่างเคร่งครัด ภายใต้แคมเปญ ‘Hands Face Space ห่างไกลโควิด เพื่อมิตรทุกคน’ อีกทั้งยังให้ความสำคัญในการดูแลพันธมิตรร้านค้าในศูนย์การค้าฯ อย่างมิตรแท้ตลอดมา

สามย่านมิตรทาวน์ ยังคงเดินหน้าสร้างความเชื่อมั่นแก่พันธมิตรร้านค้า ตลอดจนผู้ใช้บริการ โดยปฏิบัติตามมาตรการด้านสุขอนามัยอย่างเข้มข้นสูงสุดตามแนวทางปฏิบัติที่ ศบค. กำหนด อย่างเคร่งครัดมาโดยตลอด สำหรับการกลับมาเปิดให้บริการในวันที่ 1 กันยายน 2564 ศูนย์การค้าสามย่านมิตรทาวน์มีการเตรียมความพร้อมในการเปิดในบริการโดยแบ่งเป็น 3 ส่วน คือ

1. สร้างความตระหนักถึงความปลอดภัยของผู้ใช้บริการผ่านแคมเปญ ‘Hands Face Space ห่างไกล โควิด เพื่อมิตรทุกคน’ ล้างมือ ใส่หน้ากาก รักษาระยะห่าง ช่วยย้ำเตือนมาตรการเพื่อความปลอดภัยของลูกค้าที่ใช้บริการทุกท่าน

2. การบริหารจัดการพื้นที่ โดยคำนึงถึงความสะอาดปลอดภัยของผู้ใช้บริการเป็นหลัก เช่น การเพิ่มความถี่การอบละอองฆ่าเชื้อ การเช็ดทำความสะอาดผิวสัมผัส

3. การทำความเข้าใจกับผู้เช่าเกี่ยวกับมาตรการของภาครัฐ และมาตรการของศูนย์ฯ เช่น พนักงานที่ให้บริการในร้านค้าทุกร้านต้องทำ Swab test ก่อนเปิดให้บริการ หรือการลงทะเบียนใน Platform ต่างๆ ของภาครัฐ

นอกจากนี้ ทางศูนย์การค้าฯ ยังมีมาตรการช่วยเหลือร้านค้า โดย นางธีรนันท์ กรศรีทิพา รองกรรมการผู้จัดการ สายงานพัฒนาธุรกิจรีเทล เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ คอมเมอร์เชียล (ประเทศไทย) กล่าวว่า สามย่านมิตรทาวน์ในฐานะมิตรให้ความสำคัญกับการรักษาฐานลูกค้าไว้ให้ได้มากที่สุด จึงให้การช่วยเหลือผู้เช่าทุกรายที่ประสบปัญหาในช่วงเวลาที่ยากลำบาก โดยเฉพาะในช่วงที่มีการปิดศูนย์ฯ ก็ได้ช่วยลดค่าใช้จ่ายให้กับผู้เช่าเพื่อให้กิจการยังคงดำเนินต่อไปได้ นอกจากนี้ สามย่านมิตรทาวน์ยังให้การดูแลร้านค้าอย่างใกล้ชิดต่อเนื่องตั้งแต่ ปี 2563 จนถึงปัจจุบัน เช่น เข้าไปดูแลเรื่องการจัดซื้อวัตถุดิบอุปกรณ์ประกอบอาหาร เพื่อให้ผู้เช่าขนาดเล็กและใหญ่ สามารถดำเนินกิจการได้โดยไม่มีอุปสรรค โดยทางศูนย์ฯ จะเข้าไปรวบรวมออเดอร์ของแต่ละร้าน เพื่อให้เกิดปริมาณการสั่งซื้อ สามารถต่อรองกับผู้ขาย และช่วยลดต้นทุน นอกจากนี้ สามย่านมิตรทาวน์ยังให้การช่วยเหลือร้านค้าในการเตรียมความพร้อมที่จะกลับมาเปิดให้บริการด้วยการช่วยรวบรวมออเดอร์ เพื่อจัดซื้อชุดตรวจ ATK ให้แก่ร้านค้า

สามย่านมิตรทาวน์ พร้อมร้านค้ากว่า 92% จะกลับมาเปิดให้บริการตั้งแต่วันที่1 กันยายน 2564 โดยจะมีบางกิจการที่ยังคงปิดตามมาตรการของรัฐ เช่น ฟิตเนส สถาบันการศึกษา ฯลฯ ทั้งนี้ สามย่านมิตรทาวน์ คาดการณ์ว่าจะมียอดผู้ใช้บริการอยู่ที่ 40% หรือเฉลี่ยมากกว่า 26,000 คนต่อวัน ในช่วง 1-2 เดือนแรกหลังการกลับมาเปิดให้บริการ ด้วยจุดแข็งของการเป็นคลังแห่งอาหารและการเรียนรู้ ประกอบกับยังเป็นจุดให้บริการฉีดวัคซีนอีกด้วย

ศูนย์การค้าสามย่านมิตรทาวน์ พร้อมเปิดบริการและให้ความร่วมมือกับภาครัฐในการลดการแพร่ระบาดของโควิด-19 เพื่อความสะดวกและปลอดภัยสูงสุดของมิตร ที่มาใช้บริการ โดยเปิดให้บริการทุกวัน เวลา 11.00 ถึง 20.00 น. สำหรับโซนปกติ และ 07.00 ถึง 20.00 น. สำหรับโซน 24 ชม.

นับถอยหลังสู่ Thailand Influencer Awards 2021 รูปแบบออนไลน์ครั้งแรก 21 ต.ค. นี้!

นับเป็นอีกปีที่โควิด-19 ดิสรัปในทุกวงการ ล่าสุด Thailand Influencer Awards 2021 (ไทยแลนด์ อินฟลูเอนเซอร์ อวอร์ดส์ 2021) งานประกาศรางวัลสำหรับผู้ทรงอิทธิพลทางความคิด จึงประกาศปรับเปลี่ยนรูปแบบการจัดงานในรูปแบบออนไลน์ 100% เพื่อลดความเสี่ยงในการแพร่กระจายที่อาจเกิดขึ้น แต่ก่อนจะไปถึงในวันประกาศผล ในงานวันพฤหัสบดีที่  21 ตุลาคม 2564 นั้น 

Tellscore ในฐานะผู้ดำเนินงาน เชิญชวนทุกคนร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันอินฟลูเอนเซอร์ที่คุณชื่นชอบ และมีผลงานโดดเด่นในการสร้างสรรค์คอนเทนต์คุณภาพตลอด 1 ปีที่ผ่านมา ทั้ง 18 สาขาความถนัด โดยสามารถร่วมโหวตให้พวกเขา ได้เป็นหนึ่งในผู้ที่ได้รับรางวัล Thailand Influencer Awards 2021 ได้ตั้งแต่วันนี้ – 10 กันยายน จำกัดจำนวนการโหวตวันละ 1 ครั้ง/รางวัล ผ่านช่องทาง www.thailandinfluencerawards.com

สุวิตา จรัญวงศ์ ประธานกรรมการบริหาร และผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท เทลสกอร์ จำกัด ผู้จัดงาน Thailand Influencer Awards ตลอดทุกปีที่ผ่านมา กล่าวว่า “งาน Thailand Influencer Awards by Tellscore เป็นงานประกาศรางวัลสำหรับผู้ทรงอิทธิพลทางความคิด หรือ Influencer และแบรนด์ชั้นนำทั่วประเทศ ที่สร้างสรรค์ผลงานยอดเยี่ยม และโดดเด่นในช่องทางดิจิทัล จัดขึ้นเพื่อสร้างบรรทัดฐานการสร้างคอนเทนต์ที่ดี และแสดงออกซึ่งความคิดเห็นอย่างสร้างสรรค์ มีพลังในการสื่อสาร และมีสำนึกในสังคมให้แก่วงการสื่อสาร และโฆษณา รวมถึงเล็งเห็นคุณค่าของผลงาน และความตั้งใจ เพื่อผลักดัน และสนับสนุนให้กลุ่ม Influencer มีกำลังใจที่จะพัฒนาผลงานอย่างมีความรับผิดชอบต่อไป โดยในปีนี้ งาน Thailand Influencer Awards 2021 by Tellscore จะจัดขึ้นในวันที่ 21 ตุลาคม 2564 ภายใต้คอนเซปต์ The Real Player” เป็นรูปแบบออนไลน์ 100% ทุกท่านสามารถร่วมลุ้นผลรางวัล และส่งกำลังใจให้อินฟลูเอนเซอร์ได้ผ่านช่องทางเฟซบุ๊กของ Tellscore เวลา 19.00 น. เชื่อมั่นว่าจะได้รับประสบการณ์เต็มอรรถรสไม่แพ้การจัดงานในปีที่ผ่านๆมาอย่างแน่นอน โดยจะได้พบกับการรวมตัวของกลุ่มอินฟลูเอนเซอร์คุณภาพแบรนด์ต่างๆ ที่ทำแคมเปญร่วมกับอินฟลูเอนเซอร์ตลอด 1 ปีที่ผ่านมาได้อย่างยอดเยี่ยม รวมถึงคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในวงการการตลาด และสื่อดิจิทัล”

