OXE’CURE เปิดตัวพรีเซ็นเตอร์คนใหม่ชิงตลาดแต้มสิว

DDD แฮปปี้ แบรนด์ OXE’CURE (อ๊อกซีเคียว) ยอดขายพุ่ง พร้อมเปิดตัวพรีเซ็นเตอร์คนใหม่ “ไบร์ท วชิรวิชญ์” สำหรับผลิตภัณฑ์แต้มสิว Acne Clear Potion และ Acne Clear Powder Mud ได้รับกระแสตอบรับอย่างท่วมท้นจากแฟนๆ ทั้งในไทยและต่างประเทศ

Oxe’cure หนึ่งในแบรนด์ผลิตภัณฑ์ดูแลปัญหาสิวและผิวแพ้ง่ายภายใต้การบริหารงานของกลุ่มบริษัท ดู เดย์ ดรีม จำกัด (มหาชน) ได้ปล่อยแคมเปญใหม่ล่าสุด “Oxecure x Bright” พร้อมเปิดตัว “ไบร์ท วชิรวิชญ์” เป็นพรีเซ็นเตอร์คนแรกสำหรับผลิตภัณฑ์กลุ่มแต้มสิวของ Oxe’cure อ๊อกซีเคียว ได้แก่ Acne Clear Potion และ Acne Clear Powder Mud เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2564 ที่ผ่านมา

วรัญญา ราชพลสิทธิ์ ผู้อำนวยการแบรนด์ Oxe’cure

วรัญญา ราชพลสิทธิ์ ผู้อำนวยการแบรนด์ Oxe’cure เปิดเผยว่า Oxe’cure เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง และมียอดขายเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดในระยะเวลาเพียง 2 ปี นับตั้งแต่การเข้าซื้อแบรนด์และปรับโครงสร้างแบรนด์ใหม่ โดยเน้นความสำคัญของคุณภาพสินค้าเพื่อตอบโจทย์ปัญหาผิวของลูกค้าได้อย่างตรงจุด “กลุ่มลูกค้าหลัก คือ กลุ่มวัยรุ่นที่มีปัญหาสิวบนใบหน้าและลำตัว สำหรับ Oxe’cure เป็นแบรนด์ที่มีความเชี่ยวชาญมาอย่างยาวนานในการดูแลปัญหาสิวและผิวแพ้ง่าย ลูกค้าใช้แล้วต้องปลอดภัย และเห็นผลที่ดีขึ้นอย่างชัดเจน ในราคาที่จับต้องได้”

ล่าสุด Oxe’cure ใช้กลยุทธ์ Partnership กับหนุ่มหล่อมากความสามารถที่กำลังโด่งดังอย่างฉุดไม่อยู่ทั้งในไทยและต่างประเทศ อย่าง “ไบร์ท วชิรวิชญ์” มาช่วยเสริมทัพ ควบคุมปัญหาสิวไปด้วยกัน “แต้มปุ๊บ สิวยุบ ภายใน 6 ชั่วโมง” กับกลุ่มผลิตภัณฑ์แต้มสิว Acne Clear Potion แป้งน้ำชมพูตัวดัง และ Acne Clear Powder Mud โคลนแต้มสิวในรูปแบบซอง ที่มีสรรพคุณช่วยควบคุมและจัดการปัญหาสิวได้รวดเร็วอย่างหมดจด โดยในครั้งนี้ ไบร์ท วชิรวิชญ์ ไม่ได้มาเป็นแค่พรีเซ็นเตอร์ในประเทศไทย แต่ยังข้ามแดนถึงประเทศฟิลิปปินส์ ที่มีทั้งฐานลูกค้าของแบรนด์ และแฟนคลับของ ไบร์ท วชิรวิชญ์ อย่างหนาแน่น โดย Oxe’cure ได้จัดเตรียมกิจกรรมมากมายเพื่อสร้างความตื่นเต้นสุดฟินให้กับเหล่าแฟนคลับ และกลุ่มผู้บริโภคทั่วประเทศให้ได้ร่วมสนุกกันตลอดทั้งปี และล่าสุดเมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2564 ทางแบรนด์ได้เปิดตัวพรีเซ็นเตอร์อย่างเป็นทางการ ด้วยภาพ Photoshoot ล่าสุด ที่เรียกเสียงฮือฮาจากเหล่าแฟนคลับได้อย่างคับคั่ง ด้วยความหล่อใสสมดีกรีที่ได้รับเลือกให้เป็น พรีเซ็นเตอร์ของแบรนด์แต้มสิวแห่งปี

ผลิตภัณฑ์ Oxe’cure สามารถหาซื้อได้ตามร้านค้าในห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วไป และร้านขายยาทั้งในกรุงเทพฯ-ต่างจังหวัด รวมถึงช่องทางออนไลน์ต่างๆ นอกจากนี้ ยังสามารถหาซื้อสินค้าขนาดเล็ก หรือแบบซอง ได้ที่ 7-11 ทั่วประเทศ

ลองยัง? Popcorn Green Cheese ผสมสารสกัดกัญชา

​ผู้ที่ชื่นชอบป๊อปคอร์น… ต้องไม่พลาดป๊อปคอร์นของ เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ เอกลักษณ์ความอร่อย พร้อมรสชาติที่มีให้เลือกหลากหลายไม่เหมือนใคร อาทิ รสเค็ม, รสหวาน, รสชีส, รสสตรอเบอร์รี่, รสบาร์บีคิว, รสลาบ, รสน้ำจิ้มซีฟู้ด, รสหมูสะเต๊ะ, รสน้ำยาปู

ล่าสุด เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป แนะนำป๊อปคอร์นรสชาติใหม่ Popcorn Green Cheese ป๊อปคอร์นอารมณ์ดี อร่อยเข้มเต็มรสชีส พร้อมได้ประโยชน์จากเทอร์ปีนสารสกัดกลิ่นหอมแบบกัญชา ที่ให้ความรู้สึกสดชื่นและผ่อนคลาย พร้อมเสิร์ฟความอร่อยใหม่…ตั้งแต่วันที่ 15 มิถุนายน 2564 เป็นต้นไป ที่ เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป ทุกสาขาทั่วประเทศ และสามารถสั่งซื้อผ่านแอปพลิเคชั่นสั่งอาหารออนไลน์ชั้นนำอย่าง Grab Food, LINE MAN, Gojek และ foodpanda ด้วยโปรโมชั่นพิเศษจาก LINE MAN ส่งฟรี 1.5 กม.แรก (ไม่ใส่โค้ด), Grab Food ส่งฟรี 3 กม.แรก (ใส่โค้ด POPCORN)

COLOR แตกไลน์ธุรกิจพลังงานทดแทน

COLOR ส่งซิกแนวโน้มธุรกิจในช่วง 3-5 ปีข้างหน้า โตแกร่ง หลังสยายปีกธุรกิจพลังงานทดแทน เพิ่มแหล่งที่มาของรายได้-กระจายความเสี่ยงธุรกิจ-มาร์จิ้นสูง ฟากผู้บริหาร “พีรพันธ์ จิวะพรทิพย์”ใส่เกียร์เดินหน้า สั่งซื้อเครื่องจักรเพิ่มเติมเพื่อลุยขยายกำลังการผลิตทุ่นลอยน้ำโซล่าร์เซลล์ในเดือนก.ค.นี้ พร้อมบุกตลาดโซลาร์รูฟ โรงงานอุตสาหกรรมไซส์กลาง เพิ่มฐานรายได้ประจำ เสริมแกร่งธุรกิจเดิม

