โอกาสในวิกฤต ของโชห่วยไทย ร่วมฝ่าโควิด-19

หลังจาก แม็คโคร และกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ จับมือกันสนับสนุน สำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ (สทบ.) เดินหน้ามอบชุดสินค้าอุปโภคบริโภคภายใต้ โครงการ ซื้อง่าย ถูกใจ ใกล้ชุมชน ให้แก่ร้านค้าในสังกัดกองทุนหมู่บ้านอย่างต่อเนื่อง เสียงสะท้อนของ “โอกาสในวิกฤต” ก็ดังขึ้นจากร้านค้าเล็กๆ ในชุมชนหลายแห่ง

เช่นเดียวกับ “ร้านค้าประชารัฐ กองทุนหมู่บ้านชุมชนเมือง ชุมชนพรหมสัมฤทธิ์” ย่านดอนเมือง ที่มี “อดิเรก สังข์นุช” เป็นประธาน ร้านนี้เป็นหนึ่งใน 3,500 ร้านค้าในสังกัดกองทุนหมู่บ้าน ที่ได้รับชุดสินค้าอุปโภคบริโภค สินค้าขายดีสำหรับร้านโชห่วยฟรี 23 รายการไปต่อยอดให้ร้านค้าเล็กๆในชุมชนได้มีกำลังใจต่อสู้กับวิกฤตโควิด-19

“ร้านของเราเป็นร้านค้าเล็กๆ มีสมาชิกเป็นคนในชุมชน พอได้รับสินค้าจากโครงการมาต่อยอดในสถานการณ์เช่นนี้ ก็รู้สึกเลยว่า ยังมีโอกาส เข้ามาช่วยร้านค้าและสมาชิก ทำให้มีสินค้าหมุนเวียน มีรายได้เพิ่มขึ้นเพื่อต่อยอดรายได้ให้ร้านค้าดำเนินต่อไปได้

รายการสินค้าที่ได้รับจำนวน 23 รายการจะเป็น คัดเลือกมาจากการวิเคราะห์ฐานข้อมูลเชิงลึกของแม็คโครที่มีลูกค้าโชห่วยเป็นสมาชิกมากกว่า 500,000 ราย  อาทิ นม กาแฟสำเร็จรูป นมถั่วเหลืองกล่อง ขนมขบเคี้ยว แชมพู สบู่ ผ้าอนามัย

นับเป็นโอกาสที่เกิดขึ้นในช่วงวิกฤตที่โชห่วยรูปแบบร้านค้ากองทุนได้รับ ซึ่ง “อดิเรก” มองว่าในช่วงโควิด ต้องประคับประคองร้านให้อยู่รอดปลอดภัยให้ได้ โชคดีที่ร้านของเขาเป็นร้านค้าประชารัฐ รับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ รับคนละครึ่งและเป็นร้านค้าในชุมชน เมื่ออาศัยหลักพึ่งพาอาศัยกัน มีความเชื่อใจกันและกันก็ทำให้พออยู่ได้

ผู้คนตอนนี้เน้นใช้ชีวิตอยู่บ้าน ไม่อยากเดินทางไปไหน เวลาจะซื้อของใช้จำเป็นก็หันมาซื้อร้านใกล้บ้าน โชห่วย ร้านค้าชุมชนอย่างเราแทน มุมหนึ่งผมมองว่า เป็นโอกาสที่เกิดขึ้น แต่เราเองก็ต้องปรับตัว เพราะร้านค้ารายย่อยมีเยอะ เราก็ต้องสร้างความมั่นใจในความปลอดภัยเรื่องโควิด-19 ให้ลูกค้า ก็ต้องมีมาตรการในการป้องกันให้เห็น อย่างร้านเราใช้วีธีลดการสัมผัส เวลาลูกค้ามาซื้อของ ก็ให้เรียกว่าจะเอาอะไร แล้วเราก็ไปหยิบให้”

“โครงการซื้อง่าย ถูกใจ ใกล้ชุมชน” เป็นโครงการที่ แม็คโคร ผนึกกำลังกรมพัฒนาธุรกิจการค้า และสำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ (สทบ.) จัดขึ้น โดย แม็คโคร ได้จัดชุดสินค้าอุปโภค-บริโภคที่จำเป็นต่อการดำรงชีพ จำนวน 23 รายการ รวมมูลค่ากว่า 3.7 ล้านบาท  สมทบให้ฟรี กับร้านค้ากองทุนหมู่บ้าน 3,500แห่ง เพื่อเป็นแหล่งกระจายสินค้าราคาประหยัดสู่ท้องถิ่น ช่วยลดค่าครองชีพให้แก่ประชาชน ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19