สุวิตา กล่าวเพิ่มเติมว่า การจัดงานในครั้งนี้ ไม่ใช่เพียงการมอบรางวัลให้กับกลุ่มอินฟลูเอนเซอร์คนรุ่นใหม่เท่านั้น แต่เรามีวัตถุประสงค์ใน 3 ด้านหลักๆ ได้แก่

1เฟ้นหาคนคุณภาพ (Recognize Talents) ที่สามารถทำหน้าที่ส่งแรงกระเพื่อมทางความคิดได้ดี มีพลัง วัดผลได้ เป็นที่ยอมรับในสังคม

2ส่งเสริมและพัฒนามาตรฐาน (Social Conscience) การสร้างคอนเทนต์ที่ดี มีความคิดสร้างสรรค์ และมีสำนึกที่ดีต่อสังคม สิ่งแวดล้อม และเป็นตัวอย่างให้แก่วงการการสื่อสารได้

3สร้างสังคมอินฟลูเอนเซอร์ (Community Building) ให้เป็นเครือข่ายสังคมที่รวมเอาคนคุณภาพ และเป็นศูนย์กลางการแชร์ประสบการณ์การด้านการสื่อสารในมุมมองต่างๆ ให้เป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติ

นอกจากนั้น เกณฑ์ในการพิจารณาตัดสินรางวัล เรายังเน้นวัดผลในหลายองค์ประกอบ ไม่ว่าจะเป็น การตัดสินที่ไม่ได้วัดผลกันแค่ในเชิงปริมาณ เช่นยอดผู้ติดตาม (Follower) หรือตัวเลขการมีปฏิสัมพันธ์ร่วมกับแฟนๆ (Engagement) แต่ยังให้ความสำคัญกับการวัดผลในเชิงคุณภาพ เช่น ความคิดสร้างสรรค์ มุมมองการนำเสนอ เป็นต้น ซึ่งจะส่งผลให้อินฟลูเอนเซอร์หน้าใหม่ มีสิทธิ์ที่จะได้รับรางวัลของเรา และสามารถต่อยอดไปสู่ความสำเร็จในอาชีพอินฟลูเอนเซอร์ได้เช่นกัน โดยแบ่งเกณฑ์ต่างๆ ดังนี้

1.ความคิดสร้างสรรค์ (Creativity Aspect & Format) – 25%

2.การลำดับเรื่อง (Storytelling Aspect) – 20%

3.ข้อมูลด้านผลลัพธ์ เชิงปริมาณและคุณภาพ ในรูปแบบสถิติตัวเลข เช่น การรับรู้การมีปฏิสัมพันธ์ (Impact, Results, and Performance eg. Reach, Engagement) – 20%

4.มุมมองด้านตัวตน บุคลิก ที่แสดงถึงศักยภาพในการเติบโต (Personal Branding Aspects that Display Growth) – 20%

5.มุมมองด้านสำนึกที่ดีต่อผู้ฟัง สังคม สิ่งแวดล้อม (Social Conscience Aspects) – 15%

นอกจากคะแนนโหวตแล้ว ยังมีเหล่าคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในวงการอินฟลูเอนเซอร์ การตลาดดิจิทัล รวมทั้งผู้บริหารแบรนด์ที่มีชื่อเสียงในประเทศไทย เข้าร่วมการตัดสินในครั้งนี้ด้วย อาทิ ฉัตรชัย คุณปิติลักษณ์ รองผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa), ภารุจ ดาวราย อุปนายกสมาคมโฆษณาดิจิทัล และ MD Digitas, อภิศิลป์ ตรุงกานนท์ Co-Founder & CTO, Pantip, สิริประภา วีระไชยสิงห์ Campaign and Content Operations Lead, Tiktok (Thailand), ชาญวุฒิ ลือชัยสิทธิ์ รองประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด LINE (Thailand), จิรัฐติกาล สุทธิวรรณารัตน์ Director of Content, Twitch Live Streaming Platform, ณัฐชนน มหาอิทธิดล Director, The MATTER, ณธิดา รัฐธนาวุฒิ CEO, Marketing Oops!, ณัฐพล ม่วงทำ ผู้ก่อตั้ง การตลาดวันละตอน, พงศ์สุข หิรัญพฤกษ์ CEO & Founder Beartai, คุณพงษ์ปิติ ผาสุขยืด ผู้ก่อตั้ง AdAddict, คุณสิทธิพงศ์ ศิริมาศเกษม ผู้จัดงาน Creative Talk และ CEO rgb72, คุณขจร เจียรนัยพานิชย์ ผู้จัดงาน iCreator และ MD The Zero Publishing, คุณนภัสสร บุรณศิริ ผู้ก่อตั้ง โมเมพาเพลินคุณสุธีรพันธุ์ สักรวัตร ผู้บริหารสายงานการตลาด ธนาคารไทยพาณิชย์คุณวิยะดา ศรีนาคนันทน์ Country Leader & General Counsel, 3M (Thailand), คุณสมฤดี บุญให้เจริญ Head of Communication & Marketing Services, Nestlé (Thailand)

อย่าลืม! สามารถร่วมโหวตอินฟลูเอนเซอร์ที่คุณชื่นชอบตั้งแต่วันนี้ ถุึง 10 กันยายน 2564 ได้ทาง www.thailandinfluencerawards.com เพื่อผลักดัน สังคมและเป็นหนึ่งในกำลังใจในการสร้างผลงานบนโลกออนไลน์ให้กับพวกเขาได้ผลิตคอนเทนต์ที่มีคุณภาพต่อไป

MONO29 ปรับทัพข่าวเช้า และ ข่าวเย็น

พิสูจน์บทบาทการทำงานในฐานะ “ผู้ประกาศข่าว”  ประจำรายการ “ข่าวเช้า Good Morning Thailand” สถานีโทรทัศน์ช่อง MONO29 (โมโนทเวนตี้ไนน์)  นับระยะเวลาผ่านไปครึ่งปีเต็ม  “เฟร้นช์ฟราย-ธันยชนก มูลนิลตา” ดีกรีนางงามครองตำแหน่ง “มิสไทยแลนด์เวิลด์ ประจำปี 2558” เดินหน้าใช้ความรู้ ความสามารถ มาทำหน้าที่ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ล่าสุด..นอกจากจะรับหน้าที่คุยข่าวแบบสดๆ ในรายการข่าวเช้า ทุกวันจันทร์-วันศุกร์ เวลา 06.00 น. ยังได้รับมอบหมายให้รับหน้าที่นำเสนอข่าวเย็นในรายการ  “เรื่องเด่น ประเด็นดัง Top Talk Daily” ประกบคู่ผู้ประกาศมากฝีมือ“แบงค์-พบเอก พรพงเมตตา” ในทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 17.15 น. นับเป็นงานใหม่ที่ได้รับมอบหมาย หลังจากเปลี่ยนชื่อและนามสกุล เป็น “รินทร์ณฐา อัจฉริยวัฒนกุล” ไปแบบหมาดๆ  เชื่อ-ไม่เชื่อมากน้อยแค่ไหน  “เฟรนช์ฟราย” เล่าว่า…

