‘โรงพิมพ์ด่านสุทธา’สู่จุดสูงสุดพร้อมปรับทิศธุรกิจ

                                                                                           ขันติ ลาภณัฐขันติ... เรื่อง/ภาพ

บันไดทางเดินของโรงพิมพ์ด่านสุทธาก้าวสูงขึ้นเรื่อย ๆ ตลอดช่วงที่ผ่านมา ผ่านร้อนหนาวผจญฝนฟ้ามาแล้วถึง 45 ปี แม้ระหว่างทางเดินจะมีช่วงขั้นบันไดลานกว้างเป็นจุดพักบ้าง แต่ก็ยังคงสามารถก้าวเดินต่อไปข้างหน้าได้เรื่อย ๆ กระนั้นก็หาใช่ว่า ไม่มีอุปสรรคอะไรเลย ซึ่งก็คงจะเป็นคำกล่าวที่เกินจริง

คุณปฐม สุทธาธิกุลชัย ประธานกรรมการ บริษัท ด่านสุทธาการพิมพ์ จำกัด เรียกว่า ธุรกิจเหมือนน้ำขึ้นน้ำลงปรับตัวตลอดเวลา

บ่อยครั้งที่โรงพิมพ์ด่านสุทธาโตแบบสวนกระแส  บางครั้งหยุดชะงักบ้างตามสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ ดังที่เคยกระทบหนักมาแล้วในยุคเศรษฐกิจฟองสบู่แตกเมื่อปี พ.ศ.2540 แต่ก็ผ่านไปด้วยดีและมีการเติบโตชดเชยก้าวกระโดดคล้อยหลังจากนั้นไม่นาน  ประมาณว่าเป็นจุดสูงสุดของธุรกิจเลยก็ว่าได้

ดัชนีชี้วัดความสำเร็จของการทำธุรกิจโรงพิมพ์ อาจไม่มีเครื่องมือวัดที่ชัดเจน แต่ถ้าถามถึงกำลังการผลิตและความพร้อมขององค์กรก็พอจะตอบได้ว่า ในวันที่ร้อนแรงที่สุดคือ มีเครื่องพิมพ์ขนาด 1 สี, 4 สีและ 5 สี จำนวนมากถึง 11 เครื่อง ส่วนใหญ่เป็นเครื่องไฮเดลเบิร์ก รองลงมาเป็นแมนโรแลนด์ โคโมริและอื่น ๆ มีระบบงานก่อนพิมพ์ด้วยเทคโนโลยีที่พร้อมสรรพ อาทิ เครื่องคอมพิวเตอร์ทูเพลท (CTP) เครื่องปรู๊ฟดิจิตอล 3 เครื่อง มีเครื่องจักรในกระบวนการงานหลังพิมพ์เพียงพอ รองรับงานต่อเนื่องได้อย่างไม่ขาดไม่เกิน มีพนักงาน 150 คน และที่สำคัญมียอดขายต่อเดือน 10 ล้านบาทขึ้นไป

“เรื่องขนาดโรงพิมพ์ใหญ่ไม่ใหญ่ผมว่าไม่สำคัญหรอก สำคัญอยู่ที่เราทำงานให้ลูกค้าพอใจได้ไหม ทั้งเรื่องบริการ ราคาและคุณภาพ ซึ่งเป็น 3 สิ่งที่ได้ยึดถือมาตลอด และพิมพ์งานมาแล้วเป็นล้าน ๆ ชุด มีทั้งองค์กรภาครัฐและเอกชนให้ความไว้วางใจใช้บริการมาอย่างต่อเนื่อง และที่ภูมิใจที่สุดคือ มีโอกาสได้รับงานพิมพ์จากสำนักพระราชวัง, สำนักงานเสริมสร้างเอกลักษณ์แห่งชาติ, สำนักนายกรัฐมนตรี  โครงการสารานุกรมไทย สำหรับเยาวชน และจัดพิมพ์งานพระราชนิพนธ์ของพระบรมวงศานุวงศ์หลายพระองค์”

คุณปฐมระบุว่า สถานการณ์ของโรงพิมพ์ด่านสุทธา ขึ้นกับกระแสเศรษฐกิจและความเปลี่ยนแปลงทางสังคมเช่นเดียวกันกับโรงพิมพ์หรือธุรกิจอื่น ๆ เปรียบได้กับน้ำขึ้นน้ำลง ต้องมีการปรับตัวตลอดเวลา ดังเช่นล่าสุด ต้องเผชิญกับ Digital Disruption การรุกคืบของเทคโนโลยีและโซเชียลมีเดียทำให้การบริโภคงานพิมพ์ลดลง ส่งผลให้มีงานพิมพ์ส่วนหนึ่งหายไป จึงต้องปรับทิศทางธุรกิจเล็กน้อยคือ เพิ่มการให้บริการงานพิมพ์บรรจุภัณฑ์มากขึ้นด้วย

