‘พงศ์ธีระ’รับปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์เทคโนโลยีการพิมพ์

สภามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี มีมติอนุมัติให้ปริญญากิตติมศักดิ์ ปีการศึกษา 2567 ในการประชุมครั้งที่ 9/2568 เมื่อวันที่ 24 กันยายน 2568 โดยในชั้นปริญญาเอกที่มีจำนวน 11 รายนั้น มีคุณพงศ์ธีระ พัฒนพีระเดช ได้รับปริญญาวิทยาศาสตร์ดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์(เทคโนโลยีการพิมพ์ดิจิทัลและบรรจุภัณฑ์) และได้เข้าร่วมพิธีรับพระราขทานปริญญาบัตร เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2568 โดยมี พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ประธานองคมนตรี เป็นผู้แทนพระองค์พระราชทานปริญญาบัตร

คุณพงศ์ธีระ พัฒนพีระเดช เป็นกรรมการผู้จัดการ บริษัท วิสคอม เซ็นเตอร์ จำกัด ประกอบธุรกิจออกแบบโฆษณาและกิจการโรงพิมพ์ ร่วมทำกิจกรรมส่งเสริมอุตสาหกรรมการพิมพ์ไทย ตั้งแต่ปี 2541 เรื่อยมา ด้วยสถานะเป็น Young Printer รุ่นแรก จากนั้นได้ขยับเป็นกรรมการ อุปนายกและเป็นนายกสมาคมการพิมพ์ไทย ตั้งแต่ปี 2561 – ปัจจุบัน นอกจากนี้ ยังเคยเป็นประธานกลุ่มอุตสาหกรรมการพิมพ์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และปัจจุบันควบตำแหน่งเป็นกรรมการบริหารสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย วาระปี 2567-2569 อีกด้วย

ธนบัตรที่ระลึกเฉลิมพระเกียรติในหลวงพระชนมพรรษา 6 รอบ

เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้จัดพิมพ์ธนบัตรที่ระลึกชนิดราคา 100 บา เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยมีกำหนดนำออกใช้ในวันที่ 23 กรกฎาคม 2567

เพื่อให้ธนบัตรที่ระลึกมีความพิเศษและมีความหมายสำหรับโอกาสอันเป็นมหามงคลนี้ วัสดุที่ใช้พิมพ์ ขนาด โทนสี ภาพและองค์ประกอบต่าง ๆ บนธนบัตร และลักษณะต่อต้านการปลอมแปลงที่นำมาใช้จึงต้องผ่านกระบวนการคิด กลั่นกรอง และเลือกสรรอย่างพิถีพิถัน

ธนบัตรที่ระลึกจัดพิมพ์บนวัสดุพอลิเมอร์ ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในรัชกาลปัจจุบันที่จัดพิมพ์ธนบัตรที่ระลึกบนวัสดุพอลิเมอร์ อีกทั้งลักษณะและขนาดของธนบัตรก็มีความพิเศษเช่นกัน คือ มีลักษณะเป็นแนวตั้ง มีความยาว 163 มิลลิเมตร ซึ่งผลรวมของ 1+6+3 เท่ากับเลข 10 สื่อความหมายถึง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และความกว้าง 89 มิลลิเมตร โดยเลข 9 สื่อความหมายว่า ปี 2567 เป็นปีที่ครองราชย์ปีที่ 9 โทนสีโดยรวมเป็นสีเหลืองและสีชมพู ซึ่งสีเหลืองเป็นสีแห่งวันพระบรมราชสมภพและสื่อถึงความเจริญรุ่งเรือง ส่วนสีชมพูนั้นช่วยเสริมให้ธนบัตรดูนุ่มนวลยิ่งขึ้น

ธนบัตรด้านหน้า เชิญพระบรมสาทิสลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงฉลองพระองค์บรมขัตติยราชภูษิตาภรณ์ ทรงสายสร้อยปฐมจุลจอมเกล้าวิเศษ เป็นภาพประธาน และเชิญตราสัญลักษณ์ งานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 รวมทั้งภาพดอกรวงผึ้งซึ่งเป็นพรรณไม้มงคลและเป็นดอกไม้ประจำพระองค์ เป็นภาพประกอบ

สำหรับลักษณะต่อต้านการปลอมแปลงที่สำคัญ ได้แก่ ธนบัตรด้านหลัง เชิญพระบรมสาทิสลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงฉลองพระองค์ บรมขัตติยราชภูษิตาภรณ์ประดับดารานพรัตน ทรงสายสร้อยปฐมจุลจอมเกล้าวิเศษ และทรงพระแสงกระบี่ เป็นภาพประธาน โดยมีภาพพญานาคแสดงถึงนักษัตรปีมะโรงซึ่งเป็นปีพระบรมราชสมภพ และภาพดอกราชพฤกษ์ซึ่งเป็นดอกไม้ประจำชาติไทย เป็นภาพประกอบ

คุณมยุรีรับโล่เชิดชูเกียรติทุ่มเทพัฒนาบรรจุภัณฑ์

ศาสตราจารย์ ดร.อรัญ หาญสืบสาย ประธานมูลนิธิเงินทุนงานแสดงการพิมพ์แห่งประเทศไทย  มอบโล่ประกาศเกียรติคุณ เพื่อเชิดชูเกียรติคุณมยุรี ภาคลำเจียก ผู้เชี่ยวชาญด้านการออกแบบบรรจุภัณฑ์  ซึ่งได้ใช้ประสบการณ์และความเชี่ยวชาญ  ทุ่มเทถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านการออกแบบพัฒนาบรรจุภัณฑ์ เพื่อส่งเสริมอุตสาหกรรมการพิมพ์บรรจุภัณฑ์ไทย มาโดยตลอด