“ก็มีหลายท่านถามถึงค่ะว่าเปลี่ยนเพื่อเสริมดวงหรือเปล่า จริงๆ เหตุผลหลักคือไม่ได้เปลี่ยนตามฮวงจุ้ยค่ะ แต่ที่เฟรนช์ฟรายเปลี่ยนก็เพื่อความมั่นใจ เพราะเรารู้สึกว่าอยากมีอะไรใหม่ๆ ในชีวิต ซึ่งก่อนเปลี่ยนก็คุยกับคุณพ่อ-คุณแม่ ท่านก็อนุญาต ครอบครัวทุกคนเข้าใจดี  ทั้งชื่อและนามสกุลใหม่ แฝงด้วยความหมายที่ดีที่เป็นมงคล  “รินทร์ณฐา” แปลว่าผู้ยิ่งใหญ่ “อัจฉริยวัฒนกุล” แปลว่า ตระกูลที่มีความเจริญที่น่าอัศจรรย์ ในทางความคิดความเชื่อ เราก็หวังว่าหลังจากนี้จะได้นำพาชีวิตให้รุ่งเรืองยิ่งขึ้น  แต่ในทางปฏิบัติถ้าเราคิดแต่ไม่ลงมือทำคงไม่มีอะไรเกิดขึ้นนี่คือความจริงที่ทุกคนทราบกันค่ะ ซึ่งหลังจากเปลี่ยนชื่อและนามสกุลไป ก็เป็นจังหวะที่รายการข่าวช่วงเย็น  “เรื่องเด่น ประเด็นดัง” กำลังจะขยายวันเพิ่ม จากที่มีเฉพาะวันธรรมดา 5 วัน ปรับเพิ่มเป็น 7 วันเต็ม เฟรนช์ฟราย จึงได้รับมอบหมายจากผู้ใหญ่ ให้มาร่วมเสริมทีมกับพี่แบงค์ (พบเอก พรพงเมตตา) ที่ผ่านมาเราก็เคยร่วมงานกันมาแล้ว มาเจอกันอีกครั้ง ก็จะรู้ทางของกันและกัน เรียกว่าเป็นการเสริมทัพข่าวเย็นให้น่าติดตามขึ้นไปอีก เฟรนช์ฟรายจะมาเฉพาะช่วงเสาร์-อาทิตย์  ค่ะ เสริมข่าวต่างประเทศ – เวิลด์เทรนด์ทูเดย์ รวมไปถึงไอเดียทำเงิน เพื่อเป็นแนวทางในการทำธุรกิจให้กับผู้ชมได้  ฝากคุณผู้ชมติดตามกันด้วยนะคะ เฟรนช์ฟราย, พี่แบงค์ และทีมงาน พร้อมสรุปประเด็นข่าวร้อนๆที่เกิดขึ้นในรอบวันและข่าวต่างประเทศมาให้ได้ติดตามแบบฉับไว เข้าใจง่าย ซึ่งผู้ชมสามารถติดตามได้หลากหลายแพลตฟอร์มทั้งฟรีทีวีหมายเลข 29 และช่องทางออนไลน์ต่างๆ ทั้งเฟซบุก,ยูทูป,อินสตาร์แกรม, ทวิตเตอร์ และติ๊กต่อก ได้ที่ MONO29  และ Mono29 News  อยู่ไหนก็ไม่พลาดข่าวสารดีๆ อย่างแน่นอนค่ะ!”

เปิดเส้นทางแห่งประวัติศาสตร์ Cartier แบรนด์นาฬิกาหรูสัญชาติฝรั่งเศส

เปิดเส้นทางแห่งประวัติศาสตร์ของเรือนเวลาอันเป็นเอกลักษณ์ของ Cartier
พร้อมนับถอยหลังสู่การเผยโฉม Tank Must เรือนเวลาที่ไม่เคยหยุดนิ่ง

หากเอ่ยถึงนาฬิการุ่นที่เป็นเอกลักษณ์มากที่สุดรุ่นหนึ่งของ คาร์เทียร์ แบรนด์เครื่องประดับและนาฬิกาสัญชาติฝรั่งเศส ย่อมจะต้องมีภาพของนาฬิการุ่นแทงก์ (Tank) ปรากฏขึ้นมาอย่างแน่นอน นาฬิการุ่นแทงก์ได้รับความนิยมมาตั้งแต่ปีแห่งการรังสรรค์ขึ้นครั้งแรกในค.ศ. 1917 และขึ้นแท่นเป็นเรือนเวลาคู่ใจของบุคคลสำคัญที่มีชื่อเสียงมากมาย และไฮไลต์สำคัญประจำปีนี้คือการเผยโฉมนาฬิการุ่น แทงก์มัสท์ (Tank Must) อีกหนึ่งสมาชิกใหม่แห่งตระกูลแทงก์

เรือนเวลารุ่นแทงก์ได้จารึกความสง่างามของคาร์เทียร์ผ่านดีไซน์ที่คมชัดและเพรียวบาง นับตั้งแต่หลุยส์ คาร์เทียร์ (Louis Cartier) สร้างสรรค์เรือนเวลานี้โดยรับแรงบันดาลใจมาจากสี่เหลี่ยมผืนผ้าเมื่อปี ค.ศ. 1917 หลุยส์ คาร์เทียร์ เลือกหน้าปัดทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าที่ทำให้นาฬิกาแทงก์โดดเด่นจากนาฬิกาข้อมือทั่วไปในยุคนั้นซึ่งมีหน้าปัดเป็นทรงกลม ทำให้นาฬิกาแทงก์มีกลิ่นอายที่ล้ำสมัย อยู่เหนือกาลเวลามาอย่างยาวนานจวบจนปัจจุบัน เส้นตรงสองเส้นที่ขนาบข้างหน้าปัดนับเป็นเอกลักษณ์ของเรือนเวลารุ่นนี้ ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากภาพมุมสูงของรถถัง โดยมีเอกลักษณ์เป็นคานสองชิ้นประกบเข้ากับตัวเรือนทรงเหลี่ยมดุจล้อรถและหอบังคับการ การประกอบตัวเรือนกับสายนาฬิกาทำได้กลมกลืนเสียจนเกือบจะเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน เพื่อรักษาหัวใจหลักของแรงบันดาลใจที่น่าทึ่งนี้เอาไว้

นาฬิการุ่นแทงก์ ได้รับความนิยมอย่างมากและเป็นนาฬิกาคู่ใจของบุคคลสำคัญที่มีชื่อเสียงมากมายจนมีคำกล่าวว่า การสวมใส่แทงก์ คือการประกาศตัวตน แวดการ์ด แอนดี้ วอร์ฮอล์ (Vanguard Andy Warhol) ศิลปินแนวป๊อปอาร์ตผู้โด่งดัง สวมนาฬิกาแทงก์ติดข้อมือตลอดเวลา เขากล่าวว่า “ผมไม่ได้ใส่นาฬิกาแทงก์เพื่อดูเวลา ที่จริงผมไม่เคยไขลานมันด้วยซ้ำ แต่ผมใส่เพราะมันคือนาฬิกาที่ต้องใส่” ซึ่งการปฏิเสธการไขลานนาฬิกาของผู้นำวัฒนธรรมป๊อปอย่าง วอร์ฮอล์ นับได้ว่าเป็นการสร้างตำนานบทใหม่ให้กับความสง่างามเหนือการเวลาของเรือนเวลาแทงก์เลยทีเดียว


© Arnold Newman Properties/Getty Images

นอกจากแอนดี้ วอร์ฮอล์แล้ว ยังมีบุคคลที่มีชื่อเสียงอีกมากมายที่เป็นสาวกของนาฬิการุ่นนี้ ไม่ว่าจะเป็นแคเธอรีน เดอเนิฟ (Catherine Deneuve) นักแสดงหญิงชาวฝรั่งเศส, ชาร์ลอตต์ แลมพลิง (Charlotte Rampling) นักแสดงหญิง ชาวอังกฤษ, แพตตี้ สมิทธิ์ (Patti Smith) นักแต่งเพลงและนักร้องชาวอเมริกัน อีฟส์ มงต็องด์ (Yves Montand) นักร้องและนักแสดงชาวอิตาลี – ฝรั่งเศส รวมถึง เจ้าหญิงไดอาน่า (Princess of Wales) แห่งราชวงศ์อังกฤษ ที่มีนาฬิกาแทงก์ เป็นเรือนเวลาคู่พระวรกายอยู่เสมอ และเมแกน มาร์เคิล (Duchess of Sussex) ที่โปรดปรานนาฬิกาแทงก์เช่นกัน

ตั้งแต่ผลงานสร้างสรรค์ชิ้นแรกเมื่อปี 1917 ดีไซน์เหนือกาลเวลา โดดเด่นไม่เหมือนใคร ทำให้นาฬิกาแทงก์กลายเป็นวัฒนธรรมแห่งยุคสมัย หลังจากเวลาล่วงเลยไปกว่าศตวรรษ นาฬิการุ่นนี้จึงถูกนำกลับมาตีความใหม่อีกครั้งในปี 2021 ในชื่อรุ่น แทงก์ มัสท์ โดยทั้ง แทงก์ (Tank) และมัสท์ (Must) คือผลลัพธ์ที่ลงตัวระหว่างสัญลักษณ์สำคัญประจำเมซงคาร์เทียร์ โดยแทงก์ (Tank) คือคอลเลคชั่นสำคัญของแบรนด์ ในขณะที่มัสท์ (Must) คือคอลเลคชั่นนาฬิกาอันเป็นอมตะของคาร์เทียร์ โดดเด่นด้วยการเลือกใช้วัสดุที่คงไว้ซึ่งความหรูหราในราคาที่จับต้องได้ นาฬิกามัสท์เป็นเป็นที่นิยมในยุค 1970 อย่างมากและปรากฏในภาพแฟชั่นเซ็ตมากมาย นาฬิกามัสท์มีวิวัฒนาการหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นหน้าปัดแบบกลมและสี่เหลี่ยมผืนผ้า มีสีสันหลากหลาย เช่น ดำ แดง และน้ำเงิน หน้าปัดหลากหลายสไตล์ ทั้งแบบมีตัวเลขโรมันและไม่มีตัวเลข กล่าวได้ว่า นาฬิกามัสท์เป็นอีกหนึ่งคอลเลคชั่นเรือนเวลาของคาร์เทียร์ที่หลายคนปรารถนาจะครอบครอง

