เผยกลยุทธ์มัดใจ New Gen ขึ้นเทรนด์ X ดันยอดขายพุ่ง

“เจเล่” สร้างปรากฏการณ์ ปั้น Jele Chewy Jelly Ice สู่ Killer Product ใน 2 สัปดาห์

ตลาดเยลลี่พร้อมดื่มสั่นสะเทือน เมื่อ “เจเล่” ออกมาเขย่าวงการด้วยการเปิดตัว Jele Chewy Jelly Ice” นวัตกรรมที่โดนใจคนรุ่นใหม่ในคอนเซ็ปต์สุดว้าว “แช่เย็นเป็นเยลลี่ แช่แข็งเป็นไอศกรีม” ที่มาพร้อม 3 กลยุทธ์การตลาดที่สร้างความสำเร็จ จนทำให้ได้กระแสตอบรับท่วมท้น ถูกใจชาวเน็ตจนติดเทรนด์ X (Twitter) และดันยอดขายสูงเป็นประวัติการณ์

Jele Chewy Jelly Ice” ขึ้นแท่น Killer Product ตัวใหม่ของเจเล่

นายวิโรจน์ วชิรเดชกุล รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส สายงานธุรกิจในประเทศ บริษัท ศรีนานาพร มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SNNP กล่าวว่า เจเล่ ประสบความสำเร็จอย่างมากกับการเปิดตัว Jele Chewy Jelly Ice (เจเล่ ชิววี่ เยลลี่ ไอซ์) ซึ่งเป็นนวัตกรรมเยลลี่พร้อมดื่มที่สามารถสร้างจุดเด่นที่แตกต่างด้วยการรับประทานได้ 2 สไตล์ เมื่อนำไปแช่เย็นจะเป็นเยลลี่ แต่ถ้านำไปแช่แข็งจะกลายเป็นไอศกรีม ซึ่งจุดเด่นที่ถูกใจคนรุ่นใหม่ ผนวกกับกลยุทธ์การตลาดที่ปลุกกระแสให้เกิดความตื่นเต้นไปกับผลิตภัณฑ์ ทำให้ Jele Chewy Jelly Ice ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว นับเป็นปรากฏการณ์ใหม่ที่ทำให้ Jele Chewy Jelly Ice เป็น Killer Product ของเจเล่หลังเปิดตัวได้เพียง 2 สัปดาห์

เผย 3 กลยุทธ์เด็ด มัดใจคนรุ่นใหม่

นายวิโรจน์ กล่าวว่า นอกจากจุดเด่นผลิตภัณฑ์แล้ว กลยุทธ์การตลาดนับเป็นเรื่องสำคัญ ที่จะทำให้ผลิตภัณฑ์แจ้งเกิดในตลาด สำหรับการเปิดตัว Jele Chewy Jelly Ice มุ่งให้ความสำคัญกับการสื่อสารไปยังกลุ่มเป้าหมายผ่านช่องทางออนไลน์ เพื่อสร้างการรับรู้และปลุกกระแสให้เกิดความตื่นเต้นไปกับผลิตภัณฑ์ ขณะเดียวกันก็ไม่ทิ้งการตลาดแบบ On Ground  โดยสื่อสารผ่านอินฟลูเอนเซอร์ยอดนิยมในกลุ่มคนรุ่นใหม่ ซึ่งใช้ 3 กลยุทธ์ คือ

กลยุทธ์ที่ 1 “Fandom to Mass” โดยให้ SAVE และ G สองหนุ่มอินฟลูเอนเซอร์ที่กำลังมาแรง มาจุดกระแส #ทีมเย็น vs #ทีมแข็ง ใน X (Twitter) เพื่อให้แฟนคลับโหวต ลุ้นเป็น 1 ใน 120 คน ที่จะได้ไปงาน Fan Meeting กับ SAVE และ G

กลยุทธ์ที่ 2 “KOLs รีวิวชวนคนโหวต” โดยแบ่ง KOLs ออกเป็น 2 ทีม เพื่อให้แฟนคลับเลือกทีมแล้วรีวิวตามไลฟ์สไตล์ที่ชอบ ใครชอบเยลลี่หนึบๆ ติด #ทีมเย็น ส่วนใครชอบไอศกรีมเยลลี่ติด #ทีมแข็ง รีทวีตติด #JeleChewyJellyIce ทีมไหนติด # มากกว่า สุ่มแจก iPhone 15

กลยุทธ์ที่ 3 “กิจกรรม On Ground” เป็นกลยุทธ์ที่ต่อเนื่องมาจากกิจกรรมในออนไลน์ โดยจะจัด Fan Meeting กับ SAVE และ G ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ พร้อมทั้งจับรายชื่อผู้โชคดีที่ได้รับ iPhone 15

“ผลจากการทำตลาดที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย ทำให้ Jele Chewy Jelly Ice เข้าไปอยู่ในใจคนรุ่นใหม่ และมี Engage สูงอย่างรวดเร็ว จนเกิดกระแสในโลกออนไลน์ ติดเทรนด์ X (Twitter) เกิดการซื้อตามและซื้อซ้ำ ทำให้ยอดขายเกินเป้าหมายที่ตั้งไว้” นายวิโรจน์ กล่าว

Jele Chewy Jelly Ice เปิดตัวมาให้คนรักเยลลี่ได้อร่อยสดชื่นไม่ซ้ำใครกับ 2 รสชาติ ไอซ์ ลิ้นจี่ และไอซ์ มิกซ์เบอร์รี่ ใครไม่ลองระวังตกเทรนด์ ราคาซองละ 25 บาท วางจำหน่ายเฉพาะที่ 7-11 เท่านั้น

Ichiran Thailand Authorized ออกแถลงประเด็นตราม่า

Ichiran Thailand Authorized ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายอย่างเป็นทางการ ออกแถลงขออภัยและขอแสดงความเสียใจกับการสื่อสารที่คลาดเคลื่อนจนทำให้เกิดการเข้าใจผิด และขอชี้แจงข้อมูล โดยพร้อมน้อมรับคำแนะนำติชมเพื่อนำไปพัฒนาต่อไป