คุณมยุรี สำเร็จการศึกษาปริญาตรี(เกียรตินิยม) สาขาเทคโนโลยีอาหาร คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงการณ์มหาวิทยาลัย และปริญญาโท(เกียรตินิยม) สาขาเทคโนโลยีอาหาร มหาวิทยาลัยฮิบรู ประเทศอิสราเอล มีบทบาทสำคัญในองค์กรของรัฐคือสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย(วว.) เป็นเวลา 20 ปี โดยตำแหน่งสุดท้ายคือ ผู้อำนวยการส่งเสริมและฝึกอบรม ศูนย์การบรรจุหีบห่อไทย และทำงานในหน่วยงานภาคเอกชน 19 ปี  อาทิ บริษัท ยูนิลีเวอร์ประเทศไทย จำกัด และบริษัท คอลเกตปาล์มโอลีฟ จำกัด ฯลฯ ปัจจุบันเป็นที่ปรึกษาสมาคมการพิมพ์ไทย และสมาคมการบรรจุภัณฑ์ไทย

 

มูลนิธิเงินทุนฯมอบโล่เชิดชูเกียรติคุณเกรียงไกร

ศาสตราจารย์ ดร.อรัญ หาญสืบสาย ประธานมูลนิธิเงินทุนงานแสดงการพิมพ์แห่งประเทศไทย  มอบโล่ประกาศเกียรติคุณ เพื่อเชิดชูเกียรติคุณเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ในฐานะที่มีบทบาทสำคัญในระดับประเทศ และมีส่วนอย่างยิ่งในการส่งเสริม สนับสนุนให้อุตสาหกรรมการพิมพ์ในทุกภาคส่วนมีความเจริญก้าวหน้าอย่างต่อเนื่องและเป็นประโยชน์ต่อเศรษฐกิจของประเทศโดยรวม

คุณเกรียงไกร มีบทบาทต่ออุตสาหกรรมการพิมพ์ไทย โดยเคยเป็นนายกสมาคมการพิมพ์ไทย ระหว่างปี พ.ศ. 2544-2551, ประธานสหพันธ์อุตสาหกรรมการพิมพ์ พ.ศ.2547-2548, ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมการพิมพ์และบรรจุภัณฑ์กระดาษ สอท พ.ศ.2549-2553, กรรมการบริหารสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย พ.ศ.2548-2551,รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย พ.ศ.2555-2565, ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย พ.ศ.2565-ปัจจุบัน

‘ผศ.บุญเลี้ยง’รับรางวัลเชิดชูเกียรติบุคลากร มจธ.

ผศ.บุญเลี้ยง แก้วนาพันธ์ รักษาการผู้ช่วยหัวหน้าโครงการฝ่ายแผนงานและบริการวิชาการ โครงการร่วมบริหารหลักสูตรฯ (มีเดีย) คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์และการออกแบบ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ได้รับรางวัลเชิดชูเกียรติ บุคลากร มจธ.ระดับดีมาก ประจำปี 2566  หรือ KMUTT HONORARY AWARDS 2023 โดยพิธีมอบรางวัลจัดขึ้นเมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2567 ณ โรงแรมวอลดอร์ฟ แอสโทเรีย กรุงเทพฯ

การได้รับรางวัลเชิดชูเกียรติ เป็นผลมาจากผลงานการแสดงนิทรรศการ เรื่อง Under Pressure ในงานนิทรรศการ Asia Network Beyond Design โดยได้ถูกนำไปจัดแสดงใน 5 ประเทศ ได้แก่ ญี่ปุ่น เกาหลี ใต้หวัน มาเลเซีย และไทย

ผศ.บุญเลี้ยง แก้วนาพันธ์ กล่าวว่า จากการได้รับรางวัลเชิดชูเกียรติครั้งนี้ ขอขอบคุณหน่วยงานมีเดีย และมหาวิทยาลัย ที่ให้การสนับสนุนในทุกด้านจนประสบผลสำเร็จ หวังเป็นอย่างยิ่งว่ารางวัลดังกล่าวจะเป็นแรงผลักดันให้กับตัวเองได้พัฒนาผลงานวิจัยด้านการออกแบบให้มีคุณภาพมากยิ่งขึ้น รวมถึงเป็นแรงผลักดันในการพัฒนางานของทีมคณาจารย์ในหน่วยงาน ตลอดจน การนำความรู้และประสบการณ์มาพัฒนานักศึกษาและการให้บริการวิชาการต่อไป

ซี.ซี.เอฟ. จับมือ ดีวี8 ประชาสัมพันธ์เพลง “ต้นกล้าแห่งความรัก”

เมื่อเร็ว ๆ นี้ คุณนันชนก มีสุวรรณ์ ผู้อำนวยการ ฝ่ายระดมทุนและประชาสัมพันธ์ ตัวแทนมูลนิธิ ซี.ซี.เอฟ. เพื่อเด็กและเยาวชนฯ ร่วมหารือการระดมทุนผ่านสื่อโฆษณาและประชาสัมพันธ์ในห้างสรรพสินค้ากับ คุณณัฐพล เกษมวิลาศ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหาร บริษัท ดีวี8 จำกัด (มหาชน) ผู้ดำเนินธุรกิจบริหารจัดการสื่อโฆษณาในห้างสรรพสินค้า (In-Store Media) เผยแพร่เพลง “ต้นกล้าแห่งความรัก” เพื่อประชาสัมพันธ์โครงการ “เพาะรัก” ปลูกคน ปลูกอนาคต มอบโอกาสตั้งต้นให้เด็กและเยาวชนด้อยโอกาส อาทิเช่น มอบทุนการศึกษาให้เด็กเรียนดีแต่ขาดแคลน สนับสนุนการสร้างแหล่งอาหารปลอดภัยที่บ้าน อบรมทักษะ สร้างงานสร้างอาชีพให้เยาวชนและครอบครัว เสริมความรู้วิถีชีวิตแนวใหม่ให้ปลอดภัยสุขอนามัยที่ดี พัฒนาจิตอาสา แกนนำคุณธรรมความดีให้แก่เด็กด้อยโอกาสที่อยู่ในความดูแลของมูลนิธิ ฯ