นายพีรพันธ์ จิวะพรทิพย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สาลี่ คัลเล่อร์ จำกัด (มหาชน) หรือ COLOR ผู้ผลิตและจำหน่ายเม็ดพลาสติกมาสเตอร์แบตซ์ เม็ดพลาสติกคอมพาวด์ และสีผสมพลาสติกชนิดผง เปิดเผยว่า บริษัทฯได้มีการแตกไลน์สู่ธุรกิจพลังงานทดแทน ผ่านบริษัท เดอะบับเบิ้ลส์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อย เพื่อเพิ่มแหล่งที่มาของรายได้ประจำ (Recuring Income) และกระจายความเสี่ยงธุรกิจ อีกทั้งธุรกิจดังกล่าวมีอัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin) โดยมั่นใจว่าแนวโน้มผลการดำเนินงานในช่วง 3-5 ปีข้างหน้า จะเติบโตอย่างแข็งแกร่งและมั่นคง สร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้น

ทั้งนี้ บริษัทฯอยู่ระหว่างการเตรียมความพร้อมติดตั้งเครื่องจักรเพิ่มเติมเพื่อขยายกำลังการผลิตเพิ่มขึ้น โดยคาดว่าจะสามารถเดินเครื่องจักรผลิตและจำหน่ายทุ่นลอยน้ำได้ในเดือนกรกฎาคมนี้ ในปัจจุบันมีคำสั่งซื้อแล้ว 1- 2 ราย และคาดว่าจะสามารถรับรู้รายได้ภายในช่วงปลายปีนี้ นอกจากนี้ ยังมีแผนขยายฐานลูกค้าในส่วนของผู้ประกอบการโรงงานอุตสาหกรรมขนาดกลางและเล็ก ที่ต้องการลงทุนติดตั้งโซลาร์รูฟท็อป เพื่อประหยัดต้นทุนค่าใช้จ่ายด้านพลังงานไฟฟ้า ซึ่งคาดว่าจะได้ข้อสรุปเร็วๆนี้

“แนวโน้มผลการดำเนินในช่วงที่เหลือของปีนี้ คาดว่าจะเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ทั้งจากธุรกิจเดิม ที่มีอัตราการเติบโตเฉลี่ย 6-7% และมีรายได้จากธุรกิจพลังงานทดแทนเข้ามาเสริมแกร่งในอนาคต ซึ่งปัจจุบันเริ่มมีออเดอร์เข้ามา และอยู่ระหว่างการเจรจากับลูกค้า และคาดว่าจะช่วยผลักดันรายได้เติบโตอย่างมีนัยสำคัญในช่วง 3-5 ปีข้างหน้า”

ขณะที่ผลการดำเนินงานของบริษัทฯในไตรมาส1/2564 มีกำไรสุทธิ 21.87 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.12 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 48 % จากงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 14.75 ล้านบาท ขณะที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 280 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21 ล้านบาท หรือ 8 % จากงวดเดียวกันของปีก่อนมีรายได้รวม 259 ล้านบาท เนื่องจากการทําตลาดในสินค้าประเภทใหม่ๆ เพิ่มขึ้น รวมทั้งบริษัทฯมีการปรับปรุงกระบวนการผลิตให้ดีขึ้น ทําให้ช่วยประหยัดต้นทุนการผลิต ส่งผลให้มีอัตรากำไรขั้นต้นสูงขึ้นเป็น 23.8 % เพิ่มขึ้น 2.3% เทียบงวดเดียวกันของปีก่อน

SENA ไตรมาสแรกฉลุยกำไร 228.6 ล้าน

SENA ตอกย้ำเฟรมเวิร์ค “SENA Strong” รักษากำไรไตรมาส 1/64 อยู่ที่ 228.6 ล้านบาท โตจากช่วงเดียวกันปีก่อนบนภาวะวิกฤติโควิด-19 รอบใหม่ เดินหน้าปรับแผน ตะลุยเปิด 18 โครงการ มูลค่ารวม 16,764 ล้านบาท แย้ม Q3/64 เตรียมรีเซตโปรเจกต์ใหม่ แบรนด์ “เสนาคิทท์” ดึงกำลังซื้อเรียลดีมานด์ เจาะตลาดย่านแหล่งงาน ประเดิม “เสนาคิทท์ ฉลองกรุง – ลาดกระบัง” พรีเซลล์ต้นเดือน ก.ค.นี้

นางสาวอธิกา บุญรอดชู ผู้อำนวยการ ฝ่ายจัดสรรเงินทุนและการลงทุน บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ SENA ผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำทั้งแนวราบและแนวสูง เปิดเผยว่าจากสถานการณ์ของตลาดอสังหาริมทรัพย์ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2564 โดยภาพรวมยังได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจและสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 มาอย่างต่อเนื่อง แต่ก็ยังสามารถรักษาฐานตลาดในเซกเมนท์ที่มีกำลังซื้อโดยเฉพาะกลุ่มที่ต้องการที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ผลประกอบการไตรมาสที่ 1/64 ของบริษัทและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิทั้งสิ้น 228.6 ล้านบาท ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการรับรู้ส่วนแบ่งกำไรที่เพิ่มขึ้นและการบริหารจัดการต้นทุนทางการขายที่มีประสิทธิภาพทั้งในเรื่องการขายและการบริหารจัดการโครงการ รวมถึงมีการวางกลยุทธ์ทางการตลาดในการเปิดโครงการใหม่ๆทั้งแนวราบและคอนโดมิเนียม โดยเน้นไปยังพื้นที่ที่ยังมีความต้องการที่อยู่อาศัยจำนวนมาก

สำหรับในส่วนของรายได้รวมของบริษัทในช่วงไตรมาส 1 /2564 ทั้งสิ้น 907.8 ล้านบาท ปรับตัวลดลง 7% ซึ่งมีสาเหตุหลักจากธุรกิจให้เช่าปรับตัวลดลงเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ในขณะที่รายได้จากการขายธุรกิจที่อยู่อาศัย มีรายได้รวมทั้งสิ้น 623.6 ล้านบาท ปรับตัวสูงขึ้น 10.3% เนื่องจากมีรายได้จากการขายโครงการแนวราบ รวมทั้งสิ้น 221.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 119.4 ล้านบาท หรือคิดเป็น 116.7 % จาก 5 โครงการ ประกอบด้วย โครงการ เสนา พาร์คแกรนด์ วงแหวน – รามอินทรา ,โครงการเสนาวิลล์ ลำลูกกา-คลอง 6 , โครงการเสนาวิลล์ บรมราชชนนี สาย 5 ,โครงการเสนาวิลล์ รามอินทรา ,โครงการเสนา แกรนด์ โฮม รามอินทรา กม.8

ปัจจุบันบริษัทมียอดขายที่รอรับรู้รายได้จากการโอน (Backlog) คิดเป็นมูลค่า 7,399 ล้านบาท ณ สิ้น 31 มีนาคม 2564 และจะทยอยรับรู้รายได้ในช่วงที่เหลือของปีนี้ 4,390 ล้านบาท และทยอยรับรู้ในปีถัดไปตามลำดับ

ทั้งนี้ ทางบริษัทปรับแผนการเปิดโครงการใหม่ปี 64 จากเดิมเตรียมเปิด 17 โครงการ รวมมูลค่า 15,700 ล้านบาท เพิ่มเป็น 18 โครงการ รวมมูลค่า 16,764 ล้านบาท แบ่งเป็นแนวราบ 7 โครงการ และแนวสูง 11 โครงการ เพื่อให้สอดรับกับกำลังซื้อที่เปลี่ยนไปในปัจจุบัน ภายใต้มาตรการ “SENA Strong” โดยทางบริษัทยังมีความเชื่อมั่นว่าความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยยังเป็นปัจจัยที่สำคัญ สำหรับช่วงไตรมาส 1/64 ที่ผ่านมา ทางบริษัทได้เปิดตัวโครงการไปแล้ว 1 โครงการ คือ เสนาคิทท์ เวสต์เกต -บางบัวทอง มูลค่าโครงการ 250 ล้านบาท โดยไตรมาส 3/64 เตรียมเปิดโครงการใหม่เพิ่ม 8 โครงการ รวมมูลค่า 6,109 กว่าล้านบาท แบ่งเป็นแนวราบ 5 โครงการ และแนวสูง 3 โครงการ โดยเดือนกรกฏาคม เตรียมเปิดขาย “เสนาคิทท์ ฉลองกรุง – ลาดกระบัง” ราคาเริ่ม 799,000 ล้านบาท

ด่วน! เช็คที่นี่.. ทีวีบ้านใครดูบอลยูโร2020 คืนนี้ได้บ้าง

เฟซบุ๊คแฟนเพจ NBT2HD SPORT โพสต์ยืนยันว่าถ่ายทอดสดบอลยูโร​ 2020 ทุกคู่ 100​% ส่วนช่องทางการรับชม​ NBT2HD​ กดเลข2​

สำหรับประเด็นกล่องต่างๆ ดูได้หรือไม่​ จะมีการแถลงข่าวบ่ายวันนี้ (11 มิ.ย.) เบื้องต้นสามารถเช็คด้วยตัวเองว่า ทีวีที่บ้านของเราดูบอลยูโร2020 ได้หรือไหม ง่ายๆ เพียงกดหมายเลข2​ ว่ารับสัญญาณรายการทีวีได้หรือไม่

บอลยูโร2020 ดูสด 53 แมตซ์ได้แล้วคืนนี้!