“หัวใจสำคัญของร้านโชห่วยก็คือ ต้องมีแหล่งซื้อสินค้าราคาถูก สามารถนำไปต่อยอดได้ ซึ่งโครงการนี้เข้ามาช่วยทำให้เราเดินหน้าต่อได้  ขณะที่แม็คโครก็เป็นแหล่งซื้อสินค้าราคาขายส่งที่ตอบโจทย์ร้านค้าอย่างเราได้มาก” อดิเรก กล่าว

สำหรับร้านค้ากองทุนหมู่บ้านฯ ที่มีความสนใจเข้าร่วมโครงการ “ซื้อง่าย ถูกใจ ใกล้ชุมชน” สามารถตรวจสอบสิทธิ์ได้ที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้า โทร. 02-547-5986 ในเวลาราชการ หรือติดต่อสำนักงานกองทุนหมู่บ้าน ฯ ในพื้นที่ของท่าน และสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่แม็คโครทุกสาขา  

ไม่เพียงเท่านั้น ในทุกเดือน แม็คโครจะจัด มหกรรมสินค้าลดแรงเพื่อผู้ประกอบการ เพื่อสนับสนุนร้านค้ารายย่อยอย่างโชห่วย อย่างต่อเนื่องยาวไปถึงสิ้นปี  ล่าสุดจัดงานวันที่ 14-18กรกฎาคม ณ แม็คโครทุกสาขาทั่วประเทศ พร้อมกันนั้นยังเปิดโอกาสให้โชห่วยที่สนใจปรับปรุงร้านค้า เรียนรู้ระบบการจัดการร้านให้ก้าวทันยุคสมัย หรืออยากมีอาชีพ เปิดร้านค้าเล็ก ๆ สามารถรับคำปรึกษาได้ที่ “ศูนย์มิตรแท้โชห่วย” ในทุกช่องทาง อาทิ https://www.siammakro.co.th/mra.php  หรือ Line@makro-mra ทั้งนี้ก็เพื่อช่วยเหลือและส่งกำลังใจให้ธุรกิจฐานรากอย่างโชห่วยสู้โควิด-19ต่อไป

 

ขอผ่อนชำระค่าไฟฟ้า เตรียมเอกสารอะไรบ้าง? อ่านเลย..

การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) ช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อน ผู้ใช้ไฟฟ้าที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา (COVID-19) โดยผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทบ้านอยู่อาศัย (1.1.1 และ 1.1.2) และประเภทกิจการขนาดเล็ก (2) ที่มีค่าไฟฟ้าค้างชำระมากกว่า 1 เดือน สามารถขอทยอยชำระค่าไฟฟ้าเป็นบางเดือน ได้ที่สำนักงานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคทุกแห่ง และตั้งแต่วันที่ 16 สิงหาคม 2564 เป็นต้นไป สามารถชำระค่าไฟฟ้าบางเดือนผ่าน PEA Smart Plus หรือเคาน์เตอร์เซอร์วิส 7-11

นอกจากนี้ ผู้ใช้ไฟฟ้าทุกประเภท สามารถยื่นความประสงค์ขอผ่อนชำระค่าไฟฟ้าได้ที่สำนักงานการไฟฟ้าในพื้นที่ โดยเตรียมเอกสารประกอบการขอผ่อนชำระดังนี้
1. บัตรประชาชนของผู้ใช้ไฟฟ้าที่ยื่นคำร้องขอผ่อนชำระหรือผู้รับมอบอำนาจ (ใช้ในการตรวจสอบ)
2. หนังสือมอบอำนาจและสำเนาบัตรประชาชนของผู้มอบอำนาจ (พร้อมลงนามรับรอง)
3. สำเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคล อายุไม่เกิน 3 เดือน นับตั้งแต่วันที่ออกหนังสือรับรองดังกล่าว (เฉพาะนิติบุคคล)

ทั้งนี้ ผู้ใช้ไฟฟ้าสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่หมายเลข 1129 PEA Contact Center ตลอด 24 ชั่วโมง และสำนักงานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคในพื้นที่