จากกรณีที่มีการโพสต์ในสื่อสังคมออนไลน์และรายงานข่าวเกี่ยวกับประสบการณ์ที่ได้รับจาก อิจิรัน ป๊อปอัพสโตร์ ที่จัดขึ้น ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์นั้น บริษัท วี ทู วี จำกัด ผู้นำเข้าผลิตภัณฑ์อิจิรันอย่างเป็นทางการในประเทศไทย เข้าใจดีถึงความรู้สึกของผู้บริโภค และได้ดำเนินการตรวจสอบหาสาเหตุโดยทันที โดยพบว่าเกิดจากการสื่อสารที่คลาดเคลื่อน จนทำให้ผู้บริโภคเข้าใจผิดเกี่ยวกับประสบการณ์ที่ได้รับจากอิจิรัน ป๊อปอัพสโตร์ โดยบริษัทฯ ต้องขออภัยเป็นอย่างสูงต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รวมทั้งขออภัยอินฟลูเอนเซอร์ที่ได้รับผลกระทบจากการสื่อสารที่คลาดเคลื่อนดังกล่าวเป็นอย่างสูงด้วยเช่นกัน

ก่อนอื่น บริษัทฯ ขอชี้แจงว่า ในฐานะผู้นำเข้าผลิตภัณฑ์อิจิรันอย่างเป็นทางการในประเทศไทย เราต้องการขอบคุณผู้บริโภค จึงได้ร่วมกับอิจิรัน ประเทศญี่ปุ่น นำเมนูพิเศษคือ คามาดาเระ ทงคตสึ ราเมง ที่มีจำหน่ายที่อิจิรัน เมืองฟุกุโอกะ เท่านั้น มาจำหน่ายเป็นครั้งแรกในไทย ณ ป๊อปอัพสโตร์ ซึ่งวัตถุดิบและขั้นตอนการปรุงเป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนดโดยอิจิรัน ประเทศญี่ปุ่นทุกประการและทุกขั้นตอน แต่ได้มีการปรับให้เหมาะกับบริการ ณ ป๊อปอัพสโตร์ที่มีข้อจำกัดมากกว่าการปรุงที่ร้าน

โดยเส้นราเมงและน้ำซุปนั้นจัดเตรียมโดยอิจิรัน ประเทศญี่ปุ่น ส่วนขั้นตอนการปรุงหมูชาชู เป็นกรรมวิธีที่ปรับให้เข้ากับป๊อปอัพสโตร์เช่นกัน หากแต่การใช้เนื้อหมูจะแตกต่างออกไปในแต่ละประเทศ ส่วนการปรุงสดนั้นหมายถึงการปรุงสด ณ ป๊อปอัพสโตร์โดยเชฟจากประเทศญี่ปุ่นที่ปรุงและดูแลให้วัตถุดิบและกรรมวิธีการปรุงเป็นไปตามมาตรฐานของอิจิรัน

บริษัทฯ ขอย้ำว่า เราให้ความสำคัญอย่างสูงสุดกับคุณภาพของผลิตภัณฑ์และบริการที่นำเสนอให้แก่ผู้บริโภค เพราะการสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้ามีความสำคัญเป็นอันดับแรก ภายใต้การ
ดำเนินงานที่ได้มาตรฐานคุณภาพและความปลอดภัยด้านอาหารของอิจิรัน ประเทศญี่ปุ่น และสอดคล้องกับข้อบังคับของประเทศไทยในด้านความปลอดภัยทางอาหารที่เกี่ยวข้อง

NRF เผยไตรมาส 3 โชว์ฟอร์มดี ทำรายได้เพิ่มขึ้น 30%

NRF เผยผลดำเนินงานไตรมาส 3/2566 โชว์ฟอร์มดี ทำรายได้ 782.9 เพิ่มขึ้น 30% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน โดยการเพิ่มขึ้นของรายได้ มาจากการเติบโตของกลุ่มธุรกิจอาหารชาติพันธุ์ (Ethnic food)  ธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยง และธุรกิจOmni-Channel Asian Grocery Storeในสหราชอาณาจักร ในขณะเดียวกัน NRF แย้มข่าวดีพร้อมจับมือกับว่าที่ Hectocorn รายที่ 3 ของโลก ที่มีมูลค่าบริษัทกว่า 3.3 ล้านล้านบาท เพื่อต่อยอดธุรกิจแบมบู มาร์ท เตรียมรุกหนักขยายธุรกิจอีคอมเมิร์ซ เสริมกลยุทธ์ Direct to consumer อย่างแข็งแกร่ง มุ่งมั่นการกระจายสินค้าสู่ผู้บริโภคอย่างครอบคลุมบนแพลตฟอร์มระดับโลก

นายแดน ปฐมวาณิชย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ็นอาร์ อินสแตนท์ โปรดิวซ์จำกัด (มหาชน) หรือ NRF ผู้ผลิตจัดหา และจำหน่ายผลิตภัณฑ์ปรุงรสอาหาร อาหารสำเร็จรูป เครื่องปรุงสำหรับประกอบอาหาร เผยถึงผลประกอบการประจำไตรมาส 3/2566 ว่าจากการเพิ่มขึ้นของรายได้จากการขายโตขึ้น 30% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ซึ่งรายได้จากการขาย 782.9 ล้านบาท มาจากกลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารไทยและอาหารท้องถิ่นธุรกิจอาหารสัตว์ ธุรกิจร้านค้าปลีกและค้าส่งสินค้าเอเชีย กลุ่มธุรกิจอีคอมเมิร์ซเป็นหลัก อีกทั้งการเติบโตในไตรมาสนี้เป็นผลมาจากกำไรการดำเนินงานในไตรมาส3 ที่ลดลง 14.1 ล้านบาท เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนซึ่งเป็นที่พอใจกับผลลัพธ์เนื่องจากสภาวะเงินเฟ้อที่สูงทั่วโลก แม้มีการสวนทางกับสภาสะเงินเฟ้อ ในขณะเดียวกันเรามีการจัดตั้ง Bamboo Mart Limited โดยมีวัตถุประสงค์ในการจัดตั้งเพื่อเป็นการขยายและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันธุรกิจค้าปลีก ทั้งเรายังเล็งเห็นว่า ความต้องการที่มากขึ้นของผู้บริโภคเป็นโอกาสสำคัญที่จะเราจะพัฒนาและมุ่งที่จะมอบสินค้าให้ถึงมือผู้บริโภคอย่างรวดเร็วและเข้าถึงยิ่งขึ้น อีกทั้งมุ่งมั่นพัฒนาแพลตฟอร์มเพื่อรองรับการกระจายสินค้า โดยนี่จึงเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จที่เราจับมือกับพันธมิตร ที่ได้ถูกขนานนามว่า ว่าที่Hectocorn รายที่ 3 โดยแผนดำเนินงานในขณะนี้สอดรับกับกลยุทธ์ Direct to consumer เพื่อการเติบโตในระยะยาว ส่งผลให้รายได้จากการขายในช่วง 9 เดือนแรก ทำรายได้รวม 1,891.8ล้านบาท