“การปรับทิศทางธุรกิจด้วยการพิมพ์บรรจุภัณฑ์นั้นเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด และถือเป็นความโชคดีกว่าโรงพิมพ์ที่เริ่มต้นใหม่ เพราะเรามีบุคลากร เครื่องพิมพ์และเทคโนโลยีต่าง ๆ รองรับได้อยู่แล้ว โดยเพียงแต่เพิ่มเครื่องหลังการผลิตมาทางบรรจุภัณฑ์มากขึ้น และพัฒนาองค์ความรู้ด้านบรรจุภัณฑ์ให้แก่บุคลากรเท่านั้น”

ปัจจุบันหลังจากโรงพิมพ์ด่านสุทธา เพิ่มให้บริการงานพิมพ์บรรจุภัณฑ์แล้ว 3 ปี สามารถทำยอดขายได้คิดเป็นมูลค่าประมาณ 10 % ของยอดขายรวม และมีท่าทีที่จะเติบโตอย่างต่อเนื่องต่อไปอีกเช่นกัน

ปันน้ำใจสู้ภัยโควิด-19 แก่สังคมแวดล้อมโรงพิมพ์ในซอยลาดพร้าว 87

โรงพิมพ์‘คอนติเนนตัล’ ผู้นำบรรจุภัณฑ์กระดาษ

                                                                                          ขันติ ลาภณัฐขันติ….เรื่อง/ภาพ

เอ่ยถึงโรงพิมพ์คุณภาพระดับชั้นนำของเมืองไทย ชื่อโรงพิมพ์บริษัท คอนติเนนตัล บรรจุภัณฑ์(ไทยแลนด์) จำกัด ดีดเด้งขึ้นมาอยู่ในระดับชั้นนำในทันที เพราะความมีชื่อเสียงและเป็นเจ้าตลาดด้านการพิมพ์บรรจุภัณฑ์กระดาษ ต่างเป็นที่ยอมรับจากลูกค้าผู้ใช้บริการทั้งในและต่างประเทศ มีผลงานเป็นที่ประจักษ์ด้วยคุณภาพของตัวผลิตภัณฑ์การพิมพ์เองไม่ว่าจะเป็นบรรจุภัณฑ์อาหาร บรรจุภัณฑ์สินค้าอุปโภคบริโภค หรือแม้กระทั่งบรรจุภัณฑ์ขวดเหล้า ฯลฯ และมีรางวัลต่าง ๆ การันตีมากมายหลายวาระและโอกาสด้วยกัน

หนึ่งในนั้นคือรางวัล PM AWARD 2016 : Prime Minister’s Export Award 2016 ซึ่อถือเป็นปีแรกที่ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมการพิมพ์ไทยมีชื่อเข้ารับรางวัลนี้ และโรงพิมพ์คอนติเนนตัลฯ ที่มีอาจารย์มานิตย์ กมลสุวรรณ อาจารย์ใหญ่ของอุตสาหกรรมการพิมพ์ไทยเป็นผู้ขับเคลื่อน ได้เป็นหนึ่งในผู้รับเกียรติครั้งแรกนี้

รางวัล PM AWARD ดำเนินการโดยกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ได้จัดให้มีพิธีประกาศเกียรติคุณและมอบโล่รางวัล “ผู้ประกอบธุรกิจส่งออกดีเด่น ประจำปี 2559 หรือ  โดยพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มอบหมายให้มอบให้คุณอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ขณะนั้น ไปเป็นประธานในพิธีเปิดและมอบโล่รางวัลแทน เนื่องจากติดภารกิจการแถลงนโยบายครบรอบ 2 ปีของรัฐบาล เมื่อบ่ายวันที่ 15 กันยายน 2559 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

ปีนั้นมีคัดเลือกผู้ประกอบการธุรกิจส่งออกดีเด่นเข้ารับรางวัลสูงสุดของรัฐบาล จำนวน 43 บริษัท รวม 50 รางวัล โดยในส่วนสาขาธุรกิจสิ่งพิมพ์และบรรจุภัณฑ์ ในประเภทรางวัลธุรกิจบริการยอดเยี่ยม ซึ่งทำการคัดเลือกและมอบรางวัลเป็นปีแรก ปรากฏว่า มีโรงพิมพ์ได้รับ 2 รางวัลคือ บริษัท คอนติเนนตัล บรรจุภัณฑ์(ไทยแลนด์) และบริษัท ทีพีเอ็น เฟล็กซ์แพค จำกัด