บางกอกแอร์เวย์ส หยุดให้บริการเที่ยวบินชั่วคราว

จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ที่มีแนวโน้มแพร่ระบาดขยายวงกว้างมากขึ้น บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ สายการบินบางกอกแอร์เวย์ส จึงมีความจำเป็นต้องแจ้งหยุดให้บริการเที่ยวบินเป็นการชั่วคราวตามมาตรการของรัฐ ตั้งแต่วันที่ 13 – 31 กรกฎาคม 2564 ในเส้นทางดังต่อไปนี้

• เส้นทางระหว่าง กรุงเทพฯ – ภูเก็ต
• เส้นทางระหว่าง กรุงเทพฯ – เชียงใหม่
• เส้นทางระหว่าง กรุงเทพฯ – ตราด
• เส้นทางระหว่าง กรุงเทพฯ – สุโขทัย
• เส้นทางระหว่าง กรุงเทพฯ – ลำปาง

ตรวจสอบรายละเอียดตารางบินเพิ่มเติมได้ที่ https://www.bangkokair.com/flight/flightSchedule

ผู้โดยสารของบางกอกแอร์เวย์สที่ได้รับความไม่สะดวกในการเดินทางจากมาตรการของรัฐหรือประกาศฉบับนี้ ที่มีกำหนดการเดินทางภายในวันที่ 31 กรกฎาคม 2564 สามารถ

✅ เปลี่ยนวันเดินทาง โดยไม่มีค่าธรรมเนียมการเปลี่ยนแปลง*
👉 หากต้องการขอเลื่อนการเดินทางโดยยังไม่ระบุวันเดินทางใหม่ ผู้โดยสารสามารถแจ้งความประสงค์ผ่านแบบฟอร์มก่อนกำหนดการเดินทาง 24 ชั่วโมง โดยสายการบินฯ จะยึดตามวันที่ในการกรอกแบบฟอร์มจากผู้โดยสาร และให้การดูแลตามลำดับ

👉 กรอกแบบฟอร์มผ่าน https://forms.office.com/r/WjcEEfQX2L

👉 หรือหากต้องการขอเลื่อนการเดินทางโดยระบุวันเดินทางใหม่สามารถดำเนินการด้วยตนเองได้ที่ www.bangkokair.com/managing-my-booking

✅ ขอคืนเงินค่าบัตรโดยสารในรูปแบบเครดิต (Travel Voucher) เพื่อใช้ซื้อบัตรโดยสารของสายการบินฯ สำหรับการเดินทางครั้งต่อไป (แจ้งล่วงหน้าอย่างน้อย 24 ชั่วโมงก่อนเวลาเดินทาง) โดยสามารถทำรายการได้ด้วยตนเองที่ www.bangkokair.com/tha/travel-voucher

👉 ผู้โดยสารที่ออกบัตรโดยสารโดยตรงกับสายการบินฯ สามารถติดต่อได้ตามช่องทาง ดังนี้
– คอลเซ็นเตอร์ 1771 หรือ โทร 02-270-6699 ตั้งแต่เวลา 08.00 – 20.00 น.
– PG Live Chat: https://bit.ly/PGLiveChatTH
– Email: [email protected]
– สำนักงานขายบัตรโดยสารบางกอกแอร์เวย์ส รายละเอียดเพิ่มเติม www.bangkokair.com/our-offices

👉 ผู้โดยสารที่ออกบัตรโดยสารผ่านทางตัวแทนจำหน่าย กรุณาติดต่อตัวแทนจำหน่ายของท่าน

ค่าใช้จ่ายผู้ป่วยโควิด-19 รักษาที่บ้าน ครอบคลุมอะไรบ้าง? คลิกเลย..