โอกาสนี้มูลนิธิ ฯ ได้มอบ ‘ชาใบไผ่เพื่อสุขภาพ” BooCha เป็นของที่ระลึกให้ทางแก่บริษัท ฯ ผลิตภัณฑ์จากเด็กและเยาวชนที่ได้พัฒนาผลิตภัณฑ์กับโรงเรียนและชุมชน ซึ่งได้รับการสนับสนุนจาก มูลนิธิ ซี.ซี.เอฟ.ฯ ส่งเสริมและพัฒนาโครงการเพิ่มทักษะการสร้างอาชีพให้แก่เด็ก ครอบครัว และคนในชุมชน เพื่อสร้างรายได้ให้นักเรียนและคนในชุมชนที่มีความสนใจสร้างอาชีพที่มั่นคงต่อไป

บอม สินเจริญบราเธอร์ส ปลื้มแต่งเพลง “ต้นกล้าแห่งความรัก”

บอม-สุทธิศักดิ์ นักร้อง นักแต่งเพลงและโปรดิวเซอร์ชื่อดัง เปิดใจหลังร่วมงานกับมูลนิธิ ซี.ซี.เอฟ. ฯ แต่งเพลง “ต้นกล้าแห่งความรัก” พร้อมเชิญชวนร่วมฟังและระดมทุนช่วยเหลือเด็กและเยาวชนด้อยโอกาสขาดแคลนทั่วประเทศ

ถ้าเปรียบเพลงนี้เหมือนเด็กเป็น “ต้นกล้า” เด็กคงเป็นเมล็ดพันธุ์ที่รอคอยผู้คนมอบความรัก ความอบอุ่น ช่วยรดน้ำ พรวนดินและเฝ้ามองดูเมล็ดพันธุ์ที่รอวันงอกงาม เติบโตเป็นต้นไม้ใหญ่ที่สามารถหยั่งรากลึก แข็งแรง และอยู่อย่างมีความสุขในอนาคต

คุณบอมผู้แต่งเนื้อร้องและเรียบเรียง “เพลงต้นกล้าแห่งความรัก” เปิดเผยว่า “ผมรู้สึกดีใจมากที่ได้ร่วมงานกับมูลนิธิ ฯ ถือว่างานแบบนี้ผมได้รับเกียรติให้แต่งเพลงนี้ เพราะว่าเพลงของผมได้ทำหน้าที่รับใช้สังคมส่วนรวม เป็นเพลงที่ส่งพลังความรู้สึกประสานซึ่งกันและกันระหว่างผู้ให้กับผู้รับ ส่วนตัวผมรู้สึกว่าเพลงนี้เป็นเพลงที่แต่งยาก เพราะต้องการให้เพลงมีเนื้อหามีความหมายที่ครบถ้วนมากที่สุด จึงใช้เวลาในการปรับเนื้อหาเพลงค่อนข้างมากอีกเพลงหนึ่ง”

ครั้งแรกที่ผมได้รับโจทย์ที่ท้าทายจากมูลนิธิฯ
“เพราะว่าเนื้อหาเพลงต้องทำหน้าที่ส่งต่อความรู้สึกว่าทุกคนต้องช่วยเหลือเด็ก แต่ก็เพลงก็ฟังแล้วเศร้าไม่ได้ ฟังแล้วต้องเกิดรอยยิ้ม มีความหวัง มีการให้ มีความโหยหาในตัว ซึ่งทั้งหมดต้องคลุกเคล้าให้เนื้อเพลงออกมากลมกล่อมที่สุด คำบางคำที่อยู่ในเนื้อเพลงดูเหมือนว่าเป็นคำง่าย ๆ แต่กลับใช้เวลาคิดนานพอสมควรเพราะเราอยากให้เพลงไปนั่งในใจคนฟังจริง ๆ”

ตั้งใจสื่อสารง่าย ๆ และตรงไปตรงมา

“ผมจึงใช้ส่วนประกอบของดนตรีและคอร์ดในเพลงไม่ซับซ้อน เลือกที่ใช้กีต้าร์ตัวเดียวเพราะเข้ากับธรรมชาติของเด็ก สำหรับคนที่พอมีทักษะดนตรีก็สามารถร้องได้เล่นตามได้ไม่ยาก ในส่วนของเสียงร้องและเรียบเรียงดนตรี ผมได้คุณป๊อบ ปานรักษา มาเป็น Sound Engineer ช่วยทำเพลงนี้ด้วย เราใช้เวลาในห้องอัดพอสมควร ฟังแล้วฟังอีก เป็นร้อย ๆ รอบ เพราะอยากให้เพลงสามารถฟังในบ้าน ในรถ บลูทูธ ฟังแล้วไพเราะ เป้าหมาย คือ เรียบง่าย ฟังแล้ว อยากให้รู้สึกว่าตอนนี้เด็กด้อยโอกาสที่เขากำลังรอคอยโอกาสได้เข้าไปอยู่ในใจทุกคนแล้ว”

ขอบคุณที่ได้เป็นผู้ให้
“ผมคิดว่าคนที่จะเป็นผู้ให้ได้ จิตใจต้องว่างเปล่ามาก การให้ที่บริสุทธิ์มันทำให้ใจมันจะเบามาก ผมขอขอบคุณทุกคนที่โยงหัวใจมามัดรวมกัน ขอบคุณมูลนิธิ ซี.ซี.เอฟ ฯ ที่ให้ผมได้ทำงานชิ้นนี้ เพลง “ต้นกล้าแห่งความรัก” เพลงที่จะช่วยให้เด็กด้อยโอกาสที่ขาดแคลน ผมเชื่อว่าทุกคนช่วยได้ คนละเล็กละน้อย ช่วยกันนะครับ ผมขอฝากผลงาน “ต้นกล้าแห่งความรัก” เมล็ดพันธุ์ที่รอวันเติบโต ผมเชื่อว่าทุกคนสามารถช่วยทำให้พวกเขาเติบโตได้ วันนี้นอกจากทุกคนจะได้รู้จักเพลงแล้ว ในมิติการให้เมื่อทุกท่านได้เป็น “ผู้ให้” ผมเชื่อว่าหัวใจของท่านจะ “อิ่มเอม” อย่างที่ไม่เคยเป็นแน่นอน