ในปีนี้ คาร์เทียร์นำขนบของความหรูหราคลาสสิกกลับมาอีกครั้งผ่านนาฬิกาแทงก์มัสท์ อันเป็นเสมือนการบรรจบกันระหว่างเรือนเวลาที่เป็นไอคอนของแบรนด์ และเรือนเวลาที่โด่งดังในยุค 1970 ดังที่ปิแอร์ ไรเนโร (Pierre Rainero) ผู้อำนวยการฝ่ายภาพลักษณ์, สไตล์ และเฮอริเทจ ของคาร์เทียร์ได้กล่าวไว้ว่า “นาฬิกามัสท์เป็นส่วนหนึ่งในตำนานและมรดกของเมซงคาร์เทียร์ที่ยืดหยัดต่อสู้กับบททดสอบของเวลา ด้วยสไตล์คลาสสิกหาตัวจับยากที่ทุกส่วนประกอบไปจนถึงรายละเอียดที่เล็กที่สุดล้วนเป็นผลงานหัตถศิลป์เชิงช่างชั้นยอดของคาร์เทียร์”

ติดตามชมความงามของนาฬิกาแมงก์มัสท์ (Tank Must) เรือนเวลาที่จะเป็นอีกหนึ่งประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของเรือนเวลาตระกูลแทงก์เร็วๆ นี้

เปิดวิสัยทัศน์ ‘รศ. เกษมศานต์ โชติชาครพันธุ์’ ผอ.ใหญ่ อสมท คนใหม่

รองศาสตราจารย์ เกษมศานต์ โชติชาครพันธุ์ ผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) เข้ารับตำแหน่ง ผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.อสมท อย่างเป็นทางการ พร้อมประชุมร่วมกับคณะผู้บริหาร บมจ.อสมท เพื่อมอบนโยบายแผนการดำเนินงาน โดยชูวิสัยทัศน์และแผนการดำเนินงานภายใต้ยุทธศาสตร์ 3 ด้าน คือ 1) การพัฒนาธุรกิจเดิม ที่ทาง อสมท มีองค์ความรู้และความเชี่ยวชาญด้านสื่อสารมวลชนให้เกิดความยั่งยืน และเตรียมพร้อมรับมือสู่การเปลี่ยนแปลงกับเทคโนโลยีในปัจจุบัน 2) การสร้างธุรกิจใหม่ เพื่อให้เกิดการเติบโตและสร้างผลกำไรอย่างต่อเนื่อง 3) การบริหารและการจัดการทรัพยากรมนุษย์ให้มีประสิทธิภาพ โดยเน้นพัฒนาและส่งเสริมศักยภาพของพนักงาน ซึ่งเป็นกลไกหลักสำคัญที่จะทำให้ 2 ข้อข้างต้นที่กล่าวมาเกิดขึ้น

รองศาสตราจารย์ เกษมศานต์ โชติชาครพันธุ์ เคยดำรงตำแหน่งผู้บริหารระดับสูง และที่ปรึกษาในหน่วยงานภาครัฐและเอกชนหลายแห่ง อาทิ รองศาสตราจารย์ สาขารัฐประศาสนศาสตร์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) , ผู้อำนวยการหลักสูตรปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาบริหารและการพัฒนา (หลักสูตรนานาชาติ) สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า)  , รองอธิการบดีฝ่ายวางแผนและฝ่ายบริหาร สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) ฯลฯ โดยมีความเชี่ยวชาญด้านการบริหารและวางแผนกลยุทธ์ รวมถึงศักยภาพด้านการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ซึ่งสอดรับกับพันธกิจและแผนการดำเนินงานของ บมจ.อสมท ในปัจจุบัน

ไฮเซ่นส์ ร่วม Shopee 9.9 Super Shopping Day ชวนช้อปเครื่องใช้ไฟฟ้า

ไฮเซ่นส์ (Hisense) ผู้นำด้านเทคโนโลยีสมาร์ททีวี และเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านระดับโลก รวมถึงเป็นผู้สนับสนุนสโมสรฟุตบอลระดับโลกอย่าง ปารีส แซงต์-แชร์กแมง จับมือพันธมิตร ช้อปปี้ ผู้นำอีคอมเมิร์ซในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และไต้หวัน ลุยตลาดออนไลน์เต็มกำลัง ร่วมฉลองมหกรรมแคมเปญครึ่งปีหลัง หลังจากปีนี้มียอดขายโตกว่า 100% พร้อมเดินหน้าขยายศักยภาพเครื่องใช้ไฟฟ้าด้วยเทคโนโลยีอันล้ำในราคาที่จับต้องได้ ตลอดจนมีแผนเจาะตลาด B2B ในการช่วยสร้างยอดขายให้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

นายฉันท์ชาย พันธุฟัก ผู้อำนวยการฝ่ายขายและการตลาด บริษัท ไฮเซ่นส์ อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า “ปีนี้แม้ประเทศไทยจะเป็นช่วงที่เกิดโรคโควิด-19 ระบาด แต่สินค้าทุกหมวดของ  ไฮเซ่นส์สามารถสร้างยอดขายเติบโตได้อย่างดี ก้าวกระโดดกว่า 100% เนื่องจากบริษัทมีการปรับตัว ได้ขยายศักยภาพการเป็นผู้ผลิตสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าครบวงจรเพื่อสนองความต้องการของลูกค้า รวมถึงมุ่งพัฒนาสินค้าที่มีฟังก์ชันครบครันด้วยเทคโนโลยีอันล้ำสมัยระดับโลกในราคาที่คุ้มค่า ทั้งนี้เพื่อตอบสนองพฤติกรรมการจับจ่ายใช้สอยและความต้องการที่เพิ่มขึ้นของผู้บริโภค เราจึงประกาศเดินหน้าแผนธุรกิจเน้นการเติบโตในครึ่งปีหลัง ด้วยการเดินกลยุทธ์รุกช่องทางออนไลน์อย่างเต็มกำลัง โดยจับมือกับพันธมิตรทางธุรกิจอย่าง ช้อปปี้ ร่วมกันวางแผนการตลาดออนไลน์กับร้านค้าอย่างเป็นทางการของไฮเซ่นส์บน Shopee Mall อย่างต่อเนื่อง อาทิ Shopee 9.9 Super Shopping Day และ Hisense Super Brand Day”

“ในอนาคต ไฮเซ่นส์ ยังมีแผนเจาะตลาดของ B2B กับเทคโนโลยีสุดล้ำอย่าง Video Wall, Traffic Control, Ultra Sonic Scan, Interactive Board, และ Smart City System ที่จะมาเป็นจิ๊กซอว์ให้วงจรการค้าขายสินค้า และบริการดำเนินต่อไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ” ผู้อำนวยการกล่าว

สำหรับครึ่งปีหลัง ไฮเซ่นส์ ได้จัดโปรโมชั่นสุดพิเศษที่มาพร้อมกับความคุ้มค่าที่หาได้ที่เดียวบน Shopee Mall เท่านั้น โดยไฮไลท์ของแผนการตลาดครั้งนี้มาพร้อมด้วยแคมเปญสุดยิ่งใหญ่ 2 ส่วนสำคัญ ดังนี้

  • Shopee 9.9 Super Shopping Day ชวนทุกคนมาช้อปสู้ฟัด กับมหกรรมลดหลุดโลกด้วยคูปองลดสูงสุด 99% และความคุ้มค่าเมื่อชำระเงินผ่าน ShopeePay ในวันที่ 9 กันยายน 64 วันเดียวเท่านั้น
    • นักช้อปเตรียมพบกับโปรลับพิเศษ! เครื่องปรับอากาศ Inverter รุ่น TR R32 9000 BTU, 12000 BTU แถมฟรีตู้เย็นมินิบาร์ และเครื่องปรับอากาศ Inverter รุ่น TR R32 18000 BTU, 24000 BTU แถมฟรีทีวี
  • Hisense Super Brand Day ยกขบวนสินค้าคุณภาพในราคาสุดพิเศษ วันที่ 30 กันยายนนี้
    • ระเบิดราคา ลุ้นรับเงินคืนกว่า 200,000 บาท ยิ่งไปกว่านั้น ตอนเที่ยงคืนนักช้อปจะได้พบกับโค้ดลดสูงสุด 7,500 บาท (มีจำนวนจำกัด)
    • นักช้อปที่ซื้อสุดยอด Top model ของ TV Hisense 120 นิ้ว Laser TV รับฟรีทันที! ทองคำหนัก 50 สตางค์ พร้อมแถมฟรี Nintendo Swiss

ร่วมช้อปกับผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าครบวงจรจาก Hisense ได้ในราคาสุดเอ็กซ์คลูซีฟในแคมเปญ Shopee 9.9 Super Shopping Day พร้อมกดติดตามเพื่อไม่ให้พลาดข่าวสารและโปรโมชั่นดีๆ อีกมากมาย จาก Hisense Official Store บน Shopee Mall ได้ที่นี่