ค่าใช้จ่ายสำหรับ ผู้ป่วยรักษาที่บ้าน (home isolation) ใช้อัตราการจ่ายประเภทบริการผู้ป่วยในตาม DRG. และจ่ายเพิ่มเติม การดูแลจะครอบคลุมบริการ ดังนี้

1. การตรวจ RT-PCR. จ่ายตามจริงไม่เกิน 1,600บาท/ครั้ง และค่าบริการอื่นที่เกี่ยวกับบริการตรวจห้องปฏิบัติการฯ อัตรา 600บาท/ครั้ง และค่าเก็บตัวอย่างส่งตรวจอัตรา 100 บาท/ครั้ง

2. ค่าบริการผู้ป่วยเหมาจ่าย 1,000 บาท/วัน ไม่เกิน 14 วัน

3. ค่าอุปกรณ์ทางการแพทย์สำหรับผู้ป่วย ได้แก่ ปรอทวัดไข้ดิจิตอล เครื่องวัด Oxygen Sat ไม่เกิน 1,100 บาท/ราย และค่าอุปกรณ์ป้องกันบุคลากรทางการแพทย์ ได้แก่ ค่าชุด PPE. และค่าใช้จ่ายอื่นเพื่อป้องกันการแพร่กระจายเชื้อไม่เกินวันละ 740 บาท/ราย

4. ค่ายารักษาโควิด-19 จ่ายตามจริงไม่เกิน 7,200 บาท/ราย และ 5.ค่ารถส่งต่อ จ่ายตามจริงตามระยะทางและค่าทำความสะอาด 3,700 บาท/ครั้ง

นอกจากนี้ ยังมีค่าบริการถ่ายภาพรังสีทรวงอก (chest X-ray) 100 บาท/ครั้ง เพื่อคัดแยกความรุนแรงโรคและภาวะปอดอักเสบก่อนเข้าสู่ระบบดูแลผู้ป่วยโควิดกลุ่มสีเขียวที่บ้าน และโรงพยาบาลสนามสำหรับคนในชุมชน

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.prd.go.th/th/content/category/detail/id/37/iid/29050

จับได้แล้ว! ผู้ต้องหาจี้ชิงรถ หลังหนีคดีกบดานนาน 18 ปี

พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม ผบก.ป. ได้สั่งการ พ.ต.อ.พงศ์ปณต ชูแก้ว ผกก.6 บก.ป. และ พ.ต.ท.หัตถพร ทองคำ สว.กก.6 บก.ป. นำกำลังเข้าจับกุม นายธนวัฒน์ อายุ 52 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดสงขลา ที่ 176/2547 ลงวันที่ 18 ก.พ. 2547 ข้อหา “ร่วมกันชิงทรัพย์ผู้อื่นโดยใช้อาวุธปืน และใช้ยานพาหนะ” โดยเจ้าที่ตำรวจนำกำลังเข้าจับกลุ่มได้ที่บริเวณบ้านพัก ต.โคกสัก อ.บางแก้ว จ.พัทลุง

ทั้งนี้ เมื่อปี 2546 นายธนวัฒน์ พร้อมเพื่อนอีก 1 คน ได้ร่วมกันก่อเหตุใช้อาวุธปืนจี้ชิงรถยนต์ ผู้เสียหายชาวมาเลเซีย ณ บริเวณริมถนน ต.หาดใหญ่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา แล้วขับรถหลบหนีไป หลังจากเกิดเหตุผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความที่ สภ.หาดใหญ่ ได้มีการสืบสวน จนมีการออกหมายจับ กระทั่งเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมสืบทราบว่า ปัจจุบัน นายธนวัฒน์ ได้หลบหนีคดี มาซ่อนตัวอยู่ที่ จ.พัทลุง จึงได้ประสานนำกำลังเจ้าหน้าที่เข้าจับกุมได้ จากการสอบสวน นายธนวัฒน์ ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา จึงนำตัวส่ง สภ.หาดใหญ่ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

โรบินฮู้ด ส่งฟรีทุกออเดอร์ช่วงล็อกดาวน์

ร่วมกันช่วยเหลือและเป็นกำลังใจให้ทุกคนผ่านมหาวิกฤตนี้ไปด้วยกัน โดยล่าสุด ธนาคารไทยพาณิชย์ ร่วมกับ โรบินฮู้ด เป็นกำลังใจช่วยคนไทย โดยออกมาตรการพิเศษ ส่งฟรีทุกออเดอร์ช่วงล็อกดาวน์ เพื่อช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายให้กับลูกค้าด้วยการออกค่าส่งอาหารให้ฟรีทุกออเดอร์ และหวังว่าผู้สั่งอาหารจะช่วยสั่งจากร้านเล็กที่เดือดร้อนเพื่อเป็นกำลังใจและสนับสนุนร้านเล็กให้รอดไปด้วยกัน ตั้งแต่วันที่ 11 – 25 กรกฎาคม 2564 รวม 15 วัน