ขอเชิญชวนทุกคนร่วมมอบโอกาสให้เด็กและเยาวชนด้อยโอกาส ไม่ว่าใครก็สามารถอุปการะหรือยื่นมือมาช่วยเหลือเด็กได้ ด้วยการสนับสนุนทุนการศึกษาและอาหารเช้าเพื่อน้อง เพียงวันละ 20 บาทหรือ 600 บาท/ต่อเดือนอย่างต่อเนื่อง จะช่วยเติมเต็มให้เด็กมีชีวิตใหม่ที่ดีขึ้นได้จริง ที่ www.ccfthai.or.th หรือ 02 747 2600

TPCH ติดปีก! ฤกษ์ดีเปิดโรงไฟฟ้าพลังงานขยะ SP 9.5 MW

บมจ.ทีพีซี เพาเวอร์ โฮลดิ้ง (TPCH) ได้ฤกษ์ทำพิธีเปิดอย่างเป็นทางการโรงไฟฟ้าพลังงานขยะ สยาม พาวเวอร์ (SP) ขนาดกำลังผลิต 9.5 เมกะวัตต์ และศูนย์การเรียนรู้การผลิตพลังงานไฟฟ้าจากขยะมูลฝอย จ.นนทบุรี โดยมี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ประธานในพิธี ฟากบิ๊กบอส “กนกทิพย์ จันทร์พลังศรี” ระบุ พร้อมเดินหน้าพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าประเภทเชื้อเพลิงขยะเพิ่ม ประมาณ 7 แห่ง จ่อเซ็น PPA เพิ่ม 1 โครงการภายในปีนี้ หนุนผลงานอนาคตเติบโตก้าวกระโดด

นางกนกทิพย์ จันทร์พลังศรี ประธานคณะกรรมการบริหาร บริษัท ทีพีซี เพาเวอร์ โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) (TPCH)  เผยว่า บริษัทฯ ได้ทำพิธีอย่างเป็นทางการเพื่อเปิดโรงไฟฟ้าพลังงานขยะ สยาม พาวเวอร์ (SP) ขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 9.5 เมกะวัตต์ และศูนย์การเรียนรู้การผลิตพลังงานไฟฟ้าจากขยะมูลฝอย ที่ตั้งโครงการ ตำบลคลองขวาง อำเภอไทรน้อย จังหวัดนนทบุรี  โดยมี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้เกียรติมาเป็นประธานในพิธีเปิดโรงไฟฟ้าฯ

โดยโรงไฟฟ้า SP เป็นกิจการร่วมค้าของ TPCH ซึ่งเมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2564 ที่ผ่านมา ได้เริ่มมีการจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (COD) กับการไฟฟ้านครหลวง โดยมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้า 8 เมกะวัตต์ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยเป็นโรงไฟฟ้าจากพลังงานขยะมูลฝอย โรงที่ 1 ของ TPCH  ที่ได้จ่ายไฟฟ้าให้กับการไฟฟ้านครหลวง

โรงไฟฟ้าพลังงานขยะ SP เป็นกิจการร่วมค้าที่ TPCH เข้าไปถือหุ้นในสัดส่วน 50% และ กลุ่มนายทวี จงควินิต ถือหุ้นในสัดส่วน 50% และยังเป็นโรงไฟฟ้าพลังงานขยะแห่งแรกของ TPCH ขณะเดียวกัน ได้เดินหน้าพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าประเภทเชื้อเพลิงขยะเพิ่มอีก ประมาณ 7โครงการ ภายใต้บริษัท สยาม พาวเวอร์ จำกัด ซึ่งเป็นโครงการรูปแบบ VSPP (Very Small Power Producer) เพื่อเข้าร่วมโครงการรับซื้อไฟฟ้าของภาครัฐ ขณะนี้ เตรียมเซ็นสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) ภายในปีนี้ เพิ่มอีก 1 โครงการ ซึ่งมั่นใจว่า จะเป็นส่วนช่วยสนับสนุนผลงานของบริษัทฯ ให้เติบโตได้อย่างต่อเนื่องในอนาคต” นางกนกทิพย์ กล่าว

ด้านนายทวี จงควินิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สยาม พาวเวอร์ จำกัด (SP) กล่าวว่า สำหรับโรงไฟฟ้าพลังงานขยะ สยาม พาวเวอร์ (SP) เป็นโรงไฟฟ้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชนโดยรอบ เนื่องจากเป็นการผลิตพลังงานไฟฟ้าจากขยะฝังกลบแบบครบวงจร และได้ใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย มีประสิทธิภาพสูง มาคัดแยกเชื้อเพลิงขยะจากหลุมฝังกลบเดิมของ อบจ.นนทบุรี เพื่อนำไปใช้เป็นเชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้า ด้วยเตาเผาระบบฟลูอิดไดซ์เบดแบบหมุนเวียน (CFB) มีระบบบำบัดอากาศจากการเผาไหม้ (Flue Gas Treatment) และมีระบบควบคุมการบำบัดอากาศอย่างต่อเนื่อง (CEMs) ที่จะทำการตรวจวัดคุณภาพอากาศตลอด 24 ชั่วโมง ก่อนระบายออกสู่ปล่องระบายอากาศ

พร้อมกันนี้ ได้จัดตั้งศูนย์การเรียนรู้การผลิตพลังงานไฟฟ้าจากขยะมูลฝอย เพื่อแบ่งปันองค์ความรู้และนำเสนอสาระดีๆ ที่เกี่ยวกับขั้นตอนการจัดการขยะเพื่อนำไปเปลี่ยนเป็นพลังงานไฟฟ้า โดยนำขยะจากหลุมฝังกลบขยะมูลฝอยเดิมของ อบจ.นนทบุรี มาใช้ประโยชน์เป็นเชื้อเพลิงในการผลิตพลังงานไฟฟ้า ทั้งนี้ เพื่อสนองนโยบาย รัฐบาล ในการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคมให้เติบโตควบคู่ไปกับการรักษาสิ่งแวดล้อม