เฟซบุ๊คแฟนเพจ NBT2HD SPORT โพสต์ยืนยันว่า สถานีโทรทัศน์ช่อง NBT 2HD จะรับหน้าที่การถ่ายทอดสดศึกยูโร2020 ให้แฟนบอลชาวไทยได้รับชมกันทั้ง 53 แมตซ์ เริ่มตั้งแต่คู่เปิดสนามวันที่ 11 มิ.. 64 ถึง 11 .. 64 ประเดิมคู่แรก ตุรกี พบกับ อิตาลี ตามเวลาไทย 02.00 .(วันที่ 12 มิ..)ติดตามรับชมทางช่อง NBT 2HD กดเลข 2

ชวนเกมเมอร์ทะยานสู่โลกสุดล้ำ “True 5G Cloud Gaming by Netboom”

ปรากฏการณ์ความมันส์ สะท้านวงการเกมเริ่มขึ้นแล้ว… ทรู 5G โชว์​เหนือ เครือข่ายอัจริยะตัวจริง ปลดล็อกการเล่นเกมแบบเดิมๆ พลิกโฉมจาก PC สเปกสูง หรือ คอนโซล ลงบนสมาร์ทโฟนกับ “True 5G Cloud Gaming by Netboom” ที่ผนึกกับ Bifrost Cloud ผู้ให้บริการเทคโนโลยีคลาวด์ระดับโลกจากแดนมังกร ผสานเครือข่ายอัจริยะทรู 5G ที่เร็วแรงกว่า ครอบคลุมยิ่งกว่า ให้เหล่าเกมเมอร์ได้อิน ฟินสุดๆไปกับ กราฟฟิคสวยสมจริง เอฟเฟกต์ทะลุจอ เล่นได้ลื่นไหล ไม่สะดุด บนแอป Netboom โดยไม่ต้องโหลดเกมลงมาบนเครื่องให้เปลืองเนื้อที่ เลือกมันส์สะใจกับ 300 เกมดังระดับ AAA อาทิ Overwatch, FallGuy, PUBG, League of Legend และ Tekken 7 ลูกค้าทรูสนุกเหนือใครด้วย “Exclusive Speed” โดย Bifrost Cloud ได้เปิดช่องทางด่วนเฉพาะเครือข่ายทรู ให้เล่นได้เร็วกว่าเครือข่ายอื่นถึง 3 เท่า พร้อมเข้าถึง 3 โหมดการใช้งานทั้ง1. Free Game Mode ที่ให้ยืมเกมหลากหลายแนวมาทดลองเล่น 2. Instant Play Mode ที่ให้เชื่อมต่อกับเกมสโตร์ดังอย่าง Steam, Epic Game, Origin เพื่อดึงเกมมาเล่นได้ทันที 3. PC Mode ที่ให้ใช้งานสมาร์ทโฟนเสมือนมี PC ติดตัวไปด้วยทุกที่ พิเศษยิ่งขึ้นลูกค้าทรู 5G เล่นฟรี 30 วัน (80 ชั่วโมง) มูลค่า 299 บาท เมื่อสมัครแพ็กเกจ True 5G Ultra Max Speed 699 บาท ขึ้นไป พร้อมซื้อเครื่อง Galaxy S21 Series 5G ตั้งแต่วันที่ 11 – 30 มิถุนายน 2564 หรือซื้อเครื่อง 5G รุ่นอื่น พร้อมแพ็กเกจ True 5G Ultra Max Speed 1,199 บาท ขึ้นไป ตั้งแต่วันที่ 11 – 18 มิถุนายน 2564 โดยสามารถซื้อเครื่องที่ร่วมรายการได้ผ่านช่องทางทรูช้อป และทรู ช้อปใน 7-Eleven ทั่วประเทศ

นายพิรุณ ไพรีพ่ายฤทธิ์ หัวหน้าคณะทำงานและกรรมการยุทธศาสตร์ 5G บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า ความร่วมมือกับพันธมิตร Bifrost Cloud จากประเทศจีนเปิดให้บริการ “True 5G Cloud Gaming by Netboom” ในไทยครั้งนี้ นับเป็นมิติใหม่ของวงการคลาวด์เกมที่เกมเมอร์ชาวไทยจะได้สัมผัสประสบการณ์การเล่นเกมที่แตกต่างจากเดิม ด้วยความโดดเด่นของอัจฉริยภาพทรู 5G และคลาวด์เทคโนโลยี ทำให้ครั้งนี้เป็นครั้งแรกของการเล่นเกมเป็นแพลตฟอร์ม PC และคอนโซล ได้บนสมาร์ทโฟนแบบสนุกสะใจ ไม่มีสะดุด ผ่านแอป Netboom ซึ่งถือว่าเป็นการพลิกโฉมวงการเกม เพราะเกมเมอร์จะเล่นได้ทุกที่ทุกเวลา และยังจะเต็มอิ่มกับเอฟเฟกต์คมชัด กราฟฟิกเสมือนจริง อีกทั้งด้วยคุณสมบัติของทรู 5G ทีมีความหน่วงต่ำ ก็ยิ่งทำให้ การประมวลผลของเกมก็เป็นไปอย่างรวดเร็วทันใจ ตอบสนองการเล่นได้อย่างว่องไวไม่ดีเลย์ และยังเลือกเล่นได้ถึง 3 โหมด ได้แก่ 1. Free Game Mode ทดลองเล่นเกมในหลากหลายแนว 2. Instant Play Mode เชื่อมต่อกับเกมสโตร์ดัง อย่าง Steam, Epic Game, Origin เพื่อดึงเกมโปรดมาเล่นได้ทันที และ 3. PC Mode ให้ใช้งานสมาร์ทโฟน เหมือนใช้บน PC ได้ตลอดเวลา โดยไม่ต้องดาวน์โหลดเกมลงเครื่อง ลดปัญหาการสิ้นเปลืองดาต้า รวมทั้งลดพื้นที่จัดเก็บข้อมูลอีกด้วย และต้องขอบคุณพันธมิตร Bifrost Cloud ที่จัดความพิเศษให้ลูกค้าทรู เปิดช่องทางด่วนเฉพาะเครือข่ายทรู ให้เล่นได้เร็วกว่าเครือข่ายอื่นถึง 3 เท่าอีกด้วย ซึ่งมั่นใจว่า “True 5G Cloud Gaming by Netboom” นี้ จะเปิดประสบการณ์ใหม่ทีตรงใจคอเกมชาวไทยยุค 5G ได้อย่างแน่นอน