มัดรวม 8 ไอเทม ของใช้ในบ้านยอดนิยมที่ IKEA ปรับราคาลดลง

อิเกีย เดินหน้าส่งกำลังใจและสร้างแรงบันดาลใจให้ทุกคนมีความสุขในทุกๆ โมเมนต์ที่บ้าน โดยคัดสินค้ายอดนิยมมาปรับลดราคาสินค้าให้ทุกคนเข้าถึงได้ง่ายยิ่งขึ้น แต่คุณภาพคงเดิม ซึ่งในแต่ละประเทศจะมีสินค้าราคาลดลงกว่าเดิมที่แตกต่างกันไปตามความต้องการของตลาดนั้นๆ

วันนี้ คอข่าว มัดรวม 8 ไอเทม เฟอร์นิเจอร์และของใช้ในบ้านยอดนิยมที่ ปรับราคาลดลงกว่าเดิม ช่วยเติมความสุขเล็กๆ ในบ้าน สนใจช้อปคลิกเลยที่นี่

 

IKEA โต๊ะปรับระดับ BEKANT

โต๊ะทำงาน นั่ง/ยืน รุ่น BEKANT บีแคนท์ ราคาลดลงกว่าเดิม 15,490 บาท จาก 19,500 บาท ขนาด 120×80 ซม. โต๊ะทำงานปรับระดับความสูงได้ 65-125 ซม. เหมาะสมตามหลักเออร์โกโนมิก คุ้มค่ากับการลงทุนสำหรับ Work from home เปลี่ยนอิริยาบถนั่งหรือยืนได้ง่าย รู้สึกผ่อนคลายและทำงานได้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

IKEA WHITE no 2 Foil flat pre 25 Q2

ตู้ 3 ลิ้นชัก รุ่น BRIMNES/บริมเนส ราคาลดลงกว่าเดิม 3,290 บาท จาก 3,990 บาท ขนาด 78×95 ซม. สีขาว ยิ่งอยู่บ้านนาน ของก็รกขึ้น เพิ่มพื้นที่จัดเก็บด้วยลิ้นชัก เพื่อความเป็นระเบียบสบายตา และหาของง่ายกว่าเดิม

IKEA ตู้เสื้อผ้า KLEPPSTAD

ตู้เสื้อผ้า 2 บาน รุ่น KLEPPSTAD/เคลปป์สตัด ราคาลดลงกว่าเดิม 2,750 บาท จาก 3,290 บาท ขนาด 79×176 ซม. สีขาว เสื้อผ้าล้นตู้ แก้ได้ด้วยตู้เสื้อผ้าจากอิเกีย สามารถซื้อชั้นวางของ KLEPPSTAD/เคลปป์สตัด มาใส่เพิ่ม เพื่อปรับแต่งตู้เสื้อผ้าให้ตอบโจทย์ตามต้องการได้

IKEA โครงเตียง SLÄKT

โครงเตียง รุ่น SLÄKT/สเลค ราคาลดลงกว่าเดิม 7,990 บาท จาก 9,490 บาท ขนาด 90×200 ซม. สีขาว โครงเตียงสำหรับพื้นที่จำกัด กางเป็นเตียงเสริมนอนได้เพิ่มอีกคน และยังมีลิ้นชักไว้เก็บชุดเครื่องนอนหรือของเล่น

IKEA เก้าอี้ POÄNG

อาร์มแชร์ รุ่น POÄNG/พัวแอง ราคาลดลงกว่าเดิม 2,190 บาท จาก 2,790 บาท เก้าอี้พักผ่อนที่ต้องมี พนักพิงสูง รองรับบริเวณต้นคอได้ดี ใช้คู่กับเก้าอี้วางเท้ารุ่นเดียวกัน เพิ่มความสบายอีกระดับ

IKEA รถเข็น NISSAFORS

รถเข็น รุ่น NISSAFORS/นิสซาฟอช ราคาลดลงกว่าเดิม 890 บาท จาก 1,190 บาท รถเข็นอเนกประสงค์ ใช้เป็นที่เก็บของเสริมให้เป็นระเบียบ เคลื่อนย้ายสะดวก เหมาะสำหรับทุกๆ ห้องในบ้าน หรือใช้เป็นโต๊ะข้างเตียงก็ได้

IKEA เครื่องครัว HEMLAGAD

ซีรีส์ MAMMUT/มัมมุต สีสันสดใสขวัญใจเด็กๆ ทนทาน น้ำหนักเบา ใช้เรียนออนไลน์ หรือวางกลางแจ้งเพื่อทำกิจกรรมนอกบ้าน โต๊ะเหลี่ยม ราคาลดลงกว่าเดิม 690 บาท จาก 890 บาท เก้าอี้ ราคาลดลงกว่าเดิม 399 บาท จาก 499 บาท สตูล ราคาลดลงกว่าเดิม 169 บาท จาก 199 บาท

ผับทิพย์ @JOOX ROOMS หนึ่งในภารกิจส่งต่อความสุขยุคโควิด-19

วิกฤตโควิด-19 สร้างผลกระทบต่อทุกสาขาอาชีพ ซึ่ง “คนดนตรี” เป็นหนึ่งในกลุ่มอาชีพที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักมาอย่างต่อเนื่อง JOOX แอปมิวสิคคอมมูนิตี้อันดับ 1 ของไทย จึงเดินหน้าร่วมสนับสนุนกลุ่มคนดนตรีอย่างต่อเนื่อง ผ่านการผนึกความร่วมมือกับหลากหลายหน่วยงาน พร้อมใช้ความแข็งแกร่งด้านแพลตฟอร์ม ฟีเจอร์ และคอมมูนิตี้ มาจัดกิจกรรมสนับสนุนคนดนตรีในทุกระดับ ผ่านแคมเปญหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น JOOX ฟัง from Home, JOOX #SAVEคนดนตรี ให้ดนตรี ช่วยคนดนตรีการเปิดเวทีประกวดร้องเพลง I Love Your Voice และเปิดผับทิพย์ทุกคืนวันศุกร์ เพื่อสนับสนุนให้กลุ่มคนดนตรีมีรายได้ และได้ไลฟ์คอนเสิร์ตกับแฟนๆ ให้หายคิดถึง รวมถึงเพื่อช่วยเติมความสุข คลายเครียด คลายเหงาให้คนไทยทุกคน

นายกฤตธี มโนลีหกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เทนเซ็นต์ (ประเทศไทย) จำกัด และผู้บริหาร JOOX ประเทศไทย กล่าวว่า “กลุ่มคนดนตรี ถือเป็นกลุ่มอาชีพแรกๆ ที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากการระบาดของโควิด-19 เพราะเมื่อมีมาตรการงดจัดคอนเสิร์ต ปิดผับบาร์ หรือร้านอาหารกลางคืน คนดนตรีเหล่านี้ก็ไม่สามารถออกไปทำงานสร้างรายได้ อีกทั้งยิ่งการระบาดกินระยะเวลานานก็ยิ่งทำให้สูญเสียรายได้ ความสุข และกำลังใจ เพราะไม่สามารถร้อง เต้น และเล่นดนตรีในแบบที่ตนเองรักได้ JOOX ในฐานะแพลตฟอร์มดนตรีชั้นนำของไทย จึง เดินหน้าจัดกิจกรรมสนับสนุนกลุ่มคนดนตรีทุกๆ สาย ไม่ว่าจะเป็น ศิลปิน นักร้องอิสระ ดีเจ ค่ายเพลง และผู้อยู่เบื้องหลัง เพราะทุกคนล้วนมีส่วนสำคัญที่ช่วยผลักดัน และขับเคลื่อนแวดวงดนตรีของไทย ขณะเดียวกันก็เชื่อว่าเสียงเพลง และความสนุกจากกิจกรรมเหล่านี้ จะช่วยสร้างความสุข และคืนรอยยิ้มให้กับผู้ใช้งาน และคนไทยทุกคนด้วย”