ซึ่งภายในศูนย์การเรียนรู้ฯ จะให้ความรู้ความเข้าใจขั้นตอนต่างๆ ของการจัดการขยะ เพื่อเปลี่ยนเป็นเชื้อเพลิงขยะ ไปจนถึงกระบวนการนำเชื้อเพลิงขยะมาผลิตเป็นพลังงานไฟฟ้า โดยมีการนำสื่อเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาประกอบการเรียนรู้เพื่อให้เข้าใจมากยิ่งขึ้น และยังสามารถมองเห็นการปฏิบัติงานจริงของเครื่องจักร และเจ้าหน้าที่ภายในอาคารได้แบบ 180 องศา อีกด้วย

อาร์เอส ผนึก TRUEID และ GagaOOLala เจาะตลาดซีรีส์ Y

  1. โรส สตูดิโอ ในเครืออาร์เอส กรุ๊ป จับมือสองพันธมิตรยักษ์ใหญ่ TrueID และ GagaOOLala เปิดตัวซีรีส์ “Bake Me Please พิชิตใจนายสายหวาน”

    โรส สตูดิโอ (Rose Studio) ภายใต้บริษัท อาร์เอส มัลติมีเดีย แอนด์ เอ็นเตอร์เทนเมนท์ จำกัด ผู้นำด้านการผลิตคอนเทนต์ ในเครืออาร์เอส กรุ๊ป จับมือกับพันธมิตร บริษัท ทรู ดิจิทัล กรุ๊ป หรือ TrueID ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มความบันเทิงคุณภาพที่แข็งแกร่ง และพันธมิตรใหม่อย่าง GagaOOLala (กาก้าอูลาล่า) แพลตฟอร์มสตรีมมิง คอนเทนต์ LGBTQ+ และ Boy’s Love จากทั่วเอเชียที่ใหญ่ที่สุด เดินหน้าผลิต Y Project “Bake Me Please พิชิตใจนายสายหวาน” นำแสดงโดย 5 พระเอกรุ่นใหม่ โอห์ม ฐิติวัฒน์ ฤทธิ์ประเสริฐ, ไกด์ กันตพล ชมพูพันธ์, ภูมิ ภูริพันธ์ ทรัพย์แสงสวัสดิ์, เปรม ณพนัช ธณติณตระกูล และ อะตอม ณฐาภพ เคนจันทึก พร้อมต่อยอดความสำเร็จ สร้างคอมมูนิตี้ระหว่างศิลปินและแฟนซีรีส์ ผลักดันแนวคิดธุรกิจวายอีโคโนมี ขยายฐานแฟนคลับทั่วโลก ตอกย้ำประเทศไทยเป็นผู้นำในด้านการผลิตซีรีส์วาย หวังเป็นอีกหนึ่งแรงผลักดันให้เกิดซอฟต์พาวเวอร์

คุณนงลักษณ์ งามโรจน์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อาร์เอส มัลติมีเดีย แอนด์ เอนเตอร์เทนเมนท์ จำกัด กล่าวว่า “โรส สตูดิโอ ภายใต้บริษัท อาร์เอส มัลติมีเดีย แอนด์ เอนเตอร์เทนเมนท์ จำกัด เป็นบริษัทที่สร้างสรรค์ คอนเทนต์ ละคร และซีรีส์ เพื่อเผยแพร่ผ่านทางทีวีดิจิทัล และแพลตฟอร์ม OTT พร้อมดูแลบริหารศิลปิน-ผู้ประกาศ แบบครบวงจร ปัจจุบันอัตราการผลิตซีรีส์วายเติบโตขึ้นกว่า 270% สะท้อนให้เห็นถึงฐานคนดูซีรีส์วายที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สอดคล้องกับกลุ่มคนดู Rose Studio จึงได้ผลิตซีรีส์วาย ‘Bake Me Please พิชิตใจนายสายหวาน’ เรื่องแรกขึ้น โดยมีเป้าหมายในการสร้างสรรค์ผลงานคุณภาพเพื่อกลุ่มผู้ชมวัยรุ่น และ LGBTQ+ ดังนั้น เมื่อมีคอนเทนต์ที่ใช่แล้ว เราจึงต้องการสื่อสารไปสู่กลุ่มเป้าหมายที่ตรงและชัดเจนทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ จึงได้จับมือกับ TrueID หนึ่งในผู้ให้บริการสตรีมมิงเจ้าใหญ่ของประเทศไทยที่มีการเติบโตต่อเนื่องและได้ร่วมงานกับช่อง 8 มาตลอด ร่วมด้วยพันธมิตรใหม่ GagaOOLala (กาก้าอูลาล่า) แพลตฟอร์มสตรีมมิงที่เจาะกลุ่มเป้าหมาย LGBTQ+ ที่ได้รับความนิยมทั่วโลก ที่พร้อมจะผลักดันทั้งคอนเทนต์และนักแสดงเข้าสู่ตลาดต่างประเทศ สำหรับกลยุทธ์ในการบุกตลาดของทาง Rose Studio คือ สร้างศิลปินที่พร้อมจะเป็นได้มากกว่าศิลปิน คือ ศิลปินที่เป็นได้ทั้งนักแสดง, นักร้อง, Influencer และ Idol รวมไปถึงการสร้าง talk of the town ในแง่ของรสชาติซีรีส์ที่จัดจ้านกว่าทั้งในแง่ของ Story และการดึงเอาประเด็นที่กำลังถูกพูดถึงในสังคมมาเล่น และพร้อมที่จะดึงดาราที่จะสร้าง Wow factor มาปรากฏตัวในซีรีส์ เพื่อทำให้เกิดการพูดถึงในวงกว้าง ทั้งในหมู่คนที่นิยมดูซีรีส์และคนที่ยังไม่นิยมให้หันกลับมาสนใจงาน จึงเลือก โอห์ม ฐิติวัฒน์ เป็นนักแสดงแม่เหล็กที่มีฐานแฟนคลับ, ไกด์ กันตพล ที่กำลังได้รับความนิยม มาเป็นตัวนำทัพที่จะพาให้แฟนๆ ได้รู้จักหนุ่มๆ ของเรา”