การได้รับรางวัล PM AWARD ถือเป็นผู้ที่สร้างชื่อเสียงแก่สินค้าและบริการของประเทศให้เป็นที่รู้จักในวงกว้างทั้งในและต่างประเทศ รวมทั้งสร้างกระแสบริโภคนิยมสินค้าและบริการไทย เพื่อเพิ่มมูลค่าการส่งออกสินค้าและบริการไทยได้อย่างต่อเนื่องและมั่นคง อีกทั้งจะนำความคิดสร้างสรรค์ และองค์ความรู้ที่มีอยู่ มาช่วยพัฒนาต่อยอดสินค้าและบริการไทย เพื่อสร้างความได้เปรียบในเวทีการค้าโลก

อาจารย์มานิตย์ กมลสุวรรณ และคุณภาวิมาส กมลสุวรรณ

 

11 เหตุผลที่สำนักพิมพ์จะไม่ตีจากโรงพิมพ์ ในมุมมอง‘คุณจรัญ หอมเทียนทอง’

                                                ขันติ ลาภณัฐขันติ...เรื่องและภาพ

ไม่ว่าครั้งไหน ๆ บรรยากาศของงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ, งานสัปดาห์หนังสือนานาชาติ รวมทั้งงานมหกรรมหนังสือระดับชาติ ซึ่งจัดโดยสมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย   ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ก็จะพบเห็นความคึกคัก ผู้คนล้นหลามหลั่งไหลไปเลือกซื้อหาหนังสือ และที่สำคัญคือ มีหนังสือทั้งปกใหม่ปกเก่า จัดพิมพ์ออกมาจำหน่ายกันอย่างมากมายหลากหลาย..นับวันนับปีมีแต่เพิ่มขึ้น!!

แต่ในภาคของการผลิตหนังสือซึ่งก็คือโรงพิมพ์  กลับมีเสียงพร่ำบ่นเล็ดลอดออกมาให้ได้ยินเสมอ ๆ ทุกฤดูกาลว่า “งานหาย..ลูกค้าหด และสำนักพิมพ์ตีจาก” ซ้ำร้ายบางรายถึงกับม้วนเสื่อกลับบ้านเลิกกิจการไปเลยก็มี  จึงเป็นปรัศนี?ที่มีความขัดแย้งกันในตัวว่า งานพิมพ์ลดน้อยหดหายจริงหรือ ? หากไม่จริงโดยอ้างอิงกับบรรยากาศงานสัปดาห์หนังสือฯ ก็จะมีคำตอบกลับกลายเป็นว่า ลูกค้าและสำนักพิมพ์เป็นฝ่ายตีจากไปเสียเอง..บางโรงพิมพ์จึงไม่มีงาน

 แล้วทำอย่างไร?? เพื่อไม่ให้ลูกค้าสำนักพิมพ์ตีจากหรือหนีหายไปไหน แบบที่ภาษาการตลาดเรียกว่า “ภักดีแบรนด์”  จึงขอนำเสนอคำตอบ ด้วยการสัมภาษณ์แนวคิดและมุมมองของคุณจรัญ หอมเทียมทอง อดีตนายกสมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย และอดีตประธานสหพันธ์อุตสาหกรรมการพิมพ์ ในฐานะตัวแทนสำนักพิมพ์ และคำตอบที่ได้จำนวน 11 เหตุผล แม้บางเหตุผลจะ “แรง ๆ” สักนิด แต่หากพิจารณาให้ดีจะเห็นว่า เป็นการสะท้อนมุมมองของลูกค้า และล้วนมีคุณประโยชน์ต่อโรงพิมพ์ที่ต้องการพัฒนาตนเองได้เป็นอย่างดี

เหตุผลข้อที่ 1 ที่สำนักพิมพ์จะไม่หลีกหนีตีจากไปไหนนั้น คุณจรัญระบุว่า โรงพิมพ์จะต้องให้การบริการที่ดี มีการดำเนินการแบบวันสต็อปเซอร์วิส ให้บริการตั้งแต่การทำเพลท การพิมพ์ เข้าเล่มและอื่น ๆ ที่จำเป็นสำหรับการจัดทำหนังสือ ซึ่งข้อแรกนี้อาจจะเป็นคำตอบที่กว้างไปหน่อย แต่ก็คงจะทำให้เห็นภาพเบื้องต้นได้ว่า พื้นฐานงานบริการในฐานะโรงพิมพ์ควรเป็นอย่างไร