โดยกิจกรรม และแคมเปญสร้างสรรค์ที่ JOOX ได้ส่งต่อความสุขให้คนดนตรี และคนไทย ได้แก่ JOOX ฟัง from Home #อยู่บ้าน…อย่าลืมฟังเพลง จับมือศิลปิน พร้อมค่ายเพลงทั่วประเทศ อาทิ GMM GRAMMY, HolyFox Records, LOVEiS Entertainment, MUZIK MOVE, RS Music, SERNG MUSIC, Smallroom, SPICYDISC, TERO MUSIC, Thaitanium Entertainment, Universal Music, Warner Music, What the duck, Workpoint Entertainment, YUPP และศิลปินอิสระอีกมากมาย ร่วมกระตุ้นชวนแฟนเพลง คลายเครียดด้วยการเปิด JOOX และกลับมาฟังเพลงของศิลปินคนโปรดของพวกเขาอีกครั้ง โดย JOOX ได้คัดเพลงบทเพลงฮิตรวมเป็นเพลย์ลิสต์ Best of… ของหลากหลายศิลปิน อาทิ  Potato, Num Kala, Tilly Birds, ลำเพลิน วงศกร, เบลล์ นิภาดา, The Parkinson, 4EVE, Thaitanium, Twopee, โดม ปกรณ์ลัม, ใบเตย อาร์ สยาม, กระแต อาร์ สยาม, First Anuwat, กวาง จิรพรรณ, ศาล สานศิลป์,  Tattoo Colour, Greasy Cafe, โรส ศิรินทิพย์, Slot Machine, เอิ๊ต ภัทรวี, ETC.,Indigo, Season Five, SERIOUS BACON, เกิบ ณัฐพงศ์,  HENS, SLAPKISS, Summer Breeze, Zweed n’ Roll, My Life As Ali Thomas, V Viollet และอีกมากกว่า 170 ศิลปิน มากกว่า 170 เพลย์ลิสต์ ทั้งยังมอบ JOOX VIP ให้เหล่าศิลปินได้นำไปแจกแฟนๆ ให้ฟังเพลงที่บ้าน โดยเป้าหมายของการจัดแคมเปญ “JOOX ฟัง from Home” ที่นอกเหนือจากการชวนทุกคนมาฟังเพื่อผ่อนคลายแล้ว ทุกครั้งที่เกิดการฟังผ่านการสตรีมมิ่งนั่นเท่ากับการสนับสนุนศิลปินให้มีรายได้ และยิ่งได้มากขึ้นเมื่อฟังแบบ VIP มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือบรรดาศิลปินให้ผ่านพ้นช่วงเวลาอันยากลำบากนี้ไปด้วยกัน

JOOX #SAVEคนดนตรี ให้ดนตรี ช่วยคนดนตรี จัดเทศกาลดนตรีออนไลน์เพื่อนักดนตรีอิสระ โดยร่วมมือกับสมาพันธ์ผู้ประกอบอาชีพธุรกิจกลางคืน และธุรกิจบันเทิงแห่งประเทศไทย (สธก) ชวน 85 กลุ่มคนดนตรี ทั้งนักดนตรีอิสระ นักดนตรีกลางคืน รวมถึงคนทำงานที่เกี่ยวข้องทั้งเบื้องหน้า และเบื้องหลัง มาไลฟ์คอนเสิร์ตบน JOOX ROOMS ให้แฟนๆ ได้ชมฟรีถึง 7 วันเต็ม ตั้งแต่วันที่ 16-22 สิงหาคมที่ผ่านมา พร้อมมอบรายได้ให้ศิลปินที่ขึ้นแสดงเพื่อเป็นกำลังใจ นอกจากนี้ยังสร้างเซอร์ไพรส์ให้ผู้ชม ชวนศิลปินชื่อดังมาร่วมสร้างสีสัน นำทีมโดย Tattoo Colour, หนุ่ม กะลา, Tilly Birds, เอิ๊ต ภัทรวี, โบกี้ ไลอ้อน, Season Five และอีกมายมาย รวมแล้วกว่า 22 ชีวิต ซึ่งมีผู้เข้ามาร่วมชมใน JOOX ROOMS ถึงกว่า 120,000 คน ตลอด 7 วัน

I Love Your Voice สร้างสีสันให้วงการเพลงคึกคักอีกครั้ง กับครั้งแรกของการประกวดร้องเพลงออนไลน์ผ่าน JOOX ROOMS ภายใต้คอนเซ็ปต์ ‘ไพ่ยิปซี’ ที่เปิดโอกาสให้คนดนตรีอิสระได้มาแสดงความสามารถ พร้อมลุ้นรับเงินรางวัลกว่า 25,000 บาท และได้โปรโมทซิงเกิลของตัวเองบน JOOX ซึ่งคนไทยได้สนุก และลุ้นไปกับคนดนตรีมากฝีมือที่ได้เสี่ยงดวงไปอยู่กับทีมโค้ชมากความสามารถ อาทิ ลูกหว้า, พิจิกา, หนึ่ง ETC, โรส ศิรินทิพย์, เติร์ด Tilly Birds เป็นต้น โดยผู้ชนะเวทีนี้ได้แก่ เนื้อทราย – เนื้อทราย ประดุจพร จากทีม The LOVER ของลูกหว้า พิจิกา และโค้ชองุ่น

ผับทิพย์ @ JOOX ROOMS ตอกย้ำการเป็นแอปมิวสิคคอมมูนิตี้ที่ไม่เคยหยุดสร้างความสุขให้คนไทย ด้วยการร่วมกับสถานบันเทิงชื่อดัง ไม่ว่าจะเป็น The Cassette Music Bar, OVERSEOUL BKK, ท่าช้าง เชียงใหม่ พาดีเจและวงดนตรีชื่อดังมากมายมาเปิดห้องไลฟ์กันที่ JOOX ROOMS ทุกคืนวันศุกร์ตั้งแต่ 3 ทุ่มถึง 5 ทุ่ม สร้างผับทิพย์จัดเต็มให้ทุกเจเนอเรชัน นัดตี้ทิพย์กับชาวแก๊ง พร้อมมาสนุกแบบเต็มเหนี่ยวให้สมกับเป็นคืนวันศุกร์ด้วยธีมต่างๆ ให้มันกันต่อเนื่อง ไม่ว่าเป็นเพลงยุค 90, โตมากับ RS หรือเพลงเอาใจสายเกา ให้มาจอยกันจนหายคิดถึง

นอกจากนี้ JOOX ยังมีการขนขบวนทัพดารา นักร้อง เน็ตไอดอล และเรื่องที่น่าสนใจอีกมากมาย มาเติมเต็มความสุขให้แฟนๆ กันรัวๆ แบบจัดเต็มทุกอาทิตย์ ติดตามตารางกิจกรรมต่างๆ ได้ที่ https://www.facebook.com/jooxth

“JOOX ยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ใช้แพลตฟอร์มของเราเป็นสื่อกลางให้เหล่าศิลปิน และแฟนๆ ทั่วประเทศได้มาสนุกด้วยกัน และเราเชื่อว่ากิจกรรมสร้างสรรค์เหล่านี้จะเป็นอีกหนึ่งแรงสนับสนุนเหล่าคนดนตรีที่มีความสามารถให้กลับมามีรายได้ มีกำลังใจ และผลักดันให้พวกเขาก้าวผ่านสถานการณ์นี้ได้ในเร็ววัน รวมถึงหวังว่าเสียงเพลงจะช่วยเติมความสนุก และความสุขให้กับทุกคนในช่วงสถานการณ์เช่นนี้ อย่างไรก็ตาม JOOX จะเดินหน้าสร้างสรรค์กิจกรรมดีๆ แบบนี้ และใช้ความแข็งแกร่งของแพลตฟอร์มมาช่วยเหลือศิลปิน และผู้ที่อยู่ในแวดวงดนตรีต่อไป” นายกฤตธี กล่าวปิดท้าย

5 เหตุผลใช้บริการ KOLs กับ Mama Digital Media

เชื่อว่าทุกแบรนด์อยากลงทุนแล้ว ต้องอยากได้ผลตอบรับที่คุ้มค่ากับเม็ดเงินมากที่สุด ตอนนี้คงหมดยุคการหว่านแห เพื่อหาลูกค้ากันแล้ว และพฤติกรรมผู้บริโภคสินค้าแม่และเด็กทุกวงการ ทุกวัย ก็เปลี่ยนไปทุกๆ วัน 

และยิ่งกลุ่มแม่และเด็กในยุคนี้ เวลาจะตัดสินใจซื้อ หรือใช้บริการอะไร หนีไม่พ้นกับการอาศัยดูรีวิว ยิ่งรีวิวเยอะ แม่ๆ ยิ่งตัดสินใจได้ง่าย เพราะเวลาของคุณแม่นั้นมีค่ามาก มากไปกว่านั้น หากมี KOLs ที่เป็นคุณแม่เหมือนกันอยู่ในบทบาทเดียวกัน มีประสบการณ์โดยตรงกับสินค้านั้นๆ และออกมาเป็นพูดเป็นตัวแทนสินค้า ถ่ายทอดออกมาด้วยการใช้ภาษาแม่ๆเหมือนกัน เชื่อว่าคุณแม่ที่กำลังดูก็คงจะไม่พลาดที่จะต้องไปหาซื้อมาใช้ตาม ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า KOLs มีบทบาทความสำคัญต่อพลังความเชื่อนี้ขนาดไหน

KOLs มีอิทธิพลได้ขนาดนี้ จนทำให้พลิกวงการ การทำการตลาดสินค้าแม่และเด็กในยุคนี้ไปเลยทีเดียว