คุณโกมินทร์ อ่าวอุดมพันธ์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายบริหารจัดการพันธมิตรด้านคอนเทนต์ บริษัท ทรู ดิจิทัล กรุ๊ป กล่าวว่า “ทรูไอดี มุ่งมั่นเดินหน้าสรรหาคอนเทนต์คุณภาพจากพันธมิตรใหม่อยู่เสมอ เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการ และช่วยเพิ่มอรรถรสให้กับลูกค้าของเราให้สามารถเลือกรับชมคอนเทนต์ความบันเทิงได้อย่างหลากหลายมากยิ่งขึ้น หลังจากที่ทรูไอดี ได้ร่วมมือครั้งสำคัญกับทางช่อง 8 เผยแพร่ละครมาตลอดทั้งปี 2566 เราเห็นถึงกระแสของแฟนๆ ละคร รวมถึงแฟนๆ ของนักแสดง ที่เริ่มเข้ามาติดตามทรูไอดีกันอย่างเหนียวแน่นมากขึ้น สำหรับคอนเทนต์ซีรีส์บอยเลิฟบนทรูไอดี ต้องยอมรับว่า เราอาจจะเพิ่งได้มีการเริ่มทำกันอย่างจริงจังในปีนี้ เนื่องจากเราเห็นถึงความต้องการของตลาด แต่ในขณะเดียวกันเราก็ใส่ใจกับการเลือกเรื่องและเนื้อหาที่มีความเหมาะสมกับกลุ่มผู้ชมบนทรูไอดีด้วยเช่นกัน การได้ซีรีส์ Bake Me Please พิชิตใจนายสายหวาน จาก Rose Studio เข้ามา เปรียบเหมือนกับการต่อจิ๊กซอว์ชิ้นสำคัญให้ภาพการรับชมคอนเทนต์บนทรูไอดีดูชัดเจนมากยิ่งขึ้น เราเชื่อว่าสัดส่วนของการเติบโตจะตามมาอย่างแน่นอน เพราะจะเป็นกลุ่มคนดูกลุ่มใหม่ โดยคาดหวังว่าในแง่ของเชิงผลงานทั้งยอดการรับชมและรายได้น่าจะมีส่วนเพิ่มขึ้นมาราวๆ 5-10% ต่อทั้งเซอร์วิส ส่วนตัวคอนเทนต์ซีรีส์ Bake Me Please เองก็มีความน่าสนใจทั้งบทและนักแสดง รวมไปถึงจะเป็นซีรีส์บอยเลิฟเรื่องแรกจาก Rose Studio ด้วย ทางเราเชื่อว่าแฟนๆ จะไม่ผิดหวังแน่นอน”

ด้าน คุณวศิน กลิ่นชั้น ตัวแทนประจำประเทศไทย GagaOOLala กล่าวว่า “GagaOOLala เป็นผู้บุกเบิกแพลตฟอร์มสตรีมมิงที่นำเสนอคอนเทนต์ LGBTQ + และ BL ในฐานะศูนย์รวมคอนเทนต์เรื่องดังกล่าวให้แก่ผู้ชมทั่วโลก คำมั่นสัญญาของเราคือการส่งมอบสิ่งที่ตรงกับความต้องการของสมาชิก โดยเฉพาะความสนใจในคอนเทนต์ BL ของไทย ซึ่งมีอันดับผู้ชมในแพลตฟอร์มที่มีคนรับชมมากที่สุด จึงทำให้เราอยากเป็นหุ้นส่วนกับสตูดิโอโปรดักชันหลายแห่งในประเทศไทยเป็นอย่างมาก การจับมือร่วมกับ Rose Studio ในครั้งนี้ เป็นหมุดหมายสำคัญ เพราะเป็นครั้งแรกที่ช่อง 8 ได้ก้าวเข้ามาสู่การสร้างคอนเทนต์ BL “Bake Me Please พิชิตใจนายสายหวาน” ด้วยเนื้อเรื่องที่จับใจและนักแสดงชายห้าคนมากความสามารถที่มีแฟนๆ ติดตามอยู่ทั่วโลก เราไม่เพียงคาดหวังว่า “Bake Me Please พิชิตใจนายสายหวาน” จะเพิ่มผู้สมัครเป็นสมาชิก แต่ยังเป็นคอนเทนต์เรือธงของ BL ไทยสำหรับผู้ชื่นชอบ BL บนแพลตฟอร์ม GagaOOLala อีกด้วย เราเชื่อมั่นว่าการจับมือร่วมกันครั้งนี้จะเป็นการได้ประโยชน์ร่วมกัน”
“อย่างไรก็ตาม ในปีหน้า Rose Studio วางแผนผลิตซีรีส์ 4 เรื่อง และละคร 1 เรื่อง ในงบลงทุน 150 ล้านบาท ตั้งเป้าเติบโตที่ 22% จากปี 2023 และคาดหวังการสร้างคอมมูนิตี้ของกลุ่มแฟนคลับในเรื่องต่างๆ ทั้งจากการจัดกิจกรรม Fan Meeting ทั้งไทยและต่างประเทศในทุกๆ เรื่องที่ผลิตออกมา พร้อมทั้งผลักดันนักแสดงทุกคนเข้าสู่การเป็น Presenter สินค้า หรือ Brand Ambassador อย่างต่ำ 8 สินค้าในปีหน้า ด้วยกลยุทธ์ Unlock Value ที่พร้อมผลักดันให้เกิดธุรกิจที่แยกตัวออกมาจากกรอบการทำงานของช่อง 8 ทั้งในแง่กลุ่มลูกค้า, กลุ่มพันธมิตรคู่ค้า, ไอเดียในการผลิตผลงาน และกรอบการลงทุน ซึ่งเมื่อเปิดกรอบเหล่านี้ออก ทำให้ Rose Studio สามารถผลิตผลงานที่มีความหลากหลาย ตอบโจทย์ผู้บริโภคทั้งไทยและต่างประเทศ รวมถึงตอบโจทย์กลุ่มได้ทุกเพศ หลากหลายทั้งไอเดียของคอนเทนต์ เช่น ละคร, ซีรีส์, สารคดี ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะทำให้การจับมือกับพันธมิตรทั้งไทยและต่างประเทศเกิดขึ้นได้ง่าย อีกทั้ง Rose Studio ยังมี Business model หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการร่วมลงทุน การจ้างผลิต หรือการซื้อคอนเทนต์ที่ผลิตสำเร็จรูป การวางแผนธุรกิจทั้งหมดที่กล่าวมาเพื่อเพิ่มโอกาสในการหาผู้ลงทุนทั้งในและต่างประเทศใหม่ๆ ให้กับ Rose Studio ซึ่งในแผนธุรกิจเราต้องมีพันธมิตรไม่ต่ำกว่า 4 บริษัทในปี 2024” คุณนงลักษณ์ กล่าวปิดท้าย