มร.นิ ไฮเช้ง Founder & CEO of Bifrost Cloud Pte.Ltd. กล่าวว่า รู้สึก ตื่นเต้น และดีใจแทนคอเกมชาวไทยที่วันนี้จะได้สัมผัสกับมิติใหม่ของการเล่นเกมพีซี และคอนโซล บนสมาร์ทโฟน ไปกับ True 5G Cloud Gaming by Netboom ที่เร็ว ไหลลื่น ไม่สะดุด ด้วยการสตรีมมิ่งเกมจากคลาวด์ ผ่านเครือข่ายอัจฉริยะ ทรู 5G ซึ่งจะมาเติมเต็มประสบการณ์การเล่นเกมที่สนุกกว่า มันส์กว่า และเหนือชั้นกว่า กับทัพเกมระดับ AAA จาก Netboom กว่า 300 เกม อาทิ Overwatch เกมยิงปืนผสม MOBA ยักษ์ใหญ่ของค่าย Blizzard ที่มีผู้เล่นสูงถึง 40 ล้านคน FallGuy ต้นฉบับความสนุกโหด มัน ฮา ของเกมที่เป็นกระแส และมีคนเล่นนับล้านเพียงแค่สัปดาห์เดียว PUBG เกมแนว Survival ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดเกมหนึ่งในปัจจุบัน League of Legend เกมที่ได้แรงบันดาลใจมาจากเกม Dota และ Tekken 7 หนึ่งในตำนานเกมต่อสู้ ที่กำเนิดในยุค 90 และมีประวัติมายาวนานถึง 7 ภาค จึงขอเชิญชวนบรรดาเกมเมอร์ก้าวสู่อีกขั้นของการเล่นเกมสุดล้ำ ซึ่งเชื่อมั่นว่าจะประทับใจ สนุกสนาน เพลิดเพลิน เต็มประสิทธิภาพทัดเทียมเกมเมอร์ทั่วโลกได้ในแพ็กเกจสุดเอ็กซ์คลูซีฟที่นี่ที่เดียว”

สำหรับการเปิดตัว “True 5G Cloud Gaming by Netboom” ครั้งนี้ ทรู ได้จัดเตรียมความพิเศษให้แก่ลูกค้า ดังนี้

o ลูกค้าทรู 5G เล่นฟรี 30 วัน เมื่อสมัครแพ็กเกจ True 5G Ultra Max Speed พร้อมซื้อเครื่อง Galaxy S21 Series 5G ที่ทรูช็อปทุกสาขา ตั้งแต่วันนี้ – 30 มิถุนายน 2564

o ลูกค้า True 5G รายเดือนรับสิทธิทดลองใช้งาน Netboom ฟรี 10 นาที และรับชั่วโมงการใช้งานเพิ่มฟรีทันทีสูงสุด 24 ชั่วโมง เมื่อสมัครสมาชิกประเภทรายเดือนครั้งแรกที่ Netboom

o ลูกค้าทรูแพ็กเกจอื่นๆ ทั้งรายเดือนและเติมเงิน รับเน็ตฟรี 1 GB พร้อมใช้งาน Netboom 80 ชั่วโมง/เดือน เมื่อสมัครแพ็กเกจเสริม 299 บาท โดยกด USSD *900*1302# โทรออก

o แพ็คเกจเสริม ราคา 399 บาท รับชั่วโมงการใช้งาน Netboom 80 ชั่วโมง, internet data 5GB และสามารถใช้งานแอปพลิเคชัน Netboom ได้โดยไม่เสียค่าดาต้า เป็นระยะเวลา 30 วัน พร้อมให้บริการตั้งแต่ วันที่ 1 ก.ค. 2564 เป็นต้นไป

ทั้งนี้ ผู้สนใจสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมและข่าวสารของ True 5G Cloud Gaming by Netboom ได้ที่เว็บไซต์ http://5g.truemoveh.com/th/cloudgame

 

TCMC ปิดไตรมาส 1/64 สุดปัง กวาดรายได้แตะ 1.8 พันล้านบาท

บริษัท ทีซีเอ็ม คอร์ปอเรชั่น จำกัด มหาชน (TCM Corporation Plc.) หรือ TCMC เผยผลประกอบการไตรมาสแรกของปี (1/2564) เริ่มส่งสัญญานฟื้นตัว กวาดรายได้แตะ 1.8 พันล้านบาท จากยอดขายเพิ่มจากกลุ่มธุรกิจออโตโมทีฟและลีฟวิ่ง พร้อมประกาศความสำเร็จปิดดีลซื้อกิจการค้าปลีกเฟอร์นิเจอร์ในประเทศอังกฤษ ‘Arlo & Jacob’ เพื่อเพิ่มศักยภาพการเข้าถึงกลุ่มลูกคาผู้บริโภคโดยตรง (B2C) เร่งเครื่องพัฒนาผลิตภัณฑ์และขยายตลาดเข้าสู่กลุ่มลูกค้าใหม่ รองรับการเติบโตหลังโควิด-19

นางสาว ปิยพร พรรณเชษฐ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีซีเอ็ม คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TCMC เปิดเผยว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานของกลุ่มบริษัทในไตรมาสแรกของปี 2564 กลุ่มบริษัทมีรายได้จากการขายและบริการ จำนวน 1,838.69 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้ 1,630.39 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 12.78 และมีผลประกอบการขาดทุนสุทธิ 15.29 ล้านบาท ทำได้ดีกว่างวดเดียวกันของปีก่อนที่มีผลขาดทุนสุทธิ 26.47 ล้านบาท เป็นผลจากการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการต้นทุนและค่าใช้จ่ายเพื่อลดผลกระทบจากโควิด-19

“สำหรับผลการดำเนินงานในไตรมาส 1 ปี 2564 โรคระบาดโควิด-19 ยังคงมีผลกระทบต่อกิจการของบริษัท โดยเฉพาะในกลุ่มวัสดุปูพื้น จากการที่ลูกค้าหลักของเราอยู่ในภาคการท่องเที่ยวและบริการ (hospitality) ได้แก่ โรงแรม คาสิโน โรงภาพยนตร์ สถานบันเทิง ศูนย์ประชุม ซึ่งยังคงได้รับผลกระทบต่อเนื่องจากโควิด-19 และอาจยังไม่ฟื้นตัวได้ในเร็ววันนี้ แต่อย่างไรก็ตาม กลุ่มธุรกิจพรมและผ้าหุ้มเบาะรถยนต์ เริ่มมีทิศทางดีขึ้น ตามแนวโน้มอุตสาหกรรมรถยนต์ที่มีการฟื้นตัวอย่างชัดเจนตั้งแต่ไตรมาสสุดท้ายของปีที่แล้ว และในส่วนของกลุ่มธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ที่ยังคงมีคำสั่งซื้อเข้ามาอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการที่เราได้ปรับกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจ ให้มีศักยภาพในการแข่งขันสูงขึ้นในทุก ๆ ด้าน และการประสานความร่วมมือระหว่างกลุ่มธุรกิจ ทำให้มั่นใจได้ว่าเมื่อสถานการณ์กลับเข้าสู่ภาวะปกติ เราจะมีความพร้อมและกลับมาอย่างแข็งแกร่งยิ่งขึ้น” นางสาวปิยพร กล่าว

ประสบความสำเร็จเข้าซื้อกิจการต่อเนื่อง กลุ่มลีฟวิ่งยังคงเติบโตแข็งแกร่ง
ทั้งนี้ นอกจากการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการแล้ว ในแง่กลยุทธ์เรายังได้ขยายฐานการผลิตและช่องทางการจัดจำหน่ายอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ช่วงปลายปีก่อน บริษัทได้เข้าซื้อโรงงานผลิตเฟอร์นิเจอร์ที่ได้ปิดตัวลงเนื่องจากได้รับผลกระทบจากโควิด ซึ่งได้มาช่วยเพิ่มกำลังการผลิตในช่วงที่ปริมาณคำสั่งซื้อที่เข้ามามากเป็นประวัติการณ์ และในปีนี้เราได้เข้าซื้อกิจการแบรนด์เฟอร์นิเจอร์สัญชาติอังกฤษ Arlo & Jacob ซึ่งมีโชว์รูมเฟอร์นิเจอร์ 5 แห่งอยู่ในทำเลที่โด่ดเด่นทั่วประเทศอังกฤษ การเข้าซื้อครั้งนี้จะทำให้เรามีช่องทางในการเข้าถึงลูกค้ากลุ่มผู้บริโภคโดยตรง (B2C) ซึ่งจะทำให้เราเข้าใจลูกค้าได้มากขึ้น และนำข้อมูลที่ได้มาปรับปรุงผลิตภัณฑ์ให้ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้ และนอกจากร้านค้าปลีก Arlo & Jacob ยังมีช่องทางการขายแบบออนไลน์ ซึ่งจะเป็นการปรับรูปแบบธุรกิจเข้าสู่กระแสความนิยมในปัจจุบัน และส่งเสริมกลยุทธ์ของธุรกิจที่มีอยู่ให้เติบโตอย่างแข็งแกร่งในทุกมิติ