ยิ่งไปกว่านั้น จะดีขนาดไหน หากสื่อที่มีอิทธิพลต่อคุณแม่และคุณพ่อ ที่ดูแลเพจดัง อย่าง Mama Expert Thailand , MaeRakLuke – แม่รักลูก และทีมคนท้อง ในเครือบริษัท Mama’s Digital Media ที่คร่ำวอดในวงการออนไลน์ด้านแม่และเด็กนี้มายาวนานกว่า ปี มีแม่ๆตั้งแต่ช่วงตั้งครรภ์ไปจนถึงลูกวัยเรียน ทำให้มีผู้ติดตามทะยานกว่า ล้านคุณแม่แล้ว อีกทั้งเรายังมีกลุ่มคุณแม่อีก กลุ่มปิดที่มีสมาชิกอีกมากมาย นับแสนๆ คน 

พิมพ์พจี ผู้มีศีล คุณแม่และผู้บริหารยุคใหม่ของสื่อออนไลน์ทั้ง ช่องคือ Mama Expert Thailand, MaeRakLuke-แม่รักลูก และ ทีมคนท้อง ที่โลดแล่นอยู่ในวงการดิจิทัลมานาน เล่าให้ฟังว่า มาม่าส์ ดิจิตอล มีเดีย เริ่มต้นจากเล็งเห็นการทำแหล่งรวบรวมข้อมูลในรูปแบบบทความ Infographic และการรีวิว เกี่ยวกับการดูแลตัวเองในช่วงตั้งครรภ์ ไปจนถึงวิธีการเลี้ยงลูก และพัฒนาการแต่ละช่วงวัย เพื่ออำนวยความสะดวกสบายกับคุณแม่ในยุคออนไลน์แบบนี้ ให้ได้รับข้อมูลที่ถูกต้องจากแหล่งข้อมูลที่มีความรู้และประสบการณ์ตรง เนื่องจากเรามีที่ปรึกษาคือคุณหมอ ในแผนกสูตินรี จากโรงพยาบาลชั้นนำ และทีมพยาบาล ในแผนกทารกแรกเกิด พร้อมด้วยทีมนักเขียน และทีมแอดมิน ที่มีประสบการณ์การเป็นคุณแม่ ทำให้มีข้อมูลเชิงลึกในการพูดคุยกับลูกเพจได้

ธุรกิจสื่อด้านแม่และเด็ก เป็นกลุ่มเฉพาะแต่มีบทบาทมากและเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว ผู้บริหารจึงจัดทีมวิเคราะห์พฤติกรรมผู้บริโภคในฐานะแม่ จึงพบว่าบทบาทของคุณแม่มักเป็นผู้ตัดสินใจหลักของบ้าน ในการซื้อหรือใช้บริการต่าง ๆ ดังนั้นช่องเราที่มีแม่ๆเชื่อถือข้อมูลที่เป็นประโยชน์ที่เรามอบให้แล้ว เราจึงเปิดโอกาสให้แบรนด์ต่าง ๆ ได้เข้ามาสร้างการรับรู้ พร้อมกับสร้างความน่าเชื่อถือ ให้คุณแม่เชื่อมั่นได้มากขึ้น อีกทั้งสามารถกระตุ้นความต้องการ เพื่อเพิ่มความต้องการ และยอดขายในตลาด เราจึงหวังเป็นอย่างยิ่งว่า เราจะเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนวงการแม่และเด็กในประเทศไทย

เพราะเราอยู่ในวงการนี้มานาน จึงทำให้เรากล้าพูดได้เลยว่า เรามีฐาน KOLs คุณแม่ที่มีผู้ติดตามในจำนวนหลักพัน ถึงหลักหมื่น และสามารถเลือกแม่ๆ ที่มีประสบการณ์กับสินค้าแม่และเด็กนั้นจริง ที่สำคัญเลยคือ เรามีฐานคุณแม่กระจายตัวอยู่ทั่วประเทศ ซึ่งเหมาะสมอย่างมากกับแบรนด์ที่อยากทำการตลาดด้วยการรีวิวสินค้าเจาะกลุ่มตามภูมิภาคที่ต้องการ เพราะยิ่งแบรนด์ทำตัวให้กลมกลืนไปกับถิ่นนั้น ๆ มากเท่าไหร่  ไม่ว่าจะเป็นการสื่อสารด้วยภาษาเดียวกัน ใช้ Character การเล่าเรื่องให้เป็นไปตามภาคนั้น ๆ กระแสนั้นก็จะยิ่งเป็นพลังบอกต่อที่ดีมาก ตัวอย่างเช่น หากแบรนด์มีสินค้าแม่และเด็กอยากทำการตลาด จัดโปรโมชั่นเฉพาะภาคเหนือ ภายในร้านสะดวกซื้อ ก็สามารถเลือกใช้ KOLs คุณแม่จากทางเราที่อาศัยอยู่ในภาคเหนือ เพื่อโปรโมท รีวิวสินค้า และ จูงใจคนพื้นที่นั้น ๆ เพื่อบอกต่อโปรโมชั่นดีดี กระตุ้นการอยากซื้อ เป็นต้น

สำหรับ 5 เหตุผลที่แบรนด์สนใจใช้บริการ KOLs กับ Mama Digital Media

1.ได้คุณแม่ทั่วไทย เหมาะกับแบรนด์สินค้าแม่และเด็กที่อยากสื่อสารให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมายมากที่สุด

2.ประหยัดเวลาสามารถติดต่อได้ง่าย และจบ ครบ ที่เดียว เพราะฐาน KOLs มีให้เลือกหลากหลาย และมีทีมงานคัดเลือกเหล่า KOLs ให้ตรงกับความต้องการของแบรนด์สินค้าแม่และเด็กของคุณมากที่สุด

3.แบรนด์สามารถระบุรายละเอียด KOL คุณแม่ที่อยากได้ เพื่อการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ

4.รวบรวม capture และ รีพอร์ตต่าง ๆ ส่งให้ทางลูกค้าอย่างครบถ้วน

5.มีการเก็บข้อมูลตัวเลขให้แบรนด์สามารถนำไปวิเคราะห์ทำการตลาดสินค้าแม่และเด็กต่อได้

ในยุคสถานการณ์นี้ จากคนที่อยู่ในวงการสื่อมานาน จึงเข้าใจในการแข่งขันที่สูงขึ้น เราเลยอยากเป็น ในตัวช่วยสำคัญ ที่ให้แบรนด์สินค้าแม่และเด็กได้สื่อสารกับคนอย่างตรงกลุ่มจริง ๆ เพื่อประหยัดทั้งงบประมาณการลงทุนและเวลา

เจาะความสำเร็จเบี้ยครึ่งปีแรกโต 5% ของอลิอันซ์ อยุธยา

บมจ.อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต รายงานผลการดำเนินธุรกิจครึ่งปีแรก เติบโตแข็งแกร่งต่อเนื่อง เบี้ยประกันภัยรับปีแรกเติบโต 5% สอดรับความสำเร็จแคมเปญกระตุ้นยอดขายช่องทางตัวแทน และผลตอบรับทีดีจาก ผลิตภัณฑ์ใหม่ ปลดล็อคสบายกระเป๋า” เร่งเครื่องเดินหน้าดันธุรกิจโตแกร่งทุกช่องทาง

มร.โทมัส วิลสัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ. อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต เปิดเผยว่า “ครึ่งปีแรก 2564 ถือเป็นครึ่งปีที่ท้าทายสำหรับทุกธุรกิจรวมถึงธุรกิจประกันชีวิต เนื่องมาจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 ที่ทวีความรุนแรงขึ้นอีกครั้ง หากแต่ อลิอันซ์ อยุธยา ยังสามารถสร้างผลงานได้เป็นที่น่าพอใจ สามารถสร้างเบี้ยประกันรับปีแรกเติบโตถึง 5% อยู่ที่ 2,974 ล้านบาท โดยมาจากช่องทางขายผ่านธนาคาร 1,014 ล้านบาท เติบโต 56% สะท้อนถึงผลิตภัณฑ์การลงทุนและการออมที่ให้ผลตอบแทนที่ดีเหนือตลาด ช่องทางตัวแทน 1,091 ล้านบาท เติบโต 4% ซึ่งเป็นผลมาจากช่องทางตัวแทนที่เข้มแข็ง ประกอบกับความสำเร็จจากการออกผลิตภัณฑ์คุ้มครองสุขภาพใหม่ “ปลดล็อคสบายกระเป๋า” ที่เป็นแบบประกันสุขภาพที่ให้ความคุ้มครองสุขภาพแก่ลูกค้าในราคาที่คุ้มค่า ทั้งยังมีกิจกรรมและเครื่องมือดิจิทัลเพื่อสนับสนุนให้ตัวแทนขายสินค้าได้ง่ายขึ้น ปัจจุบัน สุขภาพ ปลดล็อค สบายกระเป๋า มียอดขายแล้วกว่า 3,000 กรมธรรม์ ตั้งแต่เปิดตัวกลางเดือนมีนาคม ส่วนช่องทางขายตรง เติบโตลดลง 23% อยู่ที่ 735.7 ล้านบาท เป็นผลมากจากสถานการณ์โควิดที่ส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อของลูกค้าในช่วงที่เศรษฐกิจซบเซา