ซีรีส์ “Bake Me Please พิชิตใจนายสายหวาน” เป็นเรื่องราวที่พูดถึงการทำขนม, ความฝัน, ความตั้งใจ มีทั้งหมด 6 EP. ออกอากาศทุกคืนวันอาทิตย์ เวลา 22.15 น.- 23.15 น. ทางช่อง 8 กดเลข 27 สามารถรับชมย้อนหลังได้ที่แรกที่ TrueID ผ่าน 3 ช่องทางแอปพลิเคชัน, เว็บ และกล่อง TrueID, ส่วน Inter-national Fandom รับชมผ่าน GagaOOLala พร้อมติดตามทุกความเคลื่อนไหวของ 5 หนุ่ม Bake Me Please ได้ทาง FACEBOOK / X / Tiktok / Instargram: Bake Me Please The Series

THE KLINIQUE PRO MED เปิดตัวผลิตภัณฑ์นวัตกรรมชะลอวัย

อาวียองซ์ ภายใต้ ยูไลฟ์ ในเครือ อาร์เอส กรุ๊ป จับมือ เดอะคลีนิกค์ เปิดตัว aviance x THE KLINIQUE PRO MED
ผลิตภัณฑ์นวัตกรรมความงามแห่งยุค ชะลอวัยจากภายในสู่ภายนอก

ยูไลฟ์ (ULife) ธุรกิจ Subscription ด้านสุขภาพและความงาม ในเครือ อาร์เอส กรุ๊ป ส่งอาวียองซ์ (aviance) จับมือ เดอะคลีนิกค์ (THE KLINIQUE) ผนึกกำลัง 2 ผู้นำนวัตกรรมความงาม สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร “อาวียองซ์ เดอะคลีนิกค์ โปร เมด (aviance x THE KLINIQUE PRO MED) ฟื้นฟูผิวใส ชะลอวัยจากภายในสู่ภายนอก พัฒนาและคิดค้นสูตรโดยทีมแพทย์และผู้เชี่ยวชาญ พร้อมเสริมความแข็งแกร่งให้ธุรกิจภายใต้ ULife Subscription Model ด้วยการผสานจุดแข็งของทั้ง 2 แบรนด์ ทั้งความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีเพื่อการดูแลความงามแบบองค์รวม (Holistic Beauty) ของอาวียองซ์ และความเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมศูนย์ศัลยกรรมความงามและเลเซอร์ของเดอะคลีนิกค์ เข้าด้วยกันในผลิตภัณฑ์เดียว ซึ่งจะช่วยฟื้นฟูให้ผิวกระจ่างใสจากภายในสู่ภายนอก สอดคล้องกับความตั้งใจของยูไลฟ์ที่มุ่งส่งมอบความคุ้มค่าและสุขภาพที่ดีให้ผู้บริโภค และเพิ่มโอกาสสร้างรายได้ให้แก่ Business Partners พร้อมเดินหน้าผลักดันยอดขายของผลิตภัณฑ์ aviance x THE KLINIQUE PRO MED ให้ยูไลฟ์โดยตั้งเป้า 50 ล้านบาท ในปีแรก
คุณสุชาดา ธีรวชิรกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อาร์เอส คอนเน็ค จำกัด กล่าวว่า “จากความตั้งใจของเราในการขยายพอร์ตสินค้าต่างๆ ภายใต้ยูไลฟ์ พร้อมนำเสนอนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพระดับโลก ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ และยกระดับสุขภาพของผู้บริโภคอยู่เสมอ ในขณะที่ช่วยสร้างรายได้ให้แก่ Business Partners และสร้างความมั่นคงให้แก่ธุรกิจอย่างยั่งยืน นำมาสู่การค้นหาโอกาสทางธุรกิจต่างๆ ที่เหมาะสม รวมถึงการร่วมมือกับเดอะคลีนิกค์ ผสานศักยภาพจาก 2 ผู้นำด้านนวัตกรรมความงามเข้าด้วยกันเพื่อส่งมอบคุณค่าให้กับลูกค้า ด้านยูไลฟ์ เรานำความเชี่ยวชาญด้านผลิตภัณฑ์นวัตกรรมความงาม เพื่อการดูแลความงามแบบองค์รวม (Holistic Beauty) และความตั้งใจในการคัดสรรส่วนผสมระดับพรีเมียมจากธรรมชาติจากทุกมุมโลก พร้อมส่งมอบความงามจากภายในสู่ภายนอก ในขณะที่ เดอะคลีนิกค์ ได้นำความเชี่ยวชาญในฐานะศูนย์ศัลยกรรมความงามและเลเซอร์ชั้นนำมาร่วมสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ พร้อมส่งผลิตภัณฑ์คุณภาพจากแพทย์และผู้เชี่ยวชาญ บุกตลาดอาหารเสริม เจาะกลุ่มคนที่ทำหัตถการ และทำศัลยกรรมได้เพิ่มมากขึ้น คาดว่าผลิตภัณฑ์นี้ที่มีความแตกต่างจากผลิตภัณฑ์อื่นในตลาด จะช่วยเพิ่มยอดขายให้ ‘ยูไลฟ์’ ได้มากกว่า 50 ล้านบาทในปีแรก