โดยในไตรมาส 1/2564 กลุ่มธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ (TCM Living) มีรายได้สูงขึ้นร้อยละ 37.23 เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากยังมีความต้องการซื้อต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา แม้ในช่วงสิ้นปี 2563 ประเทศอังกฤษได้เกิดการระบาดของโควิด-19 อีกระลอก ทำให้รัฐบาลอังกฤษประกาศใช้มาตรการบังคับให้กิจการค้าปลีกที่ไม่ใช่ธุรกิจจำเป็นต้องหยุดกิจการจนถึงสิ้นไตรมาสแรก และเพิ่งให้เปิดทำการในวันที่ 12 เมษายน 2564 ซึ่งหลังจากนั้นก็ได้รับผลตอบรับที่ดีจากลูกค้าที่เป็นจ้าของร้านค้าปลีกต่างๆ และแม้ในช่วงที่ล็อคดาวน์ ก็ยังมีคำสั่งซื้อผ่านมาจากช่องทางออนไลน์ และยังคงมีคำสั่งซื้อเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ทำให้เมื่อสิ้นไตรมาสที่ 1 กลุ่มธุรกิจยังคงสามารถทำยอดขายได้ 1,311.62 ล้านบาท สูงขึ้นกว่างวดเดียวกันของปีก่อนถึง 37.23% แต่เนื่องจากกลุ่มธุรกิจยังคงประสบปัญหาเรื่องการขาดแคลนโฟม ซึ่งเป็นวัตถุดิบหลัก ทำให้มีต้นทุนสูงขึ้น เและการขนส่งระหว่างประเทศที่ยังคงเป็นปัญหามาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ยังไม่สามารถควบคุมการบริหารต้นทุนได้ดีนัก อย่างไรก็ตามกลุ่มธุรกิจมีการเพิ่มประสิทธิภาพการควบคุมต้นทุนและค่าใช้จ่าย รวมถึงการได้รับเงินช่วยเหลือจากรัฐบาลอังกฤษ ทำให้ค่าใช้จ่ายบริหารลดลงร้อยละ 35.01 เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ส่งผลให้หลังจากหักค่าใช้จ่ายส่วนกลาง ต้นทุนทางการเงิน ค่าภาษีและส่วนต่างของอัตราแลกเปลี่ยน ทำให้กลุ่มธุรกิจเฟอร์นิเจอร์มีผลกำไรสุทธิ 7.27 ล้านบาท

ปัจจุบัน กลุ่มทีซีเอ็ม ลีฟวิ่ง มีแบรนด์เฟอร์นิเจอร์ในเครือ ได้แก่ Alstons, Ashley Manor, AMX Design, Alexander & James และ Arlo & Jacob ซึ่งบริษัทมีความเชื่อมั่นว่าทั้ง 5 แบรนด์ จะสามารถตอบสนองความต้องการซื้อเฟอร์นิเจอร์ของลูกค้าในประเทศอังกฤษที่สูงขึ้นมาก จากการต้องใช้ชีวิตส่วนใหญ่อยู่ในบ้าน และมีแนวโน้มการขยับขยายที่พักอาศัยจากในเมืองสู่นอกเมืองมากขึ้น ทำให้ยังคงมีความต้องการซื้อเฟอร์นิเจอร์ใหม่อยู่อย่างต่อเนื่อง โดยในอนาคตบริษัทมีแผนการขยายตลาดให้กว้างออกไปอีก ให้ครอบคลุมทั้งทวีปยุโรปและอเมริกา ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีศักยภาพและมีกำลังซื้อสูง

เร่งเครื่องปรับการบริหารจัดการต้นทุนกลุ่มธุรกิจฟลอร์ริ่ง กลุ่มออโตโมทีฟ ปรับปรุงเครื่องจักร ทำ lean organization เพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตและการตอบสนองลูกค้าให้รวดเร็วยิ่งขึ้น พร้อมรับออเดอร์หลังโควิด ในส่วนของกลุ่มวัสดุปูพื้น (TCM Flooring) กลุ่มธุรกิจนี้ได้รับผลกระทบโดยตรงจากการหยุดชะงักของอุตสาหกรรมบริการและธุรกิจท่องเที่ยว ทำให้มีรายได้จากการขายและบริการ 304.64 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อน คิดเป็นร้อยละ 34.65 เนื่องจากการระบาดของโรคโควิด-19 ยังคงส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยวและการเดินทางทั่วโลก ถึงแม้จะมีทิศทางเศรษฐกิจดีขึ้นจากการกระจายวัคซีนได้อย่างกว้างขวางในแถบทวีปยุโรปและอเมริกา แต่ผู้ประกอบการยังคงออมเงินเพื่อใช้หมุนเวียนในกิจการ จึงยังไม่เห็นการลงทุนในด้านการตกแต่ง แต่จากการที่กลุ่มธุรกิจสามารถควบคุมต้นทุนให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และยังสามารถลดค่าใช้จ่ายในการขายและการบริหารจากการปรับโครงสร้างองค์กรใหม่ ทำให้กลุ่มธุรกิจมีผลขาดทุนสุทธิ 49.28 ล้านบาท ถือว่าสามารถปรับตัวได้ดีขึ้นกว่างวดเดียวกันของปีก่อนคิดเป็นร้อยละ 24.31

เพื่อเป็นการกระตุ้นรายได้ บริษัทได้เร่งพัฒนาผลิตภัณฑ์และขยายตลาดเข้าสู่กลุ่มลูกค้าในส่วนของที่อยู่อาศัย (Residential) ที่ยังมีกำลังซื้อให้มากขึ้น ซึ่ง ณ ปัจจุบัน สถานการณ์ในตลาดต่างประเทศเริ่มคลี่คลาย ธุรกิจท่องเที่ยวมีทิศทางที่ดีขึ้น และมีการติดต่อจากลูกค้าต่างประเทศเข้ามามากขึ้น บริษัทจึงมุ่งเน้นการเติบโตของรายได้จากลูกค้าในตลาดที่เริ่มมีการฟื้นตัวของเศรษฐกิจแล้ว ได้แก่ ตลาดอเมริกา ยุโรป โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กลุ่มพรมลักช์ชัวรี่ เช่น พรมในร้านแบรนด์เนม พรมบนเครื่องบินส่วนตัว เป็นต้น

สำหรับกลุ่มธุรกิจพรมและผ้าหุ้มเบาะรถยนต์ (TCM Automotive) มีรายได้จากการขายและบริการที่ 222.43 ล้านบาท สูงขึ้นกว่างวดเดียวกันของปีก่อน ที่ทำได้ 208.49 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 6.69 ซึ่งเป็นผลต่อเนื่องจากการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมรถยนต์ในช่วงปลายปี 2563 ทั้งยังมีค่าใช้จ่ายการขายและบริหารโดยรวมลดลงจากความพยายามเพิ่มประสิทธิภาพในทุกด้าน และจำกัดงบประมาณต่างๆ ทำให้สิ้นไตรมาส 1 กลุ่มธุรกิจนี้มีผลกำไรสุทธิ 26.72 ล้านบาท สูงขึ้นกว่างวดเดียวกันของปีก่อนคิดเป็นร้อยละ 75.21 โดยแนวโน้มของอุตสาหกรรมรถยนต์มีแนวโน้มดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์หุ้มบุในรถยนต์ให้ตอบสนองกับกระแสความนิยมรถยนต์พลังงานไฟฟ้ามากขึ้น อย่างไรก็ตามยังคงต้องจับตาดูสถานการณ์โควิดในประเทศไทย ที่กลับมาระบาดอีกระลอก ซึ่งอาจจะส่งผลให้อุตสาหกรรมรถยนต์ในประเทศต้องชะลอตัวอีกครั้ง