ทั้งนี้ มาตรการพิเศษในครั้งนี้อาจทำให้มีผู้ใช้บริการเป็นจำนวนมาก การหาไรเดอร์อาจจะมีติดขัดได้บ้าง ทางทีมงานได้เร่งรับไรเดอร์เพิ่มเติมอย่างเต็มที่ แต่ความเดือดร้อนไม่รอให้เราเตรียมการได้อย่างสมบูรณ์แบบได้ เราจะพยายามอย่างดีที่สุดที่จะช่วยเหลือกันในช่วงเวลาที่ยากลำบากเช่นนี้ หากผิดพลาดหรือไม่ได้รับความสะดวกประการใด ต้องขออภัยผู้ใช้บริการล่วงหน้ามา ณ ที่นี้

สามารถกดสั่งอาหารเพื่อช่วยร้านที่คุณรัก คลิกที่นี่ :

 

เที่ยวทิพย์! นาริตะดรีมฟาร์มใกล้โตเกียว

ถ้ามีโอกาสได้ไปญี่ปุ่น แนะนำเยี่ยมชม นาริตะดรีมฟาร์ม ใกล้โตเกียว ทำกิจกรรมสนุก เพลินกันได้ทั้งครอบครัว

นาริตะดรีมฟาร์ม ตั้งอยู่ในจังหวัดชิบะ ไม่ไกลจากสนามบินนานาชาตินาริตะ เป็นฟาร์มโคนมที่เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี ..1887 มีชื่อเสียงเรื่องผลิตภัณฑ์นมที่มีคุณภาพสูง และได้พัฒนาจนมาเป็นฟาร์มเพื่อการท่องเที่ยวในปัจจุบัน

ภายในฟาร์มมีพื้นที่กว้างขวางสำหรับทำกิจกรรมต่างๆ หลายจุด ไม่ว่าจะเป็น ชมความน่ารักของสัตว์ในฟาร์ม เพลินกับทุ่งดอกไม้ ขี่รถเด็กเล่น ตั้งแคมป์ ตกปลา และอีกมากมาย

นอกจากกิจกรรมเด่นอย่าง ทดลองรีดนมวัวสด แล้ว ก็ยังมีสัตว์น่ารัก มากมาย เช่น แพะ แกะ ม้าพันธุ์เล็ก เป็ดกระต่าย หนูตะเภา เป็นต้น โดยสามารถเดินเข้าไปสัมผัสและป้อนอาหารได้อย่างใกล้ชิด

อีกไฮไลต์สำคัญคือ มีทุ่งดอกไม้ให้เที่ยวชมด้วย โดยทางฟาร์มมีบริการรถไฟขนาดเล็กวิ่งรอบ ทุ่งดอกไม้ให้นั่งชมกันอย่างเพลิดเพลิน โดยในช่วงฤดูใบไม้ผลิจะมีทั้งดอกซากุระและดอกคาโนล่า (Nanohana) บานสะพรั่งไปทั่วบริเวณเมื่อเข้าสู่ฤดูร้อนก็จะละลานตาไปด้วยทุ่งดอกทานตะวันสีเหลืองสดใส ส่วนฤดูใบไม้เปลี่ยนสี นอกจากจะเต็มไปด้วยใบไม้หลากสีสันแล้ว ก็ยังมีทุ่งดอกคอสมอสให้ได้ชมด้วย ในฤดูหนาวก็ยังมีฟาร์มสตรอว์เบอร์รี่ที่เปิดให้ลูกค้าได้เข้าไปเก็บสด จากต้นกันอย่างสนุกสนาน

เมื่อมาเที่ยวชมฟาร์มแห่งนี้ ก็ต้องไม่พลาดชิมนมและผลิตภัณฑ์อร่อยๆ อาทิ ไอศกรีม โยเกิร์ต ชีส และขนมต่าง โดยสามารถซื้อกลับไปเป็นของฝากได้อีกด้วย

ที่ฟาร์มแห่งนี้ยังมีคลาสเรียนสนุก สำหรับเด็ก ให้ได้ทดลองทำอาหารด้วยตัวเอง เช่น สอนทำขนมปัง โดยเด็ก จะได้รังสรรค์ขนมปังให้เป็นรูปร่างต่าง ตามใจชอบ คลาสสอนทำแยมจากผลไม้ตามฤดูกาล และคลาสสอนทำไอศกรีมนม เป็นต้น เพื่อสร้างประสบการณ์สนุก ได้ทั้งครอบครัว