การร่วมมือกับพันธมิตรที่เป็นสตาร์ทอัพที่เชี่ยวชาญด้านแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ ที่ได้รับการขนานนาม ว่าที่ Hectocorn รายที่ 3 นั้น นับว่าเป็นแพลตฟอร์มชื่อดังระดับโลก ที่มีมูลค่าบริษัทกว่า 3.3 ล้านล้านบาท หวังดันยอดขายให้กลุ่มผลิตภัณฑ์ของบริษัท

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวเสริมว่า “การจับมือกับสตาร์ทอัพชื่อดัง จะเป็นการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และสร้างโอกาสให้แก่บริษัท ทั้งนี้การร่วมมือกันครั้งนี้มีแผนจะพัฒนาร้านซูเปอร์ในรูปแบบVirtual Shop ที่ใหญ่ที่สุดในอเมริกา โดยมีเป้าหมายสำคัญคือการดันยอดขายให้แก่ผลิตภัณฑ์ของบริษัท” สำหรับในไตรมาส4/2566 เราจะสามารถโชว์เพอร์ฟอแมนซ์ที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง จากการรับรู้ผลการดำเนินงานซูเปอร์ที่อังกฤษ โดยมีแผนการเพิ่มสาขาของแบมบู มาร์ท และมีแผนเข้าซื้อซูเปอร์มากขึ้น ซึ่ง ณ ขณะนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนการเจรจา และจากการเติบโตของกลุ่มธุรกิจดั้งเดิม สำหรับแผนกลยุทธ์การรุกหนักด้านการขยายธุรกิจ Omni Channel เรามีแผนที่จะขยายสาขาแบมบู มาร์ทและเข้าซื้อซูเปอร์มาร์เก็ต ซึ่ง ณ ขณะนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนเจรจา นอกจากนี้เรายังคงมุ่งมั่นที่จะพัฒนาร้านค้าออฟไลน์ SeeWoo ที่ตั้งอยู่ใน ไชน่าทาวน์ ณ กรุงลอนดอน เพื่อเป็นการเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันให้กับสินค้าเอเชียในตลาดระดับสากล ทั้งยังส่งเสริมสินค้าเกษตรท้องถิ่นได้อีกด้วย

DTCENT โชว์โซลูชั่นงาน Thailand Smart City Expo 2023

 

บมจ.ดี.ที.ซี. เอ็นเตอร์ไพรส์ (DTCENT) ผู้นำ GPS Tracking อันดับ 1 ในไทยและระบบ  IoT Solutions เตรียมยกทัพโซลูชั่นสุดล้ำ ทั้ง  เสาไฟอัจฉริยะ (Smart Pole) ระบบแจ้งเหตุฉุกเฉิน (Emergency System) แอปพลิเคชันสำหรับเมืองอัจฉริยะ (Smart City Application) ระบบบริหารจัดการการระบายน้ำ (Smart Water Management) และระบบจัดการการขนส่งอัจฉริยะ (Smart Logistics) ในงาน Thailand Smart City Expo 2023 ระหว่างวันที่ 22-24 พฤศจิกายนนี้ เวลา 10.00-18.00 น. ที่บูธ F02 ฮอลล์ 3-4 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ แม่ทัพใหญ่ “ทศพล คุณะเพิ่มศิริ” พร้อมโชว์ศักยภาพเต็มที่ เพื่อยกระดับการเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารเมืองอัจฉริยะ และขับเคลื่อนเศรษฐกิจโลกยุคใหม่จาก การพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ ของ DTCENT ผู้บริหารขยันแบบนี้ อีกไม่นานคงมีเรื่องดีๆ ให้แฟนคลับได้ปลื้มปริ่มกันอีกแน่นอน

ขายเหมาชุดเครื่องเก่า 4.5 แสนบาท

ขายเหมาเครื่อจักรเก่าสำหรับทำโรงพิมพ์ ได้แก่ เครื่องตัด115EMC, เครื่องพิมพ์moระบบพิมพ์ตรงผ้าลูกน้ำ, เครื่องเย็บ, ตีธงปุ่มแดงล๊อคกาว

ทั้งหมดราคา 450,000  บาท สนใจ ติดต่อ 0879281900 (คุณเพลินครับ บุญมี)

แพ็คพริ้นท์ 2022 โชว์เทคโนโลยีการพิมพ์และการบรรจุภัณฑ์อนาคต

นายเกอร์นอท ริงลิ่ง ประธานเมสเซ่ฯ

สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย พร้อมด้วยบริษัท เมสเซ่ ดุสเซลดอร์ฟ เอเชีย สมาคมการพิมพ์ไทย สมาคมการบรรจุภัณฑ์ไทย และสมาคมบรรจุภัณฑ์กระดาษลูกฟูกไทย เปิดมหกรรมการพิมพ์ บรรจุภัณฑ์นานาชาติ และบรรจุภัณฑ์กระดาษลูกฟูกครั้งยิ่งใหญ่แห่งภูมิภาคเอเชีย หรือ “Pack Print International 2022 and Corrutec Asia 2022” ชูไฮไลท์นวัตกรรมแห่งโลกอนาคตจากกว่า 200 บริษัทยักษ์ใหญ่จาก 28 ประเทศ เพื่อให้ผู้ประกอบการในหลากอุตสาหกรรมพร้อมนำนวัตกรรมใหม่ ๆ ไปใช้กับการแข่งขัน อีกทั้งยังมุ่งยกระดับการพิมพ์ การบรรจุภัณฑ์ และการผลิตกระดาษลูกฟูกรับนโยบายความเป็นกลางทางคาร์บอนเพื่อรับพฤติกรรมผู้บริโภคยุคใหม่ที่ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม งานจัดขึ้นระหว่างวันที่ 19 – 22 ตุลาคม 2565 ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค

คุณเกรียงไกร เธียรนุกุล เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ประธานในพิธีเปิด กล่าวว่า การรวมตัวจัดมหกรรมการพิมพ์ บรรจุภัณฑ์นานาชาติ และบรรจุภัณฑ์กระดาษลูกฟูกครั้งยิ่งใหญ่แห่งภูมิภาคเอเชีย ดำเนินมากว่า 20 ปี เพื่อให้ผู้ประกอบการที่อยู่ในห่วงโซ่ของการพิมพ์ บรรจุภัณฑ์ และกระดาษลูกฟูกได้ตระหนักถึงการนำนวัตกรรมใหม่ ๆ มาใช้มากขึ้น รวมทั้งชี้ให้ต่างชาติมั่นใจถึงนโยบายของภาครัฐในการสนับสนุนเศรษฐกิจ เช่น การส่งเสริมอุตสาหกรรมแห่งอนาคต เมืองและเครือข่ายนวัตกรรม การส่งเสริมการลงทุน โมเดลเศรษฐกิจบีซีจี ฯลฯ นอกจากนี้ ยังมุ่งผลักดันให้ผู้ประกอบการที่เข้าร่วมในงานได้มีโอกาสเลือกนวัตกรรมที่ตรงกับความต้องการจากทั่วโลกได้ในงานนี้ เช่น เทคโนโลยี AI บิ๊กดาต้า ระบบอัตโนโมติ ความปลอดภัย ดิจิทัล การยืดอายุสินค้า การรักษาสิ่แวดล้อม

คุณเกอร์นอท ริงลิ่ง กรรมการผู้จัดการบริษัท เมสเซ่ ดุสเซลดอร์ฟ เอเชีย กล่าวว่า การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจในส่วนภูมิภาคเอเชีย รวมถึงประเทศไทยกำลังกลับเข้าสู่สภาวะปกติ ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นตัวขับเคลื่อนความต้องการบรรจุภัณฑ์ การพิมพ์ และการใช้กระดาษลูกฟูกให้เติบโตมากขึ้น โดยนอกจากในด้านสิ่งแวดล้อมแล้วยังคาดว่าภาพรวมการเติบในระดับเอเชียจะมีทิศทางใหม่ ๆ ที่ผู้ประกอบการไทย จะนำไปใช้ในการขับเคลื่อนธุรกิจได้ดี

“คุณปฐม”จัดแพ็คเกจทัวร์บุญ ประจำปี 2565

คุณปฐมจัดแพ็คเกจทัวร์บุญ ประจำปี 2565 ชวนหมู่มิตรในอุตสาหกรรมการพิมพ์ไทย ร่วมบริจาคเงิน ข้าวของเครื่องใช้ หรือเดินทางไปร่วมกิจกรรมสร้างบุญกุศลด้วยกัน นับตั้งแต่เดือนมิถุนายนถึงพฤศจิกายน รวม 6 โครงการ

คุณปฐม สุทธาธิกุลชัย ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ด่านสุทธาการพิมพ์ จำกัด จัดโครงการทำบุญใหญ่ประจำปี พ.ศ.2565 จำนวน 6 รายการ เพื่อความเป็นสิริมงคลในวัย 79 ปี ซึ่งได้ตั้งปณิธานอย่างแน่วแน่ว่า จะส่งเสริมและทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาให้คงอยู่จนกว่าชีวิตจะหาไม่ โดยจะเป็นสะพานบุญให้พุทธศาสนิกชนทุกท่านอีกเช่นเคย ซึ่งได้วางแผนไว้ดังนี้

1.โครงการแจกเงิน เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้สังคมคนไทยที่เดือดร้อนและด้อยโอกาส ไว้ใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ในช่วงสถานการณ์โรคโควิด-19 ยังระบาดไม่หยุด  ซึ่งโครงการนี้ได้ดำเนินการไปแล้วเมื่อเดือนมิถุนายน ที่ผ่านมา

2.โครงการไถ่ชีวิตโคกระบือ สืบสานพระราชดำริธนาคารโค-กระบือของในหลวงรัชกาลที่ 9 มีกำหนดจัดกิจกรรมในปลายเดือนกรกกฎาคม

3.โครงการบริจาคเงิน ข้าวสารอาหารแห้ง เครื่องอุปโภคบริโภค ถวายหลวงพ่ออลงกต วัดพระบาทน้ำพุ จังหวัดลพบุรี กำหนดจัดกิจกรรมในเดือนสิงหาคม

4.โครงการบริจาคเงินร่วมสมทุนสร้างฌาปนสถาน(เมรุ)เผาศพ ของวัดโบสถ์ จังหวัดปราจีนบุรี ให้สำเร็จเสร็จสิ้นต่อเนื่องจากที่เริ่มไว้เมื่อปีที่แล้ว

5.บริจาครถกอล์ฟ 2 ตอน สีแดง จำนวน 1 คัน ให้กับทางวัดโบสถ์ เพื่อใช้ในศาสนกิจของวัด กำหนดจัดกิจกรรมในวันเสาร์ที่ 4 ตุลาคม 2565 ซึ่งตรงกับวัดเกิดครบรอบ 80 ปี

6.ถวายรถกอล์ฟ 3 ตอนสีขาว จำนวน 1 คันเพิ่มเติมให้แก่ทางวัดโบสถ์ เพื่อใช้ในศาสนกิจของวัด กำหนดการไว้ในเดือนพฤศจิกายน 2565

จึงขอเชิญชวนมวลหมู่มิตรและเพื่อนพ้องน้องพี่ในอุตสาหกรรมการพิมพ์ไทย ที่มีจิตศรัทธาและร่วมกิจกรรมบุญในครั้งนี้ ด้วยการบริจาคเงิน ข้าวของเครื่องใช้ โดยแจ้งผ่านบริษัท ด่านสุทธาการพิมพ์ จำกัด โทรศัพท์ 0-2966-1600-6 หรือ โอนเงินเข้าร่วมโครงการ ผ่านธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาอิมพีเรียลเวิลด์ ลาดพร้าว เลขที่บัญชี 224-294050-5 ขอให้กุศลผลบุญจากการทำบุญในครั้งนี้ ดลบันดาลให้ท่านและครอบครัวประสบแต่ความสุขความเจริญทุกประการด้วยเทอญ

บีโอไอ ชี้เทรนด์การลงทุนอุตสาหกรรม BCG มาแรง

บีโอไอ ชี้ทิศทางการลงทุนตามนโยบายโมเดลเศรษฐกิจ BCG ทวีบทบาทสำคัญ สอดรับกับแนวทางพัฒนาที่ยั่งยืน SDGs ขององค์การสหประชาชาติ ระบุสถิติการขอรับการส่งเสริมการลงทุนในกิจการกลุ่ม BCG ตั้งแต่ปี 2558 ถึง กันยายน 2564 มีมูลค่ารวมเกือบ 7 แสนล้านบาท พร้อมผลักดันสตาร์ทอัพไทยให้แข็งแกร่งเตรียมร่วมมือ NIA และ สอวช. จัดมหกรรม BCG Startup Investment Day ต้นปี 2565

นางสาวดวงใจ อัศวจินตจิตร์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) กล่าวว่า ด้วยสภาพการณ์การแข่งขันที่ทวีความรุนแรงอันเนื่องมาจากเทคโนโลยีที่ปรับเปลี่ยนอย่างรวดเร็ว การปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำธุรกิจ และการที่ประเทศไทยต้องมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม เพื่อให้สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals: SDGs) ขององค์การสหประชาชาติ รัฐบาลจึงได้กำหนดให้โมเดลเศรษฐกิจ BCG หรือการพัฒนาเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว (Bio – Circular – Green Economy) เป็นวาระแห่งชาติ ซึ่งเป็นการพัฒนาเศรษฐกิจที่ต้องการต่อยอดจุดแข็งของไทยที่มีความหลากหลายทางชีวภาพ โดยแนวทางพัฒนานี้ยังถูกจัดอยู่ในแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13 ด้วยเช่นกัน

ปัจจุบันมาตรการส่งเสริมการลงทุนครอบคลุมกิจการจำนวนมากตลอดห่วงโซ่อุปทานที่เกี่ยวข้อง และบีโอไอได้ปรับปรุงให้สอดคล้องกับบริบทของเศรษฐกิจและสังคมที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอตามแนวทาง BCG ในหลายด้าน เช่น

· มาตรการปรับปรุงประสิทธิภาพ ภายใต้มาตรการปรับเปลี่ยนเครื่องจักรเพื่อประหยัดพลังงาน ใช้พลังงานทดแทน หรือลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมหรือลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และมาตรการด้านการยกระดับไปสู่มาตรฐานเพื่อความยั่งยืนในระดับสากล เช่น มาตรฐานการรับรองป่าไม้ตามแนวทางขององค์การพิทักษ์ป่าไม้ (Forest Stewardship Council: FSC) เป็นต้น

· มาตรการส่งเสริมการลงทุนเศรษฐกิจฐานราก ซึ่งครอบคลุมถึงการสนับสนุนองค์กรท้องถิ่น
ในการพัฒนากิจการเกษตรที่ยั่งยืน เช่น การปลูกข้าวแบบปล่อยมีเทนต่ำ เป็นต้น

· ปรับปรุงประเภทกิจการและสิทธิประโยชน์โดยให้ความสำคัญต่อเทคโนโลยีด้านสิ่งแวดล้อม คือ กิจการผลิตผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีและโรงแยกก๊าซ ในกรณีใช้เทคโนโลยีการดักจับ การใช้ประโยชน์และการกักเก็บคาร์บอน โดยให้สิทธิประโยชน์ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลเป็นเวลา 8 ปี และกิจการห้องเย็น หรือกิจการห้องเย็นและขนส่งห้องเย็น หากใช้สารทำความเย็นธรรมชาติ ให้สิทธิประโยชน์ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลเป็นเวลา 3 ปี

จากสถิติคำขอรับการส่งเสริมการลงทุนกิจการในกลุ่ม BCG ตั้งแต่ ปี 2558 – กันยายน 2564 มีจำนวน 2,829 โครงการ มูลค่าเงินลงทุนรวม 677,157 ล้านบาท โดย 5 อันดับแรกกิจการ BCG ที่มีมูลค่าการลงทุนสูงสุด ได้แก่ 1. กิจการผลิตพลังงานไฟฟ้า ที่เป็นพลังงานหมุนเวียน (รวมถึงไฟฟ้าจากขยะ) 289,007 ล้านบาท 2. กิจการผลิตหรือถนอมอาหาร เครื่องดื่ม วัตถุเจือปนอาหาร (Food Additive) หรือสิ่งปรุงอาหาร (Food Ingredient) โดยใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย 94,226 ล้านบาท 3. กิจการผลิตเคมีภัณฑ์หรือพอลิเมอร์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม หรือการผลิตผลิตภัณฑ์ที่ขึ้นรูปต่อเนื่องจากการผลิตพอลิเมอร์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ในโครงการเดียวกัน 40,998 ล้านบาท 4. กิจการผลิตผลิตภัณฑ์จากผลพลอยได้หรือเศษวัสดุทางการเกษตร 25,838 ล้านบาท 5. กิจการผลิตผลิตภัณฑ์จากยางธรรมชาติ 22,250 ล้านบาท

โดยเฉพาะในช่วง 9 เดือนแรก ปี 2564 (ม.ค. – ก.ย.) มีสัญญาณบ่งชี้อัตราเติบโตที่ดี โดยมีกิจการขอรับการส่งเสริมการลงทุน 564 โครงการ จำนวนโครงการเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 74 และมีมูลค่าลงทุน 128,370 ล้านบาท เพิ่มขึ้นสูงกว่าช่วงเดียวกันกับปีก่อนร้อยละ 160 และสูงกว่ามูลค่าการลงทุนในปี 2563 ทั้งปี (93,883 ล้านบาท) โดยมีตัวอย่างบริษัทที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนภายใต้กิจการ BCG อาทิ

o กลุ่มโปรตีนทางเลือก (Alternative Protein)

– บริษัท โกลบอล บั๊กส์ เอเชีย โครงการผลิตโปรตีนจากจิ้งหรีด

– บริษัท ฟลายอิ้ง สปาร์ค (ประเทศไทย) จำกัด โครงการผลิตโปรตีนผงจากหนอนแมลงวันผลไม้

o กลุ่มเทคโนโลยีชีวภาพ Biotechnology

– บริษัท เจเนพูติก ไบโอ จำกัด โครงการผลิตผลิตภัณฑ์เซลล์และยีนบำบัด เพื่อรักษาโรคสำหรับผู้ป่วยโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวที่ไม่ตอบสนองต่อการรักษาหลัก

– บริษัท ใบยา ไฟโตฟาร์ม จำกัด โครงการผลิตยาจากเทคโนโลยีชีวภาพหรือชีวเภสัชภัณฑ์ที่ได้จากการใช้
ต้นยาสูบเป็นเจ้าบ้าน (HOST)

o กลุ่มพลาสติกชีวภาพ Bioplastic

– บริษัท โททาล คอร์เบียน พีแอลเอ (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท เนเชอร์เวิร์คส์ เอเชีย แปซิฟิก จำกัด โครงการผลิตโพลีแลคติค แอซิด (Polylactic Acid : PLA) ซึ่งเป็นพอลิเมอร์ชีวภาพที่สามารถย่อยสลายได้ และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สามารถนำไปใช้งานได้หลากหลายประเภท

– บริษัท พีทีที เอ็มซีซี ไบโอเคม จำกัด โครงการผลิตเม็ดพลาสติกชีวภาพชนิด PBS (Polybutylene Succinate)

– บริษัท ไทยวา จำกัด โครงการผลิตพลาสติกชีวภาพชนิด TPS (THERMOPLASTIC STARCH) ซึ่งเป็นบริษัทผลิตและส่งออกผลิตภัณฑ์จากมันสำปะหลังของไทย

– บริษัท ฟรุตต้า ไบโอเมด จำกัด โครงการผลิตพลาสติกชีวภาพชนิด PHA (POLYHYDROXYALKANOATE) และ PHA BIOPLASTIC COMPOUND และผลิตภัณฑ์ขึ้นรูปจากพลาสติก PHA ซึ่งเป็นกิจการที่นำของเหลือทางการเกษตร

o กลุ่มพลาสติกรีไซเคิลเกรดอาหาร (Food-Grade Recycled Plastics)

– บริษัท เอ็นวิคโค จำกัด โครงการผลิตเม็ดพลาสติกรีไซเคิลชนิด rPET (FOOD GRADE) เป็นการร่วมทุนระหว่างบริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) และบริษัท ALPLA TH RECYCLING BETEILIGUNGSGELLSCHAFT
M.B.H ประเทศออสเตรีย ซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่ม ALPLA ผู้ผลิตบรรจุภัณฑ์พลาสติกรายใหญ่ของยุโรป

– บริษัท อินโดรามา โพลีเอสเตอร์ อินดัสตรี้ส์ จำกัด (มหาชน) โครงการผลิตเม็ดพลาสติกรีไซเคิลชนิด
PET เม็ดพลาสติก PET รีไซเคิล (rPET) สำหรับการผลิตบรรจุภัณฑ์ที่สัมผัสอาหาร

– บริษัท เซอร์คูลาร์ พลาส จำกัด โครงการวิจัยและพัฒนาระดับโรงงานสาธิตเพื่อผลิต PYROLYSIS NAPHTHA หรือ CIP-N โดยเป็นการวิจัยในขั้นทดลองในห้องปฏิบัติการ (LAB SCALE) และการวิจัยพัฒนาระดับนำร่อง (PILOT SCALE)

“โมเดลเศรษฐกิจ BCG จะเป็นแนวทางในการพัฒนาและฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ โดยการใช้จุดแข็งที่ไทยมีความหลากหลายทางชีวภาพ ด้วยการสร้างความสมดุลจากการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติควบคู่ไปกับการอนุรักษ์ ทั้งนี้ การพัฒนาเศรษฐกิจตามโมเดล BCG ของไทย จะนำไปสู่การปรับกระบวนทัศน์ และการพัฒนาเศรษฐกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สอดคล้องกับเป้าหมาย SDGs และคาดว่าในอีก 5 ข้างหน้าอุตสาหกรรม BCG ของไทยจะมีมูลค่าร้อยละ 25 ของ GDP ซึ่งบีโอไอพร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนนโยบายการส่งเสริมการลงทุนที่จะนำเป้าหมายดังกล่าวให้เกิดเป็นรูปธรรม เพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจให้เติบโตอย่างสมดุลและยั่งยืน” เลขาธิการบีโอไอ กล่าว

เลขาธิการบีโอไอ กล่าวเพิ่มเติมว่า เพื่อเป็นการสนับสนุนกิจการในกลุ่ม BCG ตามนโยบายของรัฐบาลอย่างเต็มรูปแบบ บีโอไอร่วมกับสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) (NIA) สำนักงานสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ (สอวช.) และหน่วยงานพันธมิตร เตรียมจัด “มหกรรม BCG Startup Investment Day” ในช่วงต้นปี 2565 เพื่อสนับสนุนให้ Startup ที่มีศักยภาพได้มีโอกาสเข้าถึงแหล่งเงินทุน และมาตรการสนับสนุนต่างๆ ซึ่งจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของ Startup ให้แข่งขันได้ในระดับภูมิภาคและระดับโลกได้ด้วย

 

“คอตโต้” ถอดรหัสเทรนด์ RE desire for life 2022

บริษัท สยามซานิทารีแวร์ จํากัด ผู้ผลิตและจำหน่ายสุขภัณฑ์ชั้นนำภายใต้แบรนด์ “คอตโต้” (COTTO) ขอแนะนำ สุขภัณฑ์กลุ่ม Smart Toilet สุขภัณฑ์ที่ให้มากกว่าความสะอาด เพราะโดดเด่นเรื่องความสมาร์ต และความสวยด้วย เพื่อมอบประสบการณ์ใหม่และตอบโจทย์ผู้บริโภคที่ต้องการสร้าง Dream Space เพื่อเติมเต็มพื้นที่แห่งความสุขในแบบที่ทุกคนต้องการ โดยสินค้าไฮไลต์ในกลุ่มนี้ ได้แก่ สุขภัณฑ์อัตโนมัติรุ่นล่าสุด Submarine Series ดีไซน์พิเศษ Two Tone เพิ่มแถบอะคลิลิคสีดำโฉบเฉี่ยวบนฝาปิดสุขภัณฑ์ที่เรียบหรู ดีไซน์ให้หน้ายาวเพื่อความสบายขณะนั่ง ผิวด้านข้างเรียบเป็นผืนใหญ่ด้วยวัตกรรมการผลิตแบบใหม่ที่เรียบและแข็งแรงกว่าเดิม พร้อม ฟังก์ชันอัตโนมัติเต็มรูปแบบ ตั้งแต่ฝาที่เปิดปิดเองด้วยระบบเซ็นเซอร์ ระบบอุ่นทั้งฝารองนั่ง ระบบชำระล้างอัตโนมัติ ระบบเป่าลมอุ่น นอกจากนี้ยัง ใส่ใจเรื่องความสะอาด เป็น 2 เท่า ด้วยการเพิ่มสารเคลือบยังยั้งแบคทีเรีย 99% ในตัวโถ และก้านฉีดชำระสแตนเลสที่ผสมสารฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ระบบฟลัชทรงพลัง ประหยัดน้ำ ควบคุมการทำงานด้วยรีโมตคอนโทรล และยังมีระบบอัตโนมัติอื่น ๆ อีกครบครัน นอกจากนี้ ยังมี สุขภัณฑ์ Touchless Toilet ที่มาพร้อมฟังก์ชันระบบชำระล้างไร้สัมผัส Waving Sensor System ชำระล้างทันทีเพียงใช้มือโบกผ่านเซ็นเซอร์ตัวส่งสัญญาน ที่สามารถติดตั้งได้ง่ายในทุกตำแหน่งที่ต้องการเพื่อความสะดวกในการใช้งาน โดยไม่ต้องเดินสายไฟฟ้า ใช้เพียงถ่านอัลคาไลน์

โดยสุขภัณฑ์กลุ่ม Smart Toilet ของคอตโต้ทุกผลิตภัณฑ์ใช้ นวัตกรรม Ultra Clean+ สารเคลือบตัวใหม่ หนึ่งเดียวจากคอตโต้ ที่สามารถลดการสะสมแบคทีเรียได้เอง 99% ภายใน 24 ชม. ตลอดอายุการใช้งาน

นอกจากสุขภัณฑ์แล้ว คอตโต้ยังเติมเต็มความสมบูรณ์แบบให้ห้องน้ำด้วย กระเบื้องยับยั้งแบคทีเรีย ที่ยับยั้งแบคทีเรียได้มากกว่า 90% ตลอดอายุการใช้งาน ปลอดภัยต่อผู้ใช้งาน และไม่เป็นพิษต่อสิ่งแวดล้อม

ผู้สนใจพบกับสุขภัณฑ์กลุ่ม Smart Toilet และสินค้านวัตกรรมอื่น ๆ อีกมากมายที่คอตโต้คัดสรรมาเพื่อห้องน้ำที่สะอาด สมาร์ต และสวยที่ www.cotto.com/virtual-showroom ตัวแทนจำหน่าย COTTO ทั่วประเทศ และ COTTO Bathroom Shop ดอนเมือง ดูรายละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่ www.facebook.com/cottoofficial หรือ Line @COTTOBathroomShop

OCEAN ประกาศลุยอสังหาฯ เปิดมูลค่าโครงการในมือเกือบหมื่นล้าน

OCEAN ประกาศบุกตลาดอสังหาฯ ขนทัพมาทั้งคอนโดฯ โครงการบ้านเดี่ยว และ Office Building ต้นปี 65 เตรียมเปิดโปรเจคใหม่ THE VALOR โครงการบ้านเดี่ยวระดับไฮเอนด์ย่านรามอินทรา มูลค่า 480 ล้านบาท คาดเริ่มรับรู้รายได้ตั้งแต่ต้นปี 65 หนุนยอดขายเติบโตแข็งแกร่ง จากปัจจุบันมี Backlog กว่า 500 ล้านบาท ผู้บริหารหนุ่มไฟแรง “ธีร ชุติวราภรณ์” เผยโครงการในมือ และโปรเจคในอนาคตรวมมูลค่าเกือบหมื่นล้านบาท

นายธีร ชุติวราภรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โอเชี่ยน คอมเมิรช จำกัด (มหาชน) หรือ OCEAN เปิดเผยว่า แผนการดำเนินงานในปี 2565 ในส่วนของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ บริษัทฯพร้อมบุกตลาดอย่างเต็มรูปแบบ เพื่อรองรับความต้องการของผู้บริโภค ทั้งในส่วนของโครงการคอนโดมิเนียม โครงการบ้านเดี่ยว โครงการอาคารสำนักงานให้เช่า เพื่อรองรับการเติบโตในช่วง 1-3 ปีข้างหน้า (2565-2568) โดยมีมูลค่าโครงการรวมกันเกือบ 1 หมื่นล้านบาท สนับสนุนธุรกิจเติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน สร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นในอนาคต

ทั้งนี้ ประกอบด้วย โครงการ IKON SUKHUMVIT 77 มูลค่า 1,170 ล้านบาท คาดว่าจะปิดโครงการภายในปี 2565 โดยมี Backlog ที่คาดว่าจะโอนจนจบปี 2564 ยังมีอยู่เกือบ 80 ล้านบาท ซึ่งมีจุดเด่นทำเลที่ตั้ง และตกแต่งครบ ให้กับลูกค้าแบบครบวงจร มาพร้อมกับสโลแกน “ก้าวเดียวถึงห้างใจกลางอ่อนนุช” โครงการมีประตูเชื่อม กับ People Park Community Mall ที่ครบครัน Co-Working Space 24 ชั่วโมง ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ ราคาเริ่มต้นปัจจุบันอยู่ที่ 1.99 ล้านบาท

โครงการ KON UDOMSUK มูลค่า 600 ล้านบาท เป็นโครงการที่เน้นการดีไซน์ที่แตกต่าง ใช้วัสดุ พรีเมี่ยม ในราคาที่ดีกว่าคู่แข่ง โดยเฉพาะแบบห้องขายดี คือห้อง Loft ที่ Sold Out ไปเป็นที่เรียบร้อย บนทำเลศักยภาพในราคาที่แข่งขันกับคู่แข่งได้อย่างชนะขาด ทำให้โครงการได้รับความสนใจจากลูกค้าเป็นจำนวนมาก มียอดจองมากกว่า 80% ภายใต้แรงกดดันจากสถานการณ์โควิด-19 โดยปัจจุบันมี backlog อยู่ที่ 478 ล้านบาท คาดการรับรู้รายได้ตั้งแต่ปี 2565-2566
โครงการบ้านเดี่ยวระดับไฮเอนด์ ย่านรามอินทรา โครงการ THE VALOR มูลค่า 480 ล้านบาท ซึ่งโดดเด่นด้วยความเป็นส่วนตัว เพียง 25 หลัง เจาะกลุ่มลูกค้าระดับบน เพราะเป็นตลาดที่ยังมีกำลังซื้อที่เติบโตได้ต่อเนื่อง โดยปัจจุบันอยู่ในระหว่างการก่อสร้างและจะเริ่มโอนในต้นปี 2565

โครงการ V TOWER Office Building ตั้งอยู่บน PRIME Location ติดสถานีรถไฟฟ้า พระโขนง ซึ่งในอนาคตจะเป็น New CBD (Central Business District) เป็น Interchange Station ของรถไฟฟ้า 2 สาย คือ สายสีเทา และสายสีเขียวมูลค่าโครงการ 5,500 ล้านบาท โดยแผนจะเริ่มดำเนินกิจการในปี 2566 Office Building พื้นที่เช่า (พื้นที่ขาย) 12,500 ตร.ม. ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ พื้นที่ให้เช่าของโครงการมีขนาด 450 – 550 ตารางเมตรต่อชั้น ทำให้ง่ายต่อการตัดสินใจของผู้เช่าในเรื่องการเช่าทั้งชั้น ส่งผลให้สามารถปล่อยเช่าได้ทั้งอาคารในระยะเวลาอันสั้น

โครงการ The 38 Sukhumvit มูลค่าโครงการกว่า 1,050 ล้านบาท วางแผนรับรู้รายได้ในปี 2567 ตั้งอยู่ในสุขุมวิท 38 ซึ่งเป็นซอยที่ทุกคนทราบดีว่าเป็นหนึ่งในถนนที่ดีที่สุดในบริเวณทองหล่อ และห่างจากรถไฟฟ้าสถานีทองหล่อเพียง 750 เมตรเท่านั้น ขณะเดียวกันก็ชูจุดเด่นเรื่อง โครงการที่มียูนิตน้อยที่สุดในคอนโดละแวกเดียวกัน เพียง 95 ยูนิตเท่านั้น และราคาเริ่มต้นต่อตารางเมตรไม่เกิน 200,000 บาทซึ่งนับว่าดีกว่าคู่แข่งซึ่งบนทำเลเดียวกัน เพราะไม่ว่าจะเป็นโครงการที่สร้างเสร็จแล้วหรือเตรียมเปิดขาย ก็เริ่มต้นที่ราคาสูงกว่า 200,000 บาทต่อตารางเมตร

“การขยายการลงทุนโครงการอสังหาฯในครั้งนี้ ถือเป็นก้าวที่สำคัญของ OCEAN สอดรับกับการเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น บริษัท อัลฟ่า ดิวิชั่นส์ จำกัด (มหาชน) (ALPHAX) ซึ่งหมายถึง “Leader” หรือผู้นำในสิ่งที่ดำเนินการอยู่ อาทิ ธุรกิจอสังหาฯ ในแต่ะโครงการจะมีจุดเด่นที่มีความเป็นผู้นำของโครงการนั้นๆ อาทิ ทำเลที่ตั้ง การออกแบบ-ดีไซน์ การบริหารส่วนกลาง ที่มีความโดดเด่นเป็นพิเศษในแต่ละจุด และปัจจุบันได้รุกสู่ตลาด Office Building โดยมั่นใจว่าจะช่วยเพิ่มแหล่งที่มาของรายได้ประจำ (Recurring Income) ให้กับบริษัท ซึ่งยังไม่นับรวมแผนรุกสู่ธุรกิจกัญชง-กัญชา ที่คาดว่าจะมีข่าวดีในช่วงปลายปีนี้ และพร้อมส่งออเดอร์ให้กับลูกค้าในปี 2565 ซึ่งจะเข้ามาเสริมทัพ ผลักดันรายได้และกำไรเติบโตอย่างก้าวกระโดด ตามแผนงานที่วางไว้” นายธีร กล่าวในที่สุด