ทั้งนี้ ในไตรมาส 1/2564 สัดส่วนรายได้ของบริษัทจากแต่ละกลุ่มธุรกิจมีการเปลี่ยนแปลง โดยรายได้จากการขายและบริการของ กลุ่มธุรกิจ ทีซีเอ็ม ลีฟวิ่ง ได้เติบโตขึ้นมาอย่างมีนัยสำคัญทำให้กลายเป็นรายได้หลัก คิดเป็นร้อยละ 71.33 โดยเพิ่มขึ้นร้อยละ 12.71 กลุ่มธุรกิจ ทีซีเอ็ม ฟลอร์ริ่ง มีสัดส่วนรายได้จากการขายและบริการเป็นลำดับที่สอง อยู่ที่ร้อยละ 16.57 ลดลงร้อยละ 12.02 จากงวดเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากไตรมาสที่ 1 เป็นช่วงโลว์ซีซั่นของธุรกิจ รวมถึงการได้รับผลกระทบต่อเนื่องจากโควิด-19 ในขณะที่ กลุ่มธุรกิจ ทีซีเอ็ม ออโตโมทีฟ มีสัดส่วนคิดเป็นร้อยละ 12.10 ใกล้เคียงกับงวดเดียวกันของปีก่อน ซึ่งการเติบโตของกลุ่มอุตสาหกรรมรถยนต์มีปัจจัยหลักที่ต้องติดตาม ได้แก่ สถานการณ์โรคระบาดในประเทศไทยและนโยบายภาครัฐในการสนับสนุนอุตสาหกรรมและกระตุ้นเศรษฐกิจ

ในส่วนของทั้งปี 2564 นี้ บริษัทมองว่าเศรษฐกิจในประเทศอาจจะยังไม่ฟื้นตัวมากนัก แต่สำหรับต่างประเทศ ตลาดมีทิศทางที่ดีขึ้น ซึ่งเราเองก็ได้ทำการปรับองค์กรให้มีลักษณะลีนขึ้น ยืดหยุ่นขึ้น เพื่อให้พร้อมรับกับความเปลี่ยนแปลงใดๆ ที่อาจจะเกิดขึ้น มีการนำระบบเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาใช้ ในขณะเดียวกัน ในแง่ของกลยุทธ์เราก็แสวงหาโอกาสในการเข้าซื้อธุรกิจใหม่ที่จะช่วยเสริมธุรกิจที่มีอยู่เดิม รวมถึงการขยายตลาดเข้าสู่กลุ่มลูกค้าใหม่ เพื่อปิดโอกาสการเกิดความเสี่ยงหรือลดผลกระทบจากความเสี่ยงให้มากที่สุดเท่าที่ทำได้ โควิด-19 จึงเป็นบทเรียนที่ทำให้เราได้กลับมาทบทวนตัวเองและพัฒนาปรับปรุงตั้งแต่นโยบายจนถึงการปฏิบัติ เพื่อให้บริษัทสามารถเติบโตได้อย่างมั่นคง แข็งแกร่งในระยะยาว

 

วิเคราะห์อย่างไรให้เข้าใจ Insight ลูกค้า

ในปัจจุบัน ปฎิเสธไม่ได้ว่าผู้ประกอบการไม่ว่าจะมีธุรกิจขนาดเล็กหรือใหญ่ ต่างต้องการ DATA มากกว่ายอดขายเสียอีก เพราะการได้ครอบครองข้อมูลจำนวนมาก นำมาซึ่ง Insight หรือมุมมองของลูกค้าที่มีต่อผลิตภัณฑ์และแบรนด์ ที่สามารถนำมาต่อยอดสู่แผนการตลาดที่มีประสิทธิภาพ สร้างสรรค์สินค้าและบริการให้โดนใจ ตรงกับกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น ยิ่งไปกว่านั้น หากผู้ประกอบการเริ่มต้นอย่างถูกวิธี มีรูปแบบการได้มาของข้อมูลหรือ DATA ที่ดี ตลอดจนวิธีการวิเคราะห์ข้อมูลที่แม่นยำ ก็อาจพลิกเกมธุรกิจ เปลี่ยนกลยุทธ์ ปรับทิศทางการตลาดให้ธุรกิจอยู่รอดและไปต่อได้ไกลเลยทีเดียว

Insight ไม่ใช่ Instinct ข้อมูลลูกค้าที่ดีไม่ควรมีแค่การคาดเดา

หากย้อนกลับไปคำว่า DATA อาจดูเป็นเรื่องไกลตัว และเป็นข้อจำกัดของธุรกิจขนาดเล็กหรือเอสเอ็มอีไทยเมื่อเทียบกับองค์กรขนาดใหญ่ที่มีเครื่องมือวิเคราะห์ DATA ครบครัน และมีการลงทุนทำ DATA มานานแล้ว ด้วยศักยภาพของข้อมูลแบบเจาะลึก ทั้งรายละเอียดการขายและ Insight ลูกค้าที่แตกต่างกัน ทำให้สามารถวางกลยุทธ์ได้อย่างแม่นยำ ในขณะที่ร้านค้าขนาดกลางและเล็ก มักจะเลือกใช้การคาดเดาและดึงข้อมูลจากประสบการณ์ที่ผ่านมาของตัวเองเป็นหลัก บวกกับสัญชาตญาณหรือ Instinct ในการประเมินและสรุปภาพรวมธุรกิจจากที่ตนเองเข้ามาสำรวจตรวจงานในสาขาเพียงไม่กี่นาทีมาเป็นตัวตัดสินใจแทนเสียส่วนใหญ่

หนุ่ย-ณัฐพล ม่วงคำ เจ้าของเพจการตลาดวันละตอน

ด้วยเพราะ DATA มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจมากมายในการทำธุรกิจในปัจจุบัน รายการ SME Biz Talk ซีซั่น 2 จัดขึ้นโดย LINE for Business ที่มุ่งเน้นให้ความรู้เสริมทักษะผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทยในการวางกลยุทธ์ธุรกิจเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน จึงนำเอาประเด็นนี้มาเป็นหัวข้อสำคัญในการพูดคุยอย่างเข้มข้นในช่วง Share Talk กับที่ปรึกษาการตลาดผู้คร่ำหวอดในวงการอย่าง หนุ่ย-ณัฐพล ม่วงคำ เจ้าของเพจการตลาดวันละตอน ซึ่งช่วยจุดประกายไอเดียให้กับเจ้าของธุรกิจ และยังได้รู้จักเครื่องมือที่จะนำไปประยุกต์ใช้กับธุรกิจของตัวเองได้อีกด้วย