ที่ตั้ง : https://goo.gl/maps/ZQ7R5GDKapJcnxeF8

Cr. การท่องเที่ยวญี่ปุ่น

เที่ยวทิพย์! โรงบ่มไวน์องุ่นป่าเกาหลี

ถ้ามีโอกาสได้ไปเกาหลี แนะนำเยี่ยมชม Sanmeoru Farm เป็นไร่องุ่นของเกาหลีที่ปลูกองุ่นป่าแล้วนำเอามาแปลรูปเป็นเครื่องดื่ม ที่แปลกใหม่ ให้กลิ่นหอมหวานของไวน์องุ่นป่า จนได้รับขนานนามเป็นโรงบ่มไวน์องุ่นป่า อันดับ 1 ของประเทศเกาหลี

ที่นี่มีสภาพแวดล้อม และสภาพอากาศที่ดี เหมาะกับการเติบโตขององุ่น นักท่องเที่ยวสามารถเข้าชม กระบวนการผลิตตั้งแต่ขั้นตอนการหมัก การเด็ดองุ่น การบ่ม และสถานที่เก็บไวน์ในถังไม้ รวมทั้งชิมไวน์และผลผลิตต่าง ได้ อีกทั้งมีการสอนทำอาหารและขนมต่าง ที่มีส่วนประกอบจากองุ่นด้วย

ที่ตั้ง 441-25 Witbaeuni-gil, Jeokseong-myeon, Paju-si, Gyeonggi-do

Cr. องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัดคยองกี

 

 

 

เที่ยวทิพย์! นิทรรศการภาพศิลปะบนเปลือกไม้

ใครพลาดนิทรรศการภาพศิลปะบนเปลือกไม้ของชนพื้นเมืองออสเตรเลียครั้งแรกในประเทศไทย นี่เป็นโอกาสให้คุณได้ชมนิทรรศการนี้แบบทิพย์ อีกครั้ง ทางเพจเฟซบุ๊ค Australian Embassy Thailand

โดยเมื่อปีที่ผ่านมา สถานเอกอัครราชทูตออสเตรเลียประจำประเทศไทย ยินดีที่ได้จัดนิทรรศการ Old Masters: Australia’s Great Bark Artists ที่หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร ผลงานที่นำมาจัดแสดงชี้ให้เห็นถึงความอัจฉริยะของจิตรกรชั้นครูจากทางเหนือของออสเตรเลียที่วาดภาพบนเปลือกไม้ยูคาลิปตัส โดยผลงานวาดขึ้นในระหว่างปี .. 2506-2527

ทั้งนี้ มีการจัดแสดงนิทรรศการจากคอลเลกชัน Old Masters ทั้งในออสเตรเลีย และในต่างประเทศ นิทรรศการประกอบด้วยงานกราฟฟิก 14 ชิ้น รวบรวมเรื่องราวต่าง เกี่ยวกับนิทรรศการนี้ เช่น คำนำ แผนที่ และภาพพิมพ์ของผลงานศิลปะชิ้นดั้งเดิม

Cr: National Museum of Australia

ไฟเขียว! ตรึงค่า FT ต่อไปจนถึงสิ้นปี 64

จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบต่อการดำรงชีพของประชาชน และราคาก๊าซธรรมชาติที่เป็นเชื้อเพลิงหลักในการผลิตไฟฟ้าถีบตัวสูงขึ้น ตามทิศทางราคาน้ำมันดิบและการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก

ดังนั้น เพื่อช่วยบรรเทาภาระค่าครองชีพของประชาชน ทางคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน หรือ กกพ. จึงมีมติเห็นชอบตรึงค่าไฟฟ้าผันแปร หรือค่า “เอฟที” สำหรับการเรียกเก็บค่าไฟฟ้าในรอบเดือนก.ย. – ธ.ค. 64 (จากเดิมสิ้นสุดเดือน ส.ค. 64) โดยให้เรียกเก็บที่ -15.32 สตางค์ต่อหน่วย ส่งผลให้ผู้ใช้ไฟฟ้ายังคงจ่ายค่าไฟฟ้าเท่าเดิมในอัตรา 3.61 บาทต่อหน่วย ต่อไปจนถึงสิ้นปี 2564