เหตุผลข้อที่ 2 คุณจรัญใช้คำว่าโรงพิมพ์ต้องซื่อสัตย์ ซึ่งที่ผ่านมี 2 ประเด็นที่ไม่ซื่อสัตย์และสำนักพิมพ์ยอมรับไม่ค่อยได้คือ  ประเด็นที่ 1 โรงพิมพ์เอากระดาษที่สำนักพิมพ์จัดส่งให้ไปใช้ก่อน ซึ่งสมาชิกพบเห็นเยอะแยะมากและร้องเรียนว่า โรงพิมพ์เอากระดาษเขาไปใช้ด้วยการเอาไปหมุนเวียนก่อน

“ระหว่างที่สำนักพิมพ์ส่งกระดาษไปให้เพื่อรอพิมพ์งาน เขาจะเอากระดาษไปใช้พิมพ์ให้คนอื่นก่อน แล้วก็อ้างว่าทำไม่ทันและเลื่อนออกไปเรื่อย ๆ เหตุที่สำนักพิมพ์จับได้เพราะว่า หนังสือที่ผลิตออกมามีกระดาษเป็นคนละสี ซึ่งเป็นไปได้ยากที่กระดาษล็อตเดียวกันจะเป็นคนละสี

ความไม่ซื่อสัตย์ประเด็นที่ 2  คือ นอกจากเอากระดาษไปหมุนเวียนใช้ก่อนแล้ว เมื่อถึงเวลาพิมพ์จริงให้ลูกค้าเจ้าของงาน กลับพบว่า กระดาษที่นำมาพิมพ์ให้ใหม่กลายเป็นแกรมที่ต่ำกว่า หรือเรียกให้ชัดว่า  เป็นการหลอกลูกค้าเรื่องแกรมกระดาษ

เหตุผลข้อที่ 3 คือเรื่องคุณภาพการพิมพ์ อันนี้เข้าใจว่า โรงพิมพ์ก็เหมือนกับร้านทำผม บางแห่งก็ทำผมสวย แต่บางแห่งก็ทำไม่สวย โดยเหตุที่ทำไม่สวยส่วนหนึ่งเป็นเพราะช่างไม่มีฝีมือ ประสบการณ์น้อยหรือขาดความชำนาญอะไรก็ตาม  แต่ที่พบบ่อยก็คือ โรงพิมพ์ส่วนใหญ่จะอาศัยเด็กว่างงานจากต่างจังหวัดแล้วนำมาฝึกเป็นช่างพิมพ์แบบพี่สอนน้อง จึงขาดทักษะความเชี่ยวชาญด้านการพิมพ์ คุณภาพก็ต้องเสียไป งานพิมพ์ออกมาไม่ดี เหตุผลข้อนี้ ร้อยทั้งร้อยลูกค้าก็อยากเปลี่ยนโรงพิมพ์ใหม่

 หตุผลข้อที่ 4 คือเรื่องเวลาหรือกำหนดงานแล้วเสร็จ แต่ถึงเวลากลับไม่เสร็จ อย่างเช่น กำหนดส่งมอบงานวันที่ 1 เพื่อลูกค้าจะนำไปแจกในงานเปิดตัววันที่ 2 แต่พอถึงเวลาส่งมอบกลับทำไม่ได้ อันนี้ ลูกค้าก็เสียหาย ซึ่งเหตุผลข้อนี้ก็นำไปสู่เหตุผลข้อที่ 5 คือ  รับปากโดยไม่รับผิดชอบ

โดยคุณจรัญระบุว่า เหตุผลข้อที่ 5 นั้น มีที่มาจากการที่โรงพิมพ์หลายแห่งมักจะรับปากได้ทุกอย่าง จะเอาเวลาไหนได้หมด เพื่อให้ได้งานหรือไม่ต้องการให้งานนั้น ๆ หลุดไป   แต่เมื่อทำงานจริงและถึงเวลาส่งมอบงาน กลับมีการอ้างสารพัดไปเรื่อยว่า ทำไม่เสร็จเป็นเพราะอะไร  ซึ่งคุณจรัญมองว่า เป็นผลเสียของโรงพิมพ์มากกว่า เพราะยิ่งกลัวงานหลุดด้วยการรับปากไปทุกเรื่อง งานก็หลุดไปจริง ๆ ตรงกันข้าม หากรู้ว่า งานไหนจะทำไม่ทัน ก็ควรจะบอกลูกค้าตรง ๆ เพื่อร่วมหาทางแก้ไข  หรือแม้กระทั่งในส่วนของโรงพิมพ์เอง ก็อาจต้องใช้พันธมิตรมาร่วมผลิตก็ได้  ซึ่งอันนี้ ก็อยู่ที่ว่าโรงพิมพ์จะบริหารตัวเองอย่างไร