DATA หาได้ง่ายหากใช้เครื่องมือดิจิทัลให้เป็น

หนุ่ย-ณัฐพล เผยว่าวิธีคาดเดาจากประสบการณ์ไม่ใช่เรื่องผิด เพราะต้องยอมรับว่าสมัยก่อนเทคโนโลยีในการเก็บข้อมูลหรือเทคโนโลยี DATA มีจำกัด เครื่องมือที่ใช้อาจมีไม่มากพอ ทั้งยังมีราคาแพง ใช้งานยาก แต่ทุกวันนี้จุดเริ่มต้นในการเปิดธุรกิจง่าย ไม่จำเป็นต้องมีหน้าร้านก็สามารถขายออนไลน์ได้ และการเข้าถึง DATA ก็ทำได้ง่าย ลงทุนต่ำ ไม่จำเป็นต้องเขียน Code เป็น ก็สามารถใช้ข้อมูลมาทำธุรกิจได้ด้วยเครื่องมือดิจิทัลที่อยู่ในมือทุกคน ทำให้ผู้ประกอบเริ่มหันมาสนใจและอาศัย DATA เข้ามาช่วยตัดสินใจได้ดีขึ้น แม่นยำ และมองเห็นถึงปัญหาที่แท้จริง ใช้การคาดเดาน้อยลง เห็นทั้งปัญหาที่ไม่เคยรู้และโอกาสที่ไม่เคยเห็นมาก่อน ซึ่งตอนนี้ DATA เป็นตัวช่วยที่สำคัญในการตัดสินใจได้มากที่สุดของผู้ประกอบการไปแล้ว

ถึงแม้ DATA จะอยู่ใกล้ตัวและมีข้อดีมากมาย แต่สิ่งที่ยากกว่าคือวิธีการเข้าถึงข้อมูลเพื่อหา Insight ให้ได้ ซึ่งเจ้าของเพจการตลาดวันละตอน กล่าวว่า ทุกคนมีข้อมูลอยู่รอบตัว แต่อาจไม่เคยรู้หรือสังเกต ไม่ว่าจะเป็น Sale Data หรือ Transaction Data แม้กระทั่งการทัก Chat ของลูกค้า ก็นับเป็น DATA หรือข้อมูลชั้นดี ซึ่งข้อมูลธุรกรรม ข้อมูลการแชทกับลูกค้าที่มีอยู่แล้ว หรือเรียกรวมได้ว่าข้อมูล “พฤติกรรมการซื้อ” นั้น คือสิ่งที่ผู้ประกอบการต้องนำมาวิเคราะห์ให้ขาดต่อไป

โดย หนุ่ย ได้ยกตัวอย่างธุรกิจที่ตนได้เคยร่วมให้คำแนะนำ เช่น ร้านกาแฟ ที่เมื่อดูข้อมูลจากเครื่องบันทึกการขาย พบว่ายอดขายส่วนใหญ่มาจากขนมไทยและเมนูอื่นที่ไม่ใช่กาแฟเป็นหลัก เจ้าของร้านจึงเร่งปรับวิธีสื่อสารใหม่หลังจากการเห็น Insight นี้เพื่อตอบสนองลูกค้าให้ตรงจุด หรือร้านขายเสื้อผ้าเด็กอ่อนที่มียอดขายเติบโตขึ้นเป็นขั้นบันไดภายใน 2 เดือน เมื่อวิเคราะห์จากข้อมูลพฤติกรรมการซื้อพบว่าส่วนใหญ่มาจากการเปิดให้ซื้อเป็นรอบๆ ทำให้เกิดการซื้อซ้ำง่ายกว่าการขายแบบปกติ รวมถึงการวางจำหน่ายสินค้าให้เป็นการซื้อตามช่วงวัยของลูกที่โตขึ้น ยังส่งผลทำให้เกิดการซื้อต่อเนื่อง เหล่านี้ยิ่งสะท้อนชัดว่าการเข้าถึงรูปแบบการเก็บข้อมูลที่ดี สามารถทำให้เห็นสิ่งที่ลูกค้าต้องการเด่นชัดขึ้น

สำหรับวิธีเก็บข้อมูลนั้น หนุ่ย กล่าวว่าธุรกิจเอสเอ็มอีควรลองสังเกตจากการเก็บข้อมูลลูกค้าใกล้ตัว อาจเลือกวิธีการเก็บข้อมูลผ่านแพลตฟอร์มหรือเครื่องมือดิจิทัลต่างๆ อย่างเช่น MyShop ที่ระบบจะทำหน้าที่เก็บข้อมูลต่างๆ เป็น DATA ที่มีโครงสร้างสำเร็จรูปไว้อยู่แล้ว เช่น วันเวลาที่ขาย สินค้าอะไร คนทัก Chat เป็นใคร ที่อยู่ในการส่ง จำนวนสั่งซื้อเท่าไร ทำให้ผู้ประกอบการสามารถนำมาวิเคราะห์ต่อได้ทันที

อีกวิธีหนึ่งคือการนำ Chat มาเป็น DATA ซึ่งอาจไม่มีฟอร์แมทสำเร็จรูปเหมือนกรณี MyShop แต่สามารถใช้ได้เช่นเดียวกัน เพียงนำข้อมูลมาบันทึกใหม่ ทำให้พร้อมใช้ เพื่อนำไปวิเคราะห์ต่อ หรือแม้กระทั่งการใช้ Survey ของ LINE Official Account หรือการสอบถามจากลูกค้า เพื่อช่วยในการเก็บข้อมูล แล้วนำมาวิเคราะห์ต่อว่าสิ่งที่ร้านพยายามนำเสนอนั้น ลูกค้าชอบแบบไหนมากกว่ากัน เป็นต้น ซึ่งวิธีนี้เป็นบทพิสูจน์ที่ชัดเจนว่าเอสเอ็มอีไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องมือที่ยุ่งยาก หากขายผ่าน LINE อยู่แล้วก็สามารถเก็บข้อมูลที่ LINE ได้เลย ซึ่งฟีเจอร์ เครื่องมือต่างๆ ถูกดีไซน์เพื่อการเก็บ DATA ชั้นดีอยู่แล้ว เพียงแต่ต้องคิดก่อนว่าอยากรู้ข้อมูลแบบไหน และจะเก็บ DATA อะไร แล้ว DATA นั้นจะมาช่วยธุรกิจให้ดีขึ้นได้อย่างไร

หนุ่ย-ณัฐพล ม่วงคำ เจ้าของเพจการตลาดวันละตอน

แปลง DATA ให้เป็นสถิติ วิเคราะห์เทรนด์ลูกค้า

ส่วนวิธีการวิเคราะห์ข้อมูลนั้น หนุ่ย-ณัฐพล เปิดเผยว่าไม่ใช่เรื่องซับซ้อน แต่ผู้ประกอบการต้องรู้จักเปลี่ยน DATA ที่เป็นตัวเลขหรือตัวหนังสือให้เป็นภาพที่พร้อมอ่านได้ง่ายๆ เช่น ตัวเลขยอดขาย อาจนำมาแยกเป็นวัน เพื่อดูว่ามีความผิดปกติในข้อมูลหรือสัญญาณบางอย่าง (Signal) แล้วหมั่นตั้งข้อสังเกตว่าอะไรเกิดขึ้น เช่น วันนี้ขายดีมากกว่าปกติ และการสังเกตข้อมูลที่เป็น Seasonal หรือพฤติกรรมซ้ำๆ เป็นต้น การนำข้อมูลมาทำเป็นภาพหรือกราฟแผนภูมิ จะทำให้เห็นภาพรวมในหลายมิติชัดขึ้น ช่วยสะท้อนสิ่งที่ผู้ประกอบการยังไม่รู้ เพื่อนำไปสู่ทางแก้ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ตรงจุด อีกทั้งยังมีวิธีการตั้งคำถาม ที่ต้องอาศัยการฝึกใช้เครื่องมือและตั้งคำถามถึงพฤติกรรมลูกค้า ก็จะสามารถแยกประเภทลูกค้า และเห็นคำตอบอื่นๆ ที่ต้องการ