ถึงแม้สถานการณ์โควิดจะยังคงอยู่และส่งผลกระทบต่อธุรกิจ แต่สำหรับอลิอันซ์ อยุธยา ด้วยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง และการปรับตัวเข้าสู่ดิจิทัลก่อนใคร ทำให้ธุรกิจของเรายังคงเติบโตไปได้ในทุกช่องทาง ปัจจุบันช่องทางตัวแทนมีการส่งใบคำขอผ่านเครื่องมือดิจิทัล ที่เรียกว่า Allianz Discover (AZD) ถึง 99% และจากกลุ่มนี้ มีอยู่ถึง 45% ที่เป็นการขายแบบไม่ต้องพบลูกค้า (Non Face-to-Face) ซึ่งเป็นการส่งเสริมการทำงานภายใต้สถานการณ์โควิดและรักษา social distancing ได้เป็นอย่างดี และล่าสุดได้มีการจัดงาน AL Seminar ACTIV 21 งานสัมมนาผู้บริหารตัวแทน รูปแบบออนไลน์ครั้งแรก ที่เน้นการสร้างกำลังใจ การทำงานเป็นทีมเพื่อเป้าหมายการเติบโต นอกจากนั้น ยังมีโปรแกรมกระตุ้นการสร้างผลงานมากมาก อาทิ โครงการ Friend Of Agency ชวนเพื่อนแนะนำเพื่อน มีผู้เข้าร่วมกว่าพันคนภายในหนึ่งเดือน โครงการ Allianz Elite Agency คือ เป็นการนำโมเดลที่ประสบความสำเร็จไปใช้พัฒนาตัวแทนกลุ่มอื่นๆเพื่อเร่งการสร้างผลงาน ซึ่งตัวแทนที่อยู่ในโปรแกรมนี้ พบว่าจะสร้างผลิตผลได้มากกว่าเดิมถึง 6 เท่า

ขณะเดียวกัน กลุ่มอลิอันซ์ ผู้ถือหุ้นหลักของ บมจ. อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต รายงานผลกำไรจากการดำเนินการของอลิอันซ์ในเอเชียเพิ่มขึ้น 37% เป็น 343 ล้านยูโร หรือประมาณ 1.35 หมื่นล้านบาท โดยรายได้ทั้งหมดในเอเชียเพิ่มขึ้น 14% เป็น 4.1 พันล้านยูโร หรือประมาณ 1.61 แสนล้านบาท และมีผลกำไรจากการดำเนินงานด้านประกันชีวิตและสุขภาพเพิ่มขึ้น 46% เป็น 279 ล้านยูโร หรือประมาณ 1.1 หมื่นล้านบาท

มร. โซลมาส อัลทิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารประจำภูมิภาค อลิอันซ์ เอเชียแปซิฟิก กล่าวว่า ท่ามกลางภาวะของตลาดที่ท้าทายและผลกระทบของโควิด-19 ซึ่งยังคงส่งผลต่อทุกด้านของชีวิต อลิอันซ์ เอเชีย แปซิฟิค ยังคงมีรายได้และผลกำไรจากการดำเนินงานที่แข็งแกร่งในครึ่งแรกของปี 2564 กลยุทธ์ของเราประสบความสำเร็จด้วยดีจากการทำงานหนักและความทุ่มเทของพนักงาน เราจะยังคงให้ความสำคัญกับความเป็นอยู่ที่ดี ความปลอดภัย และสุขภาพจิตของพนักงานเป็นอันดับต้นๆ การปรับตัวสู่ดิจิทัลตั้งแต่ก่อนการระบาดของโควิด-19 ช่วยให้เรายังคงสามารถให้บริการและช่วยเหลือลูกค้าและพันธมิตรทางธุรกิจในภูมิภาคนี้ รวมถึงหลายตลาดในเอเชียที่ดำเนินธุรกิจอยู่

แม้ว่าความท้าทายที่เกี่ยวข้องกับโรคระบาดจะยังคงส่งผลกระทบต่อตลาด แต่เรามั่นใจว่าเราจะสามารถสร้างกลยุทธ์ทางธุรกิจผ่านทางโมเดลที่ยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง และสิ่งนี้เป็นเรื่องที่สำคัญมากสำหรับเราในการรักษาความเป็นที่หนึ่งในบริษัทประกันที่ใหญ่ที่สุดและมีความมั่นคงมากที่สุดในโลก เราจะพัฒนาผลิตภัณฑ์และโซลูชั่นต่างๆ ให้ดียิ่งขึ้น เพื่อช่วยลดภาระด้านการเงินของลูกค้า รวมถึงช่วยเพิ่มระดับการคุ้มครองทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกอย่างไร้รอยต่อและตอบสนองความต้องการเฉพาะตัวของตลาดทุกตลาดและลูกค้าทุกคน

มร.แอรอน ฟรายเยอร์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการเงิน อลิอันซ์ เอเชียแปซิฟิก กล่าวว่า “แม้จะยังคงมีความไม่แน่นอนในตลาด รวมถึงภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซา อลิอันซ์ยังมีอัตราการเติบโตที่สูงในเอเชีย โดยมีกำไรจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้น 37% เป็น 343 ล้านยูโร หรือประมาณ 1.35 หมื่นล้านบาท  ธุรกิจกลุ่มประกันชีวิตและประกันสุขภาพในภูมิภาคยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่งด้วยกำไรจากการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้น 46% เป็น 279 ล้านยูโร หรือประมาณ 1.1 หมื่นล้านบาท จากกำไรจากการลงทุนที่เพิ่มขึ้นในไทย ผลประกอบการที่ดีขึ้นในไต้หวันจากการฟื้นตัวของตลาดทุน มูลค่าของธุรกิจใหม่เพิ่มขึ้น 38% เป็น 199 ล้านยูโร หรือประมาณ 7.8 พันล้านบาท จากปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นในตลาด เช่น ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย และอินโดนีเซีย ภูมิภาคนี้ยังมีกำไรที่สูงขึ้นจากส่วนผสมทางธุรกิจที่ดีขึ้น รวมถึงการปรับตัวของอัตราดอกเบี้ยในบางตลาด

รายได้รวมของธุรกิจประกันทรัพย์สินและเบ็ดเตล็ดเพิ่มขึ้น 13% เป็น 741 ล้านยูโร หรือประมาณ 2.9 หมื่นล้านบาท และมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องในจีนและได้รับอานิสงค์จากสิงคโปร์ ผลกำไรจากการดำเนินงานในภูมิภาคเพิ่มขึ้น 8% เป็น 63 ล้านยูโร หรือประมาณ 2.5 พันล้านบาท โดยส่วนใหญ่เพิ่มขึ้นในประเทศไทยและมาเลเซีย จากการดำเนินงานที่มีความเป็นเลิศในด้านต่างๆ รวมถึงกลยุทธ์ดิจิทัลที่ขยายกว้างมากขึ้นสำหรับช่องทางหลักของเรา ค่าใช้จ่ายในการรับประกันภัยทั้งหมด เพิ่มขึ้นครึ่งเบซิสพ้อยท์เป็น 96.8% เมื่อเทียบปีต่อปี

อย่างไรก็ตาม ในช่วงหกเดือนที่ผ่านมา อลิอันซ์เอเชียแปซีฟิกได้รับการเรียกร้องค่าสินไหมมากขึ้นจากลูกค้าและครอบครัวที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 โดยตรง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในอินโดนีเซีย แสดงให้เห็นถึงบทบาทสำคัญของโซลูชั่นด้านสุขภาพและการให้ความคุ้มครองของเราในชุมชนโดยรวม เราจะยังคงเติบโตในตลาดให้มากยิ่งขึ้นเพื่อสร้างความเข้มแข็งในการให้ความคุ้มครองลูกท้าทางด้านการเงิน”

“เรามาไกลกว่าสิ่งที่คาดหวังเป็นอย่างมากในปีนี้ ซึ่งรวมถึงการขยายธุรกิจบริหารจัดการทรัพย์สินเพิ่มเติม หลังจากที่อลิอันซ์ได้รับการอนุมัติอย่างเป็นทางการให้จัดตั้งบริษัทจัดการทรัพย์สินประกันซึ่งมีชาวต่างชาติเป็นเจ้าของทั้งหมดได้เป็นบริษัทแรกในจีน เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าทิศทางที่ดีเช่นนี้จะยังคงดำเนินต่อไป โดยเราจะยังคงมุ่งมั่นและระมัดระวังในการดำเนินแผนการ โดยใช้กลยุทธ์ที่เหมาะสมสำหรับพนักงาน พันธมิตรทางธุรกิจและลูกค้าของเรา” มร. โซลมาส กล่าวเสริม