เหตุผลข้อที่ 6 คือเรื่องการเงิน โดยปัจจุบันมีโรงพิมพ์ใหญ่ปล่อยเครดิตยาว ๆ ซึ่งเป็นความต้องการของลูกค้าสำนักพิมพ์ทุกราย เช่น โรงพิมพ์กลุ่มทุนใหญ่ให้เครดิต 3 เดือน แต่โรงพิมพ์ขนาดกลางและเล็กให้ไม่ได้ แถมมีการไปเร่งให้ชำระหนี้บ้างจุกจิกอะไรบ้าง คุณจรัญย้ำว่า เหตุผลข้อนี้เป็นเรื่องสำคัญและเกิดขึ้นจริงแล้ว จะไปโทษลูกค้าสำนักพิมพ์ก็ไม่ได้ เพราะต่างก็ใช้ระบบเงินหมุนเวียนทั้งนั้น

อย่างไรก็ตาม เหตุผลข้อนี้ก็เห็นใจโรงพิมพ์ที่สายป่านสั้นเช่นกัน โดยเฉพาะโรงพิมพ์ขนาดกลางหรือเล็กที่ไม่สามารถหมุนเงินแบบยาว ๆ ได้ แต่ก็ไม่สามารถชี้ทางออกอะไรให้ได้ เพียงแต่ต้องการบอกให้รู้ว่า ปัจจุบันมีแบบนี้แล้ว และบังเอิญว่าสำนักพิมพ์กลุ่มหนึ่งก็อยากได้แบบนี้ ส่วนโรงพิมพ์จะนำไปพิจารณาบริหารจัดการอย่างไร หรือจะใช้จุดแข็งอะไรมาใช้เป็นกลยุทธ์แก้ปัญหาข้อนี้ก็ว่ากันไป

เหตุผลข้อที่ 7 คือโรงพิมพ์อื่นครบวงจรกว่า เช่น มีบริการทั้งการทำเพลทและเป็นโรงพิมพ์ด้วย บางแห่งก็ให้บริการไสกาวเข้าเล่มด้วย ใครที่รับจ้างพิมพ์อย่างเดียว ก็คงมีตลาดและอยู่ได้ในแบบหนึ่ง แต่ถ้าถามใจสำนักพิมพ์ ก็คงอยากทำที่เดียวให้เสร็จไปเลย  ซึ่งเหตุผลข้อที่ 7 ก็มีผลสืบเนื่องไปเป็นเหตุผลข้อที่ 8 ได้ว่า เป็นความไม่สะดวกของสำนักพิมพ์ เพราะใช้ทำงานแล้วไม่สะดวก ต้องย้ายกระดาษไปพิมพ์ที่นั่น แล้วขนไปไสกาวที่อื่นฯลฯ

เหตุผลข้อที่ 9 คือหนังสือหายและหนังสือเกิน  เช่น สั่งพิมพ์ 3,000 เล่ม แต่ส่งจริง 2,500 เล่ม แล้ว 500 เล่มหายไป ส่วนหนึ่งที่หายไปเพราะใช้ทดลองพิมพ์ตอนตั้งเครื่องพิมพ์มากไปหน่อยกว่าจะเข้าที่  คุณอ้างลองแท่น 200 แผ่น ขณะที่คนอื่นเขาลองแท่น 50 แผ่น  คุณก็ไม่ไหวแล้ว บางแห่งไม่บอกด้วยว่าหนังสือหายไป ถ้าลูกค้าไม่นั่งนับอย่างละเอียดก็ไม่สามารถรู้ได้

กรณีการพิมพ์เกินจากที่สั่งพิมพ์ก็เป็นปัญหาเช่นกัน โดยคุณจรัญระบุว่า ในวงการโรงพิมพ์อาจพูดถึงน้อย แต่สำหรับวงการสำนักพิมพ์มีการพูดถึงมาก เพราะหนังสือบางปกพิมพ์ออกมาแล้ว ก็ไปเจอตามตลาดนัดหรือตลาดหนังสือบางแห่งที่ไม่อยู่ในแผนงานของสายส่ง เห็นแล้วก็ได้แต่งงว่า หลุดมาได้ไง? มิหนำซ้ำยังขายต่ำกว่าราคาปกอีกด้วย ทั้งที่เป็นหนังสือใหม่และเป็นหนังสือขายดี

“หนังสือแปลแนวเวทมนตร์พ่อมด ๆ ที่เป็นวรรณกรรมขายดีที่สุดในโลก”นี่ล่ะ เป็นตัวอย่างของการพิมพ์หนังสือที่ต้องเปลี่ยนโรงพิมพ์บ่อย เพราะหนังสือของเขาหาย แล้วไปโผล่ที่สวนจตุจักรบ้างตามตลาดนัดบ้าง แม้ไม่ได้มีการประเมินว่าเสียหายวงเงินเยอะหรือไม่ แต่ได้ทำให้เกิดความเสียหายและเสียความรู้สึกกับโรงพิมพ์แล้วเหตุผลข้อที่ 10 เป็นปัญหาทั่วไปที่รวมตั้งแต่ข้อที่ 1-9 คือปัญหาการจัดการภายในของโรงพิมพ์ กล่าวคือ  โรงพิมพ์ต้องมีระบบการจัดการที่ดี จะต้องมีคนรับงาน คนดูแลงาน คนที่ติดต่อและตามงานได้   แต่โรงพิมพ์ส่วนใหญ่ถ้าถามว่า จะตามงานกับใครได้ ก็ต้องตามกับเถ้าแก่ “เฮีย”ไม่อยู่คนเดียว ตามงานไม่ได้เลย

แถมเหตุผลข้อ 11 อีกข้อหนึ่ง คือโรงพิมพ์อื่นมาเซลล์งาน หรือมาเสนอเงื่อนไขที่ดีกว่า เช่น คุณเคยได้รับเงื่อนไขอะไร คู่แข่งมาให้ดีกว่านั้น  ประเด็นนี้ แม้แต่โรงพิมพ์เองก็มีการพูดถึงมากเช่นเรื่องตัดราคา เขาทำได้เพราะมีการบริหารต้นทุนและการจัดการที่ดี  เป็นเรื่องที่สำนักพิมพ์ได้ประโยชน์ แต่ก็ไม่ได้แนะนำว่าโรงพิมพ์จะต้องตัดราคากันเสมอไป เพราะเรื่องราคาเป็นเพียงจุดเล็ก ๆ ที่พิจารณาเท่านั้น แต่อยากบอกว่า โรงพิมพ์ควรจะเป็นผู้นำเสนอสิ่งดี ๆ ให้แก่สำนักพิมพ์ตลอดเวลา

 การประมวลเหตุผลทั้ง 11 ข้อมานี้ ขอย้ำว่า เป็นการสะท้อนมุมมองส่วนหนึ่งของลูกค้า โดยผ่านการสัมภาษณ์คุณจรัญ หอมเทียนทอง อดีตนายกสมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย ขณะเดียวกัน ก็เชื่อว่า มุมมองนี้ถือเป็นปัญหาของโรงพิมพ์ส่วนน้อยที่มีวิธีการดำเนินการที่ผิดบ้างถูกบ้าง และ 11 เหตุผลที่นำเสนอ ถือเป็นคำแนะนำเชิงตักเตือนว่า สุดท้ายโรงพิมพ์ที่ไม่พัฒนาการให้บริการ และประเภทที่เข้าข่ายละเมิดลูกค้าจะไม่สามารถอยู่ได้

แต่ทั้งนี้ ก็เป็นที่น่ายินดีว่า โรงพิมพ์ส่วนใหญ่ล้วนอยู่ในขอบเขตของ 11 เหตุผลที่สำนักพิมพ์จะไม่หลีกหนีตีจากไปไหน ดังจะเห็นได้จาก มีหลายร้อยพันสำนักพิมพ์ก็ยังคงใช้บริการของโรงพิมพ์เดิมไม่เปลี่ยนแปลง หรือเปลี่ยนก็เปลี่ยนน้อยที่สุด และส่วนหนึ่งก็ไม่ถึงกับเปลี่ยนการใช้บริการของโรงพิมพ์นั้น ๆ เลยทีเดียว เพียงแต่เพิ่มการใช้บริการโรงพิมพ์ใหม่เข้ามาเสริม เพราะนับวัน ๆ จะมีผู้อ่านเพิ่มจำนวนมากขึ้น ตามโครงการส่งเสริมการรักการอ่าน และมีการพิมพ์ปกหนังสือเพิ่มมากขึ้น ตามที่เห็นเป็นรูปธรรมและกลายเป็นที่มาของประเด็นการนำเสนอในวันนี้คือ บรรยากาศงานสัปดาห์หนังสือฯ ที่มีความคึกคัก ผู้คนแห่ซื้อหนังสือล้นหลาม และมีปริมาณและยอดการพิมพ์หนังสือเพิ่มขึ้น

โรงพิมพ์ที่สามารถปฏิบัติได้ตามเหตุผล 11 ข้อ จึงไม่น่าเป็นห่วงที่จะต้องพบคำว่า “งานหด ลูกค้าหาย และสำนักพิมพ์ตีจาก” อีกต่อไป!!

      

นำเข้า-ขายเครื่องจักรสำหรับงานพิมพ์ทุกชนิด

 เครื่องพิมพ์,เครื่องจักรในประเทศไทย ที่ใช้งานสำหรับโรงพิมพ์ ราคาถูกๆ Prepress -Digital print @180 Kb. -Screen CTP 102 /2005 Completely line @xxx Kb. -Automatic Plate Cleanner machine @x Kb. Heidelberg Press Machines Tiegel (ตีธง) -Tiegel Red @xx Kb. KOR -KORD/19xx,Conv. @Xx Kb. S-Cylinder -S-Cylinder/19xx,23 inches @xx Kb. -S-Cylinder/19xx,23 inches,Hot-Stamping @Xxx Kb. -S-Cylinder/19xx,28 inches@3xx Kb. -SBG-Cylinder/197x,30 inches,Hot-Stamping @ 5xx Kb. GTO (Primaster GTO) -GTO 52-1+/198X @1X0 Kb. -GTO 52-1+/198X @1X0 Kb. ฯลฯ
สนใจเครื่องตัวอื่นๆ ติดต่อด่วน Hot line 24 ชั่วโมง บริการหลังการขาย-อะไหล่ครบครัน มีบริการนำเข้าเครื่องจักรจากต่างประเทศและขายเครื่องรวมประกัน 6-12 เดือน หรือนำเข้าขายตัดตามสภาพใช้งาน
ติดต่อ 081 826 8872 

ขายเครื่องอิงค์เจทพร้อมอุปกรณ์

สำหรับลูกค้าผู้ที่ต้องการเปิดร้านใหม่หรือขยายกิจการ ขายเครื่องพิมพ์อิงค์เจทและอุปกรณ์ ราคาทั้งเซ็ทเพียง 129,000 บาทเท่านั้น พร้อมของแถมอีกมากมาย
ทั้งแผ่นไวนิลและแผ่นเคลือบใสเพิ่มให้อีกอย่างละ1 ม้วน สินค้ารับประกัน 1 ปี ดูแลให้ตลอดอายุการใช้งาน และมีช่างผู้เชี่ยวชาญอบรมสอนการใช้งานพร้อมติดตั้ง
สนใจสอบถามเพิ่มเติมติดต่อ โทร.098-1572715 อ้อค่ะ

ขายเครื่องพิมพ์อิงค์เจท

เครื่องพิมพ์ Inkjet ความละเอียดสูง หัวพิมพ์ Epson Dx11  ราคา 99,900บาทแถมวัสดุงานพิมพ์ให้ 1 ชุด น้ำหมึก 4 ขวด เครื่องพิมพ์หน้ากว้าง 1.80 เมตร
*ใช้น้ำหมึกEco Solvent 4 สี C M Y K
*หัวพิมพ์epsonDx11
*รองรับวัสดุงานพิมพ์Outdoor ทุกชนิด ไวนิล สติ๊กเกอร์ กระดาษ PP กระดาษ โฟโต้วอลเปเปอร์ แคนวาสซีทรู ผ้าไอที สติ๊กเกอร์ 3M สติ๊กเกอร์ใส สติ๊กเกอร์กาว รีมูฟ ผ้า IT
*น้ำหมึกEco Solvent หมึกน้ำมัน สามารถโดนน้ำได้โดยที่ไม่ลอก (ไม่ต้องเคลือบงานซ้ำ)
*เหมาะสำหรับผู้ที่สนใจเปิดธุรกิจร้านป้าย
*บริการจัดส่งติดตั้งเทรนนิ่งพร้อมบริการเซอร์วิสครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วประเทศ
 สนใจติดต่อได้ที่ 087-4980760,087-7142726

ขายเครื่องปั๊มไดคัท มือ 2

เครื่องปั้มไดคัทมือ2 รุ่น ML 720. 20*28
และ รุ่น ML 930. 25*36
สภาพใหม่เหมือนมือ1
สนใจสอบถามได้ที่ 0944211296(อั๋น)

เครื่องหนีบหัวปฏิทิน

– สินค้า มือ 1 (พร้อมส่ง)
– รับประกัน 1 ปี
สนใจสอบถาม ราคากันได้
ติดต่อคุณแบงค์
มือถือ : 082-782-9415
Line ID : bank_ronnakorn

“บราเดอร์”เห็นสัญญาณบวกหลังเปิดประเทศ ชี้‘ทำไมต้องใช้ของแท้’

คุณธีรวุธ ศุภพันธุ์ภิญโญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บราเดอร์ คอมเมอร์เชี่ยล (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ตลอด 6 เดือนที่ผ่านมา บราเดอร์ มีอัตราการเติบโตอยู่ที่ 6% และคาดว่าจะมีแนวโน้มการเติบโตเพิ่มสูงขึ้นภายหลังจากที่ไทยเริ่มดำเนินการเปิดประเทศตั้งแต่ต้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ทำให้เม็ดเงินเกิดการไหลเวียนในระบบเศรษฐกิจเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากการกลับมาของกำลังซื้อทั้งในและต่างประเทศซึ่งส่งผลดีให้แก่ธุรกิจไอทีด้วยเช่นกัน เพราะกำลังซื้อมีความมั่นใจและกล้าที่จะจับจ่ายยิ่งขึ้นปัจจุบัน บราเดอร์มีฐานลูกค้าหลักรวม 3 กลุ่ม โดย 50% เป็นกลุ่มธุรกิจ SME, 30% เป็นกลุ่มลูกค้าองค์กร (Corporate) และ 20% เป็นกลุ่มลูกค้าครัวเรือน (Home use) โดยช่วง COVID-19 บราเดอร์สามารถสร้างความแข็งแกร่งในกลุ่มลูกค้าครัวเรือนเพิ่มมากขึ้นจากไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนไปสู่การทำงานแบบ work from home และการเรียนผ่านระบบออนไลน์

สำหรับกลุ่มธุรกิจไอที ปัจจุบันพบว่าความต้องการในตลาดยังมีสูงกว่าซัพพลายอยู่พอสมควร เนื่องจากปัญหาเรื่องการขาดแคลนชิ้นส่วนในการผลิตซึ่งส่งผลโดยรวมต่อทั้งอุตสาหกรรมไอทีและอุตสาหกรรมอื่นๆ ที่จำเป็นต้องใช้ชิ้นส่วนดังกล่าว โดยคาดการณ์ว่าตลาดจะกลับเข้าสู่ดุลยภาพได้เร็วสุดประมาณกลางถึงปลายปี 2565 จากสถานการณ์ดังกล่าวทำให้บราเดอร์ปรับกลยุทธ์ทางการตลาด หันมาเพิ่มยอดขายในกลุ่มผลิตภัณฑ์ non-print ทั้งเครื่องพิมพ์ผ้า เครื่องพิมพ์ฉลาก  จักรเย็บผ้า ฯลฯ และที่ถือเป็นกลยุทธ์ใหม่ที่ต้องการมุ่งเน้นคือการเพิ่มยอดขายในกลุ่มวัสดุการพิมพ์ (Consumable)   

เอสวีโอเอ ร่วมงาน TABDA สัญจร 2021 ณ ศูนย์การค้าเซียร์-รังสิต

เอสวีโอเอ ร่วมงาน TABDA สัญจร 2021 ณ ศูนย์การค้าเซียร์-รังสิต ลานกิจกรรม ชั้น 2 ระหว่างวันที่ 2-5 ธ.ค.2564 10.00-20.00 ส่งท้ายปี  เพื่อเปิดตัวเครื่องพิมพ์ Roland รุ่นใหม่ นวัตกรรมเพื่อตอบโจทย์ธุรกิจงานพิมพ์แบบดิจิทัล เเละสื่อโฆษณาระดับพรีเมี่ยม ผสมผสานสีหมึก True VIS INKพิมพ์สูงสุด 8 สี ด้วยเครื่องพิมพ์ UV Print & Cut LEC2-300 และ LEC2-640 พิมพ์ระบบ 8 สี มีสีพิเศษเพิ่มมาคือ สีส้ม และ สีเขียว พร้อมสามารถพิมพ์ภาพนูนได้ ทำให้งานพิมพ์ออกมาสวยสด โดดเด่นและ สมจริงมากขึ้น โดยเฉพาะเมนูอาหารทำให้ภาพสวย คมชัด สเมือนจริง และในงานยังมีการโชว์เครื่องตัดสติ๊กเกอร์รุ่นใหม่ GR2-640 ตัวแรกในเมืองไทยตัดได้แม่นยำ เส้นคม รวดเร็ว ตอบโจทย์การใช้งาน