“ทั้งการแปลงให้เป็นภาพ และการตั้งคำถามเป็นการเก็บข้อมูลที่อยู่ภายใต้ DATA Thinking Framework ซึ่งต้องมีปัจจัยในการคิด คือ What เราอยากรู้อะไรและเราจำเป็นต้องรู้อะไร จากนั้นก็มาสู่ How เราจะรู้ได้อย่างไร ข้อมูลถูกเก็บไว้ที่ไหน แล้วค่อยมาคิด Why ทำไมถึงเป็นแบบนั้น ที่มาที่ไปของข้อมูลคืออะไร และสุดท้ายก็คือ How เมื่อเรารู้แล้วเราจะทำอย่างไรต่อ อาจเป็นการเปลี่ยนเล็กน้อยเพื่อเพิ่มยอดขาย ต่อยอดแคมเปญ หรือทำโปรโมชั่น เช่นหากร้านกาแฟขายขนมได้มากกว่า ก็อาจเพิ่มสัดส่วนของขนมให้มากขึ้น ซึ่งมันเรียบง่ายไม่ซับซ้อน แต่ต้องใช้การฝึกฝน อดทน และเวลา”

และเพื่อให้เห็นชัดเจนว่า DATA คือผู้ทรงอิทธิพลในโลกธุรกิจจริงๆ คุณหนุ่ยได้ยกกรณีศึกษา ธุรกิจดอกไม้สดกระจายทั่วกรุงเทพ พบว่ามีสองสาขาที่ยอดขายใกล้เคียงกันแต่ลักษณะสินค้าขายดีต่างกัน จึงเกิดคำถามว่า ยอดขายมาจากอะไร? สินค้าแบบไหน? พอทำให้เป็นภาพก็เข้าใจบริบทมากขึ้น ซึ่งสาขาชิดลม ดอกไม้ไทยที่ใช้ไหว้สักการะขายดี ส่วนสาขาทองหล่อ มักเป็นดอกไม้ต่างชาติที่นำไปประดับบ้าน ซึ่งข้อมูลนั้นมาจากการสอบถามลูกค้าจนรู้พฤติกรรมที่แท้จริง ทำให้เจ้าของร้านดอกไม้สามารถวางกลยุทธ์ ส่งโปรโมชั่นแยกแต่ละสาขาได้ง่ายขึ้น อาจจะเพิ่มดอกไม้มงคล เทียนหอมสำหรับชิดลม ขณะที่สาขาทองหล่อ อาจจะเพิ่มขายของตกแต่งบ้านเพิ่มเติมได้ เพื่อเป็นสีสันมากขึ้น

หรืออีกกรณีศึกษา ร้านค้าขายคาร์ซีทออนไลน์ ที่ต้องการเก็บ DATA สินค้าขายดีแต่ละจังหวัด ทำให้เข้าใจลูกค้าว่าเลือกซื้อสินค้าที่มีคุณสมบัติตามสภาพอากาศของตน ซึ่งภาคเหนือและกรุงเทพจะเลือกเนื้อผ้ามันๆ เพราะอากาศเย็นสบายและอยู่ในห้องแอร์เป็นส่วนใหญ่ ส่วนภาคอื่นๆ จะเลือกเนื้อผ้าระบายอากาศได้ดีมากกว่า นั่นจึงเป็นที่มาให้ร้านค้าแห่งนี้เลือกที่จะขยายโปรดักส์ตามสภาพอากาศที่แตกต่างกัน

เหล่านี้ช่วยตอกย้ำชัดว่า DATA เป็นเรื่องสำคัญต่อการทำธุรกิจ ทุกคนต้องรู้จริงและใช้ให้เป็น เพื่อจะนำไปใช้ต่อยอดธุรกิจให้ได้มากที่สุดนั่นเอง สำหรับผู้ที่สนใจ ติดตามชมรายการ SME Biz Talk ซีซั่น 2 ย้อนหลังทั้ง 2 ตอนได้ที่ LINE TV ช่อง LINE for Business และเตรียมรับชมรายการ SME Biz Talk ซีซั่น 2 ตอนที่ 3 ในหัวข้อ “ทำคอนเทนต์ยังไงให้ยอดขายพุ่ง” ได้ในวันพุธที่ 9 มิถุนายน 2564 เวลา 20.00 น. เป็นต้นไป เอสเอ็มอีไทยต้องไม่พลาด!

เปิดตัวสติกเกอร์ชุดพิเศษ “มาร่วมเป็นวัคซีนฮีโร่กันเถอะ” ดาวน์โหลดฟรี

LINE ประเทศไทย ร่วมกับสติกเกอร์ครีเอเตอร์แถวหน้า และ หมอพร้อม Official Account เปิดตัวสติกเกอร์ชุดพิเศษ “มาร่วมเป็นวัคซีนฮีโร่กันเถอะ” เพื่อรณรงค์ชวนคนไทยฉีดวัคซีนต้านโควิด 19 ด้วยประโยคง่ายๆ แฝงความน่ารักผ่านคาแรคเตอร์ยอดนิยมของไทย เพียงเพิ่มเพื่อนกับ หมอพร้อม Official Account และดาวน์โหลดสติกเกอร์ได้แล้ววันนี้ ใช้งานได้ฟรี 90 วัน

สติกเกอร์ชุดพิเศษ “มาร่วมเป็นวัคซีนฮีโร่กันเถอะ” ประกอบด้วยสติกเกอร์ 8 คาแรคเตอร์โดย 4 ครีเอเตอร์ชื่อดังในสังกัด LINE CREATORS Licensing Business ร่วมสร้างสรรค์ ได้แก่

· N9 ครีเอเตอร์ที่ได้รับรางวัล Super Star ลักษณะเด่นของคาแรคเตอร์จะมีความกวน ซน เข้าถึงเทรนด์ต่าง ๆ อยู่ตลอดเวลา โดยส่งคาแรคเตอร์ หมีหงุดหงิด และ จิ๊บ จิ๊บ มาร่วมสื่อสารในสติกเกอร์ชุดพิเศษนี้

· Tora jung ครีเอเตอร์ เจ้าของคาแรคเตอร์หมีนุ่ม ต่ายนิ่ม เป็นสติกเกอร์ที่ได้รับความนิยมตลอดกาลตั้งแต่ปี 2016 สำหรับคู่รักที่ชอบแสดงความรักต่อกันในมุมคิวท์ ๆ โดยในสติกเกอร์ชุดพิเศษนี้ หมีนุ่ม ต่ายนิ่ม ก็เข้ามาร่วมสื่อสารด้วยประโยคฮิต “ไปฉีดวัคซีนกัน”

· moonlight ครีเอเตอร์เจ้าของคาแรคเตอร์ ชิบุง สุนัขพันธ์ชิบะอินุ นิสัยขี้เล่น ซุกซน ด้วยความน่ารัก สดใส ของคาแรคเตอร์ จึงได้รับความนิยมมากทำให้ได้รับคัดเลือกเป็นครีเอเตอร์ดาวรุ่งในปี 2018 โดยในสติกเกอร์ชุดพิเศษนี้ ชิบุง ได้มาอวดความสดใสด้วยการอวดความมั่นใจว่าได้ “ฉีดวัคซีนแล้วจ้า”

· Isree Wannawittayapa ครีเอเตอร์เจ้าของคาแรคเตอร์ Pudding Hamster หนูแฮมสเตอร์โรโบรอฟสกี เป็นหนูแฮมตัวน้อย ๆ อ้วน ๆที่มีนิสัยกวน ๆ ขี้เล่น ขี้อ้อน แลดูน่ารัก เป็นที่รักของแฟนสติกเกอร์ชาวไทย โดยร่วมรณรงค์ให้คำแนะนำในสติกเกอร์ชุดพิเศษด้วยคำแนะนำแสนอบอุ่น “พักผ่อนเยอะๆ นะ”

ขอเชิญเพิ่มเพื่อนกับ หมอพร้อม Official Account เพื่อติดตามอาการไม่พึงประสงค์หลังการฉีดวัคซีนแต่ละเข็ม (AEFI) ในระยะ 1 วัน 7 วัน และ 30 วัน และรับหนังสือรับรองการฉีดวัคซีนเมื่อครบโดส (Vaccination Certificate) พร้อมรับสติกเกอร์ชุดพิเศษ “มาร่วมเป็นวัคซีนฮีโร่กันเถอะ” ฟรี ตั้งแต่วันนี้ ถึง 7 กรกฎาคมนี้ ที่ https://line.me/S/sticker/23708