นายแพทย์อภิรุจ ทองวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เดอะคลีนิกค์ คลินิกเวชกรรม จำกัด กล่าวว่า “นอกจากการพัฒนาบริการของคลินิกให้คงความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมเทคโนโลยีเพื่อความงามครบวงจร เรายังคงมองหาโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ อยู่เสมอ ทางเดอะคลีนิกค์จึงรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือกับอาวียองซ์ ผลิตภัณฑ์ของยูไลฟ์ ในเครือ อาร์เอส กรุ๊ป ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพโดดเด่น ด้วยการผสานประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในฐานะศูนย์ศัลยกรรมความงามและเลเซอร์ชั้นนำของเดอะคลีนิกค์ ซึ่งโดดเด่นด้วยเทคโนโลยียกกระชับ ปรับรูปหน้าและลดริ้วรอย ผสมผสานนวัตกรรมทางการแพทย์ มาตรฐานสหรัฐอเมริกา เข้ากับความเชี่ยวชาญด้านการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์นวัตกรรมความงามของอาวียองซ์ เกิดเป็นผลิตภัณฑ์ที่จะช่วยชะลอวัยอย่างมีประสิทธิภาพ โดยหวังเป็นอย่างยิ่งว่าผลิตภัณฑ์นี้จะเป็นตัวช่วยที่ดีของผู้บริโภคในการเสริมสร้างสุขภาพผิว”

ผลิตภัณฑ์ aviance x THE KLINIQUE PRO MED มาพร้อมกับนวัตกรรมความงามหลากหลายที่ช่วยเสริมคุณสมบัติให้ผลิตภัณฑ์โดดเด่นในตลาดผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อฟื้นฟูผิว ได้แก่

•      NAD+ Booster Technology ช่วยเสริมการย้อนวัยผิว ด้วยการกระตุ้นการสร้าง NAD+ (Nicotinamide adenine dinucleotide) ซึ่งเป็นสารที่พบโดยปกติในเซลล์ของร่างกาย โดยเป็นโมเลกุลที่ก่อกำเนิดพลังงานเซลล์ ขึ้นชื่อว่าเป็น Queen of Anti-Aging ที่ช่วยเพิ่มความอ่อนเยาว์ให้แก่เซลล์ ฟื้นฟูความเสื่อมของเซลล์ผิวและร่างกายจากภายใน

•      พิคโนจีนอล (Pycnogenol®) ส่วนผสมหลักที่ผ่านการคัดสรรอย่างพิถีพิถัน โดยใช้สารสกัดจากเปลือกสนมาริไทม์ ส่วนผสมเกรดพรีเมียม สกัดจากต้นสนทะเล ที่ขึ้นตามแนวชายฝั่งทิศตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศฝรั่งเศส การันตีความปลอดภัยและคุณภาพด้วยผลงานวิจัยกว่า 40 ปี ช่วยให้ผิวดูกระจ่างใส

•      สารสกัดจากผลทับทิม ที่ให้พูนิคาลาจิน (Punicalagins) หรือ สาร Anti-Aging ที่มีคุณสมบัติเป็นทั้ง Collagen และ HYA Booster ช่วยเสริมความอ่อนเยาว์ ผ่านการคัดสรรวัตถุดิบอย่างถี่ถ้วนจากแถบเมดิเตอร์เรเนียนในประเทศสเปน จากการเพาะปลูกในฟาร์มที่เน้นการทำเกษตรกรรมแบบยั่งยืน เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมโดยเลือกวิธีการสกัดทั้งผลด้วยน้ำบริสุทธิ์ที่เป็นเอกสิทธิ์เฉพาะ

•      สารสกัดจากผลมะกอก นำเข้าจากประเทศสเปน อุดมไปด้วยสารที่ต้านอนุมูลอิสระจากแสงแดด สกัดด้วยเทคโนโลยีเฉพาะจากเนื้อผลมะกอก ผ่านกรรมวิธีธรรมชาติ

•      อุดมด้วยสารอาหารที่มีคุณประโยชน์มากมาย ได้แก่

o  วิตามินอี มีคุณสมบัติในการต้านอนุมูลอิสระ สำคัญในกระบวนการปกป้องเซลล์และชั้นผิวจากการทำลายของอนุมูลอิสระ

o  วิตามินซี ช่วยเสริมการต้านอนุมูลอิสระ ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและส่งเสริมความแข็งแรงของหลอดเลือด

o  ซิงค์อะมิโนแอซิดคีเลต (Zinc Amino Acid Chelate) ให้แร่ธาตุสังกะสี ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการดูแลรักษาโครงสร้างเซลล์ผนังหลอดเลือดรวมถึงความแข็งแรงของหลอดเลือด เป็นแร่ธาตุที่สำคัญในการสร้างผิว ผม เล็บ และเนื้อเยื่อ รวมถึงมีบทบาทในกระบวนการฟื้นฟูสภาพผิวบริเวณที่เป็นแผล

o  อัลฟาไลโปอิกแอซิด (Alpha-Lipoic Acid หรือ ALA)  เป็นสารต้านอนุมูลธรรมชาติที่ช่วยปกป้องเนื้อเยื่อ มีบทบาทต่อสุขภาพผิว ช่วยรักษาระดับวิตามินซีและอีในร่างกายและปกป้องการเสื่อมสลายของกลูตาไธโอน (Glutathione)
ผลิตภัณฑ์ aviance x THE KLINIQUE PRO MED จำหน่ายในราคาทดลองใช้ ลด 10% กล่องละ 4,755 บาท (ราคาปกติ 5,280 บาท) โดย 1 กล่อง บรรจุ 30 ซอง ซองละ 2 แคปซูล หรือลด 30% เหลือ 3,555 บาท เมื่อเป็นสมาชิก Subscription VIP

สำหรับผู้ที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดและสั่งซื้อผลิตภัณฑ์ได้ที่ business partner ของ ULife หรือที่ เว็บไซต์: www.ulifespace.com<http://www.ulifespace.com> หรือทาง Line: @ULifespace และทาง Call Center โทร. 0-